"JUST SAY NOTING" ว่าด้วยเรื่องของตัวเอกที่ชื่อ "เจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์" เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการลับ Parallel (พาลาเรล) ที่ต้องเข้ามาใช้ชีวิตในโลกคู่ขนาน การมีตัวตนของเขาถูกอำพรางไว้ด้วยอาชีพที่ไม่มีใครสนใจ อย่างพนักงานส่งดอกไม้ ทำให้เขาสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ตามแต่ใจต้องการ แม้แต่ในห้องนอนผู้หญิง! ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือจากโลกอนาคต การประกบปากจูบใครสักคนจึงง่ายยิ่งกว่าสิ่งใด เสื้อผ้าหน้าผม อกนูนสูงนูนต่ำ พร้อมที่จะขย้ำมันให้สะใจไหม ถ้าพร้อมแล้วก็ตามเจฟเฟอร์มาเลย!
ดูเพิ่มเติมร่างเปล่าเปลือยพู่ระหงส์นอนเหยียดกายอยู่ในอ่างอาบน้ำเซรามิค เสียงน้ำร้อนจากหัวก๊อกดังกระทบแพรน้ำวูบไหวเจื้อยแจ้วอบอุ่น สาวสะพรั่งวัย 16 หลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจให้ความฟินชอนไชไปทั่วทั่งร่าง เธอไม่สนหรอกว่าจะเสียเวลาไปมากแค่ไหนเพราะในดินแดนส่วนตัวนามสุขาวดีแห่งนี้ มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ มันคือความสุขที่สาสมแล้วที่สาวแรกแย้มอย่างเธอจะได้รับ หลังจากการนั่งหลังขดหลังแข็งกรำตำราเรียนมาตลอดทั้งวัน
.
ปาดสายตาผ่านม่านฟองสบู่ที่ลอยฟุ้ง เล็บเท้าที่เพ้นท์มายังคงเปล่งประกายสวยสด เหมาะสมกับราคาค่างวด
.
"อืม.. ใช้ได้เหมือนกันนะร้านนี้ ดูท่าน่าจะสวยติดทนแบบนี้ไปอีกหลายวััน ถ้าไม่ใช่เพราะพีี่บอกว่าชอบเอมจะไม่ทำบอกตรง ๆ ไหนขอดูอีกข้างสิว่ายังติดทนดีอยู่รึเปล่า.. ฮึบ!"
สาวเจ้าพรั่นพรึงกับตัวเองคนเดียวตามประสาคนวัยฝัน เธอยกขาอีกข้างขึ้นพาดกับขอบอ่างระหว่างนั้นเอง แพรน้ำที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ก็ได้สยายตัวออก เผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจขนาดพอดีมือที่เปล่งปลั่งกระทบแสงไฟพร้อมกับไออุ่น ๆ น้ำร้อนกว่านี้เธอคงสุก ตรงกันข้ามเพราะกลุ่มควันบาง ๆ ที่ฟุ้งขึ้นมาเมื่อครู่ จึงทำให้เด็กสาวจินตนาการไปถึงดวงหน้าของใครบางคนซึ่งเป็นคนที่เธอรัก
.
"พี่แฟรงค์.."
หล่อนกระแอมในลำคอขบริมฝีปาก
.
"อืม.. อ่ะ.. อาาา~! พี่เห็นนมหนูไหม อยากจับไหมคะจะบีบก็ได้นะ อื้อออ! หนูยอมทุกอย่างเลยถ้าพี่ต้องการ~! พี่คนเดียว"
.
"หมับ!"
.
"อื้อ.. แบบนั้นละค่ะพี่ บีบเลยถ้าพี่ชอบเขี่ยหัวนมด้วยยิ่งดี"
"อ่ะ.. อ่ะ.. อร๊ายยยย!"
.
