ฮ่องเต้ผู้เบื่ออาหาร กลับหลงใหลในรสมือของแม่ครัวสวมรอย—โดยไม่ล่วงรู้ว่าเจ้าของรสชาตินั้น คือสาวน้อยจอมกวนผู้หลุดมาจากอนาคต!ฝีปากร้ายและมุกเต็มไปด้วยมุกตลกไร้สาระพร้อมกับสูตรอาหารมัดใจฝ่าบาท เมื่ออาหารคือสะพานใจ แต่ความจริงยังถูกปิดซ่อน… เมื่อรสชาติผูกพันหัวใจ แต่ความจริงยังเป็นปริศนา จะรอวันเปิดเผย หรือถูกกลืนหายไปตลอดกาล? แล้วเมื่อความจริงปรากฏ… จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งหรือไม่?
View Moreชวีหยาและหรูซินยืนอยู่ตรงหน้าหยางชินอวี้ ท่าทางของหยางชินอวี้เต็มไปด้วยความเย็นชา ใบหน้างดงามนั่นกลับมองดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้หยางชินอวี้คนก่อนยที่กลัวจนรลนลานหายไปแล้ว “กุ้ยเฟยท่านนี้ไม่ยอมหลาบจำในสิ่งที่เคยทำลงไปสินะ”“ข้านะหรือทำไมต้องหลาบจำ ตอนนี้ถึงข้าจะไร้อำนาจแต่ข้าก็จะทำให้เจ้าได้รู้ว่าข้ากับเจ้ามันคนละชั้นกัน ข้าคือชวีหยาจางชวีหยาคนในตระกูลจางที่แข็งแกร่ง”“ฮะๆๆๆ ฮ่าาท่านสำคัญตัวผิดไปแล้วฝ่าบาทสอนท่านด้วยความเฉยชา หนึ่งปีที่ผ่านมาฝ่าบาทไม่เคยมีวันไหนที่อภัยให้ท่าน เพราะฝ่าบาทไม่เคยเสด็จมาที่นี่ และท่านก็รอฝ่าบาทจนกระทั่งวันนี้หากท่านสำนึกผิดและทำตัวดีกว่านี้ไม่ระรานข้าบางทีข้าอาจพูดกับฝ่าบาทเรื่องกักบริเวณท่าน”“ฮะๆๆ ฮ่า ไม่ทันแล้วข้าชอบที่นี่ ถึงจะบอกว่ารอก็ไม่ได้สำคัญอะไร ไม่มาข้าก็ไม่ตาย เฉยชาก็ใช่ว่าข้าจะอยู่ไมไ่ด้ ข้าอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะความแค้นขอให้ได้จัดการกับเจ้า…และเสี่ยวหนี่ก็พอ”“ท่านผิดแล้ว กุ้ยเฟยท่านคิดผิดแล้วข้าจะไม่ทางยอมให้ท่านรังแกข้าอีกต่อไปแล้ว”ก่อนที่นางจะเลื่อนมือล้วงเข้าไปในชายเสื้อและหยิบมีดสั้นคมกริบออกมา มีดสะท้อนแสงไฟจากโคมไฟชวีหยาตาลุกวาว ใบหน้าซี
ในตำหนักชิงหลานที่เงียบสงบหรูซินเดินเข้ามาด้วยท่าทางนิ่งสงบ เส้นทางที่หรูซินก้าวเดินผ่านทำให้ทั้งตำหนักเงียบลงอย่างคาดไม่ถึง นางกำนัลของวังหลวงมองดูการเคลื่อนไหวของหรูซินด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นไปด้วยความเคารพและเกรงกลัว"สนมเอกหยางชินอวี้ กุ้ยเฟยเรียกหาท่านให้ไปพบที่ตำหนักชิงหลานเดี๋ยวนี้" หรูซินพูดเสียงเด็ดขาดไม่ได้มีความเคารพแม้แต่น้อย“ตามข้าไปทันที” หยางชินอวี้หันหน้าหันหลังรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อยฝ่าบาทเพิ่งจะออกจากวังหลวงชวีหยาก็เรียกหยางชินอวี้ทันที“ได้ยินไหมข้าบอกให้ตามข้ามา” หรูซินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉียบด้วยคำสั่งและท่าทีของหรูซินทำให้จี้เหวินที่ยืนอยู่ข้างๆ หยางชินอวี้รู้สึกกังวลในใจ สายตาของจี้เหวินจับจ้องไปที่หยางชินอวี้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบอ้ำอึ้งพูดว่า "ข้า... ข้าขอโทษนะ... มารดาของข้าจะมาเยี่ยมในวังหลวงในวันนี้ ข้าจึงต้องอยู่ให้มารดาของข้ารู้สึกอุ่นใจ นี่เป็นเหตุผลที่ข้าไม่สามารถไปที่ตำหนักชิงหลานได้… อ่อข้าจะพามารดาข้าไปคารวะท่านน้าของพระสนมด้วย”คำพูดของจี้เหวินทำให้หยางชินอวี้แอบถอนหายใจอย่างแรง ในที่สุดก็ต้องยอมจำใจไปคนเดียว โดยไม่แสดงอาการขัดแย้งใดๆ หน้าของเธอเ
