สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ

สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-29
โดย:  วอลจูอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel4goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
15บท
294views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

สงครามครั้งนี้พรากทุกอย่างไปจากนาง ครอบครัว..พี่น้อง สหาย นางไม่เหลือผู้ใดอีกแล้วแม้กระทั่งไร้บ้านให้ซุกหัวนอน ลู่อันต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดท่ามคมดาบและต้องคอยหลบหนีพวกเดนทหาร นางเป็นสตรี สตรีในสงครามมีค่ายิ่งว่าทองคำเสียอีก ในวันที่นางเกือบสิ้นลมหายใจแต่กับมีบุรุษผู้หนึ่งยื่นมือช่วยเหลือ คนผู้นั้นคือ หลีหลงเว่ย ทั้งแข็งกร้าวเหี้ยมโหดไม่ต่างจากมัจจุราช สังหารเค้นฆ่าผู้คนได้ไม่กระพริบตา เมื่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายมาถึง...หลีหลงเว่ยเป็นผู้หยิบยื่นโอกาสและมอบชีวิตใหม่ให้นาง กลายเป็นบุญคุณค้ำคอที่ต้องตอบแทน และตกกลุ่มพรางของบุรุษเจ้าเล่ห์ เพียงแค่ค่ำคืนนั้นค่ำคืนเดียว นางกลายเป็นสตรีใต้อาบัญติของเขาไปตลอดกาล

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทนำ

แผ่นดินทางตอนใต้ของแคว้นที่เงียบสงบมานานทว่าเมื่อหลายเดือนก่อนกลับถูกรุกรานด้วยเหล่าทหารกบฏที่ร่วมมือกับพวกชนเผ่าเพื่อต้องการมีอำนาจเป็นใหญ่ จนก่อเกิดสงครามและความวุ่นวายที่ยืดเยื้อขัดแย้งกันเนิ่นนานทำให้บ้านเมืองเกิดความโกลาหลบัลลังก์มังกรเกิดความกระสับกระส่าย

เหล่าขุนนางต่างแตกแยกไร้ความปองดอง

สงครามที่รุกรานกินพื้นที่ของแคว้นเมื่อนานวันเข้าจึงเป็นกระจายวงกว้างส่งผลให้ผู้คนบริสุทธิ์ล้มตายเกลื่อน

ไม่ว่าจะตั้งแต่เด็กเล็กตัวแดงตลอดจนไปถึงวัยชราต่างต้องลุกขึ้นมาจับดาบฆ่าฟันเพื่อเอาตัวรอด เพราะหากไม่เป็นฝ่ายฆ่ากลับต้องเป็นฝ่ายถูกฆ่าซะเอง

ส่วนเหล่าสตรีตั้งแต่เด็กสาวไปจนถึงหญิงชราจะรอดพ้นจากการเป็นเครื่องมือบำเรอความสุขให้เหล่าเดนทหารได้อย่างไร

สตรีนั้นมีค่ายิ่งกว่าทองคำ

ชะตาที่ชีวิตที่หากไม่เป็นร่างไร้บมหายใจก็กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ

สมรภูมิรบที่ลุกโชนแผดเผาผู้คนทุกหย่อมหญ้าจนมอดไหม้ เสียงหวีดร้องโหยหวนร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพชเวทนาแต่สิ่งที่ตอบรับมานั้นคือคมดาบที่เฉียดแทงทะลุจนกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณพร้อมเสียงคำรามด้วยความสะใจอย่างไรค่า

ในขณะเดียวกันนั้นภายในราชสำนักพลันเกิดการทะเยอทะยานเป็นใหญ่ระหว่างขุนนางและเหช่าเชื้อพระวงศ์ต่างพยายามแย่งชิงอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง หากบ้านเมืองจะพังพินาศไปก็ตามแต่คนเหล่านี้ในเมื่อไม่ใช่เรื่องของตนเองย่อม ไม่สนใจ

