เมย์ สาวยุคดิจิทัลทะทุมิติมาอยู่ในร่างสาวจีนโบราณนามว่า ถังซูเจียว ซึ่งตรอมใจตายเพราะถูกน้องสาวแย่งคู่หมั้น และตัวเองต้องแต่งกับคู่หมั้นน้องสาวแทน แถมบุรุษผู้นั้นยังมีคนรักอยู่แล้ว เขาหักหน้านางในวันที่นางขึ้นเกี้ยวเข้าจวนเป็นฮูหยินของเขา โดยประกาศรับฮูหยินรองทันที เช่นนั้นมาดูกันว่าข้าหรือท่านที่จะพ่ายแพ้!!
Lihat lebih banyakตอนที่ 1
เกิดใหม่ในร่างสตรีต่างมิติ
แค่ก! แค่ก! แค่ก! เฮือก!!!
เมย์ แม่ค้าสาววัยยี่สิบเจ็ดสำลักบางอย่างก่อนจะสะดุ้งเฮือกเอาอากาศเข้าเต็มปอด คิดว่าจะตายแล้วอีเมย์เอ้ย!!
ตอนนี้ฉันก็น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลสินะ คิดพลางมองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในห้องที่คาดว่าเป็นห้องหนังสือ เพราะมองไปรอบ ๆ มีแต่ชั้นหนังสือเต็มไปหมด
นี่มันอะไรกัน!! ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า เมื่อก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่ก็เป็นชุดจีนโบราณอย่างที่ชอบดูในซีรี่ย์ อย่าบอกว่าฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นนะ แย่แล้วอีเมย์!!!!
เธอทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสลบไปตรงนั้นเพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น
ในฝันเธอกำลังเดินไปตามทางที่ไหนสักที่ รอบตัวเธอตอนนี้มีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง นอกจากทางที่กำลังเดินไปเท่านั้น
“เมย์ เมย์ เจ้าได้ยินข้าหรือไม่” เสียงแววหวานของสตรีดังมาจากที่ไหนสักแห่ง
“ใครคะ!! ช่วยฉันด้วยค่ะฉันอยู่ตรงนี้!” เมย์รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที
“เจ้าไม่ต้องตกใจไป เพียงเดินตามทางนี้ไปเจ้าจะปลอดภัยเอง” เสียงนั้นตอบกลับมา
“แล้วคุณเป็นใครคะ ฉันมองไม่เห็นคุณเลย” เมย์ตะโกนถามออกไปอีกครั้ง พลางมองซ้ายมองขวาแต่ก็ยังไม่เห็นใครอยู่ดี
“ข้าชื่อถังซูเจียว เป็นสตรีที่เจ้าเข้าไปอยู่ในร่างนั่นแหละเจ้าค่ะ” เสียงนั้นตอบกลับมาทำให้เมย์ตะลึงไปเล็กน้อย
“อ้าว!! ถ้าฉันเข้าไปอยู่ในร่างคุณ แล้วคุณจะไปอยู่ไหนล่ะ”
“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันเจ้าค่ะ แต่ข้าคงต้องไปแล้วฝากดูแลท่านแม่ของข้าด้วยนะเจ้าคะ เมื่อท่านตื่นท่านจะได้ความทรงจำของข้าทั้งหมด ตอนนั้นท่านก็จะรู้เรื่องทุกอย่างเองเจ้าค่ะ” สิ้นเสียงนั้นเมย์ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม
