เมื่อองค์หญิงใหญ่เกิดใหม่พร้อมตำราจากแดนพิเศษ

เมื่อองค์หญิงใหญ่เกิดใหม่พร้อมตำราจากแดนพิเศษ

last updateLast Updated : 2025-08-08
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
24Chapters
190views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

จากองค์หญิงใหญ่ผู้สูงศักดิ์ กลายเป็นสตรีชาวไร่ชาวสวนครอบครัวยากจน โชคดีที่ยังมีตำราพิเศษและแมวดำแสนน่ารักคอยช่วยเหลือ ปฏิบัติการหาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัวจึงเกิดขึ้น! นางคือองค์หญิงใหญ่ หมิงจู ผู้สง่างาม แต่เพราะวาสนานี้สั้นนัก มารดาแท้ๆตายจาก บิดาไม่รักใคร่ ซ้ำยังสั่งโบยนางจนตาย แต่เหมือนด่านเคราะห์ครานี้จะยังไม่จบไม่สิ้น นางเกิดใหม่ในร่างของ ไป๋เยว่ซิน หญิงสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทกับครอบครัวที่ยากจน นอกจากต้องหาทำกินเลี้ยงปากท้องแล้ว นางยังจะต้องสู้รบปรบมือกับคนชั่วที่จ้องจะเอาเปรียบตนอีกชีวิตนี้ไม่ง่ายเลย ดูแล้วสวรรค์ยังคงไม่พอใจในความลำบากของนาง จึงส่ง หยางซี แม่ทัพใหญ่ตระกูลหยาง เข้ามาพัวพันกับนาง ยิ่งนางไม่อยากเจอเขา เขาก็ยิ่งมาปรากฏตัวใต้ครรลองสายตาของนางอยู่ตลอดเวลา และเส้นทางชีวิตของไป๋เยว่ซินต้องวนกลับเข้าไปในวังวนของราชสำนักอีกครั้ง อีกทั้งยังมีเรื่องราวที่นางและหยางซีต้องจัดการอีกหลายเรื่อง ทั้งการตายอย่างเป็นปริศนาของมารดาหยางซีและการกลับมาของมารดาไป๋เยว่ซินซึ่งมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน สุดท้ายแล้ว พวกเขาจะพบคำตอบด้วยตนเองหรือว่าต้องใช้ตำราพิเศษและเจ้าแมวดำคอยช่วยกันนะ?

View More

Chapter 1

บทนำ

นครหลวงต้าซ่ง

รัชศกต่งปีที่ 30

"ฝ่าบาท โปรดทรงให้ความเป็นธรรมแก่ส่วนรวมด้วยพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงใหญ่หมิงจูมีนิสัยกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว นางทุบตีบ่าวไพร่ ไม่ให้เกียรติเหล่าขุนนางก็ช่างเถิด แต่ถึงขนาดวางแผนสังหารหยางฮองเฮาและองค์ชายใหญ่หมิงอวี้ เช่นนี้ไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้พ่ะย่ะค่ะ!"

"ท่านเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นด้วย แต่ไหนแต่ไรองค์หญิงใหญ่หมิงจูวางตนไม่เหมาะสมกับฐานะขององค์หญิงใหญ่เลยแม้แต่น้อย นางมีวรยุทธ์แต่ทว่ากลับใช้มันในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เป็นเพียงสตรีจะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไปด้วยเหตุใดกัน ต้องเป็นเพราะนางมีใจคิดเป็นอื่นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ นางทำเช่นนี้นับว่ามีใจคิดไม่ซื่อ อีกทั้งหลักฐานก็มัดตัวแน่นหนา ขอฝ่าบาทโปรดทรงลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"

เสียงของเหล่าขุนนางที่เอ่ยร้องขอความเป็นธรรมคนแล้วคนเหล่านั้นทำให้ฮ่องเต้หมิงต่งรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย เขามองดูบุตรสาวของตนที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าท้องพระโรงด้วยแววตาที่เรียบเฉยคราหนึ่ง

องค์หญิงใหญ่หมิงจู เป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจากเขาและสวีฝูอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับ ซึ่งนางสิ้นพระชนม์ไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว เดิมทีเขาไม่เคยมีใจรักใคร่ในตัวนาง แต่ที่ต้องแต่งงานกันก็เพราะยามนั้นนางสามารถเชิดชูอำนาจและบารมีของเขาได้

หลายปีก่อนเขายังเป็นเพียงองค์ชายรองที่เกิดจากนางสนมเล็กๆและต้องการให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊สนับสนุนตนให้ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ในตอนนั้นบิดาของนางเป็นถึงราชครูผู้มากความสามารถและเป็นที่ไว้วางพระทัยของอดีตฮ่องเต้ สามารถผลักดันเขาขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดได้ เขาจึงยอมแต่งนางเป็นพระชายาเอก

หลังจากได้ตำแหน่งองค์รัชทายาทมาครอบครองสมใจ เขาก็ได้แต่งหยางเจินลี่เข้ามาเป็นพระชายารอง นางคือสตรีที่เขารัก ตระกูลของนางเป็นถึงตระกูลแม่ทัพผู้เก่งกาจ สามารถส่งเสริมให้ขุนนางฝ่ายบู๊ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาได้

