มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ

มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ

last update최신 업데이트 : 2025-08-23
에:  พิมพ์สีทอง방금 업데이트되었습니다.
언어: Thai
goodnovel16goodnovel
평가가 충분하지 않습니다.
32챕터
267조회수
읽기
서재에 추가

공유:  

보고서
개요
목록
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.

“มู่เหริน” คืออัจฉริยะที่เกิดขึ้นในรอบร้อยปี ทว่าแท้จริงแล้วดวงวิญญาณที่อยู่ในร่างเป็นถึงศาสตราจารย์สอนประวัติศาสตร์ผู้รอบรู้ ที่กลับชาติมาเกิดใหม่พร้อมความทรงจำเดิม การแย่งชิงอัจฉริยะจึงเกิดขึ้น! ความรัก ความผูกพัน จะผูกมัดจอมคนอัจฉริยะผู้นี้ได้หรือไม่... 7 แคว้นที่มีอำนาจแข็งแกร่ง ยามนี้กลับกระสับกระส่ายกับข่าวลือที่ดังกระส่อนไปทั่วทั้ง7แคว้น ทุกแคว้นต่างหมายแย่งชิงจอมคนอัจฉริยะเพื่อความเป็นใหญ่ที่สุดใน7แผ่นดิน ทว่าความฉลาดลึกล้ำของมู่เหริน กลับวางแผนพาตนเองออกจากตระกูลเพื่อไม่ให้ผู้ใดเดือดร้อนเพราะตน การเดินทางจึงเริ่มขึ้น พร้อมความรักและความผูกพันที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว... โดยที่ชะตาดอกท้อเริ่มผลิบานจนยากจะถอยกลับ ในที่สุดก็หลีกหนีบ่วงเสน่ห์องครักษ์เงาไม่พ้น ขณะเดียวกันสงครามแย่งชิงเริ่มรุนแรงมากขึ้น จน “หลิงหวาง” องครักษ์เงาที่หลบซ่อนตัวตนต้องดิ้นรนไขว่คว้าอำนาจเพื่อปกป้องคนที่รัก หมายสยบแคว้นทั้ง7 ไว้ในกำมือ มิให้ผู้ใดมาทำร้ายมู่เหรินได้อีก หนทางเบื้องหน้าจะลงเอยเช่นไรนั้น แล้วแต่จอมคนจะเลือกเดิน... และความรัก ความผูกพัน จะผูกมัดจอมคนอัจฉริยะผู้นี้ได้หรือไม่!

더 보기

1화

คุณชายมู่เหริน

“นายน้อยคุณชายเหวินฉินมาขอพบขอรับ”

          คำรายงานของบ่าวรับใช้ทำให้ร่างโปร่งบางชะงักงันไปชั่วครู่ ใบหน้างดงามที่ยังคงเยาว์วัยนิ่งเรียบทว่าในใจกำลังหวนนึกไปถึงเจ้าของนามเหวินฉินบุตรชายคนรองของตระกูลเหวินซึ่งเรืองชื่อในเรื่องการค้าขาย

          “พาเขาไปรอข้าที่เดิม”

          น้ำเสียงนุ่มทุ้มตอบกลับมาโดยไม่ได้ละสายตาจากหนังสือในมือ บ่าวรับใช้ก้มหัวให้พร้อมถอยหลังกลับออกไปจากห้องหนังสือทำหน้าที่ของตนต่อไป

          มู่เหรินเหลือบตามองบ่าวรับใช้ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับคนที่มาขอพบ เขาเป็นบุตรสุดท้องของตระกูลมู่ที่รับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน ทว่าแท้จริงแล้วเคยมีอีกนามที่เริ่มจะลืมเลือนไปคือนายศิลา เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงฤดูฝน

          เขายังจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดีเนื่องจากยืนเฝ้ามองร่างของตัวเองซึ่งตกลงไปในหุบเหวจังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลาสามวันโดยที่ไม่อาจไปไหนได้ก่อนจะถูกนำตัวมาเกิดในที่แห่งนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมความทรงจำเดิมยังคงอยู่

          ผ่านไปหนึ่งชั่วยามมู่เหรินจึงวางหนังสือลงพร้อมลุกขึ้นยืนเดินไปเก็บไว้ที่ชั้นอย่างเป็นระเบียบเช่นเดิม สายตาเหลือบมองเงาร่างหนึ่งที่ยืนอยู่มุมห้องมืด ๆ เล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องตอบปริศนาทางปีกซ้ายของจวนมู่

          ร่างโปร่งบางซึ่งมีความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปดเซ็นติเมตรทว่าใบหน้ากลับงดงามปานล่มบ้านล่มเมืองเป็นสิ่งที่เขาไม่พึงพอใจแม้แต่น้อย บุรุษใดเล่าจะชื่นชอบที่ตัวเองงดงามกว่าอิสตรีเช่นนี้ มันเปรียบเสมือนปมด้อยภายในใจเขาเสียมากกว่า แม้จะยังเยาว์วัยด้วยสิบหกปีแต่ความงดงามกลับเด่นชัดอย่างน่าใจหาย

          มู่เหรินเดินผ่านห้องต่าง ๆ ภายในจวนอย่างไม่เร่งรีบ กิริยาดูสูงส่งสง่างามชวนให้คนมองหลงใหล อาภรณ์สีขาวขลิบเงินขับผิวขาวผ่องให้ดูเฉิดฉายยิ่งขึ้น

          ร่างสูงโปร่งเดินมาหยุดที่ห้องตอบปริศนาที่ผู้คนทั่วแคว้นต่างแวะเวียนมาประลองปัญญากับเขา ใช่ คนที่นี่คิดว่าเขาเป็นเด็กอัจฉริยะในรอบร้อยปี ที่เผลอแสดงปัญญาออกไปเมื่อสองปีก่อนในวันไหว้พระจันทร์ซึ่งมีกิจกรรมให้ตอบปัญหา ไม่คิดว่าการนึกสนุกในวันนั้นจะนำความยุ่งยากมาให้ถึงทุกวันนี้

          ทันทีที่ประตูกั้นฉากเปิดออกเจ้าของใบหน้าคมคายแลดูชายหนุ่มเจ้าสำราญก็เงยหน้ามามองมู่เหรินทันที อาภรณ์สีเขียวอ่อนทำให้เจ้าตัวสดใสยิ่งขึ้น แม้จะปล่อยให้ทุกคนที่ต้องการมาประลองปัญญารอนานกว่าหนึ่งชั่วยามก็มิมีใครกล้าติติง อาจเป็นเพราะเขามิได้โอ้อวดอีกทั้งแค่ยอมออกมาพบก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว

          “ข้าคิดว่าจะได้รอเจ้านานกว่านี้เสียอีก”

          น้ำเสียงอ่อนโยนและใบหน้ายิ้มแย้มทำให้มู่เหรินเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม

          “วันนี้เจ้ามีสิ่งใดมาถาม” มู่เหรินเอ่ยถามอย่างเป็นการเป็นงานโดยไม่ได้สนใจสายตาเคลิบเคลิ้มของเหวินฉิน

          “เจ้านี่ช่างใจร้อนจริง”

          น้ำเสียงผิดหวังและดวงตาสลดลงไม่ได้ทำให้มู่เหรินรู้สึกสะทกสะท้าน แต่มองตามอย่างเอือมระอาคล้ายมองเด็กน้อยที่ดื้อดึงจะอยู่คุยกับเขาให้นานกว่านี้ หากคุณชายเหวินฉินมองเขาเพียงแค่สหายผู้หนึ่งคงอาจจะรับไมตรี แต่นี่มองด้วยสายตาน่าขนลุก แค่เห็นก็อยากจะส่งแขกเร็ว ๆ

