นางกลับมาเพื่อทวงทุกอย่างของนางคืน เด็กสาวไร้เดียงสาในวันวานจะไม่มีอีกต่อไป ทุกอย่างที่พวกท่านทำไว้กับข้า!! ข้าจะส่งมอบคืนให้พวกท่านเป็นร้อยเท่าพันทวี!!!
ดูเพิ่มเติมบทนำ
นางเป็นบุตรสาวพ่อค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วแคว้น ครอบครัวของนางรักใคร่กลมเกลียว บิดานางหรือก็มีเพียงมารดานางเพียงหนึ่ง ไร้ซึ่งอนุหรือบ่าวอุ่นเตียง
แต่ชะตาของนางต้องพลิกผันเมื่อมารดานางเสียชีวิต บิดากลับพาสตรีนางหนึ่งเข้าจวนหลังฝั่งศพมารดานางได้เพียงเจ็ดวัน สถานะของสตรีนางนั้นคือฮูหยินเอกคนใหม่ของบิดา
ซ้ำร้ายกว่านั้นนางยังมีบุตรสาวและบุตรชายอย่างละคน โดยทั้งสองมีอายุมากกว่านางหนึ่งปี เช่นนี้ไม่ได้แปลว่าบิดาลักลอบมีสตรีนางนั้นตั้งแต่ที่อยู่กับมารดานางหรือ
นางถูกคนทั้งสามรังแกสารพัด ทั้งทุบตี ให้อดข้าวและ ใช้งานราวกับบ่าวในจวน ยามคนพวกนั้นโกรธกริ้วหรือไม่พอใจใครมาก็มักจะมาลงที่นางเสมอ
บ่าวใพร่ในจวนไร้ซึ่งความเคารพนางจนสิ้น บางคนสงสารก็แอบช่วยเหลือนางในบางครั้ง แต่บางคนไม่สงสารแถมซ้ำเติม
เมื่อเห็นว่าบิดาไม่สนใจจึงรวมหัวกันกลั่นแกล้ง บ้างก็พูดจาดูถูกให้เจ็บช้ำน้ำใจ
ซ้ำร้ายกว่านั้นเมื่อคืนหนึ่งนางถูกพี่ชายต่างแม่คนนี้บุก เข้ามาย่ำยีนางถึงในห้อง และก็มีครั้งต่อ ๆ ไปเรื่อยมาจนนาง ตั้งท้อง บิดานางคาดคั้นเอาความกับนาง
แต่พอนางบอกความจริงไป กลับถูกผู้เป็นบิดาทำร้ายร่างกาย แถมยังต่อว่าว่านางเป็นสตรีแพศยา กล่าวหาพี่ชายตัวเองเพียงเพราะอิจฉา
สุดท้ายนางถูกส่งไปอยู่อารามบนเขา แต่เหมือนจะยังไม่สาแก่ใจคนเหล่านั้น เมื่อพวกเขาส่งคนมาคอยกลั่นแกล้งนางให้มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมากขึ้น
ต้องทำงานหนักแลกข้าวที่มีเพียงน้ำข้าวกับเมล็ดข้าวเพียงไม่กี่เม็ด สุดท้ายนางตกเลือดตายระหว่างคลอดลูก ภาพเหตุการณ์วันคืนที่เลวร้ายไหลวนเข้ามาฉายในหัวซ้ำไปมา
ชีวิตนางถูกพวกเขากลั่นแกล้งจนพบจุดจบคือความตาย ทั้งที่นางไม่เคยไปทำอะไรให้พวกเขาเลย แต่พวกเขากลับมีชีวิตที่แสนสุข
สตรีนางนั้นเป็นฮูหยินเอกที่บิดารัก เป็นนายหญิงที่ลูกน้องนับถือรักใคร่ บุตรสาวของนางได้แต่งกับคุณชายที่สอบจอหงวนได้ปีล่าสุด บุตรชายได้สืบทอดกิจการบิดา ทำการค้าได้กำไรเป็นสามเท่าจนบิดาภาคภูมิใจ
ช่างเป็นครอบครัวสุขสันต์เสียจริง ทั้งที่กิจการนี้เป็นของตระกูลฝั่งมารดานางแท้ ๆ นางคิดแล้วได้แต่แค้นใจ