เขาลอบใส่ร้ายองค์ชายใหญ่จนเสียชื่อเสียงจนอดีตฮ่องเต้ไม่ทรงโปรดปราณและมอบตำแหน่งองค์รัชทายาทให้เขาเสีย เขาอดทนรอเวลานี้มาหลายปี สุดท้ายก็กำจัดเสี้ยนหนามทั้งหมดและก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ได้สำเร็จ

เขาได้ครองใต้หล้ามาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว

เมื่อสามปีก่อน หลังจากที่สวีฝูอดีตฮองเฮาสิ้นพระชนม์เพราะโรคประจำตัว ตระกูลสวีก็เสื่อมถอยลง ราชครูสวีไม่มีบุตรชาย เมื่อสูญเสียบุตรสาวอย่างไม่มีวันกลับจึงล้มป่วยและตายจากไป จวนตระกูลสวีกลายเป็นเรือนร้างนับแต่นั้น

เขาแต่งตั้งหยางเจินลี่ขึ้นเป็นฮองเฮาพระองค์ใหม่ และมอบตำแหน่งกั๋วกงให้แก่จวนตระกูลหยาง 

ฮ่องเต้หมิงต่งปรายตามองหมิงจู เดิมทีบุตรสาวคนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกรักใคร่เท่าใดนัก เพราะเขาไม่เคยรักมารดาของนาง แต่กลับรักใคร่องค์ชายหมิงอวี้และองค์หญิงรองหมิงซินอี๋มากกว่า หมิงอวี้นั้นเกิดทีหลังหมิงจูเพียงหนึ่งปี อีกทั้งยังมีความสามารถและเก่งกาจฉลาดรอบรู้

เดิมทีเรื่องที่เด็กๆเล่นสนุกกันจนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยนั้นไม่นับเป็นอันใด แต่ทว่าหมิงจูกลับถูกตรวจสอบพบว่าลอบวางยาพิษหยางเจินลี่และหมิงอวี้ นี่คือสิ่งที่เขาไม่อาจให้อภัยได้!

หยางเจินลี่เป็นสตรีที่เขารัก บุตรสาวบุตรชายของนางก็เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเขา ใจของฮ่องเต้ยากคาดเดาและลำเอียงก็นับเป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ

แม้หมิงจูจะปฏิเสธเสียงแข็ง แต่เขากลับไม่ฟังอันใด เขาเชื่อหลักฐานที่ตนเห็นกับตามากกว่า

องค์หญิงใหญ่หมิงจูที่นั่งเงียบอยู่นาน เริ่มอดทนต่อการป้ายสีของเหล่าขุนนางไม่ไหว จึงเงยหน้าไปเอ่ยกับพระบิดาของตนทันที

"เสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ทำนะเพคะ หยางฮองเฮาใส่ร้ายลูก ขุนนางพวกนี้ก็เป็นคนของนาง ย่อมต้องเข้าข้างนางอยู่แล้ว ลูกจะทำร้ายนางไปด้วยเหตุใดกัน!"

"หุบปาก ข้าให้เจ้าพูดแล้วหรือ!"

ฮ่องเต้หมิงต่งเอ่ยกับหมิงจูอย่างไม่ชอบใจ หมิงจูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ฮ่องเต้หมิงต่งเมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่สงวนท่าทีก็พลันขมวดคิ้วมุ่น

เมื่อหัวเราะจนพอใจแล้ว หมิงจูจึงหันมาจ้องมองบิดาของตนเองคราหนึ่ง

นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ แม้จะมีฐานะสูงส่งแต่กลับอ้างว้างเหลือเกิน ตั้งแต่มารดาตายจากไป นางต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก หยางฮองเฮาก็คิดวางแผนการทำร้ายนางอยู่ตลอดเวลา  เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพราะนางหลงกลสตรีใจคอชั่วช้าเช่นหยางฮองเฮา

มีหรือที่นางจะไม่รู้ ที่หยางฮองเฮาเกลียดชังนางปานนี้ก็เพราะเกลียดชังมารดานาง จึงเอาโทสะทั้งหมดมาลงกับนาง!

"ลูกไม่ควรร้องขอความเห็นใจจากฮ่องเต้หมิงต่งเลยจริงๆ แต่ไหนแต่ไรท่านก็ไม่เคยเชื่อคำของลูก ท่านเชื่อแต่หยางเจินลี่และบุตรทั้งสองคนที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านเท่านั้น ลูกมันก็เป็นเพียงส่วนเกินที่ท่านอยากกำจัดทิ้งใจจะขาด!"

"หมิงจู เจ้าจะบังอาจเกินไปแล้วนะ!"

