เข้าสู่ระบบเป็นเมียพี่แล้วมันไม่ดียังไงครับ ไหนลองบอกมาสักสองสามข้อหน่อยสิ
ดูเพิ่มเติม"รอด้วย!" หญิงสาวตัวเล็กในชุดนักศึกษาที่พึ่งวิ่งลงมาจากรถเมล์ตะโกนเรียกเพื่อนดังลั่น สามสาวหันมายิ้มให้เพื่อนจอมแก่นที่วิ่งเอาเป็นเอาตายเพื่ิอให้มาถึงพวกเธอให้ไวที่สุด
"ไม่ต้องวิ่งก็ได้ เดี๋ยวก็ล้ม" ปลายฟ้าเอ่ยบอกเพื่อนที่กำลังเหนื่อยหอบ
"สภาพแกหรอข้าวหอม ผมเพล่าพะรุงพะรังไปหมด" นิรินพูดทั้งจับผมที่ชี้ฟูของเพื่อนไปด้วย ดูก็รู้ว่าคงนั่งโต้ลมริมหน้าต่างรถเมล์มาแน่
"ใครจะมีเวลามานั่งแต่งหน้าแต่งตัวอย่างแกละ แม่คุณหนูไฮโซ"
"พอเลย ตีกันแต่เช้าเลยเนี่ย" ยี่หวาปรามเพื่อนสองคนแล้วส่ายหัว ไม่เคยเลยที่จะไม่ทะเลาะกัน พูดกันทีไรเป็นได้เถียงกันทุกที
ปลายฟ้ากอดแขนข้าวหอมเดินไปแล้วคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปด้วย จังหวะข้ามถนนหน้าตึกไม่ทันได้ระวัง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนรถคันหรูแล่นมาเกือบถึงตัว ข้าวหอมดึงเพื่อนตัวเล็กด้วยความตกใจจนปลายฟ้าล้มลงที่พื้นเต็มแรงแล้วเธอก็ล้มลงตาม
"พวกแกเป็นไงมั่ง" ยี่หวานั่งลงสำรวจร่างกายเพื่อนสองคนให้แน่ใจ ปลายฟ้าไม่มีแผลอะไรแต่เหมือนข้าวหอมจะมีแผลถลอกตรงหัวเข่าเพราะแรงกระแทก
"เจ็บป่ะ?"
"ลองมาล้มเองไหมละนิ ถามมาได้"
"อ้าว ไอข้าว....."
"ขอโทษนะครับ" รามิลนักศึกษาปีสามลูกชายคนเดียวของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเดินลงมาเรียกสายตาหญิงสาวให้หันไปมอง เพราะหน้าตาหล่อ แถมบ้านยังรวย ก็เลยเป็นที่หมายปองของรุ่นพี่รุ่นน้องเต็มไปหมด
"ขับยังไง ไม่รู้จักมองทาง ไม่เห็นคนหรอ!"
