ข้านี่แหละคุณหนูผู้ร้ายกาจ

ข้านี่แหละคุณหนูผู้ร้ายกาจ

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-26
Bahasa: Thai
goodnovel12goodnovel
Belum ada penilaian
18Bab
74Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

เมื่อเทพตัวน้อยแสนแสบต้องลงมาเกิดเพื่อชดใช้กรรม ดังนั้นการผ่านด่านเคราะห์ของนางย่อมไม่ธรรมดา

Lihat lebih banyak

Bab 1

ปฐมบทแรกเริ่ม ที่มาที่ไป

“ฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว เรายังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่กันนะ” หญิงสาวพึมพำหลังจากลืมตาตื่นจากความฝันอันยาวนาน        ในขณะเดียวกันเธอก็ยกมือปาดเหงื่อบนหน้าผากของตนทิ้งอย่างลวก ๆ

            แสงแรกของวันสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างภายในห้องนอนของผู้เป็นหญิงสาวร่างบางหลังจากแต่งกายเป็นชุดทำงานประจำวันของตนเรียบร้อย

            “คุณปู่คะ ฉันไปทำงานก่อนนะ” หญิงสาวพนมมือบอกกล่าวรูปภาพของชายชราผู้กำลังส่งยิ้มมาให้ก่อนเดินออกจากบ้านหลังเก่าสุดแสนจะธรรมดาเฉกเช่นทุกวัน

            ไป๋เสวี่ยคือชื่อของหญิงสาวเนื่องจากในวันถือกำเนิดของเธอนั้นหิมะแรกกำลังโปรยปรายเกล็ดของมันระยิบระยับดูงดงามจับตาคนเป็นปู่จึงได้ตั้งชื่อนี้ให้กับหล่อน

            ทุกเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของหญิงสาวคนนี้ผ่านไปอย่างเชื่องช้าแสนน่าเบื่อจนกระทั่งถึงวันสิ้นปี

            ไป๋เสวี่ยยกมือบิดขี้เกียจอ้าปากหาวหลังจากจัดการงานที่คั่งค้างจนเสร็จสิ้น

            เสียงมือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวหยิบขึ้นมาคลี่ริมฝีปากแย้มยิ้มก่อนกดรับสาย

            “เป่าเปา เธอจะไม่มาฉลองปีใหม่กับฉันจริงเหรอ” น้ำเสียงของคนพูดเต็มไปด้วยความตัดพ้อ

            “ไม่ละ ฉันไม่อยากไปเป็นหลอดไฟขวางทางรักของเธอ” น้ำเสียงของผู้พูดเต็มไปด้วยความหยอกเย้าทำให้คนปลายสายหน้าแดงก่ำเถียงไม่ออก “แต่จะให้ฉันมีความสุขแล้วทิ้งเธอไว้ตามลำพังได้ยังไง”

            “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันมีความสุขกับชีวิตในตอนนี้ดีต่างหาก อีกอย่างฉันกำลังจะกลับไปฉลองปีใหม่กับคุณปู่” ไป๋เสวี่ยหยิบกระเป๋าสะพายคล้องหัวไหล่ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมตามหลัง

            “เป่าเปา คุณปู่จากไปนานแล้วนะเธออย่าทำให้ฉันขนลุกได้ไหม” คนปลายสายแย้งด้วยความรู้สึกใจหาย

            “คิดมากน่า แต่ถ้าฉันได้กลับไปอยู่กับปู่อีกครั้งจริง ๆ ก็ดีนะสิ ตั้งแต่เป็นเด็กปู่ก็มักจะมีเรื่องเล่าแปลก ๆ มาเล่าให้ฟังอยู่ตลอดรวมถึงยังมีวิชาพวกนั้นด้วยแม้ว่าในตอนนี้คนจะเชื่อถือเรื่องเทพและภูติผีน้อยลงก็เถอะ” คนพูดกดลิฟต์ในระหว่างนี้ก็ยกมือถือแนบหูไปด้วย