ฮ่องเต้หมิงต่งที่ถูกบุตรสาวต่อว่ากลางท้องพระโรงต่อหน้าเหล่าขุนนางก็โทสะคุกรุ่น หมิงจูที่เห็นเช่นนั้นกลับไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย

"เสด็จพ่อ ลูกไม่ผิด แต่ไหนแต่ไรลูกไม่เคยทำผิดคิดชั่ว แต่ท่านกลับไม่เคยฟังเสียงของลูกเลย ท่านช่างเป็นบิดาที่ใจคอคับแคบยิ่งนัก !"

"บังอาจนัก! ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับผิด อีกทั้งยังทำตัวโอหัง เช่นนั้นก็ดี  ทหาร! จับตัวองค์หญิงใหญ่ไปขังเอาไว้ในคุกหลวง  โบยนางห้าสิบไม้ ชั่วชีวิตนี้อย่าได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก!"

หมิงจูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะในชะตาของตน

"เสด็จพ่อ พระองค์ช่างเป็นบิดาที่ประเสริฐยิ่งนัก!"

เหล่าทหารรีบเข้ามาลากตัวนางออกไป ก่อนจากหมิงจูหันไปมองบิดาของตน ดวงตาของนางแดงกล่ำ แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด นางเปล่งเสียงตะโกนจนก้องไปทั่วทั้งโรงพระโรง

"เสด็จพ่อ หากพวกเราได้พบกันอีกครั้งในชาติหน้า ข้าจะไม่มีทางเรียกท่านว่าเสด็จพ่อ และจะไม่ขอเกิดเป็นบุตรของท่านอีก!"

เอ่ยจบนางก็ไม่ขัดขืนอันใดอีก ปล่อยให้เหล่าทหารลากตัวนางออกไปจากท้องพระโรงอย่างว่าง่าย

นางถูกโบยอย่างไร้ความปรานี เหล่าขันทีที่ลงมือตีนางล้วนเป็นคนของหยางเจินลี่มีหรือพวกเขาจะยอมเมตตาปรานีนาง

หมิงจูไม่ร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย เหงื่อผุดซึมขึ้นเต็มใบหน้าของนาง หญิงสาวหมดสติไปหลายครั้ง นางรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของตนแทบจะแหลกละเอียดแล้ว

นางถูกลากตัวมาขังในคุกหลวงด้วยสภาพโลหิตโทรมกาย ใบหน้างามซีดเผือด ไม่หลงเหลือท่าทีอวดดีขององค์หญิงใหญ่อีก

ยามที่เสด็จแม่ยังอยู่ แม้หยางเจินลี่จะเหิมเกริมแต่กลับไม่กล้าแตะต้องนาง เพราะอย่างไรเสด็จพ่อก็ยังเห็นแก่หน้าท่านตาของนางอยู่ แต่เมื่อสิ้นตระกูลสวี สิ้นเสด็จแม่ นางกลับไร้ที่พึ่งพิง บิดามีใจลำเอียง เชื่อคำยุยงของผู้อื่น

ตั้งแต่เล็กจนโต เท่าที่นางจำความได้ เสด็จพ่อไม่เคยสนใจนางเลย สิ่งใดที่ดีดีล้วนส่งไปให้หมิงอวี้และหมิงซินอี๋ก่อน  นางทั้งน้อยใจทั้งโมโห จึงเอาโทสะที่มีไปลงกับเหล่าขุนนางและข้ารับใช้หวังจะใช้ความรุนแรงเรียกร้องความสนใจจากเสด็จพ่อ แต่มันกลับกลายเป็นว่านางทำตัวเหิมเกริม บ้าอำนาจ มีใจคิดไม่ซื่อไปเสียอย่างนั้น

"ฮึก ฮือ"

ก่อนหน้านี้นางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา แต่ยามนี้มันกลับพังทลายราวคำนบแตก นางร้องไห้ด้วยความเสียใจ น้อยใจ คำว่าครอบครัวคืออันใดนางไม่เคยรู้จัก ความรักจากบิดาคืออันใดนางไม่เคยเข้าใจ เพราะเสด็จพ่อเฉยชาต่อนางและมารดามาโดยตลอด

"พี่หญิง ข้ามาส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้ท่านเดินทางไปปรโลกอย่างมีความสุข อย่าได้อยู่เป็นตัวขวางหูขวางตาของพวกเราอีกต่อไปเลย"

เสียงหวานใสของสตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความมืด ในน้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความเวทนาและขบขัน หมิงจูพยายามเงยหน้าไปมอง ภายใต้แสงสลัวเรือนลางของเปลวเทียนทำให้นางมองเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่ได้อย่างชัดเจน

เป็นหมิงซินอี๋!

