นอนหลับอยู่ดี ๆ ลืมตาอีกทีทะลุมิติมาอยู่ในร่างของแม่หม้ายลูกติดในยุคโบราณซ่ะได้ ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้เป็นอย่างนี้ นางจะเป็นมารดาที่ดีและเลี้ยงดูบุตรชายแสนน่ารักผู้นี้ให้เติบโตเอง
ดูเพิ่มเติมบทนำ
เสี่ยวหลินสาวสวยในยุค 2024 นอนหลับอย่างที่เคยเป็นทุกวันใครจะคิดว่าลืมตาขึ้นมาอีกวันเธอจะได้เป็นมารดาของเด็กชายตัวน้อยในยุคโบราณ ที่มีชีวิตรันทดอยู่ในกระท่อมหลังเล็กที่แทบจะต้านลมหนาวไม่ไหว ชีวิตละหกระเหินถูกชาวบ้านรังเกียจประนามว่าเป็นสตรีที่นิสัยเลวทราม เพราะนางท้องไม่มีคนรับทำให้ป้าของนางอับอายจนขับไล่นางออกจากเรือน มาอาศัยอยู่ในกระท่อมหลังเล็กหลังหมู่บ้าน ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความรักที่มีต่อบุตรอาศัยเก็บผักเก็บสมุนไพรไปขายที่ตลาดแลกของกินประทังชีวิตแม้จะถูกชาวบ้านดูแคล้นนางไม่เคยสนใจ ก้มหน้ารับคำด่าเสมอมาจนเด็กชายอายุได้ 8 หนาวโชคดีที่นางมีบุตรชายที่ดี รู้จักช่วยเหลืองานทุกอย่างและรู้ความทำให้นางมีความสุข ทว่าฤดูเหมันต์มาเยือนกระท่อมหลังน้อยถูกพายุหิมะพัดผ่านความหนาวเหน็บเกินจะทนไหวนางกอดบุตรชายเอาไว้ในอ้อมกอดให้ผ่านค่ำคืนนี้ไปได้แต่ร่างกายของนางมิอาจจะต้านต่อความหนาวไหวหมดลมหายใจโดยมีลูกชายนอนซุกไออุ่นในอ้อมแขน
วิญญาณของเสี่ยวหลินที่อยู่อีกมิติหนึ่งถูกดูดเข้ามาอยู่ในร่างของเฉินไป๋อิงเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมชีวิตของนางกับบุตรชายมาพร้อมระบบมิติของใช้มากมาย ต่อจากนี้เสี่ยวหลินจึงจำเป็นต้องการเป็นมารดาของเฉิงหงเด็กชายตัวน้อยและเลี้ยงดูบุตรชายให้เติบโต
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ
รุ่งอรุณสว่างไสวในฤดูเหมันต์ นานหลายวันแล้วที่ไม่มีแสงแดดเช่นนี้ ชาวบ้านพากันตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางออกจากเรือนหาไม้ฟืนไว้ใช้หากมีหิมะตกมาอีกจะได้ไม่ลำบาก เช่นเดียวกับสองแม่ลูกที่กำลังแบกตะกร้าขนาดใหญ่ขึ้นหลังเพื่อออกเดินทางขึ้นเขาหาไม้ฟืนและพืชผักต่าง ๆ
“เฉิงหงเจ้าอย่าลืมถุงผ้าของเจ้าด้วยล่ะ อาภรณ์สวมใส่แน่นหนาหรือไม่? แม้ว่าแสงแดดจะออกแต่หิมะยังคงตกโปรยปราย จะทำให้เจ้าไม่สบายเอาได้” ผู้เป็นมารดารีบเตือนบุตรชายกลัวว่าเขาจะไม่สบายหากเป็นเช่นนั้นอาจจะทำให้นางลำบากไปมากกว่านี้
