"คอยดูนะ กูจะทำให้สายรุกหน้าหวาน กลายมาเป็นรับให้ดู" คำพูดสุดแสนท้าทายดังออกมาจากปาก ของเจ้าของคาสิโนหนุ่ม โดยที่เขาไม่รู้เลยคำพูดสุดแสนจะมั่นใจนั้น จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล "เวรเอ้ย!!"
더 보기เรือสำราญหรู
หลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดทั้งปี การได้ออกมาท่องเที่ยวบนเรือสำราญสุดหรู มันก็ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจอีกรูปแบบหนึ่ง แถมยังทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เจอผู้คนใหม่ ๆ และยังได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ของธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว
เรือสำราญสุดหรูถูกตกแต่งไปด้วยหินอ่อน ที่ดูโดดเด่นและสวยงาม พร้อมประดับแชนเดอเลียร์ที่ทำจากคริสตัลนับร้อยเพื่อให้แสงสว่าง ยิ่งทำให้บรรยากาศบนเรือดูงดงาม และโรแมนติกมากขึ้นในยามค่ำคืน
“โอ้โห! บาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นสเปกมึงเลยนี่หว่า ไอ้ริค”
“ไหนวะ…โห! ขาวสูง หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิงเลยว่ะ”
เสียงพูดคุยของหนุ่ม ๆ ดังขึ้น เมื่อไซออนนักธุรกิจชื่อดังสังเกตเห็นว่า เอริคเพื่อนของตัวเองกำลังนั่งจ้องไปทางบาร์ ที่มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มกำลังยืนชงเครื่องดื่มอยู่ได้ซะพัก มังกรที่เป็นเพื่อนอีกคนได้ยินไซออนพูดออกมาแบบนั้น ก็รีบหันมองตามทันที หึหึ นี่มันสเปกเพื่อนของเขาเลยนะเนี่ย ดูถ้าการมาล่องเรือเที่ยวรอบนี้ จะไม่ได้มาเสียเปล่าแล้วสินะ
…เอริค ไซออน มังกรได้นัดกันออกมาล่องเรือสำราญเที่ยว เพื่อเป็นการพักผ่อนและเปลี่ยนบรรยากาศ หลังจากที่ทุกคนต่างทำงานกันมาหนักทั้งปี…
เอริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ เจ้าของคาสิโนยักษ์ใหญ่ของประเทศ หนุ่มโสดที่มีใบหน้าหล่อคมตามสไตล์ลูกครึ่ง ทำให้หนุ่มสาวที่ได้เห็นอดหลงใหลในใบหน้านี้ไม่ได้ เลยชอบพยายามเข้ามาตีสนิทกับเขาอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยรสนิยมของเอริคเป็นพวกชอบผู้ชายด้วยกัน เลยทำให้สาว ๆ ที่เข้ามาพวกนั้นถูกไล่ตะเพิดออกไปอย่างไม่มีเยื่อใยแทน
เอริคครองตัวเป็นโสดมาตลอด เพราะเขาชอบชีวิตแบบอิสระไม่ชอบผูกมัด และเป็นพวกไม่มีความเชื่อในเรื่องความรักสักเท่าไหร่ ส่วนมากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับเขา จะเป็นแบบวันไนท์หรือแบบคู่นอนชั่วคราวเท่านั้น เขามีความมั่นใจในตัวเองสูง คิดว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาความรักอะไรพวกนั้น
แล้วดูเหมือนว่าคืนนี้เอริคก็จะได้ว่าที่คู่นอนคนใหม่ดั่งหวังซะด้วย เมื่อเขารู้สึกสะดุดตาบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ยืนชงเหล้าอยู่ตั้งแต่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าขาว ๆ ราวกับใบหน้าผู้หญิง แถมยังมีริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ที่ฉีกยิ้มหวานส่งให้ผู้คนรอบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการขยันตัวที่ดูพลิ้วไหว ราวกับว่าเขากำลังร่ายรำอยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์นั้น มันยิ่งทำให้ผู้คนที่เห็นแทบไม่สามารถละสายตาจากเขาไปได้เลย เอริคนั่งจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มแบบไม่รู้ตัว…
