นางละทิ้งคนรักที่หักหลัง ทิ้งแม้กระทั่งชื่อเดิม แต่กลับมาพบกับท่านอ๋องแห่งม่านโจว นางกลัวตัวตนจะถูกเปิดเผยจึงหลีกหนี แต่เขากลับสนใจและตามติดดุจเงา “ใครใช้ให้นางปากแข็ง ถ้าไม่ชอบแล้วจูบตอบข้าทำไมเล่า!” "ไป๋หรูเฟย" หนีความผิดหวังทั้งในตัวคนรักเก่า และบิดามาจากเมือง "ซานตง" นางเลือกที่จะมาที่เมือง "ม่านโจว" เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับพบกับเขา.... "จ้าวเฟิงหมิง" ท่านอ๋องที่ปกครองเมืองม่านโจว เขาสุขุมและเด็ดขาดในการปกครองคนและกองทัพ แต่เมื่อพบกับนาง เขาก็เกิดสนใจนางขึ้นมาจนตามสืบ แต่เมื่อสืบลึกลงไปแล้ว เขาก็ยิ่งอยากรู้ว่านางเป็นใครมาจากไหน จากแค่เริ่มสนใจตามหน้าที่ กลายเป็นความผูกพัน ยิ่งนางหลบหลีกเขาเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากติดตาม “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ค่อยชอบหน้าข้านะ ไม่อยากต้อนรับข้างั้นหรือไป๋หรูเฟย” จากแค่อยากยั่วโมโหเพื่อผ่อนคลาย กลับกลายเป็นความชอบไปโดยไม่รู้ตัว จากชอบ...ก็เริ่มตามติด และอยากอยู่ใกล้ ๆ จนตามหึงหวง...
ดูเพิ่มเติมจวนแม่ทัพหลิง / เมืองซานตง / แคว้นฉิน
“คุณหนู ฮูหยินบอกว่าให้ท่านแต่งตัวเจ้าค่ะ”
“หึ อนุเหวินให้ข้าแต่งตัว เพื่อที่จะไปดูน้องสาวแต่งงานกับอดีตคู่หมั้นของข้างั้นหรือ”
“คุณหนู”
“เอาเถอะ ในเมื่อนางอยากให้ข้าแต่ง ก็จะแต่งไปร่วมอวยพรให้พวกเขาสักหน่อยก็แล้วกัน”
“ผ่าง!”
ประตูหน้าห้องของคุณหนูใหญ่ “หลินหยุนซี” เปิดพร้อมกับสาวใช้สูงอายุอีกสองคนที่เดินเข้ามา แม้จะดูมีอำนาจจนสาวใช้ที่เหลือของนางกลัว แต่กลับมิได้ทำให้หลินหยุนซีรู้สึกกลัว นางหันมามองทั้งสองที่แม้จะกล้ากับสาวใช้ แต่ก็ไม่กล้ากับหยุนซี
“คุณหนูใหญ่ พวกข้ามาช่วยท่านแต่งตัวเจ้าค่ะ”
“คนของข้ามีมากมาย ไม่จำเป็นต้องรบกวนคนของอนุเหวินหรอก”
รอยยิ้มของสาวใช้กระตุกขึ้นเล็กน้อย เมื่อนางเอ่ยถึงผู้เป็นนายของทั้งสอง น้ำเสียงของพวกนางเริ่มแข็งขึ้น
“คุณหนูใหญ่ บัดนี้ฮูหยินมิได้เป็นเพียงอนุแล้ว บัดนี้ท่านแม่ทัพยกให้นางดูแลจวน อีกทั้ง…”
“อ๊ากกก!!!”
