คบกันมาหลายเดือน แต่จู่ๆ เขามาบอกว่าขอห่างกันสักพัก ด้วยเหตุผลว่า "ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้" โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นเชิญใช้เวลาจมปลักอยู่กับแฟนเก่าต่อไป เพราะตอนนี้เขาคือ "แฟนเก่า" ของเธอแล้วเหมือนกัน!
ดูเพิ่มเติมภัทรมัยส่งยิ้มให้พนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่หน้าร้านอาหารกึ่งผับย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา คืนนี้หญิงสาวมีนัดกับชยาวุธ แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันมาหลายเดือนแล้ว
เธอกับเขาทำงานที่เดียวกัน ปกติมักเจอกันที่ออฟฟิศทุกวันทำงาน ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ชยาวุธจะชวนไปดูภาพยนตร์ หรือมานั่งดื่มเบา ๆ เคล้าเสียงดนตรีเป็นบางครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าทุกครั้งมักจบลงบนเตียงที่คอนโดมิเนียมของเธอ หรือไม่ก็คอนโดฯ ของเขาเสมอ และคืนนี้ก็คงไม่ต่างกัน
หญิงสาวมองเห็นชยาวุธกำลังมองมาทางตนจึงคลี่ยิ้มให้เขาทันที เขายิ้มตอบก่อนหันไปกวักมือเรียกพนักงาน เมื่อภัทรมัยเดินไปถึงโต๊ะ และนั่งลงตรงข้ามเขา พนักงานก็นำเมนูมาวางให้ตรงหน้าพอดี
“พี่เวฟมานานรึยังคะ”
“ไม่นานครับ พี่เพิ่งมาถึงเหมือนกัน แก้มอยากกินอะไรสั่งเลยนะ” เขายิ้มอ่อนโยนให้เช่นเคย ภัทรมัยชอบมองเวลาเขายิ้ม และเพราะรอยยิ้มของเขานี่เองที่ทำให้เธอตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
“งั้นแก้มสั่งอะไรเบา ๆ ก็แล้วกันนะคะ เพราะแก้มอยากดื่มมากกว่า”
“พี่คิดไว้แล้วว่าแก้มต้องอยากดื่ม ถึงขอแต่เมนูเครื่องดื่มมาให้ไงล่ะ”
หญิงสาวยิ้มกว้าง เขาช่างรู้ใจเธอไปทุกอย่าง ใครจะเชื่อว่าผู้ชายบุคลิกห่ามห้าวอย่างเขาจะช่างเอาอกเอาใจผู้หญิงได้ขนาดนี้ เธอนี่โชคดีชะมัดที่ได้คบกับเขา
หลังจากสั่งเครื่องดื่มไปแล้ว ระหว่างรอทั้งสองคนจึงนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักค็อกเทลสีฟ้าอมเขียวก็มาเสิร์ฟตรงหน้าภัทรมัย
ขณะที่หญิงสาวกำลังชื่นชมกับสีสันสวยงามของเครื่องดื่มตรงหน้า จู่ ๆ ชยาวุธก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายรูปเธอไว้
“พี่เวฟ! แอบถ่ายแก้มทีเผลออีกแล้วนะ นิสัยเสีย” เธอเอื้อมไปตีแขนเขาไม่แรงนัก ทั้งที่ความจริงแล้วปลื้มแทบตายที่แฟนหนุ่มชอบแอบถ่ายรูปตนตอนเผลอ เพราะเขามักจะพูดว่า
“ก็แก้มน่ารักนี่ พี่ชอบ” เขายิ้มเช่นเคย แต่น่าแปลกที่คราวนี้เขาไม่เอื้อมมือมาลูบแก้มเธอเล่น หนำซ้ำรอยยิ้มของเขายังจืดเจื่อนลง และถอนหายใจออกมาเบา ๆ อีกด้วย
“พี่เวฟมีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่าคะ”
เขาไม่ตอบ เพราะเอาแต่นั่งเหม่อมองแก้วเบียร์ของตนเอง ดูเหมือนชายหนุ่มมีเรื่องหนักใจบางอย่างแต่ไม่อยากพูดถึงมัน ดังนั้นเธอจึงไม่เซ้าซี้ เพราะคิดว่าหากเขาต้องการเล่า อีกสักพักคงเล่าให้ฟังเองเมื่อเขาพร้อม
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ หลังจากฟังเพลงจากดนตรีสดที่เล่นในร้านผ่านไปสามเพลง ในที่สุดชยาวุธก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน
“แก้ม...ความจริงแล้วที่พี่นัดแก้มมาวันนี้ เพราะว่าพี่...เอ่อ...คือว่าพี่...”