ผู้มีอำนาจรอด…ผู้ไร้อำนาจกลายเป็นเครื่องมือสังเวยของสงครามไม่มีวันจบ

กระทั่งภายหลังเกือบหนึ่งปีต่อมา ซู่กั๋วกง ฉีเซียว รวบรวมอำนาจทหารส่วนหนึ่งไว้ในมือได้จึงคิดการกบฏลงมือสังหารทรราชจางฮ่องเต้และแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ปกครอง แคว้นแทน มิหนำซ้ำยังลงมีว่าราชการด้วยตนเองท่ามกลางความไม่เห็นชอบและไม่พอใจของผู้คนมากมาย

ถ้อยคำของคนพวกนั้นเป็นเพียงแค่บมปากเท่านั้น

ฮ่องเต้องค์ใหม่หาได้สนใจลงมือร่างกีฎาฉบับหนึ่งขึ้นมาท่านกลางเสียงขัดค้านมากมาย ผู้ที่คิดคดทรยศต่อบ้านเมืองสังหารโดยไม่ยกเว้นโทษเก้าชั่วโคตร

การช่วงชิงอำนาจในราชสำนักนิ่งสงบลง

บัลลังก์กลับมาเข้มแข็งดังเดิมแต่สงครามยังไม่จบสิ้น…

อีกทั้งยังสั่งปลดและถอดทอนตำแหน่งแต่งตั้งบุคคล ที่จำเป็นต่อความมั่นคงของบ้านเมือง หนึ่งในนั้น หลีหลงเว่ย ให้กลายเป็นแม่ทัพกล้าออกไปรบให้แล้วสิ้น

คลังอาวุธที่แทยไม่เหลือ แม้แต่เสบียงอาหารอันน้อยนิดที่ส่งออกไปยังค่ายทหารยังถูดปล้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ฉีฮ่องเต้มีความเห็นว่าสมควรที่จะจบศึกที่ยืดเยื้อมานานต้องจบลงในครั้งนี้ จึงส่งเหล่าทหารกล้าพร้อมแม่ทัพกล้าออกไปสู้รบปราบกบฏอีกครั้งเพื่อนำพาความสงบมาแก่บ้านเมือง

ยามนี้ทางตอนใต้ของแคว้นที่เคยอุดมสมบูรณ์ แต่ในช่วงเวลาเกือบสองปีที่ถูกรุกรานพื้นที่บัดนี้กลับย่ำแย่ลงไปด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนน่าหดหู่ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยการเค้นฆ่า

จนกระทั่งล่วงเลยเข้าสู่ฤดูเหมันต์

เหล่าทหารที่ปกป้องบ้านเมืองล้มลงอย่างหมดแรง ทว่าจู่ ๆ กลับต้องลุกขึ้นมาสู้เฮือกสุดท้ายของลมหายใจ

ทันทีที่เดินทางมาถึง แม่ทัพหนุ่มสวมชุดเกราะสีเงินนั่งบนหลังม้าสง่าปกปิดทุกส่วนในร่างกายมีเพียงนัยน์ตาเย็นเยือกที่จ้องมองผู้คนด้วยสายตานิ่งเฉยเท่านั้นแต่กลิ่นไอสังหารกลับแผ่ซ่า

การสู้รบที่ไม่ว่าจะวางแผนอย่างไรก็ยังคงมืดมิดไร้หนท่งการเอาชนะ เสมือนว่าสวรรค์ยังคงไม่พอใจ

แต่ไม่ว่าอย่างไรหากรักชีวิตก็ไม่อาจหันหลังกลัยไปได้

“ฆ่า! ฆ่าอย่าให้เหลือ” น้ำเสียงแข็งกร้าวตะโกนก้อง

“ไม่แบ่งแยก! หากพบเจอผู้ใด ไม่แบ่งพรรคแย่งพวกสมควรสังหารทิ้งเท่านั้น! ไม่อาจไว้ชีวิต!” แม่ทัพหนุ่มออกคำสั่งอย่างไรความปรานี…เขานั้นไม่ต่งจากมัจจุราชพร้อมจะพรากชีวิตผู้คน

จู่ ๆ ก็มีน้ำเสียงหนึ่งโต้กลับมา “หากเป็นชาวบ้านคนบริสุทธิ์แล้วจะทำอย่างไรขอรับ!”