          คุณชายเหวินฉินเป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบหาปริศนามาให้เขาตอบ ทว่าแท้จริงแล้วเจ้าตัวเพียงแค่อยากเห็นหน้าเขาเท่านั้น ความพยายามของคุณชายเหวินฉินนั้นมีมากจนอดนับถือไม่ได้

          หากไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การหาเรื่องมาพบเขากิจการคงรุ่งเรืองมากกว่านี้ เขาเปิดรับตอบคำถามปริศนาหรือไม่ก็ถามกลับไปวันละหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งคนที่จะเข้าพบต้องมีบัตรคิวโดยที่ไม่สนใจว่าจะใหญ่โตมาจากไหน อ่อ ยกเว้นฮ่องเต้เพราะเขาคงไม่มีปัญญาไปขัดราชโองการหรอก

          “มีม้าอยู่สองตัวปรากฏว่ามีขนาดสัดส่วนเท่ากันหมด จะรู้ได้อย่างไรว่าม้าตัวไหนเป็นแม่ ม้าตัวไหนเป็นลูก”

          เหวินฉินเอ่ยถามปริศนาออกมาอย่างจนใจเมื่อไม่ได้รับความสนใจเหมือนที่ผ่านมา ไม่ว่าอย่างไรคนตรงหน้าเขานี้ก็เย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง

          มู่เหรินจิบชาที่จิ่นกวางบ่าวรับใช้คนสนิทรินให้อย่างใจเย็น เหลือบตามองคนที่เอ่ยคำถามอย่างครุ่นคิดกับปริศนาของวันนี้ นับวันเหวินฉินชอบหาคำถามแปลก ๆ มาให้เขาตอบ บางครั้งก็เป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างเช่นในเวลานี้

          “ข้ามีม้าสองตัวที่ว่ามาให้เจ้าดูด้วย หากเจ้าตอบได้ข้าจะยอมยกม้าศึกสองแม่ลูกนี้ให้กับเจ้า”

          “เช่นนั้นนำทางไปเถิด”

          มู่เหรินบอกเสียงเรียบพร้อมวางถ้วยชา ลุกขึ้นก้าวเดินตามคุณชายเหวินฉินไปทางโรงม้าที่ฝากไว้ก่อนจะเข้ามาที่ห้องปริศนา

          มู่เหรินเดินตามไปเงียบ ๆ เขาไม่ได้อยากได้ม้าศึกดังที่กล่าวมา เพียงแค่อยากกลับไปอ่านหนังสือต่อให้จบจึงไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องไร้ประโยชน์เช่นนี้ ดวงตาเรียวมองม้าพันธุ์ดีสองตัวที่มีสัดส่วนเท่ากันอย่างที่กล่าวมาและเป็นตัวเมียด้วยกันทั้งคู่

        

