ชาติภพนี้ ข้าขอเป็นภรรยาและมารดาที่ดี

ชาติภพนี้ ข้าขอเป็นภรรยาและมารดาที่ดี

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
โดย:  ต้นไม้แห้งยังไม่จบ
ภาษา: Thai
goodnovel12goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
40บท
1.4Kviews
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

เถ้าธุลีในกาลก่อน มอบโอกาสหวนคืน... จากมารดาเลี้ยงผู้ร้ายกาจในความทรงจำอันเลือนราง สู่มารดาผู้หมายมั่นที่อยากจะแก้ไขชะตาที่ผิดพลาด เมื่อสายลมของอดีตพัดหวน เหออวี้หลัน จะถักทอสายใยรักครั้งใหม่ให้มั่นคง หรือจะปล่อยให้กงล้อโชคชะตาซ้ำรอยเดิมอันปวดร้าว?

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่ ๑ หวนคืนสู่ห้วงฝัน

ความรู้สึกตัวค่อยๆหวนคืนสู่ร่างที่เคยเหน็บหนาวและว่างเปล่า ราวกับฟื้นจากฝันร้ายที่ยาวนาน เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆปรือเปิดขึ้น แสงสว่างนวลตาที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้เหออวี้หลันต้องหยีตาลงเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อนๆของกำยานชั้นดีลอยอวลอยู่ในอากาศ กลิ่นที่นางห่างหายไปนานเหลือเกิน

นี่ข้า... ยังไม่ตาย?

ความคิดแรกผุดขึ้นในห้วงคำนึง ความทรงจำสุดท้ายคือความเยียบเย็นจับขั้วหัวใจในเรือนพักท้ายจวนอันผุพัง เสียงลมหวีดหวิวคล้ายเสียงคร่ำครวญของวิญญาณโดดเดี่ยว และภาพเลือนรางของเงาร่างสูงสง่าที่หันหลังให้... เงาของบุรุษที่นางเคยเรียกว่าสามี

นางพยายามยันกายลุกขึ้น ความเจ็บปวดรวดร้าวที่ควรจะกัดกินทุกอณูในร่างกลับเลือนหายไปสิ้น มีเพียงความอ่อนเพลียเล็กน้อยเท่านั้น นางกวาดสายตามองไปรอบกายอย่างเชื่องช้า แล้วหัวใจก็พลันกระตุกวูบ!

นี่มัน... เรือนอวี้ฮั่น! เรือนนอนของนางในจวนแม่ทัพจวินเหยียนซี!

ฉากกั้นปักลายหงส์คู่มังกรทองที่นางเคยสั่งให้คนยกออกไปเพราะเห็นว่ามันบดบังทิวทัศน์ โต๊ะเครื่องแป้งไม้จันทน์หอมสลักลายบุปผาที่นางเคยปัดเครื่องประทินโฉมลงแตกกระจายด้วยโทสะ แจกันกระเบื้องเคลือบสีน้ำทะเลที่นางเคยใช้ขว้างปาใส่บ่าวไพร่... ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงตั้งอยู่ที่เดิม ดูงดงาม ประณีต และเป็นพยานความร้ายกาจของนางในอดีต!

เป็นไปไม่ได้! เหออวี้หลันยกมือขึ้นกุมขมับ สัมผัสได้ถึงผิวเนื้อนุ่มเนียน ปราศจากริ้วรอยแห่งวัยและความทุกข์ตรม ผมดำขลับยาวสลวย...

นี่มัน... ร่างกายของนางเมื่อสิบกว่าปีก่อน!

"นายหญิง ท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ?" เสียงหวานใสอันคุ้นเคยดังขึ้นข้างเตียง ชุนเถา สาวใช้คนสนิทที่ติดตามนางมาจากบ้านเดิม กำลังประคองอ่างน้ำทองเหลืองเข้ามาด้วยท่าทีนอบน้อม ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นยังไม่มีริ้วรอยความเหนื่อยหน่ายและหวาดกลัวเช่นในความทรงจำสุดท้ายของนาง

"ชุนเถา" เสียงของเหออวี้หลันแหบพร่าเล็กน้อย นางกลืนน้ำลายฝืดคอ พยายามรวบรวมสติ "ตอนนี้... ปีอะไร เดือนอะไร?"

ชุนเถาชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตากลมโตมองนายหญิงด้วยความฉงนสนเท่ห์ "นายหญิง ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ? หรือว่ายังไม่สร่างไข้ดี? วันนี้คือวันที่สิบห้า เดือนเจ็ด ปีเทียนฉีที่สิบเจ็ดอย่างไรเล่าเจ้าคะ ท่านเพิ่งจะหายประชวรได้ไม่กี่วันเองนะเจ้าคะ"

ปีเทียนฉีที่สิบเจ็ด... เดือนเจ็ด...

ราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่กลางร่าง! เหออวี้หลันจำได้อย่างแม่นยำ ปีนั้นนางเพิ่งแต่งเข้าจวนสกุลจวินได้เพียงสามเดือน! และเป็นสามเดือนที่นางเริ่มเผยธาตุแท้ที่น่ารังเกียจออกมา สามเดือนที่นางเริ่มสร้างรอยร้าวในครอบครัวแห่งนี้!

นาง... ย้อนเวลากลับมาจริงๆ! สวรรค์! นี่ท่านมอบโอกาสให้นางจริงๆหรือ?

ยังไม่ทันที่นางจะได้เรียบเรียงความคิด ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดเข้ามาอย่างแผ่วเบา เงาร่างเล็กๆ สองร่างปรากฏขึ้นที่หน้าประตู

ดวงตาของเหออวี้หลันเบิกกว้างจับจ้องไปยังเด็กทั้งสอง... จวินซิงเฉินและจวินเสวี่ยอัน!

เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยืนเกาะแขนพี่ชายแน่น ดวงตากลมโตคู่สวยที่ควรจะเปล่งประกายสดใสกลับฉายแววหวาดหวั่นระคนอยากรู้อยากเห็น เมื่อสบตากับนาง ร่างเล็กๆนั้นก็สะดุ้งเบาๆ รีบหลบไปอยู่ด้านหลังพี่ชายทันที นั่นคือจวินเสวี่ยอัน... บุตรสาวที่นางเคยผลักไสและตวาดใส่จนต้องหลั่งน้ำตา

ส่วนเด็กชายผู้พี่ จวินซิงเฉิน แม้อายุเพียงเจ็ดแปดขวบ แต่กลับมีท่วงท่าสงบนิ่งเกินวัย เขาสวมชุดผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ยืนตัวตรงเผชิญหน้ากับนาง ใบหน้าเล็กๆนั้นเรียบเฉย หากแต่แววตาคมปลาบที่จ้องมองมากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา ความระแวดระวัง และร่องรอยความเกลียดชังจางๆ ที่นางมองข้ามไปในอดีต

หัวใจของเหออวี้หลันบีบรัดอย่างรุนแรง ความรู้สึกผิดและสงสารถาโถมเข้าใส่ราวคลื่นยักษ์ นี่คือเด็กสองคนที่นางเคยทำร้ายจิตใจอย่างแสนสาหัส คือต้นเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้นางต้องจบชีวิตอย่างน่าสังเวชในชาติก่อน

"พวก... พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?" เสียงที่เปล่งออกไปสั่นเครือเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว นางพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด

จวินซิงเฉินประสานมือคารวะตามธรรมเนียมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง น้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึก "พวกข้าได้ยินจากบ่าวว่าท่านแม่ฟื้นแล้ว จึงตั้งใจจะมาเยี่ยมคารวะขอรับ" แม้คำพูดจะสุภาพ แต่กลับแฝงไว้ด้วยความห่างเหินอย่างชัดเจน

"ท่าน... ท่านแม่..." จวินเสวี่ยอันกระซิบเสียงเบาอยู่ด้านหลังพี่ชาย ไม่กล้าแม้แต่จะสบตานางตรงๆ