เอริคเหลือบตามองไปทางเพื่อน ๆ ของตัวเองแวบหนึ่ง เมื่อได้ยินทั้งสองพูดชมบาร์เทนเดอร์ที่ตัวเองกำลังนั่งมองอยู่ ก่อนจะเอ่ยเรียกหาลูกน้องของตัวเองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาหา
“ไอ้แซม”
“ครับนาย” แซมลูกน้องคนสนิท รีบเดินเข้ามาหาเจ้านายตัวเองตามเสียงเรียก
“มึงไปติดต่อบาร์เทนเดอร์คนนั้นให้กูหน่อยสิ”
เสียงทุ่มเข้มพูดสั่งลูกน้องตัวเองออกไป โดยทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของเพื่อนทั้งสอง ที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองมาทางตัวเอง เอริคไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกสนใจที่มีต่อบาร์เทนเดอร์หนุ่มกับเพื่อน ๆ และคืนนี้เขาก็จะต้องได้ครอบครองเด็กหนุ่มคนนั้นตามที่ใจทต้องการด้วย
“ได้ครับนาย” แซมพยักหน้ารับคำสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนจะถอยหลังเดินไปทางบาร์เครื่องดื่ม
นิสัยของเอริคถ้ารู้สึกชอบหรือสนใจใคร ก็จะให้ลูกน้องของตัวเองเข้าไปติดต่อ แล้วทำข้อตกลงกับผู้ชายคนนั้นให้ โดยที่เขาไม่เคยต้องไปคุยพูดเอง เจอกันอีกทีก็คือบนเตียงเลยเท่านั้น
เอริคนั่งมองดูแซมที่กำลังยืนคุยอยู่กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างไม่ละสายตา ถึงเขาจะรู้คำตอบของค่ำคืนนี้แล้วก็เถอะ เพราะเขาคิดว่าคงไม่มีใครหน้าไหน โง่ปฏิเสธการมาเป็นคู่นอนของเขาอย่างแน่นอน
********************
“ว่าไง”
“เออ…”
เอริคถามแซมขึ้นเมื่อเห็นลูกน้องของตัวเองเดินยิ้มแห้ง ๆ กลับมาที่โต๊ะ แล้วเอาแต่ยืนอ้ำอึ้งไม่พูดไม่จาอะไรออกมาสักที
“อ้ำอึ้งอยู่ได้ น้องเขาตอบกลับมาว่ายังไงก็พูดมาสิวะ” ไซออนที่นั่งลุ้นรอฟังคำตอบของแซมอยู่ ก็พูดขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว
“น้องเขาปฏิเสธครับ บอกว่าถึงจะชอบผู้ชายเหมือนกันก็จริง แต่เขาเป็นสายรุกไม่ใช่สายรับครับ”
แซมเหลือบตามองเอริคแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบก้มหน้าหลบสายตาที่กำลังมองมาทางตัวเอง จากนั้นก็ค่อย ๆ เอ่ยพูดตอบทุกคนออกไปอย่างไม่เต็มเสียง เพราะกลัวว่าพอเจ้านายตัวเองได้ยินแล้วจะหัวเสียขึ้นมา
“สายรุก!” สามหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
“หน้าหวานเหมือนผู้หญิงขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นสายรุก”
“นั้นสิ น่าเสียดายหน้าตาฉิบหายเลยว่ะ”
ทุกคนที่นั่งอยู่พูดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาหวานราวกับผู้หญิงคนนั้น จะเป็นฝ่ายรุกเหมือนกับพวกเขา บ้าไปแล้ว หน้าตาแบบนั้นเนี่ยนะ เป็นฝ่ายรุก! พวกเขาเชื่อไม่ลงจริง ๆ
“ครับ แต่…” แซมพยักหน้าตอบกลับทุกคน ก่อนคิดจะพูดอะไรออกมาอีกครั้ง แต่ก็หยุดไปเพราะไม่กล้าพูดต่อ
“แต่อะไร”
เอริคเห็นแซมเหมือนมีอะไรจะพูดต่อ ก็เลยถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเขาคิดว่าบาร์เทนเดอร์คนนั้นจะต้องพูดอะไรฝากมาอีกแน่ ๆ
“น้องเขาบอกว่า...ถ้าเจ้านายอยากลองเปลี่ยนแนวมาเป็นรับ เขาก็พร้อมเสมอครับ” แซมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาอีกครั้ง
แกร็บ!!