펼치기
다음 화 보기
다운로드

최신 챕터

더보기

댓글

댓글 없음
32 챕터
คุณชายมู่เหริน
“นายน้อยคุณชายเหวินฉินมาขอพบขอรับ” คำรายงานของบ่าวรับใช้ทำให้ร่างโปร่งบางชะงักงันไปชั่วครู่ ใบหน้างดงามที่ยังคงเยาว์วัยนิ่งเรียบทว่าในใจกำลังหวนนึกไปถึงเจ้าของนามเหวินฉินบุตรชายคนรองของตระกูลเหวินซึ่งเรืองชื่อในเรื่องการค้าขาย “พาเขาไปรอข้าที่เดิม” น้ำเสียงนุ่มทุ้มตอบกลับมาโดยไม่ได้ละสายตาจากหนังสือในมือ บ่าวรับใช้ก้มหัวให้พร้อมถอยหลังกลับออกไปจากห้องหนังสือทำหน้าที่ของตนต่อไป มู่เหรินเหลือบตามองบ่าวรับใช้ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับคนที่มาขอพบ เขาเป็นบุตรสุดท้องของตระกูลมู่ที่รับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน ทว่าแท้จริงแล้วเคยมีอีกนามที่เริ่มจะลืมเลือนไปคือนายศิลา เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงฤดูฝน เขายังจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดีเนื่องจากยืนเฝ้ามองร่างของตัวเองซึ่งตกลงไปในหุบเหวจังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลาสามวันโดยที่ไม่อาจไปไหนได้ก่อนจะถูกนำตัวมาเกิดในที่แห่งนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมความทรงจำเดิมยังคงอยู่ ผ่านไปหนึ่งชั่วยามมู่เหรินจึงวางหนังสือลงพร้อมลุกขึ้
last update최신 업데이트 : 2025-08-08
더 보기
ตระกูลมู่ 1
สองเท้าก้าวเดินไปโรงเก็บหญ้าข้าง ๆ กันพร้อมหยิบหญ้ามากำหนึ่งขนาดไม่ใหญ่มาก มาวางไว้ให้ม้าทั้งสองตัวกิน เพียงไม่นานผลก็ออกมา เมื่อม้าสีน้ำตาลเข้มทางซ้ายมือใช้เท้าเขี่ยหญ้าไปให้ม้าที่อยู่ทางขวามือ สัญชาตญาณของความเป็นแม่ย่อมให้ผู้เป็นลูกได้กินอิ่มก่อนเสมอ “ม้าตัวสีน้ำตาลเข้มทางซ้ายมือเป็นแม่ สีอ่อนหน่อยทางขวามือเป็นลูก หากหมดธุระของเจ้าแล้วข้าขอตัว” มู่เหรินบอกเสียงเรียบพร้อมสะบัดชายผ้าจากไป คุณชายเหวินฉินอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงกับความเย็นชาของคุณชายมู่เหริน ดวงตาคมมองตามร่างโปร่งบางคล้ายคนหัวใจสลาย เขาใช้เวลาร่วมเดือนกว่าจะได้บัตรคิว หวังจะได้พบหน้าสนทนาแต่กลับอยู่ด้วยไม่ถึงหนึ่งเค่อ สนทนาไม่กี่ประโยคก็หมดเวลาเพราะคำตอบนั้นถูกต้องตามกฎที่มู่เหรินให้ไว้กับทุกคน กลับกันหากมู่เหรินตอบผิดจะได้อยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วยเป็นเวลาหนึ่งมื้อ แม้คนอื่นอาจไม่เห็นค่าแต่สำหรับเหวินฉินแล้วมันเหมือนรางวัลที่คุ้มค่ากับการรอคอย ทว่าบัดนี้หัวใจดวงน้อยกลับถูกตัดเยื่อใยอย่างไม่ไยดี “จิ่นกวาง ทำไมคุณชายเจ้าถึงได้เย็นชาต่อข้านักเล่า ไม่เห็นใจข้าบ้างหรือ เฝ้ารอมาเนิ่นนา
last update최신 업데이트 : 2025-08-08
더 보기
ตระกูลมู่ 2
