เล่ห์รักเจ้าชายอสูร

เล่ห์รักเจ้าชายอสูร

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-23
โดย:  Karawek Houseอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel12goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
16บท
25views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

สาวงามในบทขับลำนำมีหลายประเภท ที่ได้ยินบ่อยๆ ก็มี สาวงามสร้างชาติ สาวงามล่มอาณาจักร สาวงามอาภัพรัก สาวงามร้อยเล่ห์ อ้อ...ที่ขาดไม่ได้เลย คงจะเป็น สาวงามสู้ชีวิต ถ้าให้ลองจัดประเภท อัยน์นา คงเป็นหญิงงามชื่อแปลกที่ครอบครองตำแหน่งทั้งหมดที่พูดมาแบบเกือบจะเหมาเรียบ ไม่ใช่เพราะเธอสวย ไม่ใช่เพราะเธอดวงดีหรือดวงซวย คุณหนูอัยน์นาคนนี้ได้ทุกตำแหน่งมาครองเพราะเธอ 'เป็นเหยื่อ' ต่างหาก แต่เป็นเหยื่อประเภทที่สามารถเปลี่ยนให้คนที่มั่นใจว่าเธอเป็นเหยื่อ กลายเป็นเหยื่อที่น่าสงสารยิ่งกว่าได้ในชั่วพริบตา นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงที่ดูคล้ายซินเดอเรลล่า แต่ดันเป็นซินเดอเรลล่าเจ้าเล่ห์ที่พร้อมจะผลักแม่เลี้ยงกับพี่สาวทั้งสองลงเหวทุกเมื่อ กับ คนที่เป็นเหมือนเจ้าชายอสูร แต่ดันเป็นเจ้าชายอสูรที่หล่อที่สุด สุภาพที่สุด สุขุมที่สุด ดูนิ่งที่สุด แต่ก็เจ้าเล่ห์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อเจ้าชายอสูรกับซินเดอเรลล่าร้อยเล่ห์มาพบกัน การฟาดฟันระหว่าง "นางเอก" กับ "เจ้าชายอสูร" จึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้...แต่ต่อให้เลี่ยงได้ก็คงไม่มีใครยอมเลี่ยงหรอกมั้ง ก็ทั้งคู่ดูจะสนุกกับการฟาดการฟันครั้งนี้มากนี่นา

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทนำ

แถบผ้าเนื้อโปร่ง สีแดงจัด ไล้ผ่านเอวขาวนวลคอดกิ่วอย่างเอื่อยเฉื่อยยามร่างระหงสะบัดส่ายไปมาตามจังหวะกลองรูปร่างกลมแบนขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กในมือนักดนตรีผิวคร้ามแดด ทุกครั้งที่เจ้าหล่อนเคลื่อนไหว หน้าอกสล้างใหญ่ใต้แถบผ้าแพรกระจ้อยร่อย จะกระเพื่อมไหว เต้นเร่า ราวกับส่วนแน่นหนันชวนอึดอัดนั้น ต้องการขึ้นมาอวดเนื้อหนังเนียนนุ่มประดับกากเพชรส่องประกายต่อหน้าชายทุกผู้ในย่านร้านค้าใจกลางเมืองหลวงอาณาจักรเวเนเซียอันเป็นศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาคนี้

อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ที่นางระบำกรีดตาเย้ายวน เผยอปาก เขย่าร่าง

เจ้าหล่อนโยกย้ายเชิญชวนอย่างชำนิชำนาญ เรียกแววตาหิวกระหายจากบุรุษเพศได้อย่างน่าพิศวง

ไม่เพียงสายตาเท่านั้น ลีลาชวนหยุดหายใจจากแม่นักเต้นสาวหน้าตาสะสวยเส้นผมยาวเหยียดตรงสีดำขลับที่กำลังร่ายระบำเรียกแขกบนระเบียงสถานเริงรมย์ที่ใหญ่ที่สุดในย่าน ยังเรียกเสียงครางฮือจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ได้เป็นระยะ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นการร่ายระบำของ ‘กุหลาบทะเลทราย’

“...น่าฟัดเป็นบ้า...” เสียงใครคนหนึ่งพึมพำอย่างลืมตัวตอนแม่นักเต้นที่สืบเชื้อสายจากต่างแดนเร่งจังหวะสะบัดส่าย ทำเอาคนผิวขาวจัดรูปร่างอ้อนแอ้นในชุดคลุมมีฮู้ดปกปิดเรือนผม ผู้มีดวงตาคมกริบ และมีริมฝีปากสีแดงจัดโดยธรรมชาติคล้ายหญิงสาวร้อนแรงบนระเบียงนั่น เกิดอาการใบหน้าร้อนฉ่าเพราะความขุ่นเคืองผสมกระดากอายอย่างไร้สาเหตุ

ยิ่งเห็นสายตาริษยา รังเกียจ คละเคล้ากับสายตาไม่ชอบใจที่ชาวเมืองเพศหญิงหลายๆ คนในบริเวณนั้นใช้มองนางระบำ สายเลือดซาเมียร์ในร่าง ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวผู้ยืนแทรกตัวยืนดูการเต้นระบำท่ามกลางฝูงชน ทั้งโกรธทั้งอับอายจนอยากกรีดร้องขับไล่ตั้งแต่หญิงคณิกาเชื้อสายซาเมียร์คนนั้น นักดนตรีชราผิวคร้ามแดดที่ไม่ต้องบอกก็พอเดาออกว่าเป็นสายเลือดซาเมียร์เช่นเดียวกัน เจ้าของกิจการค้าประเวณีผู้นึกอุตริสั่งให้กุหลาบงามประจำร้านออกมาเรียกแขกแต่เช้าตรู่ ไปจนถึงฝูงชนที่ดูเหมือนจะมีทุกความรู้สึกต่อคนซาเมียร์ เว้นก็แต่ความเห็นอกเห็นใจและการให้เกียรติในฐานะที่เกิดเป็นมนุษย์เหมือนๆ กันเท่านั้น

มันน่าเจ็บใจนัก...