หญิงสาวหันมา ปิ่นปักผมประดับมุกแทงลงไปที่หัวไหล่ของสาวใช้สูงอายุที่กำลังพูดอยู่ สายตาบ่งบอกถึงความโกรธและการไม่ยอมรับ สาวใช้อีกคนกรีดร้องและล้มตึงไปข้าง ๆ เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
“เป็นแค่หญิงที่แย่งสามีชาวบ้าน แค่ก้าวขาย่องขึ้นเตียงบิดข้าจะให้ข้ายอมรับงั้นหรือ ฝันไปเถอะ”
“โอ๊ย! คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ได้โปรดไว้ชีวิตบ่าวด้วยบ่าวปากไม่ดี บ่าวผิดเองเจ้าค่ะ”
ปิ่นแหลมถูกดึงขึ้นมา เลือดของสาวใช้พุ่งจนนางกรีดร้อง หยุนซีทิ้งปิ่นลงพื้น พร้อมกับหันไปเหยียบมือของสาวใช้อีกคนข้าง ๆ สายตาเหยียดใช้มองผู้ที่ต่ำต้อยกว่าอย่างไม่ปรานี
“พวกเจ้าไปบอกอนุเหวิน ว่าข้ามีปัญญาจัดการเรื่องชุดเอง ไม่ต้องสาระแนส่งใครมา ออกไป!”
“จะ เจ้าค่ะ ๆ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
สองสาวใช้สูงวัยรีบลุกขึ้น คนหนึ่งบาดเจ็บเพราะโดนแทงที่หัวไหล่ ส่วนอีกคนนิ้วมือเกือบหักเพราะถูกเหยียบ พวกนางรีบวิ่งไปปิดประตูไปทันที ความโหดเหี้ยมของคุณหนูใหญ่สกุลหลิน ไม่มีใครในจวนที่ไม่ทราบ
“คุณหนู”
“ยังไม่รีบเตรียมชุดให้ข้าอีกหรือ จินถาน เป้าเซี่ย พวกเจ้าเร่งมือเข้าเดี๋ยวข้าจะไปไม่ทันอวยพรคู่บ่าวสาว”
""เจ้าค่ะคุณหนู""
รอยหยักยิ้มร้ายกาจเผยออกมาบนใบหน้าของคุณหนูใหญ่ แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่ แต่ก็ยังเป็นบุตรคนรองของแม่ทัพ “หลินฟ่าน” เนื่องจากผู้เป็นบิดามีบุตรนอกสมรสกับสตรีอื่นที่มิใช่ภริยาเอก ดังนั้นต่อให้เป็นคุณหนูใหญ่ แต่ก็เทียบไม่ได้กับบุตรที่มีมารดาอย่างคุณหนูรอง “หลินเสี่ยวถง”
ยี่สิบวันก่อน
“อะไรนะ… หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าให้ข้าถอนหมั้น!”
“ที่จริงเรื่องนี้ต้องโทษคนแซ่หลี่ ไม่ใช่ ๆ ต้องโทษถงเอ๋อร์ที่งดงามเกินไป ก็เลยเตะตาบุตรคหบดีของซานตงเข้า คุณหนูใหญ่เจ้าก็อย่าได้เสียใจไปเลย ข้ากับท่านพ่อของเจ้าเตรียมคู่หมั้นที่เหมาะสมให้กับเจ้าแล้ว”
หลินหยุนซีหันไปมอง “เหวินไห่ถาง” ที่จีบปากจีบคอพูด หลังจากที่มีข่าวว่าบุตรชายคหบดีเกิดถูกตาต้องใจหลินเสี่ยวถง แต่ที่จริงแล้วคือนางจัดแจงสลับยามตกฟากของทั้งสองคนไปที่สกุลหลี่
“ใครงั้นหรือ”
“ไม่ใช่ใครอื่น”
“อนุเหวินคงหลงลืมฐานะของตัวเองไปกระมัง ต่อให้เจ้าถูกเรียกเป็นฮูหยินของจวน แต่ก็ควรจะวางตัวกับข้าซึ่งเป็นบุตรีภรรยาเอกของท่านพ่อ เจ้าอยากถูกโบยหรือ!”
