เข้าสู่ระบบเซนต์ เอสเซียโน มาเฟียหนุ่ม อายุ 33 ปี สูง 188 ซม เขาโหดเหี้ยม เย็นชา ไร้ความรู้สึก เขาเป็นเปลวไฟจากนรกที่พร้อมจะแผดเผาใครก็ได้ที่กล้าลองดีกับอำนาจของเขาให้แหลกเหลวไม่เหลือแม้แต่กระดูก ใครหน้าไหนก็ตามที่มันกล้ามาเป็นศัตรูกับเขาโดยเฉพาะตระกูลแกรนด์เดย์เขาจะแผดเผาพวกมันทุกคนไม่ให้เหลือแม้แต่ป้ายชื่อหน้าหลุมศพ มายด์ เพียงพอใจ แกรนด์เดย์ อายุ 22 ปี สูง 160 ซม. เธอคือเหยื่อของความแค้นระหว่างสองตระกูลมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ที่เขานั้นหมายตาเอาไว้แล้วว่าจะต้องชำระแค้นกับเธออย่างสาสม การตายอย่างไร้เกียรติของพ่อเขาเธอต้องเป็นคนชดใช้ทั้งหมด
ดูเพิ่มเติม“มายด์ เพียงพอใจ แกรนด์เดย์ หน้าตาเธอเป็นแบบนี้ซินะ หึ”
มือหนาดึงรูปออกมาจากซองเอกสารที่ลูกน้องยื่นให้ก่อนหน้านี้ ซองนี้มาจากสายลับคนหนึ่งที่เขาส่งให้ไปแฝงตัวอยู่กับพวกตระกูลแกรนด์เดย์ ตระกูลชาติชั่วที่ฆ่าพ่อของเขา และลูกน้องคนนี้ก็ตายห่าไปแล้วหลงเหลือไว้เพียงซองเอกสารที่ถูกส่งเป็นจดหมายมาถึงเขาอย่างลับๆนี้
ก่อนจะวางรูปหญิงสาวสวยที่อยู่ในวัยสดใสอายุเพียงแค่ยี่สิบสองเท่านั้นลงกับโต๊ะทำงานไม้สักอย่างดี
หยิบเอามีดพกขนาดกำลังพอดีมือออกมาจากภายในเก๊ะของโต๊ะทำงานนั้นที่ด้ามมีดสลักชื่อตระกูลแกรนด์เดย์ออกมา
ปักมีดลงบนรูปภาพของหญิงสาวนั้นอย่างจงใจ ก่อนจะกรีดกรายปลายมีดไปทั่วจนรูปนั้นขาดไม่เหลือชิ้นดี
มีดที่เคยปักบนอกของพ่อเขาต้องได้ย้อนกลับไปปักอกคนของพวกมันเร็วๆนี้ เลือดจำต้องล้างด้วยเลือดเท่านั้นถึงจะสาสม
แล้วคนที่เขาหมายตาว่าจะให้เป็นเหยื่อของความแค้นสีเลือดนี้ก็คือเธอ เพราะมันคงทำให้พ่อของเธอทรมานจนแทบดิ้นตายเหมือนกับที่พ่อของเขาต้องพบเจอก่อนตาย
“เธอจะต้องชดใช้”
เซนต์จ้องมองรูปที่ขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดีนั้นอย่างไม่วางตา ไฟแห่งความแค้นกำลังลุกโชนภายในดวงตาแข็งกร้าวนั้นราวกับจะแผดเผารูปใบเล็กให้มอดไหม้ไปอีกทาง
“ทุกอย่างพร้อมแล้วครับนาย”
มาลิคลูกน้องคนสนิทที่ถูกขนานนามว่าเป็นมือขวาของมาเฟียอย่างเซนต์เดินเข้ามารายงานการเตรียมความพร้อมในเจ้านายที่เร่งงานไปก่อนหน้านี้ได้รับรู้
หลังจากที่เขานั้นออกไปจัดเตรียมลูกน้องห้าสิบคนกับรถยี่สิบคันเรียบร้อยแล้ว
“ประกาศออกไป ถ้าใครทำพลาดคราวนี้กูจัดตัดหัวมันด้วยมือกูเอง”
