เข้าสู่ระบบ"ผู้หญิง" เพียงคำหนึ่งคำ อาจมีความหมายมากกว่าการเป็นผู้หญิง เมื่อวันหนึ่งจาก เด็กสาว กลายเป็น หญิงสาว หลังจากออกเรือนแต่งงานไป เริ่มกลายเป็น "เมีย" บทบาทชีวิตประจำวันเดิม จึงได้เปลี่ยนไป...
ดูเพิ่มเติม“นี่จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะไม่ใช่สาวโสดอีกต่อไป พรุ่งนี้ ฉันจะกลายเป็น เมีย เต็มตัว หลังจากผ่านคืนนี้ไป...”
******
ชุดวิวาห์สีขาว ถูกปลดออกจากเรือนร่างด้วยมือบางของ มายด์ หญิงสาวทำงานในร้านไก่ทอดชื่อดัง ซึ่งพยายามหาทางออกให้ชีวิตตัวเองไม่ต้องเป็นพนักงานเงินเดือน ตราบถึงวันเกษียณอย่างเดียวดาย... เธอเลือกจะแต่งงานกับชายแก่คนหนึ่ง เพื่อจะสบายตลอดชาติ บนกองเงินของเขา หากเขาจะแก่เร็ว ตายไว และมีเงินเป็นมรดกให้แก่เธอเพียงผู้เดียว...
มือเหี่ยวย่นกำลังเงอะงะ ถอดเสื้อผ้าตัวเอง ลำพังขาที่อ่อนแรง เริ่มจะสั่นไหวทรงตัวแทบไม่อยู่ ด้วยอายุนำหน้าวัย เลขเจ็ด เป็นเพียงตัวเลขที่ทำให้ชายแก่ชรานึกย้อนปลอบประโลมใจตัวเองว่า เขายังอายุเพียงสิบเจ็บปี และพร้อมจะเตะปี๊บเต่งตึงตรงหน้า ให้ระเบิดน้ำแตกอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำใจ
เรือนหน้าแก่ๆ เหี่ยวย่นมองเจ้าสาวแสนสวยตรงหน้า ด้วยรอยยิ้มเต็มไปด้วยฟันปลอม เขายังคงพยายามถอดเสื้อผ้าเจ้าบ่าวอย่างยากลำบาก หรืออาจจะเชื่องช้าซะมากกว่า แววตาของมายด์เหลือบหันไปยิ้มแห้งๆ ให้ว่า คืนนี้ช่างเป็นวิวาห์แสนสุขของเรา
แม้ว่าจิตใจของหญิงสาวแสนบริสุทธิ์อายุราวสิบเก้า ต้องทุกข์ทนแค่ไหน กับการต้องยอมแต่งงานกับชายแก่ เพื่อให้ได้สินสอดก้อนแรกราวสิบล้าน มอบให้พ่อแม่เก็บเอาไว้ หรืออาจจะหมดไปแล้วก็ได้ เพื่อเอาไปปลดหนี้บ้าน หนี้รถ อีกทั้งซื้อของเข้าบ้านราวกับพายุ เพื่อตอบสนองความต้องการด้วยคำว่า ไม่มี ให้มั่งมีมากกว่าชาวบ้านข้างบ้านบ้าง
มายด์พยายามมโนจิตใจตัวเองว่า กำลังแต่งงานกับชายหนุ่มรูปงาม หล่อเหลาน่าเอาจับทำผัว เธอหลับตาคิดในใจ ขณะที่ปล่อยให้ตัวเองนอนหงายบนเตียงสีขาวสะอาดเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบแดง โรยบนเตียง ต้องอดทนกับกลิ่นกายคนแก่ ลอยเข้าจมูก เธอแอบเหลือบดวงตาเล็กๆ มองหาขวดน้ำหอมเล็กๆ ตรงหัวเตียงซึ่งมีกระดาษทิชชู่ มือบางรีบคว้าพลางกดฉีดมันให้ฟุ้ง เพื่อการมโนจะสำเร็จหลอกตัวเองว่า ได้เจ้าบ่าวหนุ่มแน่นมาทำผัว
ความจริงก็คือความจริงที่ต้อง ทนยอมให้คนแก่มาฟาดเธอ เพื่อให้ได้ทรัพย์สมบัติและมรดกของเขา มาเป็นของตน แม้ว่า ลูกชายของเขาจะแต่งเมียไปแล้ว มีหลานให้อุ้มอีกสามถึงสี่คน หลานสาวตั้งสี่คน... ที่พร้อมจะมารอรับมรดกจากชายแก่คนนี้ ที่อยากจะสมหวังก่อนจากลาโลกนี้ไปแล้ว ด้วยการแต่งเมียเด็กอายุสิบเก้าปี...