"ไอข้าว ใจเย็นๆ" ยี่หวารวบตัวเพื่อนเอาไว้ เอะอะก็จะบวกอย่างเดียว ไม่รู้จักดูขนาดตัวบ้างเลย
"ไงว่ะไอมิล น้องปีหนึ่งมาวันแรก มึงก็ขับรถชนเลยหรอ"เป็นทิวเขาที่เดินเข้ามาพร้อมกับคิมหันต์และริว คนตัวสูงเลิ่กคิ้วให้เพื่อนไป ดูเหมือนว่าวันนี้คงเป็นวันซวยของเขาละมั้ง
"เป็นอะไรไหมครับ? พี่ช่วยไหม" ริวส่งมือมาช่วยปลายฟ้าที่ยังนั่งอยู่ที่พื้น แต่โดนข้าวหอมปัดออกเต็มแรง คนตัวเล็กพยุงเพื่อนให้ลุกขึ้นมาเองแล้วมองหน้าพวกเขาอย่างไม่สบอารมณ์
"รุ่นพี่คณะไหนว่ะ อย่างหล่อเลยแก"
"เก็บนอบ้างก็ได้นะนิริน"
"ปีหนึ่งวิศวะใช่ไหม?" คิมหันต์ถามขึ้น เป็นนิรินที่พยักหน้าตอบก่อนคนอื่น
"พวกพี่อยู่ปีสามวิศวะเหมือนกัน"
"รุ่นพี่เราหรอว่ะ ไอข้าวเลิกหาเรื่องเหอะ" ยี่หวาลูบแผ่นหลังบางให้ใจเย็นลง ขืนมีเรื่องกับพวกรุ่นพี่ ชีวิตไม่สงบสุขแน่
"สรุปไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม? วันหลังก็เดินระวังกันหน่อยสิ"
"พี่ขับรถไม่ดูทาง แถมความเร็วก็น่าจะเกินกำหนดที่ให้ขับในมหาวิทยาลัย ยังจะมาหาว่าพวกเราเดินไม่ดูทางอีก ไม่รู้กฏของมอรึไง"
"แหม่ ไอมิลมันจะไม่รู้ได้ยัง มันเป็นลูกผู้อำนวยการนะ" ยืนอึ้งไปพักใหญ่ก่อนปลายฟ้าจะรีบหาทางเลี่ยงไม่ให้เพื่อนไปต่อล้อต่อเถียงอีก รามิลมองนามคนตัวเล็กที่ถูกเพื่อนดึงให้เดินตามไปด้วยรอยยิ้ม ....น่าสนใจ
@อาคารหน้าตึกคณะ
"วิ่งหน่อย เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก"
"ก็โดนอยู่แล้วป่ะยี่ นี่เลยเวลามาสิบนาทีละ" ข้าวหอมพูดแล้วส่ายหัว พวกเธอออกมาช้าเพราะรอนิรินทำงานส่งอาจารย์อยู่ ดูจากเวลายังไงก็คงโดนทำโทษที่เข้ารับน้องสาย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรีบให้ได้อะไร
เดินมาถึงจุดรับน้องก็เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่งอยู่อย่าฝเป็นระเบียบ มองรุ่นพี่ที่ยืนคุมอยู่แล้วรอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะโดนทำโทษแบบไหนอีกเนี่ย
ยังไม่ทันจะได้ก้าวเดินเข้าไปกลุ่มคนที่เดินเข้ามาใหม่ก็ทำให้รอบกลืนน้ำลายเข้าไปใหญ่ พวกรุ่นพี่ที่เธอมีเรื่องด้วยเมื่อเช้า อย่าบอกนะว่าจะมาคุมรับน้องด้วยอ่ะ...
