"ของที่เป็นของฉัน ใครหน้าไหนกล้าแตะ...มันตาย! เธอเองก็เหมือนกัน ถ้าระริกระรี้ลับหลังฉัน ระวังจะได้ตายคาเตียง!"
View More'...สารเลว ชู้ มึงเป็นชู้กับเมียกู!' เสียงตะโกนของซานย์ดังก้องไปทั่วโสตประสาท หมัดร้อนๆ ของนายแพทย์ซานย์กระแทกลงมาที่ใบหน้าหล่อเหลาครั้งแล้วครั้งเล่า
ร่างสูงโปร่งล้มลงเมื่อต้านทานหมัดที่กระแทกลงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่มาเฟียหนุ่มรู้อยู่แก่ใจว่ากับเพื่อนคนนี้ เขาเต็มใจที่จะยอมมันเอง "กูไม่ได้เป็นชู้!" ออสตินตะโกนลั่น พร้อมกับร่างกายที่ดันลุกนั่งบนเตียง ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบลงมาบนโกรกหน้า เม็ดเหงื่อที่ผุดพราย บ่งบอกว่าฝันร้ายยังคงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา เขายังคงฝันถึงเรื่องเฮงซวยนี่ ทั้งที่คนอย่างออสติน ไม่มีวันยุ่งกับผู้หญิงของใคร ก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงจากหน้าประตูส่งผลให้มาเฟียหนุ่มสะบัดศีรษะเพื่อขับไล่เรื่องไร้สาระในหัว มือหนายกขึ้นสางเส้นผมของตัวเองลวกๆ ก่อนที่จะตะโกนออกไป "เข้ามา" "มีนัดกับลูกค้าตอนหกโมงเย็นครับนาย" อาชา มือขวาคนสนิทของมาเฟียหนุ่มรายงานในสิ่งที่ต้องทำสำหรับวันนี้ ออนตินดันตัวลุกจากเตียงกว้าง ตามด้วยการเดินไปคว้าผ้าขนหนูขึ้นมาพาดบนบ่าแกร่ง ใบหน้าที่ไม่เต็มอิ่มส่งผลให้อาชาเอ่ยถามด้วยความห่วงใย "ยังฝันร้ายอยู่อีกเหรอครับ" "อืม" "ผมว่านายควรทำบุญสักหน่อยนะครับเผื่อว่าฝันร้ายมันจะกลาย..." "ไร้สาระ มึงว่างนักก็ไปทำแทนกู" อาชาก้มหน้าลงทันที ชักอยากรู้แล้วสิว่าฝันร้ายที่มีมาตลอดหลายเดือน ต้องทำยังไงมันถึงจะหายไป อีกด้าน 'อะ! อ๊ะ! อ๊ะ! อาร์ต...อ๊าส์' "เฮงซวยสิ้นดี!" ริมฝีปากเอิบอิ่มพ่นวาจาร้ายกาจตามด้วยการดับหน้าจอโทรศัพท์ลงทันที มีประโยชน์อะไรกับการนั่งมองภาพบัดสีแล้วร้องไห้ แค่ผู้ชายไม่รู้จักพอที่สมสู่ไม่เลือกที่ เฮงซวยแบบนี้ก็ถึงเวลาที่คนอย่างฮันนี่จะเอาความโสดของตัวเองกลับคืนมา "ครั้งนี้เอาไงดีอ่ะฮันนี่" โมจิถามเพื่อนอย่างห่วงใย เธอไม่กล้าถามอะไรมากเพราะไม่รู้ว่าระดับความเสียใจของเพื่อนมันอยู่ที่ระดับไหน เธอไม่อยากเห็นฮันนี่ร้องไห้ ไม่อยากเห็นฮันนี่ฟูมฟาย และ... "คนอย่างฮันนี่ไม่มีวันเสียน้ำตาให้ผู้ชายเฮงซวย" "มันต้องแบบนี้สิ ฉันรักแกที่สุดเลยฮันนี่" "กลัวว่าฉันจะร้องไห้เพราะความผิดหวังล่ะสิ ไม่มีทาง" "สรุปแกจะเลิกกับพี่อาร์ต?" "อืม งานเย็นนี้ฉันตกลงรับนะ ดูแลพวกมาเฟียกระเป๋าหนักใช่ปะ ดีเลย กำลังอยากได้ตังค์มาใช้หนี้แฟนเก่าเฮงซวยอยู่พอดี