มายด์กัดฟันกล่ำกลืนกับการต้องทนยอมรับกับทุกๆ คนในครอบครัวว่า “เธอรักชายแก่คนนี้มาก ถึงอยากร่วมหอลงโรงแต่งงานกับเขา ราวกับเนื้อคู่ที่จากกันไกล ได้กลับมาพบกัน...” แม้ว่ารอบด้านจะคัดค้านอีกทั้งรู้อยู่แล้วว่า เธอไม่เอาชีวิตในวัยสาวมาทิ้งกับคนแก่ใกล้ถึงฝั่ง ใครๆ ก็มองว่าเธอมาหาเงินกับเขาทั้งสิ้น...
และมายด์ก็ปฏิเสธพวกเขาไปทั้งหมด เพื่อแต่งงานกับชายแก่คนนี้ เพื่อจุดประสงค์ของตัวเอง จะสมหวัง...แม้ว่าจิตใจของเธอจะต้องตะโกนออกมาภายในใจดังๆ ว่า “ใช่!!! เธอมาเอาเงินเขาจริงๆ เพื่อเธอจะมีความสุขกับชายหนุ่มรูปหล่อที่ตัวเองต้องการในวันหน้า หลังจากตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่ เอาชีวิตตัวเองมาทิ้งกับไม้ใกล้ฝั่ง... หวังผลในอนาคตตามที่คิด”
“ผัว... จะเข้าไป...ละนะ แม่จิ้มลิ้มน่าเจี๊ย!!!” แววตาของชายแก่ยังเบิกไม่เต็มที่ เพราะหนังตาดันเหี่ยวย่นยับยู่ยี่ มายด์ดันนึกถึงหมาหนังย่นมากกว่า เจ้าบ่าวหนุ่มหล่อหน้าเนี๊ยบ กล้ามเนื้อแน่นๆ พยายามหลอกตัวเองว่า เธอแฮปปี้มาก แม้ว่าร่างกายจะรู้สึกถึงความแก่ อ่อนแรง และกายสูบผอมใกล้โลง ใกล้ความตายมากกว่า ความสุขสู่สวรรค์
******
ร่างกายแทบหมดแรง อ่อนล้าของชายชรา ที่ทำได้เพียงใช้นิ้วมือสอดแหย่เข้าร่องอวบอัดแน่นคับ ซักไซร้นัวเนียอยู่หลายนาที มายด์อดทนนอนนิ่งกัดฟัน ปล่อยให้เขาทำไปเพราะได้เงินมาแล้ว เธอก็ต้องอดทนยอมให้เขาใช้นิ้วกับส่วนสำคัญตรงนั้นไปอย่างสนุกสนาน
อีกมือเหี่ยวย่นกำลังปลุกองคชาตอ่อนแรง หดสั้นราวหนอนด้นใกล้สิ้นชีพ พยายามกอบกำชักมันกระตุ้นให้ตื่นตัว เพราะเขาอยากบุกทลายพิชิตความเป็นพรหมจรรย์ของมายด์มากแค่ไหน ดวงตากำลังเบิกกว้าง พร้อมกับเส้นเลือดแดงกำลังกระจายเต็มม่านตาขาวของเขา มายด์เหลือบมองพร้อมยิ้มแห้งๆ ให้ ราวกับอยากบอกเขาว่า เธอชอบที่เขาทำให้ยิ่งนัก...