เว่ยหยงไท่เดินเข้ามาในห้องโถง พบเสี่ยวหนี่นั่งอยู่ที่โต๊ะไม้เก่า เสี่ยวหนี่เงยหน้าหันไปตามเสียงที่เว่ยหยงไท่ก้าวเข้ามา มือข้างหนึ่งกำลังจัดเรียงเอกสารและบันทึกข้อตกลงที่สำคัญ ส่วนท่านโจวก็นั่งดื่มชาร้อนอย่างสงบเสงี่ยม ท่าทางเหมือนจะพักผ่อนบ้างหลังจากที่ทำงานมาทั้งวันเมื่อเว่ยหยงไท่ยิ้มทักทายท่านโจวและเสี่ยวหนี่ เสี่ยวหนี่ยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น "เว่ยหยงไท่มาแล้วหรือ เห็นอินเฉาแจ้งว่าท่านมีเรื่องสำคัญอยากหารือกับข้า"เว่ยหยงไท่พยักหน้า พร้อมกับเดินเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ท่านโจว เขายิ้มด้วยท่าทีเรียบง่าย"วันนี้ข้ามีเรื่องจะขอรบกวนท่านโจวและคุณหนูเสี่ยวหนี่สักหน่อย ข้าหมายจะเปิดเส้นทางการค้าจากเมืองโจวไปยังเมืองฮัวเฉิง ข้าอยากขอเป็นพ่อค้าคนหนึ่งที่มารับสินค้าจากชาวบ้านในเมืองโจวเพื่อนำไปขายต่อที่เมืองฮัวเฉิง"คำพูดของเขาเป็นการเสนอความคิดที่เรียบง่าย ท่านโจววางถ้วยชาในมือไว้ข้างๆ ฟังแล้วก็นิ่งคิด ก่อนจะหันไปมองเสี่ยวหนี่ ท่านโจวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"หนี่เอ๋อร์ เจ้ามีความเห็นอย่างไร" เสี่ยวหนี่นิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล "ข้าคิดว่าเป็นความคิดที่
หลังจากเสร็จจากการเตรียมอาหารในครัว เสี่ยวหนี่เดินออกมาเดินไปในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์ที่ปลูกเองกับมือ แต่จิตใจที่ยังคงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่เพิ่งรู้ภายในจดหมายจากเซียหยาและเรื่องราวในวังหลวงที่ส่งผ่านตัวอักษรเสี่ยวหนี่แอบยิ้มให้ตัวเองเบาๆ เมื่อนึกถึงภาพใบหน้าของหยางลี่ยามที่ดวงตาแวววาวขณะใช้ตะเกียบในมือคีบอาหารรสเลิศ แต่ในที่สุดก็ต้องถอนหายใจหนักๆ ออกมา ในใจหนักอึ้งเหมือนมีภาระที่ต้องแบกรับทั้งๆ ที่ดูเหมือนจะมีความสุขอยู่เสมอ"คุณหนูรองเสี่ยวหนี่..." เสียงของเว่ยหยงไท่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เสี่ยวหนี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อหันไปพบกับชายหนุ่มผู้มีท่าทางเคร่งขรึม ใบหน้าของเสี่ยวหนี่พลันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างไม่ตั้งใจ"ท่านกลับมาแล้วหรือ"เว่ยหยงไท่เดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับกล่องไม้ขนาดพอเหมาะ "ข้าคิดว่าเจ้าคงจะต้องการมัน... สมุนไพรชางลู่...สมุนไพรที่สามารถเรียกวิญญาณกลับมาที่เจ้าเคยถามไถ่ไว้" เว่ยหยงไทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พลางเปิดกล่องไม้ออก เผยให้เห็นพืชสมุนไพรชางลู่รากสีแดงอยู่ภายใน เสี่ยวหนี่มองสมุนไพรในกล่องอย่างสนใจ รอยยิ้มบางเบาปรากฏบนใบหน้าแม้ว่าดวงตาของเสี่
