ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979

ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-26
โดย:  sanvittayamอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel12goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
36บท
596views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

เฉินโม่หราน นักธรกิจสาวต้องทะลุมิติเข้ามาในนิยาย แถมยังเป็นนางร้ายที่เข้าฉากไม่กี่ตอนก็ต้องตาย บ้านใหญ่ก็ยังเห็นแก่ตัวแทบจะหาดีไม่ได้ แบบนี้เธอไม่มีทางยอมหรอกนะ เอาสิ ตายเป็นตาย!!

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่ 1 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

บทที่ 1

ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

หมู่บ้านหนานอี้ เมืองโจวหมิง ปี 1979

ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังลั่น แต่อย่าเรียกว่าเคาะเลยต้องเรียกว่าทุบดีกว่า

“ไม่คิดจะหุงหาอาหารหรืออย่างไร นี่ก็สว่างแล้วนะ”

เสียงเรียกของฟางอี้เหนียงหรือสะใภ้ใหญ่ของบ้านเฉินร้องเรียกอยู่หน้าห้องของบ้านรอง

“หรือว่ายังไม่มีใครตื่นคะแม่ เมื่อวานย่าตีนังโม่หรานหนักขนาดนั้น วันนี้บ้านรองคงไม่อยากออกมาทำงานหรือเปล่าคะ

ห้องนี้เงียบเชียว” เฉินเม่ยเม่ยจีบปากจีบคอพูดกับแม่ของตัวเองอย่างไม่พอใจ

ส่วนภายในห้องเวลานี้หญิงสาวที่นอนอยู่กำลังรู้สึกตัว

ทว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมากลับพบว่าเธอนั้นไม่ได้อยู่ที่ห้องตัวเอง

“ที่นี่คือที่ไหน” หญิงสาวสะบัดศรีษะเล็กน้อยเพื่อให้สมองคลายความมึนงง แต่เมื่อเธอมองรอบห้อง กลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะห้องนี้ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ

“อะไรนะ!! นี่มันปี 1979”

ขณะที่กำลังตกใจอยู่นั้น ภาพความทรงจำต่าง ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว ทำให้รู้ว่าเธอนั้นได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายที่เพิ่งอ่านไป

‘ฉันคือเฉินโม่หราน นางร้ายที่ออกมาไม่กี่ฉากก็ต้องตาย’

เธอได้แต่คิดในใจ เท่าที่จำได้ ในนิยายบอกว่าเฉินโม่หรานตายไปตอนที่ถูกย่าบังคับให้แต่งงานแทนหลานสาวสุดที่รัก

แล้วที่สำคัญคนที่เธอต้องแต่งงานด้วยนั้น เบื้องหน้าคือพรานป่า แต่เบื้องหลังคือเจ้าพ่อดี ๆ นี่เอง

‘ถ้าอย่างนั้นฉันจะแต่งงานแทนเอง ฉันจะไม่ตัดวาสนาการเป็นคุณนายไปหรอก แต่กว่าจะได้เป็นคุณนายนี่สิ จะต้องเจอกับอะไรบ้างนะ เมื่อถึงตอนนั้นเส้นเรื่องทั้งหมดคงได้เปลี่ยนไปแล้ว’

ปัง ๆ ๆ เสียงทุบประตูดังหนักขึ้นจนทำให้เฉินโม่หรานสะดุ้ง ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววโมโหอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะรีบเดินมาเปิดประตู

“มีใครตายหรือไงถึงทุบประตูดังขนาดนี้”

สองแม่ลูกมือค้าง มองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ

นั่นเพราะว่าไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน กว่าจะเรียกสติกลับมาได้ก็กินเวลาไปหลายนวินาที

“จะบ้าหรือไง หล่อนเป็นบ้าอะไรถึงได้มาตวาดฉันที่เป็น

ป้าสะใภ้ของหล่อน” ฟางอี้เหนียงตวาดกลับอย่างไม่พอใจ แต่กลับมีความตกใจที่เห็นหลานสาวจากบ้านรองมีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม

“นั่นสิ หล่อนบ้าไปแล้วหรือไงถึงกล้าตวาดแม่ฉัน”

