เดิมทีเซียวอี้เซียนต้องแต่งงานกับจ้าวเฉิง แต่ใครจะรู้ว่าวันแต่งงานเขากลับยกขบวนไปรับหลิวเย่วคุณหนูตระกูลหลิวแทน ทำให้เรื่องนี้เป็นที่ขบขันของทั้งเมือง เซียวอี้เซียนตัดสินใจจบชีวิตตนเองทั้งๆที่สวมชุดเจ้าสาว จนกระทั่งวิญญาณอีกดวง ได้มาสิงสถิตแทน เซียวอี้หลานป่วยด้วยมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้ายเธอต้องจากครอบครัวไปในวัยเพียง27ปี หยางเทียนหลงอมยิ้มทันที ชินอ๋องและพระชายาถึงกับมองหน้ากัน ปกติบุตรชายเย็นชายิ่งนัก ตั้งแต่ได้พบกับดรุณีน้อยตรงหน้า รอยยิ้มของเขาก็ได้เห็นง่ายขึ้น หยางเทียนหลงทักทายคนที่ยืนหน้างอตรงหน้า "เจ้ารอพี่นานหรือไม่ เซี่ยนเซี่ยนคนดีของพี่" คนตัวเล็กทักทายเขาตามมารยาท "อี้เซียนถวายพระพรหนิงอ๋องเพคะ เราเพิ่งเจอกันเมื่อวานที่ตลาดมิใช่หรือเพคะ" ("ตาแก่...แอบมาบ้านเจ๊ทุกวันแหม่ทำมาเป็นพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้ เดี๋ยวแม่ก็โบกด้วยพัดในมือเลยนี่") ("คนงาม..เจ้ามองข้าแบบนี้เสน่หาในตัวข้ามากหรือ ก็รู้ว่าข้านั้นหน้าตาหล่อเหลา แต่ไม่คิดว่าจะทำเจ้าเสียอาการเช่นนี้") คนหนึ่งกำลังคิดในใจอยากจับเขาทุ่มลงพื้นแล้วขึ้นคร่อมข่วนหน้าตายั่วยวนชวนอวัยวะเบื้องล่างนั้นให้เป็นรอย ส่วนอีกคนก็หลงคิดว่าดรุณีน้อยตรงหน้าหลงเสน่ห์อันหล่อเหลาตนเองจนตะลึง
View Moreชาวบ้านต่างซุบซิบนินทากันไปต่างๆนานา เมื่อตามไปดูก็เห็นพี่ชายของคุณหนูหลิวแบกน้องสาวที่สวมชุดเจ้าสาวมีผ้าคลุมหน้าออกมาจากจวน ส่งนางขึ้นเกี้ยว มโหรีบรรเลงขบวนรับตัวเจ้าสาวหันกลับไปยังทิศเหนือของเมืองเพื่อมุ่งสูู่ตระกูลจ้าวเพื่อทำพิธี
ทางด้านตระกูลเซียวที่ตอนนี้เซียวอี้เซียนนั่งบีบมือจนนิ้วขาวซีด นี่เลยเวลามามากแล้ว เหตุใดพี่เฉิงยังไม่มาอีก เขาเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เสี่ยวฮวาที่ตอนนี้วิ่งกระหืดกระหอบมาด้วยความเป็นห่วงคุณหนูของตน บวกกับเรื่องที่เพิ่งได้ยินทำเอานายท่านถึงกับกระอักเลือด ตอนนี้หมอประจำจวนกำลังช่วยเขาอยู่
เมื่อมาถึงเรือนแม่สื่อที่มาอยู่กับนางก็มองหน้าทันที คนแก่คนเฒ่าเองก็สงสัยว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้น เสี่ยวฮวาเดินเข้ามาหาคุณหนูของตนก่อนจะเอ่ยทั้งน้ำตา
"คุณหนูเจ้าขา เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ฮือๆๆๆ"
"เกิดเรื่องอะไรเสี่ยวฮวา หรือว่าท่านพี่เฉิงเกิดเรื่องอันใดขึ้น"
"คุณหนูเจ้าขา คุณชายเฉิงเขาๆ คือว่าเขา"
"เสี่ยวฮวาเกิดอะไรขึ้นบอกข้ามาเถอะ"
