เธอคือผู้หญิงธรรมดาที่มีสถานะไม่ต่างจากคนรับใช้ของผู้หญิงที่เขาควงอยู่ด้วย และในสายตาของเธอ เขาก็เป็นแค่ผู้ชายที่ใช้เงินซื้อผู้หญิง ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นผู้หญิงคนนั้น คนที่เขายอมจ่ายเพื่อให้ได้ตัวเธอมา นิยายเรื่องนี้ เขียนไว้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วแล้วนะคะ หากมีอะไรที่รู้สึกว่าเชย (เช่น ทำไมพระนางไม่แลกไลน์กัน ๕๕) ก็คือตามนั้นล่ะจ้ะ ไรต์ขออนุญาตไม่แก้ไขในบริบท ขอบคุณสำหรับการติดตามจ้
Voir plusเวลาล่วงเข้าไปเกือบตีสอง นีออนหลากสียังสว่างไสวทั่วเมืองหลวงของประเทศไทย
ณ ห้องพักชั้นบนสุดของโรงแรมเครือดังระดับโลก ภายในห้องชุดกว้างขวางหรูหราและเย็นฉ่ำ นาตาเลีย นางแบบสาวชาวรัสเซียกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลัเอนหลังกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนโซฟาเนื้อนุ่มกลางห้องชุดหรู
ร่างนั้นสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรตามแบบชายตะวันตก งดงามด้วยมัดกล้ามที่ผ่านการเพาะปั้นมาอย่างตั้งใจ ไร้ไขมันส่วนเกินให้ระคายตา เรือนกายแกร่งที่ชวนให้น้ำลายหกกำลังเปลือยเปล่าอย่างไม่กลัวหนาว เขาเงยหน้าไปด้านหลังน้อย ๆ อย่างคนที่ผ่อนคลายกับสัมผัสที่นางแบบสาวกำลังปรนเปรอให้
“ไหวไหม แนต”
เลออง เดอ วีแลล หรี่ดวงตาสีฟ้ามองเธอและสัพยอกด้วยน้ำเสียงขาดห้วงแกมขบขัน เมื่อเห็นว่าเธอพยายามสวาปามหอกร้อนแก่นกลางกายของเขาเข้าไปให้หมดในคราวเดียวทั้งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ความใหญ่โตที่ธรรมชาติประทานมาให้อาจชวนให้หญิงสาวทุกรายตาโตอย่างตื่นตะลึง บางคนที่อ่อนประสบการณ์สักหน่อยอาจจะชะงักอย่างลังเล แต่ถ้ามีประสบการณ์มาแล้วโชกโชนอย่างนาตาเลีย เธอสู้ตายและดูท่าจะลุ่มหลงมันมากเสียด้วย
“ไหวสิคะ...อย่าได้คิดจะให้ฉันหยุดตอนนี้เชียวนะ”
นางแบบสาวพึมพำตอบเสียงอู้อี้ เธอไม่มีวันเบื่อกับความใหญ่โตของปีศาจร้ายตนนี้ โดยเฉพาะในยามที่มันเกรี้ยวกราด พองโต และพ่นพิษใส่อย่างดุดัน เธอชอบที่จะใช้เวลากับมันนาน ๆ และอยากได้ยินเสียงครางกระหึ่มสุดเซ็กซี่ของชายหนุ่มในยามที่เธอปรนเปรออย่างสุดฝีมือด้วยมือนุ่มและเรียวลิ้น
“แนต...พอก่อน"
เลอองออกคำสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ นางแบบสาวเงยหน้าช้อนตามองอีกครั้งอย่างเสียดาย แต่นัยน์ตาขุ่นมัวด้วยแรงอารมณ์ของชายหนุ่มกำลังบอกให้เธอทำมากกว่านั้น นาตาเลียจึงยืนขึ้นอย่างเชื่องช้าและเต็มไปด้วยจริตที่ถูกฝึก ร่างเปลือยเปล่าของเธอก้าวขึ้นคร่อมร่างใหญ่ที่เอนหงายรออยู่ เธอรู้เสมอว่าต้องทำอย่างไรจึงจะถูกใจเขา...