“คุณ!!! คุณ!!! ไปแล้วเหรอ ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยกลับมาก่อน!!!” ไม่มีเสียงตอบกลับใด ๆ ทั้งสิ้นพร้อมกับแสงสว่างจ้าจนเมย์ต้องเอามือขึ้นมาบังหน้าตัวเองไว้ แล้วสติของเธอก็ดับวูบไปอีกครั้ง
“คุณหนู!!! คุณหนูเจ้าคะ!!” เสียงเรียกพร้อมเขย่าตัวเบา ๆ ทำให้หญิงสาวได้สติขึ้นมา
“อื้อ...เช้าแล้วเหรอ วันนี้ขี้เกียจเปิดร้านมากเลย งั้นปิดแล้วกัน” เอ่ยจบก็ทำท่าว่าจะนอนต่อ
“คุณหนูไปนอนที่ห้องดี ๆ เถอะเจ้าค่ะ คุณหนูนอนห้องหนังสือมาทั้งคืนแล้วนะเจ้าคะ” เสียงสตรีที่เข้ามาปลุกรีบเอ่ย เมื่อเห็นนายตนทำท่าจะนอนต่อ แถมยังพูดอะไรแปลก ๆ ด้วย
“ห๊ะ!!! อะไรนะ!” เมย์ผุดลุกขึ้นนั่งทันที ก่อนความทรงจำเมื่อคืนจะย้อนกลับมาฉายในหัวเธอ พร้อมกับความฝันประหลาดนั่นอีก
ฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นนี่ แถมเธอคนนั้นบอกว่าถ้าตื่นแล้วจะได้ความทรงจำทุกอย่างของเธอด้วย นี่มันเรื่องจริงใช่มั้ย
เมย์คิดพลางตบหน้าตัวเองไปหนึ่งที ก่อนจะรู้สึกว่ามันเจ็บจริง ๆ สาวใช้ที่เข้ามาปลุกตกใจจนรีบจับมือเธอไว้ทันที เพื่อไม่ให้ทำร้ายตัวเองอีกครั้ง
“คุณหนู!! เหตุใดจึงทำร้ายตัวเองเช่นนี้เจ้าคะ หากคุณหนูต้องการที่ระบายอารมณ์ก็ทำที่บ่าวเถอะ อย่าทำร้ายตัวเองเลยเจ้าค่ะ”
บ่าวนางนั้นเอ่ยพลางร้องไห้ออกมาจนเมย์ตกใจ เธอยังไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงเลยนะ แค่ตบพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปเท่านั้นเอง
“ฉัน...ไม่สิ...ขะ...ข้าไม่ได้จะทำร้ายตัวเอง...เออ...เจ้าค่ะ” ฉันตอบกลับไปทำให้สาวใช้นางนั้นชะงัก
“คุณหนูไม่สบายเป็นแน่ถึงได้พูดจาเช่นนี้กับบ่าว บ่าวจะไปเรียกหมอนะเจ้าคะ คุณหนูรออยู่ตรงนี้อย่ลุกไปที่ใดเด็ดขาดบ่าวจะรีบไปแล้วรีบกลับเจ้าค่ะ” เอ่ยจบก็วิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว จนเธอห้ามเอาไว้ไม่ทันได้แต่มองตามตาปริบ ๆ
แล้วเธอต้องทำยังไงต่อไปเนี่ยความทรงจำเจ้าของร่างก็ไม่มี แถมยังมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เธอคิดหนักพลางลูบหน้าแรง ๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง
แต่ก็เกิดบางอย่างขึ้น เมื่อเธอรู้สึกวูบวาบที่หัวก่อนจะค่อย ๆ ไล่ลงมาที่คอ หัวไหล่ไปจนถึงปลายเท้า ความรู้สึกมันอุ่นสบายราวกับกำลังแช่น้ำร้อนอย่างไรอย่างนั้น
สักพักภาพบางอย่างก็ไหลเข้ามาในหัวของเธอเป็นฉาก ๆ ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กจนโตมาถึงปัจจุบัน ภาพสุดท้ายเป็นภาพของหญิงสาวที่นอนฟุบหน้าร้องไห้ แล้วหมดสติไปบนโต๊ะที่เธอตื่นขึ้นมานั่นแหละ