หากมีโอกาสนางจะกลับไปทวงทุกอย่างที่เป็นของนางคืน แล้วตอบแทนความชั่วช้าของพวกเขาให้สาสม ให้พวกเขาเจ็บปวดทรมานมากกว่านางเป็นร้อยเท่าพันทวี
เหมือนฟ้าจะฟังคำตัดพ้อและสงสารโชคชะตาของนาง เมื่อนางตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเช้าวันที่มารดานางจากไป แววตาที่เคยสดใสของนางเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น
บทที่ 1
หวนคืน
ซูฮุ่ยฉินตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง นางงุนงงเล็กน้อยเพราะภาพสุดท้ายคืนนางนอนตกเลือดตายอย่างน่าเวทนาในห้องเก็บฟืนที่อารามบนเขา
“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ให้บ่าวเข้าไปปรนนิบัตินะเจ้าคะ” เสียงชิงชิงดังขึ้นหน้าห้อง ทำให้นางแปลกใจเล็กน้อย
นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่ใช่ว่านางควรจะตายไปแล้วหรือ ในความทรงจำของนางชิงชิงก็หักหลังนางไปรับใช้ซูเยว่ซินแล้วนี่
นางเดินไปมองที่คันฉ่องข้างเตียง พบว่าใบหน้านี้ของตนยังคงอ่อนเยาว์ ไร้ร่องรอยความหยาบกร้านอย่างคนที่ทำงานหนัก
หรือนางจะย้อนเวลากลับมาก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะเกิดขึ้น ไม่สิ! มันน่าเหลือเชื่อเกินไป
“คุณหนูเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ ให้บ่าวเข้าไปได้หรือไม่” ยังไม่ทันให้นางได้คิดอะไรต่อ เสียงจากหน้าห้องก็ดังเข้ามาอีก
“เจ้าเข้ามาเถอะ” นางจึงตอบออกไป เพราะหากนานกว่านี้จะเป็นที่สงสัยได้ อีกอย่างนางมีเรื่องจะถามสาวใช้นางนี้เช่นกัน
“คุณหนูไม่สบายตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ เหตุใดจึงตอบบ่าวช้าเพียงนี้ บ่าวตกใจคิดว่าคุณหนูเป็นอะไรไปแล้วเสียอีก” เข้ามาได้สาวใช้นางนั้นก็พร่ำไม่หยุด
“เจ้าหยุดพูดสักทีข้ารำคาญ!!”
ซูฮุ่ยฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงรำคาญ ทำให้สาวใช้นางนั้นชะงักไป ก่อนความกลัวจะเริ่มทำงาน
“บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ บ่าวผิดไปแล้ว!!” ชิงชิงรีบมาหมอบตรงหน้าขออภัยนายสาว
“วันนี้คือวันที่เท่าไหร่” ซูฮุ่ยฉินเอ่ยถามเสียงราบเรียบ
“ห๊ะ!!....เออ...วันที่สิบสี่ เดือนที่สาม รัชศกหมิงปีที่เก้าเจ้าค่ะ” สาวใช้นางนั้นแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี
“เจ้าออกไปบอกให้คนเตรียมน้ำให้ข้าอาบที ข้าอยากอาบน้ำ”
นางเอ่ยเปลี่ยนเรื่องเพื่อไล่สาวใช้ออกไป ชิงชิงจึงออกไปบอกให้บ่าวด้านนอกเตรียมน้ำให้คุณหนูตน
