เพราะถูกทรยสหักหลังจากเพื่อนและแฟน เธอจึงรับงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ ทำให้เธอได้พบกันเขา ชายผู้มอบสัมผัสแห่งปรารถนาให้อย่างเร่าร้อน ก่อนเขาจะกลายเป็นผู้กุมชะตาชีวิตเธอในฐานะนางบำเรอชั่วคราว
ดูเพิ่มเติมท่ามกลางแสงสี กลิ่นเหงื่อ คราบไคล จากการบดเบียดวาดลวดลาย จากโต๊ะสู่โต๊ะ ยกแก้วกระดกดื่ม พูดคุยยิ้มแย้มร่างกายโอบรัดกอดกระหวัดกันไม่ห่าง ของแต่ละคู่ซึ่งมาท่องราตรีกันในผับชื่อดัง นามดาร์กมูน ญรินดา นภาพิสุทธิ์ เจ้าหน้าที่บัญชีสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เจ้าของดวงตากลมโต ผิวสีชมพูระเรื่อ คิ้วยาวเรียว ริมฝีปากบางสีชมพู กำลังจ้องมองผู้คนมากมายแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
เธอเกลียดสถานที่แห่งนี้ ยกเว้นเจ้าของผับที่ใจดีเสมอมา
“รินจ๊ะ วันนี้สนใจไหมเอ่ย...” เจ้าของผับนามราตรียังคงถามเธออีกครั้ง เรื่องการทำงานพิเศษ ชื่อว่าเด็กนั่งดริงก์
“ไม่ค่ะพี่ตรี อย่าให้รินทำเลยค่ะ” หญิงสาวตอบแล้วส่ายหน้า
“ทำไมล่ะริน เงินดีออก ยิ่งหน้าตาอย่างรินพี่ว่าคืนหนึ่งห้าหมื่นสบายๆ เรื่องกินเหล้าไม่ต้องห่วง มันฝึกกันได้พี่การันตี”
“ขอโทษนะคะพี่ตรี ที่รินตอบสนองความต้องการของพี่ไม่ได้” หญิงสาวระบายลมหายใจ “รินมีแฟนแล้ว รินไม่อยากให้วินต้องรู้สึกไม่ดีค่ะ”
ราตรีถอนหายใจด้วยความเสียดาย หากได้ญรินดามาเป็นเด็กในร้านอีกคน เงินคงไหลมาเทมาเป็นแน่
“เฮ้อ... พี่อยากให้รินหมดหนี้เร็วๆ จริงๆ นะ พี่เป็นห่วงริน สักวันรินอาจไม่ได้นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศแบบนี้ พี่กลัวพี่ชายรินมันจะทำอะไรห่ามๆ เอาน่ะสิ” แค่คิดก็รู้สึกขนลุกแล้ว คนอย่างญรันต์ติดการพนันขนาดนั้น คงหาทางเอาน้องตัวเองเร่ขายเป็นแน่ รินไม่รู้ผ่าเหล่าผ่ากอมาจากไหน ถึงได้ออกมาหน้าตาสะสวยอย่างนี้
“ขอบคุณมากค่ะพี่ตรี แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ รินใช้หนี้พี่หมดแน่นอน” ญรินดาบอกแล้วยกยิ้ม ก่อนลุกยืนเพื่อเตรียมเลิกงาน
กระเป๋าถูกหยิบขึ้นสะพาย ร่างบางก้าวออกมานอกออฟฟิศ แล้วเดินออกมาหลังร้าน เพื่อทักทายเพื่อนรักอย่างนาริสา สาวนั่งดริงก์อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน นาริสาเป็นเพื่อนกับเธอตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ก่อนแยกย้ายกันไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย
นาริสาออกกลางคัน ผันตัวมาทำงานกับเจ๊ราตรีเสียก่อน เพื่อนเธอได้รับเงินแต่ละเดือนไม่น้อยเลย ถึงนาริสาไม่ได้สวยเท่าเธอ แต่ทรวดทรงนั่น นับได้ว่าเป็นนางแบบได้สบาย
“สา” เธอเรียกเพื่อน สาวหุ่นน่ามองหันมาแล้วยิ้มกว้าง เร่งฝีเท้าเข้ามาหา
ญรินดากวาดตามองชุดที่เพื่อนใส่แล้วอดเขินอายแทนไม่ได้ วันนี้ทางร้านจัดชุดบิกินี่สีแดงสด พร้อมถุงน่องตาข่าย คาดผมกระต่ายสีดำ เห็นชัดทุกสัดส่วน ว่าใครมีเท่าไหร่
“ไงริน เลิกงานแล้วเหรอ” นาริสาทักทาย
“ใช่จ้ะ”
นาริสากวาดตามองหาใครบางคน แล้วหันกลับมาหาเพื่อน
“พี่วินไม่มาเหรอจ๊ะวันนี้”
“มาจ้ะ ใกล้ถึงแล้วล่ะ”