คำว่าท่านแม่ที่เคยทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกหนามทิ่มแทง บัดนี้กลับกรีดลึกลงไปในใจยิ่งกว่าเดิม นางคือแม่เลี้ยงใจร้าย คือนางมารร้ายที่พรากความสุขไปจากเด็กน้อยทั้งสอง

"เช่นนั้นหรือ..." เหออวี้หลันฝืนยิ้ม พยายามทำให้น้ำเสียงอ่อนโยนลง "เข้ามาข้างในก่อนสิ ข้างนอกลมอาจจะแรง" นางผายมือเชื้อเชิญอย่างเก้ๆกังๆ

แต่จวินซิงเฉินกลับส่ายหน้าปฏิเสธทันที "ไม่รบกวนท่านแม่พักผ่อนดีกว่าขอรับ พวกข้าเพียงแวะมาดูให้แน่ใจว่าท่านสบายดีแล้ว เช่นนั้นพวกข้าขอตัวก่อน" เขากล่าวจบก็โค้งคำนับอีกครั้ง แล้วจูงมือน้องสาวหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง

ประตูห้องปิดลง... ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและไอเย็นที่มองไม่เห็น เหออวี้หลันมองตามแผ่นหลังเล็กๆสองแผ่นนั้นจนลับสายตา กำแพงที่นางอุตส่าห์ก่อขึ้นในใจพลันพังทลายลง หยาดน้ำตาอุ่นร้อนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้หลั่งไหลออกมาอีก เอ่อคลอขึ้นเต็มหน่วยตา

นี่คือจุดเริ่มต้น... จุดเริ่มต้นที่นางต้องแก้ไข

ชุนเถามองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความเงียบ นางเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของนายหญิง แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามสิ่งใด ได้แต่ยืนรอรับคำสั่งอยู่เงียบๆ

เหออวี้หลันสูดหายใจลึก ปาดน้ำตาที่รื้นขอบตาออกอย่างรวดเร็ว นางจะไม่ยอมอ่อนแอ! นางจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย! ในเมื่อสวรรค์มอบโอกาสครั้งที่สองให้นาง นางก็จะใช้มันเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง!

นางหันไปมองเงาสะท้อนของตนในคันฉ่องทองเหลือง ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ยังคงงดงามแต่แฝงไว้ด้วยร่องรอยความเอาแต่ใจและความดื้อรั้น... ร่องรอยที่นางจะต้องลบมันออกไปให้สิ้น

"ชุนเถา" นางเอ่ยขึ้น เสียงมั่นคงขึ้นกว่าเดิม "เตรียมน้ำให้ข้า ข้าจะล้างหน้า แล้วไปเตรียมสำรับเช้ามาให้ข้าที่นี่ด้วย ข้าหิวแล้ว"

ชุนเถาแม้จะประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆนั้น แต่ก็รีบขานรับและออกไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว

เหออวี้หลันหลับตาลงอีกครั้ง สัมผัสถึงไออุ่นของชีวิตที่ไหลเวียนอยู่ในร่าง จวินซิงเฉิน... จวินเสวี่ยอัน... รอแม่ก่อนนะ ชาตินี้แม่จะชดใช้ให้พวกเจ้าเอง... ปณิธานอันแรงกล้าก่อตัวขึ้นในใจอย่างเงียบงัน ท่ามกลางความหวังและความหวาดหวั่นต่ออนาคตที่นางต้องเป็นผู้ขีดเขียนขึ้นใหม่ด้วยตนเอง