เมื่อแลกกลับความสงบของคนทั้งแคว้นแล้ว…

“จะเอาชะตาชีวิตของผู้คนทั้งแคว้นมาทิ้งไว้กับแค่สิบชีวิตอย่างงั้นหรือ..ฆ่าทิ้ง!”แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านั้นบริสุทธิ์จริงแท้ ในสมรภูมินี้มีแต่ศัตรูเท่านั้น เพียงชั่วพริบตาแม่ทัพหนุ่มจึงตะโกนโห่ร้องก้องเปี่ยมอำนาจปลุกใจเหล่าทหาร

ตั้งแต่เป็นเด็กสาวจนถึงดรุณีแรกแย้ม นางล้วนพบเห็นผู้คนล้มตายต่อหน้ามานับไม่สิ้น กลิ่นสาบคาวเลือดที่เป็นเรื่องน่ากลัวกลับกลายเป็นต้องสูดลมหายใจทุกวันอย่าง

และวันนี้นางตัดสินใจสู้เป็นคราแรกหลังจากหลบซ้อนอย่างหวาดกลัวมานาน

แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยงของลมหายใจ..นางยังอยากมีชีวิต

“แล้วสิบชีวิตไม่ใช่คนหรืออย่างไร”

ในจังหวะที่แม่ทัพหนุ่มควบม้าออกล่าตระเวนอยู่นั้น จู่ ๆ ก็พลันมีเด็กสาวผู้หนึ่งสองขาของนางก้าวออกมายืนตัดทางม้าเอาไว้ โง่งมหรืออวดดีถึงกล้ายืนประจันหน้ากับบุรุษสวมชุดเกราะบนหลังม้ามองด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว

“ท่านคิดว่าแค่ถือดาบไว้ในมือแล้วจะลงมือสังหารผู้อื่นได้ตามใจชอบเช่นนั้นหรือ”

ภายใต้หน้านั้น เขาหยักยิ้มด้วยความสมเพช

เพียงพริบตาเดียวหอกแหลมลมพุ่งชี้ไปที่ลำคอระหงทันที สตรีล้วนเป็นเฉกเช่นเดียวกันหมด…สิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญ

“แน่นอนว่าเจ้าเองก็สมควรตาย”

ไฉนสวรรค์ถึงหยิบยื่นความตายให้นั้นเป็นเรื่องง่ายดายเช่นนี้ ไม่นานนางจึงพลันกรีดร้องด้วยความตกใจก่อนที่ความเจ็บจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนกระอักเลือด

สตรีรูปร่างผอมผายบอบบางหรือจะทนต่อแรงเจ็บปวดได้

“ช่วยข้า…”

เพียงชั่ววูบเท่านั้น…นางยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อจริง ๆ

