เมื่อนักอ่านตัวยงอย่าง ‘พบตะวัน’ ได้ทำการคอมเม้นท์นิยายเรื่องโปรดที่ตัดจบไม่ตรงใจ แทนที่ตัวนางเอกของเรื่องจะทำการแก้แค้นสามีที่ไม่รักดีอย่างสาสม กลับตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงเพื่อเป็นการปิดจบนิยายเรื่องนี้แทน พอเธอกดส่งคอมเม้นท์เรียกร้องให้ทำภาคต่อก็มีแอคเค้าน์ ‘แมงกะบี้สีรุ้ง’ เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยกับเธอ ควรทำให้ตัวนางเอกเรื่องนี้ได้เจอคนดีและมีความสุขกับเขาบ้าง แต่หลังจากที่เธอกำลังตอบกลับแอคเค้าน์แมงกะบี้สีรุ้งไปมา แสงสีขาวบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็สว่างวาบขึ้นมา ดึงตัวของพบตะวันนักอ่านช่างฝันเข้าสู่โลกนิยายย้อนเวลาภาค 2 ที่เธอได้รับบทเป็น ‘ธารตะวัน’ นางเอกของเรื่องที่เธอต้องเป็นคนดำเนินเรื่องเอง นำพาให้นางเอกลงเอยกับประธานจอมเย็นชาให้ได้ถึงจะหลุดออกจากนิยายในโลกนี้ แต่เส้นเรื่องที่มีทั้งการลอบฆ่าตัวพระเอก และฐานะที่ต่างกันของทั้งคู่มันจะบรรจบให้รักกันเมื่อไหร่ล่ะเนี่ย!
view more‘แจ้งเตือนจากนิยาย ภรรยาของคุณที่ไม่เคยรัก’
ร่างบางของหญิงสาวเดินเอื่อยเฉื่อยอย่างหมดแรง หลังวุ่นกับงานเสิร์ฟอาหารไม่ได้พักแทบทั้งวัน กระทั่งเสียงแจ้งเตือนจากนิยายเรื่องโปรดเด้งขึ้นมา บนใบหน้าซีดเซียวไร้สีซับเลือดก็เปื้อนรอยยิ้มทันที
พบตะวันเป็นหญิงสาวตัวเล็กบอบบาง ผิวพรรณขาวผ่องเป็นยองใย อีกทั้งใบหน้าก็จิ้มลิ้มพริ้มเพราน่ารักสมวัย แต่เป็นหญิงสาวใจสู้งานหาเงินส่งตัวเองเรียนจวนจะจบปริญญาในอีก 4 เดือนข้างหน้านี้
“อู้ย ตอนใหม่มาแล้วจ้า...”
เธอรีบเดินไปนั่งที่ป้ายรถเมล์เพื่ออ่านตอนใหม่ ในเวลาสี่ทุ่มที่ใจกลางเมืองยังครึกครื้น สมกับเป็นเมืองศิวิไลซ์ที่ไม่เคยหลับใหล แม้ผู้คนจะเริ่มบางตาจนบริเวณป้ายรถเมล์มีแค่เธอนั่งอยู่คนเดียวก็ตาม
แต่เธอไม่ได้ให้ความสนใจผู้คนหรอก ความสุขเดียวของนักอ่านช่างเพ้อฝันอย่างเธอ คือการได้อ่านนิยายเรื่องโปรดให้ตาแฉะ อ่านข้ามวันพ้นคืนก็ยังสามารถตื่นมาทำงานได้ ขอแค่ให้เห็นตัวละครมีความสุข
“อ่า สบายเท้าขึ้นมาหน่อย” เธอเป่าลมผ่อนคลายผ่านริมฝีปาก
พบตะวันสูดลมหายใจเข้า พลางเอนศีรษะพิงเสา และเริ่มไล่สายตาอ่านเนื้อหานิยายตอนล่าสุดอย่างตั้งใจทุกตัวอักษร
“...ธารตะวันสูญเสียลูกสาวในท้องไปตลอดกาล จากการเลือกสามีผิดพลาดในอดีตอย่างเจตกวิน ความรักที่เคยหอมหวานกลับกลายเป็นขมขื่นไม่อาจย้อนกลับ คนนอกใจไม่หวนรักกลับคืนมาดังเดิมอีกแล้ว
เธอรู้สึกราวกับโลกทั้งใบทอดทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง...