ทีนี้มันจะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที" MICHAEL CLUB "คนสวย มาแล้วเหรอ" ไมเคิลกดยิ้มที่มุมปาก ขณะกวาดสายตามองรุ่นน้องสาวที่ตกปากรับคำว่าจะมาทำงานที่คลับของเขาเพื่อหาเงินไปใช้หนี้แฟนเก่า "มองแบบนี้มันเสียมารยาทนะคะพี่ไมค์ ฮันนี่ไม่ใช่ผู้หญิงของพี่นะ" ไมเคิลหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ผู้หญิงอย่างฮันนี่แปลกที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ความสวยแบบนี้เข้าวงการและดันตัวเองไปเป็นอันดับต้นๆ ของวงการก็ยังไหว หาเสี่ยเลี้ยงที่หล่อและรวยมากสักคนก็ยังได้ นับถือความซื่อสัตย์ที่เธอมี แต่ดันเสียหลักที่เธอดันมีให้กับผู้ชายหน้าโง่ที่ไม่รู้จักพอ "สนใจมาเป็นผู้หญิงของพี่ไหมล่ะ สัญญาเลยนะว่าพี่จะดูแลฮันนี่เป็นอย่างดี" "ถ้าผู้หญิงของพี่มาดักตบฮันนี่ ตบมาตบกลับไม่โกงนะ อย่าเข้าข้างผู้หญิงของตัวเองแล้วไล่น้องออกจากผับล่ะ" ไมเคิลหัวเราะอย่างชอบใจ ความตรงไปตรงมาเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิงที่ชื่อฮันนี่ สวย ฉลาด เสน่ห์แพรวพราว ดีแล้วที่เธอหลุดพ้นจากผู้ชายหน้าโง่ ที่มีของดีอยู่ในมือแล้วแต่ไม่รู้จักพอ "สรุป แขกของพี่มาถึงรึยังคะ" "อ่า...นั่นไงมาพอดี เดี๋ยวพี่ส่งสัญญาณให้ตามเข้าไป" ไมเคิลตบเบาๆ ที่ไหล่บาง ก่อนจะปลีกตัวเข้าไปหาแขกคนสำคัญที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องคนสนิท ฮันนี่มองตามอัตโนมัติ คำว่ามาพอดีหมายความว่าเขาคนนี้ต้องเป็นคนที่เธอต้องเข้าไปดูแล ยอมรับว่าแอบสะดุดตากับโครงหน้าที่โคตรจะลงตัว ชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทสีดำสนิท เบื้องหลังมีคนคอยติดตาม เสน่ห์ของเขาดึงดูดจนยากเกินกว่าจะดึงสายตากลับไป และโชคร้าย ที่ผู้ชายคนนั้นดันตวัดสายตามาประสานสบตากับเธอ เขาชะงักไปทันที ฮันนี่ที่ชีวิตนี้ พบเจอผู้ชายมาหลากหลายรูปแบบ มีคนพยายามเข้าหาจนนับครั้งไม่ถ้วน เธอไหวตัวทันก่อน ใบหน้าสะสวยเบือนหนี ขนตางอนยาวที่โอบล้อมหน่วยตาคู่สวยตวัดมองไปทางอื่น เลยไม่มีโอกาสได้เห็นว่ามุมปากหนาของมาเฟียหนุ่มผุดรอยยิ้มจางๆ "...คุณอาเธอร์ยังมาไม่ถึงเลยครับ ผมคงต้องส่งน้องๆ ให้มาดูแลคุณออสตินระหว่างที่คอยนะครับ" ไมเคิลเสนอหนทางดีๆ ให้กับแขกคนสำคัญ เชื่อว่าวันนี้คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น วันนี้เขามีตัวช่วยดีๆ อย่างฮันนี่มาเป็นกำลัง ผู้ชายกับของสวยๆ งามๆ เป็นของคู่กัน สดใสขนาดนั้น ผู้ชายคนไหนไม่ชอบถือว่าแปลกมากทีเดียว "คนเดียวกันรึเปล่า" อาชาจ้องเหยื่อเขม็ง รู้ดีว่าต่อให้จะใช่หรือไม่ใช่คนเดียวกัน แต่การถูกเมินแบบซึ่งๆ หน้า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหน เจ้านายของเขาจะต้องรู้ อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเขารู้ดี "เดี๋ยวเช็กให้ครับ" ออสตินกดปลายลิ้นที่มุมปาก ผู้หญิงของซานย์ ผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุของทุกอย่าง ยินดีต้อนรับการกลับมาของเธอ ดีอย่างยิ่งที่จะได้สะสางทุกอย่างสักที VIP_5 "ขออนุญาตค่ะ" สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องที่ทิศทางของเสียงอย่างพร้อมเพียง "มานี่สิฮันนี่ เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักแขกพิเศษของคลับเรา" ศีรษะเล็กขยับเบาๆ ก่อนที่หญิงสาวจะเดินนวยนาดเข้ามาหาผู้ที่เป็นเจ้านาย "คุณอาเธอร์ ส่วนนั่นคุณออสติน สองท่านนี้คือคนที่เธอจะต้องดูแล" คนที่ในชีวิตนี้ปากกัดตีนถีบมาตลอดยกมือไหว้แขกทั้งสองของไมเคิล ปั้นหน้าแสยะยิ้มให้กับคน แสร้งพูดหวานๆ ดูแลเทคแคร์พวกคนมีตังค์ มันไม่ใช่เรื่องที่ยากเท่าไหร่นัก จบงาน รับตังค์ กลับบ้านนอน สบายสำหรับเธออยู่แล้ว "สวัสดีค่ะคุณอาเธอร์ สวัสดีค่ะคุณ...ออสติน" ใจดวงน้อยกระตุกวูบในยามที่ได้สบตากับเจ้าของใบหน้าคมคายในระยะประชิด กลิ่นบนลำตัวของเขามันช่างหอมสะอาดสะอ้าน ถึงว่าทำไมวันนี้คนอื่นๆ ถึงได้ทำท่าทางเหมือนอิจฉาเธอนักหนา ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง "ตามสบายนะครับ ผมขอส่งสาวสวยที่ฮอตที่สุดในนี้มาดูแลแขกคนพิเศษของผมทั้งสองท่านก็แล้วกัน" "วันนี้ทำได้ดีเชียวแหละคุณไมค์" อาเธอร์มองฮันนี่อย่างถูกใจ ไมเคิลยิ้มรับก่อนจะเดินปลีกตัวออกมา "ขออนุญาตบริการเครื่องดื่มนะคะ" ฮันนี่หยัดตัวลุกไปที่โซนเครื่องดื่ม แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่ทำมันไม่ได้ยาก แต่เอาจริงๆ แล้วการเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ภายในห้องวีไอพีที่ถูกโอบล้อมด้วยผู้มีอิทธิพลถึงสองคนซ้ำยังมีลูกน้องของเขาอยู่ด้วยอีก ยอมรับว่าหญิงสาวเองก็รู้สึกประหม่าอยู่เช่นกัน "ผมดีใจนะครับที่คุณออสตินมาตามนัด เรื่องการส่งของที่เราคุยกันค้างไว้ ข้อเสนอเป็นที่ถูกใจไหมครับ" "ยาที่จะลักลอบส่งเข้ามาจำนวนมันไม่น้อยเลย เรื่องผลประโยชน์ผมไม่ติดขัดอะไร แต่รู้สึกว่าคุณจะยังไม่ไว้ใจผมมากพอ ไม่สมกับที่เราจะลงเรือลำเดียวกันเลยนะครับ" ฮันนี่ชะงักมือที่กำลังคีบน้ำแข็ง ไม่คิดว่าคนที่ไมเคิลส่งเธอให้เข้ามาดูแลเขาจะทำผิดกฎหมายบ้านเมือง "เราไว้ใจผู้หญิงคนนี้ได้เหรอครับ?" เอเธอร์มองฮันนี่ แม้จะถูกใจในความสวยแต่เรื่องของการใหญ่ที่คิดจะทำ เขาไม่ควรเอาความพึงพอใจเล็กๆ มาเกี่ยวข้องกับงาน "ให้ผมจัดการไหมครับ" มือขวาคนสนิทของเอเธอร์ถามขึ้น เป็นจังหวะที่ฮันนี่ขยับตัวถอยห่าง เรื่องอะไรเธอจะยอมโดนหางเลขกับเพียงเรื่องที่เธอบังเอิญได้ยิน "ไม่ต้อง ผมจะจัดการเอง" ออสตินหยัดตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ในยามที่มองสบตากันอีกครั้งฮันนี่เลือกที่จะถอยห่างอย่างรวดเร็ว หากเทียบกับเรื่องราวที่เป็นสาเหตุของฝันร้ายที่มีมาตลอดหลายเดือน กับเรื่องที่เขากำลังเจรจาในครั้งนี้ เรื่องของวันนี้มันกลายเป็นเรื่องที่เล็กน้อยไปเลยทีเดียว มาเฟียหนุ่มเดินตามหญิงสาวที่กำลังเดินหนีเขาแบบซึ่งๆ หน้า อาชาทำได้ดีทีเดียว ที่วิ่งไปอีกทางเพื่อไปดักอยู่ที่ทิศทางด้านหน้า ในยามที่ฮันนี่กำลังจะถอยหลังเพราะถูกขวาง แผ่นหลังบางก็ประชิดเข้ากับอกแกร่งพอดี ปึก! หมับ! "อื้ออ! ปล่อยฉันนะ" "ซานย์! ชื่อนี้ หวังว่าเธอจะคุ้นหูคุ้นตา" "ใคร? ฉันไม่รู้จัก" "เธอเคยเป็นเมียมัน" "คนอย่างฉันไม่เคยเป็นเมียใคร!" "พูดน่ะมันง่าย ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์อย่างลึกซึ้ง ถึงจะรู้ว่าใครจริงใครปลอม!" "หมายความว่าไง ปล่อยฉันนะ ฉันแค่มาทำงานของฉัน ไม่ได้คิดที่จะยุ่งเรื่องของใครทั้งนั้น ไม่เชื่อไปถามพี่ไมค์ดูก็ได้" "เสียเวลา ฉันชอบเชื่อสายตาของตัวเองมากกว่า" "ว่าไงนะ แล้วมันยุติธรรมกับฉันไหมล่ะ ฉันไม่รู้จักเจ้าของชื่อที่คุณพูดถึง ปล่อยฉัน" "ฮันนี่!" เสียงของอาร์ตดังขึ้นจากทางด้านหลัง นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาและโปรไฟล์ไม่ธรรมดาสาวเท้ามาที่เบื้องหน้า ดวงตาคมกริบจ้องมือออสตินที่จับมือผู้หญิงของเขาไม่วางตา "ปล่อยเมียกูนะเว้ย" อาร์ตถือวิสาสะประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งที่เขาไม่มีสิทธิ์ "อ้อ ไม่ได้เป็นเมียไอ้ซานย์ แต่มันเมียมัน?" "ฉันไม่ใช่เมียใครทั้งนั้น!" ----- คลอดตอนแรกก็เกิดศึกชิงนาง ฝากเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ ^^~"กลับไปซะ ไว้ถ้ามีเวลาฉันจะเป็นคนเรียกหาเธอเอง!" ปึก~ ธนบัตรแบงก์สีเทาปึกใหญ่ถูกฟาดลงบนโต๊ะอย่างแรงหลังจากที่ถ้อยคำแสนร้ายกาจนั้นหลุดออกมาหยาดน้ำใสๆ หล่อเลี้ยงอยู่บนหน่วยตากลมสวยอัตโนมัติ มือบางบีบกำเข้าหากันแน่น โกรธมากกว่าการถูกดูถูกแบบซึ่งๆ หน้า คือการโกรธตัวเองที่ดันไปหวั่นไหวแค่คำพูดห่วยๆ ของผู้ชายที่รวยและเอาแต่ใจ ทำไมเธอถึงเจ็บแบบนี้ ใจเจ้ากรรมมันไม่รักดี"มองทำไม รับเงินแล้วไสหัวไปซะ!" "...""