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
40
บทที่ ๑ หวนคืนสู่ห้วงฝัน
ความรู้สึกตัวค่อยๆหวนคืนสู่ร่างที่เคยเหน็บหนาวและว่างเปล่า ราวกับฟื้นจากฝันร้ายที่ยาวนาน เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆปรือเปิดขึ้น แสงสว่างนวลตาที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้เหออวี้หลันต้องหยีตาลงเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อนๆของกำยานชั้นดีลอยอวลอยู่ในอากาศ กลิ่นที่นางห่างหายไปนานเหลือเกินนี่ข้า... ยังไม่ตาย?ความคิดแรกผุดขึ้นในห้วงคำนึง ความทรงจำสุดท้ายคือความเยียบเย็นจับขั้วหัวใจในเรือนพักท้ายจวนอันผุพัง เสียงลมหวีดหวิวคล้ายเสียงคร่ำครวญของวิญญาณโดดเดี่ยว และภาพเลือนรางของเงาร่างสูงสง่าที่หันหลังให้... เงาของบุรุษที่นางเคยเรียกว่าสามีนางพยายามยันกายลุกขึ้น ความเจ็บปวดรวดร้าวที่ควรจะกัดกินทุกอณูในร่างกลับเลือนหายไปสิ้น มีเพียงความอ่อนเพลียเล็กน้อยเท่านั้น นางกวาดสายตามองไปรอบกายอย่างเชื่องช้า แล้วหัวใจก็พลันกระตุกวูบ!นี่มัน... เรือนอวี้ฮั่น! เรือนนอนของนางในจวนแม่ทัพจวินเหยียนซี!ฉากกั้นปักลายหงส์คู่มังกรทองที่นางเคยสั่งให้คนยกออกไปเพราะเห็นว่ามันบดบังทิวทัศน์ โต๊ะเครื่องแป้งไม้จันทน์หอมสลักลายบุปผาที่นางเคยปัดเครื่องประทินโฉมลงแตกกระจายด้วยโทสะ แจกันกระเบื้องเคลือบสีน้ำทะเลที่นางเคยใช้ขว้างปาใส่บ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-03
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๒ ก้าวแรกบนเส้นทางที่ขรุขระ
ภายหลังจากชุนเถาออกไปแล้ว เหออวี้หลันยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกหลากหลายไหลเวียนอยู่ในห้วงคำนึง แสงอรุณยามเช้าทาบทอเข้ามาในห้อง สาดส่องให้เห็นรายละเอียดอันวิจิตรบรรจงของเครื่องเรือนและของประดับตกแต่ง ทุกชิ้นล้วนสะท้อนถึงฐานะอันสูงส่งของจวนแม่ทัพและรสนิยมอันหรูหราของนางในอดีตไม่นานนัก ชุนเถาก็นำอ่างน้ำล้างหน้าและเครื่องประทินโฉมเข้ามา นางลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า เดินไปยังหน้าคันฉ่องทองเหลือง มองเงาสะท้อนของสตรีงดงามแรกรุ่น... ใบหน้านี้ยังอ่อนเยาว์นัก ดวงตายังไม่กร้านโลกเช่นในชาติก่อน ผิวพรรณยังผุดผ่องไร้ริ้วรอยแห่งกาลเวลา แต่กระนั้น แววตาที่มองตอบกลับมากลับแฝงไว้ด้วยความเหนื่อยล้าและความเศร้าสร้อยที่เกินกว่าวัยจะพึงมีสิบกว่าปี... ความทุกข์ทรมาน ความโดดเดี่ยว และความสำนึกผิดที่แสนยาวนาน มันได้กัดกร่อนจิตวิญญาณนางไปมากเพียงใดหนอ?นางหลับตาลง สูดหายใจลึก ขับไล่ความอ่อนแอในใจออกไป เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาคู่นั้นก็กลับมาฉายประกายมุ่งมั่นดังเดิม"ชุนเถา ช่วยข้าแต่งตัว"สาวใช้คนสนิทขานรับอย่างนอบน้อม นางช่วยเหออวี้หลันเลือกอาภรณ์ เป็นชุดกระโปรงยาวสีเขียวหยกเนื้อดี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-03
