เข้าสู่ระบบช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอ เหมือนทุกอย่างมันเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว 2 อาทิตย์ที่แล้ว เธอยังเป็นนักศึกษาเตรียมจบธรรมดาอยู่เลย ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่แต่งงานแล้ว แถมเขายังเป็นรักแรกของเธอ..... “ไม่มีคำถามอะไรเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ ก่อนจะดึงผ้าขนหนูผืนเล็กในมือของหญิงสาวมาเช็ดเส้นผมให้ “ไม่มีค่ะ” ลลัลนาขยับตัวหันหลังปล่อยให้เขาเช็ดผมให้เธอ “แพรเป็นแฟนเก่าของฉัน แต่ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่เข้ากับฉันไม่ได้เลย ฉันเลยเลือกที่จะไม่ไปต่อ” “ค่ะ ลัลก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” ดูจากการกระทำวันนี้ เธอเองก็พอจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่คบกับแพรวาต่อ “ไม่หึง?” “ไม่ค่ะ” “อยากให้หึง” “คะ…” ไร้เสียงตอบจากนัทธี แต่ร่างบางที่กำลังนั่งชันเข่ากลับถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง “อยากให้หึง” ชายหนุ่มพูดพลางโอบเอวเล็กเอาไว้ “พี่นัทกำลังจีบลัลเหรอคะ” “ใช่ ฉันกำลังจีบภรรยาตัวเอง” เขาตอบพร้อมกับสบตากลมโต
ดูเพิ่มเติมใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวาย ลลัลนา หญิงสาวใบหน้าหวานดวงตากลมโต ผมตรงยาวสลวย ผิวขาวเหลืองสุขภาพดี กำลังฝ่ารถติดเพื่อที่จะไปให้ทันเวลาเข้าเรียน เธอไม่เคยขาดเรียน หรือไปสายเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
หญิงสาวถอนหายใจเบื่อหน่ายกับรถติด ถึงแม้ว่าเธอจะออกจากที่พักเร็วขนาดไหน ก็ยังไม่พ้นต้องเผชิญกับปัญหานี้อยู่ดี ดวงตากลมโตมองไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปยังมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเธอ
หลังจอดรถเรียบร้อย มือบางหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบโปรดของเธอ พร้อมกับหอบเอกสารประกอบการเรียน เดินตรงไปยังโต๊ะที่เธอและเพื่อนสนิทนั่งกันเป็นประจำ และเหมือนดังเช่นทุกวัน ที่ฟางข้าวเพื่อนสนิทของเธอจะมาถึงก่อนและนั่งรอเธออยู่
“ตกลงแกรู้หรือยัง ว่าจะทำธีสิสเกี่ยวกับอะไร” เสียงหวานใสของฟางข้าวดังขึ้นถามเธอ หลังจากนั่งคุยไร้สาระกันมาพักใหญ่ๆ
“ยังไม่รู้เลยอะ” ลลัลนาตอบเสียงเบื่อหน่าย
“เดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันหรอก”
“ทันแหละ”
“แกเนี่ยนะ ไม่เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ”
“เอาน่า ไม่มีเวลาหานี่นา”
เสียงการสนทนาของหญิงสาวสองคนดังขึ้นที่โต๊ะหินใต้อาคารเรียน ระหว่างรอเวลาขึ้นชั้นเรียน ยิ่งใกล้ช่วงเวลาเรียนจบ นักศึกษาแต่ละคนก็ต้องรีบเร่งหาเรื่องที่จะเขียนวิทยานิพนธ์ บางคนที่หาแต่เนิ่นๆ ก็มีเวลาหาที่จะทำนานหน่อย เผื่อผิดพลาดตรงไหนจะได้แก้ไขได้ การสนทนาจบลงเมื่อทั้งสองสาวพากันรวบข้าวของไว้ในอ้อมแขนแล้วพากันขึ้นชั้นเรียนไป
หลังเลิกเรียน ทั้งลลัลนาและฟางข้าวพากันไปเดินห้างสรรพสินค้าดังใกล้ๆเพื่อพักผ่อน หากวันไหนไม่มีธุระอะไรหรือไม่รีบกลับ พวกเธอก็จะพากันไปหาอะไรกินแบบเป็นประจำ