ต้นขาเสียดสีไปมาลำตัวบิดออกทางขวาตะแคงโค้งในอ่าง ปล่อยให้ความอุ่นร้อนเล้าโลมลำตัวตามมาด้วยการใช้นิ้วเรียวเสียวสะท้าน เธอใช้มันตวัดวนไปบนยอดถัน ส่วนอีกข้างเอื้อมลงมาสะกิดตลิ่งย่ำยีถ้ำรัก
.
"เจ๊าะแจ๊ะ ๆ , เจ๊าะแจ๊ะ ๆ"
.
"พี่แฟรงค์ขา.. พี่แฟรงค์.. โอ๊ยยยย!.. พี่แฟรงค์.. พี่แฟรงงงงค์!!! "
.
มวลน้ำที่กระฉอกล้นขอบอ่างบ่งบอกซึ่งทุกสิ่ง เด็กสาวซ่านเสียวจนคิ้วย่นยับยู่ยี่กระทั่งแรงแขนเริ่มอ่อนแรง เธอถึงได้ลดระดับด้วยการจอมจมลงสู่ก้นบึ้งทิ้งไว้แต่เพียงฟองบุ๋ง ๆ กับแพรผมดกดำที่สยายเป็นวงกว้าง แก้มป่องอมอากาศ ชะเอมเริ่มทบทวนกับตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ส่ิงที่ทำลงไปเมื่อครู่นั้นแสนจะน่าอับอายและน่ารังเกียจ พี่แฟรงค์ที่เธอรักคงไม่ชอบอะไรแบบนี้แน่ถ้าเขารู้ความจริง ประธานนักเรียนหน้าตาดีอย่างเขาจะรู้สึกอย่างไงถ้ามาจับได้ทีหลังว่าโดนสาวรุ่นน้อง ใช้เป็นแบบในการสนองราคะ
.
"บ้า ๆ ๆ เราทำบ้าอะไรลงไป บ้าที่สุด!"
.
"เฮือกกก!"
.
พอเริ่มคิดได้ร่างเปลือยก็ดีดตัวเองขึ้นมาเหนือน้ำ อกกลมสวยเด้งดึ๋งดั๋งพร้อมกันกับปอยผมที่สะบัดอ้อมหลังมาปกปิด เธอยังคงหลับตาด้วยฤทธาของฟองสบู่ที่กระเซ็นมาโดนเข้า มันรู้สึกเจ็บแสบและคัน ๆ แต่ทำไมนะทำไมกันพื้นที่สงวนตรงนั้นถึงได้รู้สึกเสียวมากกว่าเยอะ เปลือกตาเริ่มค่อย ๆ ปริเผยอ ถึงจะยังเบลอ ๆ แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้เธอสังเกตเห็นเงาตะคุ่มบนหว่างขาของตัวเอง
.
"ไม่นะ!"
"ใครน่ะ! ใคร! ออกไป! อร๊ายยยยย! ช่วยด้วย!!!"
.
ใช้เท้าถีบกระแทกร่างเปลือยต่อสู้อย่างสุดแรงด้วยความตกใจ และสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ก่อนหน้านี้เจ้าหล่อนไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนนอนแช่อยู่ในอ่างด้วย เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้! มันเหมือนกับว่าชายคนนี้วาร์ปเข้ามาข้างในตอนที่เธอเผลอ เหมือนผีที่ลอยทะลุผ่านประตู หนำซ้ำยังรุกล้ำเธอโดยใช้เพียงแค่คำพูด
.
"ชู่ววววว! ชะเอม! พี่เอง พี่แฟรงค์เอง! เงียบก่อนสิ"
ร่างหนาเอ็ดเสียงดัง พลันถลันตัวขึ้นมาเอามือปิดปาก ตาประสานตาทำให้สาวเจ้าชะงักงันไปชั่วขณะ
.
"ช่ายแบบนี้แหละเด็กดี อยากเอากับพี่ก็ต้องทำตัวดี ๆ สิครับ"
ชะเอมงงมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอตกอยู่ใต้อาณัติของเขาแต่โดยดี ก่อนจะยกปลายเล็บที่จิกอยู่บนท่อนแขนอันกำยำนั้นออก ส่ายหน้าไปมาดวงตาเบิกโพลง
.