ถ้าเป็นเช่นที่ชิงชิงเอ่ยมาเมื่อครู่ แปลว่านางย้อนเวลากลับมาหลังจากวันฝั่งศพมารดาได้เพียงหนึ่งวัน
และอีกเจ็ดวันหลังจากนี้บิดาจะพาจางเจียวเหมยเข้าจวนพร้อมบุตรชายและบุตรสาวที่แอบมีลับหลังมารดาของนาง เช่นนั้นนางก็เริ่มแผนการแรกเลยแล้วกัน
หลังจัดการตัวเองเสร็จ ซูฮุ่ยฉินจึงไปทานอาหารเช้าพร้อมบิดาที่เรือนหลัก
เนื่องจากอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้ฮูหยินเอกของจวน บ่าวในจวนจึงใส่ชุดสีเทา ส่วนนางกับบิดาใส่ชุดสีขาว
“ท่านพ่อ ตอนนี้ท่านแม่ก็จากไปแล้ว เรื่องจัดการในจวนข้าก็เคยเรียนจากท่านแม่มาไม่น้อย เช่นนั้นลูกจะเป็นผู้ดูแลต่อจากท่านแม่เอง ท่านพ่อเห็นควรว่าอย่างไรเจ้าคะ” ซูฮุ่ยฉินเอ่ยถามขึ้นเมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว
“หื้ม!! พ่อว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนจะดีกว่า เจ้าเองก็เสียใจเรื่องมารดาอยู่ ระหว่างนี้ก็พักผ่อนไปก่อน เจ้าจะไปท่องเที่ยวเทศกาลลอยโคมที่เมืองชิงก็ได้นะ พ่อจะจัดการให้” ผู้เป็นบิดาเอ่ยบ่ายเบี่ยง
“ลูกไม่มีกะใจไปเที่ยวเล่นหรอกเจ้าค่ะ หากท่านพ่อไม่ให้ลูกจัดการเรื่องในจวนลูกก็ไม่มีอะไรทำแล้ว คงได้แต่นั่งคิดเรื่องท่านแม่อยู่เช่นนี้เรื่อยไป เห้อ!!!”
นางก้มหน้าเพื่อพยายามซ่อนน้ำตาไม่ให้บิดาเห็น แต่นี่คือการแสดงทั้งนั้น
“พ่อรู้ว่าเจ้าเสียใจ เอาเช่นที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่ก็ได้เจ้าจะได้มีอะไรทำ จะได้ไม่ต้องคิดถึงมารดาเจ้าจนเกินไป” เมื่อเห็นบุตรสาวเศร้าใจเช่นนั้น ผู้เป็นบิดาจึงยอมใจอ่อน
“ฮึก! ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ” นางแสร้งสะอื้นก่อนจะเช็ดน้ำตาแล้วเงยหน้ามายิ้มให้บิดาอย่าฝืดฝืน
“เช่นนั้นลูกจะขอเอาบัญชีร้านไปตรวจดูด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ เรื่องในจวนท่านแม่จัดการเอาไว้หมดแล้ว ลูกทำไม่กี่วันคงจะเสร็จ”
“ตามใจเจ้าเถอะแต่อย่าหักโหมเกินไปเล่า หากอยากออกไปเที่ยวเล่นที่ใดก็ไปได้เลย พ่ออนุญาตเจ้า” ผู้เป็นบิดาเอ่ยอย่างรักใคร่บุตรสาวคนเดียวของตน
แต่เบื้องหลักเป็นเช่นไรใครจะรู้ คนที่รู้ดีที่สุดคือซูฮุ่ยฉินนั้นเอง เพราะในชาติที่แล้วผู้เป็นบิดาก็พูดให้นางไปเที่ยวเช่นนี้
พอนางกลับมาก็พอดีกับวันที่สามแม่ลูกนั่นเข้าจวนมาพอดี นางจะคัดค้านหรือโต้แย้งอย่างไรก็ไม่เป็นผลแล้ว