สุดท้ายเธอตัดสินใจเดินไปที่สะพานสูง ก้าวเท้าอย่างเอื่อยเฉื่อยแต่หนักแน่นและมุ่งมั่น วินาทีนั้นหัวใจของเธอมีแต่ความว่างเปล่าราวกับห้องว่างสีขาวล้วน ไม่มีหน้าต่างหรือประตูทางออกให้หลุดพ้นไปได้
ทุกความผิดหวังและเสียใจกลายเป็นแรงทับถม ให้เธอปีนขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน ทิ้งร่างดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำและจมหายไปในเสี้ยววินาที... ในโลกอีกใบธารตะวันคงได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการสักที”
“...โลกอีกใบธารตะวันคงได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการสักที”
พบตะวันมุ่นคิ้วหลังอ่านจนจบบรรทัดสุดท้าย เธอเลื่อนขึ้นเพื่อดูว่ามีเนื้อหาที่ยังอ่านไม่หมดหรือเปล่า ทำไมนางเอกของเรื่องถึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง แต่แล้วประโยคสั้นๆ ที่นักเขียนทิ้งไว้ก็กระจ่างชัด
‘จบบริบูรณ์’
“จะ- จบบริบูรณ์เหรอ”
เธอเลื่อนนิ้วเพื่อหาโพสต์ชี้แจงอื่นจากนักเขียน อยากรู้ว่าจะมีภาคต่อหรือเปล่า แต่มีแค่คำว่าจบบริบูรณ์แล้วก็ตัดจบเสียดื้อๆ เลย
“จะตัดจบให้ธารตะวันตายได้ยังไงเนี่ย ฮื่อ... แบบนั้นไม่ได้สิ” เธอเบะปากจะร้องไห้มารอมมาร่อ
จะไม่ให้น้ำตารื้นได้ยังไง ในเมื่อนางเอกในเรื่องตัดสินใจคบกับเจตกวินเพราะความรัก แรกเริ่มหวานชื่นจนน้ำตาลยังจืดจาง แต่พอเข้ากลางเรื่องกลับเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
ทำร้ายคนรักกันด้วยการไปมีคนอื่นไม่พอ ยังทำให้เธอเครียดจนแท้งลูกในไส้ก่อนกำหนดอีก นางเอกต้องใจสลายแค่ไหนกันนะ
ตะวันจะขี่กระบี่ไปทำงาน : ไม่มีต่อเหรอคะ จะจบที่ธารตะวันจบชีวิตตัวเองเหรอคะคุณนักเขียน นางเอกเรายังไม่ทันได้เจอความสุขกับเขาสักทีเลย ฮือ รู้ว่านิยายรักดราม่าแต่ไม่คิดว่าจบแบบนี้จริงๆ ขอภาคต่อให้ธารตะวันได้เจอคนที่รักจริงได้ไหมคะคุณนักเขียน ได้โปรด แงง
พบตะวันพิมพ์คอมเม้นท์ด้วยสีหน้าเศร้าใจ ไม่รู้ว่าคุณนักเขียนนิยายตั้งใจหรือประสบปัญหาอะไรที่ตัดจบนิยายดื้อๆ แบบนี้ แต่เธอแค่ยังมีความหวังว่าจะมีภาคต่อเพื่อเห็นนางเอกสุดช้ำเรื่องนี้มีความสุขสักที
“โอะ มีคนมาตอบกลับเราด้วยแฮะ”
เธอเอียงคอแปลกใจ แต่ยังมุ่นคิ้วเว้าวอนทำใจไม่ได้ที่ธารตะวันตายในตอนจบ ก่อนเธอจะกดเข้าไปดูคอมเม้นท์ตอบกลับ
แมงกะบี้สีรุ้ง : เห็นด้วยเลย อุตส่าห์ติดตามมาตั้งนานคิดว่านางเอกจะแก้แค้นสามีที่ทำร้าย แต่กลับไปทิ้งร่างลงทะเลแล้วก็ตัดจบดื้อๆ คือจะทะลุมิติหรือยังไง หรือนักเขียนหมดไฟจะเขียนต่อแล้วจริงๆ
ตะวันจะขี่กระบี่ไปทำงาน : จริงเลยค่ะ ขอให้มีภาค 2 เขียนให้ธารตะวันได้เจอกับรักแท้หน่อยเถอะ เป็นนางเอกที่รันทดมาก ครอบครัวหันหลังให้ไหนจะคนรักมานอกใจและเสียลูกไปอีก มีภาคต่อเถอะ
แมงกะบี้สีรุ้ง : อยากให้ภาค 2 ธารตะวันย้อนเวลากลับไปก่อนจะตัดสินใจคบกันแฟนเฮงซวยคนนี้มาก อย่าพลาดท้อง แล้วเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับใครสักคน
“จริงค่ะ เห็นด้วยกับคอมเม้นท์แมง... เหวอ” พบตะวันร้องเสียงหลง เมื่อจู่ๆ หน้าจอมือถือก็เกิดอาการขัดข้องรวนจนปิดเครื่องไม่ได้
ดวงตากลมโตเบิกโพลงตื่นตกใจ ก่อนจะหลับตาปี๋เบือนหน้าหนีไปด้านข้าง เมื่อแสงสีขาวส่องสว่างวาบขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
เพียงเสี้ยววินาทีร่างของพบตะวันที่นั่งอยู่ป้ายรถเมล์ก็หายไป ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลยสักอย่าง แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นหญิงสาวที่หายไปเลยแม้แต่คนเดียว
ทุกอย่างเป็นปกติ... ยกเว้นเส้นชะตาชีวิตของพบตะวัน
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เสียงลือเสียงเล่าอ้างใดก็ไม่สู้ พวกพระเอกที่พูดน้อยต่อยหนักกินดุมีอยู่จริง!“อ๊ะ... แฮ่ก”ร่างบางคุกเข่าบนโซฟา สายตาทอดมองวิวทะเล หันบั้นท้ายอวบอัดเข้าหาร่างสูงกำยำ เขายืนบนพื้นมือจับล็อคสะโพกบาง ขณะตอกอัดแท่งร้อนใส่ร่องรักฉ่ำน้ำ จนเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณ“อึก!”บทชีวิตเธอมันหนักหนาแสนสาหัส!พบพาลมาเจอของใหญ่ถึกทนไม่พอ ยังจ้วงแทงเธอไม่ยั้งจนพรุนไปหมดแล้วเพียะ“อ่า” ธันย์ธาราครางทุ้มต่ำ ฟาดมือบนบั้นท้ายขาวจนขึ้นรอยแดงเธอซบใบหน้าลงบนที่พิงโซฟา แผ่นหลังบางเว้าโค้ง โก่งบั้นท้ายยกสูงให้แก่นกายไหลลึกเข้ามาจนสุดลำทุกการขยับเข้าออกในร่องรูน้อยๆ มันเสียวสยิวจนยากจะต้านทานไหว เมือกใสเคลือบแก่นกายจนเปียกเยิ้ม อีกทั้งในโพรงนุ่มยังโอบรัดเขาแน่นจนใกล้จะแตกหลั่งรอมร่อรู้สึกดีต่อกันมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งผลิตสารความสุขมาให้เสพ“โลกเดิมที่คุณจากมา... อ๊ะ- อึก คุณต้องเจ้าชู้มากใช่มั้ย”“ผมดูเป็นคนแบบนั้นเหรอคุณ”“ก็... อ๊ะๆ คุณธันย์อย่าเพิ่งเร่งเครื่องได้มั้ย อื้อ”เธอเอี้ยวลำตัวยกขึ้นเล็กน้อย พอหันไปมองก็พบว่าเขาร่อนเอวสอบเข้าใส่ไม่ปราณี ก่อนจะใช้มือยันหน้าท้
“คุณธันย์...”ใบหน้าหวานล้ำเจือรอยวิตกกังวล สับสนว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ดี แต่ธันย์ธารากลับยิ้มให้เธออีกครั้งยิ้มที่ทำให้เธอใจอ่อนยวบยาบเลย...“คุณเป็นนักอ่านตัวยงจะไม่เคยอ่านฉากพวกนี้เหรอ”“ก็ต้องเคยอ่านสิคะ...”“แล้วทำไมต้องเขินด้วยล่ะ”ร่างบางบนตักเอียงหน้าเหนียมอาย แต่ไม่กล้าสบตาเขานาน เขินจนไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้ตรงไหน เมื่อมือใหญ่เลื่อนขึ้นกอบกุมที่หน้าอกของตัวเธอ พร้อมกับออกแรงบีบเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์บางทีเธอควรทำความรู้จักเขาให้มากกว่านี้ เห็นชอบทำหน้านิ่งยิ้มก็ไม่ค่อยเก่ง แต่เรื่องพวกนี้เจ้านายเธอดูจะช่ำชองเป็นพิเศษ“อ่านแต่ไม่เคยไงคะ ทฤษฎีกับปฏิบัติมันเหมือนกันที่ไหนล่ะ”“ถ้างั้นก็ถือว่าคุณมีทฤษฎีในหัว...”ธารตะวันใช้ฟันขบริมฝีปากล่าง หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเขาเริ่มออกแรงบีบขยำเต้านมของเธอแรงขึ้นอีก“ส่วนภาคปฏิบัติก็เอามาทดลองกับผมดีมั้ยตะวัน”สิ้นประโยคนั้น ธันย์ธาราก็หลุบตามองหน้าอกเธอ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปคว้าใบหน้าเรียวเล็กเข้ามาประกบจูบอย่างดูดดื่มความรู้สึกอิ่มเอิบในใจมันเอ่อล้นขึ้นมา จนคนทั้งสองคนต่างก็อยากแสดงออกว่ารู้สึกกับอีกฝ่ายมากแค่ไหน ต้องการกันและกันมากเพี
