เมื่อรักนางจึงทำทุกอย่าง ทั้งสกัดไม่ให้หญิงใดเข้าใกล้ท่านชินอ๋องชายยอดดวงใจของนาง แม้คนที่เขาพึงใจนางก็ระรานทุกครั้งเมื่อพบกัน ขอร้องท่านพ่อที่เป็นท่านราชครูเป็นอาจารย์เมื่อวัยเยาว์ของฮ่องเต้ ให้ขอพระราชทานสมรสให้แก่นางกับชินอ๋อง เมื่อได้เป็นพระชายาสมดังใจ เข้าหอคืนแรกนางก็วางยาปลุกกำหนัดเขาจนต้องตกเป็นของเขาสมใจนาง จากนั้นก็ทอดทิ้งนางไว้โดดเดี่ยวในเรือนท้ายจวนของเขา นางตรอมใจจนเดินลงไปในสระบัวข้างเรือน แต่เมื่อฟื้นมาอีกครั้งวิญญาณกลับเป็นใครอีกคนที่มาจากอนาคตไกล เมื่อตั้งสติว่าต้องใช้ชีวิตในร่างใหม่โดยไม่มีหนทางจะหวนคืนกลับไปได้อีกแล้ว หยางซิ่วอิงจึงจะหาทางหย่าร้างสามีที่ไม่ได้ใยดีตนเองให้ได้ เฮ้อจะแคร์ทำไมกับผู้แค่คนเดียว ผัวที่ดีคือผัวใหม่ แซ่บ กว่านี้มีออกมากมาย 555
View Moreหยางซิ่วอิงบุตรสาวของท่านราชครูหยาง ผู้เป็นอาจารย์ของทั้งฮ่องเต้และสมาชิกราชวงศ์ทุกคน แม้จะไม่อำนาจไม่เท่าเหล่าเสนาบดีทั้งหลายแต่ท่านราชครูเป็นที่เคารพและเกรงใจจากทั้งฮ่องเต้เอง รวมถึงเหล่าราชวงศ์ทั้งหลาย จึงพลอยเป็นที่เกรงอกเกรงใจของเหล่าขุนนางทั้งหลายไปด้วย
หยางซิ่วอิงจึงใช้สิ่งเหล่านี้ขอร้องท่านพ่อให้ขอพระราชทานสมรสให้นางกับชินอ๋อง นางเห็นชินอ๋องครั้งแรกในงานเลี้ยงในวังหลวง นางตกหลุมรักเขาทันที ชินอ๋องมีใบหน้าหล่อเหลา ผิวพรรณขาวละเอียดเช่นเหล่าชนชั้นสูงทั่วไป รูปร่างองอาจผึ่งผาย สง่างามเป็นที่หมายปองของเหล่าคุณหนูในห้องหอทั้งหลาย
แต่มีอยู่ผู้หนึ่งที่ดูชินอ๋องจะพึงพอใจอยู่ไม่น้อย นางคือ หลิวอี้เฟย บุตรีเสนาบดีหลิว นางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมือง แม้หยางซิ่วอิงจะมีใบหน้างามปานล้มเมือง รูปร่างอวบอิ่มกระทัดรัดน่ารัก ผิวพรรณนวลผ่อง ใครเห็นก็ชวนตะลึง แต่นางมีชื่อเสียงเล่าลือกันไว้ ร้ายกาจนักเป็นหญิงที่เอาแต่ใจ เพราะบิดาตามใจนางยิ่ง ด้วยเป็นบุตรีคนเดียว มารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก จึงทำให้นางเคยชินว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ตามใจตน
แม้มาหลงรักชินอ๋องก็ทำทุกวิถีทาง เพื่อจะให้ได้เขามา ตามราวีสตรีทุกคยที่มีทีท่าจะมายุ่งกับชินอ๋อง ระรานหลิวอี้เฟยทุกครั้งที่มีโอกาส เพียงเพราะนางเป็นที่พึงใจของชินอ๋อง
ส่วนชินอ๋องนั่นแสนจะชิงชังนาง แม้นางจะสวยงามปานจะล่มเมืองแต่เขารังเกียจนิสัยใจคอของนาง แถมรำคาญเวลานางพบเจอเขาเวลาใดต้องมาคอยเคล้าเคลียทำตัวสนิทสนมกับเขา ยังมองเขาด้วยแววตาที่หยาดเยิ้มแสดงความหลงไหลชายจนออกนอกหน้า น่ารำคาญตาสิ้นดี เขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงนางเสมอ
เมื่อหยางซิ่วอิงรับรู้ได้ว่าชินอ๋องพยายามหลบหน้านาง ไม่อยากพบเจอนาง เห็นนางที่ใด หรือรู้ว่านางจะไปที่ใดเขามักจะไม่ไป เพื่อจะได้ไม่ต้องพบเจอนางให้รำคาญใจ นางจึงตัดสินใจขอร้องท่านพ่อให้ขอพระราชทานสมรสให้นางกับชินอ๋อง ท่านราชครูลำบากใจแต่ด้วยความสงสารบุตรสาวคนเดียวจึงตัดสินใจขอพระราชทานสมรสให้ตามที่นางต้องการ
ชินอ๋องเมื่อได้รับราชโองการ ก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จะไปอาละวาดที่จวนท่านราชครูก็เกรงใจท่านราชครู ได้แต่ฮึ่มฮ่ำ ยินยอมทำตามราชโองการอย่างเสียมิได้ ตบแต่งนางเข้ามา ส่งเกี้ยวเก่าๆไปรับเจ้าสาว
จัดพิธีไหว้ทั้ง 4 ตามประเพณี ไม่แม้จะตกแต่งจวนด้วยสีมงคล ในจวนเหมือนไม่ได้มีการจัดงานอะไรเลย เมื่อเสร็จพิธีแม่สื่อรีบพาเจ้าสาวเจ้าไปรอเจ้าบ่าวที่ห้องหอ เมื่อพาเจ้าสาวไปนั่งรอแล้วนั้น นางรีบกลับออกมา รำพึงในใจว่าไม่เคยเห็นงานแต่งงานที่ไหนเป็นแบบนี้มาก่อน ยิ่งเป็นราชวงศ์ด้วยแล้ว และเจ้าสาวเป็นถึงบุตรีคนเดียวของท่านราชครู จัดงานแต่งรวบรัดเหมือนเจ้าบ่าวไม่เต็มใจตบแต่ง แถมไม่มีงานเลี้ยงใดๆด้วยซ้ำไป เฮ้อ !!นางถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วรีบเดินกลับออกไปจากตำหนักแห่งนี้
ซิ่วอิงนั่งรอครู่ใหญ่ นางให้เหม่ยเอ๋อแอบจุดกำยานปลุกกำหนัดอย่างรุนแรง และแอบให้เงินบ่าวคนหนึ่งเอายาปลุกกำหนัดไปใส่ไว้ในน้ำชาของชินอ๋องจากนั้น นางก็เสี่ยงดูว่าเขาจะเข้ามาที่ห้องหอหรือไม่ สักพักเสียงฝีเท้าหนักก็เดินมาถึงหน้าห้องหอ
จากนั้นผลักประตูออกอย่างแรงเมื่อประตูเปิดผาง ร่างเจ้าบ่าวที่ยังใส่ชุดแดงก็ก้าวเข้ามาในห้องหอเหม่ยเอ๋อที่เฝ้ารอที่ด้านนอกหลังจากจุดกำยานแล้ว รีบปิดประตูห้องหอทันที ชินอ๋องตรงเข้ามาจับไหล่ทั้งสองข้างนาง
"เจ้าทำอะไรข้า " ดวงตาเขาครึ้มไปด้วยเสน่หา จากนั่นกดตัวนางลงนอนบนเตียง กระชากชุดเจ้าสาวจนสาปเสื้อหลุดออกจากกัน มือหนาแหวกชุดออกจนหลุดลุ่ย จากนั้น อ้าปากดูดีดึงผลอิงเถาทั้งคู่ของนาง
ไล้เลียมันจนร่างบางสั่นระริก อ้าปากดููดดึงทรวงอกเต้าใหญ่ของนางเข้าไปแทบจะครึ่งเต้า ทำแบบเดียวกันทั้งสองเต้า จนร่างอวบแอ่นอกขึ้นจนโค้งด้วยความเสียวซ่าน นางครวญครางเสียงหวาน
บ่ายวันต่อมา ซิ่วอิงรู้สึกเบื่อๆเล็กน้อยและอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนนางจึงเข้าครัวให้เหม่ยเอ๋อนำมะม่วงไปล้างปอกเปลือกให้เรียบร้อยแล้วสอนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนางก็ลงมือทำน้ำปลาหวาน โดยใช้ปลาตากแห้งเมื่อวานมาทุบและตำให้ละเอียดนำไปเคี่ยวใส่เกลือและน้ำตาลลงไปเล็กน้อยทุบพริกที่ซื้อมาเมื่อวานลงไป ชิมรสดูพอกินได้ แก้ขัดเพราะสมัยนี้ไม่มีน้ำปลา วันหลังจะลองทำปลาร้าหมักดูเห็นมีไหที่ใช้ดองผักอยู่ที่ครัวหลักหลายใบ จะขอมาสักสองใบเอามาใช้หมักปลาร้า กลิ่นคงแรงน่าดูขณะนี้คิดก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว เหม่ยเอ๋อหันมามองพระชายาดูแจ่มใสอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก นางก็พลอยยิ้มมีความสุขไปด้วยเมื่อมะม่วงและน้ำปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ออกไปนั่งหน้าชานเรือนเล็ก นั่งลงกินมะม่วงน้ำปลาหวานกัน ขณะนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวรูปร่างผึ่งผายใบหน้าก็หล่อเหลาปรากฏที่ตรงหน้าซิ่วอิงนางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเขายิ้มให้นางจึงยิ้มตอบไป " พระชายาทำอะไรกันน่าสนุกนะ ข้ามาเยี่ยมเสด็จพี่จึงเดินเลยชมสวนในตำหนักนี้เห็นสวนสวยงาม จึงเดินเลยมาถึงเรือนนี้ " ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นยิ้มว่า " หม่อมฉันกับเหม่ยเอ๋อกำลังจะกินมะม่
บ่ายวันต่อมา ซิ่วอิงรู้สึกเบื่อๆเล็กน้อยและอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนนางจึงเข้าครัวให้เหม่ยเอ๋อนำมะม่วงไปล้างปอกเปลือกให้เรียบร้อยแล้วสอนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนางก็ลงมือทำน้ำปลาหวาน โดยใช้ปลาตากแห้งเมื่อวานมาทุบและตำให้ละเอียดนำไปเคี่ยวใส่เกลือและน้ำตาลลงไปเล็กน้อย ทุบพริกที่ซื้อมาเมื่อวานลงไป ชิมรสดูพอกินได้ แก้ขัดเพราะสมัยนี้ไม่มีน้ำปลาวันหลังจะลองทำปลาร้าหมักดูเห็นมีไหที่ใช้ดองผักอยู่ที่ครัวหลักหลายใบ จะขอมาสักสองใบเอามาใช้หมักปลาร้า กลิ่นคงแรงน่าดู ขณะนี้คิดก็หัวเราะคิกคักคนเดียว เหม่ยเอ๋อหันมามองพระชายาดูแจ่มใสอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนางก็พลอยยิ้มมีความสุขไปด้วยเมื่อมะม่วงและน้ำปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ออกไปนั่งหน้าชานเรือนเล็ก นั่งลงกินมะม่วงน้ำปลาหวานกัน ขณะนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวรูปร่างผึ่งผายใบหน้าก็หล่อเหลาปรากฏที่ตรงหน้าซิ่วอิง นางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเขายิ้มให้นางจึงยิ้มตอบไป" พระชายาทำอะไรกันน่าสนุกนะ ข้ามาเยี่ยมเสด็จพี่จึงเดินเลยชมสวนในตำหนักนี้เห็นสวนสวยงาม จึงเดินเลยมาถึงเรือนนี้ " ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นยิ้มว่า " หม่อมฉันกับเหม่ยเอ๋อกำลังจะกินมะม่วงน้ำป
