ซ่งเมยเมยล่วงรู้ความลับบางอย่างเข้า... 'ท่านแม่ของข้าเคยออกแบบโลกใบนี้!' ซ้ำยังเป็นตัวร้ายอีกต่างหาก! ในเมื่อพ่อแม่เป็นตัวร้ายกาจ บุตรสาวเช่นนางจะร้ายหรือเจ้าเล่ห์ใส่บุรุษคนนั้นบ้างก็ไม่เป็นไรกระมั้ง!
view moreบทนำ
ความลับของมารดา?
เด็กสาวตัวน้อยวัยเจ็ดขวบวิ่งเล่นในลานบ้านไปมา เมื่อยามรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจึงวิ่งกลับเข้ามาในเรือนพักเพื่อจะนอนสักงีบ แต่ยังไม่ทันจะถึงห้องก็ได้ยินเสียงมารดานั่งพึมพำคนเดียวอยู่ในห้อง นางเลยแง้มประตูเพื่อจะดูว่ามารดาเป็นอะไร
“ตอนนี้ข้าไม่ตายแล้วยังสยบตัวร้ายอยู่ในกำมืออีกต่างหาก แถมยังมีบุตรที่น่ารัก ทำไมเขายังอยากได้บัลลังก์ตามเนื้อหาเดิมอีกล่ะ...” สตรีที่เกล้าผมทรงหญิงออกเรือนนั่งพึมพำอยู่หน้ากระจกไม่หยุด “ไม่ถูก ก็ท่านเซียนที่ข้าเคยเจอบอกเองว่าเนื้อหาจะไม่เป็นไปตามที่เขียนไว้ แต่ทำไมหวงหลงยังอยากก่อกบฏอีก?”
‘ซ่งเมยเมย’ ขยับกายเข้าไปใกล้มารดามากขึ้น แล้วกระตุกแขนเสื้อนางให้คืนสติ
“ท่านแม่เจ้าคะ”
‘หมินฉู่ฉู่’ สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมาเห็นแววตาสุกใสของเด็กน้อยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรของนางและ ‘ซ่งหวงหลง’
“เสี่ยวเมยเมย ไปวิ่งเล่นเหนื่อยแล้วหรือ” นางถามบุตรสาวก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมานั่งบนตัก
ซ่งเมยเมยพยักหน้ารับแล้วตัดสินใจเอ่ยถามมารดาในที่สุด “ท่านแม่...ที่พูดเมื่อครู่หมายถึงสิ่งใดเจ้าคะ?”
หมินฉู่ฉู่ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง นางรู้ดีว่าบุตรสาวของนางกับเขานั้นฉลาดเป็นกรด หากจะสร้างเรื่องโกหกนางคงคับข้องใจทั้งยังต้องสงสัยกว่าเดิมจนเรื่องนี้ถึงหูสามีนางเป็นแน่
“หากแม่บอกลูก ลูกสัญญานะว่าจะไม่บอกพ่อของลูก”
ซ่งเมยเมยพยักหน้ารัวๆ ยิ่งกว่าเดิม นางใจเต้นแรงมากเพราะมารดาจะบอกความลับที่แม้แต่บิดาก็ไม่รู้!
“ความจริง...โลกที่เราอยู่กันตอนนี้ แม่เคยออกแบบทั้งเรื่องราว ทั้งสถานที่ ทั้งผู้คน รวมไปถึงพ่อของลูก...”
