เข้าสู่ระบบในเกมนี้ เขาคือผู้ล่า เธอคือเหยื่อ แต่สุดท้ายกลับเป็นเขาที่คลานเข้ามาขอให้เธอรัก!
ดูเพิ่มเติมบทที่ 1
ราชินีนางร้าย
แชะ! แชะ! แชะ!
แสงแฟลชจากกล้องดังระรัว ท่ามกลางสปร์ตไลฟ์สีทองสว่างหญิงสาวเดินผ่านพรมแดงเข้ามายังลานด้านหน้าของงานเลี้ยงหรูหราที่โรมแรมชื่อดังในนิวยอร์ก ผิวขาวอมชมพูตัดกับชุดสีแดงเลือดนกรัดรูปยาวแหวกข้างจนเห็นขาเนียนขาว ที่คองามระหงประดับด้วยเครื่องเพชรน้ำงามสุดหรูหรา ใบหน้าเรียวยาวคมสวยรับดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล จมูกโด่งได้รูปตัดกับริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด เธอจิกสายตาไปในกล้อองรอบตัวบรรยากาศถูกสะกดทันทีที่หญิงสาวเดินเข้ามาในงาน
“อลิเซีย วาเรนไทน์”
ราชินีนางร้ายแห่งวงการสังคมและชีวิตจริง ผู้หญิงที่ไม่มีใครกล้าตอแย เธอเป็นที่รู้จักในนามสวยสังหาร ผู้หญิงที่สามารถทำอะไรได้มากจนผู้ชายทั้งหลายต่างหวาดกลัว เธอกำลังยืนโพสท่าอยู่ที่หน้าโพเดี่ยม ยิ้มหวานราวกับน้ำผึ้งเคลือบยาพิษ ต่อหน้าผู้สื่อข่าวและแขกผู้มีเกียรติ
...จนกระทั่งเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนกระชากบรรยากาศที่ทรงพลังนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ
“บอกทุกคนไปสิ! ว่าเธอไม่ใช่ อลิเซีย วาเรนไทน์ ราชินี่นางร้ายของวงการอีกแล้ว เธอคือ อลิเซีย คลาสโต และฉันคือผัวในนามที่เธอแอบแต่งด้วยเมื่อ 3 วันก่อน!!!”
ฝีเท้าหนักก้าวเข้ามาที่หน้าโพเดี่ยม ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเข้มเข้ารูป แววตาเย็นเฉียบแต่กลับฉายแววยิ้มเยาะชัดเจน ใบหน้าคมเข้มดุดันแต่กลับหล่อเหลาราวกับรูปปั้น จมูกโด่งๆ รับกับริมฝีปากบางที่แสยะยิ้มถูกใจในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า
“ดานเต้! หุบปากซ๊ะ” อลิเซียเอ่ยเสียงเย็น ในขณะที่ตากล้องและแขกผู้มีเกียรติต่างทำสีหน้าตกใจและหันไปสนใจกับประโยคที่ดานเต้พูดเมื่อสักครู่
“ทำไมล่ะที่รัก...นี่คือความจริง” ชายหนุ่มตอบน้ำเสียงยิ้มเยาะพลางเอื้อมมือหยิบแชมเปญจากถาด เขาเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ นั่งไขว่ห้างพลางยกมือขึ้นกระดิกนิ้วเรียกเธอ อลิเซียชะงัก แต่เพียงเสี้ยวนาทีเธอเงยหน้าขึ้น ยิ้มอย่างนางร้ายและสบตาเขาตรงๆ
“คุณกำลังทำให้ตัวเองดูไร้มารยาทนะคะดานเต้” เธอปรายตามองเขาอีกครั้ง
“come on lady…อำลาตำแหน่งราชินีนางร้ายในวันนี้ซ๊ะ” เขายกแชมเปญขึ้นและหัวเราะอย่างสะใจ
“ไม่มีใครมีสิทธิ์มาลากฉันลงจากบังลังก์...ยกเว้นฉันเลือกจะกระโดดเอง!!!”
