พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย

พยศรัก บอดี้การ์ดที่ร้าย

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-30
โดย:  เดวิโอล่าอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
35บท
178views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

"ในเมื่อพ่ออยากให้แต่งงานกันนัก งั้นก็เอาบอดี้การ์ดทำผัวไปเลยแล้วกัน" ++++++++++++++++++++ ชีวิตของคุณหนู รุณสา เอกเดชาพิพัฒน์ ไม่มีอะไรง่าย แม่และตาที่เป็นที่พึ่งเดียวเสียชีวิต พ่อฮุบบริษัทตาซ้ำยังมีลูกกับเมียน้อย เธอเลยต้องเอาทุกอย่างคืนมาโดยความช่วยเหลือจากบอดี้การ์ดที่ผันตัวจากมิตรไปเป็นศัตรู ++++++++++++++++++++ "นายช่วยเข้ามาใกล้ๆ หน่อยได้ไหม ฉันรู้ว่ามันงี่เง่า ฉันรู้ว่านายเกลียดฉัน แต่เข้ามาใกล้ๆ ที"

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทนำ เรื่องของครอบครัว

[Reinist’s part]

สนามบินสุวรรณภูมิ

บริเวณประตูทางออกหมายเลข 10 มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย ผู้คนต่างพากันป้องปากซุบซิบแล้วมองมายังจุดนี้เป็นตาเดียว บ้างก็นินทา บ้างก็ชื่นชม บ้างก็เดาไปต่างๆ นาๆ ว่ายัยคนสวยขายาวสวมเ‍ด‍ร‍สสีแดงสดและรองเท้าส้นเข็มสูงปรี๊ดซ้ำยังมีชายชุดดำเดินตามถึงสองคนคนนี้คือใคร

ฉันเริ่มจะชินซะแล้วล่ะกับสายตาพวกนี้ที่มองมา ในฐานะของคุณหนู รุ‍ณ‍น‍สา เอ‍ก‍เด‍ชา‍พิ‍พั‍ฒ‍น์ ทายาทรุ่นต่อไปของ AC-Groups ชื่อบริษัทที่ครอบครองธุรกิจหลากหลายประเภทจนคนชินตา การถูกจ้องมองด้วยสายตาแบบนี้เป็นเรื่องปกติมากๆ

แต่ผู้คนที่นี่อาจไม่ได้มองเพราะชื่อเสียงของฉัน เพราะผู้หญิงชุดแดงหาที่ไหนก็หาได้ แต่คนที่หุ่นดีขาเรียวยาวซ้ำยังรูปร่างเข้ากับการดีไซน์ของชุด แล้วยังมีผิวขาวที่โดดเด่นรับกับชุดสีทับทิมนี่เป็นอย่างดี จะมีสักกี่คนกัน

แต่ว่านะ...ใต้ความสวยชีวิตฉันก็มีเรื่องน่ายกนิ้วกลางให้อยู่ ทั้งชีวิตของการรับบทคุณหนูมีแต่เรื่องที่ทำให้ฉันต้องหมดความศรัทธาในสถาบันครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆ

พ่อแต่งงานกับแม่เพื่อใช้นามสกุลของคุณตา ทิ้งแม่ที่ป่วยให้ตายโดยไม่ยอมพยายามรักษาอย่างเต็มที่ ส่งลูกสาวอย่างฉันไปเรียนต่อฮ่องกงทั้งที่คุณตาเองก็ป่วยเป็นโรคเดียวกัน แล้วจากนั้นไม่นาน คุณตาก็เสีย...

ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไทยซ้ำยังมีบอดี้การ์ดมาตามคุมตัวตลอดเวลา ถูกแฮกมือถือปิดกั้นข่าวของครอบครัวจากประเทศไทย แต่สุดท้ายฉันก็ได้รู้...เขาเปิดตัวเมียน้อยที่มีลูกด้วยกันวัย 2 ขวบ ทั้งที่แม่ฉันเพิ่งตายได้แค่ไม่กี่เดือน และตาฉันก็เพิ่งเสียเถ้ากระดูกยังไม่ทันเย็นด้วยซ้ำ

น่าเจ็บใจตรงที่กว่าฉันจะรู้ ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้วถึง 5 ปี วันที่ฉันได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เป็นวันเดียวกับวันเกิดครบรอบ 7 ขวบของลูกชายเขา

ลูกชายที่ฉันไม่เคยนับว่าเป็นน้อง...

คิดว่าจากเรื่องที่ฉันเล่ามา มันทำให้ชีวิตฉันดูแย่พอแล้วใช่ไหม เปล่าเลย ไอ้ที่รอฉันอยู่จากนี้ต่างหากคือของจริง

“ไปได้แล้ว จากนี้บอดี้การ์ดของคุณหนูมีแค่ฉันเท่านั้น” ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสวมอินเอียร์เช่นเดียวกับบอดี้การ์ดสองคนที่เดินตามฉันมาได้ออกคำสั่ง ขณะที่ดวงตาคู่คมมองมาที่ฉันด้วยอารมณ์นิ่งเฉย

เขาคือ ไนธ์ ผู้ชายที่ฉันเกลียดเข้ากระดูกดำ!

ผู้ชายที่โตมากับฉันในฐานะของพี่ชาย เพื่อนเล่น พี่เลี้ยง ครูคนแรก และอะไรหลายๆ อย่าง ฉันเคยให้ความไว้เนื้อเชื่อใจเขาในฐานะพิเศษกว่าคนอื่นๆ จนกระทั่งวันที่รู้ความจริง จึงได้รู้ว่าที่เขาเข้ามาสนิทด้วยเมื่อก่อน เพราะพ่อจงใจให้เขามาจับตาดูฉันแค่นั้นเอง

แม้แต่ตอนนี้ที่ฉันอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิตอย่างที่พ่อต้องการ ก็ยังเป็นเขาที่กลับมาอยู่ข้างกายฉันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะหมารับใช้ของพ่อน่ะนะ

“เงินเดือนที่พ่อให้มันคงไม่พอสินะ ถึงได้มารับจ๊อบเป็นบอดี้การ์ดเพิ่ม”

ฉันกอดอกมองเขาหัวจรดเท้าแล้วยกยิ้มมุมปากนิดๆ ใจอยากจะพุ่งไปกระชากผมทรงรากไทรนั่นให้หลุดติดมือมาสักกระจุก แต่ไม่อยากเป็นเป้าสายตาคนทั้งสนามบินแล้วกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งตั้งแต่วันแรกที่มาถึง

“ผมจะคิดว่านั่นเป็นคำว่า สวัสดี จากคุณก็แล้วกัน” เขาตอบกลับมาหน้าตาย ยิ่งทำให้ฉันอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิม

“อย่ามากวนฉันนะ ถอยไป ถ้าพ่อให้นายมารับฉันก็จะขับรถเอง ฉันไม่ไว้ใจอะไรที่มาจากเขาทั้งนั้น”

พูดจบฉันก็ทำท่าจะเดินขึ้นรถที่เขาขับมาจอดก่อนหน้านี้ แต่กลับถูกมือหนารั้งต้นแขนเอาไว้

“หยุดดื้อได้แล้ว คุณไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”

หยุดดื้อ? เขาคิดว่าฉันยังเป็นเด็กหญิงคนนั้นเมื่อ 10 ปีก่อนหรือยังไง ตื่นเนอะ เมื่อก่อนฉันอาจจะมองเขาเป็นเหมือนพี่ชายเลยเชื่อฟังเขาทุกอย่าง แต่ตอนนี้สถานะของเราเปลี่ยนไปแล้ว

เขาคือคนของพ่อ เป็นศัตรูของฉัน

“ฉันรู้ตัวก่อนนายอีกว่าตัวเองไม่เด็กแล้ว ไม่ต้องมาสอน”

แขนที่ถูกจับอยู่ได้สะบัดน้อยๆ เพื่อให้เขาปล่อยให้เป็นอิสระ ซึ่งเขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ตามมาด้วยการถอนหายใจราวกับกำลังเหนื่อยใจกับสิ่งที่ฉันทำอยู่

ฉันต่างหากที่ต้องทำอย่างนั้นไม่ใช่เขา

เอาเถอะ ในเมื่อเขาอยากขับรถนักฉันเองก็ไม่คิดเอาตัวเองไปเหนื่อยฟรีๆ ห‍ร‍อ‍ก ไว้กลับถึงบ้านค่อยจัดการเอาเขาออกจากตำแหน่งบอดี้การ์ดนี่ก็ไม่สาย ยังไงตลอดเวลาที่ฉันอยู่ฮ่องกงฉันก็ทำให้คนตกงานมานับสิบคนแล้วนี่ มีเพิ่มมาอีกคนจะเป็นไรไป

“กลับบ้านให้เร็วที่สุด ฉันอยากไปให้ทันงานวันเกิดน้องชายสุดที่รัก” พอเข้ามาในรถได้ฉันก็รีบคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วสั่งเขาที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ ทว่าชายหนุ่มกลับมองฉันผ่านกระจกมองหลังแล้วพูดเสียงเรียบ

“ท่านประธานสั่งให้ผมไปส่งคุณที่คอนโด”

“ว่าไงนะ?”

ไอ้พ่อบ้านั่น...มันกล้าดียังไง นั่นมันบ้านของฉัน บ้านของคุณตาที่ท่านสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ซ้ำท่านยังเสียชีวิตไปโดยที่ฉันไม่มีโอกาสได้เคารพศพด้วยซ้ำ เขาจะมีเมียใหม่กี่คนก็ช่างเขาสิ แต่จะมาทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้

“นั่นบ้านฉัน บ้านของคุณตา ของแม่ฉัน เขาไม่มีสิทธิ์ห้ามฉันเข้าไป” ฉันเริ่มจะโกรธจนปากสั่นพูดไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พยายามเก็บความโกรธเอาไว้ในใจตั้งแต่รู้เรื่องจนถึงตอนนี้ แต่ไม่คิดว่าจะถูกสะกิดต่อมเอาได้ง่ายๆ เพราะคำพูดไม่กี่คำ

ไอ้บ้านั่น...มันไม่สมควรถูกเรียกว่าพ่อ

“ผมต้องทำตามหน้าที่” เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเฉยชาแบบสุดๆ แทบจะไม่สนใจเลยว่าฉันกำลังโมโหแค่ไหน

“งั้นลงไปจากรถ ฉันจะขับเอง” ฉันทำท่าจะปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วสลับไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ แต่เขากลับเถียงอีกครั้ง

“ผมขับรถคันนี้มา ถ้าคุณอยากไปที่อื่นคนที่ลงจากรถต้องไม่ใช่ผม”

“ไอ้...ไอ้...” ยิ่งได้ยินคำพูดของคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า อารมณ์ของฉันมันก็ยิ่งพุ่งปรี๊ด “รู้ห‍ร‍อ‍กว่านายมันเลียเจ้านายเก่ง แต่บางเรื่องมีศีลธรรมบ้างก็ได้ปะ”

“ผมรู้คุณจะพูดอะไร”

“ตาฉันก็เลี้ยงนายมาอย่างดี ดูแลเหมือนกับหลานแท้ๆ ของท่าน ฉันได้อะไรนายก็ได้ด้วย แล้วดูที่นายทำสิ ทรยศคนในครอบครัวฉันแล้วไปเข้าพวกกับ...”

พวกสารเลวนั่น...ฉันอยากจะพูดอย่างนี้ออกไปเหลือเกิน แต่คำว่าพ่อมันก็ยังค้ำคอทำให้ฉันยั้งใจได้อยู่บ้าง

ฉันไม่เหมือนพวกนั้น...แม้จะแค้นจนอยากฆ่าให้ตาย แต่ฉันเป็นคนดีเกินกว่าจะลดตัวลงไปทำเรื่องต่ำช้าเหมือนพวกเขา

"ฉันจะไม่พูดอะไรที่มันซ้ำซาก ถ้าไม่อยากเดือดร้อน ไปส่งฉันที่บ้านเดี๋ยวนี้!"