“เอาเถิดข้ามิได้คาดหวังให้ใครมาแทนคุณ แค่เจ้ามีชีวิตก็ดีก็พอแล้ว อีกอย่างเรื่องการรบอย่าได้แพร่งพรายไปที่ใดเพราะชีวิตเจ้าจะลำบากยิ่งกว่าเดิม” แม้จะดุดันแต่ก็ยังห่วงใยเพราะอย่างไรก็ยังเป็นบุตร มู่เหรินยิ้มรับ “ท่านพ่อโปรดวางใจ ข้าจะต้องเอาตัวรอดในเรื่องนี้ได้ เพียงแต่สิ่งที่ข้ากังวลคือท่านพี่ทั้งสามจะไม่ยินยอม เป็นเช่นนั้นพวกท่านจะลำบาก ท่านพ่อโปรดบอกเล่าแก่ท่านพี่เองได้หรือไม่ขอรับ” “เรื่องนั้นข้าจะจัดการเอง แต่การไปครั้งนี้จงนำพาหลิงหวางไปด้วย” มู่เหรินนิ่วหน้ากับคำขอ นึกไปถึงเจ้าของชื่อที่เป็นดั่งเงาของเขา ชอบแอบอยู่มุมห้องมืด ๆ และคานไม้ ไม่มีปากเสียง ปิดหน้าสวมชุดดำจนแทบจำหน้าไม่ได้ “หากเป็นความต้องการของท่านพ่อข้าคงมิอาจขัด คืนนี้ข้าจักเริ่มออกเดินทาง หากเจอกันในภายภาคหน้าลูกอาจไปล่วงเกินท่านโปรดอภัยให้ข้าเพราะข้าทำสิ่งใดย่อมมีเหตุผล” มู่ซู่เหลียนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจเพราะมู่เหรินทำสิ่งใดมิเคยไม่มีเหตุผลมาก่อน แม้จะยังเยาว์วัยทว่ากลับไม่เหมือนดังพี่น้องคนอื่น ๆ แววตาล้ำลึกมิอาจหยั่งรู้หรือคาดเดาได้จนบางครั้งอดคิดมิได้ว่ามู่เหรินเ
last update최신 업데이트 : 2025-08-08
더 보기
ตระกูลมู่ 3
มู่เหรินมองบ้านเกิดเป็นครั้งสุดท้ายเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับมาอีก ท้องฟ้ามืดมิดยามค่ำคืนในเวลานี้บดบังร่างโปร่งบางที่ยืนใต้ร่มไม้ห่างไกลจากจวนพอประมาณ ส่วนผู้ติดตามขึ้นชื่อว่าเงาก็ยังคงเป็นเงาเหมือนที่ผ่านมา เหลือบตามองเงาร่างที่อยู่ไม่ห่างอย่างกังวล การที่ไม่ได้พูดคุยกับใครเลย คอยแต่หลบซ่อนตัวและแสดงฝีมือเท่านั้นจะเบื่อหน่ายกับโลกใบนี้และเหงามากแค่ไหน “หลิงหวางข้ามีข้อตกลงกับเจ้า หากเจ้าคิดจะติดตามข้าจงแสดงตนออกมาในฐานะสหายข้า หากทำไม่ได้แล้วจงเป็นเงาอย่าให้ข้ารับรู้ตัวตนของเจ้า” มู่เหรินเอ่ยบอกเสียงเรียบ เงาร่างนั้นนิ่งเงียบเพียงครู่ก่อนจะเลือนหายไปกับความมืด เขาถอนหายใจอย่างอ่อนใจ ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็ยังเลือกที่จะเป็นเงา “แต่เจ้ารู้ไหม ข้าอยากเป็นสหายเจ้ามากกว่าสิ่งที่เจ้าเป็น” มู่เหรินเอ่ยเสียงแผ่วไปตามสายลม ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อย ๆ กว่าหลิงหวางจะยอมออกจากเงาคงต้องใช้เวลาหรือไม่ก็ตัวเขาเกิดภัย คนเช่นนี้บิดาไปหามาจากที่ใดกัน เก่งกาจเรื่องวรยุทธ์และยังเก่งเรื่องปลอมตัวอีก ทว่าแม้โฉมหน้าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแต่กลิ่นอายเดิมย
last update최신 업데이트 : 2025-08-08
더 보기
ตระกูลมู่ 4