            เสียงเตือนของลิฟต์โดยสารดังขึ้นก่อนประตูเลื่อนของมันจะเปิดออก “ฉันต้องวางแล้วเอาไว้ค่อยคุยกันนะ” ไป๋เสวี่ยกล่าวลาและยังไม่ทันที่เธอจะนำมือถือเครื่องสวยใส่กระเป๋าสะพาย

            จู่ ๆ ลิฟท์ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่ไฟจะดับลงหลังจากเธอก้าวเท้าเข้ามาอยู่ด้านใน

            พรึบ! “เกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงแสดงความหวาดหวั่นของคนพูดดังขึ้นท่ามกลางความมืด และยังไม่ทันที่หล่อนจะตั้งสติลิฟท์ตัวนั้นก็ร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

            ไป๋เสวี่ยกรีดร้องจนสุดเสียง จากนั้นเธอก็สลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาหญิงสาวก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ในสถานที่แปลกตาแห่งหนึ่งยังไม่ทันทำความเข้าใจให้กระจ่างหัวของเธอก็ปวดราวกับจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เพราะความทรงจำต่าง ๆ มากมายกำลังประดังประเดเข้ามาราวสายน้ำหลากจนทำให้สลบไปอีกครั้ง

            ภายในห้วงฝันสองเท้าเล็ก ๆ เดินมุ่งหน้าไปทางศาลาข้างสระบัวหลังงามที่มองเห็น ภายในศาลาหลังนั้นมีร่างของหญิงสาวผู้มีใบหน้าราวกับตนตอนอยู่ในโลกมนุษย์ไม่ผิดเพี้ยนนั่งอยู่ตามลำพัง

            “เจ้ามาแล้วเหรอ” น้ำเสียงหวานเอื้อนเอ่ยกับเธออย่างเป็นกันเอง

            “พี่สาว ข้ามาขอโทษ” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยอย่างรู้สึกผิด

            “ข้าไม่โกรธเจ้าเลย อีกทั้งยังรู้สึกขอบคุณอีกด้วยเพราะหากไม่ได้เจ้าข้าก็คงไม่เจอเขา ดังนั้นอย่าได้รู้สึกผิดและต่อจากนี้ไปเจ้าเองก็จะมีชีวิตที่มีความสุขของตนบ้างแล้ว จงใช้ชีวิตให้ดีเล่า” หญิงสาวคนนั้นวางพู่กันในมือลงสบตากลมโตของเด็กหญิงตรงหน้าเอ่ยจากใจจริง

            “พี่สาวขอบคุณเจ้าค่ะ ได้เวลาที่ข้าต้องไปแล้วเอาไว้หลังสิ้นสุดจากภพนั้นข้าจะกลับมาพบท่านอีก” สิ้นเสียงของเด็กหญิงตัวน้อยร่างกายของเธอก็เป็นละอองจางหายไป

            ย้อนกลับไปยังอดีตกาลก่อนหน้าราวปี771 ช่วงเวลา 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในช่วงนี้เป็นยุคการล่มสลายของราชวงค์โจวก็เข้าสู่ยุคชุนชิว ในช่วงเวลานี้เป็นยุคปกครองที่ผู้นำไร้อำนาจ

            ทำให้อ๋องหรือเจ้าเมืองต่าง ๆ ได้แข็งข้อและสู้รบกันในแต่ละแคว้น จึงทำให้สถานการณ์ในช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผู้คนต่างอยู่กันอย่างหวาดระแวงและต้องคอยระแวงกันอยู่ตลอดเวลา

            ยุคนี้นักวิชาการจีนโบราณเรียกขานประวัติศาสตร์จีนช่วงนี้ว่า “ยุควสันตสารท” อยู่ในช่วงปี 770 หรือ 453 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นยุคหนึ่งในราชวงศ์โจวราชวงค์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

