ชมพูสาวสวยที่โชคชะตาเล่นตลกกับเธอให้ซวยซ้ำซาก และเควินนักธุรกิจหนุ่มที่บังเอิญเจอกัน ฐานะที่แตกต่างจะพาให้พวกเขารักกันได้หรือไม่
View Moreบริษัทแห่งหนึ่งที่ตอนนี้พนักงานหลายคนกำลังทำงานอย่างขมักเขม่น ชมพู หรือรมิดาที่เข้ามาทำงานที่ได้เกือบ 3 ปีแล้วเธอนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นเวลานานจนสายตาล้าไปหมด ช่วงนี้ทางบริษัทจะจัดให้คนบางกลุ่มไปทำงานในเครือบริษัทเปิดใหม่ที่จังหวัดระยองที่นั่นต้องทำในส่วนของโรงงาน จึงต้องมีกะในเวลาทำงานด้วย ทำให้ชมพูที่ตอนนี้ต้องรับจ๊อบสองที่ไม่สะดวกจึงทำให้เธอต้องขยันทำงานให้หัวหน้าเห็นว่าเธอยังมีความสามารถทำงานที่นี่ได้ดีอยู่
งานพาร์ทไทม์ที่เธอไปสมัครไว้เป็นร้านอาหารย่านมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง เป็นงานเสิร์ฟอาหารทำหลังเลิกงานไปจนถึงเที่ยงคืน ที่พักของเธอไม่ได้ไกลมากนักจึงสามารถทำได้ เหตุผลที่เธอต้องทำงานมากขนาดนั้นเพราะที่บ้านตอนนี้ต้องการเงินจำนวนมาก
เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนคุณแม่ของเธอเกิดป่วยไม่ทราบสาเหตุทำให้ไม่สามารถทำงานได้ที่บ้านของเธอในต่างจังหวัดรับซักรีดมีคุณแม่ของเธอทำเพียงคนเดียว ส่วนคุณพ่อนั้นมีงานในอู่ซ่อมรถในตัวจังหวัดรายได้ก็พอใช้ในแต่ละเดือนและเธอยังมีน้องอีก 2 คนที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ด้วย เมื่อขาดรายได้ไปทำให้ที่บ้านก็เริ่มจะลำบากเธอจึงจำเป็นต้องส่งเงินส่วนหนึ่งกลับไปให้ที่บ้าน
ตอนแรกก็ว่าใช้ได้กับเงินเพียงเท่านั้นเหมือนคราวเคราะห์หรืออย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน พ่อของเธอก็มาเกิดอุบัติเหตุเข้าอีกทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลกันทั้งคู่ขึ้นมาทำให้เธอต้องวิ่งหาเงินจนหัวหมุนไปหมดในเวลานี้
ทางบริษัทยังจะพยายามหาคนให้ไปทำงานไกลอีก เธอเองคิดว่ามันไม่สะดวกเลยถ้าจะให้เธอไปที่นั่นในตอนนี้ เธอจึงพยายามทำงานอย่างดีที่สุดและทำพร้อมกันไปทั้งสองงานด้วยในแต่ละวันก็แทบจะไม่ได้พักผ่อนอยู่แล้ว
เมื่อเช้ามีการประขุมของผู้จัดการสาขาและหัวหน้าแผนกต่างๆ บ่ายวันนี้ทุกคนจึงลุ้นระทึกนั่งไม่ติดเก้าอี้เพราะจะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่าจะให้ใครไปยังสาขาใหม่ที่ระยองบ้าง ทุกคนพูดคุยกันจ้อกแจ้กไปหมด ส่วนตัวของชมพูเองก็รู้สึกเครียดและลุ้นไม่ต่างจากเพื่อนๆ
เมื่อการประชุมนั้นจบลงและหัวหน้างานออกมาทุกคนต่างก็มีสีหน้าอยากรู้อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในตอนนี้ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เอกสารมากมายที่นำออกมาเพื่อเอามาแปะไว้ที่บอร์ดข่าวสารของบริษัท
พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทุกก็พากันไปออกันหน้าบอร์ด ชมพูใจเต้นแรงเพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่างแล้วเธอมีแนวโน้มจะโดนเลือกมากเหมือนกับอีกหลายคนที่มีสีหน้ากังวลเหมือนกัน พอรายชื่อต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนบอร์ดหลายคนทำสีหน้าไม่ค่อยดีนักเพราะบางคนที่คาดคะเนเอาไว้แล้วว่าต้องได้รับเลือกนั้นก็ถูกเลือกให้ไปจริง ๆ
ชมพูจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูบ้างพอดีกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ชื่อริสาเดินออกมาพร้อมใบหน้าที่ไม่สู้ดีนักเหมือนกัน
“ริสามันจริงอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้ใช่ไหม”
“ไม่ผิดแม้แต่คนเดียวเลยแหละ” ริสามีสีหน้าหงอย ๆ อย่างเห็นได้ชัด
ริสาเดินจากไปเพื่อกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง พร้อมทั้งพยายามปลอบใจตัวเองไปด้วย ทำใจที่จะต้องไปทำงานไกลบ้านไกลแฟนอย่างที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น
ส่วนชมพูนั้นเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้วว่ายังไงคงไม่รอดเช่นกัน แต่เธอไม่อยากจะต้องไปไกลแบบนั้น เธอจึงเข้าดูให้ชัดว่ามีชื่อของตัวเองจริง ๆ หรือไม่ เมื่อเห็นชัดแล้วก็รู้สึกไม่ดีอย่างที่คิดไว้ และอยากลองจะคุยเรื่องความจำเป็นต่าง ๆ ของตัวเองบ้างเผื่อจะได้รับการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ประตูห้องของหัวหน้าเปิดออกด้วยมือของชมพู เธอกับหัวหน้างานนั้นไม่ได้สนิทสนมกันมากนักแต่ก็ยังพอจะพูดคุยกันได้
“พี่พรคะ หนูขอคุยด้วยได้ไหมคะ”
“อื้ม เข้ามาสิชมพู มีอะไรหรือเปล่าสีหน้าไม่ดีเลย”
“ก็เรื่องที่ประกาศบนบอร์ดนี่แหละค่ะ”
“อ่อ ทำไมเหรอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“คือแบบนี้ค่ะพี่”
ชมพูเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้พรที่เป็นหัวหน้างานของเธอฟัง และหัวหน้าก็รับฟังด้วยดีแต่ไม่สามารถรับรองอะไรให้เธอได้ว่าจะช่วยอะไรได้ไหม ชมพูเพียงฝากความหวังไว้ที่หัวหน้างานและออกมาทำงานของตัวเองจนเลิกงานและยังต้องรีบไปทำงานอีกที่ให้ทันเวลา
เรื่องราวผ่านไปอีกไม่กี่วัน สิ่งต่าง ๆ ที่ได้ประกาศออกไปไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้วเพราะทางผู้บริหารได้คัดเลือกคนที่คิดว่าเหมาะสมแล้วและคิดว่าไม่สามารถรับเหตุผลอะไรที่ไม่อยากไปของแต่ละคนได้เพราะถ้าเกิดกรณีอนุมัติให้บางคนแล้วคนอื่นก็จะมาขอเหมือน ๆ กัน สาขาใหม่ต้องการคนอีกมากทำให้จำเป็นต้องเอาพนักงานไปที่นั่นให้ครบตามจำนวนที่ขอมา
