(พระเอกนางเอกเก่ง + การต่อสู้ในวังหลวง + แก้แค้น + แต่งแทน + แต่งก่อนแล้วค่อยรัก) น้องสาวฝาแฝดได้รับความอัปยศจนเสียชีวิตก่อนแต่งงาน เฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับคำสั่งในยามคับขัน ถอดเครื่องแบบทหารไปแต่งงานแทน กลายเป็นฮองเฮาแห่งแว่นแคว้น ฮ่องเต้ทรราชผู้นี้มีนางในดวงใจที่ตายไปแล้วคนหนึ่ง เหล่าสนมในวังล้วนแต่เป็น ‘ตัวแทน’ ของนางในดวงใจผู้นั้นทั้งสิ้น มิหนำซ้ำยังโปรดปรานหวงกุ้ยเฟยแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความคล้ายคลึงกับนางในดวงใจผู้นั้นเลยสักนิด คิดว่านางคงจะถูกฮ่องเต้ทรราชรังเกียจเดียดฉันท์ และคงจะถูกปลดจากตำแหน่งฮองเฮาไม่ช้าก็เร็ว หลังอภิเษกสมรสได้สองปี ฮ่องเต้กับฮองเฮาก็จะหย่ากันดังคาด ทว่ามิใช่ฮองเฮาที่ถูกหย่า แต่เป็นฮองเฮาที่ต้องการหย่าสามีต่างหาก คืนนั้น ฮ่องเต้ทรราชจับชายอาภรณ์ฮองเฮาไว้แน่น “ถ้าจะไปก็ต้องข้ามศพเราไป!” เหล่าสนมร่ำไห้รำพัน ขวางฮ่องเต้ทรราชเอาไว้ “ฮองเฮา อย่าทิ้งพวกหม่อมฉันไปเลยเพคะ ถ้าจะต้องไปก็ต้องพาพวกหม่อมฉันไปด้วย!”
view moreเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“ไม่ว่าจะเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่หรือความลวงที่ยิ่งใหญ่ ล้วนทำเพื่อกษัตริย์ที่ตนภักดีทั้งสิ้น“ที่ถานไถเหยี่ยนกำหนดตนเองว่าเป็น ‘ความลวงที่ยิ่งใหญ่’ คือการแสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาท ไม่ต่างจากการบอกฝ่าบาทว่า ‘ข้าคือขุนนางของท่าน จะวางแผนครองใต้หล้าเพื่อท่าน”เสียวอู่รู้สึกเหมือนกระจ่างขึ้นมาในทันทีไม่คิดเลยว่า คำกล่าวง่าย ๆ และสั้น ๆ เพียงไม่กี่ตัวอักษร กลับซ่อนความหมายลึกซึ้งไว้มากมายเพียงนี้!“ทว่า... คำพูดนั้นมาจากใจจริงหรือไม่?“ถานไถเหยี่ยนจะทำเพื่อศิษย์พี่ได้อย่างไร?”“นี่ต้องเป็นแผนล่อศัตรูของเขาเป็นแน่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น“ดังนั้นข้าถึงบอกว่า ฝ่าบาททรงกำลังเดิมพัน”ตงฟางซื่อบอกความคิดเห็นของเขา“ข้าเชื่อคำพูดนั้น”เสียวอู่เบิกตากว้าง คล้ายกับจะบอกว่าเขาบ้าไปแล้ว ถึงเชื่อคำพูดหลอกลวงของถานไถเหยี่ยนตงฟางซื่อเอ่ยอย่างช้า ๆ“เมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน เคยมีคนผู้หนึ่งนามว่าจางจื่อที่ทำงานรับใช้แคว้นฉิน ช่วยแคว้นฉินเตรียมพร้อมกำลังพล ก่อนจะพิชิตแคว้นอื่นทีละแคว้น“เรื่องที่ถานไถเหยี่ยนทำ โดยพื้นฐานแล้ว ก็ไม่แตกต่างจากเขา“หากปฏิ
เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบาย: “ในวลี ‘อยู่เหนือกว่าคน’ ตัวอักษร ‘ซ่าง’ หมายถึง ด้านบน หรือตำแหน่งข้างหน้า หากนำขีดแรกของตัวอักษรสามตัวคือ ‘ไจ้[1]’ ‘เหริน[2]’ และ ‘จือ[3]’ มารวมกัน ก็จะได้ตัวอักษรหนึ่งตัว” เสียวอู่ได้ยินดังนั้น จึงรีบใช้กิ่งไม้ เขียนลงบนพื้นทันทีขีดขวาง ขีดลากซ้าย และจุด...แต่เขายังไม่ค่อยเข้าใจว่า จะได้เป็นตัวอักษรใดในเวลานั้น ตงฟางซื่อก็ใช้กระบี่ ลากออกมาเป็นตัวอักษรหนึ่ง“คือตัว ‘ต้า[4]’”เสียวอู่มองดูแล้ว พลันกระจ่างในทันทีใช่จริงด้วย!