จ้าวเหลียนเฟยที่กำลังขับรถกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว ใครจะรู้ว่าเธอจะไปไม่ถึงเพราะเธอถูกรถบรรทุกเฉี่ยวจนรถของเธอพลิกคว่ำคว่ำ กระทั่งวิญญาณเธอได้เข้ามาอยู่ในร่างของจ้าวเฟยเฟยสตรีร้ายกาจที่ต้องเลี้ยงดูลูกติดสามีฝาแฝดสองคน และร่างใหม่ก็เป็นที่รังเกียจของคนทั้งหมู่บ้าน เฮ้อ...แล้วให้มาอยู่ในร่างของคนที่ทั้งหมู่บ้านรังเกียจเนี่ยนะ พระเจ้าให้ตายไปเลยได้ไหมวะ แม่งเอ๊ย จ้าวเหลียนเฟยเอ่ยกับเด็กทั้งสองตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง "เอ่อ...แม่หนูขอน้ำกินหน่อยสิได้ไหม" "ท่านแม่ปีศาจหิวหรือ..รอเดี๋ยวนะเจ้าคะ" เฉินหยุนผิงเอ่ยกับแม่เลี้ยงก่อนจะเดินเตาะแตะๆไปเอาชามใส่น้ำ ส่วนเฉินโม่หวายจับแขนน้องสาวเอาไว้ไม่ให้ไป จ้าวเหลียนเฟยจึงกำลังจะลุกไปหยิบเอง อยู่ๆก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปกลางลานบ้าน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นผู้ชายหน้าตาอัปลักษณ์หนวดเครารุงรัง เขาคือเฉินมู่หยางบิดาของเด็กทั้งสองและสามีของร่างนี้ จ้าวเหลียนเฟยกลอกตามมองบนทันที หึ ใครอยากอยู่กับเข้ากันไม่ดูสภาพตัวเอง บ้านก็สกปรกเหลือเกิน "มีสิทธิ์อะไรมาใช้ลูกข้านังสตรีแพศยา หิวก็คลานไปหากินเอง"
ดูเพิ่มเติมจ้าวเหลียนเฟยที่ตอนนี้พยายามลืมตาขึ้น เธอรู้สึกเจ็บที่ศีรษะ ไอ้รถถบรรทุกคันนั้นเฉี่ยวเอารถเธอลอยกระเด็น แต่เธอกลับไม่ตายเช่นนั้นหรือ นี่มันปาฏิหารย์หรือไงนะ
กระทั่งเธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็ต้องนิ่วหน้า ตรงหน้าของเธอเหมือนจะเป็นหลังคาที่ทำจากหญ้าฟาง เดี๋ยวนะเธอกำลังนอนอยู่บนพื้นแถมยังได้กลิ่นกลิ่นดินโคลนให้ตายนี่อะไรกันวะเนี่ย จ้าวเหลียนเฟยสะบัดศีรษะไปมา
สายตาเริ่มปรับโฟกัสได้แล้ว รอบๆเหมือนเป็นกำแพงที่ทำจากดินเหนียว บ้านดินเหรอหลังคาทำมาจากฟางข้าวและเธอนอนอยู่บนพื้นที่แฉะๆ สายตาเหลือบไปเห็นก้อนกลมๆ สองก้อนอยู่ตรงมุมบ้านที่เธอได้กลิ่นโคลนที่เธอได้กลินมาจากพื้นที่เธอนอนอยู่มีน้ำขัง ดูเหมือนฝนจะตกแล้วมีน้ำซึมเข้ามา ไม่เช่นนั้นก็รั่วจากหลังคา
จ้าวเหลียนเฟยเห็นก้อนกลมๆ สองก้อนเริ่มขยับ ให้ตายสินั่นมันศีรษะน้อยๆ ของเด็กสองคนนั่งกอดกันอยู่นี่ น่าจะสามสี่ขวบเองล่ะมั้ง จ้าวเหลียนเฟยเห็นพวกเขาใส่ชุดโบราณก็แปลกใจ ฉันข้าวภพมาเหรอ อะไรกันวะเนี่ย กำลังจะไปฉลองปีใหม่กับคุณยายและคุณน้าแท้ๆเลย
"ไม่นะ...อย่ามาอเมซิ่งจิงกาเบลแบบนี้ ฉันแค่ฝันแหละเดี๋ยวก็ตื่นขึ้นมาฉันก็เจอหมอหล่อๆ ในชุดกราวน์กับพยาบาลสาวในชุดขาวๆ สวยๆ พร้อมสายระโยงระยาง ใช่ๆ ฉันกำลังฝันมันเป็นความฝัน หมอคงให้ยานอนหลับเดี๋ยวฉันก็ตื่น อูย..เจ็บหัวชะมัดเหมือนถูกใครตีท้ายทอยเลย อืม"