“ไอ แอม ยัวร์ จ๊อกกี้”
นางแบบสาวเอ่ยเซ็กซี่ ก่อนจัดแจงให้ความแข็งแกร่งสอดแทรกเข้าไปและเริ่มแสดงบทบาทนักขี่ม้าแข่งอย่างที่เธอบอกเขาเมื่อครู่ เลอองพึมพำคำชมเป็นภาษาฝรั่งเศสเหมือนทุกครั้งที่อารมณ์เขาล้นปรี่ เขาไม่ปล่อยให้หญิงสาวควบคุมจังหวะรักโดยลำพัง หากเร่งเร้าตอบสนองอย่างไม่ยอมแพ้ มือยึดกุมสะโพกเนียนแน่นเอาไว้และเขยื้อนกายสวนทางกับจังหวะที่กระแทกกระทั้นลงมา นาตาเลียครวญครางไม่เป็นภาษา...เสียงงึมงำกลายเป็นครางกระเส่า หอบสะท้าน ความเสียวซ่านเสียดแทงไปทั่วทุกขุมขนจนนางแบบสาวแทบจะร้องขอให้เขาคร่าให้เธอพ้นไปจากความทรมานอันนี้...เล็บแหลมของนาตาลีจิกไหล่กว้างแข็งแกร่งของเลอองจนเลือดซิบแต่ชายหนุ่มไม่สะทกสะท้าน นาตาลีบ้าคลั่งเท่าไรเขาก็โต้ตอบรุนแรงมากเท่านั้น...
เสียงกรีดร้องโหยหวนของเธอชวนให้คนที่ได้ยินคิดว่าในห้องนี้กำลังมีมหกรรมทรมานร่างกายกันอย่างโหดร้าย...โชคดีที่เป็นห้องเก็บเสียง นาตาลีจึงกรีดเสียงของเธอได้เต็มที่และเธอก็ชอบมันเสียด้วย ความแข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยความเป็นชายชาตรีของเลอองแทบจะทำให้ขาดใจตายได้ทุกขณะ แต่นอกจากจะไม่เกรงกลัว นาตาเลียยังเดินหน้าต่อสู้กับมัน โขกขย่มอย่างรุนแรงยิ่งกว่าจ๊อกกี้ที่ใกล้จะถึงเส้นชัย...
“อ๊า...”
นาตาเลียร้องไม่ได้ศัพท์ออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาพร่างพรายเหมือนมีดาวนับร้อยมาระเบิดตัวอยู่ตรงหน้า...ก่อนจะฟุบหน้าอย่างหมดแรงลงกับแผงอกกว้างที่แน่นแข็งเหมือนกำแพงหิน
เลอองลูบเรือนผมสีทองนั้นเบาๆ และให้โอกาสเธอได้พักหายใจหายคอแต่ความปรารถนาที่เร่าร้อนของเขาไม่อาจรอได้นานกว่านั้น
“ตาผมบ้างล่ะ”
เลอองกระซิบ ก่อนจับขาเรียวยาวของนางแบบสาวให้เกี่ยวกับเอวของเขา ลุกขึ้นยืนและอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอนเล็กที่ไม่ใช่ห้องนอนส่วนตัว แต่เป็นห้องที่ถูกจัดสรรไว้เพื่อรองรับผู้หญิงของเขาโดยเฉพาะ นาตาเลียซบหน้ากับไหล่กว้าง เล็บจิกแผ่นหลังขาวสะอาดของชายหนุ่มเพื่อช่วยผ่อนปรนประสาทสัมผัสที่พุ่งแหลมในทุกจังหวะที่เขาย่างเท้า...
เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล นาตาเลียสีหน้าเหยเกด้วยความซ่านสยิว สองมือจิกขยุ้มผ้าปูเตียงเนื้อนุ่มลื่น เรือนกายผอมบางบิดเร้าและแอ่นรับตอบสนองสัมผัสของชายหนุ่ม จากจังหวะรักเนิบช้าค่อยกลายเป็นร้อนขึ้น แรงขึ้น เลอองขู่คำราม นาตาเลียก็เกรี้ยวกราดใส่เหมือนทั้งคู่จะโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน บางจังหวะที่เธอพ่นถ้อยคำเผ็ดร้อนท้าทายและเขาก็กำราบเธอด้วยการจ้วงแทงท่อนหอกร้อนผ่าวเข้าใส่...สนามรบระหว่างหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศสกับสาวรัสเซียดำเนินไปอย่างเร่าร้อนจนผ้าปูที่นอนแทบจะติดไฟได้ แม้บางขณะหญิงสาวร้องขอชีวิตเพราะแทบจะขาดใจตายไปเสียจริงๆ แต่นักรบนักล่าอย่างเลอองก็ไม่มียับยั้งลังเล...
