เข้าสู่ระบบฮ่องเต้ผู้ดุดัน เย็นชา และน่าเกรงขามที่สุดในแผ่นดินกลับต้องสิ้นท่าให้กับหญิงสาวตัวเล็ก ๆผู้เอาแต่นอนหลับกลางวัน นางไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้มีกลอุบายใด ๆแต่กลับทำให้ฮ่องเต้ทรราชยอมอ่อนข้อให้ทั้งหัวใจ
ดูเพิ่มเติม"ให้ตายเถอะ นางร้ายเรื่องนี้จะมีชะตาชีวิตที่น่าอดสูเกินไปแล้ว ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะเพื่อเป็นลูกชังยังไม่พอ ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าของคนในจวนอยู่ตลอดเวลา ที่แย่ไปกว่านั้นนางยังมีจิตใจทะเยอะทะยานอยากจะเทียบเคียงกับบุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลเมิ่งอีกด้วย ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ
ฉันอ่านจนจบเล่มแล้ว รู้สึกสงสารตัวละครนี้ได้ไม่สุดจริงๆ มันทั้งสงสารและหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน ช่างเป็นนางร้ายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเลยสักอย่าง สุดท้ายแล้วนางก็ตายเพราะความทะเยอะทะยานของตนเอง ส่วนพระเอกที่เป็นท่านโหวก็ปากจัดด่านางร้ายสาดเสียเทเสีย นางเอกที่ชื่อเมิ่งลี่หรูผู้นั้นก็ทำตัวเหมือนแม่ดอกบัวขาวอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วพระเอกก็เลือกแต่งงานกับนางเอกได้ครองคู่กันไปชั่วชีวิต ตัวร้ายต่างพ่ายแพ้หมด ช่างเป็นนิยายเรื่องสั้นเพ้อฝันที่บอกเล่าเรื่องราวความรักลึกซึ้งของท่านโหวผู้เก่งกาจกับแม่ดอกบัวขาวคนงามโดยเฉพาะ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็กลายเป็นตัวประกอบเสริมบทให้พระนางรักกันหวานซึ้ง ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย
เห้อ หากฉันทะลุมิติไปอยู่ในร่างนางร้ายได้นะ ฉันจะทำให้หล่อนเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ ไม่ต้องมาปักใจรักผู้ชายที่ไม่ได้รักตัวเอง ไม่ต้องทะเยอะทะยานอยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่เงียบๆ การมีชีวิตอย่างสงบสุขก็คือความสุขอย่างถึงที่สุดแล้ว”
เอ่ยจบเมิ่งอ้ายเยว่ก็โยนนิยายเล่มนั้นเข้าไปกองรวมกับกองหนังสือที่เจ้าหล่อนเคยอ่านมาแล้วอย่างไม่ใส่ใจ นิยายเรื่องนี้เธอไม่มีทางหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำ
เหตุผลอีกประการที่เธอไม่คิดจะอ่านมันซ้ำก็คือ นางร้ายในเรื่องนี้ดันชื่อเหมือนกับเธอทุกตัวอักษร บัดซบจริงๆ! เธอไม่ได้นิสัยแย่เหมือนนางร้ายในนิยายผู้นั้นเลยสักนิด
เมิ่งอ้ายเยว่ทิ้งกายลงนอนบนเตียง แล้วจึงใช้แผ่นเจลเย็นมาวางประคบเอาไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง วันนี้เธออ่านนิยายนานไปหน่อยเลยรู้สึกปวดดวงตาขึ้นมาเสียดื้อๆ
เธอมีชื่อว่าเมิ่งอ้ายเยว่ ตอนนี้อายุยี่สิบห้าปีแล้ว สถานะยังไม่มีแฟน ยังไม่แต่งงาน มีอาชีพเป็นสาวออฟฟิศที่เข้างานเช้าออกงานดึก กินมาม่าประทังชีวิต ก่อนนอนก็มาร์คหน้านิดหน่อย อ่านนิยายฆ่าเวลาเล็กน้อย จากนั้นก็นอนหลบอุตุอยู่บนเตียง เก็บแรงเอาไว้เพื่อทำงานในเช้าวันต่อไป เธอมีความฝันว่าอยากจะมีแฟนที่่ร่ำรวยสักคน เขาถนอมเธอเหมือนไข่มุก ไม่ให้เธอทำงานอะไรเลย นอกจากกินๆ นอนๆ ตื่นสายได้ตามใจชอบ แต่ชีวิตจริงคงไม่มีหรอกผู้ชายแบบนี้ คงมีแต่ในนิยายเท่านั้นล่ะ เฮ้อ!