ยามนั้นหยางเจินลี่ยังเป็นเพียงพระสนมเอก หมิงซินอี๋ย่อมไม่อาจเทียบกับบุตรที่เกิดจากฮองเฮาเช่นนางได้ แต่หลังจากมารดาหมิงซินอี๋ได้เป็นฮองเฮา หมิงซินอี๋ก็ยิ่งกำเริบเสิบสาน วางอำนาจบาตรใหญ่ ถึงขนาดลอบใส่ร้ายนางสารพัด ยิ่งทำให้ท่านพ่อเกลียดชังและไม่ชอบใจในตัวนางมากขึ้นไปอีก ถึงขนาดคิดว่านางจะลอบฆ่าเชื้อพระวงศ์และตั้งตนเป็นฮ่องเต้หญิงเสียเอง

หมิงจูไม่เอ่ยตอบโต้อันใด นางสิ้นหวังกับชีวิตไปตั้งนานแล้ว ยามนี้ในใจของนางไม่มีแม้กระทั่งความแค้นหลงเหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ นางถึงกับภาวนาต่อเทพบนสวรรค์ว่า หากนางมีโอกาศเกิดใหม่อีกครั้ง ขอให้นางได้เกิดในตระกูลธรรมดา ไม่ต้องมีฐานะสูงศักดิ์ เป็นเพียงบุตรสาวที่ถูกบิดามารดารักใคร่ถนอมอยู่ในฝ่ามือราวไข่มุก มีพี่น้องที่รักใคร่และจริงใจต่อกัน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว 

นางไม่อยากจะแก้แค้นผู้ใดทั้งสิ้น นางคิดเพียงว่านี่คือชะตากรรมที่นางต้องยอมรับ

นางหวังเพียงว่าหากได้พบกับท่านแม่อีกครา นางจะทำทุกทางให้ท่านแม่มีความสุข

ด้านหมิงซินอี๋เมื่อเห็นว่าหมิงจูไม่เอ่ยตอบโต้เช่นที่เคยทำมาตลอดก็รู้สึกหมดสนุก นางสั่งให้คนนำน้ำเกลือมาสาดลงบนบาดแผลหมิงจู ก่อนจะยกเท้าเหยียบกลางหลังหมิงจู เมื่อรังแกคนจนสาแก่ใจแล้ว นางจึงจากไปด้วยใจที่เป็นสุข

หมิงจูนอนคว่ำหน้าด้วยแววตาเลื่อนลอย ภาพตรงหน้าค่อยๆมืดลงทุกขณะ ในที่สุดห้วงจิตสุดท้ายของนางก็มอดดับลง

นางได้จากโลกใบนี้ไปตลอดกาลแล้ว

"องค์หญิงใหญ่สิ้นพระชนม์แล้ว ฝ่าบาทมีรับสั่งว่าให้นำศพของนางไปฝังที่นอกนครหลวง ห้ามนำไปฝังในสุสานราชวงศ์และไม่ต้องสลักป้ายชื่อหน้าหลุมศพ!"

เหล่าทหารเมื่อได้ยินคำสั่งก็รีบเข้ามาหามศพของหมิงจูออกไปฝังยังด้านนอกนครหลวง ก่อนจะจัดการฝังศพของนางอย่างลวกๆที่ตีนเขาวัดไป๋หม่าราวกับศพไร้ญาติ

หมิงจูที่กลายเป็นวิญญาณล่องลอยได้มองเห็นเรื่องราวนี้ทั้งหมด ท่านพ่อเกลียดชังนางถึงกับไม่ให้นางฝังในสุสานราชวงศ์ และยังไม่ให้สลักป้ายชื่อของนาง แต่กลับนำนางมาฝังที่ตีนเขาวัดไป๋หม่า เสด็จพ่อทำราวกับว่านางไม่ใช่บุตรของเขา

หมิงจูมองภาพเหล่านั้นด้วยแววตาไม่ยินดียินร้าย

เมื่อทหารจากไปหมดแล้ว ก็มีบุรุษผู้หนึ่งปรากกฎตัวขึ้น เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด และยังสวมหมวกงอบปิดบังใบหน้าเอาไว้ ท่วงท่าดูสง่างามราวกับเทพเซียน หมิงจูที่เห็นเช่นนั้นก็ย่นหัวคิ้วพลางมองชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยความแปลกใจ

 เขาจัดการฝังศพของนางใหม่ และยังสลักป้ายชื่อหน้าหลุมศพของนางด้วยตนเอง เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงทิ้งกายนั่งลงข้างหลุมศพของนางอย่างเกียจคร้าน ท่าทีของเขาดูเรียบเฉยและเย็นชาราวน้ำแข็งจนนางสัมผัสได้

"หมิงจู ข้าจะดูแลหลุมศพของเจ้าเอง หากชาติหน้ามีจริง พวกเรามาดื่มสุราด้วยกันอีกคราดีหรือไม่?"

เมื่อได้ยินเสียงของเขา หมิงจูก็ตัวชาวาบ

หยางซี เป็นหยางซีหรือ?