กายคนชราเริ่มสั่นหงึกๆ เพราะอีกมือกำลังชักว่าวหนอนย่นนอนตาย ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ไม่โต ไม่ยืดตัว แถมหดหนักกว่าเก่า จนชายชราเริ่มจะเหนื่อยล้า และความดันก็เริ่มขึ้นสูง อีกมือเขาเริ่มหยอดแหย่แทงเข้าร่องแคบของมายด์แทบหมดนิ้ว เธอรู้สึกดีกว่าเขาจะอยู่บนตัวเสียอีก... รู้สึกจะเริ่มสงสารสังขารคนแก่ตรงหน้า
แทนที่จะทรมานเธอให้ร้องขอชีวิต กลายเป็นว่า มายด์เริ่มจะสงสารคนแก่ที่ทนทรมานสังขารตัวเอง เพื่อที่จะผ่านคืนวิวาห์นี้ให้ผ่านไป...
“ถ้าเหนื่อย... พักก่อนมั๊ยจ๊ะ ที่รัก?” มายด์ทักเสียงหวานด้วยความเป็นห่วง เห็นว่าเขาพยายามจะปลุกหนอนแก่ให้ตื่นตัวเต็มที่ เหมือนเมื่อครั้งหลายปีก่อน เคยกระชากความสาวของภรรยาคนแรกได้ จัดหนักเสียเลือดสาดเต็มเตียง จนได้ลูกชายสมใจ
“ก็...ดี...เหมือนกัน...นะ เฮ้อ... ช่วยไปหยิบน้ำ...ให้ดื่ม...หน่อย...” แม้จะพูดยังหอบขนาดนี้ ยังต้องตะบันน้ำดื่มก่อนมั๊ย ถึงจะได้ต่อรอบถัดไป ความเป็นชายที่มากด้วยอายุ ยังไม่อาจปลุกความหนุ่มขึ้นมา สงสัยจะหมดอายุตามสังขารเลขเจ็ดขนาดนี้ มายด์แอบขำ แต่หัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะเธอมั่นใจว่า เขาจะไม่มีวันกระชากความสาวของเธอไปได้แน่ๆ ...
ในขณะที่ชั้นในปกปิดหน้าอกยังคงระบายลูกบายชวนยั่วอารมณ์รัดหน้าอกเธอกลมกลึง และกลมเต่งตึงอวบอิ่มงอนงาม ประจันตรงหน้าชายแก่แล้ว เขาชอบเธอที่สวยงามเพียงนี้ แต่แย่ที่สุขภาพของเขามิอาจปลุกเร้าความต้องการของตัวเอง มอบความสุขหรรษานี้ให้แก่ภรรยาสาวได้ เธอน่ากินที่สุด แต่เขายังกินเธอไม่ไหว จึงได้นั่งพักรอน้ำดื่มจากเธอ...
******
มายด์ไม่เห็นว่าจะมีน้ำดื่มตรงนี้ จึงเดินกลับมาหาสามีแก่ซึ่งนอนหมดแรงอยู่บนเตียง ไม่ใช่เพราะฟาดกันสมหวังแล้ว แต่เขายังอ่อนแรงฟาดเมียเด็กยังไม่ได้เลย แค่จะพยายามปลุกความเป็นชายของตัวเองยังยากกว่าจะเงยหน้า พูดได้แต่ละคำ แต่ละประโยค...
“ที่รักจ๊ะ... เห็นทีฉันจะต้องไปหาน้ำที่ล็อบบี้แล้วล่ะ คุณรอที่นี่ก่อนได้มั๊ย? ตู้เย็นมันไม่มีน้ำเลย” เธอบอกเพราะว่า อยากจะออกจากห้องไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย อุตส่าห์ลงทุนเอาขวดน้ำดื่มโยนทิ้งนอกหน้าต่าง
“โทร... เรียกให้เขา... เอามาส่ง...สิจ๊ะ เพิ่ง... พึ่งจะ...คืนของเรา... คืนแรก อย่าพึ่ง... อย่าพึ่ง...ออก... จากห้อง...ละ...ละ...เลย มันไม่... ไม่เป็น... มงคลนะจ๊ะ เมีย...จ๋า...” แค่พูดยังเหนื่อยขนาดนี้ คนเป็นเมียแต่งคืนแรก ยืนฟังจะเหนื่อยขนาดไหน...
“ดึกแล้วนะจ๊ะที่รัก... มายด์ไปเอาน้ำแปบเดียว เดี๋ยวที่รักนอนพักก่อนนะจ๊ะ... มายด์จะรีบกลับมาเอากับสามีไวๆ นะจ๊ะ” มายด์พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสามีแก่คืนนี้ให้ได้ เพราะเธอมิได้สมหวังตามที่ปรารถนา ก็แค่เรื่องชายหนุ่มในคืนแต่งงาน อย่างน้อยก็ได้เงินสินสอดเขามาแล้วก้อนแรก มีเงิน... จะทำอะไรก็ได้...