เมิ่งอ้ายเยว่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อมองไปยังนาฬิกาที่แขวนเอาไว้บนฝาผนังห้อง ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆ แล้ว วันนี้เธออ่านนิยายจนเพลินไปหน่อยจึงเผลอนอนดึก อย่างไรคงต้องรีบเข้านอนแล้ว ขอบตาจะได้ไม่ดำเป็นหมีแพนดาด้า
ว่าจบเมิ่งอ้ายเยว่ก็ปิดไฟเข้านอน แต่ทว่าเพิ่งจะหลับไปได้ครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก เธอขยับตัวพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงด้วยความทรมาน
ให้ตายเถอะ!หรือว่ากินขาหมูก่อนนอนเลยทำให้ท้องแน่นจุกเสียด
โอย!หายใจไม่ออก
เมิ่งอ้ายเยว่เปล่งเสียงร้องครวญครางออกมาแผ่วเบา ก่อนจะหมดสติไปในทันที
เมืองหลวงแคว้นเยี่ย
จวนตระกูลเมิ่ง
"คุณหนูเจ้าคะ ท่านรีบตื่นขึ้นมาล้างหน้าผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเถอะเจ้าค่ะ หากไปคารวะยามเช้าไม่ทัน ฮูหยินใหญ่ได้โมโหท่านอีกแน่!"
เสียงของสตรีน้อยนางหนึ่งที่เอ่ยอย่างร้อนลนอยู่ข้างหู ทำเอาเมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับย่นหว่างคิ้ว ใครกันที่มารบกวนเวลานอนอันแสนสุขของเธอ!
อยู่ๆ เมิ่งอ้ายเยว่ก็ลืมตาโพลงขึ้นมา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเช้านี้ตนเองมีประชุมในตอนเช้า หากไปสายนอกจากจะโดนหัวหน้าเล่นงานแล้ว อาจจะต้องระเห็จไปหางานใหม่ทำอีกด้วย!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงดีดกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ทว่ากลับเหลือบไปเห็นสตรีน้อยนางหนึ่งกำลังนั่งมองนางตาปริบๆ อยู่ข้างเตียงนอน สตรีน้อยผู้นี้หน้าตาน่ารัก ดูแล้วอายุน่าจะสิบสามสิบสี่ปีไม่เกินนี้ นางแต่งกายเหมือนสาวใช้ในซีรี่ย์จีนโบราณ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เป็นผ้าเนื้อหยาบ เด็กสาวถักเปียคู่สองข้างดูน่ารักยิ่ง เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับย่นหว่างคิ้วด้วยความสงสัย
ใครกันละเนี่ย? หรือว่าจะเป็นแม่บ้านคนใหม่ แต่หล่อนยังอายุน้อยอยู่เลยนี่นา หรือว่าจะเป็นลูกสาวป้าแม่บ้าน แล้วใส่ชุดจีนโบราณมาทำไมกัน เป็นนักคอสเพลย์เหรอ?
"น้องคะ น้องเข้ามาในห้องพี่ได้ยังไง หรือว่ามาช่วยคุณแม่ทำความสะอาดห้องนอนให้พี่ ชุดที่น้องใส่สวยดีนะคะ เป็นสาวคอสเพลย์เหรอ?"
สาวใช้น้อยนามว่า อาหมี่ เมื่อได้ยินเจ้านายตนเอ่ยถามด้วยภาษาประหลาดพิลึกกึกกือก็ถึงกับตื่นตระหนก หรือว่าเมื่อคืนนี้คุณหนูจะคับแค้นใจเพราะถูกเถียนฮูหยินเรียกไปตำหนิ จึงโมโหจนธาตุไฟเข้าแทรกและสติเพ้อพกไปเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าสาวน้อยตรงหน้าไม่ตอบคำถามอีกทั้งยังมองนางแปลกๆ เมิ่งอ้ายเยว่ก็เริ่มสงสัย นางใช้สายตากวาดมองไปทั่วห้อง แล้วจึงพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี่มันไม่ใช่ห้องฉันนี่!
แล้วฉันอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย?