คราวนี้เป็นเฉินเม่ยเม่ยที่พูด เธอเองตกใจยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีกเพราะที่ผ่านมา เฉินโม่หรานไม่ค่อยมีปากเสียงสักเท่าไร

ส่วนเฉินโม่หรานคนใหม่ไม่ได้สนใจหรอกว่า สองคนตรงหน้าจะสงสัยไหมว่าเธอนั้นไม่ใช่เฉินโม่หรานตัวจริง แต่ตามความทรงจำแล้ว คนบ้านเฉินหาดีไม่ได้เลย แถมใช้งานบ้านรองอย่างกับทาสในเรือน

คราวนี้คงถึงเวลาที่จะต้องลุกขึ้นสู้เสียแล้ว!

“แล้วอย่างไร ป้าก็แค่สะใภ้บ้านโม่ เมียของลุงใหญ่ไม่ใช่

พ่อแม่ฉันเสียหน่อย ป้าเองก็ไม่เคยมองฉันดีสักครั้ง มีแค่ด่าและ

ข่มเหง แล้วทำไมฉันต้องยอมเหมือนเดิม” เธอสวนกลับ ก่อนจะพูดประโยคต่อมาเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายอ้าปากค้างไปแล้ว

“ว่าแต่มาที่นี่มีเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องอาหารก็ไปทำเอง ฉันป่วย เมื่อวานนี้ทุกคนเห็นกันทั้งหมดแล้วนี่ว่าฉันโดนย่าตี

แถมยังไม่ให้เงินไปซื้อยา จบนะ”

ปัง!! เสียงปิดประตูดังขึ้นทันทีเมื่อเฉินโม่หรานพูดจบ

นี่จึงทำให้สองแม่ลูกจากบ้านใหญ่ได้สติกลับมา

“แม่ นังโม่หรานมันผีเข้าหรือเปล่า ทำไมนิสัยของมันถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ล่ะ” เฉินเม่ยเม่ยพูดเสียงเบาจนแทบจะเป็นการกระซิบ

นี่จึงทำให้คนเป็นแม่พยักหน้ารับกับคำพูดของลูกสาว

“แม่เห็นด้วย อย่างไรต้องบอกย่าของแกในเรื่องนี้ ต่อให้มันผีเข้าก็ไม่ควรกำแหงกับฉัน” ฟางอี้เหนียงโกรธจัดและคิดว่าเรื่องนี้ต้องคาบข่าวไปบอกแม่สามีมาให้จัดการหลานสาวจากบ้านรอง

“แล้วถ้ามันผีเข้าจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะแม่ มันไม่แค้นเรื่องในอดีตที่เราเคยทำกับมันหรือคะ”

“ต่อให้มันผีเข้า แต่มันจะทำอะไรเราได้ มันกลัวย่าของแกจะตาย บ้านรองกล้ามีเรื่องหรือ”

สองแม่ลูกต่างก็พูดกันไปมา ไม่นานก็เดินกลับไปยังบ้านใหหญ่ ทว่าเสียงของทั้งสองคนนั้นกลัลเล็ดลอดเข้ามาในห้องที่

เฉินโม่หรานอยู่ หญิงสาวจึงแสยะยิ้มออกมา

“นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปนี้ต่อให้ใครจะมาหาเรื่อง

หรือจิกหัวใช้ ฉันจะโต้กลับร้อยเท่าพันเท่า จนกว่าจะได้แยกบ้านออกไป”

เฉินโม่หรานความจริงแล้วคือนักธุรกิจหญิงในยุคปัจจุบัน แต่ต้องเข้ามาอยู่ในนิยายที่เพิ่งอ่านไป แล้วนางร้ายตัวประกอบเรื่องนี้ต้องตายเพียงไม่กี่ตอน

หญิงสาวพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนที่นางร้ายตัวประกอบคนนี้จะตาย และพยายามหาเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้ จะเป็นเพราะชื่อเหมือนกันก็ไม่น่าใช่

แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็หาเหตุผลนั้นไม่ได้สักที

ส่วนทางด้านของเฉินคังและภรรยารวมถึงลูกชายคนโต ทั้งสามคนขึ้นเขามาเพื่อเก็บสมุนไพรไปต้มให้เฉินโม่หรานกิน

