อาหารคือชีวิต และสวรรค์ลิขิตให้เธอนับหนึ่งอีกครั้ง ในโลกยุค 80s เชฟสาวสวยและรวยมากระดับพันล้าน ฟื้นจากความตายมาอยู่ในร่างของ ‘ม่านอวี้อัน’ ที่สิ้นอายุขัยก่อนวัยอันควร และ ‘แจ็คสัน หยวน’ สามีคืนเดียวของอีกฝ่าย หายสาบสูญไปในการก่อการร้ายระดับชาติ เธอจึงต้องปากกัดตีนถีบ เลี้ยงลูกชายฝาแฝดตามลำพัง ขณะเดียวกันก็เริ่มหวั่นไหวต่อคนจรหน้าผี (กู๋กุ่ย) ซึ่งเข้ามาตอแยขอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ช้าก่อน! เรื่องหัวใจมันไม่สำคัญเท่าปากท้อง เพราะร้านอาหารกำลังจะเจ๊ง ซ้ำร้าย ถูกแก๊งมาเฟียสุดโหดไล่บี้ตามคิดบัญชีหนี้ และเตรียมยึดที่ซุกหัวนอน !!
더 보기บทนำ
ณ เมืองติดชายทะเล ถนนเนี่ยอิน พื้นที่ควบคุมของแก๊งมังกรซิ่ง
เยว่จือตัวสั่นไปหมด เด็กสาวไม่รู้จะทำอย่างไร การถูกตบหน้าอย่างรุนแรงถึงสองครั้งติดต่อกัน ด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของอาซู คนในแก๊งมังกรซิ่ง ทำให้น้ำตาคลอหน่วย แม้ในยามนี้เธอจะพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ถึงอย่างนั้นน้ำตาก็ยังคงไหลอาบใบหน้าเรียวเล็กที่ซีดราวกับซากศพ ในใจของเธอภาวนาขอให้เรื่องเฮงซวยทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพความฝัน
มิหนำซ้ำเด็กสาวยังห่วงอีกสามชีวิต เมื่อคืนคุณผู้หญิงเพ้อหนักก่อนที่ตัวจะสั่นเทาและสลบไปนาน ตอนนี้เธอคงกำลังรอการกลับไปของเยว่จือ รวมถึงสองฝาแฝดวัยสี่ขวบกว่าที่เมื่อเช้าได้กินเพียงขนมปังบาแก็ตที่ทั้งแข็งและแห้งโรยน้ำตาล ซึ่งเด็กสาววางได้แผนไว้ว่า หากเกิดเรื่องร้ายแรงใดขึ้น เธอจะพาพวกเด็ก ๆ หนีไปให้ไกล!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังดังก้องในหู เธอกลัว ตื่นตระหนก และขวัญเสีย ทว่าสิ่งที่ทำได้คือจำต้องกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาเอาไว้ ถึงจะยากลำบากเหลือเกิน แต่ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะเธอไม่ต้องการให้คนพวกนี้เห็นความอ่อนแอของตน
อย่างไรก็ตาม นับว่าแก๊งมังกรซิ่งยังมีเมตตาอยู่บ้าง ไม่มีใครหิ้วเธอไปขัดดอกอย่างที่เคยได้ยินมาก่อนหน้า เด็กสาวเอื้อมมือสั่น ๆ ไปหยิบขวดยาแก้ไอและยาเม็ดในซองที่หล่นอยู่บนพื้น ที่ก่อนหน้านี้เธอแบกหน้าไปคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตามาจากเถ้าแก่โจว เพราะวันก่อนเขาบอกว่าจะมาช่วยดูอาการของคุณผู้หญิง แต่อีกฝ่ายกลับติดธุระ จึงยื่นแค่ซองยามาให้เช่นเดิม แต่ยังไม่ทันจะได้กลับถึงบ้าน เด็กสาวก็ถูกชายกลุ่มใหญ่ขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“เสี่ยวจือ อั๊วจะบอกลื้อให้เข้าใจง่าย ๆ เอาเป็นว่า อีกครึ่งเดือน ต้องหาเงินมาใช้ดอกให้ได้ หนึ่งหมื่นเหรียญถ้วน ไม่เช่นนั้น ทั้งลื้อและนังคุณนายต้องไปโบกรถขายหมากข้างถนน!”
