ทูตสวรรค์ผิดพลาด... จับวิญญาณผิดตัว กำลังจะส่งหลินเยว่มาเกิดใหม่ในบทชีวิตรันทด เพื่อชดใช้เวรกรรมที่เจ้าตัวไม่เคยก่อ พวกเขาปิดปากนางด้วยการมอบมิติลับ พร้อมของสี่อย่างที่ใช้เอาตัวรอด หลินเยว่รู้ดี เธอไม่มีทางเอาชนะเจ้าหน้าที่ของสวรรค์ได้ การร้องเรียนไปอาจยิ่งทำให้แย่กว่าเดิม เอาเถอะ... ข้าไม่มีทางก้มหัวให้โชคชะตา ลำบากอีกกี่ชาติ ก็ไม่หวั่น เพราะข้าจะลิขิตทุกอย่างเอง!
ดูเพิ่มเติมตอนที่ 9 รีบเร่งการจัดพิธีแต่งงานของหลินเยว่เป็นไปอย่างเร่งรีบ ภายในสามวัน นางก็ถูกส่งตัวขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวอย่างสมเกียรติณ ตอนนี้หลินเยว่กำลังขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวไปแล้วจ้าวเทียนเพิ่งกลับจากการไปเมืองหลวง เมื่อทราบข่าวก็ได้แต่ถอนใจ พอนึกถึงใบหน้าของหลินเยว่ก็พลันเข้าใจ หญิงงามเช่นนั้นบิดาย่อมต้องคิดมากหลูเจินฮูหยินเอกแห่งจวนแม่ทัพก็ส่งคนมาบอกความ“ในเมื่อแม่นางหลินขึ้นเกี้ยวไปเป็นเจ้าสาวของสกุลลู่แล้ว วิญญูชนเช่นพวกเราย่อมไม่อาจแย่งเจ้าสาวของผู้อื่นได้ ข้าจะมอบสินเดิมแก่นางแทนการรับเข้าจวน”เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวเทียนย่อมไม่เอ่ยค้าน ถือว่าตนเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วณ ริมถนนสายหนึ่ง ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวของตระกูลลู่กำลังเคลื่อนตัวผ่านไปนับว่าเอิกเกริกเหล่าชาวบ้านต่างออกมามุงดู พากันซุบซิบไม่ขาดสาย“เจ้าสาวคนนี้ใช่หรือไม่ที่เมื่อไม่กี่วันก่อนขึ้นเกี้ยวเข้าจวนนายอำเภอโจว”“ใช่แล้ว...คดีที่คนร้ายลอบสังหารนั่นไง ข้าก็ได้ยินมา”“เฮ้อ ได้ยินว่าเหตุเพราะคนร้ายหมายตานางไว้ โชคดีที่ทหารของตระกูลไป๋ผ่านมา นางจึงรอดมาได้”“แต่เหตุใดคุณชายลู่ถึงแต่งนางเป็นฮูหยินล่ะ?”“ได้ข่าวว่าเขาก็ผ่านมาเห็
ตอนที่ 8 เป็นเรื่องน่ายินดีในขณะนั้น หลิวเยว่ที่พักอยู่โรงเตี้ยมเซิ่งฟง ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ที่นี่นางได้รับการดูแลรับรองอย่างดี ทำให้นางยิ่งมั่นใจว่าเรื่องฆ่าคนครั้งนี้ นางรอดแล้ว ตอนนี้คงต้องรอให้ทหารผู้นั้นกลับมา สาวใช้เดินเข้ามา “คุณหนู มีสตรีผู้หนึ่งมาขอพบท่าน บอกว่าตนเป็นมารดาเจ้าค่ะ” หลินเยว่ที่กำลังนั่งจิบน้ำชาหันขวับ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีนางลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว “ข้าจะลงไปเดี๋ยวนี้”หลินเยว่แต่งกายด้วยอาภรณ์ใหม่ด้วยผ้าไหมราคาแพง ผมถูกรวบเป็นทรงเรียบง่าย มีปิ่นปักผมสีเงินแวววาวแต่ไม่ฉูดฉาด ชุดทั้งหมดดูสุภาพ เรียบสง่าเหมือนหญิงสาวจากจวนขุนนางสาวใช้ผู้หนึ่งเดินตามหลังอย่างสุภาพ ห่างออกไปไม่ไกลมีทหารสองนายของจวนแม่ทัพเดินคุ้มกันอยู่เมื่อหลินเยว่ปรากฏตัวที่หน้าห้องรับรอง ชุนเสวี่ยผู้เป็นมารดาที่เฝ้ารออยู่ถึงกับชะงัก ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากสั่นระริกลูกสาวของนาง… เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน“เจ้า… เยว่เอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”หญิงสาวผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนตอบด้วยเสียงนุ่ม“ท่านแม่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ”“แล้ว แล้ว...ทำไมเจ้าได้มาอยู่ท
