สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป

สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป

last updateLast Updated : 2025-05-17
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
49Chapters
71views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ชาติก่อนเขาและนางประดาบเข้าหากัน ล้วนเต็มไปด้วยคมดาบเงากระบี่ มีแต่คำว่าหลอกลวง เจ้าเล่ห์มากแผนการ ชั่วช้าและโลภมาก จนสุดท้ายต้องพบกับจุดจบเพราะความโลภ ชาตินี้ได้โอกาสย้อนเวลากลับมา คนเลวร้ายเช่นนางและเขาจะไม่ยอมเดินซ้ำรอยเดิมอีก! เย่หลี เป็นสตรีที่มีจิตใจมักใหญ่ใฝ่สูง นางรักอำนาจ เช่นเดียวกับ ฟ่านเฉิน องค์ชายรองที่หวังในตำแหน่งองค์รัชทายาทเช่นกัน เขากับนางร่วมมือกันเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ทว่าเบื้องหลังกลับหันดาบหมายสังหารกันและกัน สุดท้ายจุดจบไม่สวยหรูดั่งที่คิด ก่อนตายเขาและนางได้รู้ความลับที่ตนไม่เคยรู้ แต่ทว่าก็สายเกินแก้ไปเสียแล้ว แต่ทว่าสวรรค์ยังเมตตา ส่งเขาและนางกลับมาแก้ไขเรื่องราวทุกอย่างในอดีต หนึ่งสตรีที่ต้องการปกป้องครอบครัว แม้ไม่มีอำนาจและกำลังในมือก็ไม่ยอมแพ้ หนึ่งบุรุษที่กลับมาแก้แค้นคนที่เคยทำกับเขาเอาไว้และทวงคืนความเป็นธรรมให้คนบริสุทธิ์ที่เคยตกเป็นเหยื่อในชาติก่อน เมื่อได้พบกันอีกครา ทำให้เขาและนางต้องเลือกอีกครั้ง ว่าจะหันดาบเข้าหากันเช่นเดิม หรือจับมือกันอีกครั้งเพื่อสังหารคนชั่วที่อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมในครั้งนั้น!

View More

Chapter 1

บทที่ 1-1 จุดเริ่มต้น

รัชศกหมิงจิ้นปีที่สี่สิบ

แคว้นซ่ง

"คุณหนูใหญ่บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านดูสิเจ้าคะนี่คือชาดทาปากที่บ่าวไปซื้อมาจากร้านเครื่องประทินโฉมตามที่คุณหนูต้องการเจ้าค่ะ"

"เอามาให้ข้า"

"เจ้าค่ะ"

เมื่อได้ยินเจ้านายออกคำสั่ง สาวใช้ตัวน้อยนามว่าเถาเป่าก็รีบนำชาดตลับนั้นมามอบให้ผู้เป็นนายทันที แต่เพราะว่านางรีบร้อนมากเกินไป จึงทำชาดตลับนั้นร่วงตกพื้น ตลับชาดสีสวยงดงามแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เถาเป่าลนลานทำสิ่งใดไม่ถูก ในขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปากขอโทษผู้เป็นนาย ทันใดนั้นก็มีฝ่ามือฟาดเข้ามาที่ใบหน้าของนางอย่างเต็มแรง จนใบหน้าของนางแดงเป็นรอยฝ่ามือ

"บังอาจทำของของข้าเสียหาย ไม่มีตามองให้ดีหรืออย่างไร หรือว่ามือไม้อ่อนแรง หากใช้การไม่ได้ มิสู้ให้ข้าตัดมือเจ้าทิ้งเสียดีหรือไม่!"

"ขออภัยเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่โปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วย" 

"ไสหัวไป!"

"เจ้าค่ะ"

เถาเป่ารับคำด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว ก่อนจะก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจาใดอีกและรีบเดินออกจากห้องไปในทันที เมื่อปราศจากผู้คนแล้ว หญิงสาวที่นั่งอยู่ภายในห้องก็ถอนหายใจยาว ๆ พร้อมกับสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

"บ่าวรับใช้แต่ละคนล้วนไม่ได้เรื่อง!"

กล่าวจบนางก็ยื่นมือเรียวสวยไปหยิบชาดอีกตลับที่วางอยู่ตรงหน้าคันฉ่องทองเหลืองขึ้นมา และผัดแต่งใบหน้าอันงดงามกระจ่างตาของตนอย่างประณีตบรรจง เมื่อพิจารณาแล้วนางก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ แต่เมื่อนึกถึงใครบางคนขึ้นมา นางก็อารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง

นางเคยคิดว่าตนเองงดงามไม่แพ้สตรีใด แต่ในจวนตระกูลเย่ หากกลับมีคนที่งามไม่แพ้นาง เรียกว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าเลยด้วยซ้ำ

สตรีนางนั้นก็คือเย่หลิง ลูกนังอนุชั้นต่ำผู้นั้น น้องสาวต่างมารดาของนางเอง!