คนที่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงดังและข่มขู่คือ ผู้คุมย่านถนนเนี่ยอิน เขาชื่อ ไห่ถัง และ ‘หญิงขายหมาก’ คืองานบริการอย่างหนึ่งที่ใช้สาวสวยแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อย คอยขายหมากให้ผู้ชายหลากหลายวัยที่ขับรถผ่านไปมาตามถนนตั้งแต่รุ่งสางจนถึงเที่ยงคืน นอกจากการขายหมากก็ อาจมีเรื่องหลับนอนเข้ามาเกี่ยวข้อง ธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในถนนเนี่ยอิน มันสร้างเม็ดเงินให้แก่แก๊งมังกรซิ่งเป็นกอบเป็นกำ ไม่ต่างจากการปล่อยเงินกู้เก็บดอกมหาโหด หรือการเปิดบ่อนการพนัน
เยว่จือส่ายหน้า เธออยากจะร้องประท้วง แต่ไห่ถังชูขวานในมือขึ้นมาข่มขู่เธอ ซึ่งภาพที่เด็กสาวเคยเห็นในหนังสือพิมพ์มันช่างน่ากลัวจับใจ กฎหมายทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้ มีบ่อยครั้งที่พบศพของคนถูกขวานสับเป็นชิ้น ๆ ถูกนำมาทิ้งตามทั้งขยะ เรื่องนี้โหดเหี้ยม และเยว่จือเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งมังกรซิ่ง
“บอกนังคุณนายของลื้อ ถ้าหาเงินไม่ได้ก็ไสหัวออกจากร้านไปซะ เตรียมยกทรงสวย ๆ กับกระโปรงสั้น ๆ เอาไว้ด้วย งานขายหมากหาเงิน มันยังดีเสียกว่านั่งทำอาหารงก ๆ แต่ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน อย่าทรมานตัวเองเลย สมัยนี้ผู้หญิงล้วนรักสบายกันทั้งนั้น”
ไห่ถังเอ่ยจบก็ใช้สายตาสำรวจเยว่จือ
“จะว่าไปลื้อก็หน้าตาพอใช้ ยังไง มาอยู่กับอั๊วดีไหม”
เด็กสาวไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงต่ำ เตรียมก้าวหนี เป็นตอนนั้นเองที่เธอเห็นว่ามีสายตาคม ๆ คู่หนึ่งจ้องมองมาจากมุมถนน ใครคนนั้นคือคนที่เคยมานอนซมอยู่ด้านข้างร้าน และคุณผู้หญิงได้ให้ข้าว ป้อนยาอยู่หลายวัน แต่พอเขาหายดีก็มีปากเสียงกับคุณผู้หญิง ก่อนจะหายตัวไปเสียดื้อ ๆ ฝ่ายคุณผู้หญิงเองก็สติแตก พังข้าวของในบ้าน สุดท้ายจึงล้มป่วยลงเพราะพิษไข้ อาการนั้นน่าเป็นห่วงจนเรียกได้ว่าเป็นตายเท่ากัน!
“หนูจะไปบอก คุณผู้หญิงตามที่เฮียถังสั่ง”
“ดี และอย่าลืม อีกสามวัน อั๊วจะเข้าไปกินข้าว มีงานวันเกิดอาอิงน้องสาวอั๊ว หาอะไรที่มันกินได้เอาไว้ด้วย ขืนทำรสชาติหมาไม่แดก รู้ใช่ไหมว่า ทั้งลื้อและนังคุณนายแสนสวยนั่นจะต้องโดนอะไร!”
เยว่จือพยักหน้ารับติด ๆ กัน เธอยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม พร้อมกลั้นเสียงสะอื้นด้วยความกลัวเอาไว้อีกหน
จากนั้นจึงออกวิ่งไปตามถนนเนี่ยอิน เพื่อกลับบ้านที่ยามนี้มีสามชีวิตรอเธออยู่ด้วยความหวัง!