ภัทรมัยขมวดคิ้วเล็กน้อย เริ่มรับรู้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง อาการแบบนี้ไม่ใช่การขอแต่งงานแน่นอน เพราะสีหน้าของเขาไม่มีวี่แววความขัดเขินเลยแม้แต่น้อย แต่มันคือความหนักใจ หวาดหวั่น และกลัวที่จะพูดออกมามากกว่า
เรื่องสังเกตสีหน้าท่าทางของคนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่ทำงานอยู่ฝ่ายประสานงานลูกค้า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะอ่านท่าทีชายหนุ่มแล้วรู้ทันทีว่าเขารู้สึกอย่างไร
“พี่เวฟมีอะไรรึเปล่า ดูหน้าเครียด ๆ” เพราะเขาไม่พูดออกมาสักที เอาแต่ถอนหายใจมองไปทางนั้นทีทางนี้ที แต่กลับไม่ยอมสบตาเธอ นั่นยิ่งทำให้เธออยากรู้
“คือว่า...พี่อยากให้เราห่างกันสักพัก” เขาพูดเสียงแผ่ว แววตาเศร้าสลด แต่คนฟังแทบช็อก
“เหตุผลล่ะคะ” เธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องห่างกัน ทำงานที่เดียวกันแท้ ๆ จะให้ห่างกันแบบไหน เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเจอหน้ากันทุกวันอยู่ดี
และที่สำคัญ ตลอดเวลาที่คบหากันมา ชยาวุธไม่เคยมีท่าทีเบื่อหน่าย หรือหงุดหงิดใส่เธอเลยสักครั้ง แม้เขาจะไม่ใช่คนที่เอ่ยคำหวานพร่ำเพรื่อ แต่แววตาและการกระทำของเขาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าชยาวุธชอบเธอจริง ๆ เขาตามใจเธอทุกอย่าง โดยเฉพาะเวลาอยู่บนเตียง เขาดูหลงใหลเธออย่างกับอะไรดี
ชายหนุ่มเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเบาราวกระซิบ
“ความจริงแล้วพี่ยังลืมแฟนเก่าของพี่ไม่ได้”
ภัทรมัยวูบโหวงในอกขึ้นมาทันที จากนั้นเหมือนว่าตนไม่รับรู้ถึงการเต้นของก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายอีกเลย แม้กระทั่งเพลงรักที่กำลังเล่นอยู่บนเวทีตอนนี้ก็ไม่เข้าหูเธอสักนิด ทุกอย่างเงียบงันไปหมด
“หมายความว่าไง พี่ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ แต่พี่มาขอคบกับแก้มเนี่ยนะ”
“แก้ม” เขายื่นมือออกมาจะจับมือเธอ แต่เธอดึงหลบไม่ให้เขาแตะต้องได้
“พี่ขอโทษ แต่พี่ชอบแก้มจริง ๆ นะ แก้มให้เวลาพี่หน่อยได้ไหม”
สีหน้าของเขาดูร้อนรน แววตาดูเว้าวอนอ้อนขอ แต่เธอไม่เข้าใจและรับไม่ได้ด้วยที่เขาทำกับเธอแบบนี้ เขาเห็นเธอเป็นตัวอะไร ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ แต่กลับมาทำหน้าระรื่นคบกับเธอ เดินจับมือกับเธอ กอดเธอ พร่ำบอกรักเธอข้างหูตอนมีเซ็กซ์กัน สายตาที่เขามองเธออย่างลุ่มหลงนั่นคือของปลอมอย่างนั้นหรือ
“ได้ค่ะ เชิญใช้เวลาของพี่ให้เต็มที่เลย” เธออดแค่นยิ้มอย่างสมเพชให้ตนเองไม่ได้ หลงรักเขาจนหน้ามืดตามัว เลยทำให้มองทุกอย่างเข้าข้างตัวเองไปหมดว่าเขารักเธอจริง ๆ
“ขอบคุณนะแก้มที่เข้าใจพี่ แล้วถ้าพี่...” เขายิ้มเหมือนโล่งอก แต่เธอไม่อยากฟังอะไรจากปากเขาอีกแล้ว