"สี่คนตรงนั้น จะให้เพื่อนรออีกนานไหมครับ" นั่นไงโดนเข้าให้แล้ว รามิลตะโกนมาเสียงดังลั่นจนทุกคนหันมามองกลุ่มเธอกันทั้งแถบ ข้าวหอมเดินนำเข้าไปก่อน เป็นรุ่นพี่ผู้หญิงปีสามอย่างมิ้นท์ที่เดินเข้ามาถึงตัวพวกเธอพร้อมกับน้องสาวของคนตรงหน้าดาวคณะปีก่อนอย่างนะโม
"ทำไมมาสายขนาดนี้" นะโมถามเธอเสียงนิ่ง ป้ายชื่อที่คอของข้าวหอมกำลังล็อคเป้าให้เธอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่หลายคนพูดถึงกันว่ารามิลมีเรื่องด้วยเมื่อเช้า
"พวกเราติดทำงานส่งค่ะ"
"แต่เพื่อนมากันหมดแล้ว มัวทำอะไร โง่กันหรอไงถึงช้านัก" ข้าวหอมกำมือแน่นด้วยความโมโห อีกคนกล้าดียังไงใช้คำพูดรุนแรงกับปลายฟ้าแบบนี้ ทั้งที่ก็เป็นแค่รุ่นพี่ ไม่ได้สูงส่งอะไรสักหน่อย
"พี่พูดแรงไปป่ะ มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้อ่ะ"
"สิทธิ์ของรุ่นพี่ไง"
"ก็แค่รุ่นพี่ ไม่ใช่พ่อใช่แม่สักหน่อย" ข้าวหอมมองนิรินแล้วพยักหน้าก่อนจะแตะมือกัน ต้องแบบนี้สิ ยามศึกเรารบ ยามสงบเราค่อยรบกันเอง
"มิ้นท์พอ" รามิลเอ่ยปรามเพื่อนสาวแล้วดันให้ห่างจากรุ่นน้องตัวเล็ก ข้าวหอมจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจราวกลับไม่ชอบกันมาแต่ปางไหนทั้งที่พึ่ฝเจอกันวันนี้แท้ๆ
"แต่พี่มิลคะ ตามกฏแล้วคนมาสายต้องโดนทำโทษนะคะ"นะโมพูดท้วงขึ้นมา
"วันนี้มันเลทมากแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน น้องๆไปนั่งครับ"
กว่าจะจบรับน้องก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่า ข้าวหอมวิ่งเข้าร้านไปด้วยความรวดเร็ว ปิดประตูลงกลอนห้องน้ำก่อนจะเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นเสื้อเชิ้ตตัดพอดีรูปร่างกับกางเกงสีดำ เดินออกมาส่องกระจกตรงอ่างล้างมือ ผมสวยถูกมัดรวบหางม้าให้ดูเรียบร้อย
"มาสายนะวันนี้ พี่นึกว่าจะไม่มาแล้ว" มาตินผู้จัดการร้านทักขึ้นหลังเห็นเธอรีบวิ่งเข้ามาในบาร์
"พอดีติดรับน้องอ่ะค่ะ อะไรก็ไม่รู้ วุ่นวายชะมัด"
"ชีวิตเด็กปีหนึ่งก็แบบนี้ อย่าลืมละว่าถ้ามีใครถามอายุ ให้บอกว่ายี่สิบแล้วนะ ไม่งั้นไม่ได้ทำงานแน่"
"ทราบแล้วค่า" เธอตอบรับไปด้วยรอยยิ้มแล้วหันไปจัดเตรียมบาร์ ความจริงช่วงอายุของเธอยังไม่เหมาะที่จะทำงานในสถานที่แบบนี้ แต่เพราะความช่วยเหลือของมาตินทำให้เธอได้เข้ามาทำ ชีวิตที่ต้องหาเงินเองมันไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ตอนกลางวันต้องเรียนก็เลยต้องหาเงินช่วงกลางคืนแทน
"นึกยังไงชวนมาร้านนี้ กูไม่เห็นเคยมาเลย" ริวถามคิมหันต์ที่เดินนำหน้าเขาอยู่
"กูเห็นคนรีวิวเยอะ เลยอยากลองมา สาวเพียบ ไม่สนใจหรอว่ะ"
"เดี๋ยวก็รู้ว่าดีอย่างที่รีวิวรึเปล่า นั่น...ข้าวหอมป่ะว่ะ"ทิวเขาชะงักไปก่อนจะเอ่ยทักขึ้นมาจนรามิลหันไปมอง ท่าทียิ้มแย้มพูดคุยทั้งสายตาหวานหยาดเยิ้มของบาร์เทนเดอร์ร้านนี้เรียกรอยยิ้มเขาได้ไม่ยากเลย ดูแตกต่างจากตอนที่เจอที่มหาลัยมากจริงๆ
"B52 หน่อยครับ"
"ได้ค่า พี่!"