“ศิษย์พี่สะใภ้ แล้ววลีที่ว่า ‘มองคนเป็นคน’ล่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าเรียบเฉยยังไม่ทันรอให้นางเอ่ย ตงฟางซื่อก็เดาได้แล้วเขาถาม: “คือตัว ‘เหว่ย[5]’ ใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“ข้าก็เดาว่าเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน”“ตัว ‘เหริน’ กับ ‘เหวย[6]’ รวมกัน ก็จะกลายเป็นตัวอักษร ‘เหว่ย’”เสียวอู่ถึงกับนิ่งงัน“ศิษย์พี่สะใภ้ ตัว ‘ต้า’ ข้าพอเข้าใจ แต่ตัว ‘เหว่ย’ ได้มาจากที่ใดกัน? มันดูไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยหรือ?”ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ก็ไม่อาจโน้มน้าวตัวเองให้เชื่อได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะขับเข็มพิษออกมา ร่างกายยังคงพักฟื้น
ถานไถเหยี่ยนกลับเปิดเผยตรงไปตรงมาเขาอธิบาย: “เมื่อครู่ตอนที่นางปะทะฝ่ามือกับข้า ในวินาทีที่ข้าถอนมือออก ก็แทงเข็มพิษเข้าไปในฝ่ามือนางแล้ว”เสียวอู่ตาทั้งคู่เบิกกว้าง มองไปยังศิษย์พี่สะใภ้ที่อ่อนแรงอยู่ข้าง ๆ“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! มิน่าเล่าเมื่อครู่ศิษย์พี่สะใภ้ถึงไม่ได้หลบฝ่ามือนั้นของเจ้า! ถานไถเหยี่ยน เจ้าช่างเลวทรามยิ่งนัก!”เฟิ่งจิ่วเหยียนกัดฟันทน พยายามใช้พลังภายใน ขับเอาเข็มพิษนั้นออกมาทว่ากลับไร้ผลถานไถเหยี่ยนมีสีหน้านิ่งเฉย ดูเหมือนจะรู้สึกจนใจอยู่บ้าง“ข้ามิใช่เคยบอกเจ้าหรือว่า เวลาปะทะฝ่ามือกับผู้อื่น ต้องระวังให้ดี”“ถานไถเหยี่ยน—” เสียวอู่แผดเสียงด้วยความโกรธ “เจ้าคนชั่วไร้สำนึก!”เขายืนอยู่ด้านหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน เพื่อปกป้องนาง“ศิษย์พี่สะใภ้ ท่านไปก่อน ข้าจะคุ้มกันด้านหลังให้!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นอย่างทันควัน ดูเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินเสียวอู่ก็รู้ตัวเองดีแม้แต่ศิษย์พี่สะใภ้ยังสู้ถานไถเหยี่ยนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาเลยแต่เขาก็ไม่อาจมองดูศิษย์พี่สะใภ้ถูกถานไถเหยี่ยนฆ่าตายได้!“ถึงอย่างไรข้าก็ตัวคนเดียวอยู่แล้ว! ศิษย์พี่สะใภ้ไม่เหมือน
เสียวอู่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ: “ขึ้นมาแล้ว! พวกเราขึ้นมาแล้ว!”ถานไถเหยี่ยนกลับมีสีหน้าคร่ำเคร่ง คล้ายกับว่าไม่อาจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้“ไม่ควรเป็นเช่นนี้...”บริเวณใกล้กับหลุมบริวาร ควรจะเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพพวกเขาผ่านด่านต่าง ๆ มาแล้ว ก็ควรจะถึงทางเข้าหลุมฝังศพ และพบจุดศูนย์กลางของค่ายกลแล้วดังนั้น เพราะเหตุใดเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้...ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเย็นวาบที่ต้นคอกระบี่ของเฟิ่งจิ่วเหยียนพาดเข้ามาในแนวขวาง แค่ชั่วพริบตาก็สามารถฟันคอเขาให้ขาดได้ทว่าทันใดนั้น คมกระบี่กลับถูกถานไถเหยี่ยนใช้มือเปล่ารับไว้—เขาใช้สองนิ้วหนีบคมกระบี่ไว้ พลังภายในอันลึกล้ำปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับสั่นสะท้าน“เจ้าแอบซ่อนพลังภายในมาตลอด?”