เซนต์ประกาศกร้าวออกไปก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปขึ้นรถที่ตั้งขบวนรอพร้อมอยู่แล้วนั้น
เมื่อเขานั้นต้องการให้การแก้แค้นครั้งนี้มันสำเร็จภายในครั้งเดียว เมื่อเขาไม่ชอบเสียเวลาทำอะไรซ้ำเป็นรอบที่สองหรือสาม
“ครับนาย”
มาลิคเดินนำหน้าเจ้านายออกไปก่อนเพื่อถ่ายทอดคำสั่งนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น ด้วยไม่บ่อยนักที่ศัตรูจะเดินทางอย่างเปิดเผยแบบนี้
“ออกรถได้แล้ว”
มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งเสียงดังลั่นบริเวณหน้าคฤหาสน์ของตัวเองเมื่อเดินมาถึงรถ ก่อนจะก้าวขึ้นรถพร้อมกับมีดสั้นของตระกูลแกรนด์เดย์นั้น
การแก้แค้นที่เขาเฝ้ารอมานานนับจากที่แผนล้มไปเมื่อคราวก่อนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มันจะต้องสำเร็จ
มีดเล่มนี้ที่เขาพกติดตัวเอาไว้ตลอดตั้งแต่เสียพ่อไปจะต้องได้ปักลงบนอกของคนตระกูลแกรนด์เดย์
“ครับนาย”
“ในที่สุดก็สอบวันสุดท้ายเสร็จสักที โอ๊ย เหนื่อยจะแย่แล้ว”
เสียงหวานของเพียงพอใจเอ่ยกับพูดกับผู้เป็นพ่ออย่างสดใสในขณะที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงบนเบาะนุ่มของรถคันหรูที่พ่อนั้นใช้มารับเธอกลับบ้าน
ด้วยวันนี้เป็นวันสอบเสร็จวันสุดท้ายทุกอย่างก็เลยดูมีความพิเศษไปหมด ทั้งที่ปกติแล้วพ่อไม่เคยมารับเธอกลับบ้านแบบนี้เลย มีแต่จะให้ลูกน้องมารับเธอเท่านั้น
เพราะเหตุที่ว่าจะไม่ให้เกิดจุดเด่นจนเกินไปกลัวคนจะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวมาเฟียด้วยการมาของพ่อเธอแต่ละครั้งนั้นมีรถล้อมหน้าล้อมหลังเกือบสิบคัน
และเธอก็เข้าใจผู้เป็นพ่อเป็นอย่างดีไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย ขอแค่กลับไปเจอกันที่บ้านก็พอ
แต่ครั้งนี้ผู้เป็นพ่อทำให้เธอเป็นพิเศษ ด้วยเธอไม่ได้กลับมาเรียน ณ ที่แห่งนี้อีกแล้วเมื่อเธอกำลังเรียนจบ
“พ่อยินดีด้วยนะมายด์ คนเก่งของพ่อ”
อัลวินเอ่ยแสดงความยินดีกับลูกสาวเพียงคนเดียวที่เกิดจากภรรยาเพียงคนเดียวของเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ด้วยในวันนี้ถือเป็นวันรองแห่งการประสบความสำเร็จอีกขั้นของลูกสาวของเขา
พร้อมกับยื่นดอกไม้ช่อโตที่เขาไปเลือกซื้อมาเองส่งให้กับลูกสาวเพื่อเป็นของขวัญเล็กๆน้อยให้กับเธอด้วย
“ปริญญาใบนี้มายด์ยกให้คุณพ่อนะคะ ตอบแทนที่จ่ายค่าเทอมให้หนู”