ร่างสูงย่องเบามาหน้าห้องธันย์ธารา ในมือถือกุญแจพวงใหญ่ที่เก็บลูกกุญแจทั้งหมดของบ้านไว้ในนี้เขาหาดอกที่เป็นของห้องนี้ คิ้วก็มุ่นเข้าหากันแน่นดูเคร่งเครียด เม็ดเหงื่อไหลซ่กจนต้องใช้หลังมือปาดทิ้ง ก่อนที่จะลองไขดูทีละอัน พอพบว่าไม่ใช่ก็เปลี่ยนไปเรื่อยจนเริ่มมีน้ำโหขึ้นมา“ดอกไหนวะ” เขาสบถ มือก็ไขจนกุญแจแทบหักคารูเสียบแต่ยังไม่ทันจะทำภารกิจสำเร็จ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้เขาสะดุ้งโหยงมือไม้อ่อนจนกุญแจร่วงหล่นลงพื้น“คุณทำอะไรน่ะธาร”“เจนขวัญ...”ธารภูมิภัครถอนหายใจหนักๆ ทิ้งออกมา แต่กลับไม่ได้โล่งใจเลยสักนิดที่คนตรงหน้าคือภรรยารัก ใบหน้าเขาซีดเผือดเป็นไก่ต้ม หลุบตามองพื้นราวกับคนที่หลบหนีความผิด“คุณจะเปิดห้องพี่ธันย์ทำไมคะ” เจนขวัญเดินเข้าไปใกล้ พลางก้มหยิบพวงกุญแจที่ตกพื้นคืนใส่มือสามี“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก...”“ไม่มีอะไรแล้วทำไมทำตัวลับๆ ล่อๆ คะ”เธอจ้องคนเป็นสามีที่หลุกหลิกดวงตาไปมา ก่อนเขาจะเงยหน้าคลี่ยิ้มแป้นจนดวงตาหยี คว้ามือบอบบางของภรรยามากุมเอาไว้ พลางเสตามองไปด้านข้างแล้วช้อนตาขึ้นสบกับเธออีกครั้ง“พอดีว่า... ผมหาเสื้อตัวเก่งไม่เจอ บางทีพี่ธันย์เขาอาจจะหยิบไปใส่จนลื
ธารตะวันแกล้งจะถอดเสื้อฮาวายตัวนอกเขาออก แต่ระวังไม่ให้โดนแขนข้างที่เขาเข้าเฝือกอ่อนอยู่ กลับกลายเป็นว่าคนตัวหนากว่าโดนรังแกจนเหลือตัวสามเซนเธอมัวแต่สนุกจนลืมไปเลย ตอนนี้ท่านั่งมันสุ่มเสี่ยงหนัก บนตักเขาแข็งแกร่งเหมือนหินผา รับน้ำหนักคนด้านบนได้สบาย สีหน้าธันย์ธาราดูจะชอบใจมากด้วยซ้ำ“เมื่อกี้ยังใจกล้าขอจูบอยู่เลย ทีนี้หวงตัวจังเลยคะ” เธอกระเซ้าเย้าแหย่เขาเล่นๆ นิ้วเรียวจี้เอวเขาจนอีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบไปมา“อ่า คุณเล่นทีเผลอจั๊กจี้ผมนี่”“จุดอ่อนของชายอกสามศอกสินะคะเนี่ย”ได้ทีเธอก็จิ้มจี้เอวที่เป็นจุดอ่อนเขาใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงขำขันคิกคักเป็นขบวน แม้เพิ่งผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมา แต่พอทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน กลับเติมเต็มช่องว่างได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่ขาดหายไป...พอเล่นสนุกจนพอใจ กอปรกับไม่อยากเห็นเขาขาดอากาศหายใจซะก่อน ร่างบางบนตักก็ยอมหยุดแกล้งเขา พลางหอบหายใจแรงๆ จากการหัวเราะต่อเนื่องทำกรามแทบค้าง“ไม่แกล้งแล้วก็ได้ค่ะ กลัวฉันปล้ำคุณขนาดนั้นเลยรึไง”“คุณควรจะกลัวผมต่างหาก”“จริงเหรอคะ”คนบนตักกอดอกใส่ ก่อนจะยิ้มตามธันย์ธารา เมื่อบนใบหน้าหล่อเหลาวาดโค้งรอยยิ