“ข้าน้อยมิกล้า คุณหนูใหญ่เชิญเจ้าค่ะ นี่คือเทียบหมั้นหมายที่ถูกกำหนดวันมาแล้ว”
หยุนซีหันไปหยิบขึ้นมามองและอ่านดูจนครบ นางหัวเราะออกมาดัง ๆ พร้อมกับพับเทียบนั้น โยนฟาดใส่หน้าผู้เป็นอนุของบิดาทันที
“กรี๊ด! คุณหนูใหญ่ ท่านจะทำเกินไปแล้วนะ”
“เทียบหมั้นหมาย พร้อมสินสอดมหาศาลของ “หวังจินสั่ว” ขุนนางกรมคลังที่แต่งงานมาแล้วหกครั้ง มีอนุมาแล้วสี่คน เหวินไห่ถาง ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้สินะ!”
“ไม่นะเจ้าคะ ข้าไม่รู้เรื่อง”
“ไม่รู้เรื่องงั้นหรือ แม้แต่ใส่บุตรสาวถวายพานให้กับชายที่กำลังจะหมั้นหมายอยู่แล้วเจ้ายังกล้าทำ วิธีเช่นนี้เจ้าคงจะถนัดสินะ ใครอยากแต่งก็แต่งไป ข้าไม่แต่ง!”
“แต่เจ้าต้องแต่ง!”
เสียงขึงขังของแม่ทัพหลินเดินเข้ามาในห้องโถง แม้ว่าจะเอาแต่ใจและทำตัวร้ายกาจ แต่หยุนซีก็ให้ความเคารพหลินฟ่านในฐานะบิดาผู้ให้กำเนิดอยู่เสมอ แม้เขาจะไม่เคยใส่ใจนางในฐานะบุตรสาวเลยก็ตาม
“ท่านพ่อ”
“ซีเอ๋อร์ ข้าเห็นแก่แม่ของเจ้าจึงได้จัดหาคนดี ๆ ที่เหมาะสมให้แต่งงานกับเจ้า เหตุใดจึงไม่พอใจอีก”
“แต่คนผู้นี้มักมากในกาม เขาทรมานสตรีและบังคับขืนใจพวกนาง ท่านจะให้ข้า…”
“ใช่! บัดนี้เขากำลังจะรั้งตำแหน่งเจ้ากรมคลังคนใหม่ ฐานะและหน้าตาเหมาะสมกับจวนสกุลหลินของเรา เจ้าได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาวคนโตสกุลหลิน เรื่องนี้ทำเพื่อตระกูลหลินไม่ได้หรือ”
เหวินไห่ถางแอบหัวเราะอยู่ด้านหลัง หยุนซีรู้ดีว่าสักวันต้องมีวันนี้ วันที่นางและบิดาต้องมีปัญหากันเพราะอนุของเขา
“ลูกไม่แต่ง”
“นี่เจ้าจะขัดคำสั่งข้างั้นหรือ!”
“ท่านพี่ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะ”
“หุบปาก! มีสิทธิ์อันใดมาเรียกข้าเช่นนั้น”
“นะ นายท่าน ใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ”
แม้ว่าจะยกนางให้เป็นฮูหยิน เพียงเพราะบุตรคนรองต้องแต่งกับบุตรชายคหบดีหลี่ซุน ซึ่งร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งของซานตง เขาจึงต้องยกฐานะให้นางจากอนุเป็นฮูหยินรองเพื่อจะได้ไม่น้อยหน้าคู่สมรส
“ซีเอ๋อร์ ทุกอย่างถูกเตรียมการแล้ว อีกสิบวันถิงเอ๋อร์ก็จะแต่งงาน เจ้าเองก็รีบเตรียมตัวเถอะ”
“ที่แท้ท่านพ่อก็เห็นแก่หน้าวงศ์ตระกูล มากกว่าความสุขของลูก ถึงกับยอมให้ลูกอนุแย่งคู่หมั้นของลูกไป แล้วให้ข้าแต่งงานกับคนสารเลวบ้ากามแห่งซานตง”
“เพี๊ยะ!”