และอยู่ๆ เธอก็ปวดหัวจนนอนตัวงอ ดิ้นทุรนทุรายไปมา กระทั่งเด็กน้อยค่อยๆ ลุกออกมาดูก่อนจะเอ่ยปากคุยกัน
"พี่ใหญ่..ท่านแม่ปีศาจเป็นอะไรไป หรือว่านางจะตายแล้วเจ้าคะ"
"อย่าไปสนใจนางเลย ตายไปเสียก็ดีผู้หญิงร้ายกาจอย่างนางไม่คู่ควรกับท่านพ่อหรอก"
"เจ้าหนู..มียาแก้ปวดหัวไหม โอ๊ย ปวดอะไรขนาดนี้ แล้วยายนี่ใครอีกเนี่ย"
จ้าวเหลียนเฟยที่ตอนนี้นั่งคุกเข่า เอาหัวตัวเองโขกกับพื้นดินเพื่อระบายความเจ็บปวด เธอเห็นผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาคล้ายกับเธอ ผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เด็กจนโตถูกสตรีคนหนึ่งทำร้ายและทุบตีหลายหน
พ่อของก็ไม่สนใจรักใคร่แต่ลูกสาวคนใหม่ กระทั่งเธอถูกแย่งคู่หมั้นไปและพ่อกับแม่เลี้ยงของเธอขายเธอให้กับนายพรานคนหนึ่งเพื่อมาเป็นภรรยา แต่ยายเด็กนี่ก็ร้ายกาจไม่น้อย ก่อเรื่องตบตีกับญาติสามีไม่เว้นแต่ละวัน เจอหน้ามใครก็ชี้หน้าด่าทอ จนคนในบ้านและชาวบ้านในหมู่บ้านรังเกียจ เป็นเพราะเธอถูกกระทำมานานเธอจึงสะสมความเกลียดชังเอาไว้ เมื่อเก็บไม่ไหวก็ระเบิดออกมา
เธอเคยมีคู่หมั้นเป็นบัณฑิตคนหนึ่งชื่อหลี่อี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นคู่หมั้นของน้องสาว และไอ้คู่หมั้นจอมโลเลเคยมาหาถึงสองครั้งเพื่อขอยืมเงิน พอดีกับที่แม่น้องสาวตัวดีมาพบเจอเข้า นางเอาไปป่าวประกาศว่าจ้าวเฟยเฟยคนนี้ล่อลวงน้องเขยตนเอง จนชาวบ้านเกือบจะจับนางใส่กรงหมูถ่วงน้ำ แต่เพราะเกรงใจสามีของนางเฉินมู่หยางพวกเขาจึงไม่ลงมือ
แต่ความจริงสามีไม่ใช่ว่าเขารักใคร่ห่วงใยเธอคนนี้สักเท่าไหร่ ที่สำคัญเขาออกจะเกลียดเธอด้วยซ้ำ เพราะเขาจับได้ว่าเธอมักจะทุบตีเด็กทั้งสองเวลาที่เขาไม่อยู่ และล่าสุดจ้าวเฟยเฟยคนนี้ลงมือโหดเหี้ยม ตบอาสาวของเขาจนหน้าบวมเหมือนหมู ทำให้บ้านใหญ่ทนไม่ไหวยื่นคำขาดให้เขาหย่าและเรียกสินสอดคืนพร้อมกับตัดสัมพันธ์
จ้าวเฟยเฟยคนเดิมก็ท้าหย่าเช่นกัน แต่เพราะพ่อของเด็กทั้งสองต้องไปทหารในอีกสองเดือนข้างหน้าจึงไม่อาจหย่านางได้อย่างน้อยเด็กๆ ต้องมีคนดูแล อีกทั้งบ้านใหญ่ไม่ต้องการเลี้ยงดูตัวสิ้นเปลืองที่ทำงานไม่ได้
จ้าวเหลียนเฟยที่ตื่นมาสักพักจุงสรุปได้ว่าเธอตายแล้ว และตอนนี้มาอาศัยร่างคนอื่นจากการที่รวบรวมเศษความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่ได้มา ผู้หญิงคนนี้ชื่อจ้าวเฟยเฟย และเหมือนจะเป็นคนเลวในสายตาทุกคน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดบางเรื่องก็ถูกคนใส่ความ