ธารตะวันไม่ชอบอยู่โรงพยาบาลนาน เธอแค่คิดว่าคนร้ายอาจจะลักลอบเข้ามาทำร้ายทั้งคู่ก็ได้ ธันย์ธาราจึงเปิดโรงแรมที่มีระบบคุ้มกันความปลอดภัยแน่นหนาให้ และอยู่ใกล้โรงพยาบาลด้วยกระเป๋าเดินทางของเธอเขาเป็นคนแบกขึ้นมาให้ ทีแรกก็ยื้อยุดฉุดกระชากแย่งกันถืออยู่นาน สุดท้ายเธอก็ผายมือให้สุภาพบุรุษอย่างเขาได้ทำหน้าที่แทน“วิวตรงนี้สวยมากเลยค่ะคุณธันย์”ร่างบางยืนลูบต้นแขนเพื่อย้ำเตือน ว่าเธอยังมีชีวิตและเลือดเนื้ออยู่จริงๆ ขณะทอดสายตามองวิวทะเล จากห้องชั้นยี่สิบสามของโรงแรม“ทำใจให้สบายนะคุณ... ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยดี”ใบหน้าจิ้มลิ้มหันมองร่างสูงที่เดินมายืนข้างๆ เขาหันมาส่งรอยยิ้มให้เธอ ก่อนจะโบกโทรศัพท์ในมือไปมา หน้าจอปรากฏแอพพลิเคชั่นสำหรับสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่อยู่“ผมจะสั่งอาหารให้มาส่ง คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”“วันนี้คุณพูดเยอะเป็นประวัติศาสตร์เลยนะคะเนี่ย”ไม่อยากจะแซวแต่ก็อดไม่ได้ เจอหน้ากันแรกๆ เจ้านายเธอพูดนับคำได้เลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้พูดเยอะแถมยังฟังเพลินหูทั้งวันอีกด้วยเขาก้มหน้ายิ้ม ก่อนจะหลอกถามสิ่งที่เธอชอบกินแทน ปกติเห็นเธอกินเก่งอยู่แล้วแถมยังกินจุด้วย แต่ไม่รู้ว่าชอบอะไร
โรงพยาบาลห้องผู้ป่วยพิเศษเงียบสงัด จนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศทำงานอยู่ ไหล่กว้างของธันย์ธารานั่งคอตกอยู่ข้างเตียงโรงพยาบาล กุมมือของธารตะวันเอาไว้ไม่ห่างคุณหมอเจ้าของไข้แจ้งแล้ว เธอแค่เป็นลมหมดสติไป อาการพ้นขีดอันตรายเหลือแค่รอให้รู้สึกตัวเท่านั้นร่างบางหลับตาพริ้มบนเตียงผู้ป่วย ก่อนเปลือกตาสีมุกจะขยับไปมาหลังรู้สึกตัว“อะไรกัน...”ริมฝีปากซีดไร้สีซับเลือดเปล่งเสียงบางเบา เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเจอเข้ากับเพดานห้องสีขาว แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ส่องแยงที่ตา ทำให้เธอต้องหลับตาลงปรับการมองเห็นอยู่ครู่หนึ่ง“ฉันกลับบ้านแล้วเหรอ... หรือตกอเวจีไปแล้วนะ”เธอตบตีกับความคิดตัวเองในหัว พลางขยับนิ้วมือแล้วกวาดสายตาไปรอบบริเวณห้องช้าๆ“อ่า ปวดหัวจัง” ร่างบางบนเตียงค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะได้ธันย์ธาราเข้าประกบช่วยอีกแรงดวงตากลมโตเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน สบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกแดดส่องกระทบบนผิวหน้าเนียนละเอียด จนเธอคิดว่าวิญญาณอาจจะหลุดลอยไปสวรรค์ชั้นฟ้าแล้วเรียบร้อยไม่งั้นจะเจอเทวดาสุดหล่อได้ยังไง“ยังไม่ได้กลับครับ”“คะ”“แล้วที่นี่ก็คือโรงพยาบาล ไม่ใช่นรกอย่างที่เข้าใจด้วย”เขาคลี่ยิ้มอย่
Mga Comments