หลังจากบังคับขู่เข็ญหลิงหวางออกจากเงาตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มไม่ต่างจากตน บนหัวมีหมวกปีกสานใบใหญ่ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดทั้ง ๆ ที่หน้าตาออกจะธรรมดา ท่าทางจะไม่ชอบให้ใครมองหน้าจริง ๆ ไม่สิ นี่แค่เป็นหน้าหลอก ๆ ของเจ้าตัวมากกว่า แต่เรื่องนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจเพราะอย่างไรเขาก็จดจำคนผู้นี้จากกลิ่นอายรอบตัว มู่เหรินมองแผนที่ในมือเพื่อมุ่งหน้าไปยังหุบเขาปีศาจตามคำแนะนำของบิดา แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะแผนที่มิได้บ่งบอกว่าหุบเขาปีศาจอยู่ที่ใดเพราะในประวัติศาสตร์สมัยจั้นกั๋วก็ไม่ได้เล่าเกี่ยวกับหุบเขาปีศาจอีกด้วย เมื่อเงยหน้ามองเพื่อนร่วมเดินทางก็ต้องเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ การที่ให้ออกมาจากเงาทำให้ชีวิตมืดมนขนาดนั้นเชียวหรือ “อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินเอง” เอ่ยบอกเสียงเรียบก่อนจะก้มมองหาจุดสำคัญ หากเดาไม่ผิดไม่อยู่แคว้นฉีก็ต้องอยู่แคว้นฉิน แต่ว่ามันอยู่ระหว่างเหนือกับใต้ที่ห่างกันไกลมาก เพราะเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ในจีนแคว้นฉินถึงไม่มาโจมตีแคว้นฉี “เจ้ารู้จักหุบเขาปีศาจหรือไม่” ในเมื่อไม่รู้จึงเอ่ยถามคนข้างกายที่ยืนนิ่ง ๆ หลิงหวางเงยหน้ามามองเล็กน้อยก่อนจะต
last update최신 업데이트 : 2025-08-08
더 보기
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 1
หลังจากทั้งคู่ทานอาหารกลางวันอิ่มแล้วจึงได้ออกเดินทางอีกครั้ง มู่เหรินไม่ได้ใช้ลมปราณลงไปที่เท้าในการเดินทาง เขาอยากเก็บแรงไว้เพราะไม่รู้ข้างหน้าจะเจออันตรายอันใดบ้าง แม้จะไม่เคยออกจากเมืองหลวงแคว้นฉีแต่เขาไม่อยากประมาท ยุทธภพนั้นอันตราย หากพลาดท่าเสียทีได้ไปปรโลกเร็วกว่าอายุขัยแน่          อีกทั้งตนมิใช่คนเก่งกาจ อายุเพียงสิบหกในโลกนี้ยังเรียนรู้ไม่ได้มากนัก แม้ความจริงอายุวิญญาณเขาตอนนี้ย่างห้าสิบเอ็ดปีแล้วก็ตาม และกว่าจะถึงที่หมายก็เข้ายามเว่ย(13.00น.-15.00น.)แล้ว          ที่นี่ดูครึกครื้นไม่ต่างจากเมืองที่ผ่านมา มู่เหรินหาห้องพักในโรงเตี๊ยมขนาดกลางเพื่อนอนพักหนึ่งคืนสองห้องสำหรับสองคน แม้จะรู้ว่าหลิงหวางชอบมาอารักขาเขาก็ตามแต่อย่างไรก็คงต้องมีเวลาส่วนตัวบ้างเช่นอาบน้ำ          จากนั้นจึงได้ออกมาเดินเล่นสำรวจเมือง มีบ้างที่ผู้คนหันมามองเขาด้วยความสนใจเพราะยังมีหมวกปีกสานใบใหญ่ปิดใบหน้า     
last update최신 업데이트 : 2025-08-09
더 보기
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 2