ซ่งเมยเมยอ้าปากค้างกว้างจนเกือบเห็นลิ้นไก่ นี่มันยิ่งกว่านิทานในโรงน้ำชาที่นางเคยได้ฟังมาอีกไม่ใช่หรือ
“รวมทั้งข้าด้วยหรือเจ้าคะ ท่านแม่ ท่านคือเทพเซียนหรือเจ้าคะ”
หมินฉู่ฉู่ส่ายหน้ากลัดกลุ้ม “อย่าคิดเช่นนั้น ลูกไม่ได้อยู่ในเนื้อเรื่องที่แม่ออกแบบ ลูกคือคนสำคัญที่พ่อกับแม่ตั้งใจสร้างขึ้น และลูกก็คือดวงใจของพวกเราทั้งคู่นะเมยเมย”
เด็กน้อยได้ฟังก็อบอุ่นใจ แต่นึกถึงคำพูดกลุ้มใจของมารดาเมื่อครู่จึงถามออกไปอีกครั้ง “แล้วท่านออกแบบให้ท่านพ่อไปชิงบัลลังก์กับท่านปู่ฮ่องเต้หรือเจ้าคะ” ในเมื่อมีพ่อบุญธรรมเป็นถึงรัชทายาท จะพูดว่าท่านปู่นำหน้าคงไม่ผิดกระมัง
“เรื่องนี้แม่จะเล่าให้ลูกฟังแค่รอบเดียวเท่านั้น แล้วเก็บเป็นความลับไว้เข้าใจหรือไม่”
ซ่งเมยเมยพยักหน้าและพร้อมรับฟังอย่างตั้งใจ
หมินฉู่ฉู่ตัดสินใจเล่าเรื่องนิยายของนางทั้งหมด ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบ ถือเป็นการได้ระบายสิ่งที่ค้างคาใจนางด้วย “เดิมทีคนที่เป็นฮ่องเต้ยามนี้จะต้องเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า แต่โลกนี้ผู้คนไม่ได้เป็นไปดังที่แม่ออกแบบ ท่านพ่อของลูกเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นไม่เหมือนในเรื่องของแม่ แต่เมื่อเช้าแม่ได้ยินพ่อของลูกคุยกับเหลียนปู้ว่าเตรียมกำลังให้พร้อม จะได้บุกยึดทีเดียว”
“ท่านแม่ เรารีบไปห้ามท่านพ่อเถิดเจ้าค่ะ! อาจจะเป็นอย่างที่ท่านคิดเพราะยามนี้ท่านพ่อยังไม่กลับมาเลย”
เด็กน้อยดึงมือมารดาออกจากเรือน ลืมความตั้งใจที่จะล้มตัวนอนไปสิ้น หมินฉู่ฉู่มองบุตรสาวที่ทำสีหน้าเหมือนสามีนางไม่มีผิดยามร้อนใจก็แอบอมยิ้มขึ้นมา แต่พอคิดถึงเรื่องที่สามีตัวร้ายนางจะทำก็รีบหุบยิ้มลงทันที แล้วแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งเครียดแทน
“ท่านแม่ นั่นท่านพ่อนี่!”
ซ่งเมยเมยชี้ไปยังหน้าจวนที่ซ่งโหวกำลังลงจากรถม้าพอดิบพอดี ยามเห็นบุตรสาวและภรรยาเดินมาก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
“ฉู่ฉู่ เมยเมย มานี่สิ” เขากางแขนออกเป็นเชิงให้ทั้งคู่สวมกอด
“หวงหลง...ท่าน วันนี้ท่านเหนื่อยหรือไม่” แม้ใจจะเต้นระส่ำแต่หมินฉู่ฉู่ก็ก้าวขาเข้าไปสู่อ้อมอกกว้างเช่นเดิม พร้อมกับกระชับเขากอดรัดแน่นขึ้นหลายเท่า
“ท่านพ่ออุ้มเมยเมยด้วย”
ซ่งหวงหลงยิ้มให้ทั้งคู่ มือข้างหนึ่งก็อุ้มบุตรสาวขึ้นมานั่งบนบ่าหนา “ไม่เหนื่อยหรอก แค่นำขบวนบุกยึดพวกค้าสัตว์ในป่าแค่นี้เอง เสียอย่างเดียวที่กลับช้ากว่าเดิมเท่านั้น”
ทั้งหมินฉู่ฉู่ทั้งซ่งเมยเมยพอได้ยินก็หลุบตาลง แล้วหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้กันแทน
ผิดไปแล้ว คิดผิดไปแล้วจริงๆ
แถมหมินฉู่ฉู่ยังขาดทุนหลายเท่า เพราะบุตรสาวดันรู้ความลับที่ว่า โลกนี้คือโลกของนิยายไปแล้ว!
ซ่งเมยเมยยิ้มให้มารดาเป็นนัย
‘ท่านแม่มิต้องห่วง ข้าซ่งเมยเมยไม่บอกผู้ใดหรอกเจ้าค่ะ ว่าข้าผู้นี้คือบุตรสาวของตัวร้ายกาจในนิยายเช่นพวกท่าน!’