“เช่นนั้นลูกขอตัวก่อน ท่านพ่อก็รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ” นางเอ่ยก่อนจะกลับเรือนตัวเอง
เมื่อถึงเรือนก็ให้พ่อบ้านเอาบัญชีในจวนทุกเล่มมาให้นาง แถมยังบอกให้เอาบัญชีร้านค้าในเครือทุกร้านมาให้นางตรวจด้วย
บัญชีจวนนั้นพ่อบ้านรับคำโดยไม่แสดงท่าทีใด แต่พอพูดถึงบัญชีร้านตัวพ่อบ้านก็มีท่าทีอึกอักทันที
“ท่านพ่อบ้านมีปัญหาอันใดหรือ” นางเอ่ยถามเสียงราบเรียบ
“เออ...ปกตินายท่านเป็นผู้ตรวจบัญชีร้านด้วยตนเอง ถ้าคุณหนูจะเอาบัญชีร้านมาตรวจคงต้องไปขออนุญาตนายท่านก่อนขอรับ”
“อ่อ...เรื่องนั้นข้าขอท่านพ่อแล้ว และท่านพ่อก็อนุญาตแล้วเช่นกัน ท่านพ่อบ้านไม่ต้องเป็นห่วง”
ได้ยินเช่นนั้นพ่อบ้านจึงไปเอาบัญชีที่นางต้องการมาให้แต่โดยดี
นางเริ่มจากทำบัญชีของจวนก่อน แต่ก็ไม่ได้พบความผิดปกติอันใด แล้วจึงมาทำบัญชีร้านโดยเริ่มที่สาขาหลักคือ เมืองหลวงที่นางอยู่
ทุกสาขาปกติดียกเว้นสาขาที่เมืองชิง ที่นางตรวจทานมาสองรอบแล้ว แต่ก็คิดจำนวนเงินออกมาได้ไม่เท่ากับที่จดบันทึกไว้ในสมุด
จำนวนเงินที่ขาดไปมากพอจะเลี้ยงคนหนึ่งจวนได้แบบสบาย ๆ ไม่ใช่ว่าบิดานางเอาเงินจากสาขานี้ไปเลี้ยงจวนชู้ของตนหรอกนะ
“ข้าจะไปจวนท่านลุงหน่อย เจ้าให้คนไปเตรียมรถม้าให้ข้าที อย่าลืมเอาขนมกุ้ยฮวาใส่กล่องให้ข้าด้วย” นางเอ่ยสั่งชิงชิง
“นายหญิงจะไปตระกูลซุนหรือเจ้าคะ” ชิงชิงเอ่ยถามอย่างใคร่รู้
“ใช่ แต่เจ้าไม่ต้องไปหรอก ข้าจะไปคนเดียวเจ้าไปจัดการตามที่ข้าสั่งได้แล้ว” นางเอ่ยตอบก่อนจะไล่สาวใช้ออกไป
เรื่องที่นางสงสัยอีกอย่างคือ ชิงชิงอาจเป็นคนส่งข่าวให้จวนชู้ของบิดานางนะสิ
ในชาติก่อนพอซูเยว่ซินเข้ามาในจวน ชิงชิงสาวใช้ของนางก็ไปรับใช้สองแม่ลูกนั่นอย่างออกหน้าออกตา
หากไม่รู้ว่าเป็นสาวใช้ของนางมาก่อน คงคิดว่าชิงชิงเป็นสาวใช้ของซูเยว่ซินแล้ว
ตระกูลซุนเป็นสหายกับตระกูลซูมาตั้งแต่เริ่มทำการค้า มารดาของนางสนิทกับท่านลุงท่านป้าราวพี่น้อง นางจึงนับพวกเขาเป็นญาติคนหนึ่ง
ที่ผ่านมาพวกท่านบอกเสมอ ว่าหากต้องการความช่วยเหลือให้มาหาพวกเขาได้ตลอดเวลา แต่ชาติที่แล้วนางโง่เองที่คิดว่าตนตัวคนเดียว
“ถึงจวนตระกูลซุนแล้วขอรับคุณหนู” เสียงคนขับรถม้าเอ่ยบอกนาง นางจึงลงจากรถม้าแล้วบอกให้เขากลับไปก่อน
“ไปบอกท่านป้าให้หน่อยว่าข้ามาหา”
นางเอ่ยกับคนที่เฝ้าหน้าประตูจวน บ่าวคนนั้นเข้าไปไม่นาน ก็เห็นว่ามีสาวใช้นางหนึ่งเดินออกมา
“ขออภัยที่ให้คุณหนูต้องรอนาน ฮูหยินใหญ่กำลังรอคุณหนูอยู่เจ้าค่ะ” บ่าวนางนั้นเดินนำซูฮุ่ยฉินเข้าไปในจวน