ซิ่วอิงคนใหม่ ยิ้มให้เขาพลางพิศดูใบหน้าหนุ่มหล่อล่ำตรงหน้า เขามีใบหน้าคมคาย ผิวคร้ามแดด หุ่นล่ำสันท่าทางองอาจ คาดว่าทรงนี้กล้ามต้องแน่นแน่นอน ซิคแพ็คหกลูกแน่ๆ เปกเลย แต่นางก็เก็บอาการกระดี้กระด้าไว้ " ไม่ได้พบกันเสียนานข้าจำแทบไม่ได้นะ " นางกล่าวยิ้มๆ จากนั้นรองแม่ทัพถังก็ชวนนางไปทานอาหารที่ภัตตาคารที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ นางจึงเดินตามเขาไปพร้อมเหม่ยเอ๋อ เมื่อเดินไปถึงหน้าภัตตาคารทั้งสามขึ้นไปบนชั้นสองและเดินผ่านโต๊ะหลายโต๊ะไปจนถึงโต๊ะริมระเบียงติดถนนที่ผ่านตลาด ซิ่วอิงบอกว่านางอยากชมบรรยากาศในตลาดไปด้วยระหว่างทานอาหารกันทั้งสามนั่งลงเลือกอาหารที่ขึ้นชื่อมาหลายอย่าง รองแม่ทัพถังชี้ชวนนางให้เลือกอาหารที่นางชอบ เมื่อเสี่ยวเอ้อเอาอาหารที่สั่งไปมาวางบนโต๊ะ ซิ่วอิงคีบอาหารในจานมากินทีละอย่างชมเปาะว่าอร่อยอย่างที่รองแม่ทัพถังบอกเล่า ระหว่างที่ทั้งสามทานอาหารและคุยกันไปนั้นมีสายตาคมกริบคู่หนึ่งจ้องมามองไม่วางตา ชินอ๋องนั่นเอง เขานั่งสนทนากับสหายและองครักษ์ประจำกายของเขา เขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านกับบุรุษผู้หนึ่งท่าทางสนิทสนม เดินเลยผ่านโต๊ะที่เขานั่งไปไม่ทักทายเขาสักคำเหมือนนางไม
ช่วงสายๆ วันต่อมาซิ่วอิงชวนเหม่ยเอ๋อไปเที่ยวตลาดกัน จากนั้นจึงเรียกบ่าวชายที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นให้ไปแจ้งพ่อบ้านให้เตรียมรถม้าให้นางจะไปตลาด สักพักก็พากันเดินออกไปขึ้นรถม้าหน้าตำหนักขณะที่ซิ่วอิงเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ผ่านสวนสวยงามภายในจวนจนกระทั่งผ่านหน้าเรือนของชินอ๋อง ซิ่วอิงเหลือบเห็นเจ้าตัวเขากำลังยืนคุยกับพ่อบ้านเหมือนกำลังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก แต่นางแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา เดินผ่านเลยไปกับเหม่ยเอ๋อ เมื่อเหม่ยเอ๋อเห็นพระชายาไม่ทักทายหรือทำความเคารพท่านอ๋องนั้นนางก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นไปด้วย พากันเดินออกไปหน้าประตูตำหนักเพื่อขึ้นรถม้าไปตลาด ชินอ๋องนั้นเห็นนางตั้งแต่เดินลัดเลาะออกมาจากเรือนเล็กของนางนั้น เขาจึงแกล้งทำเป็นยืนอยู่ตรงหน้าเรือนเพื่อนางผ่านมาจะได้เห็นเขาชัดๆ แต่นางกลับมองไม่เห็นเขาผ่านเลยไปเหมือนไม่มีใครยืนอยู่บริเวณนั้นชินอ๋องเลยหันไปมองทั้งซ้ายและขวาก็เห็นว่าข้างตัวเขาไม่มีต้นไม้หรืออะไรบังตัวเขาทำให้นางไม่เห็น แต่ทำไมนางเดินเลยผ่านไปเช่นนั้นเล่า เขางุนงุงยิ่งนักด้านซิ่วอิงกับเหม่ยเอ๋อเมื่อรถม้าถึงหน้าตลาดก็บอกให้คนขับไปหาที่จอดรอ หากนางเสร็จธุระแล้วจะมาร