ฝ่ามือหนาพาดไปที่ใบหน้าของหญิงสาวในวัยยี่สิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่บิดาลงมือกับนางเช่นนี้ หลินหยุนซีได้แต่หันไปมองบิดาที่ให้กำเนิดด้วยสายตาที่เจ็บปวดที่สุด แต่ผู้เป็นบิดาราวกับมิได้ใส่ใจความรู้สึกนางเลยแม้แต่น้อย ส่วนอนุเหวินได้แต่ยิ้มด้วยความสะใจอยู่ด้านหลัง
“ท่านพ่อ… นี่ท่าน...”
แม่ทัพหลินรู้สึกผิด ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยแม้แต่จะตีนางด้วยซ้ำ
“ท่านไม่เคยตีข้าเลย มาวันนี้แค่เรื่องนี้ถึงกับลงมือกับข้า”
“เจ้ามันดื้อรั้นเอาแต่ใจจนเคยตัว แม้ว่าจะไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียแต่… เจ้ารีบกลับไปที่ห้อง จากนี้อีกสิบวันกักบริเวณห้ามออกจากจวน จนกว่าจะถึงงานแต่งของถิงเอ๋อร์ พาตัวนางไป”
กลับมาที่ห้อง
“คุณหนู เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
“ขอบใจพวกเจ้ามาก รีบไปเตรียมตัวเถอะ”
""เจ้าค่ะ""
รอยยิ้มหยักบนใบหน้ากรีดออกมาอีกครั้ง หลังจากที่สวมปิ่นอันสุดท้ายที่ศีรษะ
“ได้เวลาอวยพรคู่บ่าวสาวแล้ว”
สาวใช้เดินไปเปิดประตู คุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพเดินอย่างผ่าเผยเพื่อไปยังห้องโถงพิธีเพื่อรอคู่บ่าวสาวเดินเข้ามาทำพิธีด้านใน เมื่อเดินเข้าไปถึง คหบดีหลี่และฮูหยินก็หลบสายตานางทันทีเพราะความละอายใจ ที่บุตรชายของเขาทำเรื่องที่ผิดกับนาง
“คู่บ่าวสาว เข้าสู่พิธีได้”
เมื่อเสียงประกาศดังขึ้น คู่บ่าวสาวในชุดสีแดงก็เดินเข้ามาในห้องโถง
“สาม…”
ทั้งคู่รับโบมงคลสีแดงและถือเอาไว้คนละข้าง ผ่านกระถางไฟและธรณีประตูเข้ามาในห้องโถง
“สอง….”
เจ้าบ่าวที่หันมาเห็นหลินหยุนซีในชุดสีขาวประดับไข่มุก ทั้งตัวแลดูงดงามไร้ที่เปรียบ ยิ่งทำให้เขารู้สึกสำนึกผิดกับนาง แต่เมื่อมองสีหน้าของนางแล้ว เขากลับรู้สึกว่าบัดนี้หยุนซีกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักอีกต่อไป รอยยิ้มร้ายนั้นปรากฏก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้น
“หนึ่ง!”
“กรี๊ด!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย! เร็วเข้ารีบเอาออกไปหมด!”