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
35
บทนำ เรื่องของครอบครัว
[Reinist’s part]สนามบินสุวรรณภูมิบริเวณประตูทางออกหมายเลข 10 มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย ผู้คนต่างพากันป้องปากซุบซิบแล้วมองมายังจุดนี้เป็นตาเดียว บ้างก็นินทา บ้างก็ชื่นชม บ้างก็เดาไปต่างๆ นาๆ ว่ายัยคนสวยขายาวสวมเ‍ด‍ร‍สสีแดงสดและรองเท้าส้นเข็มสูงปรี๊ดซ้ำยังมีชายชุดดำเดินตามถึงสองคนคนนี้คือใครฉันเริ่มจะชินซะแล้วล่ะกับสายตาพวกนี้ที่มองมา ในฐานะของคุณหนู รุ‍ณ‍น‍สา เอ‍ก‍เด‍ชา‍พิ‍พั‍ฒ‍น์ ทายาทรุ่นต่อไปของ AC-Groups ชื่อบริษัทที่ครอบครองธุรกิจหลากหลายประเภทจนคนชินตา การถูกจ้องมองด้วยสายตาแบบนี้เป็นเรื่องปกติมากๆแต่ผู้คนที่นี่อาจไม่ได้มองเพราะชื่อเสียงของฉัน เพราะผู้หญิงชุดแดงหาที่ไหนก็หาได้ แต่คนที่หุ่นดีขาเรียวยาวซ้ำยังรูปร่างเข้ากับการดีไซน์ของชุด แล้วยังมีผิวขาวที่โดดเด่นรับกับชุดสีทับทิมนี่เป็นอย่างดี จะมีสักกี่คนกันแต่ว่านะ...ใต้ความสวยชีวิตฉันก็มีเรื่องน่ายกนิ้วกลางให้อยู่ ทั้งชีวิตของการรับบทคุณหนูมีแต่เรื่องที่ทำให้ฉันต้องหมดความศรัทธาในสถาบันครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆพ่อแต่งงานกับแม่เพื่อใช้นามสกุลของคุณตา ทิ้งแม่ที่ป่วยให้ตายโดยไม่ยอมพยายามรักษาอย่างเต็มที่ ส่งลูกสาวอย่างฉันไปเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 จอมพยศที่หนึ่ง
บ้านเอ‍ก‍เด‍ชา‍พิ‍พั‍ฒ‍น์สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือโถงห้องรับแขกที่เดิมเคยมีเฟอร์นิเจอร์หรูมูลค่าหลายสิบล้านที่คุณตาหวงแหนตั้งอยู่ ตอนนี้ทุกอย่างถูกเคลียร์โล่งเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับงานปาร์ตี้ ทั้งลูกโป่ง ริบบิ้น กระดาษสีมากมายเกลื่อนพื้นไปหมด แล้วยังมีพลุกระดาษถูกยิงขึ้นไปติดอยู่บนรูปที่แปะไว้ใจกลางของห้องรับแขกนั่นอีกรูปคุณตา คุณยาย แล้วก็แม่ของฉัน สามคนที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้กำลังถูกหยามเกียรติโดยใครก็ไม่รู้ที่มันไม่ได้มีสายเลือดของตระกูลฉันด้วยซ้ำ แล้วไหนจะแขกในงานวันเกิดที่ร้องเจี๊ยวจ๊าวเหมือนลิงหลุดมาจากสวนสัตว์ ผู้ปกครองที่มางานก็ยังไม่สนใจดูแลลูก ปล่อยให้ไอ้เด็กเวรพวกนี้มันขึ้นไปกระโดดอยู่บนโซฟาของคุณตาอีก“เท็กซัสลูก อย่ากระโดดสิครับ” ฉันคิดว่าคนเป็นแม่คงมีจิตสำนึกอยู่บ้าง หากว่าไม่ได้ยินคำพูดต่อมา “เดี๋ยวตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง ลงมาลูก”“พอกันที!”ฉันเดินตรงเข้าไปภายในงานแม้ว่าจะมีการรั้งต้นแขนเล็กๆ จากคนที่เดินมาด้วยกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันหยุดความตั้งใจที่จะทำลายงานวันเกิดแสนอัปรีย์ในครั้งนี้“เรนิส...” คนที่เรียกชื่อฉันไม่ใช่ใครที่ไหน แม่ของร‍า‍อุ‍ลอย่างยัยไข่มุกนั่นเอง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 ไม่ได้ทำในฐานะบอดี้การ์ด
คนเจ็บขึ้นมาบนรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ แค่ถอดอินเอียร์ที่ชุ่มเลือดออกแล้วสตาร์ทรถเงียบๆ เป็นภาพที่สยดสยองจนแทบไม่อยากมอง“ไปโรงพยาบาลสิ เดี๋ยวก็แก้วหูแตกฉันไม่รู้ด้วยนะ” ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะบอกให้เขาไปโรงพยาบาลโดยไม่แสดงความเป็นห่วง ฉันแค่กลัวว่าจะมีคนมาเจ็บตัวแทนทั้งที่ไม่ต้องการ ไม่อยากมาเป็นหนี้บุญคุณกันให้ต้องตามติดไปถึงชาติหน้าเพราะผู้ชายอย่างเขา เจอชาติเดียวก็เกินพอแต่เขาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่ยอมตอบอะไรกลับมาแล้วสตาร์ทรถออกตัวไปในทันที“แก้วหูแตกไปจริงๆ แล้วมั้ง สมน้ำหน้า” พูดพร้อมเบะปากด้วยความสะใจ“คุณควรจะขอโทษผมสักคำนะ”อ้าว ก็ได้ยินนี่ มีหูแต่ทำเป็นไม่มี แม่ทำให้แตกเพิ่มอีกสักข้างดีไหม น่าหงุดหงิดจริงๆ เลย“ขอโทษเรื่องอะไร? นายเอาตัวเข้ามาขวางเองนี่”“เรียนก็สูง วิชามารยาทเขาไม่สอนเหรอ?”“นายหลอกด่าฉันเหรอ!” ฉันกำหมัดแน่น ใจอยากจะทุบเขาให้ตายคามือ แต่พอเห็นว่าเขาเจ็บเพราะฉันเลยได้แต่เก็บมือลงที่เดิมแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆใจเย็นไว้เรนนี่ เย็นไว้ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง“ไปโรงพยาบาล” ฉันสั่งเสียงเข้ม แล้วยกมือขึ้นกอดอกเพื่อให้เขารู้ว่ากำลังไม่สบอารมณ์มากๆเกิดว่ามีใครมา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3 อยู่ด้วยกัน
แผลที่หูก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ทำไมฉันต้องไปใส่ใจด้วยว่าเขาจะเจ็บหรือเปล่า คนเราจะมาเป็นบอดี้การ์ดได้มันต้องผ่านการฝึกหนักมาก่อนไม่ใช่เหรอ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลยด้วยซ้ำแต่เรื่องที่น่าสนใจกว่าเรื่องหูแตกของคนคนเดียว คือคอนโดที่เขาพาฉันมานี่ต่างหาก ในทีแรกคิดว่ามานอนสักคืนคงไม่เป็นไร เพราะฉันไม่ได้กลับบ้านนานห้องนอนเดิมคงยังไม่ได้รับการทำความสะอาด แต่ไม่คิดว่าที่ที่เขาพามามันจะทุเรศได้ขนาดนี้“เอาลูกสาวแท้ๆ มาขังไว้กับผู้ชายสองต่อสองไม่กลัวลูกจะถูกข่มขืน เขานี่เกิดมามีแค่ไอ้นั่นไว้สืบพันธุ์จริงๆ ไม่ได้มีความเป็นพ่อคนเลยสักนิด”ฉันบ่นอุบทันทีที่มาถึง ไหนจะเหนื่อยจากการเดินทาง ไหนจะรองเท้าส้นเข็มสูงกว่า 4 นิ้วที่ใส่มาทั้งวัน มาถึงห้องนี้อีกอย่างที่ฉันทำนอกจากบ่นคือถอดรองเท้าออกเพราะมันเจ็บมาก เจ็บจนฉันแทบจะเดินเท้าเปล่าไม่ไหว ทั่วทั้งฝ่าเท้ามีอาการบวมแดงจนต้องอาศัยการนวดเบาๆ เพื่อให้คลายความเจ็บปวดลงอ้อ ส่วนเรื่องห้อง เขาให้ฉันอยู่ในคอนโดราคาถูกๆ ที่ไม่ได้เก็บเสียงอะไรเลยสักนิด ตั้งแต่เข้ามาก็ได้ยินเสียงข้างห้องทะเลาะกันอยู่เป็นระยะ แล้วยังต้องอยู่ร่วมชายคากับไอ้บ้านี่อีก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-26
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4 บีบบังคับ
ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะข่มตาให้หลับเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เพราะว่ามัวแต่คิดถึงซิกแพ็กของไอ้บ้านั่นห‍ร‍อ‍กนะ แต่เมื่อวานดันใส่ส้นสูงร่อนไปร่อนมาทั้งวัน ตกกลางคืนเลยปวดน่องจนนอนแทบไม่หลับ บุญบาปที่ฉันยังสามารถตื่นมาในสภาพแจ่มใสได้แม้ว่าจะนอนน้อย เช้านี้เลยไม่ต้องพึ่งพาคอนซีลเลอร์ในการลบรอยใต้ตาสักเท่าไหร่วันนี้ฉันต้องกลับบ้านไปทวงทุกอย่างของฉันคืนมา เริ่มจากบ้านหลังนั้นที่พวกมันเสวยสุข ในขณะที่ทายาทคนเดียวของบ้านต้องมาอยู่คอนโดเน่าๆ นี่ฝันไปเถอะ ฉันนี่แหละจะทำให้พวกมันอกแตกตาย“เช้ามาก็มายืนทำหน้าโรคจิตอยู่ได้ สมงสมองไปหมดแล้วหรือไง?”“ตาเถร!”แทบจะลืมไปเลยว่าในห้องนี้ไม่ได้มีฉันแค่คนเดียว แต่มีไอ้บ้านี่มาอยู่ร่วมชายคาด้วย ฉันแค่เดินลงมาจากบันไดกำลังจะตรงไปที่ตู้เย็น กลับมีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจนทำให้ตกใจสะดุ้งเฮือกเขามานั่งทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้เนี่ย แถมยังอยู่ในชุดสูทสีดำสุดเสร่อ ทำตัวอย่างกับสายลับในหนัง Mission impossible ทรงผมที่เซตเจลมาอย่างกับนายแบบนั่นอีก หล่อมากมั้ง“มาถึงก็มองเหยียดคนอื่นเลย ยัยคนนิสัยไม่ดี” แล้วดูปากสิ สอบผ่านมาเป็นบอดี้การ์ดได้ยังไงเนี่ย“ใครมองเหยียด ต
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5 อย่าให้คลาดสายตา
“ปล่อยฉันนะไนธ์ ฉันบอกให้ปล่อย ปล่อย!!!”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกรีดร้องอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับยัดเข้ามาในห้องนอนที่เป็นห้องเดิมของตัวเอง ห้องที่ฉันไม่ได้เข้ามาเลยตลอดหลายปีที่แม่จากไป ตอนนี้พื้นมีฝุ่นเขรอะจากการไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดเลย จนทำให้ร่างฉันเสียหลักล้มลงไปถูกกับพื้นฝุ่นเป็นรอยกว้างแต่ฉันไม่ได้มีเวลามามัวสนใจฝุ่นเหล่านี้ เพราะแค่เสี้ยววินาทีประตูห้องก็ได้ปิดลง ก่อนที่คนที่พาฉันเข้ามาอย่างไนธ์จะเดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย“หยุดโวยวายสักที” น้ำเสียงของเขาเหมือนกำลังเหนื่อยใจกับฉัน มันยิ่งทำให้ฉันควบคุมความโกรธเอาไว้ไม่อยู่“ไม่เห็นเหรอว่าพวกมันทำอะไร ฉันถูกจับแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ทั้งที่เหยียบประเทศไทยได้ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ไม่ให้ฉันโวยวาย นายบ้าหรือเปล่า!”“ผมทำตามหน้าที่”“อย่ามาทำเป็นพูดให้ตัวเองดูดี ถ้าเกิดว่านายทำหน้าที่บอดี้การ์ดจริงๆ ฉันจะไม่มีวันเข้ามาอยู่ในห้องนี้ห‍ร‍อ‍ก ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันไม่เอานายไว้แน่!”“เฮ้อ...”ฉันเห็นเขาถอนหายใจออกมาราวกับกำลังเบื่อหน่ายเต็มทน ในเมื่อเขาเบื่อขนาดนั้นทำไมไม่ปล่อยฉันไป มาทนอยู่กับคนอย่างฉันทำไ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6 หนีไป