“แก ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” เสียงใสของลลัลนาบอกฟางข้าวก่อนรีบลุกเดินออกจากร้านไปโดยที่ฟางข้าวยังไม่ทันได้ตอบอะไร
ลลัลนารีบเดินเข้าห้องน้ำจนไม่ทันได้ระวัง เดินชนใครคนหนึ่ง เธอรีบขอโทษและเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าใครคนนั้นได้มองตามเธอจนลับตา
“แก กลับบ้านเหอะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยอะ เหมือนจะเป็นรอบเดือนเลย” ลลัลนาบอกฟางข้าวทันทีที่มาถึงโต๊ะที่เพื่อนสนิทของเธอนั่งรออยู่
“อือ งั้นก็กลับ คืนนี้แกนอนไหน”
“คอนโดแหละ ไม่อยากกลับบ้าน” เธอตอบเพื่อนสนิทของเธอระหว่างเดินไปชำระเงิน
สองสาวแยกย้ายกันกลับบ้าน ฟางข้าวไปรออำนวย คนของที่บ้านที่คอยรับส่งเธอตั้งแต่เด็กมารับ ส่วนลลัลนาก็ไปที่รถเพื่อขับรถกลับคอนโดของเธอ
หลังจากมาถึงที่คอนโดและจอดรถเรียบร้อย เท้าเรียวสวยก้าวลงจากรถตรงไปที่ลิฟต์ มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความระหว่างรอลิฟต์ ทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ข้างๆ
จนประตูลิฟต์เปิดออก เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง ถึงได้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ คือคนที่เธอเดินชนโดยไม่ได้ตั้งใจที่ห้างสรรพสินค้า ร่างบางแอบแปลกใจ ที่เขาคนนี้ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอ เพราะลิฟต์ตัวนี้เป็นลิฟต์ที่ขึ้นไปชั้นบนสุดเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเขาเลย ทั้งที่ตัวเธอเองก็อยู่ที่นี่มา 3 ปีกว่าแล้ว
เธอค้อมศีรษะลงให้เขาเล็กน้อย หลังจากที่ชายหนุ่มร่างสูงผายมือให้เธอเดินเข้าลิฟต์ก่อน ทั้งเธอและเขายืนคู่กันเงียบๆ จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งคู่ต่างแยกย้ายเข้าห้องของตัวเองไป
เช้าวันต่อมา หลังจากที่ลลัลนากับฟางข้าวมาถึงมหาวิทยาลัย ก็ได้รีบขึ้นไปบนห้องทันที เนื่องจากวันนี้มีอาจารย์พิเศษมาบรรยายวิชาสาขารวม ที่สาขาการบัญชีของพวกเธอต้องเข้าคลาสรวมกับสาขาอื่น พวกเธอจึงต้องรีบขึ้นห้อง เพราะกลัวไม่มีที่นั่ง
วันนี้นักศึกษาสาวแต่ละคนค่อนข้างจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจารย์พิเศษที่มาบรรยายนั้น เป็นถึงนักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมหน้าใหม่ไฟแรง ที่สาวๆทั้งหลายหมายปอง
“แก นี่มันคนที่ฉันเดินชนเมื่อวานนี่” ทันทีที่อาจารย์พิเศษเดินเข้ามาในคลาส ลลัลนาถึงกับตาโตรีบสะกิดบอกเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆทันที
นัทธี ชายหนุ่มเนื้อหอม สูง 185 เซนติเมตร ตาคมดุ ผิวขาวซีดเนื่องจากการไปอาศัยอยู่เมืองหนาวเป็นเวลานาน หน้าตานิ่งขรึม บุคลิกเย็นชาพูดน้อย แต่ค่อนข้างใส่ใจคนรอบตัว
ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในคลาส ดวงตาคมกวาดมองไปทั่ว ก่อนจะไปสบเข้ากับหญิงสาวที่เขาจำได้ติดตา มือหนาวางของที่ถือมาลงบนโต๊ะหน้าห้อง จากนั้นการบรรยายก็เริ่มขึ้น ทั้งคลาสตกอยู่ในความสงบ จนใกล้เวลาจบคลาส
“มีใครมีคำถามอะไรมั้ยครับ”
“อาจารย์มีแฟนหรือยังคะ” สิ้นเสียงคำถาม ได้มีนิสิตใจกล้าคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม ทำให้สาวๆแทบทั้งห้องตกอยู่ในความสงบพร้อมรอฟังคำตอบ ในขณะที่ลลัลนากับฟางข้าวกำลังเก็บของบนโต๊ะ เพราะไม่ได้สนใจคำตอบ
“คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับที่ผมบรรยายไปนะ” พูดขึ้นพลางมองไปทางหญิงสาวคนที่เดินชนเขาเมื่อวาน และบังเอิญอยู่คอนโดที่เดียวกัน ชั้นเดียวกัน ก่อนที่เขาจะสบตากับเธอ
“ผมมีคู่หมั้นแล้ว” เขาพูดพลางมองสบตากับลัลนา เพราะเธอบังเอิญเงยหน้าขึ้นมามองพอดี
ลลัลนารู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะจ้องมองมาที่เธอ เพราะเขาคนนั้นกำลังมองสบตาเธออยู่ โดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกต
หลังจบคลาส ลลัลนากับฟางข้าวได้มานั่งที่โต๊ะม้าหินใต้อาคารเรียน โต๊ะประจำของพวกเธอ
ครืด ครืด
“ค่ะแม่”
“ยัยลัล เลิกเรียนหรือยังลูก”
“เลิกแล้วค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตอบมารดาด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแล้วมารดาของเธอไม่เคยโทรมาระหว่างวัน ถ้าไม่มีเหตุอะไร
“วันนี้มาทานข้าวที่บ้านหน่อยนะ แล้วค่อยกลับคอนโด วันนี้คุณลุงชลิตจะมาทานข้าวที่บ้านเรา”
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวลัลขอจัดการงานก่อนนะคะ เสร็จแล้วลัลจะรีบไปค่ะ”
หญิงสาวกดวางสายจากมารดาของเธอก่อนจะรีบจัดการงานกลุ่มกับฟางข้าวให้เสร็จ แล้วรีบแยกย้ายกันกลับบ้าน
ขณะที่หญิงสาวกำลังจะปลดล็อกรถ ได้มีใครบางคนเดินผ่านด้านหลังของเธอในระยะประชิด ร่างบางสะดุ้งเฮือกหันกลับไปมอง แต่เขาคนนั้นได้เดินพ้นหลังเธอไปแล้ว พร้อมกับมีประโยคเบาๆลอยขึ้นมา ‘แล้วพบกัน’
ตากลมโตมองตามหลังใครคนนั้นไปอย่างคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาคือใคร แต่เธอก็ไม่มีเวลาสนใจมากนัก หญิงสาวรีบขับรถกลับบ้าน เพราะเธอต้องฝ่าด่านรถติดของใจกลางเมือง เพื่อกลับบ้านของเธอที่อยู่ชานเมือง บ้านที่เธออาศัยอยู่ตั้งแต่เกิด
“คุยอะไรกันอยู่ สาวๆ” นัทธีกับณดลเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ พอดีกับที่ลลัลนากับฟางข้าวเงียบเสียงลงพอดี“คุยกันตามประสาสาวๆ ค่ะ” ลลัลนายิ้มบางๆตอบนัทธีณดลเดินมานั่งลงข้างฟางข้าว จับมือเธอบีบเบาๆ“มีอะไรเหรอ” ฟางข้าวถามสามีงงๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“ไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้น่าจะเลอะเทอะหมดแล้วล่ะ” ลลัลนาเอ่ยปากชวนทุกคน ก่อนจะพากันลุกเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน“คุณแม่” กันชนกเห็นมารดาเดินมา ก็ชูกระถางต้นไม้ใบเล็กในมือให้ดูสีหน้าภูมิใจฟ้าครามเองก็เช่นกัน แต่เด็กน้อยทำเพียงหันไปพยักหน้าให้มารดา ก่อนจะส่งสายตาไปที่กระถางต้นไม้ที่เขาปลูก ฟางข้าวแทบจะกุมศีรษะกับความพูดน้อย เงียบขรึมของบุตรชายลลัลนาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของฟางข้าว ก็ฟ้าครามถอดบุคลิกของเธอมาเกือบหมด ในขณะที่กันชนก ร่าเริงสดใสเหมือนฟางข้าวไม่มีผิด“เอาล่ะๆ เล่นเสร็จอย่าลืมล้างมือกันด้วยนะเด็กๆ” นัทธีบอก สายตากวาดมองทุกคน ก่อนจะโอบเอวลลัลนาเดินตรงไปยังศาลาริมสระ ณดลจูงมือฟางข้าวเดินตามไป“ฉันว่านะ ฟ้าเหมือนแกเป๊ะเลยนะลัล” ฟางข้าวพูด เธอคงต้องทำใจกับนิสัยและบุคลิกของบุตรชายให้ได้สินะ“เอาน่า เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงร่
