ทะลุมิติมามีทั้งสามีและลูกเลี้ยงสาว ชีวิตเรียกว่าลงตัวสุดๆ แต่เดี๋ยวก่อน! ทำไมไอ้ผัวเฮ็งซวย และยัยหมวยตัวแสบถึงได้รังเกียจเธอเช่นนี้ ไป๋จ้าวเหม่ยที่ผ่านมาเธอเลี้ยงดูพวกเขายังไงกัน!
View Moreแสงสีนวลของหลอดไฟส่องลงมาจากเพดานสีขาว ร่างอวบอั๋นนอนบนเตียงขนาดสามฟุตยกมือขึ้นป้องสายตา ดวงตาหงส์หรี่ลง พร้อมกับความเจ็บปวด แล่นปรี๊ดเข้ามาในก้านสมอง เธอนิ่วหน้าลง
“โอ๊ย!...ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ” ริมฝีปากบางส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ มือเล็กยกไปลูบที่ด้านหลังท้ายทอย แต่เมื่อสัมผัสกับผ้าอะไรบางอย่างที่สาก ๆ มือ หญิงสาวก็พลันลืมตาขึ้น ทว่าภาพที่เห็นในสายตากลับทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าเดิม
“นี่มัน! ฉันบาดเจ็บได้ยังไงกัน” หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องสี่เหลี่ยมสีขาวหม่น สายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางจากเสาต่อเข้าแขนของเธอ พร้อมกับหัวที่ปวดตุ๊บ ๆ บ่งบอกได้อย่างเดียวว่าเธอกำลังบาดเจ็บ แต่ทำไมกัน เธอกำลังนั่งตรวจการบ้านเด็กนักเรียนในห้องพักครูอยู่ไม่ใช่เหรอ อยู่ ๆ มานอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาลได้อย่างไร แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ก็ดังขัดความคิดให้สะดุดลง
“คนใจร้าย ทำไมเธอถึงตื่นขึ้นมาอีกล่ะ ไหนพ่อบอกว่าเธอตายไปแล้ว ไม่รู้เหรอว่าทุกคนอยากให้เธอตาย ตื่นขึ้นมาทำไม!”
เสียงเด็กน้อยทั้งห้วนและทั้งกระด้างเจือไปด้วยความโมโหดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด หญิงสาวบนเตียงหันไปมองช้า ๆ ก็เห็นเข้ากับเด็กหญิงตัวน้อย ที่ใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตา แก้มป่อง ๆ พองลมแดงก่ำทั้งสองข้าง เธออยากลุกขึ้นไปกัดสักคำ ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้สวยขนาดนี้ ติดอย่างเดียว คำพูดไม่น่ารักสักนิด
“หนูหมายถึงฉันเหรอที่ใจร้าย” เธอพยายามกวาดสายตามองดูรอบ ๆ ห้องแล้ว ก็เห็นว่าในห้องมีเพียงแค่เธอ และเด็กหญิงคนนั้น เช่นนั้นแล้วเด็กน้อยก็ต้องพูดกับเธอ แต่เดี๋ยวก่อนเธอไปทำอะไรให้กัน
“ใช่ ฉันเกลียดเธอ ทุกคนเกลียดเธอไป๋จ้าวเหม่ย ยัยแม่มดใจร้าย”
ปัง!