นาตาเลียกัดริมฝีปากจนห้อเลือดและส่ายหน้าจนผมสีทองแผ่กระจาย ยกสะโพกขึ้นต่อสู้กับเขาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เสียงแหบห้าวจะคำรามขึ้นสอดประสานกับเสียงกรีดร้องเล็กแหลมของนาตาเลีย...เปลวเพลิงที่โหมกระพือค่อยๆ ริบหรี่จนเหลือแต่เพียงเสียงหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยแต่ทะลักล้นด้วยความสุข...
“คุณไม่เปลี่ยนเลยนะคะเลออง ไม่รู้เอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน”
นาตาเลียเย้าทั้งที่น้ำเสียงยังหอบเหนื่อย
“ผมขอโทษถ้ารุนแรงกับคุณเกินไป...”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ฉันชอบ”
ชายหนุ่มเอื้อมมือลูบเรือนผมนุ่มลื่นสีบลอนด์ของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“พรุ่งนี้คุณจะไปทำงานต่อไหวหรือ”
“ถ่ายงานเสร็จหมดแล้วล่ะค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้าน...”
นาตาเลียหมายถึงกรุงมอสโคว์ที่เป็นบ้านเกิดของตัวเอง เมื่อพูดถึงบ้าน หญิงสาวชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะพลิกตัวมากอดชายหนุ่มไว้หลวม ๆ และเอ่ยถามเบา ๆ อย่างไม่แน่ใจนัก
“เอ่อ...เลอองคะ คุณอยากไปเที่ยวบ้านฉันบ้างมั้ย”
“หมายถึงไปเที่ยวรัสเซียน่ะหรือ”
“หมายถึง...บ้านของฉันน่ะค่ะ"
ถามออกไปก็กลั้นหายใจ แล้วก็รู้สึกว่าพลาดไปจริง ๆ เมื่อเลอองค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น
“ผมมีงานต้องทำ คุณหลับพักผ่อนได้ตามสบายเลยนะครับ”
“เลอองคะ ฉัน...ฉันขอโทษ”
“มิสเตอร์เดอวีแลล!”พนักงานและบอดี้การ์ดกระโจนเข้าชาร์จตัวหญิงสาวทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากหลังกระถางต้นไม้ต้นหนึ่งหน้าโรงแรม เลอองหันขวับแล้วก็เห็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น“ลลิล!”เท้าลลิลแทบจะถูกหิ้วสูงจากพื้นด้วยฝีมือของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ เธอดิ้นแทบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่ก็ยังพยายามฮึดฮัดต่อสู้“ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”“ปล่อยเธอ...”ชายหนุ่มสั่ง บอดี้การ์ดทั้งสองจึงยอมปล่อยมือ แววตาของเลอองแสดงอาการยินดีอย่างปิดไม่อยู่ รอยยิ้มกว้างของเขาเตรียมพร้อมที่จะทักทายเธอแต่รอยยิ้มนั้นก็ชะงักค้างทันทีเมื่อลลิลเดินอาด ๆ มาผลักเขาเต็มแรงท่ามกลางความตกตะลึงของทุกสายตาที่มองอยู่แน่นอนว่าเลอองไม่สะเทือนไหวกับแรงผลักนั่นแม้แต่น้อยนิด เขาก้มลงมองคนตรงหน้าที่หน้าตาเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมาด้วยความงุนงง“คุณถือดียังไงมาฝากงานให้ฉัน คุณมายุ่งเรื่องฉันทำไม ไอ้คนทุเรศ!”เสียงอุทานและคำรามดังขึ้นเบา ๆ จากเหล่าบอดี้การ์ดทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของหญิงสาว ติดที่ว่าเลอองยืนขวางไว้ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคงถูกหิ้วปีกออกไปโยนกองบนถนนเป็นแน่ เลอองยังยืนนิ่ง แต่แววตาดีใจหายไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่
เลอองหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเหนื่อยอ่อนพลางยุดมือหญิงสาวไว้ก่อนที่จะเลื่อนลงต่ำไปกว่านั้น“คุณนี่ร้อนแรงกว่าที่ผมคิดเยอะเลยนะ เมลิสา”“เฉพาะกับคุณเท่านั้นแหละค่ะ”นางแบบสาวบอก เอียงหน้าซบไหล่เขา"คุณมีเสน่ห์มากเลยนะคะเลออง มาก...จนเมกลัวว่าเมจะหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้น”“แสดงว่าคุณยังไม่หลง”“แล้วอยากให้เมหลงมั้ยล่ะคะ”น้ำเสียงบอกว่าจริงจัง ชายหนุ่มกลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องตลก“ผู้หญิงอย่างเมลิสา พอร์ตแมน ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาหลงใหลผู้ชายคนไหนหรอก เชื่อผมสิ”เลอองบอก แล้วพลิกตัวจูบหน้าผากเธอแรง ๆ อีกครั้งก่อนจะผละตัวออก ก้าวลงจากเตียง เดินเปลือยกายเข้าห้องน้ำไปนางแบบสาวร้อนผะผ่าวที่ขอบตา หญิงสาวฉลาดพอที่จะรู้ว่านี่คือการปฏิเสธอย่างสุภาพจากเขา...ผู้ชายที่เธอพลาดตกบ่วงเสน่ห์เข้าแล้วทั้งตัวและหัวใจ เมลิสาไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากและรู้ตั้งแต่ต้นว่าเธอกับเลอองจะจบลงอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลานี้จริง ๆ ก็อดใจหายไม่ได้...“เมขออนุญาตสูบบุหรี่ได้ไหมคะ”นางแบบสาวเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มเดินกลับออกมาจากห้องอาบน้ำพร้อมผ้าขนหนูพันท่อนล่างหลวม ๆ เลอองบอกเธอว่าตามสบาย เขาเดาว่าเมลิสาคงกำลังหาทางทำใจของตัวเองอยู
“หนูลิล หมู่นี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า พี่ว่าเธอดูเครียดๆ นะ”ศักดารันทร์ถามอย่าห่วงใยระหว่างที่นั่งรอเมลิสาทำงานในตอนสายของวันหนึ่ง“พี่ดาด้าว่าอะไรนะคะ”“พี่ว่าเธอมีปัญหาอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า หมู่นี้ดูเครียด ๆ เหม่อ ๆ”“อ่า...พี่ด้าสังเกตเห็นด้วยหรือคะ”“ต๊าย...เธอเห็นพี่เป็นคนใจจืดใจดำขนาดไหนกันล่ะจ๊ะ ก็ต้องสังเกตเห็นสิ คนเจอกันทุกวี่ทุกวัน” ลลิลยิ้มฝืด“ขอบคุณนะคะพี่ด้า ลิลแค่กำลังคิดเรื่องหางานใหม่น่ะค่ะ”“งานใหม่?”ศักดารันทร์ท่าทางตกใจ แม้จะได้เจอกันทุกวันแต่ลลิลก็ไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ยิ่งจะมาปรับทุกข์เรื่องการทำงานยิ่งไม่เคยได้ยิน จนหลายครั้งเขายังเผลอคิดว่าหญิงสาวคงเป็นคนที่ปราศจากความทะเยอทะยานโดยสิ้นเชิงและคงจะอยู่ทำงานกับเมลิสาไปจนกว่านางแบบสาวจะลาวงการไปเอง...การที่จู่ ๆ ลลิลพูดเรื่องงานใหม่ จึงอยู่เหนือความคาดหมายของศักดารันทร์อย่างมาก “นี่พูดจริงหรือเปล่า หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบเพราะเหนื่อย เบื่อ น้อยใจ หรือว่ามีปัญหาอะไรที่พี่ไม่รู้""เปล่าหรอกค่ะพี่ด้า ลิลแค่อยากใช้วิชาความรู้ไปทำงานอื่นที่...เอ่อ...ท้าทายกว่านี้บ้าง”หญิงสาวตอบอย่างขัดเขิน ก็คำว่า 'งานที่ท้าทาย
ใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าลลิลจะทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติได้ เธอพยายามคิดว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ เธอแค่เดินไปชนกับผู้ชายมักง่ายนิสัยแย่อย่างนายเลอองที่คงจะไม่มีสติสำนึกรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ฝรั่งเศสที่จะเที่ยวได้จูบใครไปทั่วแบบนั้นสัปดาห์นี้เมลิสาไปถ่ายแบบที่ปารีสพอดีและงานนี้นางแบบสาวบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีเธอไปด้วย มีแค่ศักดารัณไปคนเดียวก็พอแล้ว ผู้ช่วยสาวจึงเหมือนได้พักไปในตัว และวันนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะไปเดินห้างเพื่อซื้อของใช้จำเป็นกำลังจะเดินออกจากเรือนหลังเล็กซึ่งเป็นที่พัก ชายหนุ่มร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยเจ้าของดวงตาสีฟ้าสดใส ก็ปรากฎตัวขึ้นบนทางเดินหินหน้าเรือนนั้น ลลิลกระพริบตาถี่ ๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองในตอนแรก เมื่อแน่ใจว่านี่คือตัวเป็น ๆ ไม่ใช่เธอคิดไปเอง หัวใจหญิงสาวก็เต้นโลดขึ้นมาทันที"อรุณสวัสดิ์...กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ"เลอองถอดแว่นตากันแดดออก เขาอยู่ในชุดกึ่งลำลองโทนสีเทาหล่อเหลาตามเคย"คุณมาที่นี่ทำไม คุณเมลิสาไม่อยู่หรอกนะ ไปถ่ายแบบที่ปารีสอาทิตย์นึง""ผมรู้แล้ว"เลอองตอบก่อนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เรือนพักไม้ทาทับด้วยสีขาว มีต้นไม้ทั้งพืชสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งที่ป
ลลิลสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าขาว ๆ ก่อนผลักเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีและผลุนผลันผลักประตูหนีไฟออกไป เลอองไม่รู้สึกระคายอะไรกับรอยตบนั่นเลย แต่กลับยกมือแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ดูธรรมดาไปทั้งเนื้อตัวคนนั้นจะกลับมีริมฝีปากที่ให้ความรู้สึกสดและหวานขนาดนี้ ให้ตายสิ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ตอนแรกเขาคิดอยากจะช่วย ต่อมาก็อยากจะแหย่...แต่ทำไมกลายเป็นตัวเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้มีอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ที่เย้ายวนเขาอย่างนั้นหรือ...ไม่มีหรอก! ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว! เลอองเถียงกับตัวเอง เมื่อเทียบกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาและผ่านไปในชีวิต หรือแม้กระทั่งกับเมลิสาที่เขากำลังคบหาอยู่ ผู้ช่วยสาวคนนั้นช่างห่างไกลจากเธอเหล่านั้นราวฟ้ากับเหว... ที่ผ่านมาเขาชอบผู้หญิงผอมบางรูปร่างนางแบบ แต่ลลิลก็แค่ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนค่อนไปทางเนื้อนมไข่ เขาชอบผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง นวลเนียน ดูเซ็กซี่ยามที่พวกเธอเหล่านั้นเนื้อตัวฉาบไปด้วยน้ำมันบำรุงผิว แต่ลลิลคนนี้ผิวขาวเหลืองเหมือนอย่างสาวเอเชียทั่วไป เขาชอบผู้หญิงที่โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูเก๋และโฉบเฉี่ยว แต่ลลิลคนนี้มีโครงหน้ารูปห
“ช่วงนี้พี่อั๋นก็งานยุ่งมากเลยสินะคะ”“ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วลิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“ลิลก็เรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำดู”“ฮ้า...จริงหรือเปล่า หมายถึงงานใหม่หรือ” “ยังไม่แน่ใจค่ะ พี่อั๋นอย่าเพิ่งบอกใครนะคะ ห้ามเด็ดขาดเลย”“ได้สิ เรื่องของลิล พี่ไม่บอกใครหรอก”แววตาคมจ้องมองมาตรง ๆ และค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ตอนแรกหญิงสาวก็ยิ้มขอบคุณแต่วินาทีต่อมาเริ่มสัมผัสได้ว่าอรรณพมองเธอด้วยสายตาวาววามแปลก ๆ“ลิล สุดสัปดาห์นี้พอจะว่างบ้างมั้ย พวกพี่กับเพื่อนจะไปปาร์ตี้วันเกิดกันที่หัวหิน แต่พี่ไม่อยากไปคนเดียว กำลังหาเพื่อนไปด้วย”ลลิลอึกอัก ไม่รู้จะตอบเขาไปอย่างไร“อย่าคิดมากนะ พี่แค่หาคนไปด้วยจะได้ไม่เหงา พวกเพื่อน ๆ มันก็ควงแฟนกันไปหมด พี่ยังไม่มีใคร ไปคนเดียวก็ตะหงิด ๆ เราจะอยู่ในงานกันสักพักก็ได้ แล้วถ้าลิลอยากไปเที่ยวหรือไปกินอะไรเป็นพิเศษ พี่ค่อยพาไป...”อรรณพมองลลิลอย่างคาดหวัง จะว่าไปเขาก็เลียบเคียงหญิงสาวมานานแล้วแต่เธอไม่เคยรู้ตัว เห็นทีหนนี้ต้องแสดงออกไปให้ชัด ๆ จะได้รู้ว่าเขาสนใจเธอ“คือว่าลิล...”“อ้าว! คุณ...มาอยู่นี่นี่เอง คุณดาด้าเขาตามหาคุณอยู่น่ะ”เสียงดังทร
Commentaires