            เป็นยุคที่นครรัฐแต่ละรัฐทำสงครามด้วยกลอุบายอันแยบยล เกิดเป็นตำนานและเรื่องเล่าขานมากมายจนมาถึงปัจจุบัน

            คำว่า “วสันตสารท” หมายถึง ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงมาจากชื่อคัมภีร์ของขงจื๊อที่บันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเปรียบเปรยถึงนครรัฐต่าง ๆ ที่เคยตั้งอยู่และดับไปเหมือนดั่งใบไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง[1]

            หลังจากยุคนั้นสิ้นสุดก็ก้าวเข้าสู่ยุคจ้านกว๋อ ยุคที่ผู้คนเข้าถึงสมุนไพรได้ยากทำให้ผู้คนต้องพึ่งพาผู้ที่ตั้งตนเป็นผู้วิเศษ เพื่อหวังให้ตัวเองหายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเพื่อพ้นจากความยากลำบาก

            แม้ว่าผู้คนกำลังอยู่ในช่วงระส่ำระสาย แต่ยังคงมีอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่ง อำเภอแห่งนี้อยู่ห่างไกลอีกทังยังกันดารเป็นอย่างมากสภาพโดยรอบเต็มไปด้วยภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน

            ชาวบ้านส่วนใหญ่อยู่ได้โดยอาศัยการหาของป่าเลี้ยงชีพ พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างปกติและเพราะสภาพแวดล้อมเช่นนี้จึงทำให้ชาวบ้านเหล่านี้ล้วนถูกปิดหูปิดตาจากโลกภายนอก ไม่เว้นแม้แต่บัณฑิตผู้หนึ่งที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นนายภำเภอของเมืองอันแสนห่างไกลความเจริญ

            ภายในบ้านดินขนาดห้าห้องนอนของนายอำเภอเมือง ฟงอวิ๋น “ท่านพ่อ เหตุใดเป่าเปาถึงยังไม่ฟื้นอีก” ผู้พูดน้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนใจเดินไปวนเวียนมาถามกับบิดาผู้กำลังยกมือลูบเคราสีเงินยวงของตนไปมาคล้ายไม่ทุกข์ร้อน

            “เจ้า! หยุดเดินได้หรือยัง ข้าบอกว่านางย่อมปลอดภัยก็ต้องเป็นไปตามนั้น ชะตาชีวิตของนางหนูนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวประหลาดหากว่านางผ่านพ้นคราวเคราะห์ครั้งนี้ไปไม่ได้จะทำการใหญ่ได้เยี่ยงไร”

            ชายหนุ่มวัยสามสิบจ้องมองพ่อของตนกำลังอยากจะอ้าปากตอบโต้ ทว่า “ท่านพี่ เป่าเปาฟื้นแล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวผู้เป็นภรรยาเปิดประตูห้องนอนของเด็กหญิงเอ่ยเรียกขึ้นเสียก่อน

            ชายต่างวัยด้านนอกทั้งสี่คนรวมถึงบุตรชายอีกสองพากันกึ่งเดินกึ่งวิ่งหมายจะเข้าไปดูให้เห็นกับตา

            ขนตาเป็นแพรหนาของคนบนเตียงสั่นไหวราวกับปีกผีเสื้อก่อนที่เจ้าของร่างจะเปิดเปลือกตาของตนขึ้นในที่สุด

            ดวงตากลมโตของเธอกะพริบขึ้นลงเพื่อปรับให้คุ้นชินกับแสงสว่างที่ได้รับ “ที่นี่คือที่ไหน”  เพียงประโยคนี้จบลงเสียงเซ็งแซ่จากคนในครอบครัวเล็ก ๆ ของเรือนก็ดังขึ้น

            “เงียบ!!” ผู้เป็นประมุขคนปัจจุบันตะโกนก้องพร้อมกับกระแทกไม้เท้าในมือ หากเป็นเด็กหญิงคนเดิมเธอคงจะสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวตามวิสัยคนขี้ขลาดไปแล้ว