ยิ่งคิดถึงใบหน้าสวยหวานของน้องสาวต่างมารดานางก็ยิ่งโมโห หญิงสาวยกมือขึ้นปัดเครื่องประทินโฉมบนโต๊ะเครื่องแป้งร่วงตกลงพื้นกระจัดกระจายจนเกิดเสียงดังก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องนอน เหล่าสาวใช้ที่ยืนรอปรนนิบัติอยู่ภายนอกต่างไม่กล้าแม้แต่จะปริปากออกมา 

เมื่อระบายโทสะจนพอใจแล้ว นางจึงสั่งให้สาวใช้เข้ามาเก็บกวาดความเสียหาย ก่อนที่นางจะเดินออกจากห้องตรงไปที่ศาลารับลมซึ่งอยู่ด้านหลังจวนตระกูลเย่

ศาลารับลมบรรยากาศดี นางชอบที่นี่มากเพราะจัดสวนได้สวยงามดอกไม้ใบไม้งอกงามสะพรั่ง อีกทั้งมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งปี

นางคือ เย่หลี เป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่เย่ ปีนี้อายุสิบเจ็ดปีแล้ว ตระกูลเย่ของนางเป็นแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งบิดาของนางก็มีความดีความชอบช่วยผลักดันฮ่องเต้ฟ่านหมิงจิ้นขึ้นเป็นฮ่องเต้ และยังเป็นสหายรักกัน ทำให้บิดานางเป็นขุนนางที่ฮ่องเต้ฟ่านหมิงจิ้นให้ความไว้วางใจมากที่สุด

นางมีพี่ชายร่วมมารดาเดียวกันคือ เย่จิ้นอันผู้เป็นรองแม่ทัพ พี่ชายปีนี้อายุสิบเก้าปีแล้ว และน้องสาวต่างมารดาที่เกิดจากอนุซ่งนามว่าเย่หลิงอายุเท่ากันกับนาง

แม่นมของนางเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ท่านแม่ของนางรับอนุซ่งเข้ามาเป็นสาวใช้ แต่เพราะสตรีนางนั้นไร้ยางอาย มักใหญ่ใฝ่สูง จึงคิดปีนเตียงท่านพ่อจนได้เป็นอนุอย่างทุกวันนี้ ท่านพ่อก็รักนางมาก ยิ่งเมื่อนางให้กำเนิดเย่หลิง ท่านพ่อก็รักและเอ็นดูน้องสาวผู้นั้นมากเช่นกัน สิ่งใดดีก็มักจะให้นางทุกอย่าง จวนตระกูลอื่น ๆ ในเมืองหลวงมักจะไม่ให้ความสำคัญกับบุตรที่เกิดจากอนุ แต่ท่านพ่อของนางกลับไม่สนใจกฎเกณฑ์คร่ำครึพวกนั้น ท่านแม่ของนางก็ใจดีมีเมตตาไม่คิดโกรธเคือง ทว่านางกลับคิดต่างจากบิดาและมารดา

บุตรอนุไม่ควรเสนอหน้าขึ้นมาเทียบกับบุตรที่เกิดจากภรรยาเอก!

เคยมีครั้งหนึ่ง เย่หลิงติดตามนางและท่านแม่ออกไปซื้อของที่นอกจวน ผู้คนกลับพูดกันว่าเย่หลิงงดงามดูเพียบพร้อมมากกว่านางเป็นไหน ๆ อีกทั้งยังมีเมตตาปรานี ต่างจากนางที่ถือดีว่าบิดามารดาตามใจไม่เห็นหัวผู้ใด เพราะคิดว่าตนเป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาเอก เลือกคบแต่สหายที่มีฐานะทัดเทียมกับตน อีกทั้งยังกดข่มคนที่ด้อยกว่า นิสัยช่างเลวร้ายไม่น่าคบหา 

นับแต่นั้นนางก็ไม่ชอบหน้าเย่หลิงถึงขั้นเกลียดชัง เป็นเพียงบุตรอนุแต่มีสิทธิ์อันใดมาดีเด่นกว่านาง นังน้องสาวตัวดี!

นางจึงไม่ให้เย่หลิงออกไปนอกจวนหากไม่จำเป็น เพราะไม่อยากทนฟังคำพูดเปรียบเทียบพวกนั้น!

เย่หลียกถ้วยชาขึ้นดื่ม กลิ่นชาหอมอ่อน ๆ ช่างเข้ากับบรรยากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิยามนี้ยิ่งนัก สายลมอ่อนพัดโชย กลีบดอกหมู่ตานหลากสีโปรยปรายตามกระแสลมที่พาดผ่าน ช่างดูงดงามเป็นอย่างยิ่ง

อีกสามวันจวนองค์ชายใหญ่ฟ่านหลิ่นจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ได้รับตำแหน่งคังอ๋อง ได้ยินว่าบิดานางได้รับเทียบเชิญให้ไปร่วมงานที่จวนองค์ชายใหญ่ด้วย นางเองตั้งตารอที่จะได้พบหน้าฟ่านหลิ่นแทบไม่ไหว เพราะนางพึงใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก

เขาคือองค์ชายที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานไม่น้อย วันหน้าตำแหน่งรัชทายาทย่อมตกเป็นของเขา หากนางได้แต่งเป็นพระชายา แน่นอนว่าตำแหน่งมารดาของแผ่นดินย่อมตกเป็นของนาง มีเพียงนางเท่านั้นที่คู่ควรนั่งบัลลังก์เคียงข้างเขา

เมื่อคิดถึงฟ่านหลิ่น เย่หลีก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย 

ในขณะที่นางกำลังนั่งจิบชาอย่างเพลิดเพลินใจก็ได้ยินเสียงสนทนาของสตรีดังแว่วมาไม่ไกลนัก เย่หลีช้อนสายตาขึ้นไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นเย่หลิง น้องสาวต่างมารดาของนางผู้นั้นนั่นเอง 

ด้านเย่หลิงที่กำลังเดินสนทนามากับสาวใช้ก็รู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องมองนาง เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าเป็นเย่หลีผู้เป็นพี่สาว เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่หลิงก็เม้มริมฝีปากแน่น นางไม่อยากจะเข้าใกล้พี่สาวผู้นี้ แต่ในเมื่อเจอกันแล้วหากนางไม่เข้าไปทักทายนั่นไม่เท่ากับเสียมรรยาทหรอกหรือ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเย่หลิงจึงจำใจเดินเข้าไปหาเย่หลีที่นั่งดื่มชาอยู่ในศาลาพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม

"คารวะพี่สาวเจ้าค่ะ ข้าไปเก็บดอกหมู่ตานมา ปีนี้ดอกหมู่ตานงดงามกว่าปีก่อน ๆ ไม่ทราบว่าพี่สาวจะรับเอาไว้ประดับแจกันในห้องนอนหรือไม่เจ้าคะ"

พอเอ่ยจบเย่หลิงก็สั่งให้สาวใช้นำดอกหมู่ตานไปมอบให้เย่หลี เย่หลีปรายตามองก่อนจะยื่นมือไปรับดอกหมู่ตานมาถือเอาไว้ เย่หลิงยิ้มออกมาเล็กน้อย รู้สึกดีใจที่เย่หลียินดีรับของที่นางมอบให้ ทว่าเพียงไม่นานรอยยิ้มของนางก็พลันจืดจางลง

เย่หลียกยิ้มมุมปาก แล้วจึงโยนดอกหมู่ตานลงไปบนพื้น ก่อนจะยกเท้าขึ้นเหยียบขยี้ดอกหมู่ตานเหล่านั้นอย่างไม่ใส่ใจ เย่หลิงเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้ากล่าววาจาใดแม้เพียงครึ่งคำ 

เมื่อเหยียบดอกไม้เหล่านั้นจนสาแก่ใจแล้ว เย่หลีก็เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกับเย่หลิง

"เจ้าก็เหมือนกับดอกหมู่ตานเหล่านี้ แม้จะทำตัวสูงส่งคิดทัดเทียมข้าเพียงใด แต่เจ้ามันก็เป็นเพียงแค่บุตรที่เกิดจากอนุชั้นต่ำ อย่าคิดมาเทียบเทียมข้า และอย่าเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าเป็นน้องสาวข้า ข้าไม่อยากมีน้องสาวที่ได้ชื่อว่าเกิดจากสตรีหน้าด้านเช่นอนุซ่งที่ปีนเตียงสามีของผู้มีพระคุณ ไสหัวไป!"

เย่หลิงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หน้าชาไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบเดินกลับเรือนของตนไป เมื่อกลับมาถึงห้องนางก็ร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้น นางผิดหรือที่นางเป็นบุตรที่เกิดจากอนุ ผู้ใดจะเลือกเกิดได้กัน เหตุใดพี่สาวจะต้องมาต่อว่านางเช่นนี้ด้วย

นับแต่เล็กจนโต ท่านแม่ก็เฉยชาต่อนาง แม้จะไม่เคยต่อว่าหรือทุบตี แต่กลับไม่ได้แสดงความรักฉันแม่ลูกกับนางเท่าที่ควร นางเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่ามันเกิดจากสาเหตุใด

ไม่นานเวลาล่วงมาถึงวันที่จวนองค์ชายใหญ่จัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งคังอ๋อง จวนองค์ชายใหญ่ค่อนข้างคึกคักไม่น้อยเลย อีกทั้งฮ่องเต้และหนิงฮองเฮาเองก็เสด็จมาร่วมงานด้วยครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบกลับเข้าวังหลวงเพราะไม่อาจอยู่นานได้ ผู้คนต่างเล่าลือกันไปต่าง ๆ นานาว่า ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับองค์ชายใหญ่ถึงเพียงนี้ เห็นทีตำแหน่งองค์รัชทายาทคงจะไม่ไกลเสียแล้ว อีกทั้งในบรรดาองค์ชายทั้งสามคนนั้น มีเพียงองค์ชายใหญ่ที่ได้ตำแหน่งอ๋องก่อนผู้ใด ทุกอย่างล้วนได้มาเพราะความปรีชาสามารถของตนเองทั้งสิ้น 