อยู่ๆร่างของนางก็คล้ายถูกเหวี่ยงอย่างแรง ก่อนที่นางจะหมดสติไปอีกครั้งหนึ่ง

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
24 Chapters
บทนำ
นครหลวงต้าซ่งรัชศกต่งปีที่ 30"ฝ่าบาท โปรดทรงให้ความเป็นธรรมแก่ส่วนรวมด้วยพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงใหญ่หมิงจูมีนิสัยกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว นางทุบตีบ่าวไพร่ ไม่ให้เกียรติเหล่าขุนนางก็ช่างเถิด แต่ถึงขนาดวางแผนสังหารหยางฮองเฮาและองค์ชายใหญ่หมิงอวี้ เช่นนี้ไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้พ่ะย่ะค่ะ!""ท่านเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นด้วย แต่ไหนแต่ไรองค์หญิงใหญ่หมิงจูวางตนไม่เหมาะสมกับฐานะขององค์หญิงใหญ่เลยแม้แต่น้อย นางมีวรยุทธ์แต่ทว่ากลับใช้มันในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เป็นเพียงสตรีจะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไปด้วยเหตุใดกัน ต้องเป็นเพราะนางมีใจคิดเป็นอื่นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ นางทำเช่นนี้นับว่ามีใจคิดไม่ซื่อ อีกทั้งหลักฐานก็มัดตัวแน่นหนา ขอฝ่าบาทโปรดทรงลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"เสียงของเหล่าขุนนางที่เอ่ยร้องขอความเป็นธรรมคนแล้วคนเหล่านั้นทำให้ฮ่องเต้หมิงต่งรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย เขามองดูบุตรสาวของตนที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าท้องพระโรงด้วยแววตาที่เรียบเฉยคราหนึ่งองค์หญิงใหญ่หมิงจู เป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจากเขาและสวีฝูอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับ ซึ่งนางสิ้นพระชนม์ไปเมื่อสา
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 1 ครอบครัวตระกูลไป๋
บ้านตระกูลไป๋"เร็วๆเข้า อาหลิง เจ้ารีบไปแจ้งท่านแม่และท่านอาสะใภ้รองเร็วเข้าว่าน้องเล็กฟื้นแล้ว!"เสียงเอะอะโวยวายที่ฟังไม่ได้ศัพท์ทำให้หมิงจูรู้สึกปวดหัวหนักขึ้นกว่าเดิม เปลือกตาของนางหนักอึ้งยิ่งนัก หญิงสาวพยายามลืมตาแต่กลับไม่อาจทำได้ นางต้องตั้งสติอยู่พักหนึ่ง กว่าจะสามารถลืมตาขึ้นมามองสิ่งรอบตัวได้ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในบ้านเก่าๆหลังหนึ่ง จะว่าเก่าทรุดโทรมก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ข้าวของเครื่องใช้ออกจะธรรมดาสามัญและไร้ราคาไปเสียหน่อย อีกทั้งภายในห้องยังจุดกำยานที่มีกลิ่นฉุนเสียจนนางรู้สึกเวียนหัว"น้ำ แค่กแค่ก"นางเอ่ยขอน้ำพร้อมกับไอออกมาคราหนึ่ง "อาเยว่ น้ำมาแล้ว เจ้ารีบดื่มก่อนเถอะ"ไม่นานนักก็มีสตรีนางหนึ่งเข้ามาประคองนางและยกถ้วยใส่น้ำมาให้นางดื่มอย่างช้าๆ คล้ายว่าน้ำในถ้วยจะผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย ทำให้หมิงจูรู้สึกชุ่มคอเป็นอย่างมาก เมื่อได้ดื่มน้ำแล้ว ทุกส่วนในร่างกายของนางก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น นางเงยหน้าไปมองสตรีที่ประคองตนเอาไว้ ก่อนจะพบว่าสตรีนางนี้น่าจะมีอายุราวสิบเจ็ดปี หน้าตาไม่ได้งดงามโดดเด่น แต่กลับน่ารักน่าชังยิ่ง อีกทั้งยังยิ้มให้นางอย่างเอ็
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 2 ข้อพิพาท