            แต่ไม่ใช่กับไป๋เสวี่ยผู้เติบโตผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนกระทั่งอายุยี่สิบห้าปีคนนี้ เธอจึงยกมือขึ้นป้องดวงตาพยายามเพ่งมองชายชราผู้เป็นเจ้าของเสียงเมื่อครู่

            “คุณปู่! ฮือ ๆ ฉันคิดถึงปู่เหลือเกิน” น้ำตามากมายของเธอไหลออกมาราวทำนบแตก

            “หลานรักไม่ต้องร้องไห้ ปู่อยู่ตรงนี้แล้ว หลานเล่าให้ปู่ฟังได้หรือไม่ว่าหลานตกลงไปในสระน้ำได้เยี่ยงไร” คำถามของชายชราได้เรียกความประหลาดใจให้กับผู้ที่กำลังร่ำไห้อยู่เป็นอย่างมาก

            ตกน้ำ? จะเป็นไปได้ยังไงเราเข้าลิฟต์และตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ น้ำตาของเด็กหญิงหยุดไหลและได้ถูกแทนที่ด้วยสายตาแห่งความสับสนเพราะเรื่องราวของเธอบนสวรรค์นั้นไม่ได้อยู่ในความทรงจำ

            ฉับพลันใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนต้องยกมือกุมศีรษะ เหตุการณ์เรื่องราวก่อนหน้าของเจ้าของร่างได้ถูกถ่ายทอดมาทั้งหมดรวมถึงความร้ายกาจสุดแสนจะเอาแต่ใจของตนด้วย

            เด็กอะไรร้ายกาจชะมัด ทั้งดูถูกคน ทั้งรังแกน้องชายต่างมารดา รวมถึงยังขยันสร้างปัญหาให้แม่เลี้ยง ทั้ง ๆ ที่แม่เลี้ยงนั้นดีกับหล่อนมากกว่าลูกแท้ ๆ ไม่ไหว ๆ ฉันไป๋เสวี่ยจะเปลี่ยนแปลงร่างนี้ให้จงได้

          “ลูกรัก เหตุใดเจ้าถึงได้นิ่งเงียบแบบนี้ไม่สบายตรงไหนรีบบอกพ่อ”

            ไป๋เสวี่ยหลุดออกจากภวังค์เด็กหญิงพิจารณาชายวัยสามสิบตรงหน้าก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างสดใสจึงทำให้ใบหน้าของเธอดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก

            “ท่านพ่อ ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ท่านอย่าได้ห่วง” ท่าทางรวมถึงน้ำเสียงของคนพูดได้ทำให้คนฟังภายในห้องตื่นตะลึง

            “ท่านพ่อ ข้าว่าพี่รองต้องไม่สบายหนักเป็นแน่” เสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายอายุน้อยเอ่ยอย่างจริงจังและยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้รับคำตอบจากบิดา

            “โอ๊ย! ท่านแม่ตีข้าทำไมขอรับ” เขาเอ่ยอย่างตัดพ้อ

            “เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกอย่างนั้นเหรอ หรือว่าจะให้แม่ตีเจ้าอีก” หลินเหมยกุ้ยตำหนิเขาไม่ไว้หน้า

            “ท่านแม่ อย่าได้ตีน้องเล็กเลย” หลังคำพูดนี้หลุดออกจากปากของคนกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงห้องทั้งห้องก็เกิดความเงียบอันชวนน่าอึดอัดขึ้นทันควัน

            “จะ..เจ้าเรียกแม่ของข้าว่าอะไรนะ” เด็กน้อยราวถูกผีหลอกย้อนถามอย่างไม่เชื่อหู

            “ท่านแม่อย่างไรเล่าหรือว่าข้าเรียกไม่ถูกต้อง” ไป๋เสวี่ย เอ่ยอย่างพาซื่อใบหน้าขาวซีดของเธอแสร้งทำหน้าไร้เดียงสา