เดิมนางมีคู่หมั้นอยู่แล้วเมื่อสอบได้เขาก็จะแต่งงานกับนาง เมื่อสอบได้จริงๆทางอดีตมารดาไอ้คู่หมั้นเฮงซวยนั่นก็ป่าวประกาศไปทั่วว่าบุตรชายสอบผ่านเป็นบัณฑิต ไม่ต้องการสะใภ้เช่นนางที่ไร้การศึกษา แม่น้องสาวตัวดีกับเมียใหม่ของบิดาจึงหาอุบายเปลี่ยนตัวคู่หมั้น และหลอกให้บิดานางเอานางมาขายให้กับสกุลเฉินเพื่อเป็นภรรยานายพรานคนหนึ่ง
ภรรยาของเฉินมู่หยางหลังจากออกเดือนก็หายสาบสูญไปทิ้งบุตรคู่แฝดเอาไว้ เขาหาเงินโดยการล่าสัตว์บ้านใหญ่อาศัยการล่าสัตว์จากเขาจึงร่ำรวยมีเงินทอง แต่ทว่าบุตรทั้งสองของเขากับผอมแห้ง เพราะเขาต้องไปเป็นทหารตามที่ราชสำนักสั่งมา บ้านใหญ่จึงรังเกียจที่จะเลี้ยงเด็กทั้งสองที่ทำงานไม่ได้และอยู่ในวัยกำลังกิน
เมื่อเฉินมู่หยางไม่สนใจใครอุ้มจ้าวเฟยเฟยกลับบ้านทันที จินหมิงที่โอบหลิวเยี่ยนหรานอยู่ก็กำลังจะโอบนางพาเดินกลับบ้านสกุลหลิวแต่อยู่ๆก็มีใบหน้าหวานยื่นมาขั้นกลางพร้อมกับเสียงสดใสดังมา"ท่านพ่อ...พี่เยี่ยนหรานเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านต้องประคองนาง อ้อข้าได้ยินว่ามีอันธพาลมารังแกคนในหมู่บ้านก็เลยรีบมา พวกมันไปไหนแล้วล่ะ คันมือจังอยากลงไม้ลงมือแล้ว"จินหมิงไม่ไม่ได้ปล่อยมือแต่หลิวเยี่ยนหรานพยายามเบี่ยงตัวออกก่อนจะเอ่ยเสียงเบา"ใต้เท้า..วันนี้ขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยข้าน้อยไว้เจ้าค่ะ แต่ว่าคนเลวก็ไปแล้ว ข้าน้อยคงไม่อาจรบกวนนาน ปล่อยเถอะเจ้าค่ะ"จินหมิงปล่อยคนตัวเล็กจากอ้อมกอดอย่างเสียดาย ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเสียดายอะไรก่อนจะเอ่ยกับนางและน้องชาย"คุณชายหลิว แม่นางหลิวไหนๆเจ้าก็รับปากข้าแล้วว่าจะไปเป็นต้นห้องให้กับข้า ช่วงที่น้องชายเจ้าไปเป็นทหาร เช่นนั้นวันนี้ก็เดินทางเถอะ ข้าเองก็จัดเตรียมห้องพักให้กับเจ้าแล้ว"จินหมิงเอ่ยกับสองพี่น้อง หลิวเยี่ยนฉางมองหน้าพี่สาว ก่อนจะจับมือแล้วเอ่ยกับนาง"พี่...ท่านไปอยู่จวนเจ้าเมืองเถอะ ข้าพอมีเงินเก็บข้าจะเช่าบ้านในเมืองหลังเล็กๆใ
ยามเว่ยหลิวเยี่ยนหรานที่กำลังปอกหน่อไม้ให้กับจ้าวเฟยเฟยเอาไปทำหน่อไม่ดองก็เดินกลับบ้านเพื่อเอาข้าวไปให้บิดามารดา แต่ระหว่างทางกลับเจอเข้ากับคนของเศรษฐีฉู่ ฉู่หว่างเดินมาดักหน้าก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสแก้มขาวนวล หลิวเยี่ยนฉางน้องชายนางไม่อยู่ได้ยินว่าขึ้นเขา ร่างอรชรเดินถอยหลังไม่ให้เขาแตะตัวได้ ฉู่หว่างหัวเราะจนพุงที่ยื่นกระเพื่อม ท่าทางไร้เดