เข้าสู่ระบบเขมิกา หญิงสาวผู้อ่อนโยนและอ่อนหวาน เธอจำเป็นต้องเป็นเจ้าสาวจำยอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อธุรกิจที่บ้านเธอกำลังจะล้มละลายเธอจำเป็นต้องกอบกู้ธุรกิจของพ่อแม่เธอเอาไว้ แม้จะต้องเสียตัวก็ยอม!! ชาตรี ชายหนุ่มผู้อารมณ์ร้อนราวกับเพลิงไฟ ที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกคน การแต่งงานที่ไร้ซึ้งความรัก อิสระของเขาต้องมาพังลงเพราะผู้หญิงคนเดียว!!
ดูเพิ่มเติม🔥ไฟราคะ 🔥
บทนำ
..ร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูหวาน ใบหน้าหญิงสาวยิ้มแย้มเต็มไปด้วยความสุข 'เขมิกา' นั่งจัดช่อดอกไม้ใส่แจกันอย่างสวยงาม เธอเปิดร้านดอกไม้อยู่ในย่านตัวเมืองของกรุงเทพฯ ที่บ้านเธอทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เธอไม่ชอบด้านนี้เท่าไหร่ เธอจึงมาเปิดร้านดอกไม้เป็นของตัวเอง เขมิกามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ เขมิกร
กรุ๊งกริ๊งๆ
..เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยหญิงสาวร่างเล็กที่หอบหิ้วถุงขนมมาเต็มไม้เต็มมือ
" อ้าว..แข มาพี่ช่วย" เขมิกาเดินไปรับขอบจากน้องสาวก่อนจะไปวางไว้บนโต๊ะ
"ทำอะไรอยู่หรอพี่เขม" เขมิกรถามพี่สาวพลางค้นหาขนมของโปรด เธอหยิบขนมหม้อแกงออกมาก่อนจะนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
"กำลังจัดดอกไม้จ้ะ แขมาหาพี่มีธุระอะไรหรือเปล่า" หญิงสาวถามก่อนจะหันไปจัดแจกันต่อ
"แขแค่แวะมาเล่นด้วยค่ะ เดี๋ยวก็ไปเรียนแล้ว" เขมิกาบอกกล่าวพี่สาวพลางเคี้ยวขนมตุ้ยๆ เธอมีเรียนคาบบ่ายจึงไม่เร่งรีบ
"อื้อ แล้วมีเงินกินขนมมั้ยล่ะ" เขมิกาฉีดพ่นน้ำใส่ดอกไม้ให้ดูสดชื่นยิ่งขึ้น หญิงสาวก้มลงไปสูดดมความหอมจากดอกไม้อย่างอดไม่ได้
"แขก็ว่าจะมาขอพี่เขมแหละค่ะ คิกๆ" หญิงสาวว่าพลางหัวเราะคิกคัก
"เท่าไร่ล่ะ" หญิงสาวเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ก่อนจะหยิบแบงค์พันให้เขมิกรหนึ่งใบ
"หูยย สามพันไม่ได้หรอคะ" เขมิกรทำหน้ายู่ ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ อ้อนพี่สาว
"ไม่ได้.. จะใช้อะไรเยอะแยะแค่ไปเรียนเอง รู้มั้ยว่ามันสิ้นเปลืองแค่ไหน กว่าจะหาเงินได้แต่ล่ะบาทมันเหนื่อยนะ " หญิงสาวบ่นเขมิกายาวเหยียดจนเธอต้องปิดหู พลางเดินหนี
"ไม่คุยกับพี่เขมแล้ว..แขไปดีกว่า แบร่ 😜" เขมิกรหันไปแลบลิ้นใส่พี่สาวอย่างกวนๆ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
"ยัยแข!!.. เด็กคนนี้นิ"
..เขมิกาส่ายหัวอย่างเอือมๆ เธอกับน้องสาวอายุห่างกันสามปี ตอนนี้เขมิกรกำลังเรียนอยู่มหาลัย ปีสองแล้ว ดื้อและแก่นแก้วที่สุด แม้เธอจะอายุปาไป 25 แล้ว แต่เธอก็ยิงโสดแถมยังซิง มีผู้ชายเข้ามาจีบเธอก็ไม่เคยสนใจ เธออยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เธอคิดว่า ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องมีแฟนเลยก็ได้..
กรุ๊งกริ๊งๆๆ
..เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองผู้มาใหม่..เธอจ้องเขาอยู่นาน เขาทั้งหล่อ ทั้งสมาร์ท เท่ห์สุดๆ คิ้วดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยได้รูปน่าสัมผัสนั่นอีก
"คุณ...คุณครับ!" ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่เอาแต่ยืนจ้องเขาอยู่ เขาเรียกตั้งหลายรอบเธอก็ไม่ขานรับ
"เอ่อ..ขะ..คะ รับอะไรดีคะ" หญิงสาวเรียกสติกลับมาก่อนจะละล่ำละลักถามชายหนุ่ม 'บ้าจริง! นี่เราเหม่อขนาดนี้เลยหรอเนี่ย' หญิงสาวสบถด่าตัวเองในใจ ก่อนจะฉีกยิ้มรับลูกค้า
"ผมเอาดอกไม้ช่อหนึ่งครับ ช่วยแนะนำทีว่าจะเอาดอกอะไร" ชายหนุ่มถามหญิงสาว เขาจะเอาดอกไม้ไปให้คนรัก มันก็ต้องเลือกความหมายดีดีหน่อย
"อยากให้สื่อความหมายอะไรคะ" หญิงสาวถามชายหนุ่ม เธอรู้สึกเสียเซลฟ์ไปเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มต้องมีแฟนแล้วแน่ๆ
"สื่อความหมายว่ารักครับ" เขาบอกหญิงสาว
" ดอกกุหลาบสีแดง แทนใจว่ารักมั่นคง ไม่มีจืดจาง
ดอกกุหลาบสีขาว แทนใจว่ารักบริสุทธิ์ค่ะ
ดอกกุหลาบสีชมพู แทนใจว่ารักหวานซึ้ง โรแมนติก
ดอกทานตะวัน แทนใจว่ารักเดียวใจเดียวค่ะ
ดอกลิลลี่สีขาว แทนใจว่ารักบริสุทธิ์เช่นกัน
ดอกลิลลี่สีชมพู แทนใจว่าที่สุดของหัวใจ
ดอกลิลลี่สีส้ม แทนใจว่าเธอเป็นความสุขของฉัน
ดอกกล้วยไม้ แทนใจว่ารักมั่นคง เชิดชู ให้เกียรติ์ค่ะ"
..เขมิกาเอ่ยบรรยายความหมายของดอกไม้แต่ล่ะอย่างให้ชายหนุ่มฟังอย่างตั้งใจ
"ผมเอาดอกลิลลี่สีชมพูครับ" ชายหนุ่มบอกกล่าวหญิงสาว ความหมายคือที่สุดของหัวใจ แสดงว่าเขาต้องมีคนรักแล้วจริงๆด้วย เขมิกาคิดในใจ
"ค่ะ ประมาณสักครึ่งชั่วโมงนะคะ ไม่ทราบว่าจะรอรับเลย หรือจะกลับมารับใหม่คะ" เธอถามชายหนุ่มพลางเดินไปหยิบดอกลิลลี่สีชมพูมาจัดแต่ง
"รอครับ"
..ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โซฟา มือหนาล้วงหยิบสมาร์ทโฟนหรูราคาแพงขึ้นมาก่อนจะกดโทรหาแฟนสาว
"ฮัลโหล..เหมยทำอะไรอยู่ครับ....อ้อ...ทานข้าวหรือยัง...รอผมหรอ...ครับ...ผมทำธุระอยู่ครับ...อีกประมาณชั่วโมงนึง...ครับ..ผมจะรีบไป..รักเหมยครับ"
..เสียงสนทนาของชายหนุ่มและแฟนสาวของเขาดังเข้ามาในโสตประสาทของหญิงสาวทุกคำ เธอนั่งฟังเงียบไม่ได้คิดอะไรออกมา..ผู้หญิงคนนั้นช่างโชคดีจริงๆ เขาเป็นแฟนที่ทั้งหล่อ และเพอร์เฟค เอาใจใส่แฟนสาวเป็นอย่างดี แม้กระทั่งการเลือกดอกไม้ หญิงสาวคิดแล้วพลางส่ายหัวน้อยๆ.. เธอจะมีโอกาสได้แฟนที่ีดีแบบเขาบ้างหรือเปล่าหน๋อ..
"คุณครับ.. ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ" ร่างสูงเอ่ยขออนุญาตหญิงสาว
"เชิญค่ะ"
.. เสียงหวานใสเอ่ยบอก เธอก้มหน้าจัดดอกไม้ไม่นานก็เสร็จ เธอห่อกระดาษเป็นขั้นสุดท้ายก่อนจะผูกโบว์อย่างสวยงาม เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มเดินออกมา
"เสร็จแล้วค่ะ..เอ่อ..ไม่ทราบว่าคุณจะเขียนการ์ดด้วยมั้ยคะ" เธอหันไปถามชายหนุ่ม เขาเดินมาข้างๆหญิงสาว
"ครับ ได้ก็ดี"
"จะเขียนว่าอะไรคะ" เขมิกาหยิบการ์ดกับปากกาออกมาให้ชายหนุ่ม
"ผมว่าคุณเขียนให้ผมดีกว่า.. ผมไม่ถนัดเขียนพวกคำหวานเท่าไหร่"
"ค่ะ..งั้นคุณบอกมาก็ได้ค่ะ ว่าจะเขียนว่าอะไร" ..หญิงสาวก้มหน้าเตรียมเขียนการ์ดให้ชายหนุ่ม
"คุณช่วยคิดหน่อยสิ"
"งั้นก็เอาตามความหมายของดอกลิลลี่เลยนะคะ" หญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มแต่ก็ต้องตกใจ เมื่อจมูกเธอไปโดนแก้มสากของชายหนุ่มอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อเข้าก้มต่ำลงมา เธอรีบผละออกอย่างรวดเร็ว..
"เอ่อ..ขะ..ขอโทษค่ะ..ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เธอบอกเขาตะกุกตะกัก
"ไม่เป็นไรครับ"
...ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวที่บัดนี้แดงระเรื่อ เขมิการีบก้มเขียนการ์ดให้ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว..เสร็จแล้วเธอก็ยื่นช่อดอกไม้ให้ชายหนุ่ม
"เท่าไหร่ครับ"
"3,500 บาทค่ะ" .ชายหนุ่มยื่นเงินให้หญิงสาว
"ผมไปก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
...
ว่าแล้วเขาก็เดินออกจากร้านไป ชาตรีหยิบการ์ดขึ้นมาดู บนการ์ดเขียนว่า 'คุณคือผู้เป็นที่รักสุดหัวใจของผม'
ไฟราคะตอนพิเศษร่างตุ้ยนุ้ยจ้ำม่ำเดินเตาะแตะๆ ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง โดยมีเขมิกา ชาตรีและครอบครัวนั่งเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง วันหยุดสุดสัปดาห์ของใครหลายๆคน พวกเธอจึงใช้โอกาสนี้มาเที่ยวเล่นที่ทะเลหัวหิน โดยตกลงจะพัก 3 วัน 2 คืน น้ำใสสะอาดถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งมาเป็นระลอกๆ หญิงสาวในชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วนอนอาบแดดอย่างสบายกายสบายใจ ข้างๆเป็นชายหนุ่มมาดเข้มใบหน้าหล่อเหลาสวมแว่นตากันแดดสีดำอันใหญ่ ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น "ชะเอม..มาหาแม่มา" เขมิกาอ้าแขนรอรับลูกสาวที่เดินเตาะแตะอยู่บนพื้นทราย ก่อนที่ร่างตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อยจะเดินมาหาผู้เป็นแม่"หืม ได้อะไรมาคะ" เธอก้มดูมือน้อยๆของลูกที่กำเปลือกหอยสีสวยไว้ในมือ"ให้พ่อหรอลูก" ชาตรียื่นมือไปรับเมื่อชะเอมทำท่าจะยื่นให้เขา แต่กลับชักมือกลับเสียอย่างนั้น"อ้าว ไม่ให้พ่อหรอ" เด็กน้อยฉีกยิ้มอารมณ์ดีจนเห็นฟันสองซี่ด้านหน้า "โชน ทำอะไรอยู่ครับ" ชาตรีเดินเข้าไปถามบุตรชายที่นั่งเล่นก่อกองทรายที่เหมือนไม่ใช่กองทรายสักเท่าไหร่ ตามลำตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดทรายเต็มไปหมด เด็กชายหน้านิ่งเงยหน้ามองพ่อพลางอมยิ้มนิดๆ นิดเดียวเท่านั้น แต่นี่คือดีใจสุดๆของเขา
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 49ชายหนุ่มและหญิงสาวนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนอนอันแสนนุ่มผ้าห่มหนาถูกคลุมโปงเพื่อหนีแสงแดดที่ส่องสว่างเข้ามาทางม่านหน้าต่าง ดวงตากลมโตกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ "เอ๋? ยังไม่เช้าหรอเนี่ย" เขมิกาพึมพำซบอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่ม ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ในลำคอเบาๆ "ใครบอกว่ายังไม่เช้าล่ะ" ชาตรีเปิดผ้าห่มออกทำให้ร่างกายเปลือยเปล่าปะทะกับอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว เขมิการีบขว้าผ้าห่มมาคลุมกายไว้อย่างรวดเร็ว"พี่ชาตรีอ่า" เธอทำหน้ายู่อย่างแง่งอน คนตัวโตชอบแกล้งเธออยู่เรื่อย"ฮ่าๆๆ พี่ชอบเขมแบบนี้จัง น่ารักดี" มือหนาบีบแก้มเจ้าหล่อนก่อนจะก้มลงจุ๊บปากอย่างเอ็นดู "อื้อ~ ไม่ต้องเลย" เธอสะบัดหน้างอนๆ ก่อนจะหอบผ้าห่มคลุมกายลงจากเตียง"เฮ้ย! เขม พี่หนาวนะ ฮ่าๆๆ" ชายหนุ่มร้องตามหลังภรรยาเมื่อตอนนี้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอยู่บนที่นอนขนาดกว้าง ฟันกระทบกันเสียงดังเมื่อรู้สึกหนาวจนตัวสั่น ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวลงจากเตียงตามหญิงสาวไป"เข้ามาทำไมเนี่ย" เธอหันไปแห้วเขาอย่างตกใจเมื่อเธอกำลังอาบน้ำอยู่เพลินๆ ชาตรีรวบกอดเธอจากด้านหลังก่อนจะบีบสบู่เหลวมาถูตา