โดยที่ไม่รู้เลยว่าเวลานี้ลูกและน้องสาวของพวกเขาได้ตายไปแล้ว แต่กลับมีหญิงสาวที่ชื่อแซ่เดียวกันมาอยู่แทน

“เท่านี้คงจะพอต้มให้กินเพื่อดูอาการแล้วล่ะ ส่วนนี้ก็เอาไปประคบบาดแผล”

เฉินคังพ่อของเฉินโม่หรานพูดพร้อมกับพยักหน้าอย่าง

พึงพอใจที่ได้สมุนไพรตามต้องการ

“เช่นนั้นเรารีบกลับกันเถอะครับพ่อ แม่ เดี๋ยวน้อง

ตื่นมาแล้วไม่เห็นพวกเราจะขวัญเสีย แล้วถ้าเกิดบ้านใหญ่มาก่อกวน น้องจะโดนทำร้ายเอาอีกนะครับ”

เฉินหลงเปียวพี่ชายของเฉินโม่หรานเห็นว่าได้สมุนไพรตามต้องการแล้ว ก็รีบชวนพ่อกับแม่กลับบ้าน ใจก็ห่วงน้อง อีกใจกลัวว่าจะไม่ทันทำงานที่บ้านเสร็จก่อนไปทำงานในทุ่ง

“นั่นสิ อย่างนั้นพวกเรากลับบ้านกันเถอะ”

จากนั้นทั้งสามคนจึงได้สะพายตะกร้าขึ้นหลังเดินลงเขาเพื่อกลับบ้านเฉิน

ภายในห้องโถงของบ้านใหญ่ เวลานี้ฟางอี้เหนียงกับเฉินเม่ยเม่ยเล่าถึงเรื่องราวที่พบเจอให้ฟัง พยายามย้ำว่าเฉินโม่หรานนั้นคงโดนผีเข้า เพราะไม่อย่างนั้นจะเปลี่ยนไปราวกับคนละคนได้อย่างไรกัน

“มันจะเป็นไปได้หรือ เรื่องผีสางยุคสมัยนี้มันมีด้วยหรือไง” เฉินควนนั่งฟังก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่พอใจที่หลานสาวทำกิริยาอย่างนี้กับภรรยาและลูกตนเอง

“หากไม่โดนผีเข้า แล้วทำไมมันถึงกล้ากับแม่ล่ะ ก่อนหน้านี้แทบจะไม่สบตาพวกเราด้วยซ้ำ” เฉินเม่ยเม่ยยังเชื่อตามความคิดของตนเองที่มองว่า เฉินโม่หรานนั้นมีความผิดปกติและน่าจะถูก

ผีเข้า

“ไหน ฉันจะไปดูกับตาว่ามันเป็นอย่างที่พวกเธอพูดหรือเปล่า สงสัยเมื่อวานยังไม่เข็ด อยากเจ็บตัวมากกว่านี้”

ย่าเฉินหญิงชราของบ้านเฉินพูดอย่างไม่พอใจและคิดว่าหลานสาวจากบ้านรองนั้นเสแสร้งเพื่อไม่ต้องทำงาน