หญิงสาวเอ่ยอย่างน่ารักกับผู้เป็นพ่อ สดใสไร้เดียงสาในแบบฉบับของเธอด้วยถูกอบรมบ่มนิสัยมาเป็นอย่างดีจากคุณยายที่เกลียดพ่อที่เป็นมาเฟียเป็นที่สุดแต่ก็รับหลานสาวเป็นที่สุดเหมือนกันก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน
“พ่อขอเป็นคนมาช่วยงานพ่อจะดีกว่า”
ด้วยความที่อยากให้ลูกสาวมาช่วยงานเต็มแก่แล้ว เพราะอยากสร้างฐานอำนาจให้แก่ลูกสาวเอาไว้มากๆ เพราะถ้าเขาไม่อยู่แล้วก็จะได้ไม่มีใครกล้ามารังแกเธอ ก็เลยอยากจะให้เธอมาช่วยเขาทำงานเร็วๆ ไม่อยากจะให้ช้าไปแม้แต่วันเดียวเลย
“โอ๊ย ยังอยากจะนอนสักสิบวันอยู่เลย จะให้หนูไปเริ่มทำงานแล้วเหรอคะ”
“แล้วใครบอกว่าอยากจะตอบแทนพ่อกันนะ”
“มายด์เองค่ะ แต่ว่าไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้”
“อยากกินของอร่อยพ่อก็กำลังจะพาไปเลี้ยง ยังจะโอ้เอ้อีกเหรอ”
“ขอพักสองวันนะคะ ได้ไหมอ่ะ คุณพ่อใจดีกับหนูเยอะๆไม่ได้เหรอคะ”
เสียงหวานเอ่ยอย่างออดอ้อนคนเป็นพ่อตามสไตล์ลูกสาวที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจตั้งแต่จำความได้
“ได้สิ แล้วพ่อจะรอนะ”
แล้วผู้เป็นพ่อก็ต้องยอมแพ้ลูกอ้อนนั้น จำต้องให้ลูกสาวมีวันหยุดพักเข้าจนได้
“คุณพ่อใจดีจังเลย หนูรักพ่อที่สุดเลยนะคะ”
ช่อดอกไม้ก็ถือเอาไว้อย่างดีในอ้อมกอดเล็กๆนั้นของเพียงพอใจ ส่วนผู้เป็นพ่อเธอก็พยายามเข้าไปกอดพร้อมกันด้วย ทำเอาทุลักทุเลจนน่าขำขันออกมา
ด้วยทั้งชอบช่อดอกไม้จนวางไม่ลงและก็ทั้งรักพ่อเป็นที่สุดจนอยากจะกอดเอาไว้แน่นๆเพื่อตอบแทนความใจดีของท่าน
“ปัง”
เสียงปืนดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวกลางท้องถนนที่กำลังมีรถวิ่งสวนไปมา ก่อนรถทุกคันจะหยุดวิ่งอย่างกะทันหันแล้วหันหน้ามาหารถของเพียงพอใจและพ่อของเธอ
ราวกับเป็นภาพที่ถูกวาดขึ้นอย่างตั้งใจจากใครสักคน ที่สามารถสั่งให้รถทั้งถนนในระยะสายตานั้นเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวและหมายตารถของเพียงพอใจเพียงคันเดียวเท่านั้น
“หายหัวไปไหนวะ”เซนต์ตื่นขึ้นในช่วงเย็นของวัน นับเป็นเวลาปกติของเขาที่จะนอนในตอนเช้าและตื่นขึ้นในตอนเย็นเพื่อจะออกไปทำงานแต่ทว่าวันนี้กลับต่างออกไปเมื่อเขาไม่ได้จะรีบตื่นขึ้นไปทำงาน แต่กลับตื่นขึ้นเพราะรู้สึกว่าคนที่นอนกอดมาหลายชั่วโมงนั้นหายไป“คิดหนีเหรอวะ”คนตัวโตรีบหยิบฉวยเอาผ้าเช็ดตัวที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดมาห่อคลุมร่างกายท่อนล่างเอาไว้ แล้วรีบเดินออกจากห้องไปในทันทีที่พอจะรวบรวมสติในตอนที่เพิ่งจะตื่นนอนได้ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายดังออกไป เมื่อคิดว่านางบำเรอชั้นดีจะหนีไปจากสังเวียนบนเตียงนอนนั้น“นายครับๆ ตื่นหรือยังครับ”โจและลูกน้องอีกสองสามคนย่องเบาขึ้นมายังชั้นบนของบ้านเพื่อจะปลุกเจ้านายเมื่อเห็นว่าเมื่อเช้าเจ้านายเมาหนักแล้วก็หายตัวขึ้นมานอนข้างบนเลย และไม่ลงไปยังข้างล่างอีกเลย ดูผิดปกติเกินไปจนลูกน้องอย่างพวกเขานึกเป็นห่วง“ไอ้เหี้ย!!!”เซนต์ได้ยินเสียงเหมือนลูกน้องเรียกก็เลยหันหน้าไปตามเสียงเรียกนั้น ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าลูกน้องนั้นพากันไปยืนอยู่หน้าห้องนอนของตัวเองแล้วเป็นตัวเขาที่มานอนค้างห้องของนางบำเรอทั้งที่เขาไม่เคยคิดจะนอนค้างกับผู้หญิงหน้าไหนมาก่อน ด้วยเข
“เธออยู่ไหน”เซนต์กลับถึงบ้านหลังใหญ่ของเขาในเวลาหกโมงเช้าพอดิบพอดี เขานั้นเดินลงจากรถเข้าไปในบ้านเองได้ด้วยอาการเซไปข้างหน้าสามก้าวถอยหลังมาข้างหลังสองก้าว สลับกันไปมาจนกระทั่งก้าวเข้าไปภายในบ้านได้สำเร็จ“ในห้องครับ”ลูคัสผู้รับหน้าที่เฝ้าบ้านในค่ำคืนที่ผ่านมาและยังไม่ได้สับเปลี่ยนเวรกลับใครเป็นคนรายงานเรื่องที่อยู่ของเธอให้กับเจ้านาย ด้วยในเช้าวันนี้หญิงสาวผู้นั้นยังไม่ตื่นนอน“กูไม่เรียกไม่ต้องให้ใครขึ้นมา”เขาสั่งลูกน้องให้ออกห่างจากบริเวณชั้นสองของบ้านทั้งหมดเมื่อเขานั้นต้องการสนุกกับนางบำเรอของเขาให้เต็มที่แล้วร่างหนาแสนกำยำนั้นก็เดินขึ้นชั้นสองของบ้านด้วยอาการเมาแทบยืนไม่อยู่ เกาะราวบันไดขึ้นไปอย่างทุลักทุเลพอสมควร แต่ทว่าก็ไม่ได้ให้ลูกน้องเข้าช่วยเหลือเพราะเขาก็เมาแบบนี้บ่อยๆและก็ดูแลตัวเองได้ดีไม่เคยล้มลงไปให้ต้องเสียชื่อเสียงแม้แต่นิดเดียว“ครับนาย”“ตื่นหรือยัง”กว่าเขาจะเดินมาถึงยังห้องของนางบำเรอก็ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่นานกว่าปกติค่อนไปทางมากเลยล่ะพอมาถึงเขาก็เปิดประตูห้องเข้าไปภายในห้องที่ไม่ได้ถูกสั่งให้ล็อกเอาไว้เนื่องจากคนภายในห้องไม่ได้คิดหนีเลยไม่มีความจำเป็น