เมื่อหลินจวงได้สติกลับคืนมาก็ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง พร้อมกับวิ่งโร่ไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้านในทันที เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านทราบเรื่องแล้ว จึงเรียกตัวไป๋เยว่ซินและไป๋เซียงไปที่ศาลาว่าการในทันทีนับว่าโชคเข้าข้างหลินจวงยิ่งนัก เพราะวันนี้นายอำเภอเจี่ยงก็มาเยี่ยมราษฎรที่นี่พอดี นายอำเภอเจี่ยงเป็นสหายรักกับเสนาบดีหลิน หลินจวงจึงยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ว่าตนต้องเป็นฝ่ายชนะไป๋เซียงร้อนใจยิ่งนัก แต่เมื่อหันไปมองน้องสาวตนกลับพบว่าไป๋เยว่ซินไม่ได้มีท่าทีทุกข์ร้อนเลยแม้แต่น้อย นางคว้าจับมือน้องสาวตนไว้ ก่อนจะเอ่ย"น้องเล็ก เรื่องนี้มีนายอำเภอเจี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อไปถึงเจ้าก็ปฏิเสธไปว่าเจ้าไม่ได้ลงมือ เป็นข้าเองที่ทำร้ายนาง พี่รองจะรับผิดแทนเจ้าเอง!"ไป๋เยว่ซินหันไปมองพี่สาวของตน ก่อนจะเอ่ยตอบ"พี่รอง ผู้คนเห็นกันทั่วว่าข้าต่างหากที่เป็นคนลงมือ ท่านยังจะโยนให้เป็นความผิดของตนเองอีก ท่านคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านกับนายอำเภอเจี่ยงนั่นเป็นคนโง่หรือ ท่านไม่ต้องกลัว เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าก็พอ""แต่ว่า..""ฟังข้า!"ไป๋เยว่ซินเอ่ยจบก็จับมือไป๋เซียงเอาไว้แน่นเมื่อมาถึงศาลาว่าการก็พบว่าตอนนี้หลินจวงกำลัง
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 3 เรื่องราวของหยางซี
คนตระกูลหลินทั้งหมดถูกลงโทษโบยคนละสามสิบไม้ตามที่หยางซีสั่ง สภาพของพวกเขาย่ำแย่เป็นอย่างมาก นอกจากจะเจ็บตัวแล้วยังต้องมาเสียเงินค่าทำขวัญให้กับคนตระกูลไป๋ถึงสามร้อยตำลึงอีกด้วย เงินจำนวนนั้นไม่น้อยเลย แต่ถึงแม้จะโมโหมากเพียงใด แต่ยามนี้ยังไม่ใช่เวลามาผูกใจเจ็บ รอให้พวกเขาหายดีแล้ว ค่อยเอาคืนก็ยังไม่สายไป๋เยว่ซินมองดูคนตระกูลหลินที่ถูกหามกลับจวนไปด้วยแววตาที่เรียบเฉยคราหนึ่ง เรื่องการทำโทษคนเช่นนี้นางเคยเห็นมาจนชินตาเสียแล้วจึงไม่ได้รู้สึกตกใจอันใด นางกำตั๋วเงินสามร้อยตำลึงในมือเอาไว้แน่น ก่อนจะเก็บมันยัดใส่แขนเสื้อของตนเอาไว้ แต่ก่อนเงินเพียงเท่านี้ไม่นับเป็นใดสำหรับนาง นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ ตอนเสด็จแม่ยังมีชีวิตอยู่นางไม่เคยขาดแคลนเงิน แต่หลังจากเสด็จแม่ตายจากไปก็ค่อนข้างลำบากแต่ก็ไม่ถึงกับขัดสนอย่างน้อยด้วยฐานะของนางตอนนี้ เงินจำนวนเท่านี้นับว่าไม่น้อยเลย มันอาจจะทำให้นางเอาไปต่อยอดทำอย่างอื่นได้อีกมากมายนับแต่นี้นางจะต้องเผชิญชีวิตด้วยตนเอง ความสุขสบายในกาลก่อนนั้น นางจะลืมมันไปเสียให้หมดสิ้นไป๋เซียงมองน้องสาวตนด้วยแววตาสับสนเป็นอย่างมาก นางจำได้ว่าแต่ก่อนน้องเล็กมีนิสัยอ่อนโย
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 4 ชีวิตในชนบท
หยางซีหวนคิดไปถึงเรื่องในฝันด้วยความตื่นตระหนกหลังจากที่เขาช่วยทำศพให้หมิงจู ก็ได้กลับมาที่จวนและนอนพักอย่างเช่นที่เคยทำ แต่เขากลับฝันเห็นนางในฝันเขาเห็นว่านางเป็นวิญญาณล่องลอยเคว้งคว้างไม่มีจุดหมายปลายทาง นางมองไม่เห็นเขา แต่เขากลับมองเห็นนาง แววตาของนางเศร้าเสียใจและสิ้นหวังเป็นอย่างมากการพบกันของเขาและนางคือความบังเอิญ ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงคุณชายรักสนุก หนีออกจากค่ายทหารมาเที่ยวเล่น และได้พบเจอนางที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ เดิมทีเขารู้ได้สักพักแล้วว่านางเป็นสตรี แต่เพราะไม่อยากให้นางขายหน้าจึงยอมตามน้ำแสร้งทำเป็นไม่รู้ต่อไปแต่ผู้ใดจะรู้ว่าเขาและนางกลับยืนอยู่คนละฝั่ง แม้เขาจะมองนางเป็นสหายรัก แต่เขาในยามนั้นไม่มีอำนาจย่อมไม่อาจเข้าข้างนางได้ เขาจำต้องเลือกตระกูลหยางด้วยความจำใจ เขาทำได้เพียงมองดูนางถูกหยางฮองเฮากลั่นแกล้งสารพัด สุดท้ายก็ต้องทนมองนางเดินไปสู่ความตายด้วยความเจ็บปวดเขายังจำรอยยิ้มของนางได้ นางงดงามและสดใสเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ความสดใสร่าเริงนั้นได้เลือนหายจากโลกใบนี้ไปตลอดกาลเสียแล้วแต่ทว่าสวรรค์กลับเล่นตลก ในฝันนั้นเขาเห็นว่านางได้หายลับไปจากสายตา แต่ไม่นานภาพ