เสียงรถยนต์จอดเทียบด้านหลัง ญรินดาชะเง้อมองเช่นเดียวกับเพื่อนเธอ ไม่นานนักหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกางเกงสแลคสีดำ ผมรองทรง จมูกโด่งรับกับใบหน้า คิ้วเข้มตรง ดวงตาเรียวยาวออกเชื้อสายทางจีน ก้าวเข้ามาในร้าน พนักงานนั่งดริงก์ต่างรุมล้อมแสร้งลูบเนื้อตัวหนุ่มฮอต เขารีบเบี่ยงกายหนีแล้วหัวเราะ ก่อนเดินเข้ามาหาคนของหัวใจ
“รอพี่นานไหมครับ” กวินทรถาม แล้วเหลือบมองหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในชุดทำงานของร้าน พาให้เลือดในกายร้อนฉ่า มุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนยิ้มกลบเกลื่อน
เจ้าของเรือนร่างเย้ายวนยิ้มน้อยๆ แล้วเดินห่างออกมา ก่อนปรายตาในทางเชิญชวน กวินทรไม่วานเหลือบมองเล็กน้อยแล้วหันกลับมาหาแฟนตนเอง
“ไม่นานค่ะ รินเพิ่งเลิกงานเมื่อกี้เองค่ะ เลยลงมาคุยกับสา”
“อ่อครับ” ชายหนุ่มรับคำแล้วยิ้ม “วันนี้ที่ร้านจัดชุดให้เด็กเปรี้ยวจังเลยนะครับ”
ญรินดายิ้มบางๆ “ชอบเหรอคะ” แกล้งแซวแฟนตัวเอง
ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำเมื่อถูกแซว ยกมือเกาศีรษะ แล้วดึงมือบางมากุมไว้พาเดินออกนอกร้านด้วยกัน ญรินดามองมือใหญ่ รับรู้ถึงความอบอุ่นในนั้น ความสุขกำลังแผ่ซ่าน ในความโชคร้าย ยังโชคดีที่มีเขาคอยเคียงข้าง
ประตูรถเปิดออก คนตัวเล็กนั่งด้านหน้าคู่คนขับ ภาพสองคนอยู่ในสายตาของนาริสา ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสดกัดแน่น ในอกร้อนผ่าว สักวันชายคนนั้นต้องเป็นของเธอ จะไม่มีวันให้คนอย่างญรินดาชุบมือเปิบไปแน่นอน
เธอรัก เขามาก่อน...
รถยนต์จอดเทียบหน้าคอนโด ญรินดาชะงักมองแฟนหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่วินพารินมาที่คอนโดทำไมคะ” เธอถาม สีหน้าสับสน
กวินทรหันมา ก่อนดึงมือบางมากุมจุมพิตแผ่วเบา
“เราคบกันมาปีกว่าแล้วนะครับ พี่อยากอยู่กับรินจริงจังสักที คืนนี้รินค้างกับพี่ได้ไหม” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยถาม แววตาหวานฉ่ำ
ริมฝีปากบางสั่นระริก บิดมือตนเองออกมาจากการเกาะกุม
“ปีกว่ามันน้อยไปนะคะ น้อยไปที่เราจะรู้จักกันจริงๆ พี่วินอย่าใจร้อนได้ไหมคะ” หญิงสาวพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เพื่อให้เขาเข้าใจ
“มันไม่น้อยไปหรอกริน คู่ไหนเขาก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้น รินสวยขนาดนี้พี่กลัวนะครับว่าจะมีใครมาแย่งรินไป” กวินทรค่อยๆ ขยับกายเข้าหา
สำหรับเขา ญรินดานั้นงดงามเกินกว่าจะยอมปล่อยให้หลุดมือ ผู้ชายย่อมอยากชมดอกไม้งาม และเธอคือดอกไม้ที่เขาอยากดอมดมจนแทบทนไม่ไหว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าญรินดาจะยอมคบหาด้วย ทว่าตอนนี้เขาสมหวังแล้ว และต้องการอีกเรื่องเดียวเท่านั้น
“รินไม่พร้อมคะพี่วิน รินไม่อยากเสียใจทีหลัง” หญิงสาวตัดบทในทันที สำหรับเธอกวินทรคือคนดี แต่การคบหากันแค่ปีกว่าไม่ได้บอกอะไรได้ทั้งหมด
ชายหนุ่มขบกรามแน่น อดทนมาตลอด เพียงเพราะต้องการให้อีกฝ่ายเห็นความดี และยินยอมพร้อมใจกับเขา แต่ญรินดากลับใจแข็งไม่ยินยอมอยู่ดี
“ต้องให้พี่ทำยังไงหรือริน ตอนนี้พี่ยังให้รินไม่พออีกเหรอ หนี้พี่ชายรินพี่ก็ช่วยใช้ การนอนด้วยกันนี่มันยากมากใช่ไหมริน ถึงทำให้พี่ไม่ได้!”