เธอกัดฟันแน่น แล้วรีบละสายตาจากสตรีเชื้อสายเดียวกันก่อนจะทนระงับสติอารมณ์ไม่ไหว

หญิงสาวร่างเล็กในชุดกระโปรงสีตุ่น สวมผ้าคลุมมีฮู้ดสีเขียวเก่าคร่ำคร่า เคลื่อนตัวฝ่าฝูงชนออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ ภายในใจ ไม่มีเรื่องใด นอกจากความเจ็บปวดลึกล้ำเกี่ยวกับความจริงแสนเศร้าที่ว่า สาวงามผู้มีหน้าที่ ‘บำรุงบำเรอมนุษย์เพศชายเพื่อเสกสร้างเม็ดเงินให้เจ้าของอาคารผู้มีอภิสิทธิ์เหนือเธอทุกประการ’ นางนี้ เป็นหนึ่งในบรรดาผู้สืบเชื้อสายชาวซาเมียร์ ที่ถูกพรากชิงมาจากดินแดนอันเป็นที่รู้จักกันในนามดินแดนขอบฟ้าจรดผืนทรายตั้งแต่เมื่อราวยี่สิบปีก่อน ด้วยคมหอก คมดาบ และวิทยาการที่ก้าวหน้ากว่า

นางเป็นทาสเชลย...เหมือนแม่ผู้ให้กำเนิดเธอ

“นายท่านคะ นายท่านรูปหล่อคนนั้นน่ะ” น้ำเสียงแหบพร่าทรงเสน่ห์สำเนียงแปลกแปร่งจากบนระเบียง ดึงให้คนที่กำลังจะเดินจากไป อดเหลียวมองไปทางที่ใครหลายคนในบริเวณนี้มองไม่ได้

ดูเหมือนจู่ๆ กุหลาบทะเลทรายดอกสวยจะหยุดร่ายระบำและเพ่งความสนใจไปยังชายคนหนึ่ง ทำเอาชายคนที่ว่า ตกเป็นเป้าสายตาจากผู้คนในบริเวณนั้นโดยอัตโนมัติ

ชั่วเสี้ยววินาทีที่เธอเหลียวมองตาม นัยน์ตาสีนิล ก็สบเข้ากับดวงตาสีเทาคมกริบที่ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นน้ำหอมชวนเมามาย ราตรีดิบเถื่อน ใบมีด และโซ่ตรวน ได้อย่างน่าพิศวง

แทนที่ชายร่างสูงไว้ผมสีดำยาวเหยียดตรงเหมือนพวกกวีราชสำนักทว่าสวมเสื้อคลุมหนังสีดำยาวทับชุดกางเกงสีเดียวกันดูรัดกุมเหมือนพวกนักเผชิญโชคคนนั้นจะมองนางระบำบนระเบียง เขากลับมองตรงมาทางเธอ ทำเอาคนมีเชื้อสายซาเมียร์...แม้จะเพียงครึ่ง อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ ว่าเผลอทำตัวผิดสังเกตอะไรให้เขารู้ว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นใครเข้าหรือเปล่า

ผมสีดำขลับ... เธอรำพึง ถ้าไม่ใช่ว่ามีเชื้อสายซาเมียร์ด้วยอีกราย ก็ต้องเป็นเชื้อสายตระกูลขุนนางใหญ่จากอัสกันด์ อาณาจักรเก่าแก่ที่เล่าลือกันว่ามีบรรพบุรุษกลุ่มเดียวกับชาวซาเมียร์

“นายท่านชุดดำ” แม่กุหลาบทะเลทรายดอกใหญ่บนระเบียงสถานเริงใจสำหรับพวกผู้ชายเรียกซ้ำอย่างไม่ยอมแพ้ “มัวสนใจอะไรกันคะ ข้ายืนร่ายระบำอยู่ตรงนี้ เพื่อท่าน”

“เอาแล้วไง ซามีร่า แม่สาวจอมทะนง” ใครคนหนึ่งในกลุ่มคนหนุ่มที่เธอจำได้ว่าสองในเจ็ดเป็นลูกขุนนางผู้มั่งคั่งผิวปากหวือเมื่อเอ่ยประโยคนั้น

และใครอีกคนในกลุ่มนั้นก็หัวเราะรับ พยักหน้าเออออ “อยากจะบอกว่าหมอนั่นซวยอยู่หรอกนะ แต่ดูท่าไอ้หมอนั่นจะโชคดีมากกว่า”

โชคดีที่จะได้เข้าหอนางคณิกาไปหาความสำราญกับ ซามีร่า ตั้งแต่เช้าตรู่...? คิดได้เพียงเท่านั้น คนร่างเล็กใต้เสื้อคลุมสีตุ่นแบบมีฮู้ดตัวยาวกรอมเท้าก็เผลอทำตาเขียวใส่คนที่ทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่าเอาแต่จ้องมองเธอมาตลอดทันที ก็เอาสิ ไปสิ หันไปมองตามที่สาวงามร้องขอ จะมัวมองมาทางนี้ทำไม เดี๋ยวทางนี้ก็พลอยเป็นจุดสนใจไปด้วยพอดี!