จากนั้นก็ไม่รอช้ารีบเดินออกไปแล้วตรงไปยังหลังบ้านที่ครอบครัวบ้านรองอาศัยอยู่

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
36
บทที่ 1 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย
บทที่ 1 ทะลุมิติเข้ามาในนิยายหมู่บ้านหนานอี้ เมืองโจวหมิง ปี 1979ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังลั่น แต่อย่าเรียกว่าเคาะเลยต้องเรียกว่าทุบดีกว่า“ไม่คิดจะหุงหาอาหารหรืออย่างไร นี่ก็สว่างแล้วนะ”เสียงเรียกของฟางอี้เหนียงหรือสะใภ้ใหญ่ของบ้านเฉินร้องเรียกอยู่หน้าห้องของบ้านรอง“หรือว่ายังไม่มีใครตื่นคะแม่ เมื่อวานย่าตีนังโม่หรานหนักขนาดนั้น วันนี้บ้านรองคงไม่อยากออกมาทำงานหรือเปล่าคะ ห้องนี้เงียบเชียว” เฉินเม่ยเม่ยจีบปากจีบคอพูดกับแม่ของตัวเองอย่างไม่พอใจส่วนภายในห้องเวลานี้หญิงสาวที่นอนอยู่กำลังรู้สึกตัว ทว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมากลับพบว่าเธอนั้นไม่ได้อยู่ที่ห้องตัวเอง“ที่นี่คือที่ไหน” หญิงสาวสะบัดศรีษะเล็กน้อยเพื่อให้สมองคลายความมึนงง แต่เมื่อเธอมองรอบห้อง กลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะห้องนี้ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ“อะไรนะ!! นี่มันปี 1979”ขณะที่กำลังตกใจอยู่นั้น ภาพความทรงจำต่าง ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว ทำให้รู้ว่าเธอนั้นได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายที่เพิ่งอ่านไป‘ฉันคือเฉินโม่หราน นางร้ายที่ออกมาไม่กี่ฉากก็ต้องตาย’ เธอได้แต่คิดในใจ เท่าที่จำได้ ในนิยายบอกว่าเฉินโม่หรานตายไปตอนที่ถูกย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 เฉินโม่หรานเปลี่ยนไป
บทที่ 2 เฉินโม่หรานเปลี่ยนไปปัง ๆ ๆ เสียงทุบประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้คนที่อยู่ด้านในได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินมาเปิดประตู‘ทะลุมิติมาวันแรก เจองานหนักเสียแล้ว แต่ถ้าทำตัวหงอคงถูกใช้งานและถูกรังแกไม่จบไม่สิ้นแน่’ “มีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ” หญิงสาวถามออกมา พร้อมกับกวาดสายตามองคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง “นี่ขนกันมาหมดเลยหรือ”“กล้าดีอย่างไรถึงได้ตวาดใส่ป้าสะใภ้ของหล่อน” ย่าเฉินยืนเท้าสะเอวแล้วถามเสียงดัง“แล้วยังไงคะ ทำไมย่าไม่ถามป้าสะใภ้ล่ะว่าเคาะเรียกหรือทุบประตูเรียก”“ก็หล่อนไม่ยอมลุกมาทำงาน หุงหาอาหารนี่ ฉันเลยต้องทุบประตู” ฟางอี้เหนียงโต้เถียงกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน“ทุกคนลืมไปหรือเปล่าว่า เมื่อวานฉันโดนย่าตีอย่างไร้เหตุผล ทำให้ฉันเกือบตาย เอ๊ะ! หรือว่าฉันตายไปแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ฉันเจ็บหนักขนาดนั้นทำไมคนบ้านใหญ่ไม่คิดสงสารกันบ้าง งานบ้านก็ไม่หนักหนาอะไร ทำไมป้าสะใภ้กับพี่เม่ยเม่ยไม่ทำเองล่ะ” เฉินโม่หรานกอดอกแล้วยืนพิงประตู“หล่อนเจ็บหนักที่ไหน คนเจ็บหนักจะมายืนเถียงแบบนี้ได้อย่างไรกัน ไม่รู้ล่ะ ฉันเป็นย่า ใหญ่สุดในบ้านนี้ ฉันสั่งให้หล่อนไ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3 พบเจอพระนางในนิยาย