ตอนนี้ชมพูเริ่มเครียดขึ้นมาจริง ๆ แล้วเพราะเธอไม่อยากไปด้วยเหตุผลส่วนตัวจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับอะไรเลย อีกอย่างงานพาร์ทไทม์ที่ทำก็ดีอย่างไม่น่าเชื่อด้วยถึงแม้มันจะดูดพลังของเธอไปมากก็ตาม แต่เพราะความเร่งด่วนของการใช้เงินในครั้งนี้นี่เองทำให้เธอจำเป็นต้องทำงานทั้งสองที่ไปด้วย
หัวหน้าเรียกเธอเข้าพบเพื่อบอกสาเหตุอย่างที่ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้วว่าไม่สามารถขอได้อย่างที่เธอต้องการ และยังกล่าวอีกว่าถ้าไม่สะดวกใจจะไปจริง ๆ วิธีที่ดีที่สุดคงต้องลาออกโดยที่ไม่ต้องคิดในเวลาแบบนี้
เธอเข้าใจบริษัทที่ต้องการให้คนไปทำงานในสาขาใหม่แห่งนั้น แต่ตัวเธอเองก็มีความจำเป้นหลายอย่างที่ต้องทำงานพร้อมกันไปทั้งสองที่เพราะฉะนั้นการตัดสินใจในครั้งนี้จึงต้องเลือกทางที่คิดว่าดีที่สุดทั้งสองฝ่ายคือเธอลาออกจากงานแห่งนั้นไป และคิดว่าทำงานพาร์ทไทม์ไปก่อนแล้วหางานใหม่อีกครั้ง
ชมพูต้องเดินออกจากบริษัทที่เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับที่นี่ แต่ในเมื่อความจำเป็นของเธอมันไปด้วยกันไม่ได้กับบริษัทการแยกกันเดินคงจะเป็นทางเลือกที่ดีแล้ว
หลังจากออกมาเธอจึงทำงานที่ร้านอาหารแห่งนั้นมาได้อีกประมาณ 2 เดือน ทางร้านแจ้งว่ามีความจำเป็นต้องปิดสาขานี้ลงเพราะผลประกอบการไม่ได้ดีอย่างที่คิดทำให้เจ้าของบริษัทต้องยุบสาขาแล้วนำพนักงานประจำไปรวมกับสาขาอื่นส่วนพนักงานใหม่และพาร์ทไทม์จำเป็นต้องให้ออกจากงานกันทั้งหมด และนี่ยิ่งทำให้ชมพูรู้สึกว่าโชคชะตาเล่นตลกกับเธออย่างหนักหน่วงจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
ปากเล็กบวมเจ่อ หอบอากาศเข้าปอดอย่างหนัก อยู่ ๆ จากที่อารมณ์ดี ๆ ของเขาก็เริ่มไม่ดีอย่างรวดเร็วชมพูมึนงงกับเรื่องราวที่รวดเร็วเมื่อครู่นี้จนกระทั่งเขาดึงเธอให้ยืนให้มั่นคงอีกครั้ง และพาเธอลงไปและเดินออกจากงานโดยไม่สนใจใครเลยเหล่าชายหนุ่มที่หวังว่าจะได้เคลมแม่สาวเลขาหน้าใหม่ของทิวจึงกินแห้วกันไปตามระเบียบเพราะหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเควินได้ไปอย่างไม่ต้องสงสัยเขาพาหล่อนมาถึงรถที่จอดไว้พาเธอให้นั่งในรถแล้วจึงรีบไปขับรถออกไปทันที จุดหมายคือโรงแรมแห่งหนึ่งครั้งนี้เขาบินมาที่ภูเก็ตไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ และอยู่อีกไม่ถึงอาทิตย์เขาจะกลับแคนาดาจึงรีบร้อนที่จะมาพบกับชมพูเมื่อขึ้นมาถึงห้องพักที่ตกแต่งอย่างสวยงามวิวด้านนอกเห็นทะเลยามค่ำ เขารูดม่านปิดหันกลับมามองชมพูด้วยสายตาดุดัน เขาไม่พอใจอะไรบางอย่างแต่เขาไม่พูด“นี่คุณทำเกินไปไหมคะ”“เรื่องไหนเหรอที่เกินไป”“ทุกเรื่อง เราไม่ได้เป็นอะไรกันทำแบบนี้มันลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยวชัด ๆ”“งั้นเอาไว้เสร็จธุระแล้วเธอก็แจ้งตำรวจได้เลย”เขาไม่รออีกต่อไปชุดสวยของชมพูหลุดติดมือเขาออกมาในทันที เขาเริ่มจูบเธออีกครั้งและอีกครั้งจนชมพูอ่อนระทวยไปหมดยืนไม่ไหวต้องล้