ชายแก่เห็นว่าภรรยาพร้อมจะปรนนิบัตรอย่างเต็มที่ เวลาดึกขนาดนี้ คงไม่มีบริกรมาบริการบนโรงแรมนัก... จึงอนุญาตให้เธอออกไปหาน้ำมาให้เขาดื่ม รอเธอกลับมาทำให้เขา น่าจะง่ายกว่า...
มายด์หาเสื้อคลุมมาห่มตัวเอง ซึ่งอยู่ในชุดชั้นในสีขาวปกปิดให้เรียบร้อยก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องสะอาดแสนหรู เพื่อออกมาสูดอากาศด้านนอกที่ทำให้เธอหายใจหายคอได้เต็มปอดเสียที...
******
ระหว่างที่มายด์กำลังเดินไปที่ลิฟต์ เธอพบกับชายรูปหล่อสองคน เดินเท้าไปด้วยกัน พวกเขาน่าจะเป็นชายหนุ่มรูปงามไฮโซ น่าจะมีปาร์ตี้ที่นี่ อีกทั้งแต่งตัวดีขนาดนี้ เธอเองก็อยากรู้จักพวกเขา อยากเป็นเพื่อน และอยากจะสนิทกับพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น เธอกดปุ่มลิฟต์แล้วเหลือบหันไปมอง พบว่าพวกเขาเองก็เดินมาที่ลิฟต์ด้วยเช่นกัน
“ไปไหนครับ?” ชายหนุ่มเห็นเธออยู่ในชุดคลุมกาย กับรองเท้าแตะเดินในห้องจึงถามไถ่ตามมารยาท
“ไปล็อบบี้ค่ะ คอแห้ง...” มายด์คอแห้งจริงๆ เพราะเธอรู้สึกหิวชายหนุ่มตรงหน้า มากกว่าชายแก่ซึ่งเป็นสามีแต่งเสียอีก
“พวกผมก็ว่าจะไปหาเหล้ามาดื่ม พอดีว่าเรามีปาร์ตี้เพื่อนร่วมรุ่นกันอยู่...” ในขณะที่ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งชักชวน อีกคนก็ทำท่าจะห้ามว่า อย่าไปชวนคนแปลกหน้าเลย... เขาส่ายหัวว่า ไม่ควรทำแบบนี้
“ขอโทษนะครับ เพื่อนผมเริ่มจะเมา ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ” หนุ่มหล่อสุภาพผมดำมัน ดันโดนใจมายด์ว่าเขาเป็นใครนะ หล่อโคตรๆ เธอดันหัวใจพองโตอยากรู้จักเขาจนลืมไปแล้วว่า จะต้องไปล๊อบบี้หาน้ำมาดื่ม เธอเริ่มไม่อยากกลับห้องวิวาห์ตัวเองเสียแล้ว
“ไม่...ไม่เป็นไร...ค่ะ...” ประตูลิฟต์เปิดออกที่ปล่อยให้พวกเขาทั้งสามคนเข้าไปในลิฟต์ตัวเดียวกัน.. ความเงียบและความตื่นเต้นที่ได้อยู่ที่แคบๆ ตามลำพัง ดันทำให้จิตใจมายด์เริ่มคิดฟุ้งซ่านมากมาย...
เสียงกริ่งลิฟต์ดังขึ้นเผยล๊อบบี้ตรงหน้า แต่มายด์ดันไม่อยากเดินเข้าไป เพราะเห็นว่าญาติๆ ของสามีแก่ ดันนั่งจิบของว่างอยู่ข้างล่าง เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพพ่อชราอายุเลขเจ็ด พวกเขายังไม่กลับบ้าน เลยทำให้มายด์ไม่กล้าเดินออกจากลิฟต์...