ตอนพิเศษ 2ครอบครัวจวิน กับ งานหมั้นหมายจวินถานไป๋คือรัชทายาทผู้หนึ่ง ที่ตำหนักในไร้สตรีดังเช่นบิดาของเขาที่ดำรงตำแหน่งฮ่องเต้ยามนี้หากจะว่าพวกเขากลัวภรรยาก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ความเป็นจริงคือเขาสองพ่อลูกให้เกียรติภรรยาตนเองต่างหากซ่งเหนียวเหนี่ยวประคองท้องใหญ่โตเดินออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “จวินถานไป๋!”รัชทายาทหนุ่มเดินตรงมาทางพระชายาของตนอย่างไว ประคองนางให้เดินระมัดระวัง นางกำลังจะง้างมือตบหัวสามีก็ถูกบุตรชายด้านล่างดึงกระโปรงแผ่วเบา“หลินอี มีอะไร”‘จวินหลินอี’ ยื่นเทียบเชิญให้มารดาด้วยแววตาใสซื่อ จวินถานไป๋พลันอยากปรี่ตัวเข้าไปกอดเขายิ่งนักลูกพ่อ เจ้าช่วยเหลือพ่อยามขับขันได้ทันเวลาจริงๆ แม่ของเจ้าอารมณ์ไม่คงที่ เกรี้ยวกราดไม่เลือกเวลา...ซ่งเหนียวเหนี่ยวอ่านจบก็สั่งบ่าวรับใช้เตรียมหีบเสื้อผ้า ของกินมากมายขึ้นรถม้าทันที“สามี หลานทั้งสองของท่านจะจัดงานเลี้ยงวันเกิด ท่านจะไปหรือจะอยู่วังรอรับเหล่านางในก็แล้วแต่ท่าน” กล่าวเสร็จก็จูงจวินหลินอีขึ้นรถม้าทันทีจวินถานไป๋ไหนเลยจะปล่อยให้นางไปกับบุตรชายแค่สองคน อีกอย่าง...นางก็กำลังท้องโตปานนั้นยามมาถึงแดนมาร จวินหลินอีก็หลบหนีออกมาเที่ยวเ
ตอนพิเศษ 1ชีวิตพลิกผันในแดนมารหลิวอี้หยางนับเป็นอะไร เป็นเพียงบุตรเขยกลัวภรรยาผู้หนึ่งของจอมมารตู้จวินเท่านั้น!ตู้ฮวาเคยคิดเสมอว่าหากวันหนึ่งตนแต่งงานมีครอบครัว คงจะเลือกพวกมารเช่นเดียวกันเพื่อแต่งงานด้วยแต่พอวันนั้นที่นางได้พบชายหนุ่มผู้หนึ่งในโรงเตี๊ยม นางไม่เคยคิดเลยว่าจะมีบุรุษเช่นนี้อยู่ในโลกหลิวอี้หยางเดินตรงมายังโต๊ะอาหาร ก่อนจะนั่งยังกวาดสายตามองโดยรอบ เห็นเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง ชั่วเวลานั้นตู้ฮวายอมรับว่าแอบเขินอยู่นิดๆ ชายหนุ่มผู้นี้เองก็หล่อเหลาเอาการ จากนั้นนางก็เห็นเขาลากเก้าอี้เดินอ้อมด้านหลังนาง มานั่งอยู่ข้างๆเอ่อ... จนแทบจะสิงนางให้ได้“แม่นางเจ้างดงามยิ่งนัก”เสียงกระเซ้าเย้าแหย่ดังก้องอยู่ข้างหูนางไม่หยุด ตู้ฮวาไม่สนใจรีบก้มหน้าลงกินอาหารอย่างช้าๆ แต่จิตใจกลับวุ่นวายนักพอยามที่เขาเอ่ยสู่ขอนางกับบิดา ไม่อยากจะเชื่อว่าบิดาจะอนุญาต นางดีใจมากเพียงแต่ไม่แสดงออกมา ยังคิดว่าทั้งหมดอาจจะแค่ฝันไป เพราะคราวที่นางอยู่บนรถม้ายามนั้นบิดาบอกว่านางหมดหวังในเรื่องของเขาแล้ว...ช่วงเวลานั้นนางเสียใจมากจริงๆ หากมีหวังขึ้นมาสักนิด อย่างเช่นเขารู้ว่านางเป็นมารผู้หนึ่ง จะได
บทส่งท้ายเมื่อยามเล็กซ่งเมยเมยมักจะติดตามบิดาไปหาอาจารย์ของเขาเสมอวันหนึ่งบิดาบุญธรรมพาน้องชายมาจวนโหวเป็นครั้งแรก นางเห็นเด็กชายที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยปานนั้นก็อดที่จะแกล้งเขาบ่อยๆ ไม่ได้พอนานวันเข้าทั้งคู่ก็ตัวติดกัน เป็นคู่หูพี่น้องที่รู้ใจ นางจำเรื่องเล่าของมารดาได้เสมอไม่มีตกหล่น พอได้ยินว่าอาจารย์ของบิดาล้วนคืออดีตจอมมารเทียมฟ้าสะเทือนดินผู้หนึ่งก็มีความคิดดีๆ“เสี่ยวไป๋ เจ้าอยากเก่งจนร้ายกาจรึไม่”จวินถานไป๋ยังเล็ก ย่อมไม่รู้ว่า เก่งจนร้ายกาจ คืออะไร แต่เห็นพี่สาวบุญธรรมคลี่ยิ้มกว้างเพียงนั้นก็น่าจะต้องเป็นของดี เขาจึงพยักหน้ารัวๆจากนั้นนกน้อยตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนบ่าพี่สาวนิ่งๆ มาตลอดก็บินมาจิกหัวเขาอย่างแรงสองสามที‘เจ้าโง่จวินถานไป๋ ถูกเมยเมยหลอกให้ทำเรื่องไม่ดีก็ไม่รู้ตัว!’เขาไหนเลยจะรู้ว่าซ่งเหนียวเหนี่ยวก่นด่าเขาเช่นนี้ จูงมือผู้เป็นพี่สาวติดตามรถม้าตระกูลซ่งมุ่งลงใต้เพื่อไปฝึกตนเป็นศิษย์หลานของจอมมาร!ยามดึกคืนหนึ่งซ่งเมยเมยที่อายุเพียงสิบขวบ นางเห็นอาจารย์ปู่หยิบคันฉ่องปิดวิญญาณออกมา นอกจากมันจะส่องหาคนที่อยากเห็นด้วยแล้ว ยังสามารถมองเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ
ตอนที่ 30จุดจบของการหลงบุรุษที่หน้าตา!ซ่งเมยเมยตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็รับรู้ได้ว่านกน้อยบนแท่นกำเนิดเริ่มขยับเล็กน้อยแต่ยังไม่ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงซ่งเมยเมยตั้งใจจะไปดูนางใกล้ๆ เลิกผ้าห่มขึ้นคลุมร่าง แต่พอเท้าแตะลงพื้นเพื่อก้าวลงจากเตียง ความเจ็บปวดด้านล่างก็พุ่งขึ้นมา ร่างเล็กก็ลงไปกองกับพื้นทันที“ถงอี๋!” นางตวาดลั่นเรียกบุรุษที่ทำให้นางเป็นเช่นนี้เสียงดังชายหนุ่มกำลังฝึกพลังมารที่เพิ่งได้รับมาใหม่อยู่ก็ลุกขึ้นเดินตรงมาหาหญิงสาวทันที ถงอี๋ไม่ทันได้ถามว่าทำไมนางถึงเรียกเขาแต่พอเห็นนางล้มลงไปกองกับพื้น ก็รีบโน้มตัวลงไปอุ้มนางขึ้นมาก่อน“จะไปไหน” ยามนี้เขาเพิ่งฝึกพลังมา ร่างมารยังไม่ได้หายไป เขาบนหัวที่แหลมย้อยลงมาจิ้มแก้มนางเล็กน้อยจนนางคันยุบยิบซ่งเมยเมยโน้มใบหน้าออกห่างเขาระยะหนึ่ง แล้วชี้ไปยังแท่นกำเนิด “ไปดูเหนียวเหนี่ยว”ถงอี๋พานางไปดูมุกวิญญาณของนกน้อยอย่างว่าง่าย แต่การที่นางขยับหนีห่างเขาเช่นนี้ทำเอาหงุดหงิดใจนักเมื่อดูพอแล้วปากเล็กจึงขยับสั่งการ “ไปๆ กลับเตียง”พอร่างของนางมาถึงเตียง ซ่งเมยเมยก็ล้มตัวลงไปนอนเช่นเดิม หันหลังไม่มองเขาอีก“กลัวหรือ...หรือว่าน่าเกลียด”ซ่งเมยเมย