ร้านขนมหรูเฟย“ไม่ได้นะเพคะพระชายา นั่งอยู่เฉย ๆ เถิดเพคะ”หรูเฟยลุกขึ้นมาหยิบขนม เพื่อจะนำออกไปหน้าร้านแต่กลับถูกจินถานดึงเอาไว้“พี่หรูเฟยท่านอย่ายืนตรงนี้สิเพคะ เดินไปนั่งในสวน แต่ถ้าไม่รู้จะทำอะไรก็กลับตำหนักไปก่อนเถิดเพคะ เดี๋ยวหกล้มไปท่านพี่จะหาว่าข้าไม่ดูแลท่านเอานะ"“ท่านหญิงเพคะ! เหตุใดจึงต่อว่าพระชายาเช่นนั้น พระชายาเพคะ…”“แม่นมเซี่ยอย่าไปต่อว่านางเลย อันถิงก็มักจะพูดเช่นนี้ท่านยังไม่ชินอีกหรือ ข้าไปนั่งตามที่นางสั่งดีกว่าจะได้ไม่วุ่นวายคนอื่นด้วย”“หม่อมฉันพยุงไปเองนะเพคะ”แม่นมเซี่ยเป็นฝ่ายช่วยพยุงนางไปนั่ง ตอนนี้อันถิงแทบจะทำงานแทนนางได้ทุกอย่างในร้านแล้ว เพราะหรูเฟยสอนให้นางเริ่มดีดลูกคิดและทำบัญชี แม้ว่าจะยังไม่เก่งมากแต่อันถิงเป็นเด็กหัวไว สอนเพียงนิดเดียวก็จำได้แล้ว หรูเฟยนั่งมองทั้งสามคนดูแลลูกค้า สักพักอันถิงก็ยกขนมมาวางให้นาง“นี่อะไรหรือ”“พี่หรูเฟยเมื่อครู่นี้ข้าตะคอกใส่ท่านรุนแรงไปหน่อย เพราะเป็นห่วงกลัวว่าท่านจะหกล้ม ข้าขอโทษด้วยเพคะ"“เด็กดี ข้าต่างหากที่มาเพิ่มความวุ่นวายให้เจ้า นี่หมั่นโถวที่เจ้าทำเองหรือ ฝีมือเจ้าเก่งขึ้นมากเลยนะ”“ใช่เพคะ ข้าให้พี่จินถานส
“อะไรนะเพคะ เมื่อครู่นี้ในห้องอาบน้ำนั่น…ก็ตั้งหลายรอบแล้ว”“ข้ารู้ว่าเจ้าคงเหนื่อยสินะ เห็นแม่นมเซี่ยบอกว่าช่วงนี้เจ้าเอาแต่ง่วงนอนในช่วงบ่าย ขนาดสอนอันถิงเดินหมากเจ้ายังเผลอหลับ จริงหรือไม่”“หม่อมฉันแค่รู้สึกเพลียมากกว่าปกติ อีกอย่างอากาศเย็นร่างกายก็เลยมีแรงน้อยลงกระมังเพคะ”“เช่นนั้นเราก็ควรจะรีบกินให้อิ่ม แล้วพักผ่อนให้มาก ๆ คืนนี้ข้าจะไม่รังแกเจ้าแล้ว จะได้พักผ่อนให้เต็มที่”“เพคะ”ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันถึงหัวข้อเหล่านี้อีก แม้ว่าหรูเฟยเองจะยังรู้สึกเห็นใจท่านอ๋อง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยเขาและทำหน้าที่พระชายาให้ดีอย่างไร้ที่ติ ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนก็ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่านางเป็นสตรีที่เหมาะสมกับท่านอ๋องสิบวันถัดมา / ประชุมราชสำนัก“นอกจากเรื่องปัญหาชายแดนแล้ว ยังมีอะไรอีกหรือไม่”“ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมกับเหล่าขุนนางเห็นว่าในตอนนี้ บ้านเมืองสงบไร้ศึกสงคราม เหมาะสำหรับที่จะเพิ่มตำแหน่งสตรีสูงศักดิ์ เพื่อช่วยเหลือพระองค์คลายกังวลเกี่ยวกับ…”“พอเถอะใต้เท้าจาง สุดท้ายแล้วก็อยากให้ข้าแต่งตั้งสนม หรือไม่ก็พระชายารองเพิ่มงั้นสินะ”ใต้เท้าจางกระแอมออกมา และรีบหันไปหาคนอื่น ๆ เพื่อช่วย