            “ท่านพ่อ ท่านปู่ ข้าเห็นว่าน้องรองคงจะอาการหนักเป็นแน่ให้ข้าไปตามหมอดีหรือไม่” เด็กชายวัยสิบสามกำลังจะหมุนกายออกจากห้องนอนของคนเป็นน้องเอ่ยน้ำเสียงติดขัด

            “เจ้าจะไปไหน” หัวไม้เท้าของชายชราได้เกี่ยวหลังคอเสื้อของเขาเอาไว้พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “เจ้าลืมหรือว่าปู่ของเจ้าเป็นใคร”

            “แหะ ๆ ข้าขออภัยท่านปู่” ไป๋ตงยกมือลูบท้ายทอยแก้เก้อ

            ไป๋เสวี่ยหัวเราะคิกคักให้กับท่าทางของคนในครอบครัว ก่อนที่เจ้าตัวจะอ้าปากหาว

            “เจ้านอนต่ออีกหน่อยแล้วกัน พวกเราออกไปด้านนอกกันเถอะเรื่องอื่นเอาไว้ค่อยว่ากัน” เมื่อชายชราผู้เป็นเจ้าบ้านปัจจุบันกล่าวเช่นนี้ พวกเขาผู้เป็นลูกหลานมีหรือจะกล้าขัด

            ยกเว้นก็แต่น้องเล็กของเรือนที่กำลังหันซ้ายแลขวาและเมื่อผู้ใหญ่ในครอบครัวเดินออกไปจากห้องทั้งหมดแล้วเท้าของเขาก็วิ่งมาทางเตียงของคนเป็นพี่สาว

            สองตาของตนหรี่มองสำรวจใบหน้าเล็กขาวซีดของคนเป็นพี่อย่างละเอียด “คนร้ายกาจอย่างท่านจะมาไม้ไหน” ผู้พูดแสดงความเกลียดชังอย่างปิดไม่มิด

            แต่แล้ว จู่ ๆ ผู้ที่เขาคิดว่ากำลังหลับก็เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างกะทันหัน ไป๋เทียนร้องเสียงหลงเผลอถอยหลังออกห่างจากเตียงถึงสองก้าว ก้นของเจ้าตัวแทบจะกระแทกพื้น

            “ข้าขอโทษ ที่เคยรังแกเจ้า” ท่าทางรู้สึกผิดของเด็กหญิง ทำให้เด็กชายตัวเล็กเบิกตากว้างมองนางก่อนที่จะวิ่งหนีเตลิดออกจากห้องราวกับว่ากำลังถูกปีศาจไล่ล่าหมายเอาชีวิต

            “เอาเถอะทุกสิ่งต้องใช้เวลา” ไป๋เสวี่ยพึมพำก่อนจะปิดเปลือกตาของตนลงอีกครั้งอย่างเหนื่อยอ่อน

[1] บทความดังกล่าวมาจากหนังสือเปิดหน้าประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงยุคปฏิวัติ

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya
Tidak ada komentar
18 Bab
ตอนที่ 1 ท่านรู้ได้ยังไง
ไป๋เสวี่ยใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องจนกระทั่งเริ่มรู้สึกเบื่อ “กินแล้วก็นอนเห็นทีว่าคงจะต้องเดินออกไปด้านนอกบ้างแล้ว”            “คุณหนูเจ้าคะ ท่านจะไปไหน” ทันทีเมื่อประตูห้องของตนเปิดออก ไป๋เสวี่ยก็ผงะด้วยความตกใจเพราะนางยังไม่เคยเจอบ่าวตัวน้อยในความทรงจำของร่างเดิมมาก่อน            “เจ้าคือเสี่ยวทู่”            “ใช่เจ้าค่ะ คุณหนูอย่าตีบ่าวเลยนะเจ้าคะ ที่ข้าน้อยต้องถามก็เพราะนายท่านผู้เฒ่าได้สั่งเอาไว้” เด็กหญิงร่างผอมตัวสั่นด้วยความกลัวแม้จะรู้สึกว่าวันนี้คุณหนูของตนดูผิดแผกไปจากเดิมราวกับว่าเป็นคนละคนก็ตาม            “ข้าไม่ตีเจ้าหรอกอีกทั้งยังต้องขอโทษด้วยที่เคยทำร้ายเจ้าอย่างไม่มีเหตุผลหลายต่อหลายหน” น้ำเสียงของผู้เป็นนายเอ่ยอย่างสำนึกเสียใจ ทำให้เสี่ยวทู่ตัวน้อยต้องรีบกล่าวห้ามด้วยความตื่นตะลึง     &nbs
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-21
Baca selengkapnya
ตอนที่ 2 จริงเหรอ?
เมื่อไป๋เสวี่ยเห็นใบหน้าของน้องชายนางก็ถอนใจยาวออกมา “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ประโยคนี้เจ้าเคยได้ยินหรือไม่” นางถามพลางเดินสำรวจบริเวณสิ่งที่คนเป็นน้องสะดุด            นางยืนนิ่งไม่ไหวติงเมื่อมองเห็นเจ้าสิ่งนั้นที่อยู่ใกล้เคียงกับรากไม้แห้งขนาดเท่าแขนของตน            “คุณหนู! คะ....กรี๊ด” เสียงกรีดร้องของบ่าวตัวน้อยได้ทำให้เจ้าสิ่งที่ไป๋เสวี่ยเห็นกับนางสะดุ้งพร้อมกัน            เหล่านกกาแตกฮือพากันบินขึ้นฟ้าด้วยความตระหนก “พี่เสี่ยวทู่!ท่านเป็นอันใด เกิดอะไรขึ้น” ไป๋เทียนพยายามยันกายของตนขึ้นจากพื้นด้วยความทุลักทุเล            ส่วนเจ้าตัวตนเหตุซึ่งเป็นงูตัวยาวขนาดคะเนด้วยสายตาราวสามเซียะมันหันมาแลบลิ้นตวัดไปมาให้พวกนางก่อนที่จะค่อย ๆ เลื้อยออกไปราวกับว่ามนุษย์ทั้งสองหาได้อยู่ในสายตา      
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-21
Baca selengkapnya
ตอนที่ 3 ห๊ะ!!
คนเป็นน้องแม้ไม่อยากจะเชื่อ ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าหนักแน่นของพี่สาวเจ้าตัวก็ไม่เอ่ยโต้แย้งแต่อย่างใด            “ถ้าอย่างนั้นท่านช่วยเล่าเรื่องการสร้างโลกให้ข้าฟังได้หรือไม่”            “เจ้าอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยฟังท่านปู่เล่ามานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่จำความได้แล้วหรอกหรือ”            คนเป็นน้องใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อถูกคนเป็นพี่จับพิรุธได้ เขาพ่นลมหายใจออกมาแสดงท่าท่างกรุ่นโกรธ            “ท่านจะไม่เล่าก็ได้ ถ้าอย่างนั้นท่านก็ช่วยเดินออกไปจากห้องของข้าและรบกวนปิดประตูให้ด้วย” เขากล่าวเสียงสะบัดหันหน้าหนีไปทางหน้าต่างที่ถูกปิดสนิท            “เจ้าไม่เห็นต้องโกรธแบบนี้นี่ ข้าเล่าให้ฟังก็ได้ แต่เอาเป็นเรื่องเล่าในคัมภีร์ซานไห่ จิงนะ” คนเป็นพี่ยอมอ่อน&n