อย่ามาทำตัวมารยาด้วยการไม่รับเงินล่ะ เพราะมันไม่ใช่วิสัยที่ผู้หญิงหิวเงินแบบเธอควรทำ" [ ฮันนี่ ฟังแม่นะลูก การผูกพันและการรู้สึกับใครสักคนมากเกินไปมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่หรอก ] 'แม่คะ คิดว่าหนูรักออสตินมากกว่าตัวหนูเองงั้นเหรอคะ?'[ ใครจะไปรู้ล่ะคะลูกสาว รู้แค่ว่าแม่มีหนูคนเดียว ชีวิตของพวกเราที่มันเคยพังยับเยินมาแล้วมันทำให้แม่รู้สึกกลัวมาก ถ้าไม่มีหนูแม่อยู่ไม่ได้ การที่แม่ต้องทนเห็นลูกเจ็บและเสียใจแม่ก็คงทนไม่ได้เหมือนกัน ฮันนี่จำไว้เลยนะลูก ] บนสนทนาระหว่างเธอและมารดาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาประเดประดังเขามาในหูอีกครั้งความรักและความหวังดีเพียงหนึ่งเดียวมีแค่จากแม่นะฮันนี่
"คืนนี้คุณจะให้ฉันนอนที่นี่เหรอ" ฮันนี่ตั้งคำถามในตอนที่วางสายจากมารดาแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งสีหน้าของออสตินเครียดลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อนข้างแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดมากไปเอง"อืม" เสียงขานรับดังขึ้นเบาๆ มาเฟียหนุ่มจรดแก้วเครื่องดื่มที่ริมฝีปาก ตามด้วยการกระดกน้ำที่อยู่ในแก้วผ่านลำคอไม่มีคำพูดใดต่อจากนั้น ฮันนี่เลยคิดเอาเองว่าเธอไม่ควรถามว่าเขาเครียดเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า เชื่อว่าหากเขาอยากพูด เขาก็คงจะพูดออกมาเอง"...เพื่อนสนิทของเธอที่อยู่คณะเดียวกัน มีหลายคนรึเปล่า" "เพื่อนฉันเหรอ ถามทำไมอ่ะ?""ฉันมีสิทธิ์รู้ไม่ใช่เหรอว่าเธอที่เป็นผู้หญิงของฉันมีเพื่อนเยอะแค่ไหน บอกตรงๆ ว่าเหตุการณ์ในวันนี้ฉันไม่โอเคเท่าไหร่หรอกนะ""ฉันก็บอกไปแล้วนี่คะว่าโบ้เป็นเพื่อนเก่า แล้วเขาก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง" "สรุป ใครบ้างที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ" ออสตินถามจริงจัง ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในหน่วยตาสวยคล้ายกำลังกดดันให้ตอบ "เพื่อนที่มอ. มีไม่กี่คนหรอก ที่สนิทจริงๆ ชื่อโมจิ คุณก็เคยเห็นแล้วนี่" "นอกเหนือจากนั้นมีรึเปล่า" "คุณหมายถึงใคร ถ้าคุณมีคนที่เจาะจงอยู่แล้วคุณถามออกมาตรงๆ เลยก็ได้นะ" เ