นึกได้ไม่ทันจะขาดห้วงคิด ซามีร่า หญิงงามเมืองเลื่องชื่อ ก็เอ่ยประโยคถัดไปด้วยน้ำเสียงของสตรีที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจและชอบเอาชนะ

“พึงใจสุภาพสตรีตรงนั้นมากกว่าเหรอคะ” เจ้าหล่อนถาม “แหม สวมผ้าคลุมปิดหน้าปิดตาไว้อย่างนั้น อยากรู้นัก จะงามสักแค่ไหน”

พอเจ้าหล่อนพูดเพียงเท่านั้น ใครสักคนในบริเวณที่เธอยืนอยู่ ก็ยื่นมือมาเปิดฮู้ด ทำเอาคนไม่ทันตั้งตัวอย่างเธอ ตกใจจนแทบปรับสีหน้าไม่ทัน

เสียงฮือฮาบังเกิดทันทีที่ผ้าสีตุ่นเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าขาวนวลแลดูอ่อนเยาว์ที่ประดับด้วยนัยน์ตาสีดำ สีเดียวกับเรือนผมหยิกหยักศกซึ่งมองจากส่วนที่โผล่พ้นเสื้อคลุมก็พอจะเดาได้ว่ามันทั้งยาวและเรียงตัวกันเป็นระเบียบเหมือนระลอกคลื่นบนผืนน้ำ แต่ละองค์ประกอบตั้งแต่ใบหน้าเล็กเรียวรูปหัวใจ ดวงตาเปล่งประกาย คิ้ว จมูก และริมฝีปากสีแดงจัดตามธรรมชาติ ล้วนดูน่ารักน่าถนอม แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความคมเข้ม เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งสายเลือดซาเมียร์ชวนหลงใหล

คุณหนูอัยน์นา!” ชายหนุ่มสองคนที่เพิ่งจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความโชคดีของชายชุดดำแทบจะโพล่งออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เรียกเสียงฮือฮาจากคนในบริเวณนั้นได้อีกเกือบเท่าตัว

“ตายจริง...คุณหนูแกรนเทรนท์มาทำอะไรในที่แบบนี้คะ” ซามีร่าถามเสียงเครียด นางคว้าผ้าแพรสีกุหลาบผืนใหญ่มาคลุมร่าง หมดความสนใจในตัวชายแปลกหน้ารูปงามทันที

แม้แต่หญิงงามเมืองผู้น่าจะชอบดึงดูดความสนใจมากกว่าเที่ยวแจกจ่ายความสนใจให้สตรีนางอื่น ก็ดูจะตกใจ ที่จู่ๆ ก็เห็นเธอมาปรากฏตัวแบบนี้

“เอ่อ...คือ...” ‘คุณหนูอัยน์นา’ คิดว่าควรจะพูดอะไรสักอย่าง

เธอขยับริมฝีปากเอ่ยด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน แววตาที่เคยแข็งกร้าว มาดมั่น เปลี่ยนเป็นแววตากวางน้อยพลัดถิ่น

“ขอโทษค่ะ” อัยน์นารีบบอกด้วยสำนวนสำเนียงอย่างสุภาพสตรีชั้นสูง น้ำเสียงเธอยามเอื้อนเอ่ยฟังดูนุ่มนวลอ่อนน้อม ยากจะหาใครเหมือน “อย่าซักเลยนะคะ” เธอวิงวอน ดวงตาซื่อใสดูตื่นกลัว ริมฝีปากน่าถนอมสั่นระริก “ฉัน...ฉันบอกไม่ได้จริงๆ”

“คนเขาจะเล่าลือในทางไม่ดีนะคะ” ซามีร่าขมวดคิ้วคมๆ เข้าหากันจนเป็นปม “ช่างเถอะค่ะ ต่อให้ไม่ต้องบอก ใครใคร เขาก็รู้กันทั้งนั้น นี่คุณหนูโดนท่านหญิงพริสซิลล่า กับท่านหญิงแอนนาเบลแกล้งใช้ให้ออกมาทำอะไรๆ ให้อีกแล้วใช่ไหมคะ” ถ้าประโยคหลังจากริมฝีปากราชินีกุหลาบเป็นของที่จับต้องได้ มันคงเคลือบอาบหยาดละอองความขุ่นเคืองไว้จนทั่ว

นั่นทำให้อัยน์นาพอใจ เมื่อได้รู้ว่าสตรีชื่อคล้ายอาณาจักรเล็กๆ กลางโอเอซิสที่ล่มสลายนางนี้ เป็นคนที่รักและพร้อมจะโกรธแทนคนสายเลือดซาเมียร์เหมือนๆ กันสมคำร่ำลือ

ใครใครก็รู้กันทั้งนั้นว่าเธอเป็นลูกนอกสมรสที่เกิดจากเจ้ากรมการเมือง ริชาร์ด แกรนเทรนท์ กับสตรีชาวซาเมียร์ที่รับอุปการะไว้ในคฤหาสน์ ซามีร่าเป็นนางคณิกาที่ได้รับความนิยมย่อมรู้จักชายได้ดีมียศมากหน้าหลายตา การที่นางจะเคยได้ยินชื่อและเรื่องราวเธอมาก่อน จึงเป็นเรื่องที่คาดเดาได้

“พวกพี่สาวไม่ได้แกล้งค่ะ” อัยน์นาตอบคำถามหญิงงามเมืองอย่างสุภาพ แววตาสีนิลคู่นั้นช่างดูซื่อใส เหมือนไม่เข้าใจว่าการกลั่นแกล้งที่ซามีร่าพูดถึง หมายถึงการที่พี่สาวต่างมารดาแกล้งสั่งให้เธอซึ่งมีสายเลือดซาเมียร์อยู่กึ่งหนึ่ง ออกมาเตร็ดแตร่ใกล้ๆ ย่านหอนางคณิกาชื่อดัง ที่มีจุดขายเรื่องการให้บริการโดยสาวๆ ชาวซาเมียร์เพียงลำพังเพราะอยากทำร้ายจิตใจน้องสาวต่างมารดาอย่างเธอ...หรือไม่ก็อยากให้เกิดผลเสียอะไรต่อน้องสาวเลือดผสมมากกว่านั้น