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-22
Baca selengkapnya
ตอนที่ 4 จะเหมือนแต่ก็ไม่
ไป๋หยุนกำลังหยิบเสื้อคลุมมาสวมยังไม่ทันผูกให้เรียบร้อยเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินทั้งเสียงเรียกและเสียงทุบประตูราวฟ้าจะถล่มของบ่าวตัวน้อยนามเสี่ยวทู่            “เกิดอะไรขึ้น!” ชายชราเปิดประตูออกผ่าง ทำให้ร่างเล็กของเด็กหญิงโถมตัวไปด้านหน้าสะดุดธรณีประตูจนเกือบจะล้มคว่ำไม่เป็นท่า ดีทีว่าชายวัยหกสิบอาศัยความไวดึงรั้งคอเสื้อด้านหลังของนางเอาไว้ได้แบบฉิวเฉียด            เมื่อนางยืนได้เจ้าตัวก็รีบหมุนกายกลับไปหาประมุขของบ้านพลันคุกเข่าลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง ตึง!!            “นายท่านผู้เฒ่าช่วยคุณหนูด้วย ฮือ ๆ” นางพูดไปพลางร้องไห้อย่างน่าเวทนา            “หลานข้าเป็นอะไร เจ้าช่วยพูดให้รู้เรื่องก่อนร้องไห้ไม่ได้หรือ” ชายชราเอ่ยอย่างร้อนใจ            ซึ่งจังหวะนั้นเองคนในครอบครัวท
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-22
Baca selengkapnya
ตอนที่ 5 เนื้อ!!
“คุณหนู คุณชายรองเจ้าคะ นายท่านผู้เฒ่าให้มาตามพวกท่านไปกินอาหารเช้าเจ้าค่ะ” เสี่ยวทู่ตัวน้อยตะโกนพร้อมกับเคาะประตูอยู่ด้านนอกหลังจากเวลาผ่านไปมากกว่าหนึ่งชั่วยาม            ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องสนทนากันอย่างสันติ “รู้แล้ว เดี๋ยวข้ากับน้องสามตามไป” ไป๋เสวี่ยตอบกลับพลางลุกจากม้านั่งและด้วยความหวังดีนางจึงตั้งใจจะเข้าไปช่วยพยุงน้องชายให้ลุกขึ้นยืน            ทว่า ฟึบ! ดวงตาของเด็กหญิงเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงหลังจากที่น้องชายรวบชายชุดคลุมตัวยาวเข้าหาตัวโดยที่ไม่ทันระวัง            “น้องเล็ก! แม้ว่าเจ้าเพิ่งจะอายุหกรอบทว่ายังไงก็นับว่ารู้ความแล้วเหตุใดถึงไม่ใส่กางเกงให้เรียบร้อย”            “กางเกงอันใดของท่าน” ไป๋เทียนย้อนด้วยสีหน้าฉงนพลางวางเท้าลงบนพื้น          
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-22
Baca selengkapnya
ตอนที่ 6 คนป่า?
ในขณะที่ไป๋ตงกำลังเร่งฝีเท้าตามน้องสาวไปติด ๆ เขาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น เจ้าตัวจึงได้รีบสาวเท้าให้เร็วกว่าเดิม            ภาพที่เข้ามาในครรลองสายตาของเจ้าตัวเป็นภาพน้องสาวที่กำลังนั่งยองอยู่เหนือหลุมดักสัตว์โดยมีสัตว์ตัวสีทองหมอบอยู่ข้างกันด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย            “น้องสาว! เกิดอันใดขึ้น” เขาถามพลางเดินเข้ามาถึงตัวน้องน้อยพร้อมกันนั้นเจ้าตัวจึงได้ก้มหน้าลงไปดูทางต้นเสียงที่ได้ยิน            “ช่วยด้วย” น้ำเสียงอันอ่อนแรงดังขึ้น            ไป๋ตงมองชายร่างผอมคนนั้นสลับกับใบหน้าอันเฉยชาของคนเป็นน้องด้วยความไม่เข้าใจ            “เหตุใดเจ้าถึงไม่ช่วยเขา” คำถามของคนเป็นพี่ทำให้ไป๋เสวี่ยมองเขาด้วยรอยยิ้ม       &nb
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-23