“กลัวเด็กมันแจ้งความจับเอาอีกหรือไงวะ”เสียงแซวดังมาจากปากของบอนเนอร์ที่ในตอนนั้นเขาเป็นตัวตั้งตัวตีช่วยเพื่อนจากการนอนคุกมาได้“ไม่ได้กลัวโว้ย แค่กูอยากจะกินเหล้าให้สบายใจก็แค่นั้นเอง”ออสตินปฏิเสธการกลัวเมียเสียงแข็ง แต่เขาก็แค่เกรงใจไม่อยากทำอะไรที่มันจะทำให้เด็กมันไม่สบายใจก็แค่นั้นเอง“อืม”“นายขา เหล้าค่ะ”ส่วนเซนต์เขาก็ให้สาวๆหุ่นอวบๆบริการเขาได้อย่างเต็มที่ เพราะก็มีแต่สาวๆหน้าเดิมๆที่เคยถูกใจเขาเข้ามาบริการทั้งนั้นเลย“อืม”“ให้หนูนวดให้นะคะ นายจะได้สบายตัว”“อืม”“ใส่น้ำหอมอะไรมาวะ เหม็นฉิบหาย”แต่พอสาวๆพวกนั้นมานัวเนียกับเขาเข้าจริงๆเขากลับแทบอ้วกพุ่งออกมา เมื่อเหม็นน้ำหอมที่พวกเธอประโคมใส่บนตัวนั้น“ก็กลิ่นเดิมไงคะ ที่นายเคยชอบ”“กูเคยบอกหรือไง”“เปลี่ยนคนเข้ามาใหม่”เห็นเพื่อนเหมือนจะไม่ถูกใจสาวๆในชุดแรก บอนเนอร์ก็เรียกหาสาวๆชุดใหม่ให้เข้ามาแล้วเอาคนเก่าออกไประดับเจ้าของผับดังใจกลางเมืองอย่างเขาแล้วจะไม่มีวันเสียชื่อด้านบริการแม้แต่นิดเดียว“ครับนาย”“หนูรินเหล้าให้นะคะ”สาวๆชุดใหม่เข้ามาก็รีบเข้ามาบริการมาเฟียใหญ่อย่างเซนต์ในทันทีเพราะคาดหวังว่าคืนนี้จะได้ไปสาน
“ใครเป็นสายให้ไอ้เวรอัลวิน จับพวกมันตัดลิ้นให้หมดแล้วส่งคืนไอ้อัลวินมันไป เพื่อว่ามันจะอยากใช้ประโยชน์จากไอ้พวกเหี้ยนี่อีก”เขาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านนานนับเดือนจนแผลหายสนิทถึงได้ออกจากบ้าน และกลับไปทำงานในทันทีงานแรกที่เขากลับมาเริ่มทำคือลากตัวไอ้พวกที่กล้าเป็นหนอนบ่อนไส้ที่เขาจับขังเอาไว้อย่างทรมานตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่เขาพักรักษาตัวออกมาลงโทษทีละคนอย่างสาสม ก่อนจะปล่อยพวกมันให้ไปหาเจ้านายของมันและไม่ต้องเดาว่าจุดจบของไอ้พวกสารเลวพวกนั้นจะเป็นยังไง พวกมันได้รับความทรมานจนร้องขอความตายจากเขาไปแล้ว ก็คงได้ไปตายต่อหน้าไอ้อัลวินที่มันฆ่าได้ทุกคนที่หมดประโยชน์กับมัน“ครับนาย”“แล้วมึงก็อย่าลืม เอาลิ้นของพวกมันส่งไปด้วยเป็นของขวัญให้ไอ้อัลวินมันด้วย”“ครับนาย”“เตรียมคนให้พร้อมเอาไว้ด้วย อีกไม่นานกูจะไปเอาคืนมันแน่นอน คราวนี้ต้องถึงตาย”แล้วเขาก็ไม่พลาดที่จะเตรียมตัวสำหรับการล้างแค้นอย่างสาสมที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเอาไว้ด้วยไอ้อัลวินมันทำเขาต้องนอนพักอยู่บ้านสนุกกับลูกสาวของมันอยู่เป็นเดือน มันจะต้องได้ชดใช้ทุกอย่างที่มันทำกับเขาเอาไว้และครั้งนี้จะเป็นการล้างแค้นครั้งสุดท
