เข้าสู่ระบบ“ชีวิตที่แล้วโง่บรม ดูแลพ่อแม่สามีเลี้ยงดูแลลูกและหาเงินส่งเสียสามีจนได้ดี สุดท้ายเขาตอบแทนด้วยความตาย ชาตินี้ฉันจะไม่ยอมให้เป็นเช่นเดิมจะเลิกเป็นคนโง่เขลาให้เขาหลอกลวงออกไปใช้ชีวิตหาความสุขให้ตัวเอง”
ดูเพิ่มเติมบทนำ
อวี้หรานเฝ้าดูแลเอาใจใส่พ่อแม่สามีเป็นอย่างดีรอคอยสามีตามคำมั่นสัญญา สู้ทนหางานทำร่างกายแทบไม่ได้พัก จนวันหนึ่งร่างกายของเธออ่อนแอลง และก็เป็นเวลาที่สามีของเธอได้รับตำแหน่งนายพล เขากลับมาบ้านเธอคิดว่าเขากลับมารับเธอทำตามอย่างที่เอ่ยบอกเธอไว้ ทว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เขาพาหญิงสาวที่เขาต้องการแต่งงานด้วยกลับมาที่ตระกูลไป๋ พรากลูกชายไปจากเธอและความจริงที่ว่าเขารักเธอนั้นคือคำโกหกจากเขาไม่มีความจริงสักข้อ และที่เธอเจ็บปวดมากที่สุดคือพ่อแม่สามีต่างก็รู้เรื่องนี้มาตลอด อวี้หรานเหมือนตายทั้งเป็นหัวใจแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี จ้องมองไป๋หงเทียนพรากลูกชายไปต่อหน้าต่อตา ซ้ำร้ายอาการของเธอดันมากำเริบทำให้สิ้นใจทั้งน้ำตาในอกเต็มไปด้วยความแค้นต่อตระกูลไป๋
แต่สวรรค์ยังคงเมตตาให้เธอได้ย้อนกลับมามีลมหายใจอีกครั้งและย้อนเวลากลับไป 2 ปีที่แล้ว ก่อนที่เธอจะเป็นโรคร้าย ย้อนกลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมทนกับครอบครัวน่ารังเกียจนี้อีกแล้ว เธอจะทำตามความฝันที่เธอเคยทิ้งไปเมื่อครั้งก่อนและพาลูกชายออกมาจากนรกขุมนั้น ทว่าโชคชะตาเล่นตลกทำให้เธอได้พบเจอเขาอีกครั้ง เขายังคงเป็นเช่นเคยต้องการมาพรากลูกชายไปจากเธออีกแต่ครั้งนี้เธอจะปกป้องลูกชายไม่ยอมเขามาพรากไปได้ง่าย ๆ
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้นไม่ได้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงสิ่งสมมุติขึ้นมา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
วริษา
ตอนที่ 1 ชีวิตของอวี้หราน
บรรยากาศยามเช้าเย็นสบายแสงแดดสาดส่องเข้ามาในบ้านหลังเล็กในชนบท มณฑลฟางอี้เชิง หมู่บ้าหยุนหนิง หญิงสาวร่างเล็กตื่นก่อนที่ดวงอาทิตย์จะโผล่ขึ้นขอบฟ้าเพื่อทำอาหารให้ทุกคนในบ้านด้วยความขะมักเขม้น มือที่ควรจะนุ่มเมื่อเทียบกับอายุของเธอ แต่กลับมือหยาบกร้านยิ่งกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก
“อวี้หรานวันนี้มีอะไรกินท้องของฉันร้อนไปหมดแล้ว”เสียงทุ่ม ๆ เอ่ยถามพรางใช้มือเช็ดน้ำหูน้ำตาคล้าย ๆ กับพึ่งจะลุกมาจากเตียงนอน แต่เธอไม่เคยเอ่ยปากว่าตนเองเหน็ดเหนื่อยและอารมณ์ไม่ดีใส่เลย รีบเข้าไปประคองแม่สามีไปนั่งที่เก้าอี้พร้อมตอบคำถามด้วยรอยยิ้มเต็มดวงหน้า
“วันนี้มีผัดผัก และมีไก่ตุ๋นสมุนไพรค่ะ”