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
15
บทนำ
แผ่นดินทางตอนใต้ของแคว้นที่เงียบสงบมานานทว่าเมื่อหลายเดือนก่อนกลับถูกรุกรานด้วยเหล่าทหารกบฏที่ร่วมมือกับพวกชนเผ่าเพื่อต้องการมีอำนาจเป็นใหญ่ จนก่อเกิดสงครามและความวุ่นวายที่ยืดเยื้อขัดแย้งกันเนิ่นนานทำให้บ้านเมืองเกิดความโกลาหลบัลลังก์มังกรเกิดความกระสับกระส่ายเหล่าขุนนางต่างแตกแยกไร้ความปองดองสงครามที่รุกรานกินพื้นที่ของแคว้นเมื่อนานวันเข้าจึงเป็นกระจายวงกว้างส่งผลให้ผู้คนบริสุทธิ์ล้มตายเกลื่อนไม่ว่าจะตั้งแต่เด็กเล็กตัวแดงตลอดจนไปถึงวัยชราต่างต้องลุกขึ้นมาจับดาบฆ่าฟันเพื่อเอาตัวรอด เพราะหากไม่เป็นฝ่ายฆ่ากลับต้องเป็นฝ่ายถูกฆ่าซะเองส่วนเหล่าสตรีตั้งแต่เด็กสาวไปจนถึงหญิงชราจะรอดพ้นจากการเป็นเครื่องมือบำเรอความสุขให้เหล่าเดนทหารได้อย่างไรสตรีนั้นมีค่ายิ่งกว่าทองคำชะตาที่ชีวิตที่หากไม่เป็นร่างไร้บมหายใจก็กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณสมรภูมิรบที่ลุกโชนแผดเผาผู้คนทุกหย่อมหญ้าจนมอดไหม้ เสียงหวีดร้องโหยหวนร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพชเวทนาแต่สิ่งที่ตอบรับมานั้นคือคมดาบที่เฉียดแทงทะลุจนกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณพร้อมเสียงคำรามด้วยความสะใจอย่างไรค่าในขณะเดียวกันนั้นภายในราชสำนักพลันเกิดการทะเยอทะยา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-14
อ่านเพิ่มเติม
๑ ชะตาชีวิตที่เปลี่ยนไป
พอหลีหลงเว่ยกลับมาถึงกองทัพท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วทั่วทั้งบริเวณค่ายทหารจุดคบเพลิงจนไฟสว่างวาบ ทั่วบริเวณ หน้าประตูค่ายมีนายทหารเวรยามคอยเฝ้าหน้าประตูทางเอาไว้แต่จู่ ๆ พลันได้ยินเสียงควบม้าวิ่งพุ่งตรงมาทางนี้ ด้วยความตื่นตระหนกเกรงว่าเป็นพวกกบฏที่จะลอบกัดบุกรุกยามค่ำคืนจึงตะโกนร้องเรียกเหล่าทหารกล้าเป็นเสียงดังจนมีหลายสิบนายหน้าต่างตื่นวิ่งชักดาบออกมาอย่างเร่งรีบ“เฝ้าระวังให้ดี!” สุ้มเสียงขอคนผู้หนึ่งร้องก้องขณะนั้นเองก็ปรากฏแสงสะท้อนจากเสื้อเกราะเงิน สว่างวาบมาไกลที่แท้เป็นท่านแม่ทัพนี้เอง!เหล่าทหารกล้าจึงถอนหายใจโล่งอก วันนี้ตั้งแต่รุ่งสางจนพระอาทิตย์ตกดินยังไม่ทันจะได้พักก็ต้องหยิบดาบขึ้นมาต่อ สู้อีกแล้ว ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้คงได้พ่ายแพ้แน่“เดี๋ยวก่อน!”แต่ทว่าจู่ ๆ พอได้ยินเสียงเช่นนี้ เหล่าทหารที่ลดดาบลงไปแล้วกลับต้องยกขึ้นสูงอีกครั้ง สายตานับสิบคู่ต่างเป็นเพ่งมองตรงหน้าเป็นตาเดียวถึงแม้จะคุ้นเคยว่าเป็นท่านแม้ทัพหากแต่ไม่เห็นด้วยตาก็ไม่อาจวางใจได้ในที่สุดระยะทางที่ไกลโพ้นก็สิ้นสุดลงเสียงทีหลีหลงเว่ยปล่อยมือข้างหนึ่งจากยังเหี่ยน ผ่อนแรงควบ ม้าลงก่อนจะเดินมาหยุดลงอยู่ท