เมื่อภาพถูกฉายจนจบแล้วไออุ่นรอบตัวของเธอก็ค่อย ๆ หายไป พร้อมกับร่างกายที่ขยับได้อีกครั้ง
ภาพที่เธอเห็นเป็นเรื่องราวชีวิตของถังซูเจียว เธอเป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกของรองเจ้ากรมพิธีการ หรือก็คือบิดาของร่างนี้นั่นเอง
ถังซูเจียวมีน้องสาวชื่อถังซูเจินและน้องชายชื่อถังลู่จิว ทั้งสองเกิดจากภรรยารองของท่านพ่อที่รักกันมาก่อนจะแต่งกับท่านแม่เสียอีก ถ้าไม่แต่งกับแม่เจ้าของร่างนี้ คงแต่งฮูหยินรองเป็นภรรยาเอกแน่นอน
ถังซูเจียวแม้จะเป็นบุตรสาวของภรรยาเอก แต่ไม่ได้รับความเอาใจใส่เท่าน้องสาว ทั้งเสื้อผ้า อาหารการกิน เบี้ยหวัด ทุกอย่างจะได้น้อยกว่าน้องสาวและน้องชายเสมอ
ท่านแม่ก็ยังไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้ ตอนนี้ยังถูกกักบริเวณอยู่แต่ในเรือนตัวเอง การจัดการเรือนทุกอย่างถูกยึดมาให้ฮูหยินรองจัดการแทนทั้งหมด
สาเหตุเป็นเพราะท่านแม่เอารังนกที่ท่านตาส่งมาให้จากต่างเมืองมาให้ข้ากิน แล้วถังซูเจินรู้เข้าเลยไปฟ้องท่านพ่อบอกว่าฮูหยินเอกได้รังนกมาแล้วแอบไว้กินกับข้าสองคน ไม่มีน้ำใจแบ่งปันให้สองแม่ลูกนั่น
ท่านพ่อที่ทั้งรักและหลงฮูหยินรองจึงมาต่อว่าฮูหยินเอกตนเอง บอกว่านางไร้น้ำใจ ขาดคุณสมบัติการเป็นฮูหยินเอกที่ดี จึงสั่งกักบริเวณโดยไม่มีกำหนด เพื่อให้นางสำนึกว่าตนทำผิดอะไร
เมย์ถึงกับกรอกตามองบนพร้อมถอนหายใจแรง ๆ นี่เธอต้องมีบิดาบ้าอำนาจแบบนี้เหรอ ขอตายไปเลยได้มั้ยอีเมย์รับไม่ได้อย่างแรง
นอกจากแม่เจ้าของร่างที่รักถังซูเจียวจริง ก็คงจะมีแต่สาวใช้ที่มาปลุกเมื่อครู่นั่นแหละ ที่ทั้งรักและเทิดทูนถังซูเจียวจนแทบจะยกชีวิตตัวเองให้
เอาเถอะ อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยวล่ะว่ะ แต่ก่อนอื่นเลยอย่างแรกที่ต้องจัดการเอาคืนก่อนคือเรื่องคู่หมั้นกับน้องสาวของเจ้าของร่างนี้
เลวทั้งคู่จนจนอีเมย์ที่มาสิงร่างแทนยังโกรธ เดี๋ยวเมย์จะเอาคืนให้เองนะจร้ะซูเจียว แม่จะเอาให้อับอายทั้งเมืองหลวงเลย
ตอนที่ 12สองแม่ลูกพบหน้า“ท่านแม่เรียกลูกไว้มีเรื่องอะไรหรือขอรับ” คุณชายรองเหยียนเอ่ยถามมารดา เขายังต้องกลับไปคุยกับถังซูเจินเรื่องเมื่อคืนอีก“ตอนนี้ข่าวลือข้างนอกหนาหูนัก แม่ว่าเจ้าลดขั้นนางให้เป็นอนุเถอะ” ฮูหยินใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่คนเป็นบุตรชายตกใจอย่างมาก“ท่านแม่ นางเพิ่งแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรองนะขอรับ อีกอย่างจวนเราก็รับปากจวนโน้นไว้แล้วว่าเมื่อนางมีลูกจะเลื่อนให้นางเป็นฮูหยินเอก”“นั่นมันก่อนจะแต่งนางเข้ามา หากข้ารู้ว่านางจะทำให้ชื่อเสียงจวนเราเสื่อมเสียขนาดนี้ ข้าจะรับนางเข้ามาเป็นเพียงอนุเท่านั้นแหละ!!”