ตอนที่ 29ราชาจอมมารถงอี๋สติพลันหายไป ฝ่าวงล้อมฆ่าพวกมารไปจำนวนมาก ทันใดนั้นร่างกลายเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง บนหัวมีเขาค่อยๆ งอกออกมาคดโค้งย้อยลงเหมือนเขาแกะ ทั้งใหญ่และแหลมพอเห็นแล้วดูน่าเกลียดน่ากลัวยิ่ง รังสีอันตรายก็พุ่งออกมา ทำร่างของมารรอบๆ กระเด็นกระดอน“อาจารย์ปู่ดูนั่น!” จวินถานไป๋ชี้ไปยังร่างของถงอี๋ที่ยามนี้มีไอสังหารทั่วร่างจอมมารตู้จวินมองก็ยกยิ้มอย่างพอใจ เขากระโดดลงไปในหน้าผาทันที ฝ่ามือตบลงไปบนไหล่กว้างของถงอี๋“นี่คือหลานชายของข้า! พวกเจ้าก็เห็นแล้วว่าสิบวันสิบคืนมานี้ผู้ใดจะสู้เขาได้ หากมีผู้ใดคัดค้านไม่ยอมยกตำแหน่งราชาจอมมารให้เขา ข้าจะถือว่าพวกเจ้ารนหาที่!”ถงอี๋ได้ยินก็สับสนมาก เขาคือหลานชายของจอมมาร เช่นนั้นที่ผ่านมาทำไมเขาจึงไม่รู้เลยถงอี๋ยกกระบี่ขึ้นมาส่องมองใบหน้าตัวเองในยามนี้ ดวงตาแดงฉาน เขี้ยวแหลมยาวที่งอกออกมาดูแล้วก็น่ารังเกียจยิ่งนัก แถมเขาบนหัวนี่...หากเมยเมยเห็นนางจะกลัวเขาหรือไม่... พอคิดถึงนางร่างสูงใหญ่ก็มีแต่จะเจ็บปวด เขาขมวดคิ้วจนเป็นปม ร่างกายก็กระอักเลือดออกมาสามทีติดกันจอมมารตู้จวินหันมาตบไหล่ถงอี๋อีกครั้ง “เจ้าทำได้ดีมาก”“ทำได้ดีแล้วอย่างไ
ตอนที่ 28วิญญาณดับสูญ ไร้การเคลื่อนไหวตลอดกาลแม้ร่างกายซ่งเมยเมยจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็นับว่าไม่หนัก นางยังเดินเหินได้ปกติ จากนั้นก็รวมกำลังกับคนอื่นเพื่อกำจัดปีศาจอาฆาต“เจ้า! เจ้ากล้าถอดหัวใจจอมมาร” แล้วพวกมันจะกินร่างเปล่าที่ไร้ของมีค่าเพื่ออันใดความโมโหโทสาของมันเพิ่มมากขึ้น พุ่งเข้ามาทางพวกเขาทันที แต่ครั้งนี้จวินถานไป๋กางอาคมย้อนกลับได้ทันการณ์“พวกเจ้าล้วนเป็นพวกเจ้าเล่ห์!” ปีศาจอาฆาตตัวนี้ยังสมบูรณ์มากกว่าตัวที่ทำร้ายซ่งเมยเมย จึงเห็นรูปหน้ามันชัดเจน ดูแล้วพลังของมันก็น่าจะแกร่งกว่าตัวอื่นปีศาจอาฆาตพุ่งขึ้นไปชนขอบอาณาเขตเต็มแรง จากนั้นเกาะกำบังในพื้นที่พิเศษก็แตกออก ร่างของมันเองก็ระเบิดแตกตกลงมาเป็นลูกไฟด้วยความเร็วถี่ซ่งเมยเมยไม่ทันตั้งตัวถูกลูกไฟอาฆาตทะลุร่างไปสองสามลูก จนกระอักเลือดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า คนที่เหลือยังไม่ทันได้สังเกตเห็น เพราะพวกเขาเองก็ตั้งรับกับจำนวนลูกไฟอยู่เช่นกันซ่งเหนียวเหนี่ยวหันหน้าไปทางเจ้านายของตน เห็นลูกไฟกำลังจะตกลงมาใส่ร่างนางอีกครั้งก็เข้าไปขวางนางทันที“นะ เหนียวเหนี่ยว”“เมยเมย... ตลอดเวลาข้าดีใจมากที่มีเจ้าอยู่เป็นเพื่อน จนถึงวันที่ข้าเ
Mga Comments