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-14
อ่านเพิ่มเติม
๒ บุรุษผู้ใจดี
ถึงสภาพของนางจะใบหน้าจะเปรอะเปื้อนสกปรกมากเพียงใดหรืออาภรณ์ขาดรุ่ยร่ายมีคราบเลือดติดแห้งจนส่งกลิ่นเหม็นแสบจมูก ทว่าเฟิ่งหมิงกับไม่แตะต้องหรืออยู่เกี่ยวกับร่างกายของสตรีผู้นี้แม้แต่ปลายนิ้วเขาเป็นแพทย์ทหารหน้าที่ของเขาคือรักษาผู้บาดเจ็บให้หายเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นหาใช่หน้าที่ที่ต้องทำขณะเดียวกันนั้นภายในกระโจมหลังนี้กำลังมีบุรุษผู้นี้ยืนกอดอกขมวดคิ้วมุ่นสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้จินหัวเอาแต่ขบคิดว่าสตรีผู้นี้สำคัญจริง ๆ หรือ…เหตุใดถึงนำพากลับมาแล้วทว่ายังไม่ทันข้ามวันก็ทิ้งไว้ข้างหลังส่วนผู้นำกลับมาโดยหายไปทันที“เจ้าว่านางเป็นเมียกบฏจริงหรือไม่เฟิ่งหมิง” องครักษ์หนุ่มตามด้วยความสงสัยหากสังเกตดูแล้วถึงใบหน้าของสตรีบนเตียงแม้ในยามนี้จะไม่น่ามองเท่าไหร่นัก แต่กับมีความงามให้เห็นอยู่เจ็ดส่วนเท่านั้น ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้ม คิ้วโก่งดั่งภูเขา ริมฝีปากที่ถึงแม้จะซีดเซียวราวกับซากศพทว่ากับอวบอิ่มเฟิ่งหมิงหรี่ตามอง “หาใช่เรื่องของข้าที่ต้องอยากรู้”ไม่ว่าสตรีผู้นี้จะมีฐานะเป็นอะไรหรือมีความสำคัญมากเพียงใด หน้าที่ของเขาคือต้องรักษานางให้ฟื้นคืนเท่านั้น!เพียงนึกถึงนัยน์แ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-14
อ่านเพิ่มเติม
๓ หลีหลงเว่ย
ลู่อันได้ยินแล้วจึงตกตระลึงร่างกายแข็งทื่อไม่กระจ่างแจ้ง นัยน์ตากลมโตจดจ้องบุรุษตรงหน้าด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจสามส่วน “ข้า..ข้าคิดว่าท่านยังเป็นคนดีผู้หนึ่ง” น้ำเสียงหวานแฝงความผิดหวังเป็นนางที่หลงเชื่อคนง่ายไปหรือมองคนไม่ออกกันแน่“เกรงว่าบาดแผลที่กำลังจะสมานคงแย่ลงขอรับ” เฟิ่งหมิงพูด เขาหาได้จะช่วยเหลือนางแต่ตอนนี้เขากำลังช่วยตนเองต่างหากเพียงแค่งานภายในค่ายทหารที่ต้องรักษาคนป่วยไม่เว้นวันก็วุ่นวายพอแล้วไหนเลยจะต้องสละเวลาพักผ่อนร่ำสุรามารักษาสตรีผู้นี้ไม่จบสิ้นหลีหลงเว่ยหันขวับมอง “ออกไป!” น้ำเสียงทุ้มออกคำสั่ง“……” เฟิ่งหมิงถอนหายใจผู้มีฐานะต่ำกว่าหรือจะต่อรองได้ในกระโจมหลังนี้จึงเหลือเพียงนางและบุรุษผู้หน้าเนื้อใจเสือเท่านั้น “ได้โปรดอย่าทำอันใดข้าเลย” ร้องวิงวอนของความเมตตาจากเขาอีกครั้งมุมปากหน้าหยักยิ้ม “ข้าไม่เคยบอกว่าตนเองเป็นคนดี”หลีหลงเว่ยค่อย ๆ ก้าวเท้าตามสตรีตรงหน้าขณะที่นางกำลังเดินถอยหลังหนี “รู้หรือไม่ว่าข้าสังหารคนมานับไม่ถ้วนแล้ว” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาราวกับภาคภูมิใจลู่อันส่ายหน้า ความหวาดกลัวเริ่มกัดกินจิตใจอีกครั้งแม่ทัพหนุ่มหัวเราะเสียงเยือกเย็นพรึ่บ!เพี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-14