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๓ เงาอดีตในเรือนจื่อเถิง
ณ เรือนจื่อเถิง อันเป็นที่พำนักของสองคุณชายน้อยและคุณหนูน้อยแห่งจวนแม่ทัพ บรรยากาศยามเช้าแตกต่างจากเรือนอวี้ฮั่นโดยสิ้นเชิง แม้จะสะอาดสะอ้าน แต่ก็ขาดความหรูหราและกลิ่นอายของความมั่งคั่งไปหลายส่วน ลานเล็กๆหน้าเรือนมีต้นจื่อเถิงเลื้อยพันซุ้มไม้อยู่ต้นหนึ่ง แม้ยังไม่ถึงฤดูผลิดอก แต่กิ่งก้านที่แผ่ขยายก็ให้ร่มเงาและความสงบอย่างประหลาดจางมามา บ่าวอาวุโสผู้มีใบหน้าใจดีแต่แฝงแววเหนื่อยล้า กำลังจัดสำรับอาหารเช้าให้เด็กทั้งสองด้วยความเคยชิน โจ๊กขาวสองถ้วย หมั่นโถวสี่ลูก และผักดองหนึ่งจานเล็กเพียงเท่านั้น แต่แล้วนางก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นบ่าวจากครัวหลักสองนางยกถาดอาหารขนาดใหญ่ตามหลังชุนเถาเข้ามา"นี่มัน..." จางมามาเบิกตากว้าง มองอาหารเลิศรสที่ถูกจัดวางลงบนโต๊ะแทนที่สำรับเดิม ซุปไก่ตุ๋นยาจีนส่งกลิ่นหอมกรุ่น ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนสีเหลืองอ่อน ปลานึ่งซีอิ๊วหน้าตาน่าทาน อาหารเหล่านี้ ปกติแล้วมีแต่ท่านแม่ทัพและฮูหยินเท่านั้นที่จะได้ลิ้มรส"ฮูหยินสั่งมาให้คุณชายน้อยกับคุณหนูน้อยเป็นพิเศษเจ้าค่ะ" ชุนเถากล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ พยายามเก็บซ่อนความประหลาดใจของตนเองไว้ "บอกว่าอากาศเริ่มเย็นแล้ว ให้บำรุงร่างกายเสี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-03
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๔ สายลมของการเปลี่ยนแปลง
เมื่อกลับถึงเรือนอวี้ฮั่นอันโอ่อ่า เหออวี้หลันทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้บุต่วนเนื้อดีอย่างอ่อนแรง ภาพดวงตาหวาดกลัวสุดขีดของจวินเสวี่ยอันยังคงติดตรึงอยู่ในมโนสำนึก ราวกับเหล็กเผาไฟที่นาบลงบนหัวใจ นางหลับตาลงช้าๆสูดลมหายใจลึกยาว พยายามข่มความรู้สึกท้อแท้ที่เริ่มก่อตัวขึ้นนางทำพลาดไปเสียแล้ว การไปปรากฏตัวกะทันหันเช่นนี้ มีแต่จะทำให้เด็กน้อยหวาดผวามากขึ้นความจริงข้อนี้ช่างบาดลึก บาดแผลที่มองไม่เห็นซึ่งนางได้สร้างไว้ในใจของเด็กทั้งสองนั้นลึกซึ้งและรักษายากเย็นกว่าบาดแผลทางกายนัก นางต้องอดทน ต้องใจเย็น ต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไปยิ่งกว่านี้"นายหญิง ดื่มชาร้อนๆสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ" ชุนเถาเดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบ วางถ้วยชากระเบื้องเคลือบลายดอกโบตั๋นลงบนโต๊ะข้างกายนางอย่างแผ่วเบา แววตาฉายความกังวลระคนไม่แน่ใจเหออวี้หลันลืมตาขึ้น รับถ้วยชามาถือไว้ ไออุ่นจากถ้วยชาค่อยๆซึมซาบผ่านฝ่ามือเข้าสู่ร่างกาย "ข้าไม่เป็นไรชุนเถา แค่ต้องใช้เวลา…" นางตอบเสียงเบา แต่แฝงไว้ด้วยความแน่วแน่ชุนเถานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้น "บ่าวว่า นายหญิงวันนี้ ดู... ดูเปลี่ยนไปนะเจ้าคะ ดู... ใจดีขึ้น" แม้จะเป็นเพีย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-03