“ขอรับท่านแม่ ข้าเตรียมทุกอย่างตามที่ท่านบอกแล้ว” เด็กชายวัยแปดขวบแบกเป้น้ำและห่อข้าวที่มารดาจัดเตรียมไว้ตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สว่างพร้อมเดินออกมานอกเรือน ทั้งสองเดินขึ้นเขาแม้จะยากลำบากแต่นางก็ต้องทำเพราะยามนี้นางคือสตรีที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง โดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบิดาของเด็กชายผู้นี้คือผู้ใด
‘เคยดูซีรี่ย์อ่านนิยายมาตั้งมากมาย ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะทะลุมิติมาอยู่ในร่างแม้หม้ายลูกติด แถมยังถูกรังเกียจจากชาวบ้านและยังถูกป้าแท้ ๆ ขับไล่ออกมา เฮ้อ! ชะตาชีวิตมีอะไรจะรันทดได้ขนาดนี้มั้ย? แต่นับว่าโชคดีที่มียังเรือนหลังเล็ก ๆ หลังหมู่บ้านให้ได้อยู่หลบแดดหลบฝน และโชคดีอีกอย่างที่ฉันจะทะลุมิติมาตอนที่เฉิงหงโตมากขนาดนี้แล้ว’ นางคิดในใจยอมรับชะตากรรมที่กำลังพบเจอ ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าทั้ง ๆ ที่สองเท้ากำลังเดินขึ้นเขาอย่างเหน็ดเหนื่อย นางมีนามว่าเฉินไป๋อิง หากแต่ว่ามิใช่คนในยุคสมัยนี้ นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างของสตรีที่มีบุตรชายแสนน่ารัก และรู้จักช่วยเหลือนางทุกอย่างเป็นเด็กที่มีความคิดความอ่านต่างจากเด็กชายในหมู่บ้านยิ่งนัก นางมาอยู่ในร่างนี้ครบหนึ่งฤดูแม้ยามแรก ๆ จะตกใจ พร้อมทั้งยังต้องปรับตัวมากมายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ อีกอย่างคือความทรงจำของร่างนี้เวียนวนเข้ามาในความทรงจำทำให้นางรับรู้ว่าผู้ใดเป็นผู้ใด มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่นางไม่รู้คือบิดาของเด็กชายผู้นี้คือใครกันแน่ ไม่ว่าจะพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ชาวบ้านกล่าวหาว่านางถูกข่มขืน บ้างก็ว่านางแอบมีความสัมพันธ์กับสามีผู้อื่น ทำให้ผู้เป็นป้าไม่อาจจะรับได้อับอายจนขับไล่นางออกจากเรือน ชาวบ้านก็รุมประนามเสมือนนางเป็นนักโทษ
นางเข้ามาอยู่ในร่างนี้นำของในมิติมาสร้างที่พักให้แข็งแรงมากกว่าเดิม นำผ้านวมผืนใหญ่มาเพิ่มความอุ่นอีกทั่งยังนำฟูกหนา ๆ มาปูเอารองนอนทำให้ร่างกายของทั้งสองแม่ลูกนอนสบายไม่ต้องทนหนาว ทว่าการที่มีของเหล่านั้นทำให้เด็กชายสงสัยว่ามารดาของตนเองนำของใช้พวกนี้มาจากที่ใด นางจึงแอบใช้เป็นครั้งคราว เสมือนครานี้ที่ต้องพาบุตรชายขึ้นเขาเก็บไม้ฟืนหากใช้มิติป่านนี้นางนอนสบายอยู่ในผ้านวมมิต้องทนหนาว