อ่านเพิ่มเติม
๔ สตรีบำเรอ
หลีหลงเว่ยเป็นบุรุษหล่อคมคายผู้หนึ่งซ้ำยังเป็นแม่ทัพกล้า มีร่างกายแข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้าและยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจิตใจล้วนต้องสงบนิ่งตามด้วย ทว่าในยามนี้เองสุรารสหวานที่ได้ดูดดื่มจากสตรีตรงหน้ากับทำให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มหลงใหลจนไม่อยากผละตัวออกห่างเห็นได้ชัดแล้วว่านางกำลังเคลิบเคลิ้มไม่ปฏิเสธถึงแม้ในคราแรกลู่อันจะตกใจที่เขาฉกฉวยโอกาสแต่หากสังเกตจากนัยน์คมกริบคู่นั้นแล้ว นางจึงค่อย ๆ ดึงตัวออกห่างทันทีซ้ำยังหลยสายตาไม่กล้ามอง“ท่าน…ท่านเมาแล้ว” น้ำเสียงแผ่วเบาพูดขึ้นสำหรับหลีหลงเว่ยแล้วไม่ว่าจะฟังอย่างไรน้ำเสียงแหบพร่านี้จงใจยั่วเย้าชัด ๆรสหวานจากนางยังคละคลุ้งส่งกลิ่นหอมในปากของเขามุมปากหนาหยักยิ้มเยาะ หลีหลงเว่ยไม่ได้พูดอันใด เขาเอาแต่จดจ้องใบหน้าคนงามที่ขึ้นสีแดงจนเข้มด้วยสุราแรงที่หน้าดื่มไปหมดไหก่อนหน้านี้มิหนำซ้ำตอนนี้ยังคงดื่มต่ออีกไห“ข้าคงเมามายไปแล้วจริง” หลีหลงเว่ยช้อนสายตามองเมื่อเห็นว่าแม่ทัพหนุ่มตั้งท่าลุกขึ้นจะเดินจากไป นางจึงคว้ามือเอาไว้ “อยู่เป็นเพื่อนข้าได้หรือไม่”‘ระวังตัวเจ้าไว้ให้ดี คนพวกนี้ไม่สนว่าเจ้าจะเป็นคุณหนูจากบ้านไหน’ ถ้อยคำพูดนั้นยังคงดังก้องในหั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-16
อ่านเพิ่มเติม
๕ ทาสเชลย
ในยามราตรีที่มืดมิดท่ามกลางความเงียบสงบนั้น ค่ายทหารตั้งอยู่กลางหุบเขาที่เงียบสงัดจึงมีเพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้และเสียงหายใจของทหารที่หลับใหล กองทัพกบฏเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ ทุกคนล้วนแต่งกายด้วยชุดสีดำกลมกลืนกับ ความมืดคนพวกนี้ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาใกล้ค่ายทหารด้วยท่าทีระมัดระวังไร้เสียงฝีเท้าช่วงเวลาพักผ่อนของพวกเหล่าทหารถือเป็นโอกาสการกระทำของพวกกบฏเหล่านี้ไม่ต่างจากสุนัขลอบกัดแสนต่ำต้อยตัวหนึ่ง หากแต่เป็นการนำชัยชนะมาย่อมไม่เก็บมาใส่ใจค่ายทหารตอนนี้เงียบเชียบโดยไม่ทันได้สังเกตอันตรายที่เข้าใกล้ตัว พวกกบฏบุกรุกเข้ามาในค่ายเคลื่อนไวอย่งเงียบเชียบประหนึ่งภูตผี เมื่อลอบดูระยะหนึ่งแล้วว่าปลอดภัยสั่งการด้วยสัญญาณมือ ทหารกบฏแยกย้ายไปตามจุดต่างๆ ของค่ายทหารเป้าหมายคือการโจมตีอีกฝ่ายโดยไม่ทันตั้งตัวทันใดนั้นเองเหล่าคนพวกกบฏเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว บางคนขว้างปาหินใส่คบเพลิงดับไฟลง บางคนตัดเชือกที่ยึดกระโจมให้ล้มลง จนกระทั่งเสียงโลหะกระทบกันและเสียงโห่ร้องดังขึ้น ค่ายทหารรุกกระโจมของทหารอีกฝ่ายลงมือสังหารทันทีความสงบกลายเป็นความวุ่นวายชั่วพริบตาเหล่าพวกกบฏบุกเข้าไปในกระโจมกระโดดขึ้นที่น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-19