"อืม.. อืม.. อั๊ก.. อืม"
เธอพยายามจะสืื่อสาร
.
"ไม่ครับ พี่ไม่ปล่อยมือหรอก เพราะพี่รู้หมดแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เอมต้องการ ที่ครางออกมาเมื่อกี้คือชื่อพี่่ทั้งนั้นเลย จริงไหม?"
.
"แล้วอีกอย่างที่ข้างนอกนั่น ตรงลานจอดรถพี่เช็คดูแล้วว่าคุณน้าแอนนากับน้าจัสตินไม่อยู่ ฉะนั้นในบ้านหลังนี้ ไม่สิ! ในอ่างอาบน้ำใบนี้จึงมีแค่เราสองคน เราจะทำอะไรกันก็ได้แล้วพี่ก็ได้เริ่มมันไปแล้ว มันอาจจะเจ็บ ๆ หน่อยแต่ถ้าเสียวมากก็บอกได้นะ"
.
ดุจปั้นจั่นถล่มหินผา! แกนแข็งขนาดมหึมาจากตัวแทนนักศึกษากระหน่ำใส่ปากถ้ำแบบไม่เลี้ยง! สองกายรวมเป็นหนึ่ง กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ในสมรภูมิรักที่แสนจะเปียกชื้น ชะเอมทั้งเขินและหน้าแดง ใจหนึ่งก็อายใจหนึ่งก็อดใจไว้ไม่อยู่ โปรดอย่าถามหาเหตุผลถึงการมีตัวตนของพี่แฟรงค์ เธอกลัวเหลือเกินว่าพอประติดประต่อเรื่องราวได้แล้ว พี่เขาจะหายไป
.
"พี่่แฟรงค์..!"
"พี่แฟรงค์ขา!.. พี่! "
สอดแขนอ้อมแผ่นหลังแกร่งเข้ามา กันฟันจิกปากซี๊ดลมหายใจ สลับกับการซุกใบหน้าลงที่ซอกคอ
.
แอ่นอกตั้งเต้าลำตัวสะบัดเป็นพัก ๆ ก่อนจะกระตุกดิีดขึ้นพ้นขอบอ่างเมื่อกิจกรรมดำเนินมาถึงกระบวนท่าสุดท้าย หญิงสาวกรีดร้องด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมด หว่างขาเธอหลั่งน้ำใสออกมามากมายจนจำแนกไม่ได้ว่านั่นน้ำรักหรือน้ำร้อน อวัยวะทุกส่วนบีบเกร็งตอดตุ๊บ ๆ ซึ่งในที่สุดเธอก็ถึงจุดสุดยอด!
.
รสชาติแห่งกามอารมณ์ตอบแทนเธอด้วยการสำลัก การปล่อยตัวปล่อยใจให้ชายในฝันเพียงชั่วครู่ทำให้เธอเผลอดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก จากความสุขสมเลยกลายเป็นความทรมาน สาวชะเอมดิ้นทุรนทุรายก่อนจะพบว่าพื้นที่รอบกายกลายเป็นความดำมืด! เวิ้งว้างสุดหยั่ง! ขาก็หยั่งไม่ถึง! มันคล้ายกับว่าร่างกายเธอโผล่พรวดออกมาอีกมิติ
.
สำลักน้ำกระอึกกระอัก! สูดลมหายใจทีไรดันไม่มีอากาศ เธอกำลังจะตายชะเอมคิดได้ในชั่วบัดดล เสี้ยววินาทีที่สาวเจ้าใช้มือคลำตัวแล้วเจอเสื้อผ้านั่นแหล่ะที่เฉลยซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง ว่า ณ ตอนนี้เธอกำลังคิดสั้นฆ่าตัวตายอยู่! แล้วก็กำลังจมลงเรื่อย ๆ ด้วยฝีมือของหินก้อนใหญ่ที่เธอเป็นคนบรรจงผูกถ่วงไว้ที่ข้อเท้าของตัวเอง
.