“ไม่ออกมารึครับ?” หนุ่มหล่อผมย้อมสีที่ชักชวนมายด์เมื่อสักครู่ ถามถึงเมื่อพบว่าเธอไม่ออกจากลิฟต์
“ลืมหยิบเงินมาค่ะ คงต้องขอตัวกลับห้องก่อนนะคะ” มายด์กดปุ่มปิดประตูเพื่อหลบญาติสามีแก่ ซึ่งนั่งเต็มล็อบบี้ ขืนเห็นเธอเดินออกมาโท่งๆ แบบนี้ เดี๋ยวได้โดนฟ้องหย่า แถมโดนฟ้องยักยอกทรัพย์ชายชรา มีหวังติดคุกหัวโตแน่ๆ
“อีเบื้อกเอ้ย ทำลงไปได้...!!!” มายด์บ่นกับตัวเองที่พบว่า เจอสิ่งที่ชอบ แต่เอามาไม่ได้ เพราะตัวเองดันแต่งกับชายแก่ไปซะแล้ว... มาเจอของที่อยากได้ อยากเอา ดันทำได้แค่มอง... จะโกรธที่ตัวเองโง่โลภ เพราะอยากได้เงินคนแก่รึเปล่านะ
******
มายด์ไม่กล้ากลับห้องนอนตัวเอง เพราะเธอไม่อยากอดทนกล่ำกลืนเจอชายแก่ พยายามเปิดซิงด้วยแรงเฮือกสุดท้ายของชีวิต เธอจึงตัดสินใจนั่งอยู่ริมทางซึ่งมีเก้าอี้วางไว้แค่ตัวเดียว... หนุ่มหล่อสองคนเดินกลับมาเห็นเธอนั่งเพียงลำพัง จึงกล่าวทักอีกครั้ง
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะครับ...?” ชายหนุ่มย้อมสีผมเอ่ยถาม... เห็นว่าเธอยังไม่กลับห้องตัวเองไปอีก พวกเขาสองคนก็ไม่รู้ว่าเธอพึ่งแต่งงานมา แต่ไม่ยอมกลับห้องเรือนหอ
“ลืมกุญแจค่ะ... เข้าห้องไม่ได้” เธอตอบแห้งๆ ไม่อยากบอกความจริงว่า เธอแต่งงานกับสามีคนแก่ เพื่อจะสบายในอนาคต แต่พอมาถึงเวลาจริงๆ ของตัวเอง กลับทนไม่ได้เสียเองที่ต้องมาเจอสิ่งที่เกลียดทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนนี้เริ่มจะเกลียดตัวเองแล้ว ที่ตัดสินใจผิดๆ เพราะอยากได้เงินสิบล้าน
“ถ้างั้นจะให้ผมเรียบริกร...” หนุ่มหล่อสุภาพผมดำเอ่ย... ทำให้มายด์ตัดบท...
“ไม่ค่ะ...ไม่ต้องเรียกเขานะคะ...” มายด์เริ่มอยากจะเปลี่ยนใจ ไปห้องพวกเขามากกว่ากลับห้องเรือนหอของตัวเองกับชายแก่ซะแล้ว เธอรู้สึกถึงวันสิ้นโลกได้ หากเธอคิดจะกลับไปหาสามีแก่ๆ กำลังนอนรอเธออยู่...
“ถ้างั้นพวกผมสองคน...” เขากำลังจะบอกลาเธอ และพร้อมชักเท้าไป... มายด์เงยหน้าตัดสินใจที่จะกล้าพูดกับพวกเขา...
“ขอไปด้วยค่ะ... นะคะ...” มายด์คิดแล้วว่า เธออยากขึ้นสวรรค์ มากกว่าลงนรกในวาระสิ้นโลก... จึงตบเท้าเดินไปกับพวกเขา... จนกระทั่งประตูสวรรค์เปิดออก พบกับชายหนุ่มล้วนอยู่ในห้องดีลักซ์หรูถึงสามสิบคน... มายด์รู้สึกถึงสวรรค์อันล้ำลึก ที่ปรากฏตรงหน้า เมื่อหญิงสาวในชุดชั้นในซีทรูสีขาวซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุม ถูกถลกออก... ความบันเทิงในห้องนี้จึงพิเศษกว่าที่เคยเป็น...