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๕ วสันตฤดูมาเยือนเรือนจื่อเถิง
หลายวันต่อมา สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เคยพัดผ่านจวนแม่ทัพอย่างแผ่วเบา เริ่มก่อตัวเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากขึ้น ณ เรือนจื่อเถิงเฉียนก่วนเจียทำงานอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบตามคำสั่งของฮูหยิน ช่างไม้ ช่างปูน เข้ามาซ่อมแซมหลังคาและส่วนที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างแข็งขัน เครื่องเรือนชุดใหม่ถูกลำเลียงเข้ามาแทนที่ของเก่า แม้มิได้หรูหราเทียบเท่าเรือนหลัก แต่โต๊ะ ตั่ง ตู้ ล้วนทำจากไม้เนื้อดี แข็งแรงทนทาน เตียงนอนถูกเปลี่ยนใหม่ พร้อมเครื่องนอนครบชุด ผ้าปูที่นอนทำจากผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด ผ้านวมผืนหนาถูกพับวางไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมสำหรับคิมหันต์ที่กำลังจะมาเยือน เตาผิงเล็กๆถูกติดตั้งในห้องนอนของเด็กทั้งสอง และถ่านไม้คุณภาพดีก็ถูกนำมาเก็บสำรองไว้มากกว่าเดิมหลายเท่าจางมามาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย นางทำงานในจวนนี้มานานพอที่จะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นการปรนเปรอบุตรเลี้ยงที่นายหญิงคนปัจจุบันไม่เคยใส่ใจเหลียวแล ความเคลือบแคลงใจยังมีอยู่ แต่ความรู้สึกขอบคุณและความโล่งใจที่เด็กๆ ในความดูแลของนางจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ค่อย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๖ ระลอกคลื่นใต้น้ำอันเงียบงัน
วันเวลาผันผ่านไปดุจสายน้ำไหล ฤดูสารทค่อยๆคลี่คลาย บรรยากาศในจวนแม่ทัพจวิน แม้ภายนอกจะยังคงดำเนินไปตามครรลองปกติ แต่ภายในกลับเกิดระลอกคลื่นใต้น้ำอันเงียบงัน ที่สัมผัสได้จากรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปที่เรือนจื่อเถิง อาจารย์หลิน บัณฑิตผู้ทรงภูมิ มาสอนหนังสือให้จวินซิงเฉินอย่างสม่ำเสมอตามคำสั่งที่ส่งผ่านพ่อบ้านเฉียน อุปกรณ์การเรียนชุดใหม่ ทั้งพู่กันขนพังพอนชั้นดี แท่นฝนหมึกหินต้วนซี กระดาษเซวียนจื่อเนื้อละเอียด และตำราพื้นฐานอีกหลายเล่ม ถูกจัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพ จวินซิงเฉินแม้จะยังคงมีท่าทีสงบนิ่งและระแวดระวังอยู่บ้าง แต่แววตาที่จับจ้องตำรากลับฉายประกายมุ่งมั่นและสนใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขามิได้เอ่ยปากขอบคุณผู้ใด แต่การที่เขาใช้พู่กันด้ามใหม่อย่างทะนุถนอม และตั้งใจฟังคำสอนของอาจารย์หลินมากขึ้น ก็ถือเป็นการยอมรับในความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเงียบๆส่วนจวินเสวี่ยอันนั้น บัดนี้นางมีอาจารย์หญิงผู้หนึ่งนาม ซูอี๋เหนียง มาสอนสั่ง ซูอี๋เหนียงเป็นสตรีวัยกลางคน ท่าทางอ่อนโยน พูดจาแช่มช้อย มีความสามารถทั้งด้านการวาดภาพทิวทัศน์และอักษรวิจิตร นางเริ่มต้นจากการสอนให้เสวี่ยอันวาดภาพง่ายๆ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๗ เมล็ดพันธุ์ของความหวังอันเปราะบาง