ผมสลวยลู่ขึ้นไปด้านบนเป็นพู่ ฟองอากาศฟดผุด ๆ ออกจากเบ้าตาและโพรงจมูก เด็กสาวรู้ซึ้งแล้วว่าที่ผ่านมานั้นแค่คิดไปเอง ความผิดหวังจากการโดนพี่แฟรงค์ปฏิเสธรักคือสาเหตุของเรื่องทั้งหมด ปล่อยมือทั้งสองข้างลอยปลิวเหนือหัว เลิกดิ้นเลิกต่อต้านปล่อยให้ความเป็นจริงทำงานว่าเธอไม่เคยมีอะไรกับเขา
.
"จิตสุดท้ายสินะ.. หนูคงเป็นของพี่ได้แค่ในฝันเท่านั้นพี่แฟรงค์.."
เด็กสาวยักไหล่แสยะยิ้ม กลืนความทุกข์ทรมานไว้ใต้ดวงหน้าอันซีดผืด
.
"หนูขอโทษที่หนูสวยไม่พอ ลาก่อนตลอดกาลค่ะ.. สุดที่รักของหนู"
.
"บุ๊ง ๆ ๆ ๆ "
.
ก้อนอิฐตัวหนอนถ่วงเอาชุดนักเรียนขาวแวววับ จมลงสู่เบื้องล่างของก้นสระชลประทาน แต่แล้วในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นใกล้ตายเต็มทีจู่ ๆ ก็มีมือที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งช้อนตัวเธอเอาไว้ มันแฝงไปด้วยความอบอุ่น มันเต็มไปด้วยความหวัง ชะเอมหลุบสายตาลงมองในขณะที่เงาดังกล่าวกำลังช่วยแกะเชือกที่ข้อเท้าให้ เสี้ยววาบหนึ่งในใจเธอก็ไพร่คิด
.
"พี่แฟรงค์!"
.
แต่ก็ไม่! เพราะฮีโร่คนดังกล่าวเลือกที่จะตอบสนองท่าทีอันวิงวอนนั้น ด้วยการกระชากคอเสื้อและเหวี่ยงเธอขึ้นพ้นขอบน้ำแบบพรวดเดียวจบ!
.
"นังเด็กร่าน! ดอกทองอย่างมึง! กูเสียเวลาโดดลงมาช่วยก็บุญแค่ไหนแล้ว"
บุรุษปริศนาคิด ระหว่างตีขาว่ายน้ำสวนตามขึ้นมาบนพื้นผิว
ปล่อยผ่านแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ในเมื่อคิดแผนไม้ตายขึ้นมาได้ สายลับอันดับหนึ่งแห่ง Parallel อย่างเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาดูภาพเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ นั่นอีกต่อไป เขาปล่อยให้เจ้ายักษ์แซนดี้งอกแขนงอกขาออกมาใหม่ได้ตามอำเภอใจ เพราะตราบใดที่เจ้าตัวยังมีหูฟังของหมอยูมิโกะยัดอยู่ในหูตลอดเวลาแล้วล่ะก็ มันก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี ตรงกันข้าม! กลับกลายเป็นเขาเองต่างหากที่จะได้เปรียบหากประวิงเวลาไว้ได้นานพอ.เจฟเฟอร์จึงรีบยกมือขึ้นป้องหู พลางกดปุ่มสัญญาณเพื่อที่จะออกคำสั่งต่อไป."ตั้งแนวกำแพงป้องกันค้างไว้ ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ อย่าให้ทรายเข้าถึงตัวฉันได้เป็นอันขาด!".