“งั้นก็กระโดดสิ...” อลิเซียขบกรามแน่นด้วยความโมโห เธอหันมองรอบตัว
เสียงในห้องจัดเลี้ยงดังสนั่นไปด้วยคำถาม กล้องทุกตัวในงานถ่ายภาพอลิเซียและดานเต้สลับกันไปมา จนลิลลี่ ผู้จัดการส่วนตัวของหญิงสาวรีบวิ่งมาจากด้านข้างเวทีพร้อมผ้าคลุมปิดหน้าและพาเธอผ่าฝูงชนออกไปอย่างยากลำบาก เสียงของนักข่าวดังแว่วมาจากด้านหลังด้วยคำถามถึงสถานะความสัมพันธ์ของหญิงสาวและชายหนุ่มชื่อดังแห่งวงการมาเฟีย
“คุณโอเคมั้ย...อลิเซีย” เสียงของลิลลี่ปลุกเธอจากภวังค์ เธอนั่งกำมือแน่นอยู่ในรถลีมูซีนหลังจากที่ออกมาจากโรงแรม ใบหน้าเรียบนิ่งแต่กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ยากจะเอ่ย
“พาฉันกลับบ้าน...” อลิเซียหันมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาเหม่อลอยไร้ทิศทาง
ราชินี...ถูกกระชากลงจากบัลลังก์ในคืนเดียว และทั้งเมืองได้รู้แล้วว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สูงส่งไร้เทียมทานอีกต่อไป แต่เป็นเมียของมาเฟียผู้ไร้หัวใจ ที่ผู้คนต่างสาปแช่งในความร้ายกาจของชายผู้นั้น
ลีมูซีนสีดำสนิทจอดลงที่หน้าปราสาทวาเลนไทน์ทาวน์ ที่ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยของหญิงสาวมาตั้งแต่เล็ก อลิเซียโตขึ้นในปราสาทหลังใหญ่ ใช้ชีวิตราวกับเจ้าหญิงในนิยาย เธอมีทุกอย่างที่ต้องการจนวินาทีนี้ที่ทุกๆ อย่างกำลังสิ้นสุดลงเพราะความไม่เอาไหนของพ่อเลี้ยงของเธอ
“เก็บของเสร็จรึยัง...” เสียงของเดล พ่อเลี้ยงของเธอดังขึ้นในห้องโถ่ง อลิเซียถอดรองเท้าส้นสูง ชายแก่ก็รีบเดินออกมาหาเธอทันที
“กลับมาแล้วเหรอ...นายท่านรออยู่ด้านใน”
“ฉันจะขึ้นห้อง!” เธอประกาศแกมตวาดจนพ่อเลี้ยงของเธอสะดุ้ง อลิเซียเงยหน้าขึ้นมองระเบียงห้องโถง ร่างสูงจับราวระเบียงยืนมองเธอด้วยใบหน้าแสยะยิ้มพลางหยิบซิก้าในกระเป๋าขึ้นมาดูด
“อย่าขัดใจนายท่านสิอลิเซีย พวกเราจะซวยกันหมด”
“หุบปากเดล...ที่ฉันต้องมีสภาพแบบนี้ไม่ใช่เพราะคนไร้สมอง โง่เง่าแบบยูเหรอ!” อลิเซียจิกสายตาใส่เดล เสียงตวาดกร้าวของเธอ ทำร่างสูงบนระเบียงบ้านหัวเราะเสียงร่า
“จุ๊ๆ ใจเย็นๆ สิดาลิ้ง อย่ามีอารมณ์ให้เสียงานเสียการ”
“อย่ามาสั่งฉัน! เก่งสุดคุณก็ได้แค่นี้ล่ะดานเต้”