ภาพของหยางลี่นั่งทานอาหารกับอวี่หรง เสียงหัวใจของหยางชินอวี้เหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ มันเหมือนกับการจู่โจมที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงพยายามเก็บอาการของตัวเองเอาไว้ให้ลึกที่สุดหยางลี่หันไปมองเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนจะกลับไปมองที่อวี่หรงอีกครั้ง สีหน้าเรียบเฉย มองไม่ออกว่าในใจเขาคิดอะไร หยางลี่กินอาหารคำต่อไปอย่างไม่รีบร้อน" ฝ่าบาท สนมเอกตั้งใจทำเครื่องเสวยมาถวาย" จี้เหวินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานที่สุด ขณะวางถาดอาหารลงบนโต๊ะหยางชินอวี้ยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้หยางลี่ พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยน แม้จะมีความขื่นขมแฝงอยู่ "ชินอวี้ตั้งใจลงมือปรุงเครื่องเสวยสำหรับฝ่าบาทด้วยตัวเอง และนำเครื่องเสวยมาถวายฝ่าบาทเพคะ แต่ดูเหมือนฝ่าบาทกำลังมีเสวยเครื่องเสวยของเซียหยาเสียแล้ว"หยางลี่ตอบเพียงแค่ยิ้มให้ พร้อมกับพูดสั้นๆ "เครื่องเสวยของเซียหยาถูกปากข้าไม่น้อย"หยางลี่พูดเบาๆ แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากไปกว่านั้นจี้เหวินยืนรออยู่ข้างๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศในห้องนี้เริ่มจะขุ่นมัวขึ้นอวี่หรงที่นั่งอยู่ข้างๆ หยางลี่มองสถานการณ์นี้อย่างแปลกใจ แต่
ในห้องพระตำหนักใหญ่ของไทเฮา บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ยามเช้า ไทเฮานั่งอยู่บนบัลลังก์สูง สวมอาภรณ์สีทองที่เปล่งประกาย แสงแดดยามเช้าโปรยผ่านหน้าต่างบานใหญ่ไปยังห้องที่ตกแต่งด้วยเครื่องลายครามหรูหรา หยางชินอวี้เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางสง่างาม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความนอบน้อมและประณีตตามมารยาทของราชสำนักที่ฝึกปรือมาจากตระกูลหยางเป็นอย่างดี ขณะที่ก้มศีรษะถวายพระพรไทเฮาอย่างเคารพ"หยางชินอวี้ถวายพระพรให้เสด็จย่าอายุยืนนาน แข็งแรง สง่างามเสมอแสงดาวและแสงจันทร์"ไทเฮาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะถามเสียงเบาที่ฟังดูแผ่วลง "หยางลี่ไม่มาด้วยหรือ"หยางชินอวี้ก้มหน้า ยกน้ำชาให้กับไทเอาตามธรรมเนียมแล้วเงยหน้าขึ้นช้าๆ พยายามควบคุมอารมณ์ของตนให้เรียบร้อย ก่อนจะพูดออกไปด้วยเสียงที่เบาและอ่อนแอ "ฝ่าบาทป่านี้ยังไม่ตื่นจากบรรทม” "ไทเฮามองไปที่หยางชินอวี้ด้วยสายตาที่เข้าใจหาชินอวี้ได้ดี ก่อนจะยิ้มบางๆ “จริงสินะ...เขาคงจะเหน็ดเหนื่อยจากการจัดการงานพิธี และเรื่องหารเข้าหอเมื่อคืนนี้”เสียงของไทเฮาดังขึ้นอีกครั้ง หยางชินหวี้ก้มหน้าหลบตาไทเฮาเสีย "แล้วเรื่องที่เข้าหอเมื่อคืน...หยางลี่ดีกั
Comments