"ครับน้องข้าวหอม"
"พี่รู้ชื่อฉันได้ยังไง"
"ตอนรับน้องก็ใส่ป้ายชื่อไม่ใช่หรอ เราต่างหากจำชื่อพี่ไม่ได้"
"แค่ไม่อยากจำ" ประโยคแทงใจดำแต่กลับทำให้เขายิ้มออกมา คนตรงหน้าน่าสนใจมากจริงๆนั่นแหละ
"ทำไมมาทำงานที่นี่ได้ละ อายุไม่ถึงไม่ใช่หรอ"
"สมัยนี้พวกเด็กอายุไม่ถึงยังมาเที่ยวเลย แปลกตรงไหนว่ะไอริว" ทิวเขาหันไปพูดกับเพื่อนแบบไม่รอให้ข้าวหอมได้เอ่ยปากตอบ
"ว่าแต่มีเหล้าที่แรงกว่า B52 ไหมคะคนสวย"
"พี่ริวคะ"
"ขาาาา"
"ไปหม้อที่อื่นเลยไป"
"แรงอ่ะ"
ข้าวหอมยืนชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าทั้งมีรามิลนั่งอยู่หน้าบาร์ไม่ห่าง เขาได้แต่รอบสังเกตใบหน้าที่มีเครื่องสำอางค์แต่งเติมนิดหน่อย ยิ่งมองก็ยิ่งมีเสน่ห์ แปลกมากจริงๆ
"พี่มาตินคะ ข้าวขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะคะ"
รามิลมองตามข้าวหอมที่เดินออกไป ดูก็รู้ว่าอีกคนคงหนีเขาที่เอาแต่นั่งมองอยู่แบบนี้ ถึงอย่างนั้นก็ยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่ ตัดสินใจลุกเดินตามคนตัวเล็กออกไป แต่ต้องหยุดชะงักเพราะเห็นเธอกำลังถูกใครบางคนฉุดกระชากอยู่
"ปล่อยได้แล้ว"
"จะเล่นตัวไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย"
"ก็บอกแล้วไงว่าข้าวไม่ได้ทำงานอย่างว่า ปล่อยสิโว้ย!" สะบัดมือแล้วผลักคนตรงหน้าให้ออกห่าง เวกัสเป็นรุ่นพี่แถวบ้านที่ตามตื๊อเธอมานาน ยิ่งเห็นเธอมาทำงานที่แบบนี้เขาก็ยิ่งตามรังควานไม่เลิก ถึงจะทำงานกลางคืนแต่ก็ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าสักหน่อย
"แค่ยอมพี่ก็สบายละ ไม่ต้องลำบากทำงาน"
"เผื่อพี่จะยังไม่รู้นะ ข้าวยอมลำบากทำงานจนตาย ดีกว่ายอมทำเรื่องอย่างว่ากับคนแบบพี่" ข้อมือถูกคนตรงหน้ากระชากเพราะความถือดี แรงบีบทำให้ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ พยายามกระชากตัวเองออกแต่ก็สู้แรงของเวกัสไม่ได้
"ผู้หญิงไม่เล่นด้วยก็ปล่อยสิว่ะ" เสียงรามิลดังมาจากข้างหลังทำให้หันไปมอง คนตัวสูงเดินตรงมากระชากเวกัสจนกระเด็นออกไป แขนแกร่งดันข้าวหอมให้ไปหลบอยู่ด้านหลัง