“แค่นี้เหรอ ฮ่าๆ ที่รัก...แค่นี้ก็ทั้งชีวิตของเธอแล้วที่กำลังจะพัง” เขาพ่นควันออกมา แววตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวเขม่น อลิเซียเดินชนไหล่เดลพลางก้าวเท้าขึ้นบันไดหินอ่อนเงาวับ ร่างบางเดินขึ้นมาประจันหน้ากับดานเต้ ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อจะจับตบหน้าเขา แต่มือหนาคว้าไว้ได้ทัน มืออีกข้างบีบคอบางเล็กหลวมๆ และกระชากร่างบางเข้ามาใกล้อกกว้าง ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจที่กรุ่นไปด้วยซิก้าหวานๆ
“คิดดีๆ นะอลิเซีย เธอจะได้ตบฉันอย่างที่เธอตั้งใจแน่ แต่แม่ของเธอ...อาจจะต้องนอนโคม่าในโรงพยาบาลตลอดไป” เสียงของเขาเบาคล้ายกระซิบแต่หนักอึ้งในใจเธอราวกับก้อนหินก้อนใหญ่ อลิเซียกำมือจนห้อเลือด เม้มริมฝีปากอวบอิ่มแน่นจนรับรู้ถึงรสเลือด เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางกระชากมือออกจากเขา
“ทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้ตลอดไปดานเต้...จำไว้ว่าฉันจะกลับมาทวงบัลลังก์ของฉันคืน” เธอกัดฟันแน่นจนเห็นกราม
“แน่นอนเบบี๋...แต่หลังจากที่เธอชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้ซ๊ะก่อน” เขาผละออกจากเธอ ใบหน้าคมเข้ายิ้มเยาะอย่างได้ใจ
“แม่ฉันเป็นยังไงบ้าง....”
“คำถามนี้...ไว้ตอบบนเตียงดีกว่านะที่รัก ฮ่าๆ” ดานเต้หัวเราะพลางเดินไปยังห้องของอลิเซีย หญิงสาวทำสีหน้าหนักใจมากที่ถูกล้ำเส้นเข้ามาในพื้นที่ของตัวเอง เธอพยายามตั้งสติและเดินตามเขาไปยังห้องนอนของเธอ
เบื้องหน้าห้องนอนสไตล์วินเทจหรูหรา ผนังสีขาวถูกตกแต่งด้วยแนวยุโรปผสานกับกระเบื้องหินอ่อนสีขาวนวลราวกับไข่มุก ผ้าม่านสีทองกวัดแกว่งไปมาตามแรงลม ดานเต้นั่งลงบนเตียงเจ้าหญิงมองเหม่อออกไปยังระเบียงที่มืดทึบ สีหน้าคมเข้มเรียบเฉยไร้ความรู้สึกทำให้อลิเซียเสียวสันหลังวาบ
“จีน คุยกับอลิเซียสิ...” เขาต่อสายถึงจีนคนดูแลแม่ของอลิเซีบพลางยื่นมือถือให้เธอ อลิเซียรีบเข้ามารับ
“อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่ยังไม่ฟื้นเลย...คุณหมอคาดว่าจะฟื้นในอีก 2-3 วันค่ะ”
“ขอบคุณค่ะจีน...ฝากคุณแม่ฉันด้วย” เสียงของอลิเซียสั่นเครือ
“แน่นอนค่ะ ฉันขอไปวัดความดันต่อนะคะ” อลิเซ๊ยยื่นมือถือคืนให้ดานเต้ด้วยแววตาที่เจือน้ำตา
“ขอบคุณดานเต้ที่คุณยัง...ยอมช่วยรักษาแม่ฉัน”
“ก็แค่มันอยู่ในข้อตกลง อย่าเพิ่งอ่อนแอไป...เกมนี้เพิ่งเริ่มนะที่รัก” ตานเด้เอื้อมมือหนากระชากร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมอก ใกล้จนได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่ติดอยู่ตามเสื้อของสูทของเขา อลิเซียเบี่ยงหน้าหนีใช้สองมือดันอกกว้างไว้เพื่อสร้างระยะห่าง