“ลมอะไรหอบเอาหลานมาถึงจวนตระกูลซุนของเราได้กันล่ะเนี่ย” หว่านเหมยฮวาเอ่ยกับหลานด้วยความเอ็นดู
“ลมแห่งความสงสัยเจ้าค่ะ”
“หื้ม!....เอ่ยราวกับกำลังจะมีเรื่องใหญ่อย่างไรอย่างนั้นกัน” ผู้เป็นป้าเอ่ยเช่นนั้นเพราะเห็นสีหน้าหลานจริงจังนัก
“ข้ากำลังสงสัยว่าท่านพ่อกำลังแอบเลี้ยงชู้กับลูกนอกสมรสไว้นอกจวนเจ้าค่ะ”
ตอนที่ 29อกตัญญูพ่อบ้านเห็นฟางเจียวเหมยเดินถือกริชตรงไปที่เรือนคุณหนูของตน จึงได้ให้คนช่วยกันจับกุมตัวนางเอาไว้ ก่อนจะไปเรียนนายของจวนให้ทราบ“นางโวยวายจะพบข้าให้ได้งั้นหรือ ก็ดีข้าก็อยากพบนางเช่นกัน”ซูฮุ่ยฉินเอ่ยพร้อมกับปิดสมุดบัญชีร้าน และเดินออกไปพบสตรีที่โวยวายไม่หยุด“นางแพศยา!! เจ้ารู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ นี่ก็เป็นแผนการของเจ้าอีกเช่นกันสินะ เจ้าทำเช่นนี้มันไม่ใช่คนแล้ว!!”เมื่อเห็นหน้าลูกเลี้ยงฟางเจียวเหมยก็พ่นคำด่าออกมาไม่หยุด จนพ่อบ้านต้องตบปากนางไปหนึ่งที นางจึงได้เงียบเสียงลงเพี๊ยะ!!!“บ่าวเช่นเจ้าสามารถพูดจาเลื่อนลอยให้ร้ายนายได้หรือ เสร็จจากตรงนี้ให้คนเอานางไปตบปากยี่สิบครั้ง!”“เอาตามที่พ่อว่าแล้วกัน แต่ก่อนอื่นข้าคงต้องแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย เพราะตอนนี้ตระกูลกู่ส่งฤกษ์แต่งงานของจางเยว่ซินมา เป็นอีกเจ็ดวันข้างหน้า”“จะ จริงหรือ!!!” ฟางเจียวเหมยเปลี่ยนท่าทีทันที&ldqu
ตอนที่ 28แสนทนตะวันทอแสงของวันใหม่ ฟางเจียวเหมยต้องตื่นตั้งแต่เช้าเมื่อมาทำหน้าที่บ่าวของตนเอง นางทั้งเจ็บแค้นและกล้ำกลืนแต่เพื่ออนาคตของบุตรสาวและบุตรชาย ตนต้องอดทนสามีที่นางเคยรักนอนเป็นผักอยู่บนเตียง จะใช้ให้ไปจัดการนังเด็กนั่นก็ทำไม่ได้ เพราะแม้แต่จะพูดเขายังไม่สามารถพูดได้เลย“โอ๊ย!!! ท่านฉี่อีกแล้วหรือ ข้าเพิ่งเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เองนะ!!”นางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อได้กลิ่นไม่พึงประสงค์โชยออกมาจากคนที่นอนอยู่บนเตียง ทั้งที่ตนเพิ่งทำความสะอาดร่างกายให้เขาเสร็จ“....” จางลู่เหวินได้แต่มองนางด้วยสายตาไม่พอใจ“ไม่ต้องมองข้าเช่นนั้นเลยนะ เป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่สัญญาเอาไว้กับข้า ว่าหากนังฮูหยินนั่นตายท่านจะให้ข้าเข้ามาเป็นฮูหยินแทน และจะให้ข้ากับลูกอยู่อย่างสุขสบายไปทั้งชาติ!!!”“......”“นี่อะไร!! ฮูหยินก็ไม่ได้เป็น อยู่อย่างสุขสบายหรือก็ไม่ แถมตอนนี้ยังได้เป็นเพียงบ่าว ต้องมาค่อยรับใช้เก็บข