“เปลี่ยนแนวอย่างงั้นเหรอ”
เอริควางแก้วเหล้าในมือลงกับโต๊ะเสียงดังลั่น พร้อมชักสีหน้าไม่พอใจใส่แซมทันทีที่ฟังจบ ไอ้บ้านั้นคิดจะให้เขาเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรับแทนอย่างงั้นเหรอ มันเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับเขา
แซมที่รับรู้ถึงรังสีอำมหิตรอบ ๆ ตัวของเอริค ก็รีบก้มหน้าแล้วขยับถอยห่างทันที เพราะอย่างนี้ไงเขาถึงไม่อยากพูดมันออกมา แซมอยู่รับใช้เอริคมานาน เขารู้ดีว่าเจ้านายตัวเองคนนี้นิสัยเป็นยังไง สงสัยคราวนี้บาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้น จะเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว
ดวงตาคู่คมที่อาบเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว จ้องมองไปทางเทนเดอร์หนุ่ม ที่กำลังยืนยิ้มให้ลูกค้าอยู่อย่างเคียดแค้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าพูดหรือปฏิเสธเขาแบบนี้มาก่อน ไอ้บาร์เทนเดอร์บ้านั้นมันรู้จักเขาน้อยไปซะแล้ว
“เอาไงต่อ…จะถอยหรือเปล่าวะ”
มังกรที่นั่งดูท่าทีของเอริคอยู่ ก็พูดถามขึ้นอย่างลองเชิง เพราะเขาอยากรู้ว่าเพื่อนตัวเองคิดจะทำยังไง จะหยุดเพียงเท่านี้หรือว่าจะเดินหน้า หาวิธีจัดการพ่อหนุ่มสายรุกหน้าหวานต่อไป
“คนอย่างเอริค สะกดคำว่าถอยไม่เป็นโว้ย!”
เอริคหันมาตอบเพื่อน ๆ กลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนอย่างเอริคเจ้าของคาสิโนยักษ์ใหญ่ ที่มีลูกน้องให้ความเคารพนับถือเป็นพัน ไม่มีทางมายอมถอยเพราะเรื่องแค่นี้อย่างแน่นอน คอยดูนะ เขาจะทำให้สายรุกหน้าหวานคนนั้น กลายมาเป็นสายรับให้ดู!!
ร้านอาหารจีนร้านอาหารจีนชื่อดังกลางใจเมือง ที่ถูกตกแต่งเต็มไปด้วยสีแดงอย่างหรูหราสะดุดตา เป็นเสมือนศูนย์รวมผู้คนที่มีเชื้อสายจีน หรือบางคนที่รู้สึกเบื่ออาหารรสชาติจัดจ้าน ก็หันมานั่งกินเปลี่ยนรสชาติและบรรยากาศกัน โต๊ะอาหารมุมหนึ่งของร้านมีหนุ่มจีนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งอยู่เพียงลำพัง บนโต๊ะมีแก้วน้ำเปล่าวางอยู่ข้าง ๆ นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมาดูหลายครั้งติดต่อกัน ใบหน้าขาวซีดหันมองทางเข้าร้านเป็นระยะราวกับว่าเขากำลังนั่งรอใครบางคนอยู่และแล้วใบหน้าขาวซีดของหนุ่มจีนก็ค่อย ๆ ฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นคนที่ตัวเองรอคอยมานาน กำลังก้าวเดินเข้ามาในร้าน แต่รอยยิ้มก็อยู่บนใบหน้าของหนุ่มจีนได้เพียงครู่เดียว ก็ต้องละลายหายไปในที่สุด เมื่อสายตาของเขามองเห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังนั่งรออยู่นั้น ไม่ได้เดินมาเพียงคนเดียวอย่างที่เขาคิดไว้“อ้าวเฟยมาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” ชุนหนุ่มจีนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันไปเอ่ยทักทายอดีตบอดี้การ์ดหนุ่ม ของตัวเองออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ครับ” เสียงนุ่มทุ้มตอบ