ฝูงแมลงบินขึ้นลงหึ่ง ๆ คล้ายกับเป็นการตอบรับ หลังจากนั้นพวกมันเกือบทั้งหมดก็เกาะกลุ่มกันเป็นกำแพงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่โตมโหฬาร ที่ถอดแบบร่างมาจากพิมพ์เขียวของกำแพงเมืองจีนชัด ๆ ทั้งหมดทั้งมวลลอยอยู่กลางอากาศ โอบล้อมเจฟเฟอร์เอาไว้ทุกทิศทุกทาง ดุจดั่งป้อมปราการขององค์จักรพรรดิอหังการจิ๋นซีฮ่องเต้.ชายหนุ่มหันมองซ้ายทีขวาที สลับกับการหลุบตาขึ้นลงมองจากบนลงล่าง พลางพยักหน้าหงึก ๆ พออกพอใจกับสิ่งปลูกสร้างชีวะมวล ที่บรรดาลูกน้องจัดทำให้."เยี่ยมไปเ
"จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!.. จ้วง!.. จึก!"."เฮืออออกกก!"."โคร่งงงงงง!!!".สโตคสุดท้ายมาพร้อมกับกงเล็บ ฝ่ามือทรายขนาดมหึมายักษาแยกออกเป็นแฉกบดบังดวงตะวันจนเกิดเงามืด มันกำลังจะตะปบลงมาใส่เจฟเฟอร์ ผู้ซึ่งบัดนี้ยังคงง่วนอยู่กับการรักษาแขนไม่จบไม่สิ้น."ไอ้หยา! ทำไมมันมาถึงเร็วจังวะ? แขนกูยังไม่เสร็จเลย เดี๋ยวดิ! อย่าเพิ่ง! อิ๊บก่อน!""ฮึบ!"."วืดดดดดดดด!".จั่วลมไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! ลำตัวของแซนดี้แทบจะบิดเป็นเกลียวตามหลักฟิสิกส์โมเมนต์ตัม มันจึงรีบชักแขนกลับพลางรีบยืดช่วงล่างของตัวเองที่ฝังอยู่ใต้ทรายให้สูงขึ้นพ้นจากพื้น จนกลายเป็นอสูรกายบิ๊กเบิ้มในร่างเดิมแบบ Full version ตาต่อตาฟันต่อฟัน สองสิ่งมีชีวิตประจันหน้าเข้าหากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ."ฮู่ววว! เกือบหลบไม่พ้นไหมล่ะกู ถ้าไม่มีเจ้าแมลงพวกนี้ล่ะก็.. หึ่ย! ไม่อยากจะคิด!"."หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ หึ่ง ๆ "."รักษาระยะห่างเอาไว้อย่าเข้าไปใกล้มาก ลอยอยู่บนฟ้าให้เท้าพ้นจากพื้นแบบนี้แหละดีแล้ว ส่วนใครที่รักษาอยู่ก็ให้รีบเร่งมือเข้า!"เจฟเฟอร์คิดในใจ ฝั่งฝูงแมลงเองก็ลงมือทำตามอย่างว่าง่าย.ณ ขณะนี้ชายหนุ่มกำล
กระจัดกระจายจริง ๆ สมกับชื่อบท เพราะนอกจากจะบินเข้ามาโฉบเอาร่างของเจฟเฟอร์เอาไว้ไม่ให้หล่นลงไปตายแล้ว บนฟากฟ้ายังมีพวกมันอีกเป็นโขยง! ท้องฟ้าที่เคยสดใสแดดจัด ๆ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยฝูงแมลงวันเป็นล้าน ๆ ตัว."อะไรกัน! พวกแกอีกแล้วหรอ!"."หึ่ง ๆ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ ๆ "."ฮู้ววว! ไม่รู้ยังไงเหมื่อนกันแต่ก็ขอบใจนะที่อุตส่าห์มาช่วย พาฉันลงไปข้างล่างที".