ตุบ!!เสี่ยวฮวาคุกเข่าลงตรงหน้า เซียวอี้เซียนแปลกใจที่สาวใช้ตัวน้อยของนางมีกิริยาเช่นนี้จึงเลิกผ้าคลุมหน้าออกก่อนจะเอ่ยถามเรื่องราว
"มีเรื่องอะไรกันแน่เสี่ยวฮวา เจ้าเป็นอะไรไปบอกข้าสิ อย่าทำแบบนี้ข้าทำตัวไม่ถูกนะ"
"คุณหนูเจ้าคะ คุณชายเฉิงไปยังทิศตะวันตก รับคุณหนูหลิวเป็นเจ้าสาวตอนนี้ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินอยู่ที่จวนจ้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ พวกเขาเหลือแค่ส่งตัวเข้าหอเท่านั้น"
"อะไรนะ? ไม่ ไม่ๆๆ ไม่จริง ท่านพี่เฉิงไม่มีวันทำกับข้าแบบนี้ ไม่จริงเสี่ยวฮวาเจ้าโกหก ฮือๆๆๆไม่จริง ไม่จริง"
เซียวอี้เซียนลุกขึ้นวิ่งออกไปข้างนอก แต่กลับถูกบ่าวไพร่จับเอาไว้ คนของสกุลจ้าวที่ถูกส่งมาก็เดินมาหานาง แม้คนจวนเซียวจะห้ามแต่กลับต้านไม่ได้
"คุณหนูเซียว คุณชายของเราบอกว่าเรื่องแต่งงานกับท่านเป็นไปไม่ได้ คุณขายของเรามีใจต่อคุณหนูหลิว แต่ว่าเพื่อไม่ให้ท่านเสียหน้าสินสอดไม่เอาคืน เพราะอย่างไรจวนเซียวก็ตกต่ำจำเป็นต้องใช้จ่าย อีกเรื่องหากคุณหนูยินดียอมเป็นอนุ คุณชายก็จะส่งเกี้ยวมารับท่าน"
"อนุหรือ หมายความว่าอย่างไร พวกเจ้าสกุลจ้าวคิดว่าจวนเซียวของข้ารังแกง่ายงั้นหรือ แค่กๆๆ เซียนเอ๋อร์ กลับไปเข้าห้อง ไม่แต่งก็ดีรู้เช่นเห็นชาติวันนี้ดีกว่าแต่งไปแล้วทุกข์ใจ แค่กๆๆ โอ๊ะ"
พ่อบ้านสกุลจ้าวผลักบิดาของเซียวอี้เซียนจนล้มลง ชายชรากระอักเลือดออกมา เซียวอี้เซียนรีบวิ่งไปประคองเขา อนุหรือ เขาทำอย่างนี้ได้อย่างไร เขาสัญญาว่าจะรักนางคนเดียว
"ข้าไม่เชื่อว่าพี่เฉิงจะเอ่ยเช่นนี้ ข้าไม่เชื่อ"
"คุณชายคิดไว้แล้วว่าท่านต้องเป็นเช่นนี้ นี่เป็นจดหมายจากคุณชาย เชิญคุณหนูเซียวอ่านเองเถอะ"
เซียวอี้เซียนรับจดหมายมา มือสั่นเทาก่อนจะเปิดอ่าน ลายมือของเขานางจำได้
("คุณหนูเซียว..ขออภัยที่ไม่สามารถแต่งงานกับเจ้าได้ ข้ากับเย่วเอ๋อร์มีใจตรงกัน อีกอย่างนางเป็นหน้าเป็นตาให้กับสามีเช่นข้าได้ เจ้าเองนอกจากท่าทีอ่อนแอจนน่ารำคาญก็จืดชืดจนไร้สีสัน ฝืนใจแต่งกับเจ้าชีวิตข้าคงต้องทนทุกข์ แต่หากเจ้ายอมเป็นอนุของเย่วเอ๋อร์ได้ข้าจะส่งเกี้ยวมารับ ส่วนจะเข้าหอกับเจ้าหรือไม่ต้องถามเย่วเอ๋อร์ว่านางยอมหรือเปล่า สินสอดไม่เอาคืน ตระกูลเซียวตกต่ำเพียงนี้เงินเหล่านี้เอาไว้พยุงฐานะพวกเจ้าก็แล้วกัน จ้าวเฉิง")
"ไม่จริง พี่เฉิงไม่ทำกับข้าแบบนี้ ไม่จริงจดหมายนี่โกหก ฮือๆๆ"
"เฮ้อ หมดหน้าที่ของข้าแล้วขอตัวก่อน หึ มีอะไรคู่ควรกับคุณชายของข้ากัน ไม่ประมาณตนเอาเสียเลย"