เหม่ยเอ๋อตกใจ แต่คิดว่าอาจเป็นเพราะคุณหนูสลบไปนานหลายชั่วยามจึงเป็นเช่นนี้ " ที่นี่ตำหนักชินอ๋องเจ้าค่ะ คุณหนูเป็นบุตรีท่านราชครูหยาง ตอนนี้แต่งงานเข้ามาเป็นพระชายาของชินอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเจ้าค่ะ “ เดี๋ยวนะฉันคือพระชายาชินอ๋อง ทำไมเรื่องมันดูคุ้นๆเหมือนในซีรี่ย์ที่เคยดูเลย อย่าบอกว่า นี่คือนางร้ายที่ชื่อหยางซิ่วอิงใช่ไหม ” ข้าชื่อหยางซิ่วอิงใช่ไหม “ เหม่ยเอ๋อพยักหน้า จ้องมองดูคุณหนูเพื่อดูว่านางมีอาการผิดปกติอะไรนอกจากความจำเสื่อมหรือไม่ ” คุณหนูเจ็บที่หัวหรือไม่เจ้าคะ “ พลอยใสอดีตดาราสาวที่ไม่ค่อยมีงานในวงการนานแล้ว เมื่อคืนหลับไปตื่นมาอีกทีอยู่ในร่างของนางร้ายในซีรี่ย์ที่ตัวเองเคยดู จึงพอใจเข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาอยู่บ้าง ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงสวมรอยไปทันที” ข้าไม่เจ็บแล้ว ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น เพียงแต่ความจำสูญหายไปบางส่วน จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เจ้าเชื่อเหม่ยเอ๋อใช่ไหม ลองเล่าเรื่องของข้าทุกเรื่องให้ข้าฟังหน่อย ข้าจะได้ทบทวนความจำบางอย่างเท่านั้น เผื่อจะอะไรได้บ้าง " เหม่ยเอ๋อพยักหน้า " แต่ก่อนอื่นคุณหนูต้องทานซุปร้อนๆ ก่อนนะเจ้าคะ คุณหนูยังไม่ได้ทานอะไรเลยทานซุปเ
เมื่อบ่าวอุ้มตัวพระชายาหยางเข้าไปวางบนเตียงในห้องแล้ว เหม่ยเอ๋อที่ร้องไห้อยู่นั้นรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้นาง จับดูชีพจรของนาง เอามืออังลมหายใจของนางพบว่ามีลมออกมาเล็กน้อย ท่านอ๋องหนุ่มวิ่งตรงเข้าไปในห้องมอง มองเห็นพชายาของตนเองนอนนิ่งเงียบอยู่บนเตียงอาภรณ์ของนางถูกผลัดเปลี่ยนแล้ว โดยมีเหม่ยเอ๋อนั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่ข้างๆ “ เดี๋ยวหมอคงจะมาถึงนางเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกตัวหรือยัง ” ท่านอ๋องถามเหม่ยเอ๋อขึ้นเบาๆ เหม่ยเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองชินอ๋องในใจนางเกลียดชังชายคนนี้เหลือเกิน เกลียดที่เขาทำร้ายคุณหนูของนางจนเกือบตาย วันนี้นางไม่แน่ใจว่าจะได้คุณหนูคืนมาหรือเปล่า แต่นางเป็นเพียงบ่าวตัวเล็กๆไม่อาจทำอะไรได้้มากนัก จึงตอบเบาๆว่าคุณหนูหายใจรวยรินเจ้าค่ะ บ่าวให้คนไปตามท่านราชครูแล้ว สักพักคงจะมาพร้อมท่านหมอ ท่านอ๋องเดินตรงไปก้มลงมองชายาของตนเอง หน้าของนางซีดเผือดดูไร้ชีวิตจิตใจ หัวใจเขาเศร้าหมองแม้เขาไม่เคยรักนางเลย แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ภาพที่นางยืนน้ำตาไหลมองเขาหัวเราะระรื่นกับหลิวอี้เฟยนั้นยังติดตาเขาอยู่หากนางเป็นอะไรไปเขาก็คงรู้สึกผิดที่ไม่รู้ว่านางจะรักเขามากจนถึงกับเสียอกเสียใ
Comments