ตระกูลลู่ เช้าตรู่ แสงแรกของวันยังไม่ทันเล็ดลอดพ้นยอดไม้ เสียงล้อที่บดผ่านลานหินกรวดในยามเงียบสงบ รถม้าหรูคันหนึ่งก็มาหยุดอยู่หน้าประตูใหญ่ของจวนสกุลลู่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อื้อฉาวในร้านอาหารหลงฮวา จวนสกุลลู่ก็ตกอยู่ในความเงียบเหงาไร้แขกเหรื่อมาเยือน ครานี้รถม้าคันงามมาหยุดอยู่หน้าบ้านพ่อค้าตกอับ ยิ่งดึงดูดสายตาของผู้คนฮูหยินลู่ก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในเรือน ไม่ออกไปพบปะใคร สีหน้าหม่นหมอง เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่า“คนจากจวนแม่ทัพไป๋เจ้าค่ะ” สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันทีมึนงง สับสน ไม่แน่ใจว่าฝันร้ายกำลังจะจบ หรือเพิ่งเริ่มต้นกันแน่“เจ้าว่าอะไรนะ?”นางถามซ้ำอีกครั้ง สีหน้าเคร่งเครียดบ่าวหญิงค้อมศีรษะต่ำ “เป็นคนจากจวนแม่ทัพไป๋มาเยือนเจ้าค่ะ ตอนนี้คุณชายใหญ่กำลังต้อนรับอยู่ห้องโถงรับแขกเจ้าค่ะ” “พวกเขามาด้วยเรื่องอะไร” น้ำเสียงของนางหวาดหวั่น“บ่าวก็ไม่ทราบ”ฮูหยินลู่รีบบอกสาวใช้ “รีบมาช่วยข้าแต่งตัวไปรับแขก” ที่เรือนรับแขกลู่เผยฟังคำพูดของอีกฝ่าย ก็เข้าใจนัยแฝงทันที ไป๋ฮูหยินต้องการให้สกุลลู่ส่งแม่สื่อไปสู่ขอหลินเยว่สตรีผู้นั้นคนที่เขาช่วยเหลือ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนจะช
หลินเยว่ก้าวขึ้นมานั่งด้วยท่าทีประหม่า สายตาเธอไม่กล้าสบชายหนุ่มตรงหน้าโดยตรงนัก ภายในรถม้าอบอุ่นด้วยกลิ่นชาจาง ๆ และเสียงล้อที่กลิ้งไปบนเส้นทางดินกรัง ลู่เผยยื่นถ้วยชาหอมกรุ่นมาตรงหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม “คุณหนูหลินคงตกใจไม่น้อย ดื่มชาสักหน่อยเถิด จะช่วยให้จิตใจสงบขึ้น”หลินเยว่รับถ้วยมาด้วยสองมือ เอ่ยเบา ๆ“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ตอนนี้เหมือนจะผิดแผนนางค่อนข้างตกใจอยู่บ้างจริงๆ ชาที่อุ่นกรุ่นปล่อยกลิ่นหอมจาง ๆ แตะจมูก รสขมนิด ๆ ปลายลิ้นช่วยให้นางสงบใจได้บ้าง พอเริ่มได้ไตร่ตรอง“บุรุษผู้นี้ดูไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งกิริยาและวาจาล้วนสำรวมสุภาพ… แต่นั่นแหละยิ่งอันตราย...เขาช่วยข้าเพราะอะไรกัน ต้องเกี่ยวกับทหารเมื่อสักครู่แน่ ๆ และคนเหล่านั้นก็น่าจะเกี่ยวข้องกับบิดา”หญิงสาวก้มหน้าดื่มชาอีกคำแสดงท่าทีไม่อยากเอ่ยอะไรลู่เผยเองก็เข้าใจไม่เอ่ยวาจาอีก เพียงแค่ขมวดคิ้วเพราะกลิ่นจากหญิงสาวเป็นกลิ่นที่เขาไม่แน่ใจว่าคือสิ่งใดรถม้าเคลื่อนตัวอย่างมั่นคงบนเส้นทางสายเล็ก มุ่งหน้าสู่โรงเตี้ยมเซิ่งฟง ขณะฟ้ายามย่ำเย็นเริ่มคลี่เงาเทาทับลงมาทีละน้อยโรงเตี้ยมเซิ่งฟง ลู่เผยพา