ท้องทะเลสีคราม หาดทรายสีขาวสะอาดตา สายลมทะเลพัดเอื่อย ๆ พาเอาความสดชื่นเข้ามาปะทะใบหน้า บวกกับเสียงคลื่นกระทบเข้าฝั่ง ที่ไพเราะราวกับบทเพลงกล่อมให้ชวนหลับ ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หลังจากจบศึกระลึกความหลังที่ยาวนานติดต่อกันเกือบสามวัน ในที่สุดเฟยก็ยอมปล่อยให้เอริค ได้พักผ่อนแบบจริงจังตามที่หวังเอริคนั่งจ้องมองวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา เบื้องหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มและหลงใหล นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขามัวแต่หมกมุ่นทำแต่งาน จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้ เอริคนั่งคิดย้อนอดีตถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเอง ถ้าคืนนั้นเขาไม่ได้เจอกับเฟย เวลานี้ชีวิตของเขาจะเป็นยังไง มันจะดีขึ้นหรือจะแย่ลงกันนะเอริคที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดอยู่นั้น ก็ต้องถูกเสียงสั่นของโทรศัพท์เครื่องหรูตัวเอง ปลุกให้ตื่นกลับมาสู่โลกแห่งความจริง เอริคหันมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้าง ๆ แล้วขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าชื่อที่ขึ้นโชว์อยู่นั้นเป็นเบอร์ของเซ็นลูกน้องของตัวเองครืน ครืน ครืน!!“อืม มีอะไร&rd
รีสอร์ตติดทะเลสุดหรูรีสอร์ตสุดหรูที่เป็นห้องพักติดทะเล มีดีไซน์สวยงามทุกมุมเหมาะสมกับคู่รักที่พากันมาสวีท เพื่อเพิ่มความหวานให้แก่กันเป็นอย่างมาก ส่วนด้านหลังก็สามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน สุดแสนโรแมนติกได้แบบใกล้ชิดหาดทรายสีขาวท้องทะเลสีคราม กับท้องฟ้าสีสดใสไร้เมฆ มองไปสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่เห็นแล้วชวนให้ผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุขและจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูกแต่!!สองหนุ่มในห้องนอนรีสอร์ตสุดหรูห้องหนึ่ง ตอนนี้กับอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบสุด ๆ“คุณเอริคจะอยู่ท่านั่นอีกนานไหมครับ”“หนวกหู ขอทำใจหน่อยไม่ได้หรือไง”เสียงพูดของสองหนุ่มโต้เถียงกันดังอยู่บนที่นอน คนหนึ่งนั่งหลังพิงหัวเตียง ส่วนอีกคนก็กำลังนั่งคร่อมอยู่บนตัก ร่างกายของทั้งคู่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าสวมใส่หลังจากที่พูดเคลียร์เรื่องของเรนจบลงในคืนนั้น เอริคกลัวว่าเด็กหนุ่มยังจะมาวุ่นวายกับคนของตัวเองไม่เลิกอีก เขาเลยลากเฟยหนีออกมาเที่ยวไกลกันสองคน และถือโอกาสมาเปลี่ยนบรรยากาศ มานั่งรับลมทะเล ดื่มด่ำกับธรรมชาติ
“ฮัลโหล”(เฮียเฟย)“เรน!”พอโทรศัพท์เครื่องหรูถูกกดรับ เสียงที่คุ้นเคยจากปลายสาย ก็ร้องเรียกชื่อเจ้าของโทรศัพท์ดังลอดออกมาเฟยที่ได้ยินน้ำเสียงหวานหยดย้อยนั้นเรียกชื่อตัวเอง ก็รู้ได้ทันทีว่าใครกำลังอยู่ในสาย เลยพูดชื่อของอีกฝ่ายออกไปด้วยความตกใจ เพราะเขาไม่คิดว่าคนในสายจะมีเบอร์ติดต่อของตัวเองด้วยตั้งแต่ที่เฟยเลิกเป็นบอดี้การ์ด เขาก็ได้ตัดสินใจทิ้งอดีตไว้ด้านหลัง รวมถึงได้เปลี่ยนเบอร์ติดต่อทุกอย่างด้วย เพื่อที่จะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เบอร์โทรที่เฟยใช้อยู่ตอนนี้เลยมีแต่เพื่อนสนิท กับเพื่อนที่เป็นบาร์เทนเดอร์ด้วยกันเท่านั้นที่รู้ พอเฟยได้ยินเสียงของเรนในสายเลยตกใจมาก เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะรู้เบอร์ของตัวเองได้(เรนไม่สบาย เฮียมาหาเรนหน่อยได้ไหม เรนลุกไม่ไหว) เสียงแหบแห้งราวกับคนไร้เรี่ยวแรง ดังลอดออกมาจากปลายสายอีกครั้งเรนที่ยังไม่ยอมตัดใจเรื่องของเฟยง่าย ๆ เลยโทรมาเพื่อเรียกร้องความสงสารจากอีกฝ่าย เพราะเขารู้จักนิสัยของอดีตแฟนหนุ่มดี ว่าเป็นคนขี้สงสารและเอ็นดูตัวเองมาก ถ้าเฟยรู้ว่าเขานอนโทรมไม่สบายอยู่บนเตียงค
