เขาลุ่มหลงเธอที่งามเปรียบเสมือนดอกไม้ แรกๆเขาดูแลเธอดั่งเทพธิดา สุดท้ายกลับยํ่ายีหัวใจดวงน้อยจนไม่มีชิ้นดี…
ดูเพิ่มเติมฟุ่ว~
หน้าร้านดอกไม้แห่งหนึ่ง ซึ่งสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความเงียบสงบชวนหลงไหล ในซอยหนึ่งของใจกลางเมือง ชายร่างสูงสมส่วนรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาดั่งคนฝั่งยุโรป ยืนมือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งสูบบุหรี่พรางกวาดสายตามองรอบๆ ควันบุหรี่กระจัดกระจายไปทั่วบนอากาศ เขาอยู่ในท่านั้นสักระยะหนึ่งได้ ก่อนเสียงเรียกจะดังขึ้นมาจากหญิงสาวหน้าตาสลวยงดงามที่ก้าวออกมาจากในร้านดอกไม้ “คุณคะ คุณไม่สามารถสูบบุหรี่ที่นี่ได้ค่ะ " สิ้นสุดประโยค เสียงฝีเท้าเล็กที่ก้าวเข้ามาก็ได้หยุดลงเบื้องหน้าเขา เซบาสเตียน ชายลูกครึ่งยุโรปอ้าปากกำลังจะสวนกลับด้วยความหงุดหงิด ทว่าเมื่อหันมองหญิงตรงหน้า เขาถึงกับปากค้าง คำพูดที่กำลังจะเอ่ยเลือนหายไปในพริบตา เมื่อความสง่างามของหญิงตรงหน้านั้นเกินกว่าจะเรียกว่าคน เธอมันนางฟ้านางสวรรค์ชัดๆ "ขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ทันได้อ่านป้าย " ถ้อยเสียงแสนอ่อนโยนเปล่งออกมาทันที พรางยิ้มหวานให้กับเธอตรงหน้าที่ยืนมองเขาตาแป๋ว เซบาสเตียนไม่รอช้า รีบขว้างบุหรี่ในมือทิ้งไป ความหงุดหงิดที่ผุดขึ้นมาในใจเมื่อครู่ผลัดหายไปในพริบตา “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนเราย่อมผิดพลาดกันได้” หญิงสาวกล่าวตอบนํ้าเสียงนุ่มนวลช่างน่าหลงไหล ทำเอาชายตรงหน้าใจละลายจนไม่เป็นชิ้น ไม่เพียงแต่หน้าตาที่สระสวย จิตใจเองก็ดียิ่งกว่าเทพธิดา จะว่าเป็นรักแรกพบยังได้ เซบาสเตียนมองตาค้างไม่ตอบโต้ เมื่อความงามของเธอนั้นมันทำให้หัวใจเขาสั่นไหว จนหญิงตรงหน้าต้องเอ่ยตอบเองเป็นครั้งสอง " เอ่อ..งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ " สิ้นสุดคำพูด คนสวยก็รีบหันหลังก้าวเข้าร้านไป เมื่อเห็นเธอเดินออกไป สติที่ลอยไปแต่ไกลก็กลับเข้ามาในหัว เซบาสเตียนรีบเดินตามหลังหญิงสาวเข้าไปในร้านโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง พอถึงด้านใน เขายังคงตามหลังเธอไม่หยุด จนคนโดนตามต้องหันมาถาม " หื้อ คุณเดินตามฉันทำไมคะ มีอะไรรึเปล่า " " อ..อ๋อ คือว่าผม..มาซื้อดอกไม้ครับ " คนถูกถามรีบตีเนียนมองรอบๆ แสร้งทำเป็นมองหาดอกไม้ที่ชอบรอบๆร้าน “แบบนี้นี่เอง งั้นคุณเชิญเลือกตามสบายเลยนะคะ” “คุณเป็นเจ้าของร้านหรอครับ” “ใช่ค่ะ นี่ร้านฉันเอง” ได้ยินเช่นนั้น คนฟังยิ่งลุ่มหลงเข้าไปใหญ่ ดั่งกับว่าเขาได้พบกับแม่ของลูก และมันจะต้องเป็นเช่นนั้น.. “คุณเลือกเลยนะคะ” เมื่อเห็นว่าเขานิ่งไปอีกครา หญิงสาวตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังตั้งท่าจะก้าวออกไป “เดี๋ยวก่อนครับ” เซบาสเตียนรีบเรียกตามหลัง ไม่อยากให้โอกาสหลุดมือไป เขาจะต้องรั้งเธอไว้.. คนสวยหันกลับมาตามเสียงเรียก มองใบหน้าหล่อพรางคิ้วขมวดเล็กน้อย “คือว่า…คุณช่วยเลือกให้หน่อยได้มั้ยครับ ผมไม่ค่อยถนัดกับการเลือกดอกไม้สักเท่าไหร่” เซบาสเตียนรีบหาข้ออ้าง “ได้สิคะ ว่าแต่คุณจะเอาไปให้แฟนหรือเปล่าคะ ฉันจะได้เลือกถูก” “ผมไม่มีแฟนหรอกครับ จะเอาไปถวายพระน่ะครับ” เซบาสเตียนรีบกล่าวปฏิเสธ เป็นกังวลว่าอีกคนจะเข้าใจผิด หน้าตาผ่องใสเพียงนี้คงเป็นหญิงจิตใจงดงาม หากบอกไปว่าเอาดอกไม้ไปทำทานคงจะได้ใจเธอมาไม่น้อย แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อได้ยินดังนั้น คนสวยได้เผยยิ้มหวานออกมาทันที “งั้นดีเลยค่ะ เดี๋ยววิเลือกให้นะคะ” รอยยิ้มเธอจะสดใสไปถึงไหนกัน เขาพึ่งจะรู้ถึงความหมายของคำว่ายิ้มทีโลกละลาย มันคือหญิงตรงหน้าชัดๆ ดั่งกับเธอมีมนต์วิเศษที่สามารถทำเขาหวั่นไหวหัวใจเต้นแรงได้ เพียงเธอขยับใบหน้ายิ้มเล็กน้อย “คุณชื่อวิหรอครับ " เขาได้ยินไม่ผิดถึงคำแทนตัวเองของเธอเมื่อครู่ โอกาสมาถึงก็ต้องรีบทำความรู้จัก "ใช่ค่ะ ฉันชื่อวิเวียน " คนสวยยิ้มไปพรางตั้งใจเลือกดอกไม้ คนอะไรอยู่ท่าไหนก็สวยไปเสียหมด เขาลุ่มหลงเธอได้ถึงเพียงนี้เลยหรอ พึ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เพียงแค่รู้ชื่อก็ชื่นไปถึงอกด้านใน คนอะไรสวยยันชื่อ เธอคนนี้ต้องเป็นแม่ของลูกเขาเท่านั้น “ขอบคุณนะครับ ผมชอบดอกไม้ที่คุณเลือกให้มาก” หลังจากนั้นไม่นาน วิเวียนได้เลือกดอกไม้หลายชนิดที่เหมาะสมจะเอาไปทำทานให้กับเซบาสเตียน เขายืนขอบคุณเธออยู่นานพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ “ยินดีค่ะ” คนสวยยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร เซบาสเตียนหันมองด้านนอกก็เห็นชายร่างสูงขายาวที่ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องตนผู้ยืนรออยู่นอกร้านผ่านกระจกใส ก่อนจะหันกลับมาเอ่ยลานางฟ้าของเขา “ผมคงต้องขอตัวก่อน ไว้ผมจะมาหาบ่อยๆ นะครับ” “คะ..?” วิเวียนถึงกับคิ้วขมวดกับคำวาจาของเขา เมื่อฟังดูแปลกหูสำหรับคนที่พึ่งรู้จักกันไม่เกินชั่วโมง..อีกคนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบแก้คำพูด “อ้อ ผมหมายถึง..ไว้ผมจะมาให้คุณเลือกดอกไม้ให้บ่อยๆนะครับ พอดีผมชอบมากเลย " “ได้เสมอค่ะ” “งั้นผมไปนะครับ” สิ้นสุดการกล่าวลา เซบาสเตียนเดินอารมณ์ดียิ้มหน้าบานออกมาจากร้านพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ “บอส!!” คนอารมณ์ร่าเริ่งเงยมองตามเสียงเรียกจากตอนแรกที่เอาแต่ก้มมองดอกไม้ในมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายลูกน้องแววตางุนงงจับจ้องอยู่บนหน้าเขา “นั่น…บอสไม่ชอบดอกไม้ไม่ใช่หรอครับ” รอย