ตอนที่ 6 ยุ่งยากอีกขั้นเสียงฝีเท้าม้าหยุดลงตรงจุดที่กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งในอากาศ จ้าวเทียนควบม้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว เบื้องหน้าคือร่างไร้ลมหายใจห้าร่างกระจัดกระจายอยู่ในพงหญ้า ท่ามกลางร่องรอยการต่อสู้ที่ยังใหม่สดเขากระโดดลงจากหลังม้า ก่อนกวาดตามองโดยรอบอย่างชำนาญ“ตรวจสอบให้ละเอียด” เสียงสั่งเด็ดขาดดังขึ้น ทหารติดตามแยกย้ายกันตรวจสอบ จ้าวเทียนเข้ามาดูศพอย่างละเอียด ทหารที่กำลังตรวจบาดแผลกล่าวขึ้น“ใต้เท้า...ร่องรอยอาวุธลับเช่นนี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนขอรับ...ผู้ใช้ต้องเป็นคนที่กำลังภายในสูงผู้หนึ่ง...จึงจะสามารถดันมันเข้ามาในร่างกายแบบนี้ได้”กระสุนปืนเป็นเหล็ก ย่อมเป็นของผิดแปลกสถานที่มันเลยหายไปเรียบร้อยแล้วพวกเขาเห็นเพียงร่องรอยที่ร่างกายถูกเจาะเป็นรู“ใต้เท้าจ้าว...มีร่องรอยคนหนีไปทางนั้นขอรับ”จ้าวเทียนพยักหน้าก่อนออกคำสั่ง “เก็บรายละเอียดให้หมด”แล้วเขาก็ควบม้าตามรอยอย่างรวดเร็วส่วนหลินเยว่วิ่งออกไปยังถนน ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเปื้อนและเลือด ทว่าใบหน้างดงามยังคงแฝงความเด็ดเดี่ยวทว่าพอคนรถม้าคันหนึ่งกำลังเคลื่อนมา สีหน้านางก็ปรับเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกคนขับรถม้า เห็นร่างของหญิงสาว
ตอนที่ 5 เรียกความสนใจชายแดนตะวันออก ค่ายทหารแคว้นเยี่ยวโจว แม่ทัพใหญ่ ไป๋เจี้ยน ฟื้นคืนสติจากอาการบาดเจ็บกลางสมรภูมิ ความเจ็บปวดในกายยังแล่นอยู่ แต่สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือผู้ใต้บังคับบัญชาที่รับดาบและปกป้องเขา เขาเอ่ยเสียงแหบแผ่ว “หลิวอัน…ตอนนี้เป็นเช่นไรบ้าง…”ทหารรับใช้ขานตอบเสียงเรียบ “นายกองหลิวอัน… ได้ทำหน้าที่ของตนสมบูรณ์แล้วขอรับ…”ไป๋เจี้ยนหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “เขาได้ฝากข้า…ให้ช่วยดูแลครอบครัว…ขอให้ข้ารับบุตรสาวของเขาเข้าจวน…”ตอบแทนบุญช่วยชีวิตนี่ไม่นับว่าหนักเกินไป “อายุข้ามากแล้ว… หากรับนางเป็นอนุ คงเป็นเวรกรรมเสียมากกว่า…ทว่าข้ารับปากไปแล้ว”ไป๋เจี้ยนหันไปมองบุตรชายของตน“ไป๋จิ้งหาน... เจ้าก็รับนางเป็นอนุเถิด”ไป๋จิ้งหานรองแม่ทัพหนุ่ม หน้าตาคมคาย เขาพยักหน้ารับคำอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ ชายหนุ่มยกมือประสานรับคำสั่ง“ขอรับ…ข้าจะรีบให้คนไปจัดการ” ชายหนุ่มหันไปพยักหน้าให้ทหารคนสนิท จากนั้นพวกเขาก็จัดคนเตรียมไปรับคนไปไว้ที่จวนในเมืองหลวงเจียงหนิงในยามดึกสงัด หลังจากทุกคนหลับสนิท หลินเยว่ค่อยก้าวเท้าเบาออกจากเรือนขึ้นไปนั่งบนหลังค
ความคิดเห็น