ตกใจหมดเลย ไอ้เด็กบ้านี่มันมาทำอะไรตรงนี้เนี่ยจู่ๆ ก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้พุ่งมาจ๊ะเอ๋ ฉันตกใจสะดุ้งโหยงเกือบเผลอกำหมัดไปต่อยเข้าให้ ดีนะที่ตั้งสติได้ก่อนแล้วเห็นว่าเป็นเด็กเลยยั้งมือเอาไว้ได้ทันที่อยู่ตรงหน้าฉันคือเด็กหน้าตาคุ้นๆ อายุราวๆ 7-8 ขวบได้ เขามีดวงตากลมโตเป็นประกายและกำลังกะพริบตาปริบๆ มองมาที่ฉันราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาดในตู้เสื้อผ้า ฉันไม่ได้สนใจนักจนกระทั่งเห็นว่าเขาถือเกมกดสีชมพูแปร๋นในมือเดี๋ยว นั่นมันเกมของฉันนี่ เกมกดยุค 90 ที่คุณตาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ฉันคิดว่ามันหายไปแล้วตั้งแต่สมัยเด็ก แล้วมันมาอยู่ที่เขาได้ยังไง“พี่มาจากทางนี้ได้ไงอะ ทางลับเหรอ ว้าว น่าสนใจ”เจ้าเด็กคนนั้นตาลุกวาวพลางพยายามจะแทรกตัวผ่านฉันเข้าไปทางที่ฉันลงมา แต่ฉันเอาตัวไปขวางไว้ก่อน“นายเป็นใคร” ฉันกอดอกถามเสียงดุ“ผมร‍า‍อุ‍ลน้องชายพี่ไง จำน้องตัวเองก็ไม่ได้ เป็นพี่สาวประสาอะไร”“ร‍า‍อุ‍ล?”อ้อ ที่แท้ก็ลูกยัยเมียน้อยนี่เอง มิน่าล่ะฉันถึงได้คุ้นหน้าคุ้นตาเขานัก เมื่อวานในงานไม่ทันได้สังเกตหน้าตาดีๆ จะว่าไปหน้าตาก็คล้ายฉันเหมือนกันนะเนี่ย ไม่เหมือนแม่เลยสักนิด“นายเข้ามาทำอะไรในห้องหนังสือค
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7 แวบหนึ่งที่คิดถึง
“ไปๆๆ อย่ามาพูดไม่รู้เรื่อง ห้างนี้ไม่ให้คนบ้าเข้า ออกไป!”“พูดบ้าอะไรเนี่ย ฉันคือท็อปสเปนเดอร์ของสาขาฮ่องกงสามปีซ้อนเลยนะยะ จะมาหาว่าฉันเป็นคนบ้าได้ยังไง ผู้จัดการของห้างอยู่ไหน เรียกมาเดี๋ยวนี้”“มาเพ้อเจ้ออะไรอีบ้านี่ ไป!!”ไอ้พวกมีตาไม่มีแววเอ๊ย แค่ฉันเสื้อขาดกับไม่มีรองเท้าใส่ ผมก็ยุ่งนิดหน่อยเพราะต้องใช้มือสางเอา แค่นี้ถึงกับต้องหาว่าฉันเป็นคนบ้าเลยเหรอ หน้าตาอย่างฉันเนี่ยนะ? ที่บ้านแกไม่มีทีวีหรือยังไงถึงได้ไม่รู้ว่าฉันคือคุณหนูรุ‍ณ‍น‍สา เอ‍ก‍เด‍ชา‍พิ‍พั‍ฒ‍น์ ตระกูลฉันเป็นหุ้นส่วนของที่นี่อยู่นะยะ!!แต่กรีดร้องไปฉันก็ยังถูกไล่ออกมาอยู่ดี ตอนนี้ฉันทั้งร้อนทั้งเหนื่อยทั้งหิว แต่ในสภาพนี้ไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลย ได้แต่มาล้างหน้าล้างตาไล่ความสกปรกออกไปจากใบหน้า แต่เพราะเครื่องสำอางส่วนใหญ่เป็นแบบกันน้ำ ยิ่งโดนน้ำในสภาพผมเปียกลู่แนบไปกับใบหน้า สภาพเลยเหมือนยัยบ้ายิ่งกว่าเดิม“น่าหงุดหงิดชะมัด ฉันจะผ่านวันนี้ไปแบบดีๆ ได้ไหมนะ”“พี่สาวๆ”“เห้ย!!”ในขณะที่ฉันกำลังโฟกัสกับใบหน้าตัวเองที่หน้ากระจก จู่ๆ ก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งมากระตุกชายกระโปรงเบาๆ ทำให้ฉันที่ไม่ทันสังเกตถึงกับสะดุ้งเฮือก“เธอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8 โลกใบนี้มันหลอกลวง