ลูกน้องคนสนิทเซบาสเตียน มองหน้าผู้เป็นเจ้านายสลับกับช่อดอกไม้ ตั้งแต่อยู่รับใช้เขามา เซบาสเตียนไม่เคยแม้แต่จะหยิบจับดอกไม้ ทว่าวันนี้กลับตรงกันข้าม “ต่อไปนี้ฉันชอบ” “ครับ?” รอยยืนทำหน้างง อะไรที่ทำให้เจ้านายตนเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา เพียงแค่ไม่เจอกันไม่ถึงชั่วโมง แต่คนที่ตนเคยรู้จักเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้เชียวเหรอกรี๊ดดดดด!! “ที่รัก..ฮึกก อดทนอีกนิดนะครับทูลหัว” “เบ่งอีกนิดเดียวนะคะคุณแม่” “ฮึกกก อร๊ายยย!” ภายในห้องคลอดที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงกรี๊ดร้องของคนบนเตียง ผู้เป็นสามีเองมองดูภรรยาแล้วเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน หากเป็นไปได้เขาอยากจะเป็นคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยซํ้า มือหนาคอยเช็ดเหงื่อจับมือและคอยลูบหัวทุยให้กำลังใจเธออยู่ไกล้ๆไม่ยอมห่าง เพียงเห็นความทรมานของเธอเขาไม่คิดอยากจะมีลูกอีกเลยด้วยซํ้า กรี๊ดดดด! อุแว้ อุแว้! เสียงกรี๊ดเฮือกสุดท้ายดังขึ้นก่อนจะดับลงและมีเสียงเด็กน้อยดังก้องขึ้นเรียกรอยยิ้มของคนทั้งห้องรวมถึงคนที่คอยรอลุ้นอยู่หน้าห้องก็ตาม “เก่งมากเลยที่รัก… เก่งมากครับ…“ มือหนายังคงคอยลูบหัวทุยเบาๆไม่หยุด ก้มหน้าจุ๊บเหม่งเธอเบาๆก่อนผู้เป็นแม่จะหมดสติไปทั้งรอยยิ้มและคราบนํ้าตาที่เปียกชุ่มสองพวงแก้ม . . . . . ”หลานรักของปู่~” “เจ้าจิ๋วของลุงงง” “เจ้าจิ๋วของหนูต่างหาก!” เสียงเกรี้ยวกราดถกเถียงกันดังแว่วเข้ามาในหูคนที่หลับไหลอยู่บนเตียง ก่อนเปลือกตาที่หนักอื้อจะค่อยๆลืมขึ้นมองภาพตรงหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งป๊า ซาร่าและโอท
“ที่รักตื่นพอดีเลย มาครับ ผมพาไปล้างหน้า” เซบาสเตียนเมื่อเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวประโยคพาคนเพิ่งตื่นมึนงงอยู่บนเตียง ”วิทำเองได้ค่ะ ก็แค่ล้างหน้าเอง ทำไมต้องพาไป“ “ไม่ได้สิครับ เกิดที่รักลื่นแล้วคงตัวไม่อยู่ทำยังไง ให้ผมเฝ้าดีกว่า” ไม่พูดเปล่า เขารีบเดินแจ้นเข้ามาสอดมือเข้าไต้ขาเธอก่อนจะอุ้มพาเข้าห้องนํ้า จนคนที่ยังมึนๆจากการตื่นปฏิเสธไม่ทัน “เสร็จแล้วไปกินข้าวนะครับ ผมทำกับข้าวไว้เยอะเลย ผมไปเสริจกูเกิ้ลมาแล้วเค้าบอกว่าแต่ละอย่างดีต่อคนท้องมากๆ พอกินข้าวเสร็จแล้วเราไปฝากครรภ์กันนะครับ” วิเวียนที่ยืนแปรงฟันได้แต่ตั้งหูฟังเขาที่ยืนรออยู่ด้านหลังไปด้วย เขายืนรอเธออยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเสร็จธุระแล้วลงมากินข้าว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอ่อนๆสารพัดที่เตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ จนวิเวียนต้องเงยหน้าถาม “แล้วคุณไม่กินหรอคะ” “ผมยังไม่หิวหรอก ที่รักกินให้อิ่มๆนะครับ เดี๋ยวผมกินต่อจากที่รักก็ได้” วิเวียนเงียบ ก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก เพราะขืนมองหน้าแพรวพราวเขาต่อคงได้กลับไปเขินเหมือนตอนจีบกันแรกๆเป็นแน่ “ที่รักค่อยๆกินนะครับ เคี้ยวให้ละเอียดๆ“ เขาเหมือนพ่อที่คอยดูแลลูกสาวห้าขว