******
นพถือโอกาสอาบน้ำ ในขณะที่เชนเดินเข้ามาตัวเปล่า ขอเข้ามาอาบน้ำด้วยเช่นกัน นพรู้สึกเขินแทบไม่กล้ามองหน้า แต่สำหรับเชน จึงเดินเข้าไปสวมกอดนพใต้ฝักบัวอาบน้ำ“รู้แล้วนะว่าตัวละครในหนังสือแฟนตาซีเล่มนั้น เขาทำอย่างนี้และรู้สึกยังไง” เชนกระซิบอยู่ข้างหูนพ พร้อมๆ กับอาวุธใหญ่ยาวมันเริ่มนอนหลับพักผ่อน แต่ยังแนบอยู่ระหว่างแก้มก้นของนพ ทำให้หนุ่มน้อยใจหายพอสมควร“คะ...ครับ” นพตอบอย่างตกใจ เพราะตื่นเต้นและใจเต้นแรง เขารู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก เมื่อมันได้เกิดขึ้นกับนพ และไม่มีใครในบ้านรู้ว่าเขาอยากทำแบบนี้มานานแล้ว แม้ว่าจะเป็นฝ่ายรับก็เถอะ“จะมีโอกาสบ้างมั๊ยถ้าผมอยากจะรุกบ้าง” นพถามเชนเบาๆ มองเขาด้วยสายตาแบบอยากวิงวอนขอร้อง“ผมไม่มีวันหันหลังให้ใคร เพราะผมชอบเผชิญหน้า แต่ตอนนพหันหลังให้ผม... ผมก็ชอบอยู่นะ มันใกล้ชิดแน่นมากๆ” เชนยิ้มหวานพลางบอกว่า เขาพึงพอใจในตัวนพมากแค่ไหน เพราะจากการคุยกันวันแรก เชนก็พอจะเอาออกว่า นพอ่อยเขามาตลอด ตอนนี้เขาคงสิ้นท่าอ่อยแล้ว และเชนเองก็อยากสานต่ออย่างเงียบๆ เพื่อมิให้นพเสียการเรียนต่อ“ครูเชนครับ... ผมต้องรีบกลับแล้ว นี่มันใกล้จะค่ำแล้วนะครับ” นพรู้สึกได้ว่าเวลา
นพเริ่มลดตัวลงต่ำนอนราบมองภาพที่สูงกว่าตรงหน้า ร่างของเชนดูตัวใหญ่ขึ้นเมื่ออยู่ข้างบน และเรือนขาของนพเริ่มถ่างออกกว้าง ความเป็นของเขาก็เริ่มอวบแข็งแต่ยังไม่ขยายเต็มที่ แต่สำหรับเชนแล้วเขาพร้อมที่จะเริ่มแนบกายเข้าหานพอย่างไม่ลดละ เพราะกำลังตื่นตัวเต็มที่หัวใจหนุ่มน้อยเต้นระรัวจนเริ่มกังวลว่ามันจะเป็นอย่างไร ในขณะที่เชนเริ่มตัวร่างนพเข้าหาให้ถนัดใกล้ชิด จัดแจงให้อยู่ถูกที่ถูกทางมองหนุ่มน้อยตรงหน้า ใจหนึ่งเชนอยากจะหยุด เพราะมันเกินหน้าที่ครูติวหนังสือ แต่อีกใจบอกให้ทำต่อไป เพราะมันเป็นความต้องการลึกของเชน และนพเองก็ต้องการเช่นกัน...“คือ...ผม...” นพรู้สึกกังวลจนเขาเริ่มรู้สึกกลัว“มันจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ...” เชนลดตัวลงต่ำในขณะที่ส่วนปลายร้อนระอุก้อนเนื้อแข็ง จ่อเข้ากับประตูสวรรค์ที่ไม่เคยเปิดให้ใครผ่านมาก่อน ยามนี้เชนค่อยๆ เริ่มออกแรงดันเบาๆ ให้นพได้ผ่อนคลาย เพื่อเขาจะไม่เกร็งจนเจ็บเกินไป“ครู...เชน... ครับ... คือว่า... มัน...” นพรู้สึกถึงอะไรบางอย่างเริ่มปริปากแย้มเปิดส่วนล่างของเขา ทวารของเขาค่อยถูกดันให้เผยอเปิดออก จนนพรู้สึกอยากหยุดมัน ก้อนเนื้ออวบร้อนใหญ่ ค่อยๆทะลุแทงอัดร่างของนพจนเ