“ดีจริง ๆ ที่มีเธอเป็นลูกสะใภ้คอยดูแล อย่างนี้ไป๋หงเทียนคงหมดห่วง จริงสิอีกไม่กี่วันเธอต้องส่งเงินให้ไป๋หงเทียนคงไม่ได้ลืมใช่มั้ย? ” อวี้หรานยิ้มบาง ๆ พรางตอบคำถามแม่สามี
“ฉันเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะเข้าไปตักข้าวมาให้เมื่อครู่คุณแม่บอกว่าหิว ฉันจะได้เตรียมตัวออกไปทำงานข้างนอก ป่านนี้ฉู่อี้คงใกล้จะตื่นแล้ว ฉันจะเอาลูกชายไปด้วยไม่อยากให้รบกวนคุณแม่” อวี้หรานเดินไปหยิบชามมาตักอาหารให้แม่สามี
เดิมแต่แรกอวี้หรานเป็นหญิงสาวที่มีความฝันอยากเป็นนักข่าว เมื่อเธอเรียนจบเธอพยายามอย่างมากที่จะเข้าไปเป็นผู้ประกาศข่าว เธอจึงไปยื่นใบสมัครและได้เรียกให้ไปสัมภาษณ์งาน เธอเป็นเด็กกำพร้าถูกเลี้ยงโดยป้าแท้ ๆ ของเธอเอง ทำให้เธอตั้งใจเรียนและทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน หากได้เป็นผู้ประกาศข่าวอย่างใจหวัง เธอจะสามารถส่งเสียและเลี้ยงดูป้าของเธอได้อย่างสบายตอบแทนที่ป้าคอยเลี้ยงดูเธอมา ทว่าหลังจากที่เธอไปสัมภาษณ์มาต้องได้รับรู้เรื่องที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน ป้าของเธอส่งตัวเธอไปแต่งงานกับลูกชายบ้านไป๋ เด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับเธอและเป็นคนที่เธอแอบรักเสมอมา เธอเต็มใจที่จะแต่งกับเขา
อวี้หรานแต่งงานเข้าบ้านตระกูลไป๋ใบหน้าเบิกบานด้วยความสุขละทิ้งความฝันของเธอที่เธอพยายามดิ้นรนมาตลอดเพียงเพราะคิดว่าแต่งงานกับไป๋หงเทียนจะทำให้เธอสุขสบายมากกว่าเดิม แต่เมื่อแต่งเข้าบ้านตระกูลไป๋เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเขา เขาให้เหตุผลว่าต้องเข้าไปเรียนในเมืองเพราะเขาต้องการเป็นทหาร ตอนนี้เขาเข้าเรียนโรงเรียนสอนทหารจึงให้อวี้หรานอยู่ที่บ้านตระกูลไป๋ดูแลพ่อกับแม่ของเขา เธอทำด้วยความเต็มใจระหว่างช่วงนั้นเขายังไปกลับบ่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอท้องและเป็นเวลาเดียวกับที่เขามีข่าวดีมาบอกที่บ้าน เขาได้รับคัดเลือกไปเรียนต่อเพื่อรับตำแหน่งที่สูงมากกว่าเดิม พ่อกับแม่ของเขาดีใจมากแต่แล้วก็ใบหน้าเศร้าหงอยลงเมื่อคิดได้ว่าหากย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองค่าใช้จ่ายจะต้องเพิ่มมากกว่าเดิม อย่างนี้เขาจะหาเงินจากไหนมาส่งเสียลูกชาย อวี้หรานเป็นคนขยันและไม่อยากให้ไป๋หงเทียนละทิ้งความฝันของตนเองจึงบอกว่าเธอจะช่วยหาเงินเพื่อส่งไป๋หงเทียนเอง
ทั้งสามคนดีใจมาก ๆ ขอบคุณอวี้หรานว่าเป็นคนดีโชคดีของตระกูลไป๋จริง ๆ ที่มีเธอเข้ามาเป็นคนในครอบครัว
“ขอบคุณเธอมาก ๆ นะอวี้หรานฉันจะไม่ลืมเรื่องที่เธอทำให้ฉันดูแลฉันและพ่อแม่ เมื่อไหร่ที่ฉันได้ดีฉันจะตอบแทนเธอเป็นอย่างดี ไม่แน่ฉันอาจจะได้เป็นนายพลใหญ่ เมื่อนั้นฉันจะแต่งงานกับเธออีกครั้งจัดงานอย่างยิ่งใหญ่และพาเธอไปจดทะเบียนสมรสออกหน้าออกตา เป็นคุณนายภรรยาของท่านนายพล”