ภายหลังเหตุการณ์ที่เหออวี้หลันลงโทษบ่าวหญิงผู้ปากพล่อย บรรยากาศในจวนแม่ทัพโดยรวมดูสงบลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เรือนจื่อเถิง บ่าวไพร่ที่ต้องไปมาหาสู่หรือส่งของ ต่างมีท่าทีนอบน้อมและระมัดระวังคำพูดต่อหน้าจางมามาและเด็กทั้งสองมากขึ้น จางมามาเองก็ดูผ่อนคลายลง สีหน้าไม่เคร่งเครียดกังวลตลอดเวลาเช่นแต่ก่อน แม้แต่จวินซิงเฉินผู้ช่างสังเกต ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นนี้ แม้จะยังไม่เข้าใจถึงต้นสายปลายเหตุก็ตามส่วนเหออวี้หลันนั้น นางตระหนักดีว่าการดูแลเด็กมิใช่เพียงการมอบวัตถุสิ่งของหรือปกป้องจากภยันตรายภายนอกเท่านั้น แต่คือการทำความเข้าใจและหล่อหลอมจิตใจอันละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่นางขาดประสบการณ์และความรู้อย่างสิ้นเชิงในอดีต นางสนใจเพียงการปรนเปรอตนเองและแก่งแย่งชิงดี ไม่เคยใส่ใจศึกษาหลักการเลี้ยงดูบุตรธิดาเลยแม้แต่น้อยดังนั้นในยามว่างเว้นจากการดูแลความเรียบร้อยในจวน นางจึงมักใช้เวลาอยู่ในห้อง เก็บตัวอ่านม้วนตำราและเอกสารต่างๆที่ให้ชุนเถาไปเสาะหามา มิใช่ตำราพิชัยสงครามหรือบทกวีรักใคร่ แต่เป็นบันทึกเกี่ยวกับหลักการอบรมเลี้ยงดูบุตรธิดาตามขนบธรรมเนียม ตำราดูแลสุ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๘ บททดสอบนอกกำแพงจวน
ในขณะที่ความเปลี่ยนแปลงอันเงียบงันค่อยๆหยั่งรากลึกลงในเรือนจื่อเถิง จิตใจของจวินซิงเฉินกลับยิ่งสับสนว้าวุ่นมากขึ้น เขามิใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้ความอีกต่อไป สายตาคมกริบคอยเฝ้าสังเกตทุกการกระทำของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นท่านแม่อย่างเงียบเชียบ อาหารเลิศรส เสื้อผ้าอาภรณ์ที่อบอุ่น เครื่องเรือนที่สะดวกสบาย การศึกษาที่เข้มข้นขึ้น และท่าทีของบ่าวไพร่ที่นอบน้อมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ทว่าความทรงจำอันเลวร้ายในอดีตยังคงฝังแน่นราวรอยสลักบนแผ่นหิน แววตาเย็นชา น้ำเสียงตวาดดุด่า การลงโทษอย่างไร้เหตุผล ภาพเหล่านั้นยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ เขามองดูจวินเสวี่ยอัน น้องสาวตัวน้อยที่ค่อยๆกล้าเงยหน้าขึ้นมองโลกมากขึ้น เริ่มมีเสียงหัวเราะใสๆเล็ดลอดออกมาบ้างยามเรียนวาดภาพกับอาจารย์ซู ส่วนหนึ่งในใจเขาก็ยินดี แต่อีกส่วนหนึ่งกลับหวาดระแวง... นี่เป็นเพียงภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตหรือไม่?วันหนึ่ง ขณะที่อาจารย์หลินกำลังอธิบายความหมายของบทกวีโบราณ จวินซิงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น "ท่านอาจารย์ขอรับ... ในประวัติศาสตร์เคยมีบุคคลใดหรือไม่ ที่เปลี่ยนแปลงนิสัยใจคอจากหน้ามือเป็นหล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๙ แสงจันทร์กระจ่างสาดส่องพระราชวัง