*****************
หญิงสาวตื่นจากฝันร้าย เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวราวกับเธอถูกดูดกลืนสู่ขุมนรก
จริงอยู่ที่เธอเป็นผู้หญิงโมโหร้ายและทำงานด้วยอารมณ์เสมอ แต่นั่นเป็นเพราะทั้งหมดคือศิลปะ เธอใช้หัวใจทำงาน ซึ่งเธอได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากบิดา และเขาก็สนับสนุนเธอเรื่อยมา ดังนั้นอาหารของเธอจะต้องดีเยี่ยม รสชาติเหมือนฟ้าประทาน ใครได้กินต้องชอบ นอกจากนั้นเธอยังนิยมเฉพาะคำชมเท่านั้น ส่วนเรื่องติติงต้องพักไว้ก่อน อย่าได้พูดเข้าหู
แต่หลังจากงานเลี้ยงฉลองยอดขายทะลุร้อยล้านเหรียญของแบรนด์อาหารชุดใหม่ที่ใช้เวลาขายไม่ถึงหนึ่งวัน ซึ่งทำให้เธอเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป และเธอก็รู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมนี้ อาหารของเธอจะอยู่คู่ทุกครัวเรือน ทั้งซอสสำหรับผัด น้ำมันพริกในการปรุงซุปแสนอร่อย รวมถึงสารพัดเครื่องครัวที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แบรนด์การค้าที่มั่นคง ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือสกุลจาง
และการขายของโดยการไลฟ์โชว์ที่สร้างเม็ดเงินได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ คงมีแต่ ลิซ่า จาง เท่านั้นที่ทำได้ เธอคือเบอร์หนึ่งของเจ้าแม่ขายของกินทุกอย่าง รวมถึงสารพัดเครื่องมือใช้สอยในครัว เธอเป็นผู้หญิงแกร่งยุคใหม่
ทว่าหลังจากที่แฟนหนุ่มตั้งใจจะขับรถพาเธอกลับคฤหาสน์หลังงาม ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น!
เมื่อจู่ ๆ ถนนสายหลักที่ใช้กลับบ้านมีการปิดการจราจร เขาจึงพาเธอเลี่ยงไปใช้อีกทางที่ต้องผ่านอุโมงค์ลึก และสิ่งน่ากลัวจับใจก็เกิดขึ้น เมื่อขับไปได้ครึ่งทางแล้วรถเก๋งคันใหญ่เกิดเสียหลัก หมุนไปชนกับเข้าบางสิ่ง ก่อนจะเคลื่อนตัวจมดิ่งลงสู่แม่น้ำลึก!
ลิซ่าไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเคลิ้มหลับเนื่องจากดื่มไปไม่น้อยและเพลียมาทั้งวัน รู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนจุกบริเวณหน้าอก มิหนำซ้ำขาข้างซ้ายังติดอยู่กับที่นั่ง เมื่อออกแรงขยับก็ปวดแปลบขึ้นมาจนน้ำตาไหล
“ที่รัก... ยื่นมือมา!” เสียงแฟนหนุ่มลูกครึ่งเรียกเธอ แต่ลิซ่าดื่มมาหนัก จึงรู้สึกวิงเวียนศีรษะและเคลื่อนไหวร่างกายได้เชื่องช้าเหลือเกิน ในขณะเดียวกันน้ำก็ไหลท่วมห้องโดยสารจนเธอรู้สึกหายใจติดขัด
“ฉันหายใจไม่ออก” ลิซ่าบอกเขาและพยายามขยับตัวเพื่อช่วยเหลือตนเอง แต่กลับเหมือนคนจะสิ้นแรงเสียอย่างนั้น
กระทั่งร่างของแฟนหนุ่มหายไป หลังจากนั้นหูก็อื้อไปหมด รถเก๋งคันใหญ่ที่มีสภาพไม่ต่างโรงศพเหล็กได้พาร่างของเธอจมลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำ
ลิซ่ากระเสือกกระสนพาตัวเองออกจากรถเก๋งอย่างสุดชีวิต แต่น่าเสียดาย เธอมีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากเกินไป อีกทั้งแรงดันน้ำทำให้เธอหมดสติ
เธอกำลังจะตาย ตายไปพร้อมความสำเร็จในอาชีพและการงาน ซึ่งคนที่จะได้รับผลประโยชน์นับพันล้านเหรียญก็คือแฟนหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปี เขาได้รับการสนับสนุนจากบิดาและคนในครอบครัวของเธอ ทว่าลิซ่ากลับไม่เคยเฉลียวใจมาก่อนเลยว่า อีธานกำลังซ่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นคือมิเชล น้องสาวต่างมารดาของเธอ และเรื่องทั้งหมดเกิดจากการที่ทุกคนร่วมมือกันวางแผนหักหลัง ลิซ่า จาง
“อันเอ๋อร์ที่ผ่านมา แม่ไม่น่าเป็นตัวอย่างไม่ดีแก่หนูเลย ต่อไปไม่เอานะ อย่าเท้าสะเอว ตีหน้ายักษ์ และแยกเขี้ยวขู่คนอื่นอีก ดูสิพวกเขาเหมือนหมาจนตรอกแค่ไหน ไม่มีทางสู้ลูกได้เลย” ม่านอวี้อันหันมาทางลี่ฮุ่ย และตอบว่า “สบายใจได้ค่ะ ฉันแค่ทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขารู้ว่า คุณแม่ลูกแฝด ที่ชื่ออวี้อันไม่ได้อ่อนแอ ใครจะมารังแกไม่ได้เด็ดขาด ที่สำคัญเมื่อกี้ฉันไม่ได้จำมาจากที่แม่เคยโวยวายใส่ ทั้งหมดมันออกมาจากความรู้สึกข้างในต่างหากค่ะ” “ยังไงก็เถอะ ห้ามเลยนะ ถ้าต้องจัดการคนพวกนี้อีก ให้แม่กับเพื่อนๆ ไล่ดีกว่า อันเอ๋อร์จะได้ไม่ต้องเก็บเรื่องไร้สาระมาหนักหัวเปล่าๆ ลูกสมควรทำอาหาร และดูแลหลานให้แม่ดีที่สุด” ลี่ฮุ่ยว่าอย่างเป็นห่วง “ขอบคุณนะคะ เอาเป็นว่าลูกสาวคนนี้ จะพยายามเชื่อฟังให้มากที่สุด” ลี่ฮุ่ยส่ายหน้า และเอ่ยว่า “ไม่ใช่พยายามเชื่อฟัง อันเอ๋อร์ต้องทำตามที่แม่ขอร้องรู้ไหม” หญิงวัยกลางคนเอ่ยจบ หล่อนก็พาลูกสาวบุญธรรมกลับเข้าไปในงาน เป็นตอนนั้นที่ประทัดถูกจุดขึ้นนับพันดอกเพื่อแสดงความยินดี ในงานมงคล ผิงกั่ววิ่งมาหาม่านอวี้อัน และยิ้มกว
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ คุณนี่เอง ลูกชายนายท่านหยวน มีข่าวว่าตายในกองเพลิงหาศพไม่เจอ นั่นคงเป็นการกุเรื่องสินะ คงกลัวคนจะรู้ว่าคุณเป็นต้นเหตุทำให้พี่ชายตาย!” แจ็คสันไม่ได้หลงกลสิ่งที่ม่านหงกล่าว ซึ่งเขาไม่ได้ทำให้ปีเตอร์เสียชีวิต ทุกอย่างเป็นอุบัติ มันเกิดขึ้นจากการก่อการร้ายครั้งใหญ่ และหลังจากเขาบาดเจ็บหนัก ก็นอนสลบไปหลายเดือน เมื่อฟื้นขึ้นก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนสกุลหยวนอีก นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่า ครอบครัวทำธุรกิจมืด และเงินที่ได้มาไม่บริสุทธิ์ “ดูเหมือน คุณจะรู้หลายสิ่ง เลยคิดเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับผมกับภรรยา แผนตื้นเขินแบบนี้ ใช้ไม่ได้หรอก อีกอย่างผมนามสกุลหยวนก็จริง และเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถึงอย่างนั้นผมได้เลือกใช้ชีวิตเรียบง่ายกับภรรยา และลูกๆ เรื่องไหนที่เป็นอดีต ไม่ขอรื้อฟื้น” ม่านหงยิ้มเยาะ แจ็คสันช่างเป็นคนขี้ขลาด เขาเป็นถึงลูกชายคนกลางหยวนเฉาคัง ทว่ามักน้อย ไม่กล้ากลับตระกูลใหญ่ นั่นเพราะแต่เดิมก็อยู่หลังพี่ชายคนโต คอยหลบเลี่ยงปัญหา ทว่าลูกชายแจ็คสัน มีประโยชน์ต่อม่านหงในยามนี้ เด็กฝาแฝดสองคนนั้นต้องหาเงินให้เขาเป็นกอบเป็นกำ “ถึงอย่างไร ทายาทของนา
ฝ่ายลี่ฮุ่ยชิมโดนัทไปสองชิ้นเล็ก และหล่อนทึ่งทีเดียว “ของแบบนี้ จะมาทำกินกันแค่ในบ้านไม่ได้ แม่ว่าใช้เป็นเมนูพิเศษ เลยดีไหม ทำป้ายขายตามไฟแดง หรือทำเพิงเล็กๆ ติดถนนให้คนจอดซื้อได้สะดวกๆ เราเอากำไรน้อยๆ ขายจำนวนมาก เพื่อสร้างอาชีพให้คนอื่น” ม่านอวี้อันพยักหน้าเห็นด้วย ซึ่งความตั้งใจเธอเป็นเช่นนี้ อาหารที่ทำราคาต้องจับต้องได้ เหมาะกับคนหลากหลายวัย พอหญิงสาวหันไปมองแจ็คสันที่อมยิ้มในสีหน้า เธอก็เอ่ยถาม “บอกได้หรือยังคะว่า ทำไมถึงให้ฉันเป็นเหมือนขนมโดนัท” “อ่อ เพราะเมียจ๋าของผัว น่ารักแสนดีและหอมหวาน อีกอย่าง...ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข เหมือนโดนัทไง ตัวกลมๆ มีรูปตรงกลาง ดูแล้วยิ้มได้ตลอด” ม่านอวี้อันฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วนึกแปลกใจ “ถึงจะพิลึกอยู่สักหน่อย แต่ฉันถือว่าเหล่ากงชมนะคะ แล้วนี่สองแฝดอยู่ไหน” เธอถาม และมองหาลูกชาย ก่อนต้องนิ่งค้าง เมื่อเห็นเซียงเจียววิ่งร้องไห้จ้าเข้ามาเธอ ส่วนผิงกั่วยืนขวางแขกที่ไม่ได้รับเชิญเอาไว้ ม่านหงไม่อยากเชื่อว่าจะได้เห็นความสำเร็จของหลานสาว ส่วนถานเซียะในวันนี้นั่งรถเข็น มีพยาบาลช่วยดูแล พร้อมเ
เรื่องชวนขายหน้าของเหล่ากง เนื่องจากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่เหลืออีกสามทีมจะจัดแข่งขันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ลี่ฮุ่ยจึงตั้งใจจัดการเลี้ยง ต้อนรับม่านอวี้อัน และยังเปิดโอกาสให้แจ็คสันแสดงตัวว่า เขาคือสามีของหญิงสาวด้วย “เหล่ากงไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้” ม่านอวี้อันบอกคนรัก “ตอนนี้พี่เหลือคนในครอบครัวคือยายหวัง อยากให้แกมีความสุขอีกสักครั้ง และเราก็จดทะเบียนกันให้ถูกต้อง เป็นผัวเมียตามกฎหมาย” “ถ้าอย่างั้นตามใจเลยค่ะ แล้วเหล่ากงจะบอกยายหวังหรือไม่คะ ว่าไม่ใช่ลูกชายของแก” แจ็คสันไม่เสียเวลาคิด ในอดีตที่ผ่านมา เขาเคยบอกยายหวังแล้วว่า ตนไม่ใช่ลูกชาย รวมถึงพยาบาลและคุณหมอหลายคนที่ใช้เหตุผลกับแก ทว่ายายหวังกลับไม่ได้สนใจสิ่งนั้น ดูเหมือนว่าลึกๆ หญิงชรารับรู้ความจริงเรื่องนี้ แต่แสร้งว่า แจ็คสันเป็นลูกชายของตนที่จากไปในเหตุการณ์ร้ายแรง อีกทั้งแจ็คสันอยากตอบแทนน้ำใจเหรินซือห่าว ที่ช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตาย “อาหมวยที่รัก...” ชายหนุ่มทอดเสียงหวานทุ้ม ดวงตาคมของเขาก็ทอแสงอ่อนถึงเธอ จึงช่วยไม่ได้ที่ม่านอวี้อันจะเก้อเขินอย่างหนัก “เอ มันใช่เวล