“ใช่ เกมนี้เพิ่งเริ่ม...อย่าด่วนบุ่มบ่ามเลยค่ะ เดี๋ยวคนเขาจะคิดว่า มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ หลงติดกับนางร้ายอย่างฉันจนถอนตัวไม่ขึ้น!” คำพูดของเธอคือไฟ ที่ปลุกแววตานิ่งเรียบนั้นลุกโชนขึ้นด้วยการอยากเอาชนะ
ร่างสูงกระชากร่างเธอลงบนเตียง อลิเซียหัวเราะเบาๆ ริมฝีปากแดงยกยิ้มร้ายกาจ แม้ถูกตรึงมือไว้แน่น เธอก็ไม่แสดงท่าทีกลัวเกรงเขาสักนิด ดานเต้ซุกไซ้ใบหน้าและริมฝีปากหยาบกระแทกลงบนเรียวปากเธออย่างรุนแรงจนเสียงครางต่ำหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอพยายามผลักเขาออกแต่ยิ่งต่อต้าน เขาก็ยิ่งบดจูบหนักหน่วงมากขึ้น มือหนาเลื่อนไปตามสรีระโค้งเว้า เขาถลกกระโปรงขึ้นพลางเลื่อนมือลูบไล้เรียวขาเนียนขาว มือหนาแยกขาของเธอออกช้าๆ ก่อนจะแทรกนิ้วแข็งแตะสัมผัสปากทางร่องรักที่ชุ่มฉ่ำ หมุนวนบดที่จุดกระสันช้าๆ และรัวถี่ขึ้นจนหญิงสาวครางเสียงหลง เขารัวกระหน่ำนิ้วแข็งเข้าที่ช่องรักระรัวจนปากทางรักแฉะชุ่ม ร่างเล็กเกร็งกระตุกเบาๆ ในขณะที่ปากทางรักขมิบถี่ ตอดรัดนิ้วเรียวนั้นถี่รัว
“ซี๊ดดด...อ่า...”
“จำไว้อลิเซีย...” เขากระซิบแผ่วเบาระหว่างที่ปากยังไล่จูบอย่างหิวกระหาย มืออีกข้างรัดคอบางไว้แน่นเมื่อให้เธอมองลึกเข้าไปในแววตาดุดันของเขา
“เกมนี้เพิ่งเริ่มต้น...ฉันจะเป็นคนกระชากทุกอย่างในชีวิตเธอให้ลงมาอยู่ใต้เท้าตระกูลคลาสโตของฉัน จ้องมองบัลลังก์ที่เธอเคยครองไว้ให้ดีๆ อลิเซียเพราะฉันนี่ล่ะที่จะพังมันลงด้วยตัวของฉันเอง” เธอหอบแรง ดวงตาคมสวยตวัดมองกลับรอยยิ้มที่เหมือนปีศาจของชายหนุ่ม ในขณะที่เขาหัวเราะเสียงต่ำ ลุกขึ้นจัดสูงเข้าที่และเดินออกจากห้องไป
อลิเซียนอนนิ่งอยู่บนเตียง ดวงตาคมสวยมองจ้องเพดานห้องนิ่งแม้นางร้ายอย่างเธอจะเคยคุมเกมได้ทุกเกม แต่กับดานเต้ คลาสโต ปีศาจในเงามืดของโลกใต้ดินเป็นบุคคลที่เธอไม่ควรข้องแวะมากที่สุด แต่สุดท้ายโชคชะตาก็กลับพาให้เธอมาพบเจอกับเขา ในฐานะคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต
บทที่ 15ตัวแปรของเกมลวง อลิเซียเดินนำดานเต้เข้าไปในงานเลี้ยง หญิงสาวจ้องมองดูทุกอย่างในงานถูกจัดเตรียมไว้อย่างงดงามและหรูหราที่สุด เว้นเพียงตำแหน่งวางเค้กวันเกิดก้อนมหึมาที่จัดเตรียมไว้บัดนี้ยังคงว่างเปล่า เทียน่าเดินหน้าเครียดมายังหญิงสาว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกดดันที่ล้นอก “เสียงดังอะไรกันเทียน่า...” ดานเต้รีบเอ่ยถามทันทีที่ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ “ทีมงานของเมียพี่ทำงานกันยังไง ป่านนี้เค้กวันเกิดแม่ยังมาไม่ถึงg]p!” เสียงเธอแกมตะหวาด เทียน่าหันควับไปทางอลิเซียและฝาแฝด จนดานเต้ต้องเดินเข้ามายืนตรงกลางระหว่างน้องสาวและภรรยาของเขา “หมายความว่ายังไงลิลลี่ ไลล่า?”&nbs
