Masukสวรรค์แบ่งเป็นสามภพ แดนสวรรค์ ดินแดนมนุษย์ และแดนปีศาจ มวลวิญญาณเวียนว่ายไปตามกฎฟ้า ทว่าเมื่อดวงจันทราสลายกลางหาว วิถีทั้งสามภพกลับสั่นคลอน… คำพยากรณ์กล่าวว่า “บุตรแห่งดวงจันทร์ จะเป็นทั้งความหวังและหายนะ” ในสงครามที่สวรรค์หมายจะกวาดล้างปีศาจ เกิดเรื่องราวรักต้องห้ามระหว่าง องค์หญิงสวรรค์กับโอรสปีศาจ …ความรักที่อาจชุบชีวิตสามภพ หรือทำลายจนสิ้นสูญ ตัวละครหลัก หลิงซินเอ๋อร์ – องค์หญิงสวรรค์ บุตรีรองของเง็กเซียนฮ่องเต้ ถูกลิขิตให้เป็น "บุตรแห่งจันทร์" มีพลังรักษาและพลังสะกดปีศาจ อวิ๋นเทียนหาน – รัชทายาทแดนปีศาจ มีพลังควบคุมเงามืด เดิมเย็นชาไร้หัวใจ แต่กลับหวั่นไหวเพราะเซียนน้อยแห่งสวรรค์ ไป๋หานอี้ – เซียนหนุ่มองครักษ์คู่กายของหลิงซินเอ๋อร์ ภักดีดุจเงา แต่ปิดบังความรักที่ไม่อาจเอื้อม ซูเม่ยหลาน – เพื่อนสนิทนางเอกจากแดนสวรรค์ เจ้าของพลังเสียงพิณสะกดจิต เฮยหลง – แม่ทัพใหญ่แห่งแดนปีศาจ ผู้จงรักภักดีต่ออวิ๋นเทียนหาน ดุดันแต่จริงใจ เง็กเซียนฮ่องเต้ – จักรพรรดิสวรรค์ ผู้นำสูงสุด มารานตี้ – จักรพรรดิปีศาจ บิดาของอวิ๋นเทียนหาน
Lihat lebih banyakหลังจากที่ พันธะสาบาน ได้ขาดสะบั้นไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อวิ๋นเทียนหาน ก็รู้สึกถึงความปวดร้าวที่ไม่มีวันบรรเทา แม้ความทรงจำทางอารมณ์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความรู้สึกว่าถูก ทรยศ และถูก สูญเสีย ยังคงกัดกินจิตใจของเขา เขาตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ หลิงซินเอ๋อร์ จะต้องเกี่ยวข้องกับพลังเซียนที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์ และต้องเกี่ยวพันกับ คำพยากรณ์ ที่มารานตี้เคยกล่าวถึง อวิ๋นเทียนหานเริ่มค้นคว้าอย่างลับๆ เขาใช้พลังเงามืดในการแทรกซึมเข้าไปในอาณาเขตเซียนที่ไม่เคยมีปีศาจตนใดกล้าเข้าไปถึง เขาไม่สนใจการทำสงครามชั่วคราว แต่ต้องการค้นหา ความจริง ที่ถูกปิดบังไว้ ในที่สุด เขาก็สามารถแทรกซึมเข้าไปใน หอจารึกเทวะ บนสวรรค์ได้อย่างลับๆ สถานที่ที่เก็บรักษาคัมภีร์และบันทึกสำคัญของสามภพ เขาค้นหาเกี่ยวกับ บุตรแห่งจันทร์ และ คำพยากรณ์จันทราสลาย เขาพบว่าคำพยากรณ์ที่สวรรค์เผยแพร่นั้นถูก บิดเบือน ไปบางส่วน ในบันทึกเก่าแก่ที่สุดที่จารึกไว้บน “ศิลาเทวลิขิต” ที่แท้จริงนั้น มีประโยคสำคัญที่สวรรค์ตัดออกไป: “บุตรแห่
หลังจากศึกใหญ่ในหุบเขาอวิ๋นหมิงยุติลงชั่วคราวด้วยความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย วังสวรรค์ ก็เข้าสู่สภาวะตึงเครียดสูงสุด ในโถงลับของตำหนักเซียน เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนผู้มีอำนาจสูงสุด รวมถึง ไป๋หานอี้ และ ซูเม่ยหลาน เพื่อตัดสินชะตากรรมของ หลิงซินเอ๋อร์ “ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่หนักอึ้ง “และชัดเจนแล้วว่า สาเหตุของจันทราร้าว