เย่หลีมองฟ่านหลิ่นที่ยามนี้กำลังสนทนากับขุนนางผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานด้วยแวบหนึ่ง ปีนี้เขาอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว นางพึงใจในตัวเขามาก หากได้แต่งกับเขาจริง ๆ อำนาจมากมายล้วนอยู่ในกำมือ นางจะได้อยู่เหนือสตรีทั้งใต้หล้า มีเกียรติอำนาจไม่มีที่สิ้นสุด

เย่หลียกยิ้มมุมปาก ใกล้จะถึงกำหนดวันคัดเลือกพระชายาเอกของคังอ๋องแล้ว นางรอมานานแล้ว อีกไม่นานความฝันของนางก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

เย่หลีเดินตามบิดาของตนไปมอบของขวัญให้กับฟ่านหลิ่น นางมองเขาด้วยสีหน้าแววตาชื่นชม ฟ่านหลิ่นเองก็แย้มยิ้มให้นางเช่นเดียวกัน ทว่าเขากลับมิได้มีท่าทีสนใจในตัวนางเท่าที่นางวาดหวังเอาไว้ เย่หลีค่อนข้างไม่พอใจเท่าใดนัก แต่นางยังไม่ละความพยายาม นางเชื่อว่าในใต้หล้านี้ย่อมไม่มีสตรีใดคู่ควรกับเขาเท่านางอีกแล้ว

ฟ่านหลิ่นรับของขวัญจากแม่ทัพใหญ่เย่ ดวงตาคมสีนิลของเขามองเลยผ่านเย่หลีไป ก่อนจะหันมาทักทายแม่ทัพใหญ่เย่

"ได้ยินว่าท่านแม่ทัพใหญ่เย่จะมาร่วมงาน ข้าดีใจยิ่งนัก เมื่อครู่เย่จิ้นอันมาทักทายข้าแล้ว เขานับวันจะเก่งกาจไม่ต่างจากท่าน จะต้องเป็นกำลังสำคัญให้บ้านเมืองได้แน่นอน ว่าแต่วันนี้ท่านมิได้พาบุตรสาวคนรองมาด้วยหรือ"

แม่ทัพใหญ่เย่ชะงักไปชั่วขณะ เขาเหลือบมองเย่หลีครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ฟ่านหลิ่น แล้วจึงเอ่ยตอบ

"ทูลคังอ๋อง นางเป็นเพียงบุตรอนุ จึงไม่อาจจะมาร่วมงานเช่นนี้ได้พ่ะย่ะค่ะ วันนี้กระหม่อมจึงพามาเพียงเย่จิ้นอันและเย่หลีบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอก"

"อืม เป็นเช่นนี้เอง ข้าลืมไปเลยว่าเมืองหลวงแคว้นซ่งของเรามีกฎระเบียบเช่นนี้อยู่ ช่างเถิด เชิญท่านดื่มสุรากินอาหารอย่างสบายใจ ข้าจะไปทักทายสนทนากับขุนนางผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เสียหน่อย"

"ขอบพระทัยคังอ๋อง"

เมื่อฟ่านหลิ่นเดินจากไปแล้ว เย่หลีก็รู้สึกว่าในใจไม่สงบเท่าใดนัก ในหัวนางมีแต่คำถามเต็มไปหมด นางยืนอยู่ตรงนี้แท้ ๆ แต่เขากลับมองเลยผ่านนางไปและถามถึงเย่หลิง คำพูดที่แฝงนัยเหมือนว่าคนทั้งสองรู้จักกันเคยพบเจอกันนั่นคือสิ่งใดกันแน่

เย่หลิงแทบจะไม่ได้ก้าวเท้าออกจากจวนตระกูลเย่ แล้วจะเคยพบเจอกับฟ่านหลิ่นได้เช่นไรกัน

ยิ่งคิดเย่หลีก็ยิ่งกระวนกระวายใจ อยากจะกลับจวนไปเค้นถามน้องสาวตัวดีผู้นั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอด

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
49 Chapters
บทที่ 1-1 จุดเริ่มต้น
รัชศกหมิงจิ้นปีที่สี่สิบแคว้นซ่ง"คุณหนูใหญ่บ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านดูสิเจ้าคะนี่คือชาดทาปากที่บ่าวไปซื้อมาจากร้านเครื่องประทินโฉมตามที่คุณหนูต้องการเจ้าค่ะ""เอามาให้ข้า""เจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเจ้านายออกคำสั่ง สาวใช้ตัวน้อยนามว่าเถาเป่าก็รีบนำชาดตลับนั้นมามอบให้ผู้เป็นนายทันที แต่เพราะว่านางรีบร้อนมากเกินไป จึงทำชาดตลับนั้นร่วงตกพื้น ตลับชาดสีสวยงดงามแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เถาเป่าลนลานทำสิ่งใดไม่ถูก ในขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปากขอโทษผู้เป็นนาย ทันใดนั้นก็มีฝ่ามือฟาดเข้ามาที่ใบหน้าของนางอย่างเต็มแรง จนใบหน้าของนางแดงเป็นรอยฝ่ามือ"บังอาจทำของของข้าเสียหาย ไม่มีตามองให้ดีหรืออย่างไร หรือว่ามือไม้อ่อนแรง หากใช้การไม่ได้ มิสู้ให้ข้าตัดมือเจ้าทิ้งเสียดีหรือไม่!""ขออภัยเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่โปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วย" "ไสหัวไป!""เจ้าค่ะ"เถาเป่ารับคำด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว ก่อนจะก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจาใดอีกและรีบเดินออกจากห้องไปในทันที เมื่อปราศจากผู้คนแล้ว หญิงสาวที่นั่งอยู่ภายในห้องก็ถอนหายใจยาว ๆ พร้อมกับสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์"บ่าวรับใช้แต่ละคนล้วนไม่ได้เรื่อง!"กล่าวจบนางก็ยื่นมือเรียวสวยไปหยิ
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 1-2 จุดเริ่มต้น
งานเลี้ยงยังดำเนินต่อไป มีเหล่าเชื้อพระวงศ์องค์ชายและผู้สูงศักดิ์มาร่วมงานกันมากมาย ในนี้มีองค์ชายรองฟ่านเฉิน และองค์ชายสามฟ่านจิ้งรวมอยู่ด้วย ทว่าเย่หลีกลับมิได้ให้ความสนใจเท่าใดนักในอีกด้านหนึ่งไม่ไกลนัก ศาลารับลมซึ่งเป็นสถานที่ที่บุรุษใช้ดื่มสุราชมสาวงาม ฟ่านเฉินและฟ่านจิ้งกำลังมองมาที่เย่หลีด้วยแววตาที่ล้ำลึกองค์ชายรองฟ่านเฉินปีนี้มีอายุครบสิบเก้าปีเต็มแล้ว ส่วนฟ่านจิ้งก็มีอายุสิบเจ็ดปี คนทั้งสองอายุไล่เลี่ยกัน มารดาของพวกเขาก็คือสวีกุ้ยเฟยฟ่านจิ้งยกจอกสุราขึ้นดื่ม ก่อนจะหันมาเอ่ยกับฟ่านเฉิน"พี่รองท่านดูบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่เย่สิ ช่างงดงามยิ่งนัก หากได้แต่งกับนางก็เท่ากับได้กองทัพตระกูลเย่มาอยู่ในกำมือแล้วครึ่งหนึ่ง ง่ายต่อการต่อกรกับพี่ใหญ่ ท่านว่าใช่หรือไม่"ฟ่านเฉินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ช้อนสายตามองไปยังสตรีที่มีนามว่าเย่หลีผู้นั้น ใบหน้าของนางงดงาม ผิวพรรณขาวเนียนราวหิมะ ท่วงท่าก็งดงามน่ามอง แต่ทว่าดวงตากลับเย็นชาและไม่ไยดีต่อสิ่งใด ไม่พบกันเสียนาน ผ่านมาร่วมหลายปีนางเติบโตเป็นสตรีที่งดงามเฉิดฉายกระจ่างตานางงดงามมากจริง ๆสตรีที่งดงามเช่นนี้ไม่เหมาะที่ใช้เป็นหมากบนกระด
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 2 ร่วมมือ