"แล้วมึงมาเสือกอะไร หรือว่าอยากได้มันเหมือนกัน"
"ปากมึงนี่มีแต่หมาหรอว่ะ"
"แล้วยุ่งเหี้ยอะไรด้วย คนเขาจะคุยกัน"
"ก็ผู้หญิงเขาไม่ชอบมึงไง ไม่เข้าใจอ่อ" ผลักแขนคนตรงหน้าที่พยายามขยับมาดึงข้าวหอมให้ออกไปหา คอเสื้อถูกเวกัสกระชากเข้าไปเต็มแรง รามิลถอนหายใจเพราะหงุดหงิดกับไอพวกกร่างไม่เป็นที่
"มึงจะเอาใช่ป่ะ"
"ปล่อยกู ก่อนที่กูจะซัดหน้ามึง"
"กล้าก็เอาดิ....โอ๊ยย!!" หมัดหนักซัดเข้าที่ใบหน้าเวกัสทั้งที่ยังไม่ทันพูดจบ รามิลสะบัดมือคลายความเจ็บนิดหน่อย คนที่ล้มลงทำท่าจะลุกมาสวนแต่เพื่อนเขาเดินเข้ามาซะก่อน
"ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอพวกหมาหมู่"
"ทำตัวเป็นพี่พระเอกหรอมึงอ่ะ เกิดมันมีพวกแล้วโดนยำขึ้นมา อายเขาตายห่า" ทิวเขาพูดเย้าๆแล้วส่ายหัว
"เป็นไงบ้างเรา ไม่เจ็บตรงไหนใช่เปล่า" ริวหันมาถามข้าวหอมที่ยืนจับข้อมือตัวเองอยู่
"ไม่อ่ะ ขอบคุณแล้วกันที่มาช่วย"
"พูดได้แค่นี้หรอ คนอุตส่าห์มาช่วย"
"ไม่ได้ขอสักหน่อย"
"น่าจะปล่อยให้มันลากไปเนอะ ทำดีไม่ได้ดีแท้ๆ"
"จิ๊ พี่จะเอาอะไร"
"แค่พูดขอบคุณหวานๆสักประโยคก็พอ แบบ...พี่รามิลขา ขอบคุณที่มาช่วยข้าวนะคะ พี่รามิลเท่ห์ที่สุดในโลกเลยค่ะ อะไรแบบนี้" ข้าวหอมหลับตาลงข่มอารมณ์ ไอที่ให้พูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยยังไม่หนักเท่าให้ชมอีกคนว่าเท่ห์เลย อยากจะอ้วก...ไม่ถูกชะตาเลยสักนิด
"มึงก็ไปแกล้งน้องเนอะ" คิมหันต์พูดแล้วถอนหายใจใส่ ดูจากอาการแล้วเหมือนว่ารามิลจะสนใจรุ่นน้องคนนี้เป็นพิเศษ
"กูเปล่าแกล้ง พูดจริงๆ ไหนครับ..พี่รอฟังอยู่" เอาว่ะ เห็นว่ามาช่วยจากไอบ้านั่นหรอกนะ
"พี่รามิลขาาาา......" น้ำเสียงที่ดูไม่เต็มใจสักนิดแต่ก็ยังเรียกรอยยิ้มของรามิลได้เป็นอย่างดี
"ขอบคุณที่มาข่วยข้าวนะคะ!"
"อีกประโยคนึงละ"
"พี่รามิล.....พี่่ คือพี่"
"ว่ายังไงครับ"
"พี่! รา! มิล! เท่ห์! ที่สุด! ในโลก! เลยค่ะ!"