“ฉันไม่ได้หวังถึงขั้นนั้นเสียหน่อย ขอแค่นายมีความสุขฉันเองก็มีความสุขเช่นกันและฉันเองก็มีเรื่องสำคัญจะบอกด้วยตอนนี้ฉันกำลังจะต้องท้อง ”
“ว้าว เรื่องน่ายินดีมักจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันเลยสินะ ไม่ได้การวันนี้ต้องฉลอง ”ไป๋ซินหย่าแม่ของไป๋หงเทียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินว่าตนเองจะมีหลาน รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารฉลองเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้น อวี้หรานดีใจและมีความสุขกับความรักของครอบครัวที่เธอไม่เคยได้สัมผัสคิดว่านี่คือความอบอุ่นความรักที่ทุกคนในครอบครัวตระกูลไป๋มีให้เธอ
2 ปีผ่านไป
อวี้หรานเฝ้าดูแลพ่อแม่สามีเป็นอย่างดีและเป็นแม่ที่ดีของลูกชายตัวน้อย เธอขยันขันแข็งไม่ย่อท้อ วันหนึ่งเธอต้องทำงานหลายอย่างเพื่อหาเงินส่งให้ไป๋หงเทียนร่ำเรียนและต้องนำมาใช้จ่ายในครัวเรือน
ตั้งแต่ที่ไป๋หงเทียนไปเรียนในเมืองเขาไม่เคยกลับมาที่บ้านเลยมีเพียงจดหมายที่คอยส่งมาถามไถ่และเล่าเรื่องราวที่เขาพบเจอ คำสุดท้ายในจดหมายไม่ใช่คำว่ารักหรือคิดถึงแต่เป็นการขอเงินเพิ่มจากเธอในทุก ๆ ครั้ง แต่อวี้หรานไม่เคยบ่นส่งเงินให้เขามากกว่าเดิมแทบทุกเดือน เวลากินเวลานอนแทบไม่มี กลางวันทำงานไร่รับจ้างทุกอย่าง ตอนกลางคืนทำงานบ้านดูแลพ่อแม่สามีกล่อมลูกชายนอนหลับเธอก็ยังต้องทำงานเย็บผ้าที่รับมาทำที่บ้าน เธอทำงานหนักเช่นนี้จนเวลาล่วงเลยมาอีก 3 ปี ร่างกายของเธอเริ่มอ่อนแอ เกิดจากพักผ่อนไม่เพียงพอโหมงานหนักเกิน แต่เธอไม่เคยแสดงอาการให้พ่อแม่สามีได้รู้ เฝ้าฝันว่าจะได้มีวันที่เธอสุขสบายหลังจากที่สามีของเธอเรียนจน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอสละร่างกายและจิตวิญญาณของตัวเองเอาใจใส่พ่อแม่ของไป๋หงเทียนที่ไม่ต้องทำงานอะไรวัน ๆ เรียกใช้แต่เธอ จนวันหนึ่งเธอเป็นลมกลางแดดร้อนจ้า หมอสั่งให้เธอหยุดพักผ่อนก่อนที่ร่างก่ายของเธอจะรับไม่ไหว ทว่าเมื่อกลับมาที่บ้านจดหมายของสามีก็ถูกส่งมา บอกให้เธอหาเงินจำนวนหนึ่งและนี่จะเป็นเงินจำนวนสุดท้ายที่เขาจะให้เธอส่งเสีย เขาใกล้จะเรียนจบและกลับมารับเธอกับพ่อแม่ไปอยู่ด้วยในเมือง ความเหน็ดเหนื่อยของอวี้หรานหายเป็นปลิดทิ้ง และทำงานหนักกว่าเดิมไม่ฟังคำเตือนของหมอเพราะคิดว่าหลังจากนี้ตัวเองจะได้พักจริง ๆ และสุขสบายอย่างที่ไป๋หงเทียนบอกมาในจดหมาย ความฝันส่องสว่างเจิดจ้าทำให้เธอตั้งใจทำงานมากหลายเท่าตัวอย่างไม่คิดชีวิต