ตอนที่ 27สารภาพ“เจ้ากระต่ายน้อย เจ้าจะร้องไห้อีกนานหรือไม่ เดี๋ยวตาเจ้าก็ช้ำหรอก สตรีตาปูดบุรุษใดเขาจะมองกัน”เสียงนั้นเอ่ยเย้าแหย่นาง สรรพนานเรียกขานยังเป็นดั่งเช่นในอดีต ท่านก็กลับมาเช่นเดียวกับนางงั้นหรือ นางรีบเช็ดน้ำตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้งก็เห็นว่า ในห้องตอนนี้มีเพียงนางกับเขาแค่สองคนเท่านั้น“ท่าน...ก็กลับย้อนกลับมาหรือเจ้าคะ” นางเอ่ยถามออกไปตามตรง เพราะหากเป็นเช่นที่นางคิด เราจะได้คุยกันง่ายขึ้น“เป็นเช่นที่เจ้ากำลังคิด แต่ก่อนอื่นข้ามีเรื่องจะสารภาพกับเจ้าก่อน” เขาเอ่ยทั้งที่ยังคงส่งยิ้มให้นางเช่นเดิม“.....” นางนั่งนิ่งรอเขาเอ่ยในสิ่งที่ต้องการจะบอกนาง“เจ้าทำเช่นนี้รู้หรือไม่ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี”เขาเอ่ยขึ้นเช่นนี้ทำให้ใจนางกระตุกวูบ จริงสิ ท่านเป็นนักบวชนี่ คงไม่ได้สนับสนุนให้นางทำเรื่องเลวร้ายอย่างการแก้แค้นบุพการีแน่นอน“ข้าไม่อาจละทิ้งคว
ตอนที่ 26กลับมาเพื่อเจ้าครืด!!! ปัง!!!!เสียงเลื่อนประตูอย่างรีบร้อนจนมันกระทบผนังดังขึ้นอย่างแรง ทำเอาบุคคลในห้องทั้งสองชะงักและหันมามอง“ท่านประมุขแย่แล้ว ไอ้หน้าไก่อ่อนนั่นมันจะวางแผนเกี้ยวนายหญิงของท่านแล้วขอรับ!!!” จบประโยคนี้ทำให้คนทั้งสองลุกขึ้นพร้อมกันตอนนี้อันเฉียนฟางกับซีหลิงหยุนมือขวาของตนกำลังนั่งหารือกันอยู่ ว่าจะเข้าไปทำความรู้จักกับซูฮุ่ยฉินด้วยสถานะใดแต่ยังไม่ทันได้ข้อสรุปอะไรลูกน้องของตนก็เข้ามาตะโกนอย่างที่ได้ยิน“มันคือผู้ใด!!!”“จอหงวนคนล่าสุดของแคว้นจ้าว กู่หลวนเค่อขอรับ มันคงเห็นว่าคู่หมั้นตนเองไร้ประโยชน์แล้ว จึงได้เปลี่ยนเป้าหมายเป็นนายหญิงแทนขอรับ”“บังอาจนัก!!! จะมาแย่งนายหญิงของพวกเราไปได้อย่างไร กว่านายท่านจะยอมตัดผมแต่งตัวให้ดูเป็นผู้เป็นคนเช่นนี้ หาใช่เรื่องง่าย ๆ ไม่ ข้าจะไปจัดการถีบมันออกจากจวนนายหญิงของเราเอง ไป!!!”ซีหลิงหยุนเอ่ยราวกับตนถูกแย่งสตรีเสียเอง จนทำให้อันเฉียนฟานคว้าไหล่เขาไว้แน่น ก่อนจะมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง“.....”“นายท่านอย่าห้ามข้า! ข้าจะปกป้องนายหญิงเอง ข้าจะไม่ยอมให้นายหญิงตกไปเป็นของผู้อื่น แล้วท่านต้องกลับไปทำตัวเป็นคนไร้อารยธรร