บทที่14ทำตามเสียงหัวใจ อลิเซียเดินลงจากรถเข้าสู่ปราสาทลาเซลเวอร่าอย่างรีบร้อน เมื่อเดินทางห้องจัดเลี้ยงก็กุลีกุจอเดินหยิบโน่นจัดนี่ตามแบบใน แพลนงานเลี้ยงที่ดานเต้ให้ข้อมูลไว้ทุกโต๊ะถูกจัดวางด้วยกุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง ดอกไม้ทองคำที่ถูกสั่งทำพิเศษเฉพาะงานนี้ด้วยช่างฝีมือที่ประณีตที่สุดของอิตาลี ผ้าปูโต๊ะมันวาวสีงาช้างปักดิ้นทองจับแสงไฟในห้องจนดูหรูหราที่สุด ไวน์แดงระดับแรร์วินเทจถูกจัดเตรียมประดับประดาไว้ที่บาร์วีไอพีอย่างสวยงาม “อลิเซีย วาเลนไทน์!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางหน้าห้อง หญิงสาวหันกลับไปมองตามเสียงก็พบร่างบางในชุดเดรสสีทองสง่าเดินกรุยกรายเข้ามาจากทางหน้าห้อง “ลิลลี่
บทที่ 13สัมผัสของใจ “รู้มั้ย...เมียที่ดื้อด้านต้องเจออะไร!” ดานเต้เอ่ยเสียงแข็งพลางรั้งต้นคางเธอไว้เมื่อเธอพยายามเบี่ยงหน้าหนี สัมผัสของจูบที่รุนแรงจนริมฝีปากบางของหญิงสาวแดงระเรื่อ ริมฝีปากของเธอกำลังจะขยับคล้ายจะเอ่ยคำแต่ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร ดานเต้สอดแทรกลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปทักทาย ลิ้นหนาถาโถมเข้ามาจนจนอลิเซ๊ยเผลอปล่อยเสียงครางเบาๆ เขากดลงเธอลงกับที่นอน ฝ่ามือร้อนลูบไล้เรือนร่างบางอย่างเร่าร้อน ชุดเดรสถูกถลกขึ้นจนเห็นเรียวขานวลเนียนขาว ดานเต้ใช้ริมฝีปากปรโคมรอยจูบอุ่นลงตามซอกคอบาง มืออีกข้างรั้งสายชุดเดรสลงมาจนเห็นอกฟูเต่งตึงเขาขยำยอดอกขาวนั้นอย่างเมามือริมฝีปากดูดบดอยู่ที่ยอดอกเนียนขาว อลิเซียครางออกมาไม่เป็นภาษา “ดานเต้...ฉันเสียว อ๊า...” เธอพยายามจะรั้งชุดให้กลับเข้าที่แต่ก็ถูกมือหนารวบมือสองข้า
บทที่ 12ราตรีแห่งอดีต ห้องนอนหรูในคฤหาสถ์เลคโคโมเงียบสงัด มีเพียงเสียงนาฬิกาไม้โบราณที่ดังแผ่วเบาบอกช่วงเวลาที่หมุนผ่านไป แสงโคมไฟอุ่นนวลส่องจับร่างบางที่นอนซมไข้อยู่บนเตียง ผมสีน้ำตาลสลวยชื้นด้วยเหงื่อ ริมฝีปากซีดสั่นกอดร่างตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มหนา ดานเต้ที่นั่งเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง ขมวดคิ้วแน่นเอื้อมมือหนาเช็ดตัวหญิงสาวเบาๆ ด้วยผ้าเปียกเพื่อลดไข้ “...แม่...