“พี่อยากใช้เวลากี่เดือนกี่ปีก็เรื่องของพี่ ไม่เกี่ยวกับแก้มอีกแล้ว”
โง่ครั้งเดียวก็เกินพอ เรื่องอะไรที่เธอต้องมาโง่รอเศษความรักจากเขาอีก เขายังรักแฟนเก่า แต่ที่เขามาคบกับเธอคงเพราะอยากหาคนไว้คลายเหงากระมัง
“แก้มหมายความว่าไง” ชยาวุธขมวดคิ้วมุ่น
“หมายความว่าไงงั้นหรือ ก็หมายความว่าตอนนี้พี่เป็นแฟนเก่าของแก้มแล้วไงล่ะ” เธอเปิดกระเป๋าสะพายหยิบธนบัตรใบสีม่วงออกมาวางบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน
ค็อกเทลแค่แก้วเดียวกับของว่างอีกนิดหน่อยเธอมีปัญญาจ่ายเองได้ ไม่ต้องให้ผู้ชายอย่างเขามาเลี้ยง
“โชคดีนะคะ ผู้ชายเฮงซวย”
ภัทรมัยหันหลังให้ชยาวุธ เธอเดินเชิดหน้าออกจากโต๊ะทันทีโดยไม่คิดหันกลับไปมองเขาอีก แม้ว่าชายหนุ่มจะร้องเรียกก็ตาม หญิงสาวใช้เล็บจิกมือของตัวเองไว้แน่นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาประจานความอ่อนแอพ่ายแพ้ของตนเอง ทั้งที่ในอกตอนนี้เจ็บร้าวจนแทบหายใจไม่ออก
พอขึ้นรถได้ หญิงสาวก็รีบขับออกถนนใหญ่ด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาจนภาพเบื้องหน้าพร่าเบลอ
“ไอ้พี่เวฟ ไอ้คนเฮงซวย ไอ้คนหลอกลวง!” ตะโกนด่าลั่นรถจบก็ปล่อยโฮออกมาชุดใหญ่ สุดท้ายเธอก็ต้องชะลอรถจอดข้างทางเพื่อร้องไห้เสียให้พอ
แล้ววันจันทร์ที่ต้องไปทำงาน เธอจะทำอย่างไรดี เธอจะทนมองหน้าเขาเฉย ๆ โดยไม่เข้าไปตบสักฉาดได้หรือ
ชยาวุธทำทีเป็นมองไม่เห็นสายตาตัดพ้อของเชอร์รีที่ส่งมาให้จากโต๊ะทำงานของเจ้าตัว เป็นเพราะเมื่อเช้าหลังจากกินโจ๊กกับทิวากรเสร็จแล้วขึ้นออฟฟิศ เขาก็ไปหาดนุพร อาร์ตไดเรกเตอร์เพื่อคุยเรื่องนั้นทันที และเป็นไปตามคาด ครีเอทีฟไม่จำเป็นต้องเข้าไปพบลูกค้าอีกแล้ว เพราะเนื้องานเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตเหมียวได้ทีจึงสั่งสอนเออีน้องใหม่ด้วยการแนะว่าสิ่งใดควรทำ และสิ่งใดไม่ควรทำ ซึ่งพอเชอร์รีรู้ว่าเขาเป็นคนนำเรื่องนี้ไปปรึกษาอาร์ตไดเรกเตอร์ เจ้าตัวก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ และมากระเง้ากระงอดใส่เขาถึงโต๊ะ“เฮ้อ...” โคตรเซ็งชยาวุธได้แต่นั่งถอนหายใจจนทิวากรต้องยื่นหน้าข้ามฉากกั้นมาคุยด้วย“กูจะสงสารหรืออิจฉามึงดีวะเนี่ย ฮ่า ๆ”“ต้องอิจฉาสิพี่ พี่เวฟเสน่ห์แรงออกขนาดนี้” เก๋า ครีเอทีฟรุ่นน้องอีกคนยื่นหน้าข้ามฉากกั้นมาคุยด้วยเช่นกัน“ถ้ากูโอนต่อให้พวกมึงได้ กูจะโอนให้เลยเนี่ย ไอ้เสน่ห์พวกนี้น่ะ” ชยาวุธหน้าง้ำพลางนึกถึงหัวข้อสนทนาที่ตนคุยกับทิวากรในร้านโจ๊กเมื่อเช้าในอนาคตเขากับภัทรมัยจะมีปั