[Nithe’s part]ผมเอาข้าวเย็นไปให้เรนนี่กะแกล้งยั่วโมโหคนกำลังหิวจัดจากการไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน แต่ภายในห้องกลับเงียบจนผิดสังเกต พอเข้ามาถึงเห็นว่ามันว่างเปล่า บนที่นอนที่ควรมีหญิงสาวนอนอยู่กลับเหลือเพียงรองเท้าส้นสูงสีแดงคู่หนึ่ง และกระเป๋าที่ถูกรื้อข้าวของออกมากองเอาไว้ บนพื้นมีร่องรอยการเดินไปมาทั่วห้อง กระทั่งไปหยุดอยู่ที่ตู้หนังสือเก่าๆ ที่เรนนี่ไม่น่าจะอยากแตะต้องด้วยนิสัยของเธอที่ไม่ชอบให้มือตัวเองเปื้อนสิ่งสกปรก อย่าว่าแต่จับมันเลย แค่เข้าใกล้ยังไม่อยากทำด้วยซ้ำ ด้วยความสงสัยผมจึงเดินเข้าไปแล้วลองขยับมันดู แค่คิดเล่นๆ ว่ามันอาจจะมีช่องลับหรืออะไรสักอย่างข้างหลังนั้นแล้วก็มีจริงๆห้องนั้นเชื่อมมาที่ห้องหนังสือชั้นล่าง ตรงนี้มีเพียงร‍า‍อุ‍ล ลูกชายคนเล็กของบ้านเท่านั้นที่จะเข้ามาทำการบ้านบ้างเล่นของเล่นบ้าง เลยทำให้ไม่มีใครเห็นว่าเธอออกไป นอกจากเขา“พี่สาวบอกว่าห้ามบอกใครว่าทำภารกิจลับอยู่ ผมเลยบอกไม่ได้ครับว่าพี่สาวหนีออกจากบ้านไปแล้ว” ร‍า‍อุ‍ลพูดด้วยความไร้เดียงสา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ที่พูดนั่นแหละคือการ บอก ในสิ่งที่พี่สาวของเขาห้ามว่าแต่ พี่สาว? เรนนี่เนี่ยนะจะยอมให้เด็ก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9 ไม่ต้องกลัว
ช่วยด้วย...ฉันได้แต่ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในใจ ตอนนี้ทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้แล้วดิ้นให้แรงที่สุดเพื่อให้หลุดจากไอ้สองตัวนรกนี่ให้ได้ พวกมันเอามือสากๆ มาปิดปากฉันเอาไว้แน่น บีบจนฉันเจ็บร้าวไปทั้งกะโหลก ทั้งยังพยายามฉุดกระชากลากถูฉันเข้าไปในซอยมืดๆ นั่น โดยที่เด็กคนนั้นยืนมองนิ่งไม่พูดอะไรเลยนังเด็กบ้า เพราะอยากช่วยแกแท้ๆ เลยทำให้ฉันต้องจบลงอย่างนี้ ถ้าฉันหลุดไปได้ไม่เอาแกไว้แน่“อย่าดิ้นสิวะอีนี่ ตัวก็นิดเดียวแรงเยอะจังวะ”“อื้อ อ่อยอั๊น!!!” ไม่ดิ้นก็โง่น่ะสิ ให้ตายฉันก็ไม่มีวันยอมตกเป็นเมียสวะอย่างพวกแกเด็ดขาด!“กูบอกว่าอย่าดิ้น!”ตุ้บ!ความรู้สึกจุกหน่วงที่ท้องน้อยทำให้เรี่ยวแรงของฉันหายไปในทันที แม้แต่แรงจะตะโกนขอความช่วยเหลือก็ยังไม่มี วินาทีนี้เองที่ฉันเริ่มใจเต้นรัวมากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะถูกข่มขืนโดยไอ้เลวสองคนนี้ฉันกลัว...เป็นครั้งแรกเลยที่กลัวมากขนาดนี้ หัวใจมันสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในใจพยายามอ้อนวอนต่อพระเจ้า ขอให้ส่งใครสักคนมาช่วยฉันทีแวบหนึ่ง...แค่แวบหนึ่งจริงๆ ที่ฉันคิดถึงไนธ์ขึ้นมา คนที่ทะเลาะกันไม่หยุดตลอดสองวันที่ผ่านมานี้ คนที่เขาคงดีใจที่ฉ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-29
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status