เมิ่งอ้ายเยว่หันรีหันขวางแล้วจึงมองมาที่อาหมี่อีกหน
"น้องชื่ออะไรคะ?"
"คุณหนู ท่านเสียสติจนลืมแม้กระทั่งชื่อบ่าวแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวชื่ออาหมี่ เป็นสาวใช้ของคุณหนูอย่างไรเล่า!"
สาวใช้ ชื่ออาหมี่?
ชื่อที่แสนคุ้นเคยนี้ทำเอาเมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับชะงัก อาหมี่ที่เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงเจ้านายตนจับใจ
"คุณหนูใหญ่ ท่านรีบแต่งตัวแล้วไปคำนับเถียนฮูหยินเถอะเจ้าค่ะ หากชักช้าจะโดนดุเอาได้"
ชื่อตัวละครใหม่นามว่าเถียนฮูหยินทำเอาเมิ่งอ้ายเยว่เริ่มรู้สึกตะหงิดในใจขึ้นมา
"อาหมี่ เธอบอกฉันทีสิว่า ที่นี่คือที่ไหน?"
อาหมี่แม้จะงุนงงอย่างหนัก แต่ก็ยังตอบคำถามเจ้านายอย่างนอบน้อม
"เรียนคุณหนู ที่ี่นี่คือจวนตระกูลเมิ่ง ใต้เท้าเมิ่งของพวกเรารั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง มีเถียนฮูหยินเป็นภรรยาเอก นางมาจากตระกูลบัณฑิตที่มีชื่อ ส่วนท่าน เอ่อ ท่านก็คือคุณหนูใหญ่เมิ่งอ้ายเยว่ที่เถียนฮูหยินรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่แบเบาะ ยามนั้นเถียนฮูหยินยังไม่มีบุตร ไต้ซือได้ทำนายทายทักว่าให้นำเด็กหญิงที่มีวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตามที่ไต้ซือทำนายมาเลี้ยงเอาไว้ข้างกายเป็นบุตรบุญธรรม แล้วจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้ เถียนฮูหยินจึงสืบเสาะหาเด็กสาวที่ตนต้องการ จนได้พบกับท่านที่นอกเมืองหลวง ซึ่งท่านมีวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตรงตามที่ไต้ซือทำนายพอดี
เถียนฮูหยินจึงซื้อตัวท่านจากครอบครัวชาวนายากจนครอบครัวหนึ่งมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ไม่นานเถียนฮูหยินก็ให้กำเนิดคุณชายใหญ่เมิ่งซาน อีกไม่กี่ปีหลังจากนั้นก็ให้กำเนิดคุณหนูรองเมิ่งลี่หรู เถียนฮูหยินไม่ได้ปิดบังผู้คนในเมืองหลวงเรื่องที่รับตัวท่านมาเลี้ยง อีกทั้งยังบอกกับทุกคนว่าเห็นท่านแล้วถูกชะตาจึงรับมาเลี้ยงดูเหมือนบุตรในอุทร แต่ทว่าบ่าวไม่ทราบนะเจ้าคะว่าครอบครัวเดิมของท่านยามนี้เป็นเช่นไรบ้าง เพราะเถียนฮูหยินไม่ได้บอกเล่ารายละเอียดใดไปมากกว่านี้อีก เอ่อ คุณหนูใหญ่อย่าลงโทษบ่าวเลยนะเจ้าคะ บ่าวก็จำมาจากที่คนในจวนเขาเล่าต่อๆ กันมาน่ะเจ้าค่ะ!"
อาหมี่เอ่ยจบก็นั่งตัวสั่นงันงก ก่อนหน้านี้มีหญิงรับใช้คนหนึ่งทำเมิ่งอ้ายเยว่โมโหจึงถูกเมิ่งอ้ายเยว่ลงโทษโบยจนตาย นางจึงเข้ามารับหน้าที่สาวใช้คนใหม่แทน แต่ไหนแต่ไรสิ่งที่เจ้านายของนางเกลียดที่สุดคือการถูกผู้อื่นขุดคุ้ยเรื่องชาติกำเนิดของตน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่ แต่กลับเป็นเพียงบุตรบุญธรรม ไม่อาจเทียบเคียงบุตรสาวสายตรงของตระกูลเมิ่งได้ ทุกครั้งที่สาวใช้คนใดเอ่ยถึงเรื่องนี้ เมิ่งอ้ายเยว่จะโมโหเป็นอย่างมาก
เมิ่งอ้ายเยว่เมื่อฟังที่อาหมี่เล่าจนจบก็เหมือนวิญญาณหลุดออกมาจากร่างกลายเป็นศพนั่งเหม่อไปเสียแล้ว
เวรกรรมจริงๆ เพิ่งจะด่านางร้ายคนนี้ไปหยกๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าตัวนางได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายชะตาบัดซบผู้นี้เรียบร้อยแล้ว!
ให้ตายเถอะ สวรรค์! ให้นางทะลุมิติมาทั้งที เหตุใดไม่ให้ไปอยู่ในร่างคุณหนูผู้แสนร่ำรวยเล่า ให้มาอยู่ในร่างของนางร้ายชะตาอาภัพผู้นี้ทำไมกัน บัดซบ!
หลังจากพิธีฉลองการอภิเษกสมรสผ่านพ้นไปแล้ว ทุกคนก็กลับไปใช้ชีวิตเฉกเช่นปกติตามเดิม หลังจากที่ซือหม่าอี้เฉินแต่งงานกับอวี๋อ้ายเยว่ได้ไม่นาน ซือหม่าตงและอวี๋ลู่เหลียนก็เข้าพิธีแต่งงานกันทันที หลังจากผ่านงานแต่งงานมาแล้วคนทั้งสองก็เดินทางเข้าวังหลวงมาเพื่อสนทนาพูดคุยกับซือหม่าอี้เฉินและอวี๋อ้ายเยว่อวี๋อ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนนั้นนั่งสนทนากันกันอยู่อีกมุมหนึ่งของตำหนัก ส่วนซือหม่าอี้เฉินและซือหม่าตงก็นั่งสนทนากันอยู่ที่โต๊ะทรงอักษรไม่ไกลจากสตรีทั้งสองมากนัก"อาตงข้าจะมอบตำแหน่งชินอ๋องให้กับเจ้า"ซือหม่าตงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับพ่นชาร้อนออกจากปากทันที เขาวางถ้วยชาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายตนอย่างหมดอาลัยตายอยาก"เสด็จพี่ ข้าไม่อยากเป็นชินอ๋องท่านก็รู้นี่ ข้าไม่อยากทำงานในราชสำนัก ข้าไม่อยากร่วมประชุมยามเช้า ข้าอยากอยู่แต่กับเมียข้า""ค่าจ้างเป็นชินอ๋องเดือนละหนึ่งพันตำลึง ไม่ต้องประชุมยามเช้า อยากไสหัวไปทำอันใดก็ไป เพียงแค่เป็นชินอ๋องหุ่นเชิดให้ข้าก็พอ ไม่เช่นนั้นคนนอกจะหาว่าข้าตระหนี่แม้กระทั่งตำแหน่งชินอ๋องที่ควรจะเป็นของน้องชาย ข้าไม่อยากถูกคนเอาข้าไปนินทาว่าไม่รักพี่รักน้อง"ซือห
เมื่อสงครามจบสิ้นลง บ้านเมืองก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง คนชั่วถูกปราบปรามจนสิ้นซากไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว เหล่าช่าวบ้านต่างกู่ร้องยินดีกันถ้วนหน้าซือหม่าอี้เฉินทิ้งทหารเอาไว้ที่ชายแดนทางทิศเหนือหลายหมื่นนายเพื่อคอยดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ส่วนราษฎรแคว้นฉีนั้นต่างยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาอย่างไม่มีข้อแม้ อีกทั้งยังบอกว่าซือหม่าอี้เฉินเปรียบเสมือนเทพเซียนมาโปรด ที่ช่วยสังหารฉีอ๋องจนตกตายไปได้ เพราะที่ผ่านมาฉีอ๋องเอาเปรียบราษฎรไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังทำชั่วเอาไว้มาก ที่ผ่านมาก็ปกครองบ้านเมืองด้วยความอำมหิต เมื่อฉีอ๋องตกตายไป พวกเขาก็ถือว่าได้หลุดพ้นจากนรกขุมนี้เสียทีเมิ่งอ้ายเยว่รู้สึกดีใจยิ่งนักที่สงครามครานี้จบลงด้วยการที่แคว้นเยี่ยเป็นฝ่ายกุมชัยชนะ เมฆหมอกดำได้ผ่านพ้นไปจนหมดสิ้นแล้ว ยามนี้ได้เวลาเริ่มต้นใหม่เสียทีเมื่อสะสางเรื่องที่ชายแดนจบสิ้น ซือหม่าอี้เฉินและเมิ่งอ้ายเยว่ก็เดินทางกลับเมืองหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงเขาก็ปูนบำเหน็จให้กับเหล่าขุนนางที่มีความดีความชอบอย่างสมเกียรติ ส่วนขุนนางที่ได้รับผลกระทบก็ได้รับการปลอบประโลมเช่นเดียวกัน ไป๋จิ่งหยวนและหลี่หรงได้รับการปูนบำเหน