“ทำไมยังไม่กลับ…” คนรอก็ลุกรอนั่งรอยืนรอเดินรอวนอยู่แบบนั้นทั้งวันจนฟ้าเริ่มมืดก็ยิ่งใจคอไม่ดีเมื่อภรรยายังไม่ยอมกลับมาสักที หากจะไปตามก็กลัวเธอจะโกรธยิ่งกว่าเก่า แกร๊ก… เสียงประตูเปิดเหมือนหัวใจที่กระวนกระวายเมื่อครู่เลือนหายทันทีที่เห็นหน้าวิเวียน เซบาสเตียนรีบอมยิ้มแป้นเดินแจ้นเข้าไปรับคนที่เดินเข้ามา “ที่รัก“ ”เอ่อ… ที่รักเหนื่อยมั้ยครับ มานั่งก่อน“ รอยยิ้มดีใจกลายเป็นยิ้มเจื่อนทันทีเมื่อเห็นสายตานิ่งเรียบที่มองมาไม่เปลี่ยนสักที ”เดี๋ยวผมไปเอานํ้ามาให้นะ ที่รักนั่งรอก่อนนะครับ“ พูดแล้วรีบเดินแจ้นเข้าไปเอานํ้าในครัวดั่งว่ารีบร้อนกลัวเมียคอแห้งยังไงอย่างนั้น ส่วนวิเวียนนั้นได้แต่มองตามเงียบๆ เธอหนักใจอยู่ใช่เล่นกับสิ่งที่ตัดสินใจกำลังจะทำ ไม่ใช่เพื่อแก้แค้นหรือยังโกรธ แต่เพียงเพราะอยากจะมั่นใจเท่านั้น… “นํ้าครับ” แก้วนํ้าใสถูกยื่นให้กับคนบนโซฟา หญิงสาวรับมันมาอย่างว่าง่ายทว่าแทนที่เธอจะดื่มสักหน่อย กลับวางมันลงบนโต๊ะ คนมองก็เกิดน้อยใจก้มหน้างุดพร้อมรอยยิ้มที่หายไป “ฉันยังไม่หิวน่ะ” แต่พอได้ยินเสียงหวานของเธอเท่านั้นแหละ รีบเงยหน้ากลับมามองภรรยาตัวน้อยพร้อ
(สำหรับเมนูอาหารนี้นะคะ เราจะมาเริ่มจากการต้มนํ้าให้เดือดก่อน…) เสียงคริปทำอาหารในยูทูปดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์มือถือของเซบาสเตียนที่ยืนตั้งหน้าตั้งตาทำตามอยู่ในครัว เป็นเวลาสามวันที่เขาหาข้ออ้างสารพัดมาต่อรองกับภรรยาเพื่ออยู่กับเธอต่อเพื่อดำเนินภารกิจง้อเมีย แล้วเช้านี้ชายหนุ่มก็วุ่นอยู่ในครัวคนเดียว ไม่รู้ว่านิ้วโดนมีดไปกี่ครั้ง เลือดซึมกี่ที่ เขาตั้งใจทำตามคลิปที่สอนจนเวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง “ที่รักต้องชอบแน่ๆ” รอยยิ้มอิ่มใจปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อ เขายืนชื่นชมชามข้าวต้มฝีมือตัวเองที่ทำออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตสีหน้าภูมิใจ หากเธอเห็นต้องชอบแน่ๆ เพราะวิเวียนชอบกินข้าวต้มหมูสับมาก ”เอ๊ะ.. แต่ว่าเหมือนลืมบางอย่าง“ เซบาสเตียนขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ลืมอะไรไม่ลืม แต่เขาลืมทำข้าวต้มเผื่อตัวเอง!! “แต่ช่างเถอะ ที่รักอิ่มก็พอ” ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจชามข้าวต้มตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอิ่มใจ ก่อนจะยกไปวางบนโต๊ะ เป็นเวลาที่วิเวียนเดินออกมาจากห้องนอนพอดี “ที่รัก ผมทำข้ามต้มที่คุณชอบไว้ให้ กำลังร้อนๆเลย” เสียงทุ้มรีบเอ่ยเรียกภรรยาด้วยความตื่นเต้นอย่างลืมตัว ลืมไปว่