อ่านเพิ่มเติม
๖ หนทางที่เปลี่ยน
ในที่สุดยามนี้ก็มาถึง…ภายในวังหลวงตอนนี้ล้วนประดับประดาตกแต่งไปด้วยโคมไฟสีทองและผ้าสีแดงที่สื่อถึงความมงคลฮ่องเต้หนุ่มนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอย่างสง่าผ่าซ้ำมุมปากยังยกยิ้มเยาะ สงครามที่ยืดเยื้อมาเนิ่นนานหลายปีได้จบลงเสียทีพร้อมชัยชนะที่ได้นำกลับมา เกรงว่าต่อจากนี้คงไม่มีผู้ใดกล้าครหาหรือดูหมิ่นต่อต้านขัดขืนในอำนาจที่เขาได้รับมาโดยไม่ยุติธรรมอีกแววตาคมกริบเปี่ยมด้วยอำนาจน่าหวั่นเกรงกวาดสายตาทั่วท้องพระโรงมองเห็นเหล่าทหารองครักษ์ยืนเรียงรายเป็นแถวสงบนิ่ง เหล่าพวกขุนนางบนล่างนั่งสงบเสงี่ยมฉีฮ่องเต้หัวเราะเสียงเย็น ริมสุราแรงลงจอกก่อนจะยกดื่ม“ยังจะมีผู้ใดบังอาจกล้าข่มขู่ขัดข้าอีกหรือไม่” ฉีฮ่องเต้พึมพำกับขันทีและเหล่าองครักษ์ข้างกายการผลัดเปลี่ยนที่นั่งบัลลังก์อย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้หนุ่มต้องเผชิญหน้ากับคำดูถูกและสายตาที่ดูแคลนเหยียดหยามมากมายเพียงเพราะหาใช่รัชทายาทโดยชอบธรรมแต่ตลอดเวลาที่นั่ง บัลลัลก์มา ฉีฮ่องเต้กลับไม่เคยหวั่นเกรงกลัวผู้ใดแม้แต่สักคน และชัยชนะที่ได้จากสงครามครานี้กับยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งยังเสริมอำนาจในมือที
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-20
อ่านเพิ่มเติม
๗ ความเจ็บปวด
วันแล้ววันเล่าผ่านไปแต่สตรีบนเตียงยังคงนอนแน่นิ่ง ไม่ได้สติจนกระทั่งเฟิ่งหมิงเกิดความรู้สึกอดสูและหมดปัญญาหนทางที่จะทำให้นางฟื้นคืนได้แล้ว ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างเตียง ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าหากนางไม่ฟื้นเกรงว่าเขาเองก็ไม่สามารถไปร่ำสุราเคล้าสตรีได้ตามใจชอบ“บาดแผลเจ้าหายดีแล้ว” เฟิ่งหมิงพึมพำไม่ว่าจะส่วนแผลที่ปริแตกหรือรอยฟกซ้ำตามร่างกายหายดีแล้วเพียงแต่ร่างกายนี้กลับผอมผ่ายลงทุกวัน“…..” คนบนเตียงยังคงเอาแต่นอนเงียบ“หากเจ้าไม่ฟื้นข้าจะฝังกลบดินเจ้าเสีย!” เฟิ่งหมิงข่มขู่จินหัวพลางส่ายหน้าเอือมระอา “อย่าว่าแต่เจ้าเลยสหาย ข้าเองก็อยากทำเช่นนั้น” ยืนกอดอกมองนิ่ง ๆฐานะเขาในยามนี้ไม่ต่างจากบ่าวรับใช้ข้างกายของสตรีบนเตียงเลยสักนิ พอเช้าเขาต้องเร่งรีบปรี่มาโรงหมอและพออาทิตย์ ตกดินก็ต้องกลับจวนเหอะ! นี่ข้าถูกลดฐานะแล้งหรือไรกันเฟิ่งหมิงปรายตามมอง “เจ้าเพียงแค่มาเฝ้านางเท่านั้น หาได้มานั่งรักษานางเฉกเช่นกัน!”“ชีวิตข้าก็อดสูไม่ต่างจากเจ้า!”เฟิ่งหัวเองก็ได้แต่หัวเราะฝืน ๆ “หากเจ้า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-20