เชนพานพมาถึงบ้านของเขา แม้จะเป็นทาวโฮมเล็กๆ แต่นพก็เดินตามเข้ามาในบ้านเขาอย่างว่าง่าย หนุ่มน้อยเห็นว่ามีของบางอย่างเป็นของผู้หญิง ของใช้ไม่กี่ชิ้นที่เห็นน้อยมาก ราวกับว่าเคยเกิดขึ้นและก็หายไปจากชีวิตของเชน แววตาหนุ่มน้อยมองเชนจากเบื้องหลัง เมื่อครูหนุ่มพาหนุ่มน้อยมาเที่ยวบ้านเขาก่อนจะไปส่งบ้านของนพ“ครูเชนเคยมีแฟนหรอครับ? ผมเห็นของใช้บางชิ้นเป็นสีชมพู” นพสายตาดีสังเกตเก่ง เชนจึงไม่ได้ตอบอะไรนอกจากพามาถึงห้องรับแขก เพื่อจะได้เลี้ยงน้ำชาเขาก่อนพาไปส่งบ้าน“เลิกกันไปนานพอสมควรจนไม่อยากจำ” แม้ว่าเชนจะตอบแลไม่ใยดี ในความทรงจำเขายังเหลือแฟนเก่าในหัวเขายามที่เคยรู้สึกดีต่อกัน เขาแค่อยากมีที่ว่างให้ใครสักคนมาแทนที่ เพื่อลืมแฟนเก่าคนนั้น เธอแต่งงานใหม่มีลูกกับแฟนใหม่ไปแล้ว เชนยังเคยไปงานแต่งเธอด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากตบมือยินดีกับเธอ...“ขอโทษนะครับ เผื่อว่าถ้าหากว่าผมช่วยได้...” นพเว้นคำพูดไว้ ทำให้เชนต้องแลมาทางนพ และรอยยิ้มอันอบอุ่น กับดวงตาที่จ้องมองมายังนพ มันแทบจะไม่ละสายตาไปต่อหน้าเขา...“นายอยากรู้ต่อนี่ ว่าในหนังสือที่ชอบเขาทำอะไรต่อ...” เชนเปลี่ยนความรู้สึกของครูหนุ่ม กลายเป็นแ
หนุ่มน้อยยิ้มแย้มร่าเริงเมื่อได้พบครูเชนอีกครั้ง วันนี้เขาไม่พูดถึงหนังสือแฟนตาซีเลย แต่ตั้งอกตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ จนเชนเห็นว่านพมีแววความสามารถเรื่องเรียน อีกทั้งสามารถวิเคราะห์โจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม เชนลองให้ทำข้อสอบปีที่แล้ว และตัวอย่างข้อสอบปีนี้ ผลปรากฏว่าคะแนนสอบออกมาเกือบเต็ม“ฝีมือดีมิใช่น้อยเลยนะนพ” เชนค่อนข้างตะลึงกับความเก่งของนพ จนต้องขยับแว่นตาบนหน้าเพื่อโฟกัสคำตอบที่ได้ตรวจทานไป หลังจากนั้นนพเห็นว่าเขาสามารถทำข้อสอบได้ดีแล้ว เขาเริ่มยิ้มแย้มสดใส ราวกับต้องการรางวัลบ้าง“ครูเชนครับ วันนี้ผมอยากหัดขับมอร์เตอร์ไซค์หลังติวเสร็จครับ ครูเชนไม่ได้รับกลับไปไหนใช่มั๊ยครับ?” นพถามน้ำเสียงใส หวังว่าเขาจะไม่โดนปฏิเสธ ครูหนุ่มอมยิ้มจนเกือบขำลั่นออกมา เพราะเขายังไม่มีแพลนจะสอน แต่มีความตั้งใจจะพาไปกินขนม นั่งรถเล่นหลังเลิกเรียน“สอบเข้ามหาลัยได้แล้ว ผมจะสอนให้นะ แต่วันนี้ผมจะพาไปนั่งรถเล่น กินขนมที่ร้านคาเฟ่ก็แล้วกันนะ ผมเลี้ยง...” เชนกล่าวน้ำเสียงสุภาพราบเรียบอย่างเป็นมิตร มันทำให้นพรู้สึกดีที่รู้สึกว่ามันเป็นรางวัลที่น่าสนใจมาก“สอนให้ผมจริงๆ นะครับ” หนุ่มน้อยมีอารามดีใจจนแทบจะโผก