ถานไถเหยี่ยนที่ดูเหม่อลอย พึมพำกับตัวเอง: “ไม่ควรเป็นเช่นนี้... มันมีปัญหาที่ใดกันแน่”เฟิ่งจิ่วเหยียนโจมตีอีกครั้ง แต่ถานไถเหยี่ยนกลับหลบหลีกได้นางจึงเพิ่งตระหนักได้ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้านางถานไถเหยี่ยนซ่อนความสามารถได้ลึกมากพลังภายในของเขา ย่อมต้องเหนือกว่านางอย่างแน่นอนนางมิได้ยึดติดกับการต่อสู้โดยเฉพาะในทางเดินคับแคบ ที่มี
กองทัพฉียึดเมืองอู๋โจวได้ ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามบนหอประตูเมือง หร่วนฝูอวี้ได้รับบาดเจ็บหนักมิใช่ได้รับบาดเจ็บจากทหารหนานเจียงเหล่านั้น แต่เป็นเพราะถูกนกไม้กลไกของกองทัพฉียิงพลาดจนบาดเจ็บเพราะอย่างไร กองทัพฉีก็ไม่คาดคิดว่า บนกำแพงเมืองจะมี “พันธมิตร” อยู่ด้วยถึงแม้จะรู้ ก็คงไม่ยอมทิ้งโอกาสในการโจมตี เพราะหร่วนฝูอวี้เพียงคนเดียวบาดแผลที่หร่วนฝูอวี้ได้รับล้วนเกิดจากลูกธนูเก๋อสือชีประคองนางไว้ ด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ถูกบาดแผลของนางเมื่อลงมาจากกำแพงเมือง หร่วนฝูอวี้ก็พบกับเซียวอวี้ที่นำทัพมาด้วยตัวเองนางยิ้มอย่างขมขื่น“ข้าเข้าใจมาตลอดว่า การมีวรยุทธ์สูงส่ง ก็เพียงพอที่จะปกป้องแคว้นหนานเจียงได้ แต่ ‘มังกรไฟ’ กับ ‘นกไม้กลไก’... การปรากฏตัวของพวกมัน ในที่สุดก็ทำให้ข้าได้เห็นความหยิ่งทะนงของตัวเองอย่างชัดเจน“แคว้นหนานเจียงล้าหลังแคว้นอื่น ๆ มานานเกินไป นานจนไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในใต้หล้านี้ ข้าไม่สามารถฆ่าถานไถเหยี่ยนได้แล้ว ฮ่องเต้ฉี ที่เหลือ ก็ฝากไว้กับพวกท่านแล้ว”เซียวอวี้นั่งอยู่บนหลังม้า และขี่ผ่านหน้านางไป พร้อมทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง“รักษาตั
ณ เมืองอู๋โจวหร่วนฝูอวี้พาราษฎรชาวหนานเจียงกลุ่มหนึ่งบุกโจมตีเมืองภายในเมือง ก็เป็นราษฎรชาวหนานเจียงเช่นกันทั้งสองฝ่ายต่างสู้รบกัน เมืองอู๋โจวนั้นง่ายต่อการป้องกันแต่ยากต่อการโจมตีทหารบนกำแพงเมืองโยนก้อนหินขนาดใหญ่ลงมา ทำให้กระแทกใส่คนที่กำลังปีนอยู่บนกำแพงเมืองจนตายทั้งเป็นการเสียสละของคนเหล่านี้ ทำให้หร่วนฝูอวี้ได้โอกาสในการโจมตีนางฉวยโอกาสขณะที่กองกำลังป้องกันบนกำแพงเมืองไม่ทันระวังตัว ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้สำเร็จทหารนายหนึ่งที่เห็นนางเป็นคนแรก ก็ตะโกนขึ้นทันที “มีคนขึ้นมาแล้ว!”ชั่วพริบตาถัดมา เขาก็ถูกหร่วนฝูอวี้สังหารในสายตาของหร่วนฝูอวี้ พวกเขาไม่นับเป็นชาวหนานเจียง ล้วนเป็นสุนัขรับใช้ของถานไถเหยี่ยน! ล้วนสมควรตาย!นางจับคนผู้หนึ่งไว้ แล้วถาม: “ถานไถเหยี่ยนอยู่ที่ใด!”“ไม่... ไม่รู้! อ๊าก!” สิ้นเสียง ก็ถูกหร่วนฝูอวี้สังหารนางยังคงจับคนอื่น ๆ และถามต่อไปทว่า ไม่มีใครตอบนางทันใดนั้นลูกธนูคมดอกหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลังหร่วนฝูอวี้เบี่ยงตัวหลบได้ทันหลังจากลูกธนูดอกนั้นตกถึงพื้น สิ่งที่ตามมา ก็คือลูกธนูอีกนับไม่ถ้วน ที่ยิงเข้ามาหาหร่วนฝูอวี้อย่างพร้อมเพรีย
Mga Comments