บทที่ 3 พบเจอพระนางในนิยายเรื่องนี้เฉินโม่หรานกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอมองว่าปู่ที่ตายไปแล้วต้องการให้พ่อของเธอรับใช้บ้านใหญ่จนวันตายถึงได้พูดฝากฝังแบบนั้นแต่ไม่เป็นไร วันที่บ้านใหญ่มายื่นข้อเสนอเพื่อให้เธอแต่งงานกับญาติผู้พี่ เธอต้องแลกข้อเสนอนี้ออกไป ทว่าก่อนถึงวันนั้นจะต้องหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เสียก่อน‘แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ ฉันไม่ได้มีมิติส่วนตัวเหมือนคนอื่นที่ทะลุมิติมานี่นา’ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ และน้อยใจตัวเองที่ไม่มีนิ้วทองคำเหมือนคนอื่นเขา“ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะพ่อ การที่ปู่พูดแบบนั้นคงต้องการให้บ้านรองของพวกเรารับใช้บ้านใหญ่ไปจนวันตาย ดูพี่ใหญ่สิตอนนี้อายุเหมาะแก่การแต่งงานแล้ว ยังไม่มีสะใภ้เข้าบ้านเลย”“ที่น้องพูดมาก็มีเหตุผลนะพ่อ” เฉินหลงเปียวเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องพูด ปู่คงไม่อยากให้บ้านรองแยกบ้านเพราะกลัวบ้านใหญ่จะไม่มีคนทำงานให้มากกว่าจากนั้นก็หันมาพูดกับน้องสาวอย่างยิ้มแย้ม “ส่วนเรื่องแต่งงานพี่ยังไม่คิด และคงไม่มีหญิงสาวที่ไหนอยากแต่งเข้ามาหรอกนะ แค่สภาพความเป็นอยู่บ้านเราก็ไม่เอื้ออำนวยแล้ว”เขาไม่เสียใจกับโชคชะตา แต่เสียใจที่ไม่สามารถพาครอบครัวและทุกคนที่รักหลุดพ้นออ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4 เขาคือพรานป่าคนนั้น
บทที่ 4 เขาคือพรานป่าคนนั้นตลอดสองข้างทางแม้จะมีคนจับตามองและซุบซิบกัน แต่ว่าเฉินโม่หรานหาได้สนใจไม่ ในใจนั้นรู้ดีว่าคนพวกนี้ก็คงจะนินทาเธอเหมือนเดิมหญิงสาวใช้เวลาไม่นานก็เดินขึ้นเขามา ก่อนจะมองหาที่ลับตาคน แล้วจัดการสถานที่ให้เรียบร้อย สาเหตุที่ว่าทำไมถึงไม่พากลับไปกินที่บ้าน นั่นก็เพราะกลัวว่าบ้านใหญ่จะรับรู้และได้กลิ่นอาหาร ไม่ใช่ว่าไม่พร้อมสู้ แต่มันยังไม่ถึงเวลาต่างหาก“วันนี้คงเอาอะไรออกมามากไม่ได้ นอกจากเนื้อไก่หนึ่งตัว รวมกับปลาอีกสี่ตัวก็คงจะอิ่มกันแล้วล่ะ”เฉินโม่หรานเอาทั้งสองอย่างออกมาจากมิติ และหาที่ที่มีกองใบไม้ เพื่อจะให้พวกปิดบังอาหารที่เธอเอาออกมาหลังจากที่จัดการเสร็จทุกอย่างแล้ว ก็รีบมุ่งหน้าไปแปลงข้าวโพดที่ครอบครัวของเธอทำงานอยู่ขณะเดียวกันเมื่อเธอกำลังเดินลงมา กลับพบใครบางคนเข้าพอดี จากความทรงจำของร่างนี้ เขาคงจะเป็นพรานป่าที่ชื่อจ้าวหนิงเฉิง หรือที่ใครเรียกกันว่าพรานเฉิงจ้าวหนิงเฉิงเดินลงมาจากเขาโดยมีกระต่ายป่าติดมือมาด้วย เมื่อเห็นว่าพบเจอใครเขากลับชะงักเล็กน้อย นั่นเพราะใบหน้าของเขามีแผลยาวตรงแก้มซ้ายอย่างน่ากลัวหญิงสาวในหมู่บ้านต่างก็รังเกียจทั้งนั้น ซ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5 เริ่มวางแผนจัดการอนาคต