กลุ่มก้อนแมลงวันดำขลับเป็นขยุยกระจายตัวไปเกาะตามแขนขาแล้วก็เสื้อผ้า ก่อจจะค่อย ๆ ลดระดับความสูงลงเรื่อย ๆ ตามที่ได้รับคำสั่ง พร้อมกันนั้นไฟสีเขียวในหูฟังก็เริ่มกระพริบปิ๊บ ๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หางตาของเจฟเฟอร์ดันชำเลืองไปเจอเข้า เขาก็เลยมีความคิดที่จะดึงมันออกมาเช็ดดู จะได้รู้ว่าเป็นเพราะเจ้านี่รึเปล่าที่เรียกพวกแมลงวันมา แต่ทว่ายังไม่ทันจะทำอะไรเลย! จู่ ๆ หมู่ภมรอีกกลุ่มซึ่งอยู่อีกด้านของฟากฟ้าก็ชิงตัดหน้าเขาซะงั้น! พวกมันบินโฉบลงมาเป็นก้อนสีดำขนาดเท่าลูกบาส พุ่งมาที่ใบหูแล้วก็ดึงเอาหูฟังออกให้.ซึ่งพอวัตถุเล็กจิ๋วนั่นถูกส่งถึงฝ่ามือเท่านั้นแหละ ความฉิบหายก็บังเกิดทันที! คุณพระคุณเจ้าเอ๊ย! หล่นกระแทกพื้นสิครับจะเหลือเหรอ."ฟึบบบ! ,
ไหลพรืด ๆ อย่างกับบันไดเลื่อน ร่างอันอิดโรยของเจฟเฟอร์ไม่อาจต่อต้านเพราะดันเสร่อฝังตัวเองไว้ในทราย เป็นกรรมหรือความโง่ก็ไม่รู้แต่ที่รู้คือเจฟเฟอร์แม่งไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ชัวร์ ๆ ตัวเขาลอยปลิวไปพร้อมกับทราย โดยมีพิกัดเป้าหมายอยู่ที่อุ้งตีนของเจ้าแซนดี้."อั๊ก! โอ๊ก! อั๊ก! แค็ก ๆ ใครจะไปรู้ว่ะว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย.. อั๊กกก! อึกกก!"."อุตส่าห์คิดว่าหลบพ้นแล้วแท้ ๆ ที่ไหนได้ดันโดนดึงเข้าไปหา อ๊วกกก! อั๊กกก! ตายห่าแน่กู!".หลับตาปี๋พลางรอจังหวะสูดลมหายใจเข้าเป็นระยะ ร่างหนาของเจ้าหน้าที่หนุ่มดำผุดดำว่ายจอมจมอยู่ในกระแสธารแห่งชะตากรรม เขาคาดเดาไม่ได้ว่าแต่นี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะลำพังแค่ประคองตัวไม่ให้สำลักทรายตายไปซะก่อนก็บุญแค่ไหนแล้ว.บางทีสาเหตุของเรื่องอาจเป็นเพราะเจ้าตัวนั้นชะล่าใจเกินไป ก่อนหน้านี้ตอนที่เจฟเฟอร์เพิ่งจะกลบทรายฝังตัวเองใหม่ ๆ เขาก็เอะใจอยู่แล้วเชียวว่าเจ้ายักษ์แซนดี้มันมีท่าทีแปลก ๆ เขาคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่ามันคงจะหาเขาไม่เจอ ก็เลยถอดใจก้มหน้าก้มตาเงินงกพลางเอาแขนจุ่มลงไปในพื้นทรายคล้ายกับว่าจะยอมแพ้แต่ที่ไหนได้เจฟเฟอร์ดันคิดผิด! เพราะชั่วพริบตาหลังจา
"ไม่ทันแล้วหมอ มันฟาดลงมาแล้ว อร๊ากกกกก!!!".เจฟเฟอร์ร้องลั่นเขายกมือขึ้นค้ำแม้จะรู้ดีว่าเป็นดั่งไม้ซีกงัดไม้ซุง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเพราะท่วงท่าแต๋วแตกดังกล่าวนั่นเองที่ทำให้เจ้าตัวยังคงมีชีวิตรอด เมื่อหมอยูมิโกะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของปลายสายได้ใช้ปฏิิภาณไหวพริบตะโกนสวนออกไปว่า."Drain!!!"