ตอนที่ 23 ถูกจับตัวจื้อหาวจ้องมองแผ่นหลังของร่างบางที่เดินจากเขาไปอย่างช้า ๆ เขาไม่ได้ยื้อเธอเอาไว้แม้อยากจะรั้งเธอเอาไว้“ฉันจะไม่รีบ และจะรอจนกว่าวันที่เธอพร้อมจะเปิดใจให้ฉันจริง ๆ ต้องมีสักวันที่เธอเห็นว่าฉันไม่เหมือนสามีเก่าของเธอ และฉันก็ไม่ทำให้เธอเสียใจแน่นอนหากเธอยอมมอบใจให้ ทุกวันของเธอจะมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ฉันจะรอวันนะอวี้หราน” เสียงของจื้อหาวที่เอ่ยถามหลังของอวี้หรานแม้ไม่ได้ดังแต่เธอได้ยินชัดเจน ในใจสั่นสะท้านดวงตาเริ่มเอ่อคลอไม่คิดว่าจะมีผู้ชายแสนดีอย่างเขามาชอบผู้หญิงอย่างเธอจริง ๆ หากเธอสานสัมพันธ์รับความรู้สึกของเขาก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าความรักครั้งนี้จะดีเหมือนตอนแรก และครอบครัวสามีคงจะรับมือยากกว่าตระกูลไป๋แน่นอน ไม่แน่ชะตาชีวิตของเธออาจจะพบจุดจบเดิมคือความตายเหมือนชีวิตครั้งก่อนก็ได้ใครจะรู้ชะตาชีวิตตนเอง เธอตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกยุติทุกอย่างการมีชีวิตอยู่กับลูกชายคือสิ่งที่เธอปรารถนามากกว่าสิ่งอื่นใด อวี้หรานอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเธอได้เปิดทีวีดูข่าวเห็นข่าวของตัวเองกำลังเป็นที่พูดถึงในความจริงที่เธอพบเจอเพราะมีคนที่เคยอยู่ใกล้ ๆ บ้านตร
ตอนที่ 22 คำตัดสินไป๋หงเทียนใบหน้าซีดเซียวตกใจรับไม่ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นสั่งให้ตำรวจออกไปและห้ามเข้าใกล้เขา“อย่ามาใกล้ออกไปนะ เรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำมีหลักฐานอะไรว่าฉันเคลื่อนย้ายสิ่งอันตรายเข้ามาในประเทศ ฉันเป็นผู้บังคับบัญชาใหญ่ตำรวจอย่างพวกแกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉันออกไป หรือว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือแก แกใส่ร้ายฉันหาหลักฐานปลอม ๆ เพื่อให้ศาลตัดสินให้ฉันไม่มีสิทธิ์ในตัวฉู่อี้ เรื่องนี้ฉันจะเอาคืนแกอย่างสาสม”“เก็บคำพูดของคุณไปให้การปฏิเสธกับชั้นศาลเถอะ เพราะที่ได้มาคือหลักฐานแน่นหนาจนไม่อาจจะปฏิเสธได้เลย ” จื้อหาวตอบกลับยื่นมือไปหาเด็กชายที่มานั่งฟังคำพิพากษา“กลับบ้านกันเถอะเรื่องน่าปวดหัวจะไม่เกิดขึ้นกับฉู่อี้อีกต่อ” เด็กชายยิ้มกว้างยื่นมือมาจับมือของจื้อหาวแน่นไป๋หงเทียนใจสั่นสะท้านเมื่อเห็นลูกชายเชื่อใจคนอื่นมากกว่าพ่อที่ให้กำเนิด ทั้งสามคนเดินออกไปจากศาลด้วยความดีใจ ส่วนไป๋ซินหย่าสติแทบแตกไม่ว่าจะเป็นหลานที่ไม่ได้ครอบครอง อีกทั้งลูกชายกำลังจะถูกจับอีกด้วย“คุณตำรวจลูกชายของฉันเป็นคนดี เขาเป็นนายพลใหญ่ ได้โปรดปล่อยเขาไปเถอะนะคะไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาต้องทำเรื่องให้ตัวเองเสื