บทที่ 5 เริ่มวางแผนจัดการอนาคตทันทีที่ได้ยินเฉินโม่หรานถามแบบนั้น ทั้งสามคนรีบส่ายหน้าพร้อมกัน“พ่อจะกลัวลูกสาวของตัวเองทำไม ตอนนี้พ่อคิดว่าต้องหาทางแยกบ้านให้ได้ เกิดวันใดที่บ้านใหญ่รู้ลูกจะไม่ปลอดภัย” เฉินคังพูดออกมาอย่างไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไร นั่นเพราะยังหาเหตุผลที่จะแยกบ้านไม่ได้“พี่เองก็ไม่กลัวน้องหรอก เราเป็นพี่น้องกันจะกลัวทำไม พี่กังวลเรื่องเดียว คือเราจะหาวิธีไหนที่จะแยกบ้าน ดูแล้วย่าคงไม่ยอมง่าย ๆ”“นั่นสิ แม่เห็นด้วยกับพ่อและพี่ชายของลูก เรื่องหวาดกลัวเพราะลูกมีของวิเศษ พวกเราไม่กลัวกรอก แต่พวกเรากังวลเรื่องเดียวเท่านั้น” กุ้ยเจินที่นิ่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นมาบ้างตอนนี้ความกังวลของทั้งสามคนไปในมทิศทางเดียวกันคือ ทำอย่างไรถึงจะแยกบ้านได้พอเฉินโม่หรานได้ยินอย่างนั้นก็ไม่พูดอะไร ทำเพียงยิ้มให้ แล้วพูดขึ้นมาว่า “เรื่องแยกบ้านเชื่อฉันเถอะว่าเราต้องทำได้ แต่ก่อนอื่นเราต้องหาทุนสำรองของบ้านกันก่อน เพราะถ้าหากแยกบ้านแล้วอย่างน้อยก็ต้องมีเงินก่อสร้างบ้าน ฉันอยากจะซื้อบ้านในเมืองให้ทุกคนอยู่ด้วยกัน แต่ก็รู้ดีว่ามันยากเกินความสามารถของพวกเรา”เรื่องซื้อบ้านเท่าที่รู้จากความทรงจ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6 เข้าเมืองขายของครั้งแรก
บทที่ 6 เข้าเมืองขายของครั้งแรกหลังจากนั้นเมื่อจัดการเก็บของหมดแล้ว เฉินโม่หรานและเฉินหลงเปียวจึงเดินออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้าเมือง แต่คนที่ไม่ชินกับการเดินสักเท่าไรก็เริ่มที่จะเมื่อยล้าแล้ว“พี่ใหญ่อีกนานไหมกว่าจะถึงในเมือง”หญิงสาวถามเสียงเหนื่อยหอบ“อีกสักพักแหละ นี่อย่าบอกนะว่าหรานหรานเหนื่อยแล้ว” คนเป็นพี่ชายถามอย่างแปลกใจ เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้จากน้องสาว“ฉันเพิ่งหายป่วยนะพี่ ว่าแต่พี่เถอะปั่นจักรยานเป็นไหม” เธอไม่ตอบแต่ถามเรื่องอื่นแทน“เป็นสิ พี่เคยมาเอาของในเมืองให้หัวหน้าชุยบ่อยครั้ง หรานหรานถามทำไมเหรอ”“ฉันจะเอาจักรยานออกมาจากมิติน่ะ แต่พี่กับฉันต้องปลอมตัวเสียก่อนไม่อย่างนั้นแล้วเกิดเจอคนรู้จักเข้าล่ะก็ ความได้แตกกันพอดี”จากนั้นเฉินโม่หรานจึงดึงมือพี่ชายเข้าข้างทางแล้วเอาหมวกกับแว่นตายื่นให้ พอเฉินหลงเปียวใส่ทั้งสองอย่างก็ดูไม่เหมือนเขาสักเท่าไร“ไม่ค่อยเหมือนพี่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครจำได้” เธอพูดและยิ้มออกมาอย่างยินดี“แล้วหรานหรานล่ะ” เฉินหลงเปียวถามเมื่อเห็นว่าน้องสาวยังไม่มีการปลอมตัว“รอสักครู่ค่ะ” เธอตอบกลับมาอย่างทะเล้น ก่อนจะเอาเครื่องสำอางค์ออก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7 เตรียมหาคนมาไล่ผี