เชนเริ่มสับสนแล้วนี่เขาทำอะไรลงไป เมื่อได้อยู่กับนพในสวนหลังบ้าน ขณะที่เชนยังติววิชาให้นพอ่านข้อสอบและทบทวนเนื้อหา กลับเป็นเชนที่แอบลอบมองนพอยู่หลายครั้ง หลังจากเผลอกอดจูบนพอย่างลืมตัว ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดหรือท้าทาย เขารู้สึกดีมากเมื่อกอดนพเช่นนั้น เชนพยายามลืมเรื่องเมื่อตอนบ่าย และตั้งใจว่าจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก“ครูเชนไม่ชอบผมรึครับ?” นพแค่รู้สึกดีกับเขามากๆ เมื่อเขาได้มอบรอยจูบที่อบอุ่นนี้มาให้ หลังจากที่นพโดดเดี่ยวและเหงามานาน มีแค่หนังสือกับจินตนาการที่ยังอยู่ปลอบประโลมเขาให้มีชีวิตและความรู้สึกเหล่านี้ต่อไป“ผมกำลังติววิชาให้อยู่นะครับนพ อย่าเพิ่งถามอะไรผมตอนนี้นอกเรื่อง” เชนพยายามไม่ให้นพลากออกนอกเรื่อง เพราะเขามองนาฬิกาอยากให้ระฆังช่วยชีวิตเขาที เพราะเขาเองก็มีระดับความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนต้องอดทนที่จะไม่แตะต้องนพอีกครั้งในรอบถัดไป“เอ่อ... ถ้าเรียนเสร็จแล้วว ผมขอถามอีกครั้งได้มั๊ยครับ?” นพรู้สึกหน้าแดงเขินอายมาก เขามีความต้องการ และอยากสานต่อเรื่องนี้เมื่อตอนบ่าย เขารู้สึกดีมากๆเมื่อครูเชนกอดและมอบรอยจูบที่อบอุ่น เขารู้สึกชอบและอยากทำมันอีกเชนไม่ได้ตอบนอกจากขยับแว่น
พักเที่ยงเหมือนเดิมยามสาวใช้เข็นอาหารมาให้ช่วงเที่ยง วันนี้นพทานอาหารเสร็จเร็ว แต่กลับหยิบขนมของว่างเอาไว้ในมือ พลางชักชวนครูเชนให้ออกไปรับแดดที่สวนหลังบ้านด้วยกัน มันเป็นส่วนที่เขาได้พักผ่อนก่อนจะต้องเรียนหนักยามบ่าย“บ้านนายสวยมากเลยนะ นพ” เชนเดินตามออกมา พร้อมน้ำดื่มในมือที่ถือเอาไว้ เขารู้สึกได้ว่า นพเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ร่าเริง แล้วก็นิสัยดีเวลาเรียนกับเขาด้วย“ผมแค่อยากถามว่า ถ้าเราจะทำอย่างในหนังสือ ผมอยากรู้ว่ามันรู้สึกยังไง?” นพถามในฉากเดียวที่ตัวละครเพศเดียวกันเขาได้ทำร่วมกัน ทำให้สีหน้าของเชนถึงกับตกตะลึงที่โดนถาม เพราะเขาอ่านส่วนนี้แล้ว บอกเลยว่าเขารู้สึกแฮปปี้มากๆ และมากกว่าตอนอยู่กับแฟนของตัวเองเรือนหน้าของครูเชนเริ่มร้อนและเขินแดง เรียวปากเริ่มสั่น ยามมองริมฝีปากหวานๆ เนียนสวยตรงหน้าที่ได้ร้องขอให้เชนสาธิตให้เขาหน่อย“มันคงไม่ดีหรอกนะ นพ ครูมาติวหนังสือนะ เราไม่ได้มาเน้นเนื้อหาในนิยายที่เราได้แลกเปลี่ยนกันบ่อยครั้ง” เชนเริ่มเสียงสั่นเพราะในใจลึกๆ เขารู้สึกกับนพ แต่จะให้ทำแบบนั้นตามคำร้องของหนุ่มน้อย เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะต้องรู้สึกกับนพต่อไปอย่างไร“ดีสิครับ ผมอุต
ความคิดเห็น