"ถึงจะดูฝืนไปหน่อยแต่ก็โอเค ขอบคุณที่ชมนะครับ น้องข้าวหอม"
รามิลเดินเอากระเป๋าเสือผ้าที่ขนไปเฝ้าคนตัวเล็กที่โรงพยาบาบเข้าไปไว้ในห้อง เขาเดินออกมาแล้วเห็นว่าเธอกำลังยืนมองออกไปนอกระเบียงด้วยรอยยิ้ม รามิลเดินไปโอบกอดอีกคนจากด้านหลัง เขาโน้มลงไปหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่จนเะอหัวเราะออกมา "คิดถึงห้องของเราไหมครับ?" "ห้องของพี่ต่างหาก" ข้าวหอมพูดเถียงขึ้น สุดท้ายก็เลยโดนรามิลจับให้หมุนไปหาแล้วดันตัวเธอชิดเอาไว้กับบานกระจก นิ้วยาวจิ้มที่ริมฝีปากเธออย่างไม่ชอบใจกับสิงที่เธอพูดเท่าไหร่นัก แต่เธอกลับเอาแต่ยิ้มทั้งที่รู้ว่าเขาไม่พอใจอยู่ "ไม่ต้องมายิ้มเลย" รามิลขมวดคิ้วใส่แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจอาการของเขาแม้สักนิดแถมยังจะเอาแต่ยิ้มไม่ยอมหยุดอีก แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาเอาไว้แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปกดจูบคนที่เอาแต่ทำหน้าไม่พอใจอยู่ รามิลยังคงตีหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นจนเธอต้องลองทำอย่างเดิมอีกรอบ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอีกตามเคย ข้าวหอมยืนคิดพักใหญ่ก็พอจะคิดอะไรออก มือเล็กจับไล้ตั้งแต่กลางอกเขาจนมาถึงหน้าท้อง ลูบลงไปจนถึงเป้ากางเกงก่อนจะถูกรามิลรวบมือเอาไว้ "พึ่งนะหายดีก็หาเรื่องใส่ตัวเลยหรอ?" "หรือว่าพี่ไม่ชอบละ" สายตาเย้ายวนแบบนั้นนั่นมันอะไร จะเล่นกับใจขอ
รามิลอุ้มร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเข้ามาด้านใน เขาพอจะมีสติขึ้นแล้วถึงได้อุ้มเธอไหว เตียงคนไข้เข็นเข้ามารับร่างไร้เรี่ยวแรงจากมือเขา รามิลวิ่งตามเตียงที่เข็นไปด้วยความเร็ว ก่อนจะต้องหยุดในตอนที่พยาบาลดันเขาออกมาแล้วประตูห้องฉุกเฉิดก็ปิดลงเขาทิ้งตัวลงเต็มแรงราวกับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ใจของเขาหลุดลอยออกไปตั้งแต่ได้เห็นเลือดสีแดงสดเต็มตัวข้าวหอมแล้ว เขานั่งนิ่งสมองไม่อาจประมวลผลก่อนเพื่อนจะเดินเข้ามาหา พร้อมแม่เขาที่นั่งลงข้างกายแล้วลูบแผ่นหลัง"แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่คิดว่าหนูมิ้นท์จะทำถึงขนาดนี้""น้องจะตายไหมครับแม่ ข้างหอมจะตายไหมครับ""แม่ไม่ยอมให้ลูกสะใภ้แม่ตายหรอก""แม่...."รามิลมองหน้าแม่ของเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ความดีของข้างหอมกับแสดงออกให้เธอได้รับรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้รักลูกชายเธอมากแค่ไหน และนั่นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขัดขวางความรักของทั้งสองคนอีกบายประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา เป็นพยาบาลที่วิ่งมาหาด้วยสีหน้าตกใจจนรามิลใจล่วงหล่นไปอยู่ตาตุ่ม"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?""กระสุนถูกจุดสำคัญ แล้วคนไข้ก็เสียเลือดมาก เราจำเป็นต้องผ่าตัดโดยด่วนค่ะ""รักษาได้เลยค่ะ ช่