“ทำไมพี่วินพูดแบบนี้ล่ะคะ รินแค่ไม่อยากต้องเสียตัวเสียใจในตอนหลัง ถ้าพี่อยากมีอะไรกับผู้หญิงนักทำไมไม่ไปหาเอาล่ะคะ หน้าตาอย่างพี่วิน คงมีสาวๆ รอจ่อคิวเป็นแถวอยู่แล้ว!” คนตัวเล็กประชด ทรวงอกกระเพื่อมไหวเพราะแรงโทสะ
ป้าชม้อยถูกดันออกนอกห้อง ประตูปิดลง เธอไม่อยากให้ใครเขามา จีน่าอันตรายเกินไป คนถูกเหลี่ยงกำมือแน่นกัดริมฝีปากจนเลือดซึม ลุกยืนจ้องมอง“แกกล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้ อีสารเลว!” ไม่พูดเปล่า จีน่ากวาดตามองรอบห้อง เดินพล่านลมหายใจหนักหน่วงเพล้ง!โคมไฟหัวเตียงถูกเหวี่ยงมา มันแตกตรงปลายเท้าเธอ ญรินดาตระหนกตกใจ รีบกระโจนหนีเมื่อเครื่องสำอาง และของในห้องถูกขว้างมาเป็นระยะๆ“นังร่าน ฉันไม่มีวันปล่อยแกไป!”“หยุดนะคุณจีน่า คุณบ้าไปแล้วหรือไง!” คนตัวเล็กตวาดลั่นแรงโทสะทำให้อีกฝ่ายไม่ฟังเสียง เรือนร่าง หน้าตาเรียกความต้องการเพศตรงข้ามเช่นนี้ มีหรือธีภพจะปล่อยไว้ เกินเลยไปขนาดไหน กี่ครั้งที่นอนด้วยกัน โดยที่เธอไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเขาคิดแตะต้อง มันเจ็บปวด จับที่วางกระดาษดวงตาเบิกกว้างเหวี่ยงออกไปผลั่ก!“โอ้ย!” น้ำตาเริ่มไหลริน เมื่อมันลงตรงจุดเดิมที่เคยเกิดอุบัติเหตุ แผลยังไม่หายดีนัก เลือดไหลนองออกมา มันมากกว่าเดิมและสร้างความเจ็บปวดให้กับคนโดนจีน่าหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ เดินปรี่เข้าหา คนโดนกระทำทรุดกายยกมือกุมศีรษะตัวเอง หยุดยืนตรงหน้าศัตรูหัวใจ แล้วกระชากคอเสื้อให้ลุกยืนเผชิญหน้า“รู้
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินางแบบสุดฮอตรีบเร่งฝีเท้าออกจากช่องทางผู้โดยสาร ข่าวมาแรงตามการรายงานของสาวใช้ในบ้านธีภพ ทำเอาเธอร้อนรนยิ่งกว่าสิ่งใด ร่างสูงโปร่งกระแทกก้นลงบนเบาะรถส่วนตัว ให้คนขับพาไปยังจุดหมาย โดยไม่คิดแวะที่ไหน แม้กระทั่งกลับคอนโดตนเอง ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอถึงที่นั้น รั้วบ้านเปิดออกรถเคลื่อนผ่านสวนหย่อมดวงตาเรียวหรี่มอง ภาพหญิงสาวกำลังเล่นกับสุนัขสนุกสนาน พอได้ยินเสียงรถเลยหันมามอง เห็นลุกยืนเดินหายเข้าไปในตัวบ้าน พอรถจอดเทียบด้านหน้าจีน่าเปิดประตูลงแล้ววิ่งเข้าไปข้างในทันที สาวใช้และคนงานพากันตระหนกตกใจ แน่ใจว่าต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่นอนญรินดาเดินขึ้นไปชั้นบน ไม่อยากเผชิญหน้ากับแขกของเขาอีกแล้ว เธอกลัวเกิดปัญหาแบบรอบคุณภาวินทร์ จีน่าก้าวขึ้นบันไดตรงดิ่งไปยังห้องของชายที่ตนหมายปอง จับลูกบิดเปิดประตูออกในทันทีแอด....คนในห้องชะงักลุกยืนจ้องมองผู้มาเยือน ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดกัดแน่น ญรินดายืนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ดวงตาผู้หญิงคนนั้นดุดัน น่ากลัว ราวกับต้องการฆ่าเธอให้ตาย“เธอมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง!” นางแบบสาวตวาดถาม แววตาวาวโรจน์“ฉะ...ฉัน” หญิงสาวอึกอัก“ต