ตำหนักท่านอ๋องวันนี้เป็นการประชุมราชสำนักประจำเดือนที่ค่อนข้างตึงเครียด เมื่อท่านอ๋องกลับมาถึงตำหนัก ก็มุ่งหน้าไปแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายในทันที เสียงประตูห้องอาบน้ำเปิดออกมา พระองค์คิกว่าหยวนจื่อนำผ้ามาให้จึงได้ตะโกนออกไป“วางเอาไว้แล้วออกไปเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการเอง”“เหตุใดจึงรีบไล่ถึงเพียงนี้เล่าเพคะ หม่อมฉันก็แค่อยากจะมาอาบน้ำให้พระองค์เท่านั้น”“หรูเฟยเจ้าเองหรือ แล้วหยวนจื่อเล่า”“หม่อมฉันให้หยวนจื่อไปรับอันถิงที่ร้านเพคะ วันนี้ควรจะกลับตำหนักเล็กได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนกับอาจารย์สอนวาดภาพ”“เช่นนี้เองสินะ”ไป๋หรูเฟยเดินมาใกล้ ๆ และพลันถอดชุดออกและเดินลงมาในสระน้ำอุ่น ท่านอ๋องกับนางแม้จะอภิเษกกันมากว่าสามเดือน แต่ก็ยังไร้วี่แววทายาท บัดนี้เริ่มถูกเหล่าขุนนางกดดันอีกครั้งด้วยเรื่องของผู้สืบทอด ซึ่งหากจะพูดให้ถูกก็คือ อยากให้ท่านอ๋องแต่งตั้งพระสนมเข้าวังมาเพิ่ม หรูเฟยรับรู้เรื่องนี้จากหยวนจื่อมาก่อนแล้ว จึงได้เข้ามาหาเขา“เอนศีรษะมาสิเพคะ วันนี้พระองค์คงเหนื่อยล้ามาก หม่อมฉันจะนวดให้นะเพคะ”“อืม… ยังคงเป็นเจ้าที่รู้ใจข้ายิ่งนัก วันนี้ประชุมหลายเรื่องมากจริง ๆ เลยรู้สึกล้า ก็เลยอยากอา
หรูเฟยมิได้ขัดขืน นางเพียงแค่โอบรอบคอเขาให้แน่นกว่าเดิมเพื่อให้ท่านอ๋องอุ้มไปที่ห้องนอน ซึ่งทั้งคู่มีค่ำคืนแห่งความทรงจำครั้งแรกด้วยกันที่นี่ และบัดนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ได้กลับมา“ยังจำได้หรือไม่”“จำได้สิเพคะ ไม่มีวันลืม”“เช่นนั้นเรามารำลึกความหลังกันอีกครั้ง ในวันนั้นเจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องวุ่นวายในใจ ครั้งนั้นพวกเราช่วยกันก้าวข้ามเรื่องนั้นมาได้ วันนี้มาที่นี่ในฐานะพระชายาของข้า ดังนั้นคืนนี้ก็เริ่มทำหน้าที่ของเจ้าเสียแต่โดยดี”“หม่อมฉันยินดีเพคะ”หรูเฟยเริ่มจากจูบเขาและค่อย ๆ ดึงฉลองพระองค์ของท่านอ๋องออกและเริ่มปลดเปลื้องชุดของตัวเองออกต่อหน้าเขา ท่านอ๋องแทบจะทนไม่ไหวเมื่อนางทำเช่นนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผิวเนื้อเนียนตรงหน้าที่ผ่านการขัดและอบร่ำสมุนไพรตามตำรับวังหลวง ทำเอาพระทัยท่านอ๋องสั่นไม่เป็นจังหวะ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว และเริ่มระเริงรักอุ่นเตียงก่อนที่เสียงดอกไม้ไฟลูกสุดท้ายจะดังขึ้น“อื้อ…อ๊าา เบาหน่อยเพคะ”“หอคอยในคืนนี้ไม่มีคนอื่น มีเพียงเราสองคน ต่อให้เจ้าร้องดังมากเท่าใดก็ไม่มีใครได้ยิน”“อ๊าา….”ลิ้นของเขาฉกช่วงชิงความหวานจากยอดปทุมคู่งามอีกครั้ง มือหนาบีบเคล้นจนนาง