หลังจากนั้นชมพูเร่งทำผลงานให้เป็นที่รู้จัก หลังจากที่เธอเริ่มทำใจให้เข้าใจอะไร ๆ ให้มากขึ้นคนอย่างเควินมีทางให้เลือกมากมายจะมาติดใจอะไรกับคนธรรมดา ๆ อย่างเธอเขาเงียบหายไปจากชีวิตเกือบสามเดือนเธอเองก็ได้งานสำคัญ ๆ มาทำเพราะวินัยอยากให้เธอได้ก้าวขึ้นมาเป็นระดับหัวหน้าแผนกเหมือนกัน เพราะวินัยก็ชื่นชอบในตัวชมพูมากอยู่แล้วเมื่อเห็นความมุ่งมั่นนี้ของเธอเขาจึงสนับสนุนเต็มที่ ส่งเธอไปทำงานสำคัญจนบอสชื่นชมในความตั้งใจทำงานช่วงเวลานี้ทำให้ชมพูมีเวลาเสียใจกับเรื่องราวความรักของตัวเองได้ไม่นานมากนัก และข่าวของเขาก็เงียบหายไปแล้วเธอจึงเลิกโฟกัสมันได้ในที่สุดพอเริ่มได้ทำงานวินัยที่เหมือนเป็นคนพาเธอมาได้รับความไว้วางใจทำตัวเหมือนเป็นที่ปรึกษาในงานของชมพู ยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิม ชมพูไม่ได้คิดอะไรจึงปล่อยให้เป็นแบบนั้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวินัยเริ่มพูดคุยไม่เหมือนเดิม เขาเหมือนจะหึงหวงเวลาชมพูพูดคุยกับผู้ชายแผนกอื่นทิวหรือบอสของชมพูชอบโยนงานที่เป็นส่วนของเขามาให้ทางฝ่ายชมพูช่วยทำบ่อย ๆ และชอบเรียกชมพูไปพบนี่ก็เป็นเหตุให้วินัยชอบหาเรื่องชมพูบ่อย ๆ ด้วย จนชมพูอึดอัดไปหมดเขาเป็นคนสนับสนุนให้เธอได
ม่านในโรงแรมเปิดออกรับแสงยามเช้า เควินที่นอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ลืมตาขึ้นและมองเห็นว่าชมพูกำลังเปิดม่านรับแสง และมันส่องมาที่ตาเขา ตั้งใจจะแกล้งดุให้ปิดม่านแต่เพราะอะไรไม่รู้ทำให้เขารู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าสวยมากจนลืมไปเลยว่าจะดุเรื่องอะไร“คุณตื่นเถอะค่ะ เช้าแล้วฉันจะต้องไปทำงานถ้าไปตอนนี้น่าจะทัน”“ไม่ไป แล้วอีกอย่างผมลางานให้คุณแล้วไม่ต้องห่วงหรอกน่า นอนต่อเถอะ”“ไม่ได้ค่ะ”“ผมรับรองว่าคุณจะไม่โดนไล่ออกแน่เชื่อผมเถอะ”“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่...ฉันหิวอยากออกไปหาอะไรทาน”“อ๋อ แล้วไม่บอกล่ะเดี๋ยวผมสั่งขึ้นมาให้ไม่ต้องออกไปหรอก”ผ่านไปสักพักใหญ่อาหารเช้าน่าตาน่ารับประทานก็มาส่งถึงห้อง ทั้งสองทานข้าวเช้าด้วยกัน จนทำให้เควินนึกอะไรออกแล้วพูดมันออกไปว่า“ผมชอบที่เห็นคุณอยู่กับผมแบบนี้จัง”ชมพูอึ้งโจ๊กที่กำลังจะเข้าปากค้างอยู่แบบนั้น ส่งสายตาถามเขาว่าหมายความว่าไง“เราเป็นแฟนกันดีไหม”ชมพูยังงง ๆ อยู่เพราะเนื่องจากยังเช้าอยู่สมองเลยยังไม่ทำงานอย่างเต็มที่เธอประมวลผลอยู่สักครู่แล้วตอบกลับไป“เอ่อ...คุณยังไม่มีแฟนเหรอคะ”“หา อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”“ก็ปกติคนแบบคุณ ใคร ๆ เขาก็มีแฟนดูอย่า