ตอนที่ 25แอบช่วย“บ่าวที่เรือนจางเยว่ซินบอกว่าคืนนี้หลังจากจางเหิงเยว่กลับมาจากข้างนอกก็เข้าไปหาจางเยว่ซินที่เรือนเจ้าค่ะ”ซินซินไปเอาสุราดอกท้อมาให้นายสาวเอ่ยรายงาน พร้อมกับรินสุราใส่จอกยื่นให้“หื้ม!! เขาตั้งใจเข้าไปหาเยว่ซินหรือ”นางถามอย่างแปลกใจ เพราะคืนนั้นเกิดจากความผิดพลาด แต่คืนนี้ต่างออกไป“เจ้าค่ะ และทำเช่นเดียวกับคืนนั้นด้วยเจ้าค่ะ” ซินซินตอบ“เขาไม่ได้มีท่าทีแปลกไปจากปกติใช่หรือไม่”“ไม่เจ้าค่ะ คืนนี้แม้เขาจะดื่มสุรามา แต่สติยังอยู่ครบแน่นอนเจ้าค่ะ” คำบอกเล่าของสาวใช้ทำให้นางครุ่นคิดเล็กน้อยจางเหิงเยว่ติดใจในรสสัมผัสของจางเยว่ซินเช่นนั้นหรือ แต่นางจะคิดเช่นนั้นก็ไม่แปลก เพราะเมื่อชาติก่อนเขายังทำกับนางที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวต่างมารดาเลยแถมยังทำมันซ้ำ ๆ จนนางตั้งท้องอีกด้วย มาครานี้ผลกรรมคงไปตกที่จางเยว่ซิน ไม่รู้ว่านางจะถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งท้องก่อนที่จะได้แต่งเข้าตระกูลกู่หรือไม่นางชักจะรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วสิ แต่ก่อนอื่นพรุ่งนี้นางต้องไปสั่งงานกับบ่าวคนใหม่เสียหน่อยซูฮุ่ยฉินนั่งอ่านหนังสือต่ออีกหน่อย ก่อนจะดับตะเกียงเข้านอน ซินซินเมื่อเห็นนายสาวหลับไปแล้ว ตนจึ
ตอนที่ 24ข้าจะเป็นปีกให้เจ้า“เจ้า!! ข้าจะฟ้องทางการว่าเจ้าวางยาข้า และให้ร้ายผู้อื่น!! แค่ก ๆ ”“ผู้ใดจะเชื่อเขยแต่งเข้าที่หวังฮุบสมบัติบ้านภรรยากันเล่าเจ้าคะ ท่านคิดว่าที่ข้าทำทุกอย่างไม่ได้คิดไตร่ตรองมาก่อนแล้วหรือ”“เป็นเจ้าจริง ๆ สินะ!!”“หึหึหึ โรคที่ท่านเป็นอยู่นั้นไม่ตาย แต่ก็หาทางรักษาไม่ได้เช่นกัน เพราะงั้นเพื่อไม่ให้ท่านปากมากข้าต้องตัดสินใจทำบางอย่างกับท่าน อย่าหาว่าข้าอกตัญญูเลยนะเจ้าคะ”“เจ้าจะทำอะไรข้า เจ้าจะทำอะไรนังลูกอกตัญญู!!”เขาเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะตนไม่สามารถลุกหนีไปที่ใดได้อีก“พ่อบ้านเข้ามาหาข้า”พ่อบ้านรีบเข้ามาทันที ก่อนจะก้มหัวให้สตรีตรงหน้าอย่างนอบน้อม“ขอรับคุณหนู เอ้ย!! นายหญิง”“อนุฟางช่างโหดร้ายนัก วางยาท่านพ่อจนล้มป่วยหนักถึงขั้นพูดไม่ได้แขนขาอ่อนแรง ข้าละเจ็บปวดใจนักอย่างไรพ่อบ้านช่วยดูแลท่านพ่อยามข้าไม่อยู่ด้วยนะเจ้าคะ”นางเอ่ยเสียงสองเสียงสาม แต่กลับทำให้คนฟังและผู้ที่กำลังจะถูกกระทำขนลุกตั้งพร้อมกันได้“ขะ ขอรับ บ่าวเองก็เจ็บปวดใจเช่นกัน นายหญิงไม่ต้องเป็นห่วงบ่าวจะดูแลนายท่านให้ดี ให้นายท่านไม่ต้องเหนื่อยพูด และลุกเดินไปไหนมาไหนอีก”พ
ความคิดเห็น