ทุกคนแยกย้านกันเข้าพักแรม เซียวอี้เซียนไปหาท่านย่าและท่านแม่ของนาง เซียวอี้เซียนกำลังแช่เท้าให้ท่านย่าของนางเอ่ยพูดคุยกันทั่วไป นางรู้ดีว่าในบรรดาคนของนางและคนของฉีฮู่ยหมิ่นอาจมีคนของอีกฝ่ายปะปนมาจึงพูดคุยเพียงเรื่องราวทั่วไป"ท่านย่าเจ้าคะ ท่านอ๋องกว้านซื้อเมล็ดพันธุ์มามากมายยิ่งนัก รอกลับไปแล้วข้าจะดูว่าดินที่รัชทายาทนำกลับมาเหมาะกับพืชชนิดใด""เซี่ยนเซี่ยนของย่า ดินก็ส่วนหนึ่งสภาพอากาศก็ส่วนหนึ่ง เรื่องนี้หลานอย่าลืมใสใจเสียด้วยเล่า""เจ้าค่ะ หนังสือที่ท่านย่าเขียนล้วนแต่มีประโยชน์ หลานอ่านจบแล้ว ทบทวนหลายรอบมากจึงเข้าใจศาสตร์การเกษตรที่ท่านเขียนเอาไว้ ท่านย่าของหลานสมกับเป็นอัจฉริยะจริงๆ"ไป๋จินหวนที่เพิ่งจะเสร็จจากการชำระกายเดินเข้ามาก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยกระเซ้าบุตรสาว"ไอ้โย่ว เซี่ยนเซี่ยนของเราเดี๋ยวนี้ประจบท่านย่าเป็นด้วยหรือ ออดอ้อนเก่งปานนี้สมบัติสกุลเซียวจะไปไหนได้อีกเล่า ล้วนแต่เป็นของเจ้าทั้งนั้น"เซียวอี้เซียนนำถังไม้ออกก่อนจะเอาเท้าของหญิงชราวางที่หน้าตักค่อยๆซับๆด้วยผ้าจนแห้งจากนั้นจึงสวมถุงเท้าให้นาง ก่อนจะหันไปทางมารดาแล้วตอบกลับ"ท่านแม่เจ้าคะ สมบ
รถม้าที่ไม่มีสัญลักษณ์ของจวนใดค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจนกระทั่งมาถึง เซียวอี้เซียนพยักหน้าให้กับสาวใช้คนใหม่สองคนที่หยางเทียนหลงมอบให้นางก่อนจะเอ่ย"ซูจิน ซูหว่านพวกเจ้าไปดูหน่อย""เพคะพระชายา/เพคะพระชายา"ทั้งสองไปที่รถม้าพูดคุยกับคนในรถพักหนึ่งก็เดินกลับมา ก่อนจะรายงาน"คุณหนูที่อยู่ในรถม้ากล่าวว่ามารดาป่วยหนัก นางอยากอาศัยขบวนของเราไปด้วยได้หรือไม่เพคะ นางจะไปขอยันต์ศักดิ์สิทธิ์ให้กับมารดาของนาง""ตรวจสอบดีแล้วหรือ ไม่ใช่คนร้ายนะ""เพคะ รถม้านางเช่ามาต้องรีบคืนภายในสามวัน""งั้นไปกันเถอะ ท่านอ๋องหม่อมฉันไปแล้วทรงเสวยอาหารตรงเวลานะเพคะ อย่าทำงานจนลืมเสวยอาหารอีก""วางใจเถอะคนดี อะไรที่เจ้าสั่งพี่ย่อมทำตาม เดินทางระวังด้วย เซี่ยนเซี่ยนพี่จะรอเจ้ากลับมานะ""เพคะ หม่อมฉันจะขอพรเผื่อพระองค์""งั้นหรือ คนดีเจ้าขอให้ตำหนักหย่งฉือของเรามีเจ้าตัวน้อยออกมาวิ่งเล่นเยอะๆก็พอ พี่อยากเป็นพ่อคนเต็มทีแล้ว"เซียวอี้เซียนหน้าแดงก่อนจะขึ้นรถม้า ซูจินกับซูหว่านคำนับเขา จากนั้นซูจินก็นั่งบนรถม้าด้านหน้าพร้อมคนขับ ส่วนซูหว่านนั่งด้านในกับเซียวอี้เซียนและเสี่ยวฮวา ฉีฮุ่ยหมิ่นออกหน้าไปก่อน
ปลายยามเซินทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว การเดินทางไปวัดครั้งนี้ครอบครัวสกุลเซียวมีไท่ฮูหยินกับฮูหยินใหญ่ไปด้วยกัน เมื่อขบวนพร้อมก็รอเพียงเวลาออกเดินทาง หยางเทียนหลงจัดองครักษ์เงาให้คุ้มครองเซียวอี้เซียนกับท่านย่าและมารดาของนางสองร้อยคน ฉีฮุ่ยหมิ่นมีคนของรัชทายาทคุ้มครองกว่าสามร้อยคน โดยไม่เปิดเผยร่องรอย ใช้เป็นกำลังเสริมหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อถึงเวลาออกเดินทางรถม้าก็เตรียมพร้อม ท่านย่าของเซียวอี้เซียนนั่งรถม้าคันเดียวกับท่านย่าของพระชายารัชทายาท หญิงชรานำหน้าไปก่อนแล้วเพื่อไม่ให้รับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิด หยางเฟยหยางเดินมาที่ขบวนพร้อมกับหลานซิ่วเอ๋อร์ที่เกาะแขนเขามาตลอดทาง เมื่อมาถึงนางก็ทำความเคารพฉีฮุ่ยหมิ่น"คารวะพี่สาว.. ไท่จื่อทรงมีพระประสงค์ให้น้องตามไปด้วยครั้งนี้ จะได้คอยช่วยเหลือกัน หวังว่าจะไม่ทำให้พี่สาวต้องอารมณ์ขุ่นมัวนะเพคะ""พี่สาวอะไรกัน พระชายาของข้าเป็นบุตรีคนเดียวนายท่านก็ไม่ใช่พวกบุรุษมักมากอย่างพวกที่ยืนอยู่แถวนี้ จะไปมีลูกนอกสมรสที่ไหน ก็แค่ลูกเมียน้อยเสนอหน้าเหลือเกิน หึ"ซู่ซู่ไม่พอใจรัชทายาทมากกว่าเดิม ทำเกินไปจริง จะให้นางไปก็ไปสิ สนมในวังไป
ขอทานน้อยส่งสายตาไปหาเซียวอี้เซียนที่ยืนมีผ้าคลุมหน้าไปเผยแก่สายตาคนนอกอยู่ มีรอยแดงจางๆที่ดูแล้วหวังกุ้ยเฟยคงลงมือหนักไม่น้อย ช่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียจริง(ที่จริงนางให้จินฝานช่วยตบเพราะหยางเทียนหลงไม่กล้าลงมือกับเมียรักและจินฝานก็ยังคุกเข่าที่หน้าเรือนเพราะบังอาจตบพระชายา)เมื่อเซียวอี้เซียนพยักหน้าขอทานจึงเอ่ยต่อ"ข้าได้ยินมาอีกว่ามีโรคระบาด สกุลจ้าวแทนที่จะเฝ้าระวังแต่ไม่รู้ว่าเฝ้าอย่างไรมีคนที่ติดเชื้อหายไป ห่างเมืองหลวงไปแปดสิบลี้เริ่มมีคนป่วยแล้วขอรับ ท่านลุงข้าเป็นขอทานไม่มีบ้านไม่มีอาหาร หากมีใครเอาโรคระบาดมาติดคงรอความตายอย่างเดียวแล้วขอรับ ข้าไม่มีเงินซื้อยา"จูเหวินแสร้งนั่งลงไปลูบศีรษะขอทานน้อยทั้งหลายก่อนจะเอ่ยถาม"เจ้าหนูฮ่องเต้มากบารมีราษฎรย่อมต้องร่มเย็น อย่ากังวลเลย""แต่ว่า สกุลจ้าวกับๆองค์ชายใหญ่อะไรนั่น ข้าได้ยินว่าเขากว้านซื้อสมุนไพรทุกร้านจนตอนนี้สมุนไพรขาดแคลนแล้วขอรับ""แต่ว่ายังเหลือร้านตรอกอี้เหยาแม้ว่าร้านไม่ใหญ่แต่เถ้าแก่มีคุณธรรมขอรับ"ชาวบ้านกำลังถกเถียงกันอยู่ก็ได้ยินเสียงของหนิงอ๋องหลงดังมาจากในตำหนัก"น้องหญิงเงินที่ได้รับมากับข้าวของเหล่านี้
ปลายยามเหมาเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอกของตำหนักหย่งฉือ เซียวอี้เซียนลืมตาก่อนจะขยับ หยางเทียนหลงรั้งร่างบางให้นอนหนุนแขนเขาต่อก่อนจะเอ่ยงึมงำ"นอนเถอะพวกเขาส่งของขวัญมาขอขมาเจ้าน่ะน้องหญิง""ของขวัญอันใดกันเพคะ เมื่อวานมิใช่ว่าเก็บเงินพวกเขามาหนึ่งล้านสี่แสนตำลึงแล้วหรอกหรือเพคะ""บางครอบครัวไม่มีเงินจ่ายน่ะเลยเอาของมาชดใช้""อ๊า..พี่เทียนหลงงั้นพวกเราตื่นเถอะเพคะ"หยางเทียนหลงมองร่างบางที่กุลีกุจอลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งแล้วพยายามรั้งเขาขึ้นมา สายตาซุกซนบ่งบอกว่านางมีเรื่องอะไรสนุกๆอีกแล้ว"วันนี้สายๆต้องออกเดินทาง จะซุกซนอันใดอีกคนดี""ก็ทรงตรัสว่าพวกเขาเอาสิ่งของมาชดใช้มิใช่หรือเพคะ หม่อมฉันมีความรู้เรื่องวัตถุโบราณฉะนั้นต้องรีบไปตรวจ หากใครกล้าเอาของปลอมมาปะปนละก็หม่อมฉันจะตกใจเพิ่ม ให้พวกเขาปลอบขวัญจนหมดตัวเลยเชียวเพคะ"หยางเทียนหลงหัวเราะออกมาเสียงดัง เมียนี่นางช่าง...จุ๊ๆๆบนแผ่นดินกว้างใหญ่คงไม่มีใครเหมาะสมกับเขาอีกแล้วหากไม่ใช่ดรุณีน้อยตรงหน้าเขาคนนี้"ฮ่าๆๆ เรียกคนมายกน้ำล้างหน้าบ้วนปากก่อน ดูเจ้าสิดีใจราวกับกระต่ายหลุดจากคอก""ก็หม่อมฉันดีใจนี่เพคะ"ใช้เวลาไม่นานทั้งคู
ปัง!!!!หยางเทียนตี้ตบโต๊ะอย่างแรง เขาชอบพอกับหลินลุ่เหลียนมานาน นางเป็นบุตรสาวราชครูอาจารย์ของเขาและฮ่องเต้ ยามนั้นนางควรได้เป็นฮองเฮา แต่เพราะฮ่องเต้รู้ดีว่าเขานั้นมีใจรักใคร่กับนางจึงได้แต่งกับฮั่วหย่งซินมารดาของรัชทายาทแทน พวกสตรีน่าตายกล้าเอ่ยวิจารณ์เช่นนี้ดูหมิ่นเกียรติฮ่องเต้ ยังกล้าใส่ร้ายว่าหลงเอ๋อร์เป็นลูกของฝ่าบาทอีก ดูหมิ่นราชวงศ์เอาไว้ไม่ได้"จินฮวน เตรียมรถม้าข้าจะเข้าวัง""ท่านอ๋อง ค่ำแล้วนะเพคะ""ไม่เป็นไร กล้าพูดจาให้คนคิดไปไกลว่าเจ้าคบชู้กับฝ่าบาท แม้ไม่เอ่ยออกมาแต่ความหมายก็ไปทางเดียวกัน เท่ากับว่าข้าถูกเจ้าสวมหมวกเขียว สนมเหล่านี้มีแต่ทำให้ราชวงศ์มัวหมอง ข้าจะไปจัดการให้สิ้นซากเพื่อรักษาพระเกียรติฝ่าบาท"หยางเทียนตี้ออกไปแล้ว หลินลู่เหลียนหันมาทางลูกสะใภ้ก่อนจะถามเรื่องราวที่แท้จริงทั้งหมด"บอกแม่มาเถอะที่เจ้ากล่าวนั้นจริงหรือไม่ เรื่องใหญ่นะเซียนเซี่ยน""เสด็จแม่ เรื่องนี้ฝ่าบาทรับรู้แล้วเพคะ""ลูกรู้ได้อย่างไรกันว่าพระองค์รับรู้ องครักษ์เงาแม้จะคุ้มครองเจ้า แต่วาจาเช่นนี้พวกเขาจะกล้าทูลหรือ""ฝ่าบาททรงได้ยินด้วยพระองค์เองเพคะ""อะไรนะ เจ้ารู้ได้อย่างไรกันน้องหญิงว
Comments