ธีภพปล่อยเพื่อนเป็นอิสระในทันที ถลาเข้าประคองคนเจ็บ ภาวินทร์จ้องมองภาพนั้น คนอย่างไอ้เพื่อนตัวดีเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงงั้นเหรอ“ริน ริน ผมขอโทษ!” ละล่ำละลักบอก มือไม้สั่นเทา ไม่กล้าแตะเกรงคนตัวเล็กจะเจ็บมากกว่าเดิมภาวินทร์ถลาคิดเข้ามาช่วยอีกคน แต่บอดี้การ์ดกันไว้ ดวงตาดุจเหยี่ยวจ้องมอง แววตาไม่พอใจ“ผมว่าคุณกลับไปดีกว่านะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องจองเจ้านายผมกับผู้หญิงของเจ้านาย คุณไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้” อยุทธ์บอกเสียงเรียง สีหน้าเยือกเย็นคนถูกไล่กัดฟันแน่น “อยุทธ์ นายเคยเป็นทหารมาก่อน นายน่าจะรักษาความยุติธรรม แล้วทำไมถึงทำเรื่องน่าทุเรศแบบนี้!”“ตรงไหนที่เรียกว่าทุเรศ ในเมื่อคุณรินเองเธอบอกคุณไม่ใช่เหรอว่าเต็มใจอยู่ที่นี่”ภาวินทร์หาคำมาถกเถียงไม่ได้อีก“ได้... ฉันกลับก็ได้” เขาตวัดมองเพื่อน “ธีภพ ฉันขอเตือนให้แกปล่อยคุณรินไป ถ้าแกไม่ไปสักวันแกต้องเสียใจ ไม่ใช่เพราะฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่แกต่างหากที่จะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองทำ” ตัดบทเสร็จเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกจากรั้วบ้านธีภพนิ่งเงียบ จ้องมองน้ำตาคนเจ็บไหลริน เขาจะเจ็บปวดจากเรื่องอะไร ญรินดาไม่มีทางทำให้คนอย่างเขาเจ็บ
เสียงรถแล่นเข้ามาภายในตัวบ้านแล้วจอด ญรินดาชะเง้อมองเมื่อประตูเปิดเห็นคนก้าวลงหน้าตาคุ้นเคย แต่เขาไม่ได้เข้าด้านในกลับเดินตรงมายังสวนหย่อมซึ่งเธอกำลังเล่นกับสุนัขอยู่ ภาวินทร์ระบายยิ้มเมื่อเห็นหน้าคนสวย เขาหยุดยืนตรงหน้า“สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่เหรอ” ชายหนุ่มเริ่มทักทายก่อน“เล่นกับปาท่องโก๋ค่ะ”“ปลาที่ไหนครับ นี่มันสุนัขนะ” เขาแสร้งเย้าคนตัวเล็กเม้มริมฝีปาก ไม่ได้ขำแค่รู้สึกว่ามุกเขามันช่างไม่ช่วยให้มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย ภาวินทร์ยิ้มเก้อยกมือเกาศีรษะ แล้วหัวเราะแผ่ว เธอเลยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นท่าทีเป็นมิตรของชายผู้นี้“ไม่ทำงานเหรอครับ เป็นคนใช้ไม่ใช่เหรอ” แววตาคนถามกำลังจดจ้องไปยังลำคอ คิ้วเริ่มขมวด รอยจ้ำแดงตรงนั้น มันไม่ปกติเอาเสียเลย“เอ่อ... ฉันทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงแผ่ว หลบเลี่ยงสายตาด้วยการเมินทางอื่นแทน ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไรทั้งสีหน้า ทั้งแววตา มีเพียงความกังวลผสานความเศร้า ไม่เข้าใจมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วรอยแดงนั้น ไม่บอกก็พอรู้ว่ามันถูกทำขึ้นมาแน่นอน ภาวินทร์ขบกรามแน่น หัวใจสั่นไหว“ผมมาที่นี่เจอคุณครั้งที่สองแล้ว พอจะบอกได้ไหมว่าคุณชื