บทที่ 7 เตรียมหาคนมาไล่ผีส่วนทางด้านบ้านใหญ่ ยังคงเชื่อว่าเฉินโม่หรานโดนผีเข้า สะใภ้ใหญ่อย่างฟางอี้เหนียงจึงอาสาที่จะหาซินแสมาจัดการให้เอง“ฉันจะลองกลับบ้านเดิมนะแม่ ที่หมู่บ้านฉันมีซินแสคนหนึ่งเก่งกาจเรื่องนี้ ทุกคนคิดว่ายังไง”“แบบนั้นก็ดี แต่ค่าใช้จ่ายเยอะไหมล่ะ ฉันไม่ยอมเสียเงินเยอะหรอกนะ” หญิงชราเอ่ยออกมา นางไม่ต้องการเสียเงินมากในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่อยากให้คนโดนผีเข้าอยู่ในบ้าน แต่ถ้าไล่หลานสาวจากบ้านรองไปแล้วใครจะทำงานให้ล่ะย่าเฉินจึงมีท่าทีครุ่นคิดคล้ายกับคนคิดหนัก“แต่ย่าค่ะ ถ้าไม่ยอมเสียเงินให้ซินแสมาจัดการและปัดเป่าผีร้ายออกจากบ้าน พวกเราอาจจะโดนผีเล่นงานเข้าสักวัน เสียเงินดีว่าเกิดเรื่องร้ายในบ้านนะย่า”เฉินเม่ยเม่ยพยายามหาข้ออ้างเพื่อให้ย่าควักเงินออกมา อย่างน้อยเธอและแม่จะได้มีส่วนในเงินนั้นด้วยแม้ว่าเรื่องผีสางและปีศาจจะเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะทางรัฐไม่ต้องการมัวเมาชาวบ้านให้ยึดติดกับเรื่องนี้ แต่ก็ยังมีคนลักลอบเปิดสำนัก และหนึ่งในนั้นคือซินแสเถา เจ้าลัทธิที่ที่มักจะมัวเมาชาวบ้านว่า ตนนั้นสามารถปัดเป่าภัยร้ายได้“นั่นสิแม่ แม่อย่ามาขี้เหนียวไปหน่อยเลย หากเราจัดการเรื
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8 สวนกลับอย่างไม่ยินยอม
บทที่ 8 สวนกลับอย่างไม่ยินยอมแม้จะรู้สึกวาดกลัวคนบ้านรองที่มีท่าทีเปลี่ยนไป แต่คนขี้เกียจอย่างเฉินควนและฟางอี้เหนียงมีหรือจะยอมทำงานเอง“แต่หน้าที่ทำงานบ้านทั้งหมดเป็นของบ้านรอง หรือว่าจะขัดคำสั่งเสียของพ่อสามี” ฟางอี้เหนียงบอกคำสั่งเสียของพ่อสามีออกมา เพราะทุกครั้งที่พูดแบบนี้บ้านรองมักจะสงบปากสงบคำและกลับมาทำงานให้เหมือนเดิม“แต่พ่อสามีไม่ได้สั่งเสียให้พวกเรารับใช้บ้านใหญ่ไปจนตายนี่ เรื่องงานบ้านพี่สะใภ้ก็ทำได้ ฉันเองทำงานในทุ่งมาก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องมาทำงานบ้านและจัดการเรื่องในบ้านอีกเหรอ” กุ้ยเจินไม่ค่อยมีปากเสียงเท่าไรพูดออกมาบ้างนี่จึงทำให้สองสามีภรรยาจากบ้านใหญ่เบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วหันมามองหน้ากัน‘สะใภ้รองเป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้พูดแบบนี้ จากเมื่อก่อนไม่กล้าแม่จะสบตาฉัน’ สะใภ้ใหญ่บ้านเฉินคิดในใจ และตกใจไม่น้อยที่น้องสะใภ้ตอบกลับมาแบบนี้เฉินเม่ยเม่ยไม่อยากทำงานจึงได้แอบฟัง แต่เห็นท่าทีของพ่อกับแม่แล้วเลยต้องรีบออกมาจากตรงนั้นแล้ววิ่งไปตามย่าเฉินกลับมาจัดการบ้านรองซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่สองพี่น้องจากบ้านรองมาถึงพอดี“ทำไมพ่อกับแม่ยังไม่กลับไปที่ห้องอีกคะ” เฉินโม่หรา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9 ฉันเนี่ยนะมาหาเรื่องเธอ