วันเทศกาลจงชิวเจี๋ยเวียนมาบรรจบ ทั่วทั้งจวนแม่ทัพประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสีสัน บรรยากาศคึกคักอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการเฉลิมฉลอง ทว่าในเรือนอวี้ฮั่นความวุ่นวายกลับมีน้อยกว่าที่เคยเป็นเหออวี้หลันนั่งนิ่งอยู่หน้าคันฉ่องทองเหลือง ปล่อยให้ชุนเถาบรรจงเกล้าผมมวยสูง ประดับด้วยปิ่นหยกขาวสลักลายเมฆาอันเรียบง่ายแต่ประณีต นางสวมอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายดิ้นเงินเป็นรูปเมฆามงคลแลดูสง่างามสมฐานะ แต่ก็มิได้โอ้อวดหรือฉูดฉาดจนเกินงาม ต่างจากอดีตลิบลับที่นางจะต้องวุ่นวายเลือกเฟ้นอาภรณ์ที่หรูหราที่สุด เครื่องประดับที่แวววาวที่สุด เพื่อประชันขันแข่งกับสตรีอื่นในงานเลี้ยงใบหน้าของนางยามนี้สงบนิ่ง แววตาแน่วแน่มั่นคง แม้จะมีความกังวลซ่อนอยู่ลึกๆ แต่ก็ถูกเก็บงำไว้ภายใต้ท่าทีอันสุขุมก่อนจะออกจากเรือนเพื่อไปยังรถม้า นางกลับก้าวเท้าเดินไปยังทิศทางของเรือนจื่อเถิงเสียก่อน เมื่อไปถึงก็พบว่าจางมามากำลังช่วยเด็กทั้งสองผูกโคมกระต่ายน้อยน่ารักอยู่ใต้ซุ้มต้นจื่อเถิง ขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายไส้ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะเล็กๆอย่างสวยงาม"ท่านแม่!" จวินเสวี่ยอันเป็นคนแรกที่เห็นนาง เด็กน้อยอุทานเสียงเบา หลบไปอยู่ข้างหลังจางม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ ๑๐ วาจาคมปลาบในคืนจันทร์กระจ่าง
เมื่อองค์ฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จประทับ ณ พระที่นั่งกลางท้องพระโรง เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน งานเลี้ยงฉลองเทศกาลจงชิวเจี๋ยก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างถวายพระพรตามลำดับยศ อาหารเลิศรสและสุรานานาชนิดถูกลำเลียงออกมาไม่ขาดสาย นางรำในอาภรณ์งดงามอ่อนช้อยร่ายรำอยู่กลางท้องพระโรง สร้างบรรยากาศครึกครื้นทว่าแฝงไว้ด้วยระเบียบแบบแผนอันเคร่งครัดเหออวี้หลันนั่งอยู่เคียงข้างจวินเหยียนซี นางรักษากิริยามารยาททุกกระเบียดนิ้ว ทานอาหารเพียงเล็กน้อย จิบสุราเพียงพอเป็นพิธี สายตาจับจ้องการแสดงเบื้องหน้า แต่ในใจกลับตื่นตัวและระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา นางรู้ดีว่าภายใต้บรรยากาศอันรื่นเริงนี้ มีสายตาและการประเมินค่าซ่อนเร้นอยู่ทุกหนแห่งช่วงเวลาที่การแสดงชุดหนึ่งจบลง และกำลังจะเริ่มการแสดงชุดต่อไป ในจังหวะที่เสียงพูดคุยจอแจดังขึ้นเล็กน้อยนั้นเอง เงาร่างของสตรีกลุ่มหนึ่งก็เคลื่อนเข้ามาหยุดอยู่ที่โต๊ะของจวนแม่ทัพ ผู้นำกลุ่มคือ หลี่ฮูหยิน ภรรยาเอกของเสนาบดีกรมพิธีการ นางขึ้นชื่อเรื่องฝีปากกล้าและมักชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้อื่น ในอดีตนางเคยพยายามตีสนิทเหออวี้หลัน แต่ก็ถูกความเย่อหยิ่งของน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-12
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status