“ท่านแม่ดูนั่นสิขอรับ นั่นใช่ต้นสมุนไพรหรือไม่ขอรับ” เด็กชายเก็บฟืนสายตาเหลือบไปเห็นสมุนไพรที่พ้นหิมะโผล่มาให้เห็นยามนี้หิมะเริ่มละลายบ้างแล้วเพราะแสงแดดที่ส่องประกายลงมา เฉินไป๋อิงปรายสายตาจ้องมองตามนิ้วมือเล็ก ๆ เห็นหญ้าสมุนไพรใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มวางมือจากไม้ฟืนรีบเดินตรงมาหาบุตรชายทันที
“ว๊าว นั่นเรียกว่าของดีเลยล่ะ เฉิงหงวันนี้เป็นวันโชคดีของเราสองแม่ลูก ไม่ต้องเก็บไม้ฟืนแล้วนำสมุนไพรนี้ไปขายที่ตลาดกันเถอะ สมุนไพรหายากและสามารถนำไปทำยาได้รักษาโรคได้”
“ข้าดีใจจังเลยขอรับ” เด็กชายยิ้มด้วยความภูมิใจที่พบเจอของหายากเช่นนี้ เฉินไป๋อิงยิ้มกริ่มยื่นมือไปลูบศีรษะของเฉิงหงเบา ๆ ปากพรางเอ่ยชื่นชม
“บุตรชายของข้ามีความรู้ความสามารถจริง ๆ หรือนี่จะเป็นพรสวรรค์ของเจ้าไม่แน่เติบโตขึ้นเจ้าอาจจะเป็นหมอดูแลชาวบ้านก็ได้ มาเถอะลงจากเขากันเมื่อเรานำสมุนไพรไปขายข้าจะไปซื้อเนื้อที่ตลาดทำซุปเนื้อร้อน ๆ ให้เจ้ากิน” ดวงตาเด็กชายตาโตเป็นประกายรู้ดีว่าเนื้อมีราคาแพงแค่ไหน
“เรากินเนื้อได้จริง ๆ หรือขอรับท่านแม่ หากเทียบกับสมุนไพรนี้เราสามารถซื้อเนื้อได้หรือ?” เด็กชายอยากกินแต่ว่ายังคงกังวลเรื่องราคาเนื้อ เฉินไป๋อิงเอ็นดูเด็กชายจริง ๆ หากนางจะนำเนื้อออกจากมิติมาให้เขากินทุกมื้อย่อมได้แต่ว่าเด็กน้อยผู้นี้ฉลาดเกินไป นางกลัวว่าเขาจะรู้ความลับจึงไม่ค่อยนำเนื้อออกมาทำอาหาร และสมุนไพรที่เด็กชายเห็นนั้นเป็นสมุนไพรที่นางนำออกมาวางเอาไว้เพื่อหาข้ออ้างหาเงินนำไปซื้อเนื้อที่ตลาดมาทำซุปคลายหนาวให้แก่บุตรชายได้กิน
“โธ่ ๆ เฉิงหงของข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าหญ้าสมุนไพรนี้ราคาแพงเพียงใดเจ้าจะซื้อเนื้อกี่ชั่งก็ได้มาเถอะ ข้าจะมอบหมั่นโถวให้เจ้าหนึ่งก้อนเพื่อเป็นรางวัล” เฉินไป๋อิงนำหญ้าสมุนไพรใส่ตะกร้าเดินลงมาจากเขาก่อนจะนำไม้ฟืนไปเก็บเอาไว้ที่เรือนพาเด็กชายไปที่ตลาดเพื่อนำสมุนไพรไปขายให้โรงหมอในตลาด
ตอนที่ 16 ข้ารักท่านรุ่งเช้าวันต่อมาจิงหยูลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเสียงดังเอะอะโวยวายดังกึกก้องในจวน นางรีบสวมเสื้อคุมเดินออกมาดูนอกห้อง ใบหน้าพลันเปลี่ยนสีเมื่อเห็นทหารมากมายจับกุมทุกคนในจวนรวมถึงท่านแม่ของนางยามนี้“เกิดอะไรขึ้นทำไมทหารถึงเต็มจวนเช่นนี้ ท่านอ๋องท่านอ๋องอยู่ที่ใด”“อย่าได้โวยวายและยอมตามพวกเรามาแต่โดยดี ตอนนี้พวกเจ้าคือกบฏจะถูกประหารทันทีเมื่อพาตัวไปถึงคุกหลวง พวกเจ้าค้นให้ทั่วทั้งจวนอย่าให้มีผู้ใดหลงเหลือและหลบหนีไปได้ นี่คือคำสั่งของฮ่องเต้” เสมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน สมองของจิงหยูขาวโพลนขาไม่มีเรี่ยวแรงทรุดลงกับพื้นร่ำไห้อย่างขาดสติ“ไม่จริงข้าไม่เชื่อ ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ข้าไม่ได้ทำ” นางกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจเพราะนางไม่คิดว่าท่านอ๋องจะก่อกบฏเรื่องนี้นางไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ แต่ทว่าทหารไม่ได้ฟังคำพูดของนางแม้แต่น้อยจับกุมทุกคนไปยังคุกหลวง ทุบตีนางกับมารดาตลอดทาง เมื่อสองเท้าเดินมาถึงหน้าวังหลวงนางแทบช็อกเมื่อเห็นหัวของอ๋องฉีถูกเสียบประจานอยู่หน้าวังเพื่อข่มขวัญไม่ให้คนที่คิดก่อกบฏกล้าที่จะลงมือ หากผู้ใดต่อต้านราชวงศ์และคิดจะยึดครองบัลลังก์ต้องเป็นเช่
ตอนที่ 15 จับกบฏเฟยหงยังไม่ได้กลับเรือนนางยังคงยืนคอยจิงหยูอยู่หน้าเรือน ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเท้านางวิ่งออกมา เฟยหงกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกมาปะทะหน้ากับจิงหยู“อะไรกัน!! ทำไมถึงได้รีบร้อนวิ่งออกมาจากเรือนของแม่ทัพเช่นนี้ หรือว่าท่านแม่ทัพไม่ให้ความช่วยเหลือ ข้าบอกเจ้าแล้วหากอยากได้ความช่วยเหลือให้ไปหาเหล่าขุนนางที่มีหน้าที่รับฟังความเดือดร้อนของเจ้ามิใช่แม่ทัพ”“หยุดเสียที ท่านพี่ทำอย่างนี้กับท่านแม่ได้อย่างไร ท่านแม่ของข้าไปทำอันใดให้หากท่านต้องการแก้แค้นที่ข้าแย่งอ๋องฉีมา ท่านก็มาลงที่ข้าสิ”“จิงหยูเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้านะหรือจะโกรธแค้นที่เจ้าแย่งอ๋องฉีไปจากข้า เปล่าเลยข้าดีใจเสียอีกที่เจ้าแต่งไปเป็นพระชายาอ๋องฉีแทนข้า เพราะตอนนี้ข้าได้พบกับคนรักที่ดีความรักที่ดี ส่วนเรื่องของท่านแม่เจ้าข้าไม่ได้ทำอันใดเลย แต่เป็นนางต่างหากที่ทำตัวเอง นางใช้ความรักความไว้ใจที่ท่านพ่อมีให้หักหลังทำร้ายท่านพ่อ แถมยังสวมเขาให้ท่านพ่อพาบุตรไร้สกุลเข้าเรือนและแอบอ้างว่าเป็นบุตรสาวตระกูลหลิวอีก ช่างน่าสมเพชจริง ๆ โชคดีที่ท่านพ่อของข้าตาสว่างและรู้ทันนางเสียก่อน คราแรกข้าก็นึกโกรธเคืองเจ้าที่กล้า