สาวน้อยเชื้อสายซาเมียร์ในย่านที่มีสำนักนางคณิกาเชื้อสายซาเมียร์...ถ้าเกิดมีผู้ชายไร้สติสักคนหรืออาจจะหลายคนเข้าใจผิดขึ้นมา เรื่องมันจะไม่จบลงอย่างสวยงามแน่นอน

“พวกพี่สาวแค่อยากดื่มน้ำทับทิมน่ะค่ะ” เธออธิบายด้วยรอยยิ้มที่แม้จะดูสวย แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเศร้าสร้อยอย่างน่าประหลาด

ท่าทีสุภาพ แววตาสงบเสงี่ยม น้ำเสียงอ่อนน้อม สามอย่างนี้ เป็นคุณสมบัติชั้นดีที่ทำให้ใครต่อใครนึกเอ็นดู

“อันตรายนะคะ” ซามีร่าเองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกแบบนั้น เจ้าหล่อนยกมือขึ้นเท้าเอว วางท่าเหมือนอยากตบหน้าใครสักคน หรืออาจจะหลายคน

และอัยน์นาก็รู้ดี ว่าผู้โชคร้ายที่ว่านั้นไม่ใช่เธอหรือใครคนใดคนหนึ่งในบริเวณนี้

“เคยได้ยินว่าธิดาคนเล็กของท่านเจ้ากรมการเมืองมักโดนพี่สาวกับแม่เลี้ยงรังแก ท่าจะจริง” เจ้าของหุ่นสะท้านใจชายเอ่ยด้วยแววตาวาวโรจน์ “น่าชังนัก พวกช่างริษยาอาฆาต รังแกกระทั่งคนไร้ทางสู้ที่ไม่เคยคิดจะสู้”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ พวกพี่สาวแค่อยากได้น้ำทับทิมคนละแก้วสองแก้ว แต่ที่คฤหาสน์ไม่ได้รับผลไม้ชนิดนี้เอาไว้ พวกพี่สาวอยากดื่มมาก แล้วฉันก็อยู่ตรงนั้นพอดี พวกพี่สาวก็เลยขอให้ช่วยออกมาหาให้เพราะไม่มีใครว่างพอน่ะค่ะ” เธออธิบายน้ำเสียงร้อนรน ดวงตาคู่สวยเริ่มเปล่งประกายมากขึ้นเพราะมีหยาดน้ำสีใสคลอเคล้าอยู่ในนั้น “จริงๆ นะคะ” อัยน์นายืนยันสำทับ น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้

“โถ แม่คุณ...” หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านขายผลไม้ในบริเวณนั้นรำพึงออกมาเป็นคนแรก หลังจากที่ทุกคนยืนนิ่งเงียบกันอยู่พักใหญ่

นางรีบหยิบทับทิมใส่ตะกร้าหวายแล้วแทรกตัวผ่านฝูงชนเข้ามายื่นตะกร้าให้เธอ ดวงตาฉายแววปรานี “คุณหนู นี่ค่ะทับทิม เอาไปเถอะนะคะ ท่านเจ้ากรมการเมืองคุณพ่อของคุณหนูเคยช่วยเหลือพวกเรามามาก แค่ทับทิมแค่นี้ เรื่องเล็กน้อย”

“แต่ว่า...” เธอค้านเสียงสั่นเครือ

“นะคะ รับไปเถอะ แล้วก็รีบๆ กลับคฤหาสน์เถอะค่ะ เดี๋ยวจะโดนดุเอาอีก ได้ยินว่าคราวก่อนตอนโดนใช้ให้ออกมาซื้อกำยานก็โดนหาเรื่องทุบตี...”

คราวนี้คุณหนูอัยน์นาถึงกับบ่อน้ำตาแตก ได้แต่ก้มหน้านิ่ง เหมือนพยายามสั่งให้น้ำตาที่ร่วงลงมาเหมือนเม็ดแก้วหยุดไหลโดยเร็ว

“ผมมีรถม้าครับ ผมจะไปส่ง”  หนึ่งในกลุ่มชายหนุ่มเจ็ดคน คนที่เธอจำได้ว่าเป็นลูกขุนนางมียศไม่เบา รีบขันอาสา

แต่เธอส่ายหน้า ปฏิเสธ

“ไม่เหมาะหรอกค่ะ คุณแม่...เอ่อ ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองท่านไม่ชอบค่ะ คฤหาสน์อยู่ไม่ไกล ฉันเคยเดินไปกลับมาแล้ว ไม่ลำบากหรอกค่ะ”

“ไม่ลำบากที่ไหนกัน ได้ยินว่าคุณหนูสุขภาพไม่แข็งแรงด้วยนี่ครับ ดูสิ ผอมจนแทบจะไม่มีเอว....” บุตรชายขุนนางรีบชะงักปาก เมื่อนึกได้ว่าเผลอเผยเรื่องที่แอบจ้องมองรูปร่าง ‘คุณหนูอัยน์นา’ อย่างใส่ใจเกินงาม

ทั้งอย่างนั้น พวงแก้มคนที่แน่ชัดว่าโดนลอบสังเกตเรือนร่างก็ยังขึ้นสีแดงระเรื่อ ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา น่ารักใคร่

เธอช้อนดวงตาเศร้าสร้อยขึ้นสบตาบุตรชายขุนนางใหญ่ด้วยแววตาตำหนิระคนอับอาย ทำเอาอีกฝ่ายเผลอขยับริมฝีปากคล้ายจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ได้แต่จ้องมองเธอด้วยแววตาที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี

แววตาของผู้ชายที่อยากดึงหญิงสาวเข้าหาอ้อมกอด...