มู่เหรินตอบกลับและยกมือคารวะผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม แม้อายุวิญญาณจะมากกว่าทว่าเวลานี้ชีวิตใหม่ของเขาก็เพียงแค่สิบหกปีเท่านั้น “ขอบคุณคุณชายมากเจ้าค่ะที่ช่วยครอบครัวของข้า หากต้องการสิ่งใดตอบแทนบอกข้ามาเถิด ข้าจะตอบแทนทุกอย่าง” สตรีวัยกลางคนเดินเข้าขอบคุณอย่างนอบน้อม ร่างกายยังมีบาดแผลที่กลางหลังและใบหน้าที่ยังมีโลหิตเปราะเปื้อน มู่เหรินมองดูอย่างนับถือในความเข้มแข็งของสตรีตรงหน้ายอมปกป้องบุตรชายด้วยชีวิตของตนเองทั้งๆ ที่ไม่เป็นวรยุทธ “ฮูหยินอย่าได้เกรงใจ ข้าช่วยเหลือเพราะพบเจอโดยบังเอิญ ตอนนี้ท่านบาดเจ็บควรรักษาบาดแผลก่อนเถอะขอรับ มู่เหรินบอกอย่างจริงใจซึ่งนางก็พยักหน้ารับด้วยใบหน้าขาวซีดก่อนจะขอไปทำแผลที่รถม้า เหลือทิ้งไว้ชายฉกรรจ์ซึ่งเดินมาขอบคุณเขาคนแรกและน่าจะเป็นพ่อบ้านของตระกูลหลี่ บาดแผลตามร่างมีเต็มร่างแต่กลับไม่แสดงความเจ็บปวดผ่านทางสีหน้า คงไม่ใช่พ่อบ้านธรรมดาเป็นแน่ “หากไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป คุณชายทั้งสองช่วยเดินทางไปส่งพวกเราที่เมืองช่างไค่ได้หรือไม่ขอรับ” มู่เหรินมองสภาพรถม้า ซึ่งมีม้าตายไปหนึ่ง
last update최신 업데이트 : 2025-08-13
더 보기
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 3
“ที่นี่เป็นชายแดนของแคว้นเว่ยเมืองข้างหน้าจะเป็นแคว้นฉิน เราน่าจะไปถึงที่นั่นภายในวันนี้” มู่เหรินเปิดแผนที่ดูอีกครั้ง เวลานี้สภาพเขาไม่ได้น่าดูนักเพราะไม่ค่อยได้อาบน้ำเขาจึงเลือกใส่อาภรณ์สีดำแทนสีขาวที่ชอบ ส่วนหลิงหวางก็มีสภาพไม่ต่างกันแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น ทว่าระยะหลังมานี้หลิงหวางรู้จักแสดงความคิดมากขึ้นซึ่งเขาชอบที่อีกฝ่ายเป็นเช่นนี้มากกว่า “ขอรับ แต่ม้าสองตัวของเราคงจะไม่น่าเดินทางได้ต่อหลังจากถึงแคว้นฉินนะขอรับ” มู่เหรินพยักหน้ารับอย่างเข้าใจเพราะพวกมันวิ่งเดินทางเกือบทั้งวันทั้งคืน หนึ่งวันเขาแค่พักไม่เกินสองชั่วยามเท่านั้น ตอนแรกคิดว่าจะเดินทางไปเรื่อยๆ ทว่าเมื่อคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้วทำให้อยากให้ถึงหุบเขาปีศาจโดยเร็ว เพราะจะได้มีวิชาป้องกันตัวเองมากกว่านี้ แม้เขาจะมีวรยุทธแต่กลับรู้สึกว่ามันยังอ่อนด้อย “เดินทางต่อเถอะข้าอยากอาบน้ำเต็มทีแล้ว” มู่เหรินเอ่ยบอกพับเก็บแผนที่คร่าวๆ ในมือไว้ในอกเสื้ออีกครั้ง หลังจากนั่งพักมาสามเค่อแล้ว หลิงหวางพยักหน้ารับเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว เดินไปจูงม้าที่ผูก
last update최신 업데이트 : 2025-08-13
더 보기
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 4