ในบริษัท K ที่ตอนนี้เป็นสถานที่ทำงานใหม่ของชมพู เธอเรียนรู้งานต่าง ๆ จากรุ่นพี่ในแผนกอย่างตั้งใจ ถึงแม้ว่างานจะไม่ได้ยากเกินความสามารถ แต่มันต้องอาศัยความรอบคอบมากทำให้ระยะแรกชมพูยังเกร็ง ๆ กับการทำงานเมื่อมีงานที่เงินเดือนได้อย่างสมเหตุสมผลทำให้เธอสบายใจไปได้บ้างแล้ว เรื่องทางบ้านยังคงหนักหน่วงเหมือนเดิม ยังไม่มีใครหายจากอาการป่วยเพราะพ่อกับแม่ของเธอต่างอายุเริ่มมากขึ้น ส่วนน้องทั้งสองก็ยังต้องใช้เงินในการเรียนกันต่อไป ส่วนเธอเองทำงานไปก็หาวิธีให้ได้เงินเพิ่มต่อไปเท่านั้นเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร เควินที่บินกลับไปจัดการงานของตัวเองที่แคนาดา เขาต้องการกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าชมพูได้เข้าทำงานในที่ที่เขาเสนอให้ เพราะเจ้าของบริษัทนี้เป็นเพื่อนเขาตั้งแต่สมัยเรียนเมื่อเขาเคลียร์งานได้แล้ว เขาจึงได้กลับมาพักที่ไทยและครั้งนี้คอนโดกลางเมืองเป็นที่อาศัยของเขา เป็นคอนโดที่ซื้อทิ้งไว้นานแล้วแต่ไม่ค่อยได้เข้ามาอยู่เพราะงานที่รัดตัวมาก ครั้งนี้เขาอยากอยู่ไทยแบบนาน ๆ เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าโอกาสจะอำนวยแค่ไหนในวันที่เควินกำหนดกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เขาตรงไปยังบริษัท K ทันท
ทั้งสองร่วมรักกันเป็นเวลายาวนาน และเสียงหอบหายใจของทั้งคู่ที่สอดประสานกันดังลั่นไปทั่วห้อง ร่างเปลือยทั้งสองร่างเสียดสีกันจนเกิดเสียง เสียงจูบที่ดังขึ้นเป็นระยะ เสียงดูดดึงร่างกายบอบบาง เสียงกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะหัวใจของทั้งสองเต้นระรัวเพราะกิจกรรมที่แสนหนักหน่วง และเร่าร้อนจนเหงื่อไหลอาบกายของทั้งสอง ร่างกายสอดประสานไปหลายต่อหลายครั้ง สำหรับเควินแล้วเขาไม่อาจหยุดความต้องการที่มีต่อเธอได้ ถ้าเขาจำเป็นต้องห่างไป แล้วชมพูต้องไปกับคนอื่นอีก เขาต้องทนไม่ได้แน่ ๆ“อ๊ะ...อ๊า...เบา ๆ มันจุก” ชมพูที่เริ่มรู้สึกว่าจังหวะของคนบนร่างเริ่มรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะรับไหวจึงร้องเตือนเขา“ผมขอโทษ” เสียงหอบเอ่ยขอโทษแผ่วเบา เขาลดความหนักหน่วงลงแต่ยังคงโยกไปตามจังหวะที่ตัวเองเป็นคนกำหนด เธอเองก็เริ่มจะเกร็งตัว และร้องออกมาและทิ้งลงนอนหอบหายใจเบื้องล่างเขา และเขาจึงส่งจังหวะสุดท้ายอีกครั้ง สองครั้งแล้วจึงปลดปล่อยออกมาทั้งสองนอนกอดกันจนหลับไป ท่ามกลางความร้อนระอุที่ค่อย ๆ ลดอุณหภูมิลงเรื่อย ๆในตอนเช้า เขาที่รอจนชมพูตื่นขึ้นมาแล้วพาเธอมานั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน และพยายามจะพูดถึงเรื่องที่เธอขายตัวให้เขาเป