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 5 มอบของแทนคำขอโทษ
ไป๋เยว่ซินปรายตามองของกำนัลมากมายที่นายอำเภอเจี่ยงนำมามอบให้ตนคราหนึ่งอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจเท่าใดนัก ของมีค่าอย่างอื่นนางล้วนไม่ใส่ใจ มีเพียงอย่างเดียวที่นางให้ความสนใจนั่นก็คือเมล็ดผัก หญิงสาวเดินตรงไปยังข้าวของมากมายที่วางอยู่หน้าบ้าน นายอำเภอเจี่ยงที่เห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หากแม่นางน้อยไป๋รับของเหล่านี้ไป แน่นอนว่าวันนี้เขาคงรอดจากฝ่าเท้าของเจ้านายตนไปได้คนในตระกูลไป๋ต่างมองนายอำเภอเจี่ยงด้วยความสงสัย โดยเฉพาะบิดาและท่านลุงใหญ่ของไป๋เยว่ซิน ที่ได้ทราบเรื่องราวที่นายอำเภอเจี่ยงตัดสินคดีอย่างไม่ยุติธรรมก่อนหน้านี้ก็รู้สึกไม่พอใจเท่าใดนัก แต่คนเขาเป็นถึงนายอำเภอ พวกตนคงไม่อาจกล่าววาจาให้อับอายได้กระมัง ชายวัยกลางคนทั้งสองจึงทำได้เพียงมองดูอยู่เงียบๆนางเกาและนางหลี่นั้นไม่เคยเห็นของมีราคาเช่นนี้มาก่อนก็ค่อนข้างตกใจไม่น้อย ไป๋เซียงและอาหลิงเองก็เช่นเดียวกัน นางมองกำไลหยกวงหนึ่งที่วางอยู่ในหีบและผ้าแพรพรรณที่งดงามซึ่งสามารถเอาไปตัดชุดสวยๆได้ก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก ไป๋ฟานเองก็เอาแต่จับจ้องตำราหลายเล่มในหีบด้วยแววตาเป็นกระกายไป๋เยว่ซินเห็นของมีค่าพวกนี้จนเคยชินจึงไม่ได
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 6 ตัดสัมพันธ์
หลายวันมานี้ไป๋เยว่ซินพยายามเรียนรู้ทุกอย่างจากคนตระกูลไป๋ จึงทำให้นางเริ่มจะทำทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่วขึ้นมาบ้าง อีกทั้งนางยังรู้สึกสนุกกับมันมากอีกด้วยบางคราสวรรค์อาจจะเห็นใจที่นางเคยประสบเคราะห์ร้าย จึงมอบชีิวิตที่แสนเงียบสงบเช่นนี้มาให้นางช่วงฤดูร้อนพืชผักที่สามารถปลูกได้ก็จะมี แตงกวา ถั่วฝักยาวและฟัก ไป๋เยว่ซินไม่อยากจะรั้งรอเวลาอีก นางคิดว่าควรจะลงมือทำได้แล้ว จึงชักชวนคนในบ้านเริ่มทำการเพาะปลูกทันที ท่านลุงใหญ่ของนางนั้นมีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง อีกทั้งยังบอกว่าแต่ก่อนตอนที่ท่านปูยังมีชีวิตอยู่ก็เคยเพาะปลูกผักพวกนี้ไปขาย แต่ระยะหลังยิ่งทำยิ่งขาดทุนจึงไม่ทำอีก วันนี้ได้กลับมาปลูกผักอีกครั้ง มันทำให้ท่านลุงใหญ่และท่านพ่อของนางรู้สึกเหมือนว่าได้ย้อนเวลากลับไปสมัยวัยเด็กอีกคราไป๋ฟานไปช่วยบิดาตัดไม้มาทำเป็นเสาหลักและไม้เถาเพื่อให้ใบของพืชผักได้เลื้อยไปเกาะเกี่ยวได้สะดวก ส่วนป้าสะใภ้ใหญ่และท่านแม่ของนางก็ชวยกันรดน้ำเพาะปลูก ไป๋เซียงและอาหลิงกำลังก่อไฟทำอาหาร ส่วนนางเองก็กำลังช่วยไป๋ฟานใช้เชือกมัดไม้เถาที่สวนไป๋เยว่ซินมองดูพี่ชายตนคราหนึ่ง เพราะครอบครัวของนางรักใคร่ปรองกองกันมา
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 7 ตำราลับของเสด็จแม่
เมื่อส่งหยางซีกลับไปแล้ว นางจึงเดินกลับเข้ามาในลานบ้าน เมื่อเข้ามาถึงก็พบว่าทุกคนกำลังมองมาที่นางเป็นตาเดียว ป้าสะใภ้ใหญ่รีบเดินเข้ามาดึงนางไปนั่งลงกลางวงสนทนาพลางเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น"เยว่เอ๋อร์ เจ้าบอกป้าสะใภ้มา เจ้ากับใต้เท้าหยางคนนั้น..."