“ค่ะๆ”เพียงพอใจรีบหันหลังให้กับเขาแล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วยความเขินอาย ไม่เคยชินเลยสักครั้งที่ต้องมาเปลื้องผ้าต่อหน้าเขาแม้ทุกครั้งที่เจอหน้าเขาก็มักจะถูกสั่งให้ถอดเสื้อผ้าออกตลอดก็ตามอาจจะพูดได้เต็มปากก็เป็นได้ว่าเธอนั้นไม่ได้ใจกล้าเท่ากับเขาที่จะแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นได้โดยไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วหญิงสาวก็ค่อยๆก้าวเท้าลงไปในอ่างอาบน้ำที่ไม่ได้มีน้ำอย่างช้าๆโดยการหันหลังลงไปเพื่อจะได้ไม่ต้องประจันหน้ากับเขาให้ต้องเกิดความอับอายไปมากกว่าที่กำลังเผชิญอยู่“มานี่ดิ”มือหนาคว้าเอาเอวบางๆของหญิงสาวด้วยความว่องไว ดึงให้เธอนั้นลงมานั่งบนต้นขาของเขาด้วยความใจร้อนรอไม่เป็น ทำเอาเธอนั้นนั่งลงไปเกือบจะโดนแผลของเขาเสียให้ได้ แต่ทว่าก็ยังไม่โดนเพราะเขานั้นเบี่ยงหลบได้ทัน“ว้าย อืม”คนตัวเล็กร้องเสียงหลงด้วยความตกใจแต่ทว่ายังไม่ทันร้องได้สุดเสียงก็ถูกริมฝีปากหนาประกบเข้าหาริมฝีปากบางเข้าให้เสียแล้วจูบนั้นเริ่มต้นด้วยความอ่อนนุ่มอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ดูดดื่มเสียจนร่างกายของเธอสั่นสะท้านรับบทจูบนั้นไปทั้งตัว“อืม”ริมฝีปากหนาลิ้มรสหวานของริมฝีปากบางจนมันบวมเจ่อก็ดูจะเป็นที่พออก
“พาเธอกลับไปขังไว้ที่ห้อง ถึงเวลาล้างแผลค่อยพาออกมา”มาลิคเป็นผู้ออกคำสั่งในฐานะที่เขาเป็นมือขวาของเจ้านาย เขาสั่งให้ลูคัสและโจพาตัวเธอที่เพิ่งจะรอดตายมาได้อีกครั้งกลับไปยังห้องนอนของเธอซะ ก่อนที่เธอจะต้องตายอีกรอบเมื่อเจ้านายของเขายังอยู่ในช่วงอารมณ์ไม่คงที่เพิ่งหนีจากดงของศัตรูมาได้ไม่กี่ชั่วโมงแถมเฉียดความเป็นความตายมาอีกตั้งหาก“อืม”ลูคัสเป็นฝ่ายเสียสละพาตัวหญิงสาวกลับไปขังที่ห้องนอนของเธอตามเดิม โดยที่เขาก็ตามไปเฝ้าเธอเอาไว้ด้วย เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อพ่อของเธอเพิ่งจะมาเอาคืนเจ้านายของพวกเขาไม่แน่พ่อของเธออาจรู้เรื่องของเธอแล้วและเตรียมจะมาบุกบ้านหลังนี้เพื่อชิงตัวเธอ พวกเขาต้องป้องกันเฝ้าเธอเอาไว้ก่อนต้องรอบคอบเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ชะล่าใจซ้ำรอยเดิม“กูอยากอาบน้ำ”เซนต์หลับยาวไปตลอดทั้งคืนจนกระทั่งตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันใหม่ แผลที่ถูกผ่าตัดเอากระสุนออกค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆเหลือเพียงความเจ็บเท่านั้นที่ยังคงอยู่ไม่ได้จางหายไปไหน ความเจ็บนั้นก็อยู่ในขั้นที่ว่าเขาพอจะทนได้ ไม่ต้องร้องขอหายาแก้ปวดมาช่วยให้วุ่นวายแต่ที่เขาร้องขอให้ลูกน้
ความคิดเห็น