รามิลลืมตาขึ้นมาด้วยความมึนงง อาการปวดหนึบที่หัวทำให้เขาต้องสะบัดไปมาเพื่อคลายมันลง กว่าจะปรับการมองเห็นได้ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ภาพแรกทำให้ทำเขาเบิกตากว้าง คนตัวเล็กถูกมัดเอาไว้ติดกับเก้าอี้ตรงหน้าเขาทั้งมีผ้ามัดที่ปากเอาไว้ด้วย รามิลพยายามขยับสุดแรงแต่แขนที่ถูกมัดไขว้หลังไว้ทำให้เขาทำตามใจได้ลำบากเขาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหถึงขีดสุด มุมปากสวยมีรอยแผลอยู่ด้วย สถานการณ์ที่เขาสองคนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องบอกจะะรามิลก็รู้ดีว่าใครเป็นคนทำ"ข้าวหอม ไหวไหมครับ?" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับเขาเพราะไม่สามารถพูดออกมาได้ ก่อนบานประตูจะเปิดขึ้นแล้วคนที่เขาคิดไว้ว่าเป็นคนทำจะเดินเข้ามา"มิ้นท์จับเรากับน้องมาทำไม?""เราแค่มีเรื่องคุยกับมิลหน่อย ส่วนนังเด็กนี่....""อย่าทำอะไรข้าวหอมนะ!" คนตรงหน้าเดินแสยะยิ้มมาหาเขาแล้วมองนิ่ง แววตาแสนอาฆาตแค้นนั้นเขาแทบไม่เคยเห็นมันมาก่อน เขาคิดผิดไปสินะที่เข้าไปพัวพันกับผู้หญิงคนนี้ ถึงมาคิดได้ในเวลานี้มันก็สายเกินไปแล้ว"ห่วงมันเหลือเกินนะ ความจริงมันควรจะตายไปตั้งแต่รอบที่แล้วด้วยซ้ำ""เราไม่เคยคิดเลยนะ ว่ามิ้นท์จะเป็นคนแบบนี้""ก็มิลนั่นแหละที่ทำให้เราเ
"สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนไม่ไหว""มึงก็ลองมีเมียมาอ้อนดูบ้างสิว่ะ" รามิลสวนกลับทิวเขาทันควัน ปกติข้าวหอมไม่ใช่คนขี้อ้อนอะไร แต่พออ้อนขึ้นมาทีใจเขาก็อ่อนยวบไปหมด สุดท้ายก็ต้องแพ้ทางทุกที"กูก็มีแล้วไงเมีย""ปากดีเข้าไปเถอะ คนไหนละเมียมึงอ่ะ" เขาพูดเย้าเพื่อนไปแต่เหมือนว่าอีกคนจะหัวเสีบ ก็กำลังพูดความจริงอยู่นี่ นิรินที่เป็นว่าที่คู่หมั้น หรือว่าปลายฟ้าที่มันได้ไปแล้วทั้งตัวทั้งใจละที่เป็นเมีย"อาหารมาแล้ว" คนตัวเล็กจาเป็นประกายทันทีที่อาหารมาเสิร์ฟ ดูแล้วคงจะหิวมากเพราะนั่งทำงานกับเพื่อนมาหลายชั่วโมง"เป็นครั้งแรกเลยนะที่มาร้านเหล้าแล้วสั่งอาหารเยอะขนาดนี้อ่ะ" ข้าวหอมหันไปมองริวแล้วเกาต้นคอแก้เขิน ก็คนมันหิวจะให้ทำยังไงละ ที่อยากมาที่นี่ก็แค่อยากจะดูหน่อยว่าบรรยากาศร้านเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้น"ทานกันได้เลยนะสาวๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง""ก็นึกว่ามีเงินพอเลี้ยงข้าวคนเดียว เลี้ยงเพื่อนข้าวไหวด้วยหรือไง""สบายมาก""เลี้ยงเพื่อนข้าวได้ แต่ห้ามเลี้ยงสาวคนอื่นเชียว""ดูสภาพเพื่อนพี่ มันจะไปเลี้ยงสาวที่ไหนได้" คิมหันต์ขำแล้วส่ายหัว ข้างหอมน่าจะเป็นคนแรกที่เอาเพื่อนเขาอยู่ขนาดนี้ รามิลแทบไม่มอง