“อ้าว มากันแล้วเหรอ” ร่างบางย่อตัวรับกอดที่คนตัวเล็กวิ่งตรงเข้ามากอดเธอ ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยๆ ทั้งสองข้าง แล้วปล่อยร่างเล็กให้วิ่งกลับไปหามารดาฟางข้าวกับณดลเดินตามบุตรชายเข้ามาในบ้านของลลัลนา หลังจากที่ฟ้าครามลงจากรถ ก็วิ่งตรงเข้ามาในบ้าน ตรงเข้าไปกอดลลัลนา“พี่นัทกับน้องกันล่ะ” ฟางข้าวถามเพื่อนรัก เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เจอสามีกับบุตรชายของเพื่อนรัก“ขึ้นไปอาบน้ำน่ะ เมื่อกี๊เพิ่งปลูกต้นไม้กัน”“ฟ้าอยากปลูกต้นไม้ครับ” ฟ้าคราม บุตรชายของฟางข้าว ที่เกิดก่อนกันชนกไม่กี่เดือน เอ่ยบอกมารดา เมื่อได้ฟังการสนทนาเมื่อสักครู่“เดี๋ยวรอลุงนัทกับน้องกันลงมาก่อนนะครับ” ลลัลนาบอกฟ้าครามน้ำเสียงใจดี“ได้ครับ” เด็กน้อยรับคำก่อนจะเดินไปนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ“สงสัยฟ้ากับกันน่าจะโดนสลับตัวกันนะ ฟ้านิสัยเหมือนแกเลย นิสัยนิ่งๆ ส่วนกันจะออกสดใสร่าเริงเหมือนฉัน” ฟางข้าวพูดสีหน้าครุ่นคิด ก้าวเท้ายาวๆตามบุตรชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นลลัลนาหัวเราะชอบใจ พยักหน้าทักทายณดล ก่อนจะเดินตามฟางข้าวไปหลังจากเข้าไปในห้องนั่นเล่นกันไม่กี่นาที นัทธีก็อุ้มกันชนกตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น วางร่างเล็กของกันชนกลง เดินไปหย่อนตัวนั่งลงเคีย
ร่างบางถูกวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ ลัลหมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีนัทธีก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางสวรรค์ ล้วงเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างใน ไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะ” มือหนาปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้น พิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ลลัลนาหวีดเสียงดัง แขนคล้องคอหนาพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจูบเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆลลัลนาหวีดครางในลำคอ ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปลึก มันทั้งเสียวทั้งจุกในเวลาเดียวกันปากหยักถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาตามลำคอขาว ดูดผิวเนื้
“ลัลยังไม่อิ่มเลยค่ะ”นัทธีนั่งลงเหยียดขาออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางขยับคร่อมท่อนกายลำใหญ่ที่กำลังตั้งโด่ กดสะโพกลงทีเดียวจนมิดโคน มือบางบดคลึงติ่งเกสรตัวเองเบาๆ เรียกเสียงคำรามจากคนใต้ร่างรุนแรง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า“ซี้ดดดด มีเมียร่านแบบนี้ชอบไหมคะ” ปากบางร้องซี้ดซ้าด ถามยั่วสามี“โอ้ววว ยิ่งกว่าชอบอีกครับคุณเมีย กระแทกลงมาเลยจ้ะ จัดการเลย” คนใต้ร่างเธอกระซิบเสียงสั่นสะโพกกลมสวยขยับบดติ่งเกสรกับลำโคนเนื้อของคนใต้ร่าง เรียกเสียงครางในลำคอราวสัตว์ป่าคำรามกระหึ่มลั่นห้อง ก่อนจะยกสะโพกลอยขึ้น แล้วทิ้งตัวกระแทกลงไปสุดแรง“โอ้วว