“ถ้ากังวลว่าท่านผู้หญิงจะไม่ชอบใจก็ให้เรียกรถม้ารับจ้างเถอะนะคะ” เจ้าของร้านขายผลไม้เสนอ “ถ้าทำอย่างนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรแล้ว ดิฉันมีลูกสาวสองคน ทั้งคู่อายุน้อยกว่าคุณหนูนิดหน่อย จะให้เธอนั่งไปส่ง ทำแบบนี้ท่านผู้หญิงจะได้หาช่องรังแกไม่ได้”

“ท่านผู้หญิงคอยใส่ใจเพราะหวังดีค่ะ” เธอบอก ทั้งๆ ที่น้ำตาไหลไม่หยุด

ดูเผินๆ เหมือนช่วยแก้ต่าง แต่การกระทำนั้นกลับยิ่งขับให้ผู้คนในบริเวณนั้นยิ่งเกลียดชังแม่เลี้ยงกับพี่สาวทั้งสองของเธอ เท่าๆ กับที่สงสารเธอกว่าใคร

ท่ามกลางกระแสความเห็นใจ อัยน์นาเหลียวมองไปทางชายต้นเหตุที่ทำให้ ‘คุณหนูอัยน์นา’ ต้องเผยตัวตนเล็กน้อย

ชายแปลกหน้านั่นไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว แต่สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่บ่มเพาะมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ ก็ทำให้อัยน์นาอดรู้สึกไม่ได้ ว่าสักวันหนึ่ง คนคนนี้จะกลับมาสร้างความวุ่นวายให้เธอ

เธอกับเขาจะต้องได้พบกันอีกแน่นอน...