เย่หลีเมื่อได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบกับบุรุษใบหน้าหล่อเหลาผู้หนึ่ง นางจำได้ว่าเขาคือฟ่านเฉิน องค์ชายรองแห่งแคว้นซ่งนางเป็นสตรีชั้นสูง แน่นอนว่าย่อมได้พบเจอหรือรับรู้เรื่องราวของเชื้อพระวงศ์มาไม่น้อย อีกทั้งวันที่ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนของคังอ๋อง นางก็ได้พบกับฟ่านเฉินที่นำของขวัญมามอบให้ฟ่านหลิ่น แต่นางมิได้สนใจเขาเท่าใดนักนางไม่มีวันสนใจบุรุษคนใดนอกจากฟ่านหลิ่นเท่านั้น องค์ชายอื่น ๆ ที่เกิดจากสนมย่อมสู้องค์ชายที่เกิดจากฮองเฮาไม่ได้อยู่แล้ว!หากจะบอกว่ารูปโฉมขององค์ชายองค์ใดรูปงามที่สุด เหล่าสตรีน้อยใหญ่ในเมืองหลวงต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า องค์ชายรองฟ่านเฉินมีใบหน้าหล่อเหลาเป็นที่สุดแต่หากเอ่ยถึงความฉลาดอบอุ่นใจดี มีคุณธรรม ผู้คนต่างเห็นด้วยว่า องค์ชายใหญ่ฟ่านหลิ่นนั้นมีครบเพียบพร้อมในเรื่องนี้มาก เขาได้ฉายาว่าองค์ชายเทพเซียน เพราะสูงส่งสง่างามและมีคุณธรรมในจิตใจ ส่วนองค์ชายที่ขี้เล่นและเสเพลไม่สนใจสิ่งใดมากที่สุด ก็คือองค์ชายสามฟ่านจิ้งองค์ชายสามนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องทางการเมือง วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเล่นจนฮ่องเต้ปวดหัว จึงมองดูคล้ายว่ามีเพียงองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองเท่านั
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 3-1 แผนการปั่นป่วน
ตั้งแต่ได้พบกับฟ่านเฉินในวันนั้น เย่หลีก็เฝ้ารอการตอบกลับจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ นางรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังไม่น้อยเลยสามวันต่อมา กลางดึกคืนหนึ่ง ฟ่านเฉินก็ส่งคนนำจดหมายลับมามอบให้กับนาง ในจดหมายบอกแผนการทุกอย่างเอาไว้เสร็จสรรพ รวมถึงสถานที่ที่เขาเตรียมการเอาไว้ก็ค่อนข้างรอบคอบไม่น้อย นางอ่านเนื้อหาในจดหมายโดยละเอียดดวงตาก็ทอประกายความพึงพอใจอย่างเด่นชัดนับว่านางร่วมมือไม่ผิดคนเขาทั้งฉลาดและจัดแจงแผนการได้อย่างรอบคอบรัดกุมไม่น้อยเลยยิ่งแผนการสำเร็จลุล่วงเท่าใดนางก็ต้องเตรียมรับมือ คนเช่นฟ่านเฉินหากปล่อยเอาไว้ย่อมจะส่งผลร้ายต่อนางในอนาคต เมื่อทุกอย่างลุล่วงนางจะต้องจัดการตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมฆ่าทิ้งเสีย!นับแต่ได้รับจดหมายฉบับนั้นมาจากฟ่านเฉิน เย่หลีก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร อีกทั้งยังอารมณ์ดียิ่ง นางใช้ชีวิตปกติ และไม่ได้กลั่นแกล้งเย่หลีเท่าแต่ก่อนอีกจะเสียเวลาคิดแผนกลั่นแกล้งไปไย อีกไม่นานนางก็จะได้ทุกอย่างดั่งที่ใจของตนเองปรารถนาแล้วนางคิดถูกที่ชิงร่วมมือกับฟ่านเฉินก่อนเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ อากาศจึงค่อนข้างจะอบอ้าวขึ้นมาเล็กน้อย วันนี้เย่หลีอารมณ์ดี นางจึงสั่งให้คนไปตามเย
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 3-2 แผนการปั่นป่วน
วันเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่จวนคังอ๋องจัดงานเลี้ยงวันประสูติครบรอบอายุยี่สิบเอ็ดปี ฟ่านหลิ่นสั่งให้คนเตรียมสุราอาหารอย่างดีมาให้ทุกคนได้ดื่มกิน ครั้งนี้ฮ่องเต้และหนิงฮองเฮาให้คนนำของมีค่ามากมายส่งมาที่จวนคังอ๋องของเขา งานเลี้ยงในครั้งนี้จัดขึ้นในยามเย็นเพราะอากาศกำลังดีและไม่ร้อนอบอ้าว ไม่นานก็มีคนเดินทางมาร่วมงานมากมาย ก่อนหน้านี้เขาสั่งให้คนนำจดหมายไปมอบให้เย่หลิง และนางเองก็ได้ปักถุงหอมที่งดงามประณีตมาให้เขาชิ้นหนึ่ง ข้างในยังใส่เครื่องหอมที่มีกลิ่นหอมสบายมาให้เขาอีกด้วย นางบอกว่านางไม่มีของมีค่าใดจะมอบให้เขา นางมีเพียงถุงหอมและหัวใจที่มั่นคง เขาดีใจยิ่งนัก เขาไม่สนใจว่านางจะมอบสิ่งใดให้ ขอเพียงเป็นของของนางเขาล้วนชื่นชอบทั้งหมดฟ่านเฉินมาร่วมงานพร้อมฟ่านจิ้ง ยามนี้น้องชายตัวดีของเขานั้นได้ดื่มสุราจนเมามายไปเสียแล้ว เขาเองไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก แต่ไหนแต่ไรฟ่านจิ้งก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ชายหนุ่มเดินตรงไปหาฟ่านหลิ่น ก่อนจะมอบของขวัญให้พี่ชายของตน"ขอให้เสด็จพี่มีความสุขไร้กังวล นี่เป็นของที่เสด็จแม่ให้ข้านำมามอบให้ท่าน"ฟ่านหลิ่นมองดูของขวัญในมือของฟ่านเฉิน ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย และย