"เรื่องนี้ผมจัดการเองได้" [ ลุงไม่อยากยุ่งนะออสติน แต่เรื่องนี้มันทำให้แม่ของเธอไม่สบายใจ ลุงปล่อยผ่านไม่ได้เหมือนกัน ] ออสตินกระแทกลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายคนของซานย์ทำงานได้ดีทีเดียว หมอนั่นรู้แม้ตอนที่เขาและอาเธอร์นัดเจอกัน จริงๆ การที่ซาเฟียร์ซึ่งเป็นน้องสาวของซานย์นัดเจอเขา มันก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นรับรู้ทุกอย่าง แต่เขาคาดไม่ถึงว่าจะโดนเอาคืนโดนทั้งที่เขาไม่ได้ช่วยเหลืออาเธอร์ด้วยซ้ำไป[ ถึงยังไงซะซาเฟียร์และซานย์ก็เป็นลูกของลุง ต่อให้ลุงกับพวกเขาจะไม่ลงรอยกัน นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลุงจะทิ้งลูกได้ลง หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ลุงผิดหวังนะออสติน ] เฮเลน สามีใหม่ของแม่เป็นคนมีเหตุผลเสมอ เชื่อว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน[ กลับอังกฤษซะ เร็วที่สุดได้ยิ่งดี ] อาชาลอบมองผู้เป็นเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง สีหน้าที่ไม่สบอารมณ์บอกถึงสถานการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีเพนต์เฮาส์ของออสตินฮันนี่วางกระเป๋าสะพายข้างลงบนโต๊ะกระจกภายในห้องพักหรู ภายในห้องถูกปกคลุมได้ด้วยไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ถูกสั่งงานไว้แล้วในระหว่างการเดินทางฮันนี่เดินเข้าไปในห้องน้ำ หากคืนนี้เขาจะไม่ปล
MICHAEL CLUB "พักนี้คออ่อนนะเรา" โบ้เอ่ยกับเพื่อนสาวเมื่อเห็นว่าฮันนี่คอเริ่มพับ นั่งไม่ค่อยจะนิ่งสภาพเป็นแบบนี้ก็เห็นว่าถูกแล้วแหละ เพราะตั้งแต่เข้ามา ฮันนี่ก็กระดกไม่ขาดปาก แตกต่างจากชายหนุ่มอีกคนที่สภาพยังคงเป๊ะปัง เหล้าไม่สามารถทำปฏิกิริยาต่อเขาได้เลย"นี่ๆ ดื่มเยอะไปปะ" "กินๆ ไปเถอะน่า มื้อนี้มีคนจ่าย ใช่ไหมคะดาร์ลิ่ง" ฮันนี่บิดยิ้มขณะวางใบหน้าซบลงบนท่อนแขนแกร่งมาเฟียหนุ่มเพียงแต่ปรายตามอง ไม่ตอบโต้สิ่งใดกลับมาเป็นคำตอบได้ว่าเรื่องค่าใช้จ่ายวันนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"นายครับ" อาชาโผล่เข้ามาจากทางด้านหลัง แว๊บนึงที่เหลือบตามองผู้หญิงของนาย จากนั้นก็กระซิบกระซาบลงไปฮันนี่ไม่ได้ยินว่าอาชากระซิบอะไรลงไป ได้ยินเพียงคำตอบจากริมฝีปากหยักได้รูปที่เอื้อนเอ่ยออกมา"ช่างหัวมัน เงินแค่ไม่กี่บาท กูไม่แคร์!" อาชาพยักหน้าลงเบาๆ จากนั้นก็หมุนตัวกลับออกไปตามเดิม"บ้านคุณคงรวยมากเลยสินะ" ฮันนี่หรี่ตามองไปทั่วโครงหน้าหล่อเหลาให้ตายเถอะ เขาหาที่ติไม่ได้เลยบ้าชะมัด!กลิ่นบนตัวเขานี่ก็ไม่รู้จะหอมไปไหน บางครั้งก็นึกอยากดมแบบนี้นานๆ"บ้านคุณทำธุรกิจอะไรบ้างอ่ะ" "ถามทำไม" "ฉันก็อยากรู้น่ะสิว่าคุณจะม