เหมือนเขาจะเข้าใจว่าชมพูรู้สึกไม่สบายที่ตรงไหน เขาเตรียมยาไว้ให้เธอแล้วรอเพียงแค่มีคนเอามาส่งเท่านั้น วันนี้ถึงอย่างไรชมพูจะอยู่กับเขาอีกทั้งวัน ตอนแรกเขาคิดว่าจะออกไปพบเพื่อน พอเจออะไรที่ถูกใจแล้วจึงพักผ่อนดีกว่า ซึ่งความจริงก็อยากพักนั่นแหละเพราะใช้พลังงานไปเยอะพอสมควรนั่นเองเมื่อยามาส่ง เขาให้เธอทานยาแล้วนอนพักไปก่อน ส่วนเขานั้นขอออกไปทำธุระสักครู่แล้วจะกลับมาในตอนเย็นและบอกกับเธอว่าถ้าหนีเงินที่จะได้นั้นเป็นโมฆะและชมพูจะเสียตัวฟรี มันทำให้เธอจำเป็นต้องนอนรอเขาที่นี่เขาออกมาหาแดเนียลเจ้าของร้านนวดไทยที่เป็นที่ทำงานของชมพูนั่นเอง เขาบอกถึงเรื่องที่ได้ซื้อตัวชมพูไปเมื่อวาน น้ำตาลดูตกใจมากไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะมาเสียตัวให้นักธุรกิจคนนี้เพราะเท่าที่เคยได้ยินจากสามี เขาคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างอันตรายมากทีเดียวเขาสอบถามถึงประวัติและสาเหตุที่ชมพูยอมขายตัวและมาทำงานที่นี่ น้ำตาลเล่าเท่าที่รู้ให้เขาฟังและแอบกังวลอยู่เหมือนกันว่าเพื่อนจะถูกกระทำอะไรบ้าง เพราะเขาบอกว่าตอนนี้ชมพูไม่สบายนอนรอเขาอยู่ที่โรงแรมที่เขาใช้พักในครั้งนี้เขาพูดคุยเรื่องชมพูเสียส่วนใหญ่เรื่องกิจการนั้นเป็นเพียงส่วนเสร
ร่างกายสองคนเริ่มสอดประสานกันจนเป็นหนึ่งเดียวได้ กายหนาและกายบางบดเบียดเสียดสี เสียงส่วนเชื่อมต่อที่เริ่มเข้ากันได้ในที่สุดขยับเข้าออกได้ดีมากขึ้นแล้ว ทำให้ตอนนี้ทั่วทั้งห้องพักแห่งนี้มีเสียงคนของคนที่สอดประสานกันไป ร่างหนาที่ตอนแรกยังกังวลว่าคนตัวเล็กกว่าจะเจ็บปวดกับการร่วมรักครั้งนี้จนเกินไป แต่เมื่ออารมณ์ดิบได้ถูกปลุกขึ้นแล้ว เขาลืมไปเสียสิ้นว่าเขาจะทะนุถนอมเธอเอาไว้ก่อน เพราะร่างกายของคใต้ร่างนั้นเย้ายวนอารมณ์เขามาก จนไม่อาจจะอ่อนโยนได้ในตอนนี้เสียงของเหลวที่ออกมาสร้างเสียงเสียดสีที่ชื้นแฉะเกิดขึ้น สะโพกที่กระทบกันอย่างแรงก่อเกิดเสียง พั่บ ๆ แบบที่ใครได้ยินก็คงจะอดหน้าแดง เสียววูบวาบไม่ได้ แถมด้วยเสียงครางเครือของหญิงสาวที่หวิวจนปานจะขาดใจ ร่างกายบิดเร่าเกร็งขึ้นมาและเปล่งเสียงร้องยาวทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่า หญิงสาวถึงจุดสูงสุดอีกครั้งแล้ว เหลือเพียงเขาที่ยังไปไม่ถึงสักรอบเดียว เหตุเพราะเขาอยากเล่นสนุกกับเธอไปนาน ๆ ให้เหมาะสมกับเงินที่จะเสียให้ แต่แรงบีบรัดตุบ ๆ ภายในนั้นเป็นตัวเร่งให้เขาต้องปลดปล่อยออกมา ภายในการขยับอีกไม่กี่ครั้งทั้งสองนอนกอดกันแน่น ร่างหญิงสาวกอดเขาไว้แน่นเมื่อร