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 4 พลาดพลั้ง
ด้านฟ่านหลิ่นนั้น เขามาตามที่เย่หลิงนัดหมายเอาไว้ แต่ทว่ารอแล้วรอเล่ากลับไม่พบแม้แต่เงาของเย่หลิง ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อย คาดว่านางคงจะกลัวถูกบิดาจับได้จึงหนีกลับจวนไปแล้วสินะ เด็กดื้อ เอาเถิด ไว้เขาค่อยหาโอกาสแอบไปหานางอีกสักครา ครั้งหน้าจะนำขนมที่นางชอบไปมอบให้นางได้ลองลิ้มชิมรสด้วยเมื่อเดินมาเรื่อย ๆ ก็ได้พบเจอผู้คนประปราย ฟ่านหลิ่นก็คิดว่าจะเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง แต่ในขณะที่เขากำลังเดินกลับไป ระหว่างทางก็พบกับสตรีวัยกลางคนที่เดินมาพร้อมสาวใช้ ท่าทางของนางดูร้อนรนไม่น้อยเลย เขาจำได้ว่านางคือเย่ฮูหยินมารดาของเย่จิ้นอันและเย่หลีนั่นเองเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหานางทันที"เย่ฮูหยิน ไม่ทราบว่าท่านหาสิ่งใดอยู่หรือ เหตุใดจึงดูร้อนใจเช่นนี้เล่า"เย่ฮูหยินเมื่อเห็นฟ่านหลิ่นก็รีบทำความเคารพ ก่อนจะเอ่ย"ทูลคังอ๋อง ก่อนหน้านี้หลีเอ๋อร์บอกว่าจะมาที่ห้องปลดทุกข์ นางออกมาพร้อมสาวใช้ นี่ก็ผ่านมาหนึ่งชั่วยามแล้วนางยังไม่กลับมาเลย หม่อมฉันเกรงว่านางจะซุกซนจนสร้างเรื่อง จึงออกมาตามหาเพคะ ไม่ทราบว่าพระองค์ทรงเห็นบุตรสาวของหม่อมฉันบ้างหรือไม่"ฟ่านหลิ่นขมวดคิ้วมุ่น พลางคิดทบทวนแล้วพ
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 5 ชิงชัง
หลายวันมานี้ เย่หลีอาละวาดเกรี้ยวกราดอย่างหนัก นางเอาโทสะไปลงกับสาวใช้ และยังคิดจะหาเรื่องเย่หลิง จนแม่ทัพใหญ่เย่ต้องจับนางขังเอาไว้ นานวันเข้าเย่หลีก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะอาละวาดอีก นางเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญและด่าทอฟ่านเฉินไม่หยุดสุดท้ายแล้วแม้เย่หลิงจะไม่ได้แต่งกับฟ่านหลิ่น แต่ตัวเย่หลีก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใดนัก นางไม่อาจกลับไปหาฟ่านหลิ่นได้อีกแล้ว อำนาจที่นางปรารถนายามนี้กลายเป็นเพียงหมอกจาง ๆ ที่สลายหายไปไม่ทิ้งร่องรอยใดเอาไว้ให้นางไขว่คว้าได้อีกงานแต่งถูกกำหนดมาแล้ว แม้จะไม่อยากแต่งแต่เมื่อเป็นสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทย่อมไม่อาจขัดขืน หลายวันต่อมา เมื่อถึงฤกษ์ดีวันแต่งงาน เย่หลีถูกเย่ฮูหยินปลุกให้ลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้าตรู่ นางเหมือนศพไร้วิญญาณ ใบหน้าเฉยชา ดวงตาว่างเปล่า เย่ฮูหยินแม้จะไม่ยินดีที่บุตรสาวทำตัวเช่นนั้น แต่อย่างไรนี่ก็คือบุตรสาวของนางย่อมไม่อาจเกลียดชังบุตรีของตนได้ ทำได้เพียงปลอบใจเท่านั้นงานสมรสนี้ไม่ได้สร้างความดีใจและเบิกบานให้แก่คนตระกูลเย่เลยแม้แต่น้อย แม่ทัพใหญ่เย่เองก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เขาทั้งสงสารเย่หลีและรู้สึกผิดต่อเย่หลิง เหตุใดชะตาชีวิตของบุตรสาวทั้งส
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 6 ความจริง