“เรื่องนี้ก็พอเข้าใจ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าตัดแขนเสื้อจะเสียหายตรงไหน ในวังหลวงพวกเชื้อสายพระวงค์ก็ร่วมสุขสมกับพวกขันทีอยู่แล้ว อีกอย่างเรื่องความรักไม่เห็นจะผิดเลย” “น้องสี่เรื่องของภายในวังหลวงเจ้าไม่ควรนำมาพูด เรามีหน้าที่ต้องทำคงต้องแยกกันแค่นี้” น้ำเสียงจริงจังของผู้ที่เงียบมาตลอดทำให้มู่เหรินรู้สึกขนลุก จากที่ได้ยินและสัมผัสกลิ่นอายมีด้วยกันสี่คนและไม่น่าจะใช่สามัญชนธรรมดาเสียด้วย ความฉลาดหลักแหลมของพวกเขาเริ่มทำให้หวาดหวั่น เขาเหลือบมองหลิงหวางที่ยังนั่งทานต่อเงียบๆ ทว่าใบหูก็คงตั้งใจฟังไม่ต่างจากเขา แม้เขาจะไม่หันไปมองทว่าเขาก็จดจำกลิ่นอายของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ทั้งสี่ลุกขึ้นจากไปแล้วเขาจึงตั้งใจทานอาหารอีกครั้งลางสังหรณ์เขาบอกว่าพวกนั้นมาสืบข่าวเขาอย่างแน่นอนแต่จะมาจากแคว้นใดนั้นเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน หลังจากทานอาหารมื้อเช้าจบลงมู่เหรินก็ได้หาซื้อหมั่นโถวกับผลไม้ไว้สำหรับเดินทางอีกครั้ง ก่อนจะเดินมาหยุดที่ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งภายในเมือง เขาถอนหายใจอย่างทำใจอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในร้านพร้อมเลือกชุดสตรีสีขาวมาสองชุด จากนั้นจึงหา
last update최신 업데이트 : 2025-08-13
더 보기
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 5
“ขอห้องพักหนึ่งห้อง” มู่เหรินบอกเสี่ยวเอ้อที่ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพาขึ้นไปบนห้องพักแม้จะพักสองห้องก็เสียเบี้ยเปล่าๆ เพราะหลิงหวางต้องมานอนกับเขาอยู่แล้วหากไม่หาฟูกมานอนเจ้าตัวก็ปีนขึ้นไปนอนบนคานไม้ไม่รู้ที่ตรงนั้นมีอะไรดี “ข้าจะอาบน้ำก่อน” มู่เหรินหันไปบอกคนที่ตามติดมาซึ่งพยักหน้ารับไปเตรียมน้ำให้อาบโดยไม่ต้องสั่ง ไม่รู้ว่าหลิงหวางจะเปลี่ยนอาชีพจากองครักษ์มาเป็นคนใช้ตั้งแต่เมื่อไร “นายน้อยข้าขอออกไปสืบข่าวข้างนอก เสร็จแล้วจะรีบกลับมาขอรับ” มู่เหรินพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำที่ถูกเตรียมไว้ให้ หลังจากแช่น้ำอุ่นๆ ก็ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น เขาไม่แน่ใจว่าหลิงหวางจะหาข่าวได้จริงหรือเปล่าแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย หลังจากอาบน้ำสบายกายใจขึ้นมากมู่เหรินก็กลับมาเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษสีฟ้าอ่อน พร้อมผ้าปิดใบหน้าสีขาวก่อนจะออกไปเดินเล่นในตลาดเพราะตอนเข้ามายังไม่ได้เดินเล่น แคว้นฉินนั้นถือว่าเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในเจ็ดแคว้นซึ่งต่างจากแคว้นที่เขาเกิดโดยสิ้นเชิง “หมั่นโถวหอมอร่อยราคาถูกๆ ขอรับ”
last update최신 업데이트 : 2025-08-13
더 보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status