กลางดึกเขาสั่งให้คนลอบไปเผาคลังเสบียงในค่ายทหารของฉีอ๋อง ทั้งค่ายพลันวุ่นวายขึ้นมาทันที ซือหม่าอี้เฉินจึงใช้โอกาศนี้ไปแย่งชิงตัวซือหม่าตงกลับมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ง่ายนัก กว่าจะแย่งตัวคนมาได้ ฉีอ๋องก็รู้ตัวเสียแล้ว และได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งออกมาจัดการกับซือหม่าอี้เฉิน ซือหม่าอี้เฉินรีบสั่งให้คนพาซือหม่าตงกลับเข้าชายแดนแคว้นเยี่ยโดยเร็วส่วนเขาและหลี่หรงก็รับมือกับทหารของฉีอ๋องเพื่อถ่วงเวลาให้น้องชายกลับเข้าเมืองไปได้อย่างปลอดภัยเมิ่งอ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนที่รออยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นว่าซือหม่าตงถูกช่วยกลับมาได้แล้วจึงสั่งให้คนตามท่านหมอมารักษาเขาทันที ด้านซือหม่าตงและหลี่หรงก็อาศัยโอกาสนี้โจมตีฉีอ๋องไม่หยุด ยามนี้ทหารของฉีอ๋องถูกสังหารไปไม่น้อย อีกทั้งคลังเสบียงก็มาถูกไฟเผา ฉีอ๋องจึงโกธรแค้นมาก และประกาศก้องว่าจะออกรบสังหารซือหม่าอี้เฉินและหลี่หรงด้วยตนเอง!ซือหม่าตงถูกพาตัวมารักษาโดยมีอวี๋ลู่เหลียนคอยจับมือเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซือหม่าตงแม้จะเจ็บหนักแต่ยังพอมีสติอยู่บ้าง เขาหันมามองอวี๋ลู่เหลียนและยิ้มให้นางอย่างอ่อนล้า"ลู่เหลียน""ข้าอยู่นี่แล้ว ฮึก เจ้าอย่าเพิ่งพูดอันใดให้มากความเลย
เมื่อมีเรื่องดี ย่อมต้องมีเรื่องร้ายตามมายามนี้ชายแดนทางเหนือกำลังเกิดสงครามประทุขึ้นอย่างหนัก ส่วนชายแดนทางใต้ก็มีคนของอู่อ๋องที่รอดชีวิตจากสงครามหลายปีก่อนกำลังก่อความไม่สงบหมายจะช่วงชิงชายแดนคืน ซือหม่าอี้เฉินที่แต่ไหนแต่ไรมักทำตัวตามสบายมาโดยตลอด กลับมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเรียกให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นเข้าร่วมประชุมอย่างเร่งด่วนมาหลายวันติดแล้ว แม่ทัพใหญ่หลี่และไป๋จิ่งหยวนแทบจะกินนอนอยู่ในวังหลวง หลังจากปรึกษาหารือกันอย่างดุเดือดในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเสียทีซือหม่าอี้เฉินเห็นชอบให้ไป๋จิ่งหยวนนำกำลังทหารหลายแสนนายไปทำสงครามที่ชายแดนทางทิศใต้ และปราบปรามสุนัขรับใช้ที่เหลืออยู่ของอู่อ๋องให้สิ้นซาก ไป๋จิ่งหยวนรับคำและเร่งระดมพลออกค้นหาทันทีว่ามีคนของอู่อ๋องหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ หากมีก็ให้สังหารทิ้งให้สิ้นซาก จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังชายแดนทางใต้อย่างรวดเร็วส่วนซือหม่าอี้เฉินและหลี่หรงเดินทางไปยังชายแดนทิเหนือเพื่อต่อสู่กับกองทัพของฉีอ๋อง วันที่พวกเขาออกเดินทางมีชาวบ้านมายืนส่งตลอดทางและอวยพรให้พวกเขากลับมาพร้อมชัยชนะส่วนเมิ่งอ้ายเยว่และอวี๋ลู่เหลียนก็ติดตามซือหม่าอี้เฉินไปด