ข่าวลือเล่าอ้างยิ่งมากเพียงใด ผู้คนก็ยิ่งสนใจใคร่รู้กันมากเท่านั้นภายในจวนตระกูลเย่ยามนี้คล้ายมีคลื่นลมพัดโหมกระหน่ำก่่อนหน้านี้ แม่ทัพเย่ได้รับอนุเพิ่มหนึ่งคน อนุนางนั้นมีนามว่าอนุหลัว ในอดีตนางเคยเป็นสาวใช้ข้างกายของอนุซ่งแม้นางจะมีอายุเท่า ๆ กับอนุซ่งแต่กลับงดงามดูอ่อนเยาว์กว่า เขาถูกใจนางจึงรับนางเข้ามาเป็นอนุอีกคนหนึ่ง เมื่ออนุหลัวได้ก้าวขึ้นมาเป็นอนุก็มักใหญ่ใฝ่สูง นางชื่นชอบอำนาจและเมื่อได้มาอยู่ถึงจุดนี้แน่นอนว่านางไม่ต้องการให้สามีของตนไปแบ่งความรักให้สตรีนางอื่น กับฮูหยินใหญ่นั้นก็ช่างเถิด นางคงไม่มีความสามารถไปต่อกรกับภรรยาเอกที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์ได้ แต่กับอนุซ่งนางสามารถทำได้อนุหลัวรู้ความลับหนึ่งของอนุซ่ง นางจึงจัดการใช้ความลับนั้นมาเป็นอาวุธทำลายอนุซ่งหลายสิบปีก่อน อนุซ่งและฮูหยินใหญ่ให้กำเนิดบุตรสาวพร้อมกัน เพราะฮูหยินใหญ่ร่างกายอ่อนแอจึงเป็นลมไปและเกิดการตกเลือด แม่นมและหมอต่างเป็นห่วง จึงรีบทำการรักษาและแยกคุณหนูบุตรสาวของฮูหยินใหญ่มาไว้ที่ห้องอุ่น โดยมีสาวใช้คอยดูแล อยู่ ๆ สาวใช้นางนั้นก็รู้สึกปวดเบา จึงไปปลดทุกข์ที่ด้านนอกห้องอุ่น นางคิดว่าในจวนแม่ทัพมีการคุ
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 7-1 จุดจบเย่หลี
เย่หลีถูกพากลับมาที่จวนองค์ชายรอง ฟ่านเฉินให้คนตามหมอมาดูอาการของนาง ท่านหมอตรวจดูอาการอย่างละเอียดและพบว่านางไม่ได้เป็นอันใดมาก เพียงแค่อ่อนเพลียและพบเจอเรื่องสะเทือนจิตใจมากเกินไป ให้พักสักหน่อยอาการก็จะดีขึ้นมาเอง ฟ่านเฉินพยักหน้า ก่อนจะสั่งให้คนไปส่งท่านหมอออกจากจวนไปเมื่อเย่หลีลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าฟ่านเฉินกำลังนั่งมองนางอยู่ หญิงสาวก็หลับตาลงอีกคราทำเหมือนไม่ต้องการรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา ฟ่านเฉินเบนสายตาไปที่อื่น ก่อนจะเดินออกไปและไม่เอ่ยสิ่งใดกับนางแม้เพียงครึ่งคำสามวันต่อมา ไป๋ซู่ฮวาบุตรสาวจวนท่านราชครูก็แต่งเข้าจวนมาเป็นพระชายาเอกคนใหม่ เดิมทีนางชื่นชอบฟ่านเฉินมานานแล้ว เพราะเขารูปงามถูกใจนาง ได้อยู่กับบุรุษรูปงามไปทั้งชีวิตอย่างไรก็ย่อมมีความสุขหลังจากแต่งงานกันแล้ว ฟ่านเฉินก็ไม่เคยเข้าหอกับไป๋ซู่ฮวาอีกเลย แม้แต่วันเข้าหอเขาก็ทิ้งให้นางอยู่ในห้องหอเพียงลำพัง ไป๋ซู่ฮวาโกรธจัดแต่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทำได้เพียงระงับโทสะเก็บท่าทีเอาไว้ และเอาความโกรธทั้งหมดไปลงกับเย่หลี พระชายารองที่เกิดจากบุตรอนุคนนั้นเมื่อแต่งพระชายาเอกแล้ว แน่นอนว่าพระชายารองเช่นเย่หลีก็ย่อมต้องเข้าไปมอบน
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
บทที่ 7-2 จุดจบเย่หลี
จนกระทั่งได้ยินว่าฟ่านเฉินกลับมาที่จวนองค์ชายรองแล้ว นางก็รีบตรงไปหาเขาที่ห้องตำรา เมื่อมาถึงนางกลับพบว่าชายหนุ่มมีท่าทีเงียบครึม แววตาคล้ายกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่เมื่อเห็นว่าเย่หลีเดินเข้ามาฟ่านเฉินก็มองนางคราหนึ่ง ก่อนจะพบว่ายามนี้นางจ้องเขาเขม็ง"ฟ่านเฉิน ท่านสังหารบิดาข้า พี่ชายข้าด้วยเหตุใดกัน!"ฟ่านเฉินมองเย่หลีด้วยแววตาที่เรียบเฉย เย่หลีพุ่งตรงเข้ามาหาเขา ก่อนจะยื่นมือมากระชากตัวเขาอย่างแรง"ตอบข้ามา! ท่านพ่อข้า พี่ชายข้า ต้องตายเพราะท่าน ท่านเป็นคนสังหารพวกเขาใช่หรือไม่!""ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ต้องการให้มันเป็นเช่นนี้!""ไม่ใช่ได้อย่างไร เป็นท่าน ฮือ คนสารเลวเป็นท่านที่ทำกับครอบครัวของข้า ฮือ ข้าขอร้องท่านให้ปล่อยพวกเขาไป แต่ท่านมันตระบัดสัตย์ ไม่รักษาสัญญา ฮือ ฆ่าข้าเลย ฆ่าเลย! คนอย่างท่านมันเทียบไม่ได้แม้กระทั่งสุนัข!"เย่หลีทั้งทุบตีทั้งด่าทอฟ่านเฉิน เขาไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับนางจริงด้วยฟ่านเฉินปล่อยให้เย่หลีทุบตีโดยไม่ตอบโต้ เขาเอ่ยวาจาใดไม่ออก นี่ไม่ได้อยู่ในแผนการของเขา เดิมท่ีคิดจะให้สองพ่อลูกยอมจำนน หากไม่ยอมก็เพียงสั่งเนรเทศ เมื่อยึดกำลังทหารมาไว้ในมือได้แล้ว แม่ทัพใ
last updateLast Updated : 2025-05-16
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status