บทที่ 9 ฉันเนี่ยนะมาหาเรื่องเธอเมื่อไม่ได้รับคำตอบ เฉินโม่หรานจึงพูดต่อ “เห็นไหมล่ะ พรานเฉิงก็ไม่มีคำตอบให้ ฉันเองก็อยากออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมกับทุกคนในบ้าน ก่อนหน้านี้ฉันก็โดนย่าตีปางตาย นี่คือทางเดียวที่ฉันคิดได้เลยมาหาน่ะค่ะ”“แล้วคุณไม่กลัวผมเหรอ ยังมีแผลเป็นที่หน้าผมอีก”“ฉันจะกลัวทำไมละ คุณก็คนเหมือนกัน” ตามเนื้อเรื่องชายตรงหน้าคือคนที่มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา แต่เขากลับต้องมาตายไม่ต่างจากนางร้ายตัวประกอบคนนี้ เลยไม่รู้ว่าเขาคือใคร“แต่ผมอายุเยอะแล้ว คุณไม่รังเกียจแน่เหรอ” เขายังคงถามถึงจุดด้วยของตัวเอง“อายุเยอะแล้วทำเรื่องนั้นไม่ได้หรือไง” หญิงสาวตอบกลับหน้าตาเฉย ทำให้คนที่ฟังสำลักน้ำลายตัวเอง“แค๊ก ๆ” ก่อนจะเบนหน้าออกไปข้างทาง ‘เด็กบ้า ไม่อายบ้างหรือไง’ แม้จะคิดอย่างนั้นก็อมยิ้มอย่างพอใจ“เอ้า กินน้ำก่อนค่ะ เป็นอะไรไปคะเนี่ย” เฉินโม่หรานไม่รู้ว่าจ้าวหนิงเฟิงนั้นเป็นอะไร จึงยื่นแก้วน้ำให้อีกฝ่ายดื่มทันที“ผมไม่เป็นอะไรหรอก ขอบคุณมาก” ชายหนุ่มรับแก้วน้ำมาจิบเล็กน้อยก่อนจะวางไว้ที่เดิม “แล้วคุณต้องการให้ผมไปพูดกับบ้านเฉินเมื่อไรดี แต่เหมือนจะได้ข่าวว่าป้าสะใภ้ของคุณต้องการไ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 10 ทวงคำสัญญาเรื่องแต่งงาน
บทที่ 10 ทวงคำสัญญาเรื่องแต่งงานบ้านใหญ่เฉินเวลานี้กำลังนั่งพูดคุยกันเรื่องของบ้านรอง ถึงแม้ว่าสะใภ้รองกับหลานสาวจะยอมทำอาหารและทำงานบ้านให้เหมือนเดิม แต่ทุกคนกลับมองว่าทุกอย่างมันแย่กว่าเดิม“แม่ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ บ้านรองทำแต่ข้าวต้มกับผักลวก แบบนี้พวกเราไม่ต่างกับกินน้ำแทนข้าวนะคะ”ฟางอี้เหนียงพูดอย่างเหลืออด เธอไม่ต้องการกินข้าวต้มกับผักต้มหรือผักดองพวกนี้อีกแล้ว“แล้วหล่อนจะทำอย่างไร จะเอาเงินไปซื้อเนื้อทุกวันหรือไง ฉันไม่มีหรอก อะไรกินได้ก็กินไปเถอะ” ย่าเฉินไม่อยากเสียเงินเลยให้ลูกสะใภ้คนโตทน ๆ ไปก่อน “เดี๋ยวพวกบ้านรองมันเลิกดื้อดึง เจ้ารองกับหลงเปียวคงไปหาอาหารบนเขาเองล่ะ ใครจะทนกินอาหารแบบนี้ได้ทุกวัน ไม่อย่างนั้นจะเอาแรงที่ไหนทำงาน”“แม่ยังคิดว่าเจ้ารองกับเจ้าหลงเปียวจะขึ้นเขาหาอาหารกลับมาอีกเหรอ หากเป็นอย่างนั้นมันคงหามาแล้วล่ะ ไม่ต้องกินอะไรพวกนี้หรอก ถ้าแม่ไม่ให้เงินซื้ออาหารทุกวัน แม่ก็ต้องให้ฟางเหนียงไปหาซินแสมาปัดเป่าภัยร้ายและเอาผีออกจากร่างของเฉินโม่หรานเสียเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”คราวนี้เป็นเฉินควนที่ทนไม่ไหว จึงพูดออกมาให้แม่คิด“แล้วอีกอย่าง ตอนนี้บ้านรองแข็งข้อกับพว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-26
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status