“....”“เจ้ารักนางแม่ไม่ว่า แต่เจ้าเป็นบุตรชายของรองเจ้ากรมโยธานะ เจ้าต้องคิดถึงชื่อเสียงตระกูลเราด้วย”“....”“ยังมีพี่ชายเจ้าอีกที่กำลังรับใช้ใกล้ชิดองค์ฮ่องเต้ อนาคตบิดาเจ้าก็จะฝากให้เจ้าเข้าทำงานในวังด้วย เจ้าจะทำให้ตระกูลเราแปดเปื้อนเพียงเพราะสตรีนางเดียวหรือ”ฮูหยินจางฮุ่ยหลิงเอ่ยเตือนสติบุตรชาย นางรู้ว่าสตรีนางนั้นเป็นรักแรกของบุตรชาย แต่ในฐานะมารดานางก็ไม่อาจให้บุตรชายตกต่ำเพียงเพราะสตรีนางเดียวได้“....” เหยียนป๋อเหวินพูดคำใดไม่ออก เพราะสิ่งที่มารดาพูดมาเ
ตอนที่ 11คืนเข้าหอแสนหวาน (รึเปล่า)ถังซูเจินนั่งรอคนรักอยู่ในห้องหออย่างสงบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ไม่มาเสียทีจนตอนนี้เวลาล่วงไปถึงยามห้ายแล้ว (21.00 - 22.59 น.)เขาไปทำอะไรอยู่เหตุใดจึงยังไม่มา ด้วยความร้อนใจตนจึงถอดผ้าคลุมหน้าขว้างทิ้งที่พื้น“คุณหนูทำเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ” สาวใช้คนสนิทเอ่ยเตือน“เจ้าไปดูซิว่าท่านพี่ไปทำอะไรอยู่ เหตุใดเวลานี้ยังไม่มาหาข้า” ถังซูเจินเอ่ยอย่างหงุดหงิด“คุณชายอาจจะมีสหายเยอะจึงยังปลีกตัวมาหาคุณหนูไม่ได้ คุณหนูอย่าอารมณ์เสียไปเลย วันนี้วันมงคลของคุณหนูนะเจ้าคะ”“เจ้าจะให้ข้าอารมณ์ดีอยู่ได้อย่างไรนี่มันยามห้ายแล้วนะ ถ้าเจ้าไม่ไปข้าจะออกไปตามเอง” เอ่ยจบก็ทำท่าจะลุกไปจริง“บ่าวไปเองเจ้าค่ะ คุณหนูรอในห้องนะเจ้าคะ” สาวใช้รีบเอ่ยเพราะกลัวนายของตนจะออกไปจริง ๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงแย่แน่เพราะธรรมเนียมมีว่าห้ามไม่ให้เจ้าสาวออกจากห้องหอจนกว่าจะถึงเช้าอีกวัน ไม่เช่นนั้นชีวิตหลังแต่งงานจะโชคร้ายสาวใช้รีบออกไปตามหาตัวคุณชายรองให้นายตน ระหว่างที่เดินผ่านสวนดอกไม้กลางจวนก็ได้ยินเสียงครวญครางแปลก ๆ แว่วมาตอนแรกนางทำท่าจะรีบเดินผ่านไปเร็ว ๆ แต่ได้ยินเสียงสตรีนางนั้นเร
ตอนที่ 10เกี้ยวเจ้าสาวแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อรองเจ้ากรมพิธีการกลับถึงจวนใจตอนเย็น ก็เรียกทุกคนในจวนไปรวมกันที่ห้องโถงของเรือนใหญ่ทันที“ท่านแม่นี่มันเรื่องอะไรกัน!!” ถังซีฮั่นถามมารดาอย่างไม่พอใจ แต่ยังเก็บอาการเอาไว้เล็กน้อย“จะอะไรเสียละ อนุหว่านทำผิดแม่ก็แค่ลงโทษตามสมควร คุณหนูรองตบตีพี่สาวเพื่อแย่งของ ตามกฎจวนต้องโบยสิบไม้ แม่ก็เห็นแก่ที่นางใกล้จะออกเรือนจึงละเว้นให้ เปลี่ยนเป็นลงโทษสถานเบาแทน เจ้าเห็นว่าที่แม่ทำไม่เหมาะสมหรือ”“แต่ท่านแม่...” ถังซีฮั่นทำท่าจะแย้งมารดา แต่ถูกขัดขึ้นมาเสียก่อน“ท่านพี่อย่าเอ่ยคำใดอีกเลยเจ้าค่ะ เอาเวลามาคิดเรื่องคุณหนูรองก่อนดีกว่า”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ถังซีฮั่นหันไปถามฮูหยินเอกตัวเองอย่างหาเรื่อง“จดหมายจากจวนตระกูลเหยียนมาถึงเมื่อตอนบ่าย บอกว่าจะส่งเกี้ยวเจ้าสาวมารับคุณหนูรอง และยังบอกอีกว่าเพราะข่าวลือในตอนนี้ทำให้จวนตระกูลเหยียนเสียหาย จึงขอจัดงานเงียบ ๆ รับรู้กันภายในครอบครัวเจ้าค่ะ” เสิ่นเจียอี๋ตอบเสียงราบเรียบ“ไม่จัดงานหรือ ไม่นะเจ้าคะท่านพ่อข้าไม่ยอมเด็ดขาด!!” ถังซูเจินโวยวายออกมาทันทีที่ถังซูเจินยังสามารถนั่งอยู่ตรงนี้ได้ เพรา
ตอนที่ 9พี่สาวไม่โกรธเจ้าถังซูเจียวออกจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว ส่วนท่านแม่อยู่คุยกับท่านย่าก่อนเห็นบอกว่ามีเรื่องสำคัญขณะเดินไปตามทางระหว่างกลับเรือนก็ถูกใครบางคนขวางทางเอาไว้เสียก่อน“พี่หญิงแวะคุยกับข้าสักครู่ได้หรือไม่” ถังซูเจินเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินออกมาจากทางแยก แต่หน้าตาของหญิงสาวบ่งบอกว่าต้องการมาหาเรื่องนางแน่นอน“น้องสาวมีเรื่องอะไรหรือ” เอ่ยพลางยิ้มตอบอย่างใสซื่อ“ข้าจะไม่อ้อมค้อมแล้วกันเจ้าค่ะ พู่ห้อยหยกที่ท่านย่าให้ท่านมาเอามาให้ข้าเถอะ นี่ข้าขอดี ๆ นะเจ้าคะอย่าให้ข้าได้ใช้กำลังเลย” ถังซูเจินเอ่ยพร้อมกับแบมือมาตรงหน้าถังซูเจียว“ข้าคงให้เจ้าไม่ได้หรอกนะ เพราะพู่ห้อยหยกนี้เป็นของไทเฮาที่ประทานให้ข้า หวังว่าเจ้าจะเข้าใจพี่สาวนะ”เอ่ยจบก็ยิ้มให้นางไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินผ่านไปราวกับถังซูเจินเป็นอากาศธาตุ“จะ เจ้า! เอามานี่ ข้าอยากได้ข้าก็ต้องได้” ถังซูเจินเอ่ยพลางกระชากผมของพี่สาวจนหงายหลัง“คุณหนู!!!!” เสียงลี่ลี่ตะโกนอย่างตกใจ“กรี๊ด!!!!! น้องสาวเจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ!!” นางตะโกนพร้อมกับปัดป้องมือที่พยายามตบหน้าตนไปด้วย“เจ้ากล้าห้ามข้าหรือ!! เจ้า
ตอนที่ 8ของฝากจากท่านย่าจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับเรือนของตน นางก็คิดว่าท่านย่าจะลงโทษซูเจินบ้าง แต่เพียงต่อว่าไม่กี่คำก็ไล่นางกับแม่ออกไป คงเพราะไม่อยากเห็นหน้าให้เคืองอารมณ์อีกแต่อย่างน้อยนางก็ได้รู้ว่าท่านย่ารักนางกับท่านแม่มาก หากท่านย่าไม่ออกไปถือศีลที่วัด ความเป็นอยู่ของนางแม่ลูกคงไม่แย่ขนาดนี้“เจียวเอ๋อร์แม่ขอโทษที่ไม่อาจช่วยเจ้าได้ จนถูกแย่งคู่หมั้นไปเช่นนี้” เสียงท่านแม่เอ่ยขึ้น เมื่อสาวใช้ในห้องออกไปหมดแล้ว“ไม่เป็นไรเลยเจ้าค่ะท่านแม่ คุณชายเหยียนไม่ได้ชอบข้าตั้งแต่แรก แต่งกับเขาไปก็มีแต่ข้าที่จะเสียใจภายหลัง เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วเจ้าคะ”นางเอ่ยปลอบใจมารดา เพราะมองเข้าไปในแววตานั้นพบว่าท่านแม่รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาแค่ไหน“แต่เจ้ารักคุณชายเหยียนไม่ใช่หรือ”“นั่นมันเมื่อก่อนเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าไม่ได้รักเขาแล้วและไม่ได้เสียใจที่เรื่องเป็นเช่นนี้ด้วย”“ลูกแม่เจ้าโตขึ้นมากแล้วจริง ๆ ” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยพลางดึงตัวบุตรสาวเข้ามากอด“ข้าแต่งไปตั้งเมืองหมิงเว่ยท่านแม่อยู่คนเดียวต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ อย่าให้ใครมาทำร้ายท่านได้อีก” นางเอ่ยเสียงอู้อี้กับหน้าอกท่านแม่“เจ้าเด
ตอนที่ 7ฮูหยินเอกกับรองย่อมต่างกัน“ท่านย่าอย่าโกรธแม่นมมู่เลยเจ้าค่ะ นางก็เป็นนายคนหนึ่งเหมือนกัน ให้อภัยนางสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ”สิ่งที่ถังซูเจียวเอ่ยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นงุนงง แต่แม่นมมู่ตาโตจนแทบถลนออกมาแล้ว“เจ้าหมายถึงอะไรเจียวเอ๋อร์ บ่าวของฮูหยินรองจะมาเป็นนายของจวนได้อย่างไร” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยถามบุตรสาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ“ท่านแม่ก็แม่นมมู่บอกว่านางเป็นคนของฮูหยินรอง จะเดินไปที่ใดในจวนนี้ทุกคนต้องก้มหัวให้ประหนึ่งนางเป็นนายของเรือนคนหนึ่ง”“ว่าอย่างไรนะ!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าอุทานอย่างไม่เชื่อหู“ที่ผ่านมาหากลูกพบแม่นมมู่แล้วไม่ก้มหัวให้ข้าก็จะถูกสั่งให้คุกเข่าเป็นการลงโทษเสมอเลยนะเจ้าคะ”นางพูดใส่สีตีไข่ให้ดูเกินจริงมากขึ้น แต่เรื่องที่นางถูกแม่นมมู่สั่งให้คุกเข่าเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้บ่าวในจวนหลายคนก็เคยเห็นแต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้น“เหลวไหล!! เช่นนี้สินะเจ้าถึงกล้าวิ่งไล่ตีหลานสาวข้า เอานางไปรับโทษตามกฎของจวนเสีย เสร็จแล้วขายนางออกไปบ่าวเช่นนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้ในจวน!!”“ทะ ท่านแม่บ่าวของข้าเพียงหลงผิดไปเท่านั้น ท่านแม่โปรดอภัยให้นางสักครั้งเถอะ นางแก่ชราแล้วหากถูกโบยถึงห้าสิบ
Komen