“เฟิงหมิง! ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเหตุใด….”“ก็มาตอนที่เจ้ากำลังคิดแผนการจะหนีงานแต่งน่ะสิ”“ข้าเปล่านะเพคะก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย”ท่านอ๋องจับตัวนางพลิกขึ้นมา และทาบตัวลงไปกดทับนางเอาไว้มิให้หนีทันที เขาใช้นิ้วหยอกไปที่ปลายจมูกของนางอีกครั้ง“ก็ลองทำดูสิ ดูว่าเจ้าจะถูกลงโทษเช่นไร”“ท่านอย่าทำรุ่มร่ามนะ ข้าไม่อยากมีรอยบนตัวในช่วงนี้ อายคนอื่น”“อายทำไมกัน เจ้าคิดว่าพวกนู่กวนหรือหมัวมัวพวกนั้นไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนหรือ ไม่เอาน่ายิ่งเจ้ามีครรภ์เร็วเท่าใดก็ยิ่งดี ข้าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องตอบคำถามของเหล่าขุนนาง ก่อนหน้านั้นก็เร่งให้ข้าแต่ง หลังจากแต่งก็คงเร่งให้มีบุตร ไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ”“เหนื่อยหรือเพคะ”“นิดหน่อยน่ะ วันนี้หลังจากประชุมเสร็จ หลิวกงกงก็พาช่างภูษามาวัดตัวและคุยเรื่องงานอภิเษก เจ้ากรมพิธีการคนใหม่ก็เร่งทำผลงานเสียจริง เอาแต่ถามข้าไม่หยุดว่าเจ้าชอบหรือไม่ชอบอะไร แม้แต่ม่านในห้องส่งตัวยังถามอยู่ตั้งสามสี่ครั้งว่าข้าชอบหรือไม่ ขอเอนหลังนอนตักเจ้าพักสายตาสักครู่เถอะ"ท่านอ๋องขยับไปนอนที่ตักของหรูเฟย ซึ่งลุกขึ้นมานั่งและให้เขานอนที่ตัก มือนางถูกเขาดึงไปจูบและกอดเอาไว
หรูเฟยเงยหน้าขึ้นมา และประทับจูบลงบนจมูกคมคายตรงหน้า นางลูบไปตามใบหน้าคมของเขา ท่านอ๋องหลับตาคล้อยตามสัมผัสของนาง ริมฝีบางอุ่นของหรูเฟยค่อย ๆ บดลงมาประกบกับปากอิ่มของเขา ร่างของทั้งคู่เริ่มเบียดกันจนผ้าห่มเริ่มหลุดรุ่ยลงไปจากเตียง“หรูเฟย…ข้าสัญญาว่าจะเบามือ”“กอดหม่อมฉันเถิดเพคะ”ท่านอ๋องมิได้รั้งรอหลังจากนั้น เขาอดทนรอให้นางหายมาหลายวัน จนวันนี้ที่ทุกอย่างถูกจัดการจนจบสิ้น คนร้ายได้รับโทษตามที่สมควร และท่านอ๋องก็ทำตามที่เคยให้คำมั่นไว้ “จัดการให้หมดทุกคนไม่มีข้อยกเว้น”“ข้ารักเจ้ายิ่งนัก หากทนไม่ไหวก็รีบบอก ข้าจะอ่อนโยนลง”“ข้ารักท่านจ้าวเฟิงหมิง ได้โปรดรักข้าเถิดเพคะ”จุมพิตเร่าร้อนได้เริ่มขึ้น ท่ามกลางค่ำคืนอากาศที่เริ่มหนาวเย็นกลางฤดูใบไม้ร่วง แผลบนเรือนร่างของนางตอนนี้เริ่มหายสนิทแล้ว เหลือแค่ที่ศีรษะซึ่งยังต้องทำแผลอยู่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าหายดีแล้ว“อ๊ะ…ท่านอ๋อง…”หน้าอกอวบถูกเขาบีบเคล้น ยอดอกที่แข็งเป็นไตสู้มือเมื่อถูกลิ้นอุ่นโลมเลียจนเปียก ร่องรักที่เริ่มแฉะถูกกระตุ้นด้วยนิ้วเริ่มส่งเสียงออกมา บทรักท่านอ๋องเร่าร้อนขึ้นตามไฟปรารถนาที่ลุกท่วม “อ๊าา…เฟิงหมิง อื้อ…”เสียงบดกระแท
ความคิดเห็น