พ่อ...อย่าทิ้งหนู...” เสียงเพ้อเบาๆ หลุดออกมาพร้อมเสียงสะอื้นแม้ดวงตาจะหลับพริ้ม ใจของร่างสูงสะท้านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มือใหญ่เอื้อมไปรั้งมือบางมาจับไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยเฉยชาบัดนี้เจือเอ่อไปด้วยความห่วงใยที่เขาก็ยากจะเชื่อตัวเอง เขาลุกขึ้นและนั่งลงบนเตียงนอนข้างๆ หญิงสาว แต่แล้วอลิเซียกลับคว้าแขนเขาไว้แน่นและเข้าสวมกอดร่างใหญ่ที่ใต้ผ้าห่มหนานั้
บทที่ 10กลิ่นอายของรสไวน์เก่า โต๊ะดินเนอร์ยาวถูกจัดเตรียมไว้อย่างหรูหราภายในห้องอาหารริมเลคโคโม วิวทะเลสาบที่เงียบสงบแต่กลับแฝงไปด้วยความลึกลับเมื่อเงามืดแห่งราตรีพาดผ่าน บนโต๊ะอยู่ปูไว้ด้วยผ้าสีขาวงาช้างมันวาว เครื่องเงินวาววับสะท้อนรับกับแสงเทียนที่พริ้วไหวเบาๆ ทุกอย่างดูงดงามและสมบูรณ์แบบ แตกต่างจากบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่ตึงเครียดจนแทบหายใจไม่ออก อลิเซียนั่งอยู่ข้างดานเต้ ไหล่เธอตึงราวกับถูกตรึงไว้ด้วยโซ่ล่องหน ใบหน้าเรียบสนิทกำลังพยายามเก็บงำอารมณ์ทั้งหมดไว้ในใจ เบื้องหน้าตรงข้าวขงเธอคือ “วิเวียน เทโมลิน” หญิงสาวร่างเล็กผิวขาวเนียนละเอียดราวกับลูกคุณหนู เรือนผมสีทองกระทบแสงไฟมันวาวรับกับชุดกำมะหยี่สีชมพูดูสดใส ใบหน้าสวยหวานดูจิ้มลิ้มน่าทะนุถนอมนั้นอมยิ้มหวานเย็นอยู่ตลอดเวลา แต่สายตากลับคมกริบราวกับใบมีดโกนที่พร้อมจะกรีดทุกหัวใจ&nb
บทที่ 9คู่สัญญาแสนดี แสงประกายสีทองอร่ามฉาบเคลือบบนผืนทะเลสาบเลื่องชื่อ ลมพัดผ่านผิวทะเลาสาบราวกับหยอเย้ากันเล่น เรือส่วนตัวลำสีดำสนิทกำลังแล่นอยู่กลางทะเลสาบ เสียงของเกลียวคลื่นเล็กๆ กระทบกับลำเรือเป็นระลอกๆ อลิเซียยืนเกาะราวตรงหัวเรือแน่น รู้สึกถึงแรงลมปะทะผิวในทุกช่วงที่เรือแล่นผ่าน เสียงดนตรีแจ๊สดังแว่วมาจากกลางลำเรือ ปาร์ตี้เล็กๆ กับแอลกอฮอร์หลายรูปแบบวางเรียงรายอยู่ในห้องรับรองกลางลำเรือ ราฟาเอลและเพื่อนนักธุรกิจของเขาอีก 3 คนกำลังนั่งดื่มแชมเปญกันอยู่ด้วยความสนุกสนาน อลิเซียนั่งลงตรงที่นั่งหน้าลำเรือ สายตาเหม่อลอยไปยังท้องน้ำกว้างที่สวยและดูสะอาดตาราวกับภาพวาดในจินตนาการ เงาของร่างสูงสะท้อนลงบนพื้นของลำเรือจนอลิเซียต้องรีบหันไปมอง ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตดำเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ สายตาของเขาจับจ้องใบหน้าของอลิเซีย พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่น&nbs
ความคิดเห็น