อ่านเพิ่มเติม
๘ หนีไม่พ้น
นางกำลังนั่งมองถ้วยน้ำแกงสมุนไพรบนโต๊ะที่ก่อนหน้าถูกเคี่ยวร้อน ๆ จนตอนนี้เย็นชืดหมดแล้ว มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนมีความรู้สึกขมคอแทบจะอ้วกออกมา สิ่งแรกหลังจากตื่นนอนสมควรจะเป็นน้ำดื่มเย็นชื้นใจแต่ไหนเลยกับต้องเป็นยาต้มขม ๆ นี้“อ้าปาก!” น้ำเสียงทุ้มออกคำสั่งลู่อันหันไปถลึงตาใส่บุรุษข้างกายด้วยความโมโหทันที “ยานี้ขมปี๋เกรงว่าแม้แต่ยามผายลมออกมาล้วนเหม็นไปถึงหน้า โรงหมอของท่าน”“ไร้มารยาท!” เฟิ่งหมิงกระแทกเสียง คาดว่าสตรีทั่วทั้งคนมีคนตรงหน้านี้ที่นิสัยแปลกประหลาด “อ้าปากแล้วกลืนลงไปบัดเดี๋ยวนี้ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทนกับเจ้า!”น้ำเสียงของเขาไม่ได้ข่มขู่สักนิดแต่เฟิ่งหมิงจะทำเช่นนั้นจริง ๆ หากยังคงดื้อดึง“ไม่!” นางปฏิเสธ“เจ้าเป็นเด็กสามขวบหรือไร!”แน่นอนย่อมใม่ใช่! ลู่อันส่ายหน้าปฏิเสธเฟิ่งหมิงกัดฟันกรอด ตั้งท่าจะจับน้ำแกงกรอดปาก!!!!“ข้าดื่มแล้ว! ดื่มแล้ว!”“…..”“ท่านมีก้อนน้ำตาหวานหรือไม่?” ถึงแบบนั้นก็ช่วยเห็นใจนางหน่อยไม่ได้หรือ ลู่อันกะพริบตาปริบ ๆ ประหนึ่งลูกกระต่ายน้อยที่กำลังออดอ้อนขอขนมเฟิ่งหมิงเพื่อปรายสายตามอง“ข้าต้องฝืนกินยาขม ๆ นี้ไปอีกตั้งหลายวัน” นางยังคงยกหาข้ออ้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-21
อ่านเพิ่มเติม
๙ ร่วมเตียงอีกครั้ง
เรียวแขนทั้งสองข้างนางถูกตราตรึงไว้เหนือศีรษะ เรือนร่างถูกคร่อมทับด้วยบุรุษตัวโตกว่า ลู่อันไม่มีทางยอมให้เหตุการณ์ซ้ำซ่อนแน่“ปล่อยข้า!” นางโวยวายลู่อันพยายามดีดดิ้นให้เป็นอิสระแต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดหรือจะสู้แรงมหาศาลจากบุรุษซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นแม่ทัพกล้า!พอยิ่งเห็นนางโวยวายเท่าไหร่ หลีหลงเว่ยยิ่งสนุกสนาม“ไร้ประโยชน์” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆลู่อันจ้องมองตาขวาง “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”มุมปากหนาหยักยิ้ม “เจ้าเป็นเมียข้ามิใช่หรือ” หลีหลงเว่ยโน้มใบหน้าเข้าใกล้นางพลางสูดดมกลิ่นหอมจากกายอย่างลุ่มหลงโดยไม่รู้ตัวกลิ่นกายราวกับดอกไม้ผลิบาน“เช่นนั้นก็ทำหน้าที่ของเจ้าเสีย”ใบหน้าของนางขมวดคิ้วมุ่นทันที “ท่านเสียสติไปแล้ว!” ท่าทางของบุรุษตรงหน้าทำเอานางขนลุกซู่นางยอมแลกชีวิตหากต้องอยู่ใต้พันธะการอีกครั้ง!สายตาของแม่ทัพหนุ่มจับจ้องริมฝีปากอวบอิ่มของนางที่พร่ำโวยวายไม่หยุดก่อนจะค่อย ๆ ไล่ต่ำตามลำคอระหงษและหัวไหล่ขาวเนียนอึก!“อ่าาส์!..” ลู่อันสะดุ้งตกใจหลีหลงเว่ยฉ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-21
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status