ร่างนุ่มนิ่มของชมพูที่อยู่อ้อมกอดของเขานั้น เริ่มมีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพราะความตื่นเต้น กลิ่นกายจากการอาบน้ำและผสมกับกลิ่นจำเพาะตัวของแต่ละบุคคลหรืออาจะเรียกได้ว่ามันคือฟีโรโมนที่ออกมาเพื่อเรียกหาคู่ที่จะชื่นชอบกับกลิ่นของคู่ตนเองเขาที่เริ่มดมอย่างละเมียดละมัยก่อนจะรุกเร้าอย่างรุนแรงเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะตกใจกับความหื่นกระหายของเขา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันทั้งที่ถ้ากิจกรรมพวกนี้จบลงแล้ว เขาต้องจ่ายเงินให้หล่อน ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นต้องระวังอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับเลือกความนุ่มนวลให้เธอไม่กลัว และตกใจจนเกินไปใบหน้าหวานที่ถือได้ว่างามล้ำนั้นขึ้นสีระเรื่อดูน่ารัก จนเขาอดใจไม่ไหวก้มลงไปจูบบนแก้มซ้ายขวาและริมฝีปากอวบอิ่ม เริ่มจากค่อย ๆ จูบเพื่อสร้างความคุ้นเคย จนเธอเผลอเผยอปากออกน้อย ๆ เขาจึงเริ่มใช้ลิ้นสอดแทรกเข้าไปในริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มนั้นได้มากขึ้นลิ้นเล็กที่รู้สึกตกใจนั้นไม่กล้าตอบสนองเขา จนถูกกระตุ้นด้วยจูบหนักหน่วงจนทำให้ความรู้สึกของตนเองเริ่มจะเคลิบเคลิ้มตามไปกับการกระทำของเขาด้วยจึงตอบสนองลิ้นร้อนของเขากลับไปบ้าง เมื่อจูบที่ทั้งสองแลกให้กันเริ่มรุนแรงมากขึ้น เขาเองไม่ย
เขาที่เฝ้ามองพฤติกรรมของเธออยู่อย่างมีความสุข เขารู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่ที่เธอเรียกเรทราคาที่สูงมากนั่นแล้ว เขารู้ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกหรือไม่ก็ไม่น่าจะเกินสามครั้งของเธอหรอก ใครใช้ให้เขารู้สึกถูกใจหล่อนล่ะ ถ้าไม่เพราะพอใจเป็นการส่วนตัวเขาคงไม่ยอมจ่ายและไม่พามาที่นี่หรอกเขาอาจจะเป็นพวกชอบคนสวยนั่นแหละ รอยยิ้มนั้นไม่ได้เป็นรอยยิ้มที่กว้างแบบมีความสุขที่ออกมาจากเธอคนนั้น เขาเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความหม่นเศร้าที่มันออกมาจากแววตานั่น อยากสอบถามแต่เพราะเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ถ้าวันนี้เรื่องราวทุกอย่างจะดำเนินไปแล้วเขาไม่ได้ติดใจอะไรก็จบเพียงเท่านี้ร่างกายกำยำของเควินนอนลงบนเตียงกว้างและแสนนุ่มของเขา หญิงสาวที่ต้องทำงานต่อไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ นั้นมือไม้เริ่มสั่นเพราะเธอไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้บ้าง เขาที่ใช้สายตาที่ค่อนข้างหวานเชื่อมมองมาที่เธอ และกำลังคิดว่าจะจัดการกับเธอตอนไหนดี ทั้งที่ก็รู้ชะตากรรมของตัวเองแต่มันก็อดที่จะกลัวไม่ได้จริง ๆ“เรทราคานี้ได้ทั้งคืนหรือเปล่า” เขาแกล้งถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะถ้าจะแพงได้ขนาดนี้เขาคงไม่ยอมปล่อยออกไปก่อนแน่นอนชมพูปากคอสั่นไปหมดแล้วจะ
Comments