ตอนที่ 14 ไม่มีอารมณ์ฝั่งด้านจิงหยูนางอาบน้ำแต่งกายกำลังเดินทางออกไปหาแม่ทัพเก่อหลางที่เรือนของเขา มีทางการมาขวางทางนางเอาไว้ก่อนเพื่อแจ้งเรื่องที่ท่านแม่ของนางกำลังได้รับโทษอยู่ตอนนี้“ทูลพระชายากระหม่อมนำสารมาจากกรมยุติธรรมเพื่อแจ้งให้พระชายาได้รับทราบพ่ะย่ะค่ะ” จิงหยูคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อนางเปิดอ่านสารที่นำมาให้ร่างกายของนางสั่นเทา โยนสารนั้นทิ้งทันที“ไม่จริง ข้าไม่เชื่อจะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ข้าคือบุตรสาวคนรองของตระกูลหลิวมิใช่บุตรของชาวบ้านชั่วไป เรื่องนี้ข้าว่าต้องมีอะไรผิดแปลกไปแน่ ๆ หรือว่าจะเป็นเพราะท่านพี่เฟยหงที่แค้นข้า เรื่องที่ข้าแย่งท่านอ๋องฉี ข้าจะต้องไม่ให้ท่านแม่ของข้าถูกลงโทษ ข้าจะไปหาท่านแม่ทัพเพื่อขอความช่วยเหลือ หากท่านอ๋องรู้เรื่องนี้เข้าคงคิดว่าข้าเป็นเพียงคนธรรมดาต้องหย่ากับข้าและทิ้งข้าแน่ ๆ ” จิงหยูคิดในใจก่อนที่จะสั่งให้สารถีรีบพาตนเองไปที่เรือนของท่านแม่ทัพโดยเร็วที่สุดไม่นานก็มาถึงเรือนแม่ทัพจูเก่อหลางนางรีบขอพบเขาทันที โดยมีทหารของเขาพาเข้าไปด้านใน“ท่านแม่ทัพยามนี้พระชายาท่านอ๋องฉีหย่งอี้ขอพบขอรับ” เสียงทหารดังมาจากด้านนอก ตอนนี้เก่อหลา
ตอนที่ 13 หึงหวงเรือนแม่ทัพจูเก่อหลาง“ท่านแม่ทัพคุณหนูตระกูลหลิวมาขอเข้าพบขอรับ” เพียงได้ยินว่าเฟยหงมาหาเขารีบว่างสิ่งที่ทำอยู่ทันที“ให้นางเข้ามา”“ข้ามารบกวนเวลาของท่านหรือไม่ ?”“ไม่สักนิดข้ากำลังคิดถึงเจ้าอยู่พอดี เสมือนสวรรค์รู้ความรู้สึกของข้า”“ข้ามาหาท่านเพราะมีเรื่องจะแจ้งต่างหาก วันนี้ข้าเจอกับท่านอ๋องฉี ท่านเตรียมการรับมือจากอ๋องฉีกับองค์ชายต้าหลงหรือยังเจ้าคะ อีกเพียงไม่กี่วันแล้วที่ทางนั้นจะลงมือแถมอ๋องฉียังบอกกับข้าอีกว่าอีกไม่นานชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปและขอให้ข้ากลับไปเป็นพระชายา” ไม่ทันที่เฟยหงจะเอ่ยจบเลือดในร่างกายของเก่อหลางพลุ่งพล่านเมื่อได้ยินว่าอ๋องฉีจะมาพาตัวเฟยหงกลับ เขาคว้าตัวนางมาแนบชิดกอดแนบแน่นจนนางได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตัก“ไม่มีทางที่ข้าจะปล่อยให้เจ้าไปกับอ๋องฉี คราก่อนข้ายอมเพราะเจ้าต้องการเช่นนั้นแต่ยามนี้ข้าจะฟังหัวใจตนเองต่อให้ข้าต้องยกทัพทำสงครามกับอ๋องฉีเพื่อแย่งชิงเจ้าข้าก็ยอม” เฟงหงยิ้มระรื่นดีใจที่เก่อหลางรักนางมากเพียงนี้ มือเรียวสองข้างยกขึ้นแตะเข้าที่ใบหน้าของเก่อหลางเงยหน้าจ้องมองด้วยสายตาอิ่มเอมไปด้วยความสุข“ผู้ใดบอกท่านว่าข้าจะกล