แน่นสุดๆเลยจ้ะเมียจ๋า”ยิ่งกระแทกกระทั้นแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุก แต่ความเสียวซ่านมันเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ ชายหนุ่มครางเสียงดัง เอ่ยคำหยาบคายเพิ่มอารมณ์กระสันกับบทรักบนเตียงหญิงสาวหวีดครางไม่หยุด ยกสะโพกกระแทกกระทั้นร่องสาวคับแน่นที่กำลังกลืนกินท่อนเนื้อลำใหญ่อยู่ข้างใน เอวบางร่อนควงให้ติ่งเกสรบดคลึงกับลำโคนท่อนเนื้อ ความเสียวซ่านส่งผลให้ภายในร่องรักคับแน่น ตอดรัดเป็นจังหวะ“อ๊ายยยย…” ร่างบางแทบสิ้นสติเมื่อสะโพกหนาเด้งเอวกระแทกสวนขึ้นยามที่เธอกระแทกกายลงชายหนุ่มอดทนต่อค
“น้องกันล่ะคะ” ลลัลนาเอ่ยถามขึ้น หลังจากออกจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วจ้ะ” นัทธีบอกภรรยาสาวคนสวย ก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอด กันชนก ได้ไม่นาน รูปร่างของลลัลนาก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ลัล น้องกัน 3 ขวบแล้วนะ” นัทธีหมุนเอวบางให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้น้องกันได้แล้วมั้งครับ น้องกันจะได้มีเพื่อน”“แต่น้องกันยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้น้องกัน ลัลก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ลัลกลัวน้องกันจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าลัลคิดมากไปนะ”“แต่…”“ไม่แต่แล้วครับ”นัทธีย่อตัว ช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้น เดินตรงไปที่เตียง วางเธอลงเบาๆก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่นัท” ลลัลนาเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“หืม” นัทธีซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย ที่เขาทำการแหวกกลีบดอกไม้ออกด้วย
“ตายแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าลืมเตรียมตัวด้วยล่ะ” หลังจากนั่งคุยกันมาสักพักใหญ่ ฟางข้าวก็เหลือบเห็นนาฬิกาที่ริมผนังห้อง เธอร้องอุทานออกมา เธอคุยจนลืมเวลาว่าเธอต้องทำธุระที่อื่นต่อ“รู้แล้วน่า เจอกันวันงาน”“เค เจอกันจ้ะ” ฟางข้าวกับณดลกลับบ้าน โดยมีลลัลนากับนัทธีเดินตามมาส่งที่หน้าบ้านหลังส่งฟางข้าวกับณดลกลับ นัทธีโอบเอวลลัลนามาที่ห้องนั่งเล่น“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าข้าวกับดลจะลงเอยกันได้”“แต่พี่ว่าไม่แปลกนะ ณดลรักฟางข้าวมานาน สัญชาตญาณผู้ชาย ไม่ยอมเสียคนที่ตัวเองรักให้ใครอยู่ละ แล้วยิ่งถ้ามีใครที่ทำท่าว่าจะมาสนใจคนที่ตัวเองรัก ยิ่งไม่มีทางปล่อยเลย”“ก็คงงั้นค่ะ เซอร์ไพรซ์ตรงที่ข้าวท้องก่อนลัลนี่แหละค่ะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะซบไปที่บ่าแกร่งของสามี“แล้วพี่นัทล่ะคะ เราไม่ได้แต่งงานกัน แล้วมีคนเข้ามาจีบลัล พี่นัทจะทำยังไงคะ”“พี่ก็จะทำแบบณดลนั่นแหละ จับปล้ำทำเมียเลย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้” นัทธีตอบภรรยาสาวสายตากรุ้มกริ่ม“แหม ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมดเลยนะคะ”“ไม่หรอก พี่ว่านะ ถ้าผู้หญิงไม่มีใจ ยังไงมันก็ยากนะที่จะลงเอยกันได้ สมัยนี้ไม่มีใครถือกันละ ว่าต้องเป็นคนแรกน่ะ






ความคิดเห็น