จนถึงตอนนั้น เธอจะรับมือสถานการณ์นั้นไหวรึเปล่า คุณหนูอัยน์นา

ไหวสิ หญิงสาวผู้มีสายเลือดทาสเชลยกับสายเลือดชนชั้นสูงอย่างละครึ่งตอบตัวเองทันที

‘เธอทำได้ทุกอย่าง ถ้าอยากจะทำ’ อัยน์นาได้แต่นึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ วูบหนึ่ง แววตาซื่อใสฉายแววท้าทาย ขับให้ใบหน้ารูปหัวใจสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตาแกะสลักล้ำค่าดูเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
16
บทนำ
แถบผ้าเนื้อโปร่ง สีแดงจัด ไล้ผ่านเอวขาวนวลคอดกิ่วอย่างเอื่อยเฉื่อยยามร่างระหงสะบัดส่ายไปมาตามจังหวะกลองรูปร่างกลมแบนขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กในมือนักดนตรีผิวคร้ามแดด ทุกครั้งที่เจ้าหล่อนเคลื่อนไหว หน้าอกสล้างใหญ่ใต้แถบผ้าแพรกระจ้อยร่อย จะกระเพื่อมไหว เต้นเร่า ราวกับส่วนแน่นหนันชวนอึดอัดนั้น ต้องการขึ้นมาอวดเนื้อหนังเนียนนุ่มประดับกากเพชรส่องประกายต่อหน้าชายทุกผู้ในย่านร้านค้าใจกลางเมืองหลวงอาณาจักรเวเนเซียอันเป็นศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาคนี้อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ที่นางระบำกรีดตาเย้ายวน เผยอปาก เขย่าร่างเจ้าหล่อนโยกย้ายเชิญชวนอย่างชำนิชำนาญ เรียกแววตาหิวกระหายจากบุรุษเพศได้อย่างน่าพิศวงไม่เพียงสายตาเท่านั้น ลีลาชวนหยุดหายใจจากแม่นักเต้นสาวหน้าตาสะสวยเส้นผมยาวเหยียดตรงสีดำขลับที่กำลังร่ายระบำเรียกแขกบนระเบียงสถานเริงรมย์ที่ใหญ่ที่สุดในย่าน ยังเรียกเสียงครางฮือจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ได้เป็นระยะ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นการร่ายระบำของ ‘กุหลาบทะเลทราย’“...น่าฟัดเป็นบ้า...” เสียงใครคนหนึ่งพึมพำอย่างลืมตัวตอนแม่นักเต้นที่สืบเชื้อสายจากต่างแดนเร่งจังหวะสะบัดส่าย ทำเอาคนผิวขาวจัดรูปร่างอ้อนแอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1
ไซรัส เหลียวมองหญิงอ่อนเยาว์ในชุดคลุมสีเขียวเก่าคร่ำคร่า ขัดกับใบหน้าสะสวยและรูปร่างที่แม้จะคลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ก็ยังพอมองออกว่าเทพเจ้าช่างเสกสรรไว้สมส่วน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแฝงตัวเข้าในฝูงชน แล้วค่อยๆ เดินจากไปอย่างเงียบเชียบใช่ว่าเธอไม่น่าสนใจ เธอน่าสนใจ...อย่างน้อยๆ ก็ตรึงสายตาเขาไว้ได้ ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมานานแต่เพราะหญิงงามมักเป็นศูนย์กลางความวุ่นวาย...และวันนี้ เขาก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเด็ดกุหลาบทะเลทรายดอกไหน แต่ดั้นด้นมาถึงใจกลางย่านร้านค้าแห่งนี้เพื่อสำรวจตรวจตราความต้องการของชาวเมือง และเฟ้นหาสินค้าที่จะช่วยให้ได้มาซึ่งเงินทองและอำนาจเจรจา การทำตัวเป็นนักล่าดอกกุหลาบ จึงดูจะเป็นเรื่องไร้สาระเกินกว่าจะยอมสละเวลาในการลงหลักปักฐานแล้วเอาอนาคตที่เกี่ยวพันถึงใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่เขารัก เข้ามาเสี่ยง“บุตรสาวเจ้ากรมการเมือง...” แม้จะเลือกเดินจากมา แต่ริมฝีปากหยักได้รูปกลับพึมพำราวกับต้องการสลักตัวตนสาวแรกแย้มนางนั้นลงในใจเขาเคยเจอผู้หญิงสวยๆ มามาก หลายคนสวยระดับหญิงงามในตำนาน...งามจนถึงขั้นทำให้อาณาจักรทั้งอาณาจักรต้องล่มสลาย งามถึงขั้นที่บุรุษนับหมื่นยอมหยุดล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2
“จับมัน!” เสียงเข้มขึงขังจากตรอกฝั่งซ้ายมือ ดึงให้ไซรัสละความสนใจจากนกส่งสารเขารีบหลบเข้าซอกอาคารโดยสัญชาตญาณ ไม่นึกว่าหลังจากนั้นไม่นาน เด็กหนุ่มตัวโย่ง ประเมินแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 13 ก็วิ่งมาสะดุดล้มหน้าซอกหลืบนั้น สีหน้าเหยเกทันทีที่เห็นหน้าเขา เด็กหนุ่มที่รู้ตัวว่าคงวิ่งต่อไปไม่ไหวรีบขยับเข้าซุกด้านหลังไซรัส แล้วร้องบอกละล่ำละลัก “นะ นายท่าน! ช่วยข้าด้วย ถ้าท่านยอมช่วยข้า ต่อจากนี้ ข้าจะติดตามท่านชั่วชีวิต!”ไซรัสเหลียวมองเด็กหนุ่มผมทองตัดสั้นเนื้อตัวมอมแมมเล็กน้อย แค่เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์หลากชาติพันธุ์ที่วิ่งตามมาราวสี่ห้าคนก็รู้แล้ว ว่าเจ้าเด็กนี่กำลังจะนำปัญหามาให้เขา แต่คนอย่างเขารังเกียจการแก้ไขปัญหาเสียเมื่อไหร่... “เจ้าทำความผิดอะไรมา” เขาถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงสุขุม ทั้งๆ ที่กลุ่มคนซึ่งใกล้จะวิ่งมาถึงต่างเงื้อง้าปังตอ ท่อนไม้ และก้อนอิฐ เหมือนตั้งท่าจะเอาเรื่องเด็กคนนี้รวมถึงคนที่คิดจะขัดขวางให้ถึงตาย“ขโมยของ” เด็กหนุ่มตอบตรงไปตรงมาผิดคาด“ขโมยของแล้วหวังให้ข้าช่วยงั้นรึ?”“ข้าไม่ผิด!” เด็กหนุ่มชี้แจง สองมือเขากุมข้อเท้าช้ำเลือดช้ำหนองที่ไม่น่าจะบาดเจ็บเพราะสะดุดล้มเมื่อ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3