“ที่รัก…ฮึกก.. ผม——“ ”ไม่ต้องพูดแล้ว ฮึกก.. ไปโรงพยาบาล“ คนตัวเล็กโน้มตัวลงพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นทั้งนํ้าตา เสียงสะอื้นเบาๆสองคนประสานกันราวกับบทเพลงแห่งความเจ็บปวดที่ไม่มีใครได้ยิน “มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันล่ะโยม“ ส่วนหลวงตาที่ยืนมองอยู่เงียบๆก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์บ้างแล้วจึงกล่าวตักเตือนไปในทางที่ดีแล้วก้าวจากไป “ฮึกก..ที่รักหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย” แววตาเขาที่มองเธอเต็มไปด้วยความหวัง เสียงที่ถามก็สั่นเครือเฝ้ารอคำตอบจากเธอ “บอกว่าอย่าเพิ่งพูดไง” “ครับ.. ฮึกก ผมจะฟังที่รัก” หญิงสาวเม้มปากแน่น เวลานี้เขาเหมือนเด็กที่กลัวแม่จะจากไปจึงยอมเชื่อฟังทุกคำพูด ภายในอกเกิดรู้สึกผิดที่แอบตำหนิเขาไปนิดๆ . . . . . “รบกวนคนไข้นอนลงก่อนนะครับ หมอต้องทำการฆ่าเชื้อให้ก่อน ดูแล้วน่าจะติดเชื้อแรงเลยล่ะครับ มีทั้งหินทั้งทรายเต็มไปหมด” เซบาสเตียนยอมนอนราบลงกับเตียงคนไข้ พื้นที่ที่เขาไม่ชอบที่สุด เงยหน้ามองวิเวียนที่ยืนดูอยู่ข้างเตียงตาแป๋วจนอีกคนต้องหลุบตาหนี “ที่รัก…” แต่แล้วเขาก็ยื่นมือไปจับชายเชื้อเธอเบาๆด้วยเสียงเรียกที่แผ่วเบาดั่งว่าเด็กน้อยที่กำลังอยากร้องขออะไรสักอ
“ไปเลยค่ะ” เสียงสั่นสะท้านเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่ สองมือกำกันแน่นหวังให้หัวใจที่เริ่มอ่อนระทวยไม่พังทะลายลงง่ายๆ วิเวียนหลับตาลงเพื่อปิดกั้นตัวเองจากภาพในกระจกที่สะท้อนถึงเงาของเขาที่กำลังวิ่งตามรถเธอด้วยเท้าเปล่า “อย่าทิ้งผม.. ฮึกก” เขาตะโกนตามหลังเธอซํ้าๆจนแรงเสียงแทบเลือนหายกลับเข้าไปในหลอดคอ เซบาสเตียนวิ่งตามหลังออกมาด้วยเท้าเปล่าไม่สนเศษหินเศษทรายที่ทะลุผิวเนื้อ เลือดไหลซึมออกมาเป็นทางยาว ทว่าเขายังวิ่ง… วิ่งด้วยหัวใจที่ปวดร้าวยิ่งกว่าเท้าที่กำลังฉีกขาด “ฮึกก… ที่รักอย่าไป ฮึกกก“ เซบาสเตียนแทบจะทรุดอยู่กลางทาง แต่หัวใจกลับสู้ไม่ยอมลดละความพยายาม เขาจะมานั่งร้องไห้อยู่กลางถนนแบบนี้ไม่ได้ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีทั้งใจแล้วลุกขึ้นโบกแท็กซี่รีบตามหลังเธอไปอย่างไม่ยอมถอย รถแท็กซี่คันสีฟ้าที่นำหน้าอีกคนเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าบ้านวิเวียนก่อนจะมีอีกคนที่ตามหลังเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น วิเวียนรีบเดินเข้าบ้านในขณะที่มีเขาตามหลังมาด้วยเสียงเรียกเบาแผ่วสิ้นเรี่ยวแรง ”ที่รัก… ได้โปรดฮึกกก“ เท้าที่เจ็บแสบจนเดินได้ไม่ถนัด แต่เขาก็ยังดึงดันเดินตามเธอมาจนถึงเส้นทา
ความคิดเห็น