ไป๋เยว่ซินที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มแทบจะพ่นน้ำออกมาจากปาก นางไอออกมาสองสามครั้ง ก่อนจะหันไปเอ่ยกับป้าสะใภ้ใหญ่ของตน"ท่านป้าสะใภ้ ท่านคิดเหลวไหลไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ข้าเพียงไม่มีคนช่วยแบกลิ้นจี่กลับบ้าน บังเอิญว่าเขาผ่านมาพอดีจึงช่วยข้า เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่จะมาสนใจสตรีบ้านนอกอย่างข้าได้เช่นไรกัน"นางเกาแสดงท่าทีเสียดายอย่างสุดซึ้งพลางพร่ำบ่นว่าเสียดายซ้ำๆอยู่อย่างนั้น ด้านนางหลี่ก็มองบุตรสาวตนด้วยความเป็นห่วง สายตาที่ทุกคนมองนางมีทั้งความสงสาร ห่วงใยและเห็นใจ เมื่อถูกมองเช่นนี้นานเข้าไป๋เยว่ซินก็เริ่มจะทนไม่ไหว"พวกท่านอย่ามามองข้าเช่นนี้นะ ข้ากับเขาไม่ได้รู้จักสนิทสนมกัน ข้าบอกเขาแล้วว่าต่อไปไม่ต้องมาที่บ้านเราอีก ข้าไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน วันนี้ข้าเหนื่อยมาก ขอตัวไปนอนก่อนนะเจ้าคะ"ไป๋เยว่ซินหาทางบ่ายเบี่ยงบอกปัด พลางยกมือขึ้นนวดไหล่ตนคราหนึ่ง
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 8 ตามมาถึงบ้าน
ไป๋เยว่ซินเดินมาตามทางอย่างไม่รีบไม่ร้อน สองข้างทางมีเหล่าชาวบ้านที่ออกมาทำนาให้เห็นเป็นระยะ นางผ่านที่ใดก็แบ่งชาลิ้นจี่ให้พวกเขาได้ลองชิมดู ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยเลิศรสยิ่งนัก ไป๋เยว่ซินยิ้มตาหยี ก่อนจะรีบมุ่งหน้าไปที่แปลงนาทันที เมื่อมาถึงยังแปลงนา นางก็รีบนำชาลิ้นจี่ไปให้คนตระกูลไป๋ได้ลองชิม ไป๋จงและไป๋ชวนบอกว่าอร่อยมาก นางเกานางหลี่ก็ยังดื่มจนหมด ด้านไป๋เซียง ไป๋ฟานและอาหลิงก็บอกว่ารสชาติเยี่ยมมาก “น้องเล็ก เจ้าไปเรียนรู้การทำชาลิ้นจี่เลิศรสนี่มาจากที่ใดกัน?” ไป๋ฟานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น เขาไม่เคยกินชาลิ้นจี่ที่รสชาติดีเช่นนี้มาก่อนเลย อีกอย่างด้วยสถานะทางครอบครัว ทำให้น้อยครั้งนักที่เขาจะได้กินของพวกนี้ ไป๋เยว่ซินยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ยตอบ “เพราะข้ามีพรสวรรค์อย่างไรเล่า” นางเกาสะใภ้ใหญ่เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาทันที “หากทำไปขายคงได้เงินไม่น้อยเลย” ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำแล้ว ไป๋เยว่ซินจึงชวนไป๋เซียงไปที่ตลาดด้วยกัน นางอยากจะไปหาซื้อว
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
บทที่ 9 พี่รองหายไปไหน
คำพูดของหยางซีทำเอาไป๋เยว่ซินนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน นางพลิกกายไปมา โดยมีเจ้าอาซานคอยจ้องมองอย่างไม่ลดละ จนมันทนไม่ไหวจึงบอกว่าหากนางยังไม่ยอมหลับเสียที มันจะใช้อุ้งเท้ามังคุดตบท้ายทอยนางให้สลบเสียเช้าวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวไม่น้อยเลย ไป๋เยว่ซินตื่นมาแต่เช้า หลังจากล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว จึงออกมากินมื้อเช้า เมื่อมาถึงก็พบว่าป้าสะใภ้ใหญ่และท่านแม่ของนางกำลังวุ่นวายอยู่ในโรงครัวจนมือเป็นระวิง ไป๋เยว่ซินที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ท่านป้าสะใภ้ ท่านทำขนมมากมายพวกนี้ไปทำไมกันหรือเจ้าคะ?”นางเกาเงยหน้ามามองหลานสาวตน ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างอ่อนโยน“หลายวันก่อนบ้านตระกูลหูมาจ้างให้ป้าสะใภ้กับแม่เจ้าทำขนมไปส่งน่ะ พวกเขาจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่บุตรชายสอบติดได้เข้ารับราชการเป็นขุนนางที่นครหลวง แม้จะเป็นขุนนางตำแหน่งเล็กๆแต่ก็นับว่ามีหน้ามีตาไม่น้อยเลย พวกเขาก็เลยมาจ้างพวกเราทำขนมไปให้แขกในงาน เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าป้าสะใภ้กับท่านแม่เจ้าน่ะมีฝีมือทำขนมมากเลยนะ แต่น่าเสียดายที่นานๆทีจะมีคนมาจ้าง เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็ไปซื้อขนมที่ร้านขนมหวานตระกูลจางกันหมด”ไป๋เยว่ซินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก
last updateLast Updated : 2025-08-02
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status