เธอทำสำเร็จ อัยน์นาแน่ใจว่าอย่างนั้นตั้งแต่วินาทีที่หญิงรับใช้ในคฤหาสน์มาแจ้งว่าท่านเจ้ากรมการเมือง ริชาร์ด แกรนเทรนท์ ประกาศเรียกตัวเธอ กับท่านผู้หญิงเธลมา แกรนเทรนท์ และสองศรีพี่สาวต่างมารดาของเธออย่างท่านหญิงพริสซิลล่ากับท่านหญิงแอนนาเบล ให้ไปรวมตัวกันที่ห้องหนังสือ เพื่อฟังนิทานที่นักขับลำนำคนหนึ่งพกพามายังคฤหาสน์แม่คะ...ดูอยู่ใช่ไหม เธอถามภาพหญิงสาวอ่อนเยาว์ คิ้วเรียวเข้ม ตาคม ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงระเรื่อดูอิ่มสวยเหมือนกลีบกุหลาบแรกแย้ม ไม่เพียงใบหน้าดูงดงามสมบูรณ์แบบเหมือนภาพวาด สตรีในสายตาเธอมีเส้นผมสีดำสนิทยาวหยักศกทิ้งตัวอย่างเป็นระเบียบจรดบั้นท้าย มองแล้วชวนให้นึกถึงนางพรายผิวขาวผ่องในตำนานของนักเดินเรืออัยน์นาไม่เคยเห็นหน้าแม่ แต่เธอคิดว่าแม่ผู้ให้กำเนิดคงหน้าตาไม่ต่างจากภาพสะท้อนในกระจกเงาตรงหน้าสักเท่าไหร่...“คุณหนูจะแต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอคะ” หญิงรับใช้ถามเสียงเครียด “คุณท่านกำชับให้ดิฉันจัดหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้คุณหนูสวมก่อนไปพบท่านนะคะ”“ทำไมล่ะคะ”‘คุณหนู’ ลดสายตาลงมองชุดกระโปรงยาวสีขาวประดับลูกไม้ขาดๆ ด้วยแววตาเหมือนกวางน้อย ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นช่างดูซื่อใส เหมือ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4
เสียงพิณหวานปนเศร้าดังขึ้นในวินาทีนั้นเมื่อคนเป็นนักดนตรีบรรเลงเพลงได้สักพัก อัยน์นาก็สังเกตเห็นหยาดเหงื่อเม็ดโตค่อยๆ ผุดพรายบนใบหน้า เธลม่า แกรนเทรนท์ ทั้งๆ ที่ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองคนนี้ มักฉาบเครื่องสำอางเอาไว้อย่างแน่นหนาดูท่า ท่านผู้หญิงเองก็คงเคยได้ยินนิทานเพลงเรื่องนี้มาก่อน‘ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทราย... มารดานางตายจากแต่ยังเยาว์’“หยุดนะ” เสียงสั่งจากภรรยาเจ้าบ้าน ทำเอานักแสดงทั้งสองหยุดชะงักแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่การแสดงหยุดลง ขุนนางสูงวัยก็ออกคำสั่งให้รีบแสดงต่อทันที“เอาใหม่ ร้องให้จบ” ท่านเจ้ากรมการเมืองสั่งเสียงเข้ม‘ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทรายมารดานางชิงตายจากแต่ยังเยาว์บิดามากภาระฝากแม่เลี้ยงเลี้ยงดูเจ้า เรื่องน่าเศร้าจึงเกิดขึ้นกับโฉมตรู’ “นี่มันอะไรกันคะ ริชาร์ด คุณเรียกกวีสกปรกนี่มาทำไม?” ท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์กำมือแน่น ท่าทางจะโกรธจัด แต่ยังพยายามรักษาสมบัติผู้ดี “ฟังต่อให้จบ” ขุนนางสูงวัยสั่งเสียงเข้ม สีหน้าเครียด ดูเคร่งขรึม “นิทานเรื่องนี้กำลังเป็นที่นิยมเชียวล่ะ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5
“ไม่น่าเชื่อ ว่าพวกนั้นจะยอมง่ายๆ” เสียงจากอารี เรียกให้ชายร่างสูงท่าทีภูมิฐานในห้องทำงานเรียบหรูดูกว้างขวาง ละความสนใจจากเอกสารบัญชีเขาวางปากกาหมึกซึมด้ามจับเงางาม เงยหน้ามองชายผิวสีตรงหน้า แล้วขยับริมฝีปากหยัก ดูคมคาย ถามด้วยท่าทีสงบนิ่งดั่งรูปปั้น“พวกพ่อค้าอัญมณีรายย่อยทั้งหมดตอบรับแล้วใช่ไหม”“ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านต้องการ มีสองสามรายลังเลไม่อยากเซ็นชื่อในสัญญาค้าขายกับท่านเพราะระแวงว่าวิธีการที่ท่านกำหนดให้กระจายสินค้าจะทำให้พวกเขาเสียประโยชน์ แต่พอข้าจะขอตัวกลับเท่านั้น พวกเขาก็รีบตอบรับ ยอมเซ็นสัญญาทันที”อารีตอบพลางก้าวเข้ามายื่นปึกหนังสือสัญญาให้เขา“ไม่เปิดม่านรึ?” ชายผิวสีถามพลางเหลียวมองม่านสีดำหนาทึบด้วยความประหลาดใจ “ท่านนี่ก็แปลก ฝั่งตรงข้ามมีหอนางคณิกาเลื่องชื่อ มีสาวๆ สวยๆ อยู่นับไม่ถ้วน กลับไม่ชายตาแลสักนิด พวกนางรึออกจะคอยสอดส่องมองท่านอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะซามีร่า ดูท่านางจะพึงใจท่านไม่น้อย ลือกันว่าถ้าภายในหนึ่งเดือนหลังจากนี้ท่านไม่ชายตาแล นางจะงัดเอายาปลุกกำหนัดที่ช่วงนี้ซื้อขายกันลับๆ ในตลาดมืดมามอมเมาท่านทีเดียว”“ผู้หญิงมักมาพร้อมเรื่องยุ่งยาก” เจ้าของห้องต
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6
ไซรัสนึกภาพตามได้ไม่ยาก “แล้วเรื่องนั้นมีมูลความจริงสักกี่มากน้อย?” “ไม่มีมูลเลยสักนิด” อารีตอบโดยไม่ต้องคิด “หลังรู้ข่าวว่าผู้หญิงคนนั้นโดนเผาทั้งเป็น คงเพราะค้างคาใจ ลูคัสถึงได้ค่อยๆ เลียบๆ เคียงๆ ถามผู้คนไปทั่ว เจ้านั่นเที่ยวสืบเสาะจนรู้ว่าพยานที่มาให้การล้วนเป็นพวกละโมบโลภมาก ส่วนหลักฐานที่พวกเขาใช้ปรักปรำผู้หญิงโชคร้ายนั่นก็เป็นข้าวของที่ไม่เคยมีใครในหมู่บ้านรู้เห็นว่าเป็นของผู้หญิงคนนี้...พยานคนหนึ่งยังเคยหลุดปากพูดตอนลูคัสหลอกเลี้ยงเหล้า ว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีลาภลอย เพราะจู่ๆ ก็มีคนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าใครมาจ้างวานให้ไปให้การคดีที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...แค่ยอมไปตอบว่า ‘ใช่ขอรับ’ เท่านั้น ก็ได้ของมีค่ามากมาย” “ช่างหยาบช้าดีแท้” ไซรัสออกความเห็นเรียบๆ สีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ตอนนี้มนุษย์ประนามว่าสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองดินแดนเร้นลับหลังแนวเขาเป็นปีศาจร้ายกาจจอมเจ้าเล่ห์ พอได้ยินเจ้าพูดแบบนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ ว่าใครกันแน่ที่ชั่วร้ายมากเล่ห์กว่ากัน” พูดแล้วไซรัสก็อดนึกถึงสภาพน่าขันของโลกนี้ไม่ได้ทั้งๆ ที่โลกนี้มีสิ่งมีชีวิตอื่นอี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-15