ใบหน้าโน้มหาแนบริมฝีปากจนร่างบางอ่อนระทวย ลิ้นร้อนหยอกเย้าควานหาความหวาน มือสองข้างบีบเคล้นทรวงอกซึ่งมีบราเซียปกปิด แล้วเอื้อมไปยังด้านหลังปลดตะขอออก มือใหญ่ดันบราเซียจนดอกบัวโผล่ออกมาท้าสายตา ละริมฝีปากเลื่อนลงมาดูดกลืนยอดแข็งชูชัน เลียวนกระดกลิ้นหยอก“อ๊า อ๊า คะ...คุณธีภพ ฉะ...ฉันกลัวคนมาเห็น” คนตัวเล็กพยายามร้องห้าม กัดริมฝีปากแน่น แต่ไม่อาจทำอะไรได้เลยธีภพไม่ได้สนใจเสียงทัดทาน เลื่อนมือลงสู่ใจกลางผ่านกางเกงในผ้าลูกไม้สีเดียวกัน แหวกแล้วใช้นิ้วเรียวยาวแยกกลีบออก ตวัดละเลงจนน้ำหวานฉ่ำทั่ว คนตัวเล็กหนีบเรียวขาเพราะอับอาย แต่ร่างกายกลับทรยศไม่ฟัง ไม่นานเรียวขานั้นแยกออกอีกครั้ง พรั่งพร้อมให้เขาใช้นิ้วช่วยให้เธอพบความสุขสม“อ๊ะ อ๊า อ๊า อื้อ อื้อ ฉะ...ฉัน สะ...เสียวค่ะ” เธอร้องบอกเสียงกระเส่า“เธอยังต้องเจออะไรที่เสียวกว่านั้นอีกญรินดา นี่คือการทำโทษฐานที่เธอโกหกเพื่อนฉัน”ร่างบางถูกดันให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ศาลา ธีภพย่อกายลงจั๊มสูทถูกรูดออกมาพร้อมกับอันเดอร์แวร์ แสงจันทราสาดส่องเข้ามา เผยให้เห็นภาพอันเลือนราง ร่างงามนอนบนไม้ศาลาสีขาวนวล เรือนร่างงดงาม น่าเชยชมไปทุกส่วน ยิ่งเปลี่ยนสถานที
ชายหนุ่มชะงักมองเพื่อนแววตาเครียดขึ้น ถึงว่าพักหลังวฤญาติดต่อหาเขาบ่อย แถมยังชวนไปนั้นไปนี่ พอรู้ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนล้ำเข้ามาหาเลยตัดสินใจปฏิเสธทุกอย่าง ไม่นานเธอก็เงียบหายไป รู้สึกว่าจะได้เกือบเดือนแล้วละมั้ง ก็คิดว่ากลับไปหาเพื่อนที่ไหนได้ ดันเลิกกันซะแล้ว“ก็ดีแล้ว แกได้หาแฟนใหม่ น่ารักๆ สดๆ ใสๆ แบบที่แกชอบไง” ธีภพเย้าพอฟังคำเพื่อน ภาวินทร์ยิ้มกว้าง“ว่าแต่ฉันมีอะไรจะถามสักหน่อย”ธีภพขมวดคิ้ว “อะไรวะ”“ผู้หญิงที่อยู่ตรงสวนหย่อม เป็นสาวใช้คนใหม่เหรอ” เขาบอกแล้วเดินไปตรงหน้าต่างเจ้าของบ้านลุกยืนก้าวตามไปดู เห็นร่างบางกำลังวิ่งเล่นกับสุนัขอย่างสนุกสนาน เขาเผลอยิ้มจนภาวินทร์สังเกตเห็นความผิดปกติ“ว่าไงวะไอ้ธีภพ ตกลงสาวใช้คนใหม่บ้านแกเหรอ” ภาวินทร์ถามย้ำเขาหันมามองเพื่อน “ใครบอกวะว่าเป็นคนใช้บ้านฉัน”“ก็เจ้าตัวบอกเอง”คนฟังชักสีหน้าไม่พอใจ นี่เธอกล้าโกหกแบบนี้เหรอ หรือเพราะต้องการอ่อยคนอื่นอีก“ใช่ สาวใช้บ้านฉันเองแหละ!” ธีภพประชดด้วยความไม่พอใจ ทิ้งกายลงบนเก้าอี้ทำงานอีกครั้งภาวินทร์ก้าวตามมาแล้วยิ้มกว้าง “ฉันจีบได้ไหมวะ สเป็คเลย”คนถูกถามตวัดสายตามองสีหน้าไม่พอใจ“ไมได้!”“ทำไมวะ แ
ความคิดเห็น