และการปั่นป่วนของพลังเซียนในวังสวรรค์… มาจากความสัมพันธ์ต้องห้ามขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์กับรัชทายาทปีศาจ!” เหล่าเทพเซียนต่างเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาเห็นการกระทำขององค์หญิงในสนามรบที่ใช้พลังรักษาปีศาจ และการที่รัชทายาทปีศาจปกป้องนาง การผูกพันทางชะตาของทั้งคู่กำลังคุกคามรากฐานของสวรรค์ “เราไม่สามารถฆ่านางได้” เทพสงครามเสนอ “นางคือ บุตรแห่งจันทร์ พลังของนางเชื่อมโยงกับดวงดาว หากนางดับสลาย สวรรค์จะพังทลายตามไปด้วย” “ถ้าเช่นนั้น เราต้อง ทำลายนางในความทรงจำ” เง็กเซียนฮ่องเต้สรุป “ต้องตัดขาด พันธะต
สงครามสามภพ เปิดฉากขึ้นแล้วที่ หุบเขาอวิ๋นหมิง สมรภูมิเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พลังเซียน สีขาวบริสุทธิ์ปะทะกับ พลังปีศาจ สีดำทะมึน สายฟ้าสีทองฟาดฟันเข้าใส่กำแพงเงามืด เปลวไฟปีศาจสีครามลุกโชนเผาผลาญทัพสวรรค์ ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี นำทัพหน้าเข้าโจมตีอย่างดุดันที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายแนวป้องกันของปีศาจ เพื่อยุติสงครามนี้ให้เร็วที่สุด และเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ อวิ๋นเทียนหาน และ หลิงซินเอ๋อร์ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ สวมชุดเกราะสีนิลและดาบปีศาจเงาของเขาฟาดฟันอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม เขาคือขุนศึกผู้ไร้เทียมทานในสนามรบ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วย เงามืด ที่กลืนกินพลังเซียนที่เข้ามาใกล้ ท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม หลิงซินเอ๋อร์ ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพสวรรค์ด้วยความเจ็บปวด นางถูกบังคับให้เข้าร่วม แต่จิตวิญญาณของนางปฏิเสธการนองเลือดนี้ พลังเซียนที่ถูกผนึกไว้บางส่วนทำให้นางไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ แต่นางก็ค้นพบวิธีที่จะไม่ทรยศต่อ คำสาบาน ของตนเอง
หลังจากที่ เง็กเซียนฮ่องเต้ ได้รับรายงานจาก ซูเม่ยหลาน และตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเหตุระหว่าง หลิงซินเอ๋อร์ กับ อวิ๋นเทียนหาน พระองค์ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในโถงหลิงเซียว เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนทั้งหมด และมีพระบัญชาที่ทำให้ทั้งสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน “เราไม่สามารถปล่อยให้ความมืดมิดคุกคามสามภพได้อีกต่อไป” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ “แดนปีศาจนำโดยรัชทายาทปีศาจ ได้ละเมิดกฎฟ้า ซ่องสุมกำลัง และเป็นภัยต่อวิถีแห่งเต๋า สวรรค์ในนามของผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จึงขอ ประกาศสงครามขั้นเด็ดขาด กับแดนปีศาจ!” คำประกาศนี้ถูกอ้างอย่างเป็นทางการว่าเพื่อ ปกป้องโลกมนุษย์ และเพื่อรักษาความสงบสุขของสามภพ แต่ความจริงเบื้องหลังที่เหล่าเซียนชั้นสูงรับรู้คือ ความกลัวคำพยากรณ์จันทราสลาย การที่ บุตรแห่งจันทร์ แสดงความภักดีต่อ โอรสปีศาจ นั้น เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าหายนะกำลังจะมาถึง มีเพียงการทำลายแกนกลางแห่งความมืด (รัชทายาทปีศาจ) เท่านั้น ที่จะสามารถตัดขาดพันธะต้องห้ามและช่วยห
หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ ถูกนำตัวกลับสู่สวรรค์ และแสดงความเอนเอียงไปทางรัชทายาทปีศาจอย่างชัดเจน ความหวาดระแวงในวังสวรรค์ก็พุ่งสูงถึงขีดสุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงตระหนักดีว่าการกักบริเวณเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุม บุตรแห่งจันทร์ ผู้ถูกลิขิตให้เป็นทั้งความหวังและหายนะได้ ดังนั้น จึงมีพระบัญชาลับให้ ซูเม่ยหลาน สหายสนิทเพียงไม่กี่คนของหลิงซินเอ๋อร์ ถูกส่งลงมายังดินแดนมนุษย์ที่อยู่ใกล้กับหุบเขาอวิ๋นหมิง เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมขององค์หญิงอย่างใกล้ชิด ซูเม่ยหลาน เป็นเซียนสาวที่งดงามและมีพรสวรรค์สูงยิ่ง นางมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรีโบราณ และมีพลังเซียนที่แฝงอยู่ในเสียงพิณของนาง พลังนี้คือ ‘เสียงพิณสะกดจิต’ ที่สามารถควบคุมอารมณ์ สยบจิตใจที่ปั่นป่วน และแม้กระทั่งทำให้ศัตรูหลงใหลในความว่างเปล่าจนสูญเสียพลังไปได้ เม่ยหลานได้รับพิณศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากหยกโบราณ และลงมายังอาณาจักรมนุษย์อย่างเงียบเชียบ นางตั้งสำนักเล็กๆ ไว้ใกล้กับอาณาเขตของหุบเขาอวิ๋นหมิง และเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง แม้จะเต็มใจรับพระบัญชา แต่ในใจขอ
แม้จะถูกกักบริเวณในตำหนักกวงหมิง และถูกเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจาก ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี แต่จิตวิญญาณของ หลิงซินเอ๋อร์ ก็ไม่เคยสงบลงได้เลย คำพูดของ อวิ๋นเทียนหาน และความรู้สึกที่เชื่อมโยงกันในความฝันยังคงดึงดูดนางอย่างรุนแรง นางต้องการคำตอบเกี่ยวกับ พันธะต้องห้าม และสงสัยในสิ่งที่ไป๋หานอี้พูดว่า 'ปีศาจไม่มีหัวใจ' ในคืนที่ดวงจันทร์ยังคงมีรอยร้าวอย่างชัดเจน หลิงซินเอ๋อร์รอจนกระทั่งไป๋หานอี้เข้าสู่ช่วงทำสมาธิ นางใช้วิชาเซียนที่ฝึกฝนมาอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงม่านพลังป้องกันที่ไป๋หานอี้สร้างไว้ นางร่ายมนตร์อำพรางกาย ก่อนจะหลบหนีออกจากวังสวรรค์อีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ หุบเขาอวิ๋นหมิง ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจยับยั้งได้ นางเดินทางมาถึงหุบเขาอวิ๋นหมิงอย่างทุลักทุเล พลังเซียนของนางอ่อนแอลงกว่าเดิมมากจากการบาดเจ็บครั้งที่แล้ว แต่ความปรารถนาที่จะพบกับรัชทายาทปีศาจกลับแข็งแกร่งกว่าความกลัวทั้งหมด “อวิ๋นเทียนหาน!” นางเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยเสียงแผ่วเบา แต่แฝงไว้ด้วยพลังแห่งจันทราที่บริสุทธิ์ ไม่นาน












Komen