ตอนที่ 21 ขึ้นศาล จื้อหาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ตอนนี้เขาต้องรับมือจากคนที่มีอำนาจแต่เขาก็ไม่ได้กลัว หลักฐานทุกอย่างอยู่ในมือของเขาแล้ว รอเพียงวันที่จะเปิดโปงความชั่วของเหอหม่าเจิงกับไป๋หงเทียนเท่านั้น ตอนนี้คนที่เขาเป็นห่วงคืออวี้หราน ตอนนี้เธอกำลังเดินาทงไปสถานีตำรวจแจ้งความและเดินทางไปศาลเพื่อยื่นเรื่องดูแลฉู่อี้เพียงลำพัง ช่วงเย็นไป๋หงเทียนได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ไปยืนเฝ้าอยู่กองทัพของเขา โดยมีนักข่าวของสำนักข่าวหลี่หยวนคนอื่นไปทำข่าวเรื่องนี้แทน ไป๋หงเทียนได้รู้จากเหอหม่าเจิงว่าสำนักข่าว หลี่หยวนไม่ยอมรับคำเสนอของเขา จึงบอกให้ไป๋หงเทียนยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายในเรื่องที่ผ่านมา แค่นั้นประชาชนก็พร้อมให้อภัยเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เขาที่เป็นคนให้ข่าวและเขาเองก็เป็นผู้ถูกกระทำจากสำนักข่าวเจียงฉี่ เขาจึงยอมรับเรื่องที่เคยแต่งงานกับไป๋หงเทียนและมีลูกกับเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ยอมรับทุกอย่างเพียงแค่บอกว่าเขาต้องเรียนจึงทำให้ห่างกับเธอและตอนนั้นเธอก็พาลูกชายของเขาหนีออกมาจากบ้านตลอดเวลาเขาตามหาเธอกับลูกชายมาตลอดเพื่อรับผิดชอบ แม้ว่าตอนนี้หัวใจของเขามีหญิงคนใหม่แต่เขาไม่ได้
ตอนที่ 20 เปิดเผยความจริง จดหมายที่อวี้หรานเปิดต่อสายตาทุกคน กล้องส่องมาที่จดหมาย เธอค่อย ๆ เปิดที่ละฉบับให้ทุกคนได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย เมื่อประชาชนรู้ก็พากันอึ้งตาม ๆ กัน จนถึงฉบับสุดท้ายที่ให้อวี้หรานหาเงินให้เขาเมื่อสองปีที่แล้วก่อนที่เธอจะตัดสินใจพาฉู่อี้หนี“นี่คือหลักฐานที่ฉันต้องการแย้งเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าฉันหลอกลวงให้ไป๋หงเทียนส่งเสียฉันเรียนแล้วทีบหัวส่ง ส่วนเรื่องที่ฉันพาลูกชายหนีออกจากบ้านตระกูลไป๋เพราะความชั่วร้ายของคนพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานของฉันสักนิด ระหว่างที่ฉันอยู่ที่นั้นฉันทนเพราะคำว่ารักและสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ รักเทิดทูนพ่อแม่สามีเหมือนพ่อแม่ของตัวเอง แต่ความจริงใจและภักดีของฉันต้องพังทลายลงเมื่อรู้ตัวว่าฉันต่างหากที่ถูกหลอกให้หาเงินส่งเสียสามีเรียนและเป็นทาสรับใช้คอยดูแลพ่อกับแม่ของเขาเท่านั้น ครอบครัวนั้นตั้งใจโกหกและหลอกลวงฉันตั้งแต่แรกไม่เคยมีแม้แต่ความรักหรือความเห็นใจในฐานะมนุษย์ด้วยกันเอง ฉันไม่ได้กล่าวหาโดยไร้ซึ้งหลักฐาน” อวี้หรานเปิดจดหมายที่ไป๋หงเทียนส่งให้คนเป็นแม่ เป็นจดหมายที่อวี้หรานไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าพวกเขาพูดถึงเธอลับหลังเช่นไร ตอ