จานอาหารสุดท้ายดูเหมือนทุกทีมจะมีการเสิร์ฟอาหารที่ใช้ลูกเล่นต่างกันไป ทั้งสาวสวยใส่รองเท้าสเก็ตซ์ บริกรหนุ่มๆ ถีบรถจักรยานล้อเดียว ลี่ฮุ่ยมองม่านอวี้อันอยู่อย่างนั้น แน่นอนหล่อนเชื่อมั่นว่าเค้กต้องอร่อย แต่อดไม่ได้ที่อยากให้โต๊ะสีน้ำเงินมีสีสันกว่าที่เป็นอยู่ “เอาอย่างไรดีล่ะ แม่หมั่นไส้พวกนั้นเหลือเกิน” ม่านอวี้อันแต่เดิมเธอชอบทำอาหารเพียงอย่างเดียว ทว่าในโลกเก่า ต้องต่อสู้กับคู่แข่งมากมาย การไลฟ์ขายของที่เธอเคยทำนั้น นับว่าสร้างความสนุกให้ผู้คนเสมอ ระหว่างขายของจึงมีทีมนักเต้น นักดนตรีคอยเรียกลูกค้าตลอด “แม่ไม่ต้องห่วง เหล่ากงกับสองแฝด คงไม่ปล่อยให้เรายืนเหงาๆ แน่นอน” “แจ็คสันกับผิงเกอ เจียวเกอนั่นหรือ...ให้หลานฉันมาช่วยยกของ เสิร์ฟของอะไรหนักๆ ไม่ดีแน่” ม่านอวี้อันหัวเราะน้อยๆ และตอบลี่ฮุ่ย “สองแฝด แค่ยิ้ม โบกมือ เต้นนิดๆ หน่อยๆ คนก็เทคะแนนให้เราแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมว่าพวกเราคือคนในถนนเนี่ยอิน ฉะนั้น ขายความเป็นตัวตนของเราดีที่สุด” ลี่ฮุ่ยยังไม่เข้าใจ แต่เยว่จือกับเจ้าอิงเตรียมตบมือรอแล้ว เพราะเห็นสองแฝดถูกจับใส่น่ารักเป็นหมีกั
เมื่อทุกทีมส่งอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อย ก็ยังไม่ได้มีการประกาศผลคะแนน เนื่องจากจะรวมคะแนนทั้งหมดกับของหวาน จากนั้นคัดเพียงสามทีมเข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ลี่ฮุ่ยได้ข้อมูลจากคนของเธอที่เป็นหนึ่งในกรรมการทั่วไป มาแจ้งผลว่า รสชาติอาหารแต่ละทีมล้วนมีข้อดีกับข้อด้อยต่างกันไป “ทีมสีเขียวหมึกช็อตนั้นอร่อย และเนื้อหมึกหวาน แต่คนเกือบครึ่งเลือกที่จะไม่รับประทาน ส่วนที่โดดเด่นตีคู่มากับหมูสะเต๊ของเราก็คือ ทีมสีแดงจากเชฟสองดาว ฝ่ายนั้นทำซาโมซ่าซอสผักชี” “พวกเขาทำการบ้านมาดี ผักชีมีกลิ่นเฉพาะตัว แล้วนำมาทำคล้ายซอสเพลสโต้ แบบนี้คงได้คะแนนไม่น้อย” ม่านอวี้อันไม่ได้ชิม จานดังกล่าว แต่เธอเห็นตอนทีมสีแดงเตรียมจัดเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ “จริงอย่างที่อันเอ๋อร์บอก ซอสผักชีทำง่าย เครื่องปรุงไม่ยุ่งยาก แต่กลับเสริมให้ซาโมซ่าอร่อยเข้าไปอีก” เยว่จือกับเจ้าอิง ไม่รู้จักซาโม่ซา ฝ่ายโรสที่เคยกินจึงบอกว่า “มันเป็นแป้งทอดไส้หมูสับ หรือไก่สับปรุงให้รสจัดจ้านนิดหน่อย ปกติจิ้มกับซอสมะขาม หรือซอสมะเขือเทศ แต่บางครั้งฉันเห็นซาโมซ่าเป็นไส้ผลไม้ เช่นกล้วยหอม หรือไส้ฝักทอง”
댓글