Baca selengkapnya
ตอนที่ 7 ข้าเป็นทายาทของถงหวีไม่รู้หรือ
อากาศบนภูเขาเริ่มเย็นลงทุกขณะไป๋ตงเริ่มกระวนกระวายด้วยน้องน้อยยังไม่กลับมา            “นี่!!” คนภายในหลุมส่งเสียงเรียก            “เจ้ามีอะไร”            “ข้ายอมบอกเรื่องของตนแล้ว เจ้าช่วยดึงข้าขึ้นไปก่อนได้หรือไม่ อยู่ในนี้ข้าอึดอัดยิ่งนัก”            ไป๋ตงทำสีหน้าลังเลทั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าตัวเชื่อใจคนป่า แต่ทว่าใจเขาเป็นห่วงน้องสาวเสียมากกว่า            แต่ถ้าหากปล่อยให้คนผู้นี้อยู่ในหลุมต่อไปก็เกรงว่าเขาอาจจะเกิดอันตราย เฮ้อ! ข้าควรทำยังไงดี            “พี่ใหญ่! ข้ากลับมาแล้ว” เสียงตะโกนก่อนตัวของผู้ที่ตนกำลังรอคอยดังขึ้นก่อนจะปรากฏกายออกมา ทำให้ไป๋ตงผู้กำลังคิดมากรีบหันหน้าไปทางเสียงที่
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-23
Baca selengkapnya
ตอนที่ 8 เพลินพุง เพลินใจ
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยามคนตระกูลไป๋ก็พากันทำจมูกฟุดฟิด พวกเขาพากันสูดเอากลิ่นหอมจากเรือนครัวด้วยความอยากกินโดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กไป๋เทียนที่ตอนนี้กำลังช่วยพี่สาวเฝ้าอยู่หน้าเตาดินไม่ยอมห่าง            ส่วนไป๋เสวี่ยนางก็กำลังจัดแจงทำอาหารอีกอย่างนอกจากกระต่ายตุ๋นที่มีเครื่องปรุงภายในครัวเหลืออยู่แค่หยิบมือถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังสามารถปรุงอาหารชนิดนี้ออกมามีกลิ่นหอมจนได้            “พี่รอง ท่านกำลังทำอันใดหรือขอรับ” คนเป็นน้องมีท่าทางอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาเข้าใจได้ว่าในบัดนี้พี่สาวต่างแม่ได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ            “ทำผักป่านึ่งไข่ เจ้าอยากกินหรือไม่ ไข่ไก่นุ่ม ๆ ผสมเข้ากับผักป่าสีเหลืองตัดสีเขียว เจ้าไม่คิดว่ามันดูน่ากินหรอกหรือ” ไป๋เสวี่ยพูดไปพลางตีไข่ที่อยู่ในชามดินเผาไป            อึก!! ไป๋เทียนกลืนน้ำลายลงคอ “เหตุใดข้าจะ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-23
Baca selengkapnya
ตอนที่ 9 ที่แห่งนั้นวิเศษมากเลยหรือ
แสงอรุณแรกเริ่มเพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าเหล่านกกาพากันบินออกจากรัง ไป๋เสวี่ยผู้กำลังนอนหลับอย่างสบายรู้สึกอึดอัดบริเวณหน้าท้องของตนเป็นอย่างมาก            ผีซิว!! ช่วยด้วย! ข้าถูกผีอำ            สัตว์เทพตัวน้อยผงกหัวของตนมองไปทางสหายผู้นอนหาความเรียบร้อยไม่เจอ            ข้าไม่เห็นเจอตัวอะไรอย่างที่เจ้าว่า เจ้าคงละเมอแล้วละ          ไม่ได้ละเมอสักหน่อยแต่ว่าเหมือนตอนนี้ข้าสบายดีขึ้นแล้ว เด็กหญิงพูดพร้อมกับค่อย ๆ ลืมตาตื่น            “เหวอ!” นางร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ            อะไรของเจ้า สัตว์เทพอ้าปากหาวสื่อสารกลับไปอย่างเกียจคร้าน       
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-11-24
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status