"...ทานเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง" ฮันนี่ดูสดใสตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากห้องทำสวยแล้ว หลังจากที่ทำธุระที่คลีนิคจนเสร็จสรรพ เธอก็เลือกที่จะชวนคนตัวโตมาหยุดอยู่ที่ร้านอาหาร"ไม่งกแล้วเหรอ" ฮันนี่ทำตาโตเมื่อถูกยอกย้อน แต่ความอารมณ์ดีที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกระตุ้นให้เธอระบายรอยยิ้มออกมา"คุณหักเลยนะ ค่าอาหารเท่าไหร่ก็หักจากเงินสองหมื่นที่วันนี้ฉันต้องได้ เหลือเท่าไหร่คุณก็เคลียร์มาก็แล้วกัน" "เหอะ!" พอได้ยินแบบนั้นออสตินเค้นเสียงหัวเราะออกมาทันทีเท่าที่เห็น ฮันนี่จะไม่ยอมให้เงินเล็ดลอดออกมาจากกระเป๋าของเธอเลยติ๊ง~ เสียงการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือส่งผลให้ฮันนี่ปลดล็อกหน้าจอตามด้วยการสอดส่องหาความเคลื่อนไหว พบเป็นการแจ้งเตือนเงินเข้า ตัวเลขกลมๆ สองหมื่นบาท เธอรู้ทันทีว่าเงินนี้มีที่มาที่ไปยังไง"ฉันให้คุณหักค่าอาหารก่อน" "เก็บเงินอันน้อยนิดของเธอเอาไว้เถอะ ข้าวที่ฉันกินฉันมีปัญญาจ่ายเอง" "รู้ค่ะว่าคุณมีปัญญาจ่ายเอง แต่ฉันก็แค่แสดงความมีน้ำใจที่คุณอุตส่าห์ไปนั่งรอฉันตั้งนานไง" "อะไรที่ฉันอยากทำฉันจะทำเอง" ฮันนี่นิ่งไปเล็กน้อย มือที่ประคองโทรศัพท์เผลอบีบเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
"...เข้าไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ" ฮันนี่เปิดประเด็นเมื่อรถหรูเลื่อนเข้ามาจอดหน้าคลีนิคซึ่งเป็นที่ที่เธอเลือกเอง"ฉันพามาแล้ว อย่าร้องขอให้มันมาก" ฮันนี่รั้งสายกระเป๋าขึ้นมาคล้องบ่า มุมปากผุดรอยยิ้มจางๆ ในยามที่เห็นนาฬิกาเรือนหรูประดับบนข้อมือ คิดอยู่แล้วว่าคนอย่างเขาจะต้องตอบแบบนี้กลับมา"ไหนๆ ก็พามาแล้ว จะเดินเข้าไปด้านในด้วยกันมันก็คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง" "ฉันจะรอที่นี่" ออสตินหันกลับมาสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ อาชาที่เป็นพลขับยังคงเงียบอยู่แบบนั้น ไม่แสดงความคิดเห็นและไม่ก้าวก่ายสิ่งใดกลับมา"คุณ...พาไปหน่อย" "คนที่จะฉีดยาคุมคือเธอ" "แต่คนที่ต้องจ่ายเงินค่าฉีดคือคุณ" "นี่เธอ มันจะกี่บาทกันวะ จะงกอะไรนักหนา" "ถ้าคุณจะให้ฉันลงไปฉีดเองคุณก็เอาเงินมาให้ฉัน แล้วที่เหลือฉันจะจัดการเอง ไม่เยอะหรอก ขอห้าพัน" ฮันนี่แบมือขอ แน่นอนว่าเธอเอาจริง"ฉันให้ห้าร้อย" "ห๊ะ! ห้าร้อยนี่นะ คนระดับอย่างคุณไม่พกหรอกแบงก์สีม่วงอ่ะ อย่างน้อยๆ ในกระเป๋าก็ต้องมีแต่แบงค์สีเทาสิ" "ห้าร้อยฉันก็มี อาชา" มาเฟียหนุ่มหันหาลูกน้องคนสนิท อาชารีบยื่นธนบัตรแบงก์ห้าร้อยให้กับผู้เป็นเจ้านายทันที"ห้าร้อย ฉันให้แค่นี้ ดีไม่
Comments