“โอ๊ย! มันเจ็บนะ”เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กถูกเหวี่ยงติดผนังอย่างแรง จนล้มพับไปกองอยู่กับพื้น เรนชักสีหน้าไม่พอใจใส่เอริคที่ยืนกอดอกมองตัวเองอยู่อย่างไม่เกร็งกลัว“แค่นี้มันยังน้อยไป ถ้ามึงยังไม่เลิกมาตอแยเมียกูอีก มึงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่” เอริคยืนกอดอกดูผลงานตัวเองอย่างชอบใจ ก่อนจะพูดขู่ออกไปอีกครั้ง ทำแค่นี้ทำมาเป็นร้องโวยวายสำออยจริง ๆ“อย่ามาโกหกซะให้ยากเลย ผมไม่เชื่อหลอกว่าเฮียเฟยเป็นเมียของคุณจริง ๆ” เรนยันตัวเองลุกขึ้นยืนประจันหน้า แล้วพูดเถียงกลับอย่างไม่ยอมเรนรู้จักนิสัยของเฟยดีว่าเป็นคนยังไง ในอดีตเพราะหน้าตาสวยราวกับผู้หญิง เลยทำให้มีผู้ชายมากมายมาสนใจในตัวของเฟย แต่ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเอาเงินหรือของมาให้มากเท่าไหร่ เฟยก็ไม่เคยสนใจและมีความคิดเปลี่ยนมาเป็นรับ เพื่อสนองอารมณ์ของผู้ชายพวกนั้นเลยสักครั้ง แล้วตอนนี้จะมาบอกว่าเฟยเป็นเมีย ใครมันจะเชื่อลง“แล้วทำไมกูจะต้องโกหกมึงด้วย” เอริคชักสีหน้าใส่คนเถียง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะเชื่อคำพูดของตัวเองเลยสักนิด“คนอย่างเฮียเฟย ให้ตายก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนใจมาเป็นรับหลอก” เรนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขารู้จ
ตุบ!เสียงกำปั้นทุบลงโต๊ะทำงานด้วยความโกรธเกรี้ยว จนคนที่ยืนพูดรายงานอยู่ สะดุ้งตกใจรีบก้าวถอยหนีคนโมโหอย่างงง ๆ แซมไม่เข้าใจว่าเอริคโกรธตัวเองเรื่องอะไร เขาแค่มารายงานตามปกติเองนี่นา“ไอ้เด็กบ้า เดี๋ยวมึงได้เจอดีแน่” เอริคสถบด่าออกอย่างไม่พอใจ กล้ามาหาผู้ชายของเขาถึงที่นี่เลยเหรอ“เออ…” แซมยืนนิ่งค้างทำตัวไม่ถูก เมื่ออยู่ ๆ เจ้านายตัวเองก็แสดงท่าทีฉุนเฉียวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ“แล้วเฟยล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน” เอริคถามขึ้นเสียงแข็ง เมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุของเรื่องขึ้นมาได้“อ๋อ พึ่งเดินลงไปหาเด็กคนนั้นเมื่อกี้เองครับ” แซมตอบกลับไปตรง ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างไม่ได้คิดอะไร“ใครบอกมัน”เอริคถามต่ออย่างสงสัย เพราะตามปกติแล้วเฟยจะอยู่แต่ชั้นบน ไม่ห้องพักก็จะมาช่วยงานเขาที่ห้องนี้เท่านั้น เฟยไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคนมาหา ถ้าไม่มีใครขึ้นมาบอก“ผมบอกเองครับ”แซมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แล้วพูดบอกเอริคออกไปตรง ๆ พร้อมปั้นหน้ายิ้มแป้นรอรับคำชมจากอีกฝ่าย เมื่อคิดว่าตัวเองพึ่งทำเรื่องดี ๆ ไปแต่…สิ่งที่ได้มากับไม่ใช่คำชมเชย แต่กลับเป็นแฟ้มเอกสารเล่มหนา ปามาทางเขาแทน“ไอ้แซม มึงนี่มัน” เอริคตะคอกว่าลูกน้อ
댓글