ตอนที่ 19 ไม่ยอมทนอีกต่อไป ทว่าไม่ทันที่ไป๋หงเทียนจะได้ตอบเสียงรถยนต์ได้เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้าน อวี้หรานหันขวับไปดูเห็นเด็กชายวิ่งออกมาจากรถยนต์ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาดวงตาบวมแดงเกิดจากการร้องไห้มานาน เด็กชายตะโกนเรียกแม่เสียงดังพร้อมวิ่งเข้ามากอดร้องไห้สะอึกสะอื้น“คุณแม่ ผมกลัว อึก ๆ คุณแม่ไปไหนมาผมกลัวเหลือเกิน” อวี้หรานใจสั่นสะท้านดึงตัวลูกชายเข้ามากอดแน่นเช่นเดียวกันมิใช่แค่เด็กชายที่หวาดกลัวเธอเองก็กลัวที่จะไม่เจอเด็กชายเหมือนกัน“ฉู่อี้แม่ขอโทษ ตอนนี้แม่อยู่นี่แล้ว ลูกคงกลัวมากสินะไม่เป็นไรนะ ต่อจากนี้แม่จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาพาลูกไปได้อีกแล้ว”“เฮอะ..!เด็กอะไรน่ารำคาญจริง ๆ อยู่กับเราร้องไห้งอแงไปหาแต่แม่ของตัวเอง ฉันเป็นย่าแท้ ๆ แต่ไม่ยอมให้จับตัว”“นั่นสิ ๆ ฉันเองก็เป็นปู่แท้ ๆ ทำไมเล่นกับฉันเดิมทีปู่กับหลานชายต้องสนิทสนมกันไม่ใช่หรือ”“นั่นคงเป็นเพราะนังอวี้หรานที่เลี้ยงลูกมาไม่ดี สอนให้เด็กเกลียดชังครอบครัวฝั่งพ่อ ช่างร้ายกาจจริง ๆ” ไป๋ซินหย่ากับไป๋ฉินเหยียนตำหนิและอารมณ์เสียเมื่อพาเด็กชายออกไปเที่ยวเล่นซื้อของกินและขนม แต่เด็กชายเอาแต่ร้องห่มร้องไห้จะไปหาแต่อวี้หร
ตอนที่ 18 ขอความช่วยเหลืออวี้หรานใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักเขาออกห่างจากตนเอง“ฉันไม่ขอรับข้อเสนออะไรทั้งนั้น เรื่องที่พูดมาทั้งหมดเป็นเพียงความหลัง ฉันเลี้ยงดูฉู่อี้มาตั้งแต่ท้องจนคลอดและตอนนี้เขาอายุ 5 ปี ฉันเลี้ยงเขามาด้วยตนเองและเลี้ยงมาได้ดีไม่ต้องให้ใครมาช่วยเลี้ยง นายกลับไปหาเหมยหลินของนายไปดูแลเธอให้ดีอย่าให้เธอมาวุ่นวายบุกไปตบตีคนอื่นถึงที่ทำงาน ไม่ใช่แค่ฉันที่เสียชื่อเสียงแต่เป็นเธอและนายด้วยที่เสียชื่อเสียง อ้อ..และเรื่องข่าวของฉัน ฉันรู้ว่าไม่ใช่ฝีมือของนายแต่เป็นฝีมือของเหอเหมยหลิน ต้องการทำให้ฉันจนมุม ตกต่ำเพื่อแย่งลูกชายไปจากฉันหรือไม่มีทาง และฝากไปบอกเธอด้วยฉันไม่เกรงกลัวอำนาจของตระกูลเหอสักนิด” อวี้หรานเอ่ยจบรีบเดินกึ่งวิ่งออกไปกลัวว่าเขาจะจับเธอเอาไว้อีกโชคดีที่ตอนนั้นรถประจำทางวิ่งมาตรงนั้นพอดี อวี้หรานรีบกวักมือและเดินขึ้นรถอย่างเร่งรีบ โดยที่ไป๋หงเทียนไม่ได้เดินตามออกไป ตอนนี้เขาเริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยของฉู่อี้ หากพ่อของเหมยรู้เรื่องฉู่อี้ต้องเกิดอันตรายแน่ ๆ ตอนนี้เขาจึงปล่อยอวี้หรานไปก่อนไม่ดึงตัวเธอเอาไว้ เขาต้องรีบไปหาเหมยหลินเพื่อถามเรื่องนี้ว่าเป็นมือเธอหรื
ความคิดเห็น