ภัทรมัยมองแฟนหนุ่มของตนแล้วได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความปลงตก ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนโง่ที่ตกหลุมพรางตื้น ๆ ของผู้หญิงบางคนได้ง่าย แต่เขาก็ยังเป็นคนที่มักมองผู้อื่นในแง่ดีไว้ก่อนเสมอจริง ๆ เธอเสียอีกที่กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปเลยเมื่ออยู่กับเขา เพราะฉะนั้น เธอไม่เชื่อหรอกว่าแม่เออีคนใหม่นั่นจะยอมรามือ!ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์พร้อมชยาวุธ หางตาของเธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนแอบอยู่ข้างกระถางต้นไม้ใกล้กับประตูทางออกที่จะไปอาคารจอดรถจึงหันไปมองให้เต็มตาว่าจะใช่คนที่ตนคิดเอาไว้รึเปล่าแล้วก็ใช่จริง ๆหญิงสาวสลับมาเดินอีกข้างของแฟนหนุ่มทันที จากนั้นก็ประสานมือกับเขาแล้วเดินไปด้วยกัน เมื่อถึงจุดที่เชอร์รีแอบอยู่จึงหยุดเดินแล้วมองหน้าอีกฝ่าย ส่วนชยาวุธก็เพิ่งสังเกตเห็นตอนนั้นเองว่าเออีน้องใหม่กำลังยืนอยู่“โอ้โห ด้านไม่แผ่วเลยจริง ๆ เห็นไหมพี่เวฟ แก้มพูดผิดเสียที่ไหนล่ะ นางยืนรอพี่จริงด้วย” เธอหันไปพูดกับเขายิ้ม ๆ ชยาวุธกลอกตาพร้อมกับถอนหายใจแผ่ว ซึ่งเป็นกิริยาที่เขามักทำเวลาเบื่อหน่ายอะไรสักอย่าง“ไปเถอะ” เขากระตุกมือเธอให้ออกเ
“จะกลัวอะไร แก้มแค่อยากคุยกับพี่เท่านั้นเอง เรามาคุยกันหน่อยดีกว่า” ไม่พูดเปล่า แต่เธอใช้มือหยอกเย้าเขาด้วย ชายหนุ่มได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะคิดว่าจะโดนสำเร็จโทษด้วยการทรมานเสียแล้ว“คุยแบบไหน แบบไมค์จ่อปากรึเปล่า” เขายิ้มพราย จงใจพูดสองแง่สองง่าม แต่แล้วแววตาของเขาก็วาววามขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเธอ“แล้วพี่คิดว่าไงล่ะ สนใจอยากยื่นไมค์ให้แก้มไหมคะ”“ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ” พูดจบเขาก็ถอดเสื้อยืดของตนเหวี่ยงทิ้งลงพื้นทันที จากนั้นจึงปลดเปลื้องอาภรณ์ให้เธอบ้าง“เสียดายที่ของเล่นพวกนั้นอยู่ห้องแก้มหมดเลย” เขาเอ่ยเสียงพร่ายามยื่นหน้าไปซุกซบกับทรวงสล้างอันน่าหลงใหล“ทำตัวเป็นพวกเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไปได้” เธอหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้ยามเขาขบเม้มไปตามผิวเนื้อ“เห็นแก้มชอบพี่ก็พอใจ เอาไว้จะหาอย่างอื่นมาเล่นบ้าง”“แน้...แก้มยังไม่เคยพูดสักคำว่าชอบ คิดเองเออเองตลอด”“ครางเสียงหลงขนาดนั้นยังจะกล้าปฏิเสธอ
เชอร์รีหันไปมองชยาวุธอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ชายหนุ่มกลับเอาแต่ก้มหน้ายิ้ม ทั้งยังยกแขนขึ้นโอบบ่าหญิงสาวตรงหน้าอีกด้วยภัทรมัยแสร้งทำหน้าตกใจหันไปถามแฟนหนุ่มว่า“น้องเขาเป็นใบ้หรือคะพี่เวฟ อุ๊ยตายแล้วแก้มไม่รู้ แก้มนึกว่าเขาได้ยินที่แก้มพูดนะเนี่ย ทำยังไงดี แก้มใช้ภาษามือไม่เป็น”เชอร์รีมองภัทรมัยด้วยความไม่พอใจ จึงขึ้นเสียงใส่ว่า “ฉันไม่ได้เป็นใบ้!”ภัทรมัยตวาดกลับทันทีเช่นกัน “แล้วตอนฉันถามทำไมไม่ตอบ ปากอมอะไรอยู่...