"ฝ่าบาท บุญคุณครานี้กระหม่อมจะไม่มีวันลืมเลย"ซือหม่าอี้เฉินเข้ามาประคองราชครูอวี๋ให้ลุกขึ้น ก่อนจะเอ่ย“สำนึกบุญคุณก็ดี ตาแก่อวี๋ หากอยากตอบแทนบุญคุณข้า ก็ยกบุตรสาวเจ้าให้แต่งกับข้า เป็นอย่างไร ได้ข้าเป็นลูกเขย เจ้านี่ทำบุญมาดีจริงๆ”ราชครูอวี๋ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย"ฝ่าบาท เช่นนั้นกระหม่อมขอพาตัวบุตรสาวกลับจวนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากพานางไปทำความคุ้นเคยกับบ้านของนาง และกลับไปดูเรือนของแม่นาง แล้วกระหม่อมจะพานางกลับมาส่งให้ฝ่าบาท""ได้ ไปเถอะ คิดซะว่าชดเชยช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอหน้ากันมานาน""ขอบพระทัยฝ่าบาท"เมื่อซือหม่าอี้เฉินอนุญาต เมิ่งอ้ายเยว่จึงติดตามราชครูอวี๋กลับจวน ซือหม่าอี้เฉินเพียงยิ้มเล็กน้อย เดิมทีเขาอยากตามนางไปด้วย แต่คิดอีกทีเขาไม่ไปดีกว่า อย่างไรควรจะให้สองพ่อลูกได้ใช้เวลาร่วมกันจะดีกว่าราชครูอวี๋พาเมิ่งอ้ายเยว่มาที่จวนของตนทันที เมื่อเข้าจวนมาแล้วเมิ่งอ้ายเยว่ก็พบว่าการตกแต่งของจวนราชครูอวี๋ช่างงดงามมากนัก แต่เพราะนางอยู่ในวังจนเคยชิน เห็นความงดงามมามากนัก จึงไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นจนเกินงาม"เรือนนี้เป็นเรือนของแม่เจ้า พ่อปิดตายเอาไว้ไม่ให้คน
ท้ายที่สุดคนตระกูลเมิ่งก็ถูกประหารตกตายไปตามกัน ของมีค่าทั้งหมดถูกยึดเข้าท้องพระคลังหลวง ข้ารับใช้ถูกขายไปที่โรงขายทาส ความชั่วที่พวกเขาเคยกระทำถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน สร้างความเกลียดชังให้แก่เหล่าชาวบ้านไม่น้อยเลยวันที่พวกเขาถูกประหารเมิ่งอ้ายเยว่ไม่ได้ไปร่วมดูด้วย นางเพียงนอนหลับพักผ่อนอยู่ในตำหนักมังกรสวรรค์ โดยมีซือหม่าอี้เฉินนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆหลังจากจบสิ้นเรื่องของตระกูลเมิ่ง ก็มีเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนไปทั่วทั้งเมืองหลวงก่อนเดินทางไปชายแดนองค์รักษ์ลับที่ซือหม่าอี้เฉินส่งไปสืบเรื่องราวภูมิหลังของเมิ่งอ้ายเยว่เมื่อหลายเดือนก่อนก็กลับมารายงานงานผลลัพธ์ที่ได้แท้จริงแล้วเมิ่งอ้ายเยว่คือบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกของราชครูอวี๋ที่ถูกโจรป่าลักพาตัวไป คนของซือหม่าอี้เฉินสืบลึกลงไปอีกจนหาตัวสาวใช้ของอดีตฮูหยินนามว่าอาหลวนพบ ยามนี้นางเริ่มอายุมากแล้ว และยังแต่งงานกับชาวนาผู้หนึ่งและใช้ชีวิตอยู่ในชนบท นางบอกว่าตนเองและฮูหยินหนีตายไปด้วยกัน และยังเล่าความจริงทั้งหมดว่าย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ภรรยาเอกของราชครูอวี๋ถูกโจรป่าลักพาตัวไป ยามนั้นฮูหยินกำล
ความคิดเห็น