ประตูห้องถูกกระชากเปิดและปิด พร้อมกับร่างเล็ก ๆ ที่วิ่งหายออกไปอย่างรวดเร็ว ไป๋จ้าวเหม่ยค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นนั่งช้า ๆ แต่เพราะเสียเลือดมาก จึงทำให้เธอเวียนศีรษะหน้ามืดจนต้องนอนลงไปอีกครั้ง แต่แล้วในหัวเธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิงดังขึ้นมา ร่างอวบอั๋นรีบหันไปมองรอบ ๆ แต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า
“เธอไม่เห็นฉันหรอก เพราะฉันก็คือเจ้าของร่างที่เธอกำลังอาศัยอยู่ ไป๋จ้าวเหม่ยฟังให้ดี ฉันไม่มีเวลาแล้ว” เสียงในหัวบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายดังสายลม หญิงสาวเดี๋ยวเบิกตาขึ้น ก็หรี่ตาลง ไม่รู้ว่านานเพียงใด เสียงนั้นก็หายไปจากหัว เธอนั่งทบทวนคำพูดที่ไม่ปะติดปะต่อนั้นคร่าว ๆ ก็ได้ใจความว่า
ไป๋จ้าวเหม่ยที่นอนเจ็บอยู่ก็คือเธอในตอนนี้ จะว่าไปแล้วทั้งเธอและเจ้าของร่างอ้วน ๆ นี่ก็มีชื่อเดียวกันเลย หรือว่าจะเป็นโชคชะตาที่ทำให้ทั้งคู่ตายในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ต่างห้วงมิติทำให้ต้องมาแทนที่กันอย่างนี้
ชีวิตที่แล้วเธอเป็นครูประถมที่โรงเรียนซีหู่ ของมณฑลส่านซี ในขณะที่เธอกำลังนั่งตรวจการบ้านเด็กในห้อง อยู่ ๆ หัวใจเธอก็เจ็บจี๊ดพร้อมกับสติที่ดับวูบลง ไม่คิดว่าหลับไปเพียงหนึ่งตื่น เธอจะฟื้นมาอยู่ในยุค 70 ตอนปลาย 80 ตอนต้นเช่นนี้ ยุคที่ประเทศจีนกำลังพัฒนา การค้าเสรีมากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังด้อยกว่ายุคที่เธอจากมาอีกมาก
เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่ากับ เธอดันทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของแม่เลี้ยงใจร้าย ปีศาจแม่มดที่อู๋ชิงซวนตะโกนต่อว่าเมื่อสักครู่! ไป๋จ้าวเหม่ยยกมือขึ้นก่ายหน้าผากตนเอง ความจริงเธอรักเด็กเป็นอย่างมาก ชาติที่แล้วเธอไม่อาจมีลูกได้ เพราะเธอเคยตรวจร่างกายก่อนที่จะแต่งงาน ปรากฏว่าเธอเป็นหมัน แฟนหนุ่มจึงได้ขอเลิก ทำให้ครูสาวอย่างเธอเข็ดขยาดกับความรัก ได้แต่หันมามอบความรักให้กับเด็กนักเรียนแทน
ครั้นเมื่อทะลุมิติมาทั้งที เธอโชคดีมีทั้งลูกติด และสามี แต่...ทั้งคู่กลับเกลียดเธอ และอยากให้เธอตาย เหมือนเช่นตอนนี้ที่เธอต้องมานอนโรงพยาบาล เพราะถูกอู๋เหวยที่เป็นสามีเจ้าของร่างเดิมขับรถชน!
เจ้าของร่างเดิมเป็นคนเอาแต่ใจ และเมื่อสองวันที่แล้ว เธอกับเขาทะเลาะกันรุนแรงเพราะความหึงหวง ไป๋จ้าวเหม่ยจึงเปิดประตูลงจากรถ วิ่งไปยืนขวางหน้ารถเขาเอาไว้ และไอ้ผัวเฮงซวยก็ขับรถชนเธอจริง ๆ ต่อให้ตอนที่ถูกชนร่างเดิมจะไม่ตาย แต่เพราะหลังจากที่ถูกนำส่งโรงพยาบาล เธอคนนั้นก็ประชดด้วยการกินยาอีกหนึ่งกำมือ ถึงจะล้างท้องไปแล้ว แต่วิญญาณเดิมกลับหลุดออกจากร่างไปแล้ว
“เวรกรรมฉันไม่เคยเห็นใครโง่เท่าเธอมาก่อนเลยไป๋จ้าวเหม่ย ความจริงอู๋เหวยก็ไม่ได้รักเธออยู่แล้ว ดันมาประชดซ้ำแล้วซ้ำอีก ประชดจนตัวตาย คุ้มไหมล่ะ แล้วทำไมฉันต้องทะลุมิติมาเป็นเธอด้วย”
************************
ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก
ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว
ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส
ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ
ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ
ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห
Comments