ตกลงมันเป็นใครเนี่ยพี่เวฟ”ประโยคหลังหญิงสาวถามแฟนหนุ่มโดยไม่หันไปมองเขา เพราะสายตาเอาแต่จับจ้องผู้หญิงชุดชมพูหวานแหววตรงหน้าแทบไม่กะพริบ“เออีคนใหม่ที่พี่เคยเล่าให้ฟังไง” ชยาวุธตอบเสียงอ่อน ไม่มองน้องใหม่ที่ส่งสายตาเว้าวอนมาให้เลยแม้แต่น้อย“แล้วมายืนทำอะไรหน้าห้องแฟนชาวบ้านเขาค่ำมืดดึกดื่น”ภัทรมัยเดินขึ้นหน้าไปอีกก้าวจนเชอร์รีต้องถอยหลังไป เจ้าตัวมองหญิงสาวท่าทางเอาเรื่องสายตาหวาดหวั่น ภัทรมัยยิ้มมุมปากก่อนโพล่งถามว่า“ได้ข่าวว่าเธอชอบแฟนฉ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ภัทรมัยก็สบายใจ เพราะชยาวุธก็คงคิดเหมือนตนกระมัง ผู้หญิงคนนั้นก็แค่คนไม่สำคัญที่ควรค่าแก่การต้องเอ่ยถึงหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพิมพ์ข้อความส่งไปให้เขาGam Phattramai : พี่เวฟขา คิดถึงจังรอไม่นานนักเขาก็พิมพ์ตอบกลับมาChayawut Nithi : คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับมานอนที่คอนโดล่ะGam Phattramai : ก็แก้มมีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำนี่นา ยังไม่ว่างเลยGam Phattramai : พี่เวฟ แก้มมีเรื่องอยากถามChayawut Nithi : ว่าGam Phattramai : ได้ข่าวว่าเออีคนใหม่ชอบพี่?Chayawut Nithi : ใครบอกGam Phattramai : เขาปิดกันให้แซ่ดย่ะชยาวุธไม่ตอบอะไรกลับมาพักใหญ่จนภัทรมัยอดสงสัยไม่ได้ แต่จะให้โทรศัพท์ไปหาเขาตอนนี้เพียงเพราะต้องการคำตอบที่รู้อยู่แล้วก็ไม่อยากทำเพราะเธอไม่ต้องการเป็นผู้หญิงช่างจิกแบบนั้นแต่ผ่านไปห้านาทีแล้วเขาก็ยังเงียบอยู่ ภัทรมัยร่ำ ๆ จะกด โทร.ออกแต่ก็ยั้งใจเอาไว้ คิดจะส่งสติ๊กเกอร์ไปแต่ก็ยั้งมือไว้เช่นกัน เพราะเธอเองก็อยากรู้ว่าเขาจะตอบกลับมาตอนไหน และตอบว่าอย่างไร เพราะฉะนั้นเธอต้องรอให้
“พี่เวฟไม่ได้เล่าให้แกฟังหรือยายแก้ม”เหมียวถามภัทรมัยแต่สายตากลับมองเพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยกันอย่างมีเลศนัย ส่วนคนถูกถามได้แต่ส่ายหน้าให้แทนคำตอบ เริ่มรู้สึกแล้วว่าคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน“นางชอบพี่เวฟจ้า ตามติดเป็นเห็บเชียวละแกเอ๊ย” อ้อนพูดขึ้น ภัทรมัยเบิกตากว้างทันที“ทั้งที่พวกฉันก็บอกนางแล้วนะว่าพี่เวฟมีแฟนแล้ว แกรู้ไหมว่านางตอบว่ายังไง” เจนกระแอมหนึ่งทีแล้วดัดเสียงให้เล็กลงก่อนพูดต่ออีกว่า“เชอร์รีไม่ได้คิดอะไรกับพี่เวฟจริง ๆ นะคะ เชอร์รีแค่เห็นว่าพี่เขาคุยสนุกดีค่ะ และเขาก็สอนงานเชอร์รีหลายอย่าง ตอนไปคุยกับลูกค้าด้วยกันพี่เขาเลี้ยงข้าวเชอร์รีหลายครั้ง เชอร์รีรู้สึกเกรงใจแล้วก็ปลื้มพี่เขามากแค่นั้นเองค่ะ”เจนพูดจบเหมียวกับอ้อนก็หัวเราะร่วน“นังเจนนนน นี่แกจำมาทุกคำพูดเลยหรือเนี่ย” เหมียวพูดไปหัวเราะไป“เออสิ ก็มันน่าหมั่นไส้ไหมล่ะ ฉันนี่อยากจะแหม...ให้รอบดาวเสาร์ แค่นางอ้าปากก็รู้กันหมดแล้วว่านางปิ๊งผัวนังแก้มและพยายามอ่อยอยู่” เจนยังพูดไ
ความคิดเห็น