"มึงคิดว่าจะเป็นยังไงต่อ?" รามิลมองไปที่ทิวเขาแล้วหยุดนิ่ง คำถาของเพื่อนทำให้นึกคิดอยู๋แต่ก็พอจะเดาได้ไม่อยาก แม่ของคนที่เขาพึ่งแจ้งตำรวจจับคงไม่ยอมปล่อยไปแบบนี้แน่ แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำแล้วก็แค่ต้องรอรับมือกับมันให้ได้ "จะเป็นยังไงก็ให้เป็นไป กูแค่อยากจะปกป้องคนของกู""พี่รามิล" พูดไม่ทันจบเสียงหวานจากคนของเขาก็ดังขึ้นพอดี ข้าวหอมโบกมืออยู่ไม่ไกลแล้วเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มเพื่อนของเธอ วันนี้เขาไม่มีเรียนแต่ก็มานั่งรอรับน้องตั้งแต่เช้า ไม่อยากให้ละสายตาไปไหนอีกแล้ว"เลิกแล้วหรอครับ เรียนเป็นไงบ้าง?""เหนื่อยมาก มีงานต้องทำด้วย" รามิลลูบหัวคนที่ปากยู่ลงยามเราให้เขาฟัง ดูจากสีหน้าแล้วเธฮคงเหนื่อยกับการเรียนมากอย่างที่บอก"พี่รามิลนี่ดีจัง มารอรับข้าวหอมทุกวันเลย" ยี่หวาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว ไม่ว่าจะมีเรียนหรอไม่มี ยุ่งมากแค่ไหนทุกครั้งที่เรียนเสร็จแล้วเดินลงมาก็จะเห็นรามิลมารอเพื่อนเธอแบบนี้ตลอด น่าจะเริ่มตั้งแต่ที่ข้าวหอมโดนแทงจนเข้าโรงพยาบาลวันนั้นละมั้ง"เมียทั้งคนก็ต้องมารอสิครับ""พี่รามิลพูดอะไรเนี่ย!?" อดไม่ได้ที่จะะบีบแก้มเนียนด้วยความหมั่นเขี้ยว ยิ่งในยามที่มันกำลังแดงระเรื่อด
เสียงเรียกจากพนักงานส่งอาหารดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่รามิลออกมาจากห้องน้ำพอดี พอรับของมาจ่ายเงินเสร็จแล้วก็เตรียมมันใส่จานเอาไว้ เหลือมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เดินกลับไปในห้องก็ยังเห็นคนตัวเล็กนอนคุดคู้อยู่บนเตียง รามิลนั่งลงแล้วหอมแก้มเธอแทนการเอ่ยปลุกแต่เหมือนว่าจะไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนมานั่งลูบหัวเธอแทนอย่างเอ็นดูเวลาอาทิตย์กว่าที่เขายุ่งกับการจัดการเรื่องที่คนตัวเล็กเจอมา ขุนเขายอมเปิดปากทั้งหมดว่ามิ้นท์เป็นคนสั่ง จริงๆก็ไม่ใช่ว่ายแมหรอกแต่เป็นเขาที่ไปขู่ต่างหาก ตอนนี้น้องชายของคนตัวเล็กถูกคุมตัวเอาไว้ เหลือก็แค่เพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาที่เขาอยากจะเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง รามิลก็แค่อยากลองให้โอกาสอีกคนเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าชดใช้ที่เป็นต้นเหตุของความแค้นในครั้งนี้เอนตัวลงนอนแล้งดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด หอมแก้มเธออยู่หลายครั้งเป็นการก่อกวนให้คนขี้เซาลืมตาตื่น ครั้งนี้ได้ผลข้าวหอมลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งมุ่ยหน้าใส่คงจะหงุดหงิดที่เขาไปกวนเวลาฝันหวาน"ทำไมงอแงครับ?""ข้าวเปล่างอแงก็แค่ยังนอนสบายอยู่เลย""ขี้เซาจัง จะเที่ยงแล้วครับ ลุกมาทานข้าวได้แล่ว" คนตัวเล็กผุดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งยังทำห
ความคิดเห็น