ตอนที่ 12 กลับมาเป็นพระยาของข้าเถอะนะรุ่งเช้าวันต่อมาอ๋องฉีเดินทางตั้งแต่เช้าสั่งสาวใช้ให้บอกว่าเขามีเรื่องที่จะต้องไปสะสางให้นางพักผ่อนเต็มที่ จิงหยูลืมตาขึ้นมาได้ยินจากปากของสาวใช้ นางยิ้มกว้างออกมาวันนี้นางจะไปหาท่านแม่ทัพที่เรือนของเขา“ในเมื่อข้าพูดจาดี ๆ กับท่านแล้วไม่ได้ผลข้าคงต้องใช้เสน่ห์ที่ข้ามีโปรยให้ท่านหลงใหลเสียแล้ว ไม่ว่าบุรุษใดเพียงแก้อาภรณ์ต่อหน้าร้อยทั้งร้อยคงไม่มีทางหนีพ้นเป็นแน่” นางอารมณ์ดีรีบลุกขึ้นลงแช่น้ำในอ่างที่สาวใช้ในจวนเตรียมไว้ให้ พร้อมโรยด้วยดอกไม้นานาพรรณให้กลิ่นกายมีความหอมฝั่งด้านอ๋องฉี เขาเดินทางกลับจากแม่น้ำขุยอันหลังจากที่พูดคุยหารือกับองค์ชายต้าหลงเสร็จสิ้นจึงเดินทางกลับ ระหว่างทางเห็นเฟยหงกำลังเดินในตลาดพร้อมกับมู่เอ๋อ เขารีบใช้เท้ากระแทกม้าพร้อมดึงเชือกให้ม้าหยุดเคลื่อนไหว ตั้งแต่ที่นางหย่ากับเขานี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบเจอนางคิดถึงคำพูดของจิงหยูนึกโมโหขึ้นมาทันที“ดูสิอยู่ที่จวนกับข้าเหมือนดอกไม้ไร้การรดน้ำเหี่ยวแห้งไร้อารมณ์ แต่นี่หย่ากับข้าไปได้ไม่เท่าไหร่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มแถมยังดูเหมือนว่านางดูดีมากกว่าเดิมอีกด้วย หรือว่านางมีควา
ตอนที่ 11 ข้าเต็มใจให้เจ้าหลอก“นี่ก็ยามสองแล้ว ข้าต้องกลับเรือนท่านปล่อยข้าไปพร้อมกับมู่เอ๋อเถิด” “เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือเฟยหง”“จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรล่ะ ท่านนะไม่เคยทำอะไรให้ข้าเสียใจอยู่แล้วแต่ว่าท่านเมามายแล้วนะเจ้าคะ”“ข้าไม่ได้เมาสุราแต่ตอนนี้ข้าเมาจากมากกว่า” เขากระซิบข้างหูก่อนจะจับมือของนางเดินไปที่ที่เขามักจะไปอยู่บ่อย ๆ ครั้นเมื่อคิดถึงนางเป็นสถานที่ทั้งสองเคยไปกันบ่อย ๆ ถนนโล่งไร้ผู้คนมีเพียงเสียงฝีเท้าของทั้งสองที่กำลังเดินไปที่สวนหลังหมู่บ้าน ที่นั่นมีแสงสว่างไสวงดงาม นานมากแล้วที่เฟยหงไม่ได้มาเยือน เมื่อมาถึงดวงตาของนางเป็นประกายรอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้า ลมยามราตรีพัดโบกไปมาเย็นสบาย“นานแล้วสินะที่ไม่ได้มาที่นี่ ที่นี่ยังคงงดงามเสมอข้าคิดว่าท่านจะลืมมันไปแล้วเสียอีก”“ข้าจะลืมได้อย่างไรกัน ที่นี่คือที่ที่เราสองคนมักจะมาบ่อย ๆ และหลังจากที่เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องฉีข้ามักจะมาที่นี่ร่ำสุรายามที่คิดถึงเจ้า เฟยหงไม่ว่าจะนานเท่าไหร่หัวใจของข้ายังมีเพียงเจ้าเสมอ เจ้าทำเสน่ห์ใส่ข้าหรืออย่างไรกัน”“ข้านะหรือทำเช่นนั้น? แต่ก็ไม่แน่นะเจ้าคะข้าเป็นสตรีดอกบัวขาวหลอกลวงทุกคน ตอนนี้อาจจ
ความคิดเห็น