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 48~ประเทศเกาหลี~ร่างบางในชุดกันหนาวขนสัตว์อันหนานุ่ม ยืนกอดอกมองออกไปด้านนอกที่โปรยปรายไปด้วยหิมะสีขาวสะอาดตา เธอเลือกมาที่เกาหลีเพราะอยากมานานแล้วแต่ไม่เคยได้มา วันนี้เธอจึงถือโอกาสมาเที่ยวให้หนำใจ ช่วงที่เธอมาเป็นช่วงหน้าหนาวพอดิบพอดี อุณหภูมิติดลบหลายองศาทำเอาหนาวเย็นไปถึงกระดูก แม้จะเตรียมตัวมาอย่างดีแต่เอาเข้าจริงๆ มันหนาวเหน็บมากๆ "ทำอะไรอยู่ หืม" ร่างสูงโปรงในชุดกันหนาวตัวใหญ่เดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลัง ควันพวยพุ่งออกจากปากและจมูกเมื่ออากาศหนาวเหน็บ ชาตรีหยิบผ้าพันคอก่อนจะสวมใส่ให้เธอ"กำลังคิดอยู่ว่าวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนดี" เธอหันไปตอบเขายิ้มๆ เธอตั้งใจมาฮันนีมูนหนึ่งอาทิตย์ ส่วนลูกเธอฝากให้แม่ดูแลแทน "แล้วเขมอยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ" ใบหน้าหล่อเหลาซบลงที่ไหล่ข้างซ้ายของเธอ "เขมดูๆไว้สองสามที่ค่ะ แต่ที่เขมอยากไปมากๆก็จะเป็นโซลทาวเว่อร์ค่ะ เขมเคยดูละครมันโรแมนติก มากๆเลยนะ" เธอเอ่ยเสียงสดใส "งั้นไปกันเลยมั้ย" "มันจะดีนะ ฮ่าๆๆ" เธอป้องปากหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนตัวโตถึงกับยิ้มตามความน่ารักของเธอ "ปะ ไปกัน" มือหนากุมมือหญิงสาวไว้มั่นก่อนจะพาเธอเด
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 47หลายวันผ่านไปชาตรีได้ย้ายกลับไปอยู่บ้าน โดยมีเขมิกาเฝ้าดูแลตลอดเวลา หญิงสาวคอยเช็ดตัวและหาข้าวหายาให้กินตลอด ตอนนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว แผลเริ่มหายสนิทดี เพราะเขาได้กำลังใจที่ดีจากภรรยาและลูกที่น่ารัก"อุ๊ย!" เขมิกาสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อถูกรวบกอดจากด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเย็น "หอมจัง" ชายหนุ่มสูดดมความหอมจากพวงแก้มใสซ้ำแล้วซ้ำเล่า วงแขนกำยำกักขังเธอไว้ในอ้อมกอด"อื้อ พี่ชาตรีคะ เขมทำกับข้าวอยู่นะ" เธอเบี่ยงหน้าหลบจมูกซุกซนของสามีหนุ่มที่เอาแต่กอดหอมเธออยู่แบบนั้น "ทำอะไรกินหรอ" เขาชะเง้อมองแกงที่เดือดปุดๆอยู่ในหม้อ กลิ่นหอมลอยเตะจมูก"แกงเลียงค่ะ เขมเปิดเจอก็เลยอยากกิน มีประโยชน์ดีนะคะ" เธอเทกุ้งที่แกะเปลือกเรียบร้อยใส่หม้อ ก่อนจะปรุงรสนิดหน่อยก็เป็นอันเสร็จ"เขมเก่งจัง" เขาเอ่ยชมภรรยาเสียงหวาน ยิ่งอยู่ใกล้เธอเขายิ่งรักเธอมากขึ้นไปทุกวันๆ "ก็เขมมีครอบครัวแล้วนี่คะ ก็ต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดีสิคะ " เธอว่าพลางยกอาหารไปวางบนโต๊ะกับข้าวโดยมีชายหนุ่มคอยช่วย "แล้วลูกล่ะคะ" เธอเอ่ยถามชาตรี เพราะเธอให้เขาดูลูกให้ตอนลูกหลับ"ยังไม่ตื่นเลย แต่เดี๋ยวก็คงตื่