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7
ภายในห้องโดยสารบนรถม้า ไซรัสเคาะบัตรเชิญงานเลี้ยงที่คฤหาสน์เจ้ากรมการคลังในมือไป ภายในใจก็จินตนาการภาพงานเลี้ยงระดมทุนไป ยิ่งจินตนาการมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสงสัย ว่าคืนนี้ เขากับ ลูคัส ที่วันนี้รับบทผู้ติดตาม จะต้องอดทนเข้าสังคมชั้นสูงของเวเนเซียนานแค่ไหน พ่อค้าหนุ่มเหลียวมองผู้ติดตามที่นั่งตัวเกร็งอยู่บนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเหยียดยิ้ม อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าแม้แต่ลูคัสที่ดูจะมีท่าทีสงบ คุ้นชินเรื่องวิถีชนชั้นสูงที่สุดในบรรดาผู้ติดตามทั้งหมด แถมยังเข้ากันกับลูกค้าชั้นสูงได้อย่างดีเยี่ยม ยังรู้สึกอึดอัดกังวลได้ขนาดนี้ คำเล่าลือที่ว่าอาณาจักรนี้เป็นอาณาจักรบ้าพิธีรีตองจนน่าเบื่อ คงเป็นเรื่องจริง“ทำใจให้สบายเถอะ ถ้าอึดอัดก็เดินเข้าไปในงานแค่พอเป็นพิธี ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็หลบออกมานั่งรอที่รถม้าก็ได้” ไซรัสบอกผู้ติดตามเรียบๆ เรียกรอยยิ้มโล่งใจให้ผุดพรายบนใบหน้าคนฟังท่ามกลางความเงียบงันในบทสนทนา รถม้าเนื้อไม้สีดำสนิท แกะสลักขอบบนและล่างตัวห้องโดยสารด้วยลวดลายคล้ายน้ำเต้า...ผลไม้จากแดนใต้เรียงซ้อนกันเป็นแถวตามแนวยาว เคลื่อนไปตามถนนปูอิฐอย่างไม่เร่งรีบ ส่งผลให้ผู้โดยสารทันได้ยินเสียงน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-19
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8
รถม้าสีดำสนิทเทียมม้าขาวลักษณะดีเคลื่อนผ่านประตูรั้วเหล็กดัดแสนกว้างขวาง มุ่งหน้าเข้าหาคฤหาสน์หลังเขื่อง ซึ่งซุกตัวอยู่ท่ามกลางสวนวงกตและพันธุ์ไม้ไร้ดอกอย่างเชื่องช้า ทันทีที่รถม้าเคลื่อนถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์ ไซรัสก็พบว่าเจ้าบ้านจัดให้คนรับใช้และทหารในสังกัดออกมายืนเรียงแถวรอต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญอย่างเป็นระเบียบ ทันทีที่รถม้าจอดสนิท ลูคัสก็รีบถือกล่องของกำนัลลงจากรถม้า แล้วยืนรอไซรัสด้วยท่าทีเคารพยิ่ง “ไซรัส เจ้าของกิจการอัญมณีและแพรพรรณ” ไซรัสแนะนำตัวสั้นๆ ให้ชายเครางามที่ดูคล้ายจะเป็นหัวหน้าคณะต้อนรับแขก แล้วชายคนนั้น ก็ขานชื่อเขาเสียงดังกังวาน “ไซรัส เจ้าของกิจการอัญมณีและแพรพรรณ ผู้ปราดเปรื่องและกว้างขวาง” ประโยคนั้นดึงความสนใจจากแขกเหรื่อได้ทั้งงาน ไม่ทันที่คนรับใช้ชายจะนำทางไซรัสเดินเข้าข้างใน นายทหารร่างท้วมที่เคยได้รับแหวนเพชรเป็นของกำนัลก็รีบปราดเข้ามาจับมือทักทายเขาอย่างสนิทสนม “มาเสียที” เขาสวมกอดไซรัสราวกับเป็นมิตรสหายที่รักใคร่กันมานาน “ไป ไปพบท่านเจ้ากรมการคลังกับคนอื่นๆ กั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-20
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9
เคราะห์ดีที่หลังจากนั้นไม่นานพ่อบ้านก็ประกาศชื่อขุนนางอีกคนที่ทำให้เกิดเสียงฮือฮา ช่วยดึงให้พ่อค้าหนุ่มละสายตาจากแววตาแสนลึกล้ำได้สำเร็จ“ท่านเลขานุการกรมการคลัง คาร์ล วิลส์ตัน”เสียงประกาศนั้น ทำให้ ‘ท่านเจ้ากรมการคลัง’ ข้างกายเขาหลุดจากภวังค์เจ้าของงานรีบชี้ชวนไซรัสให้ทักทายผู้มาใหม่ทันที“ไซรัส รู้จักกันไว้สิ นี่คาร์ล ญาติผม คาร์ลเพิ่งย้ายมาจากต่างเมืองได้ไม่นาน แต่ทำงานคล่องแคล่วนัก” แนะนำแล้ว ท่านเจ้ากรมการคลังก็หันไปบอกอีกฝ่ายบ้าง “นี่ไซรัส พ่อค้าหนุ่มใหม่ไฟแรงที่น่าจับตา ตอนนี้ตึกสี่ชั้นหลังใหญ่ใจกลางย่านร้านค้าเป็นของเขา”ไซรัสมองดวงตารีเรียวสีเขียวเข้มตัดกับเส้นผมสีน้ำตาลหยักศกระต้นคอแล้วรู้สึกแปลกๆ สัญชาตญาณบางอย่างบอกเขาว่าชายคนนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากลและเป็นตัวอันตราย แต่เพราะนี่เป็นงานสังคม และเขาเองก็ต้องการเส้นสาย ไซรัสจึงเลือกเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ แล้วทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรที่สุด“ท่านเลขานุการกรมการคลัง”“ยินดีที่ได้พบ ไซรัส” ยิ่งฟังน้ำเสียงชายคนนี้ตอนเอ่ยชื่อเขา ไซรัสก็ยิ่งรู้สึกคุ้นหู “ผมได้ยินข่าวคุณมาไม่น้อย วันนี้ได้พบตัวจริงเสียที นับว่าโชคด
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-21
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status