มันดังซะจนเจฟเฟอร์คิดว่าแก้วหูตัวเองคงแตก มันดังจนลอดผ่านหูฟังออกมาแล้วก็ไปรันเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ภายในของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม.เพียงเสี้ยวอึดใจวินาทีที่ฝ่ามือทรายใหญ่เบิ้มกำลังจะบดขยี้ร่างอยู่รอมร่อ ฝ่ามือของเจฟเฟอร์ก็จมบุ๋มลงไปเป็นหลุม แล้วพลังลมดูดอันเชี่ยวกราดก็เริ่มทำงาน มันดูดเอาเม็ดทรายมากมายเข้ามาเก็บไว้ในตัว กระบวนการทุกอย่างเหมือนกับตอนที่เจฟเฟอร์ทำกับก้อนความคิดผู้คนเป๊ะ ๆ ฝ่ามือเขาดูดด๊วบ ๆ สูบเอาทรายเป็นตัน ๆ เข้ามา ส่งผลให้อวัยวะของเจ้าปีศาจยักษ์เริ่มจะมีสภาพเว้าแหว่งเจียนอยู่เจียนไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่มือแต่รวมไปถึงขาด้วย การ Drain อันยอดเยื่ยมทำให้ขาของมันเสียการทรงตัว พลันล้มตรึงลงหงายท้องหงายไส้."ตรึมมมมมมมม!".แต่ทว่ากับแขนขวาของเจฟเฟอร์นี่สิ ที่ลักษณะดูไม่ดีเอาซะเลย เจ้า
ร่างหนาค่อย ๆ กระเถิบตัวเองถอยห่างออกมาจากส้นตีนทรายเล็กน้อย พลางดึงหูฟังไร้สาย (ข้างเดียว) ที่หมอยูมิโกะให้มาตั้งแต่ตอนแรกออกมาเช็คดู เขาทั้งตบทั้งตีแล้วก็เคาะมันสลับกับการพูดขอความช่วยเหลือแบบกระซิบกระซาบ."ฮัลโหล! หมอ! ได้ยินผมไหมหมอ! ช่วยผมด้วย..".เงียบสนิทไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ กลับมา มิหนำซ้ำการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงดังกล่าว ยังไปเรียกเอาบาทาของเจ้ายักษ์บิ๊กเบิ้มเอาเข้าให้."เหี้ยเอ๊ย! มันยกขาเตรียมจะกระทืบกูอีกดอกแล้ว! ย๊ากกกก!"."ฮึบ!!!".คราวนี้ไม่รอดลำตัวของเจฟเฟอร์โดนฝ่าเท้าทรายใหญ่ยักษ์อัดเข้าเต็มลำ ตัวเขากลิ้งหลุน ๆ คอพับไถลลากไปกับพื้นทราย กระอักเลือดแค๊ก ๆ เท่านั้นยังไม่พอเจ้าปีศาจทรายไจแอนท์ยังอุตส่าห์ตามมาเก็บงานของตน ด้วยการวิ่งปรี่เข้ามาใส่ง้างกำปั้นมาแต่ไกล หวังจะเผด็จศึกเขาด้วยหมัดขวาตรงไม่หลงติดยา!."ตรึมมม!!!".ชายหนุ่มวาร์ปตัวหลบหมัดดังกล่าวได้ราวกับปาฏิหาริย์ เขาโคตรจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถึงยังไงความสำคัญของการติดต่อหมอยูมิโกะให้ได้ ก็มีค่ามากกว่า จึงรีบวิ่งตื๋อหนีออกมาตั้งหลักให้ไกลขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่อสูรกายจัมโบ้กำลังโงนเงนตั้งตัวเตรียมจะโจมตี
ความคิดเห็น