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 46ภายในห้องพักฟื้นพิเศษ ร่างบางนั่งกุมมือชายหนุ่มไว้ใบหน้าแนบลงที่มือของเขาเบาๆ ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้วคนที่นอนแน่นิ่งก็ยังไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมาเลย เขมิกานั่งมองหน้าชายหนุ่มที่เฝ้ารอมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หยดน้ำใสใสเอ่อคลอที่ดวงตาคู่สวยก่อนจะรินไหลอาบแก้ม"ตื่นได้แล้วนะ.. เขมกับลูกรอพี่อยู่นะ.." เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ หมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องพักฟื้นให้แผลที่ถูกยิงหายดีเสียก่อน เธอรู้แล้วว่าเธอรู้สึกเสียใจแค่ไหนที่เห็นเขาเกือบตายในตอนนั้น เธอจะอยู่ต่อไปยังไงเธอยังนึกไม่ออก เธอผิดเองที่แอบไปโดยพละการแบบนั้น หากเขามาช่วยเธอไม่ทัน ป่านนี้เธอกับลูกจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้.."ฮึก~ เขมขอโทษนะคะ เขมรักพี่นะ" เขมิกาฟุบหน้าลงร้องไห้ที่ท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่ม จู่ๆเธอก็รู้สึกว่านิ้วเขาขยับเพียงเล็กน้อย เธอเบิกตากว้างอย่างดีใจ"พะ..พี่ชาตรี..พี่ชาตรีฟื้นแล้วหรอคะ" เธอถามคนที่นอนนิ่งบนเตียงอย่างตื่นเต้น เธอคงไม่ได้คิดไปเองหรอกใช่มั้ย.. เปลือกตาอันหนักอึ้งค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ชาตรีกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชินกับแสงสว่างในห้องเขามองไปรอบๆห้องช้าๆ ก่อนจะมาหยุดที่ใบหน
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 45"เขม!! ระวัง!!!"ปัง!! ปัง!!เสียงปืนดังขึ้นติดกันสองนัด ก่อนที่ร่างของกิ่งเหมยจะล้มลงบนพื้นกิตติวิ่งมาประคองร่างของบุตรสาวที่นอนหายใจรวยรินเมื่อกระสุนเจาะที่กลางหน้าอก เลือดไหลทะลักออกปากและจมูก ลีวายลดปืนลงก่อนจะวิ่งไปดูชาตรีที่ทรุดลงเช่นกัน ชาตรีคว้าเขมิกาไว้ก่อนจะเอาตัวบังกระสุนแทน กระสุนปืนเจาะช่วงไหล่ซ้ายเกือบทะลุหัวใจของเขาอย่างจัง ร่างสูงทรุดฮวบลงทันควัน"พี่ชาตรี!!!!!" เขมิกากรีดร้องออกมาดังลั่น เมื่อเห็นร่างผู้เป็นสามีล้มลง น้ำตาเธอรินไหลอาบแก้มเธอประคองหัวเขาให้นอนหนุนตัก "อึก~" ชายหนุ่มเบ้หน้าอย่างเจ็บปวด "ฮืออ~ พี่ชาตรีอย่าเป็นอะไรนะคะ ฮึก~ ช่วยด้วย!! ฮืออ~ " เธอร้องไห้อย่างบ้าคลั่งเมื่อเขาแทบไม่มีสติ มือบางเขย่าตัวเขา ไม่ให้เขาหลับเธอกลัว..กลัวจะเสียเขาไป.."อึก..ขะ..เขม..ซี๊ดด~ เขมไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย" เขายิ้มให้เธอน้อยๆ เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเขามาก ร่างบางส่ายหน้าไปมา"ไม่ค่ะ เขมไม่เจ็บ พี่อย่าเป็นอะไรนะ ฮืออ~ " เธอประคองใบหน้าเขาไว้ มืออีกข้างโอบกอดเขาไว้แนบกาย"พะ..พี่ฝากดูลูกด้วย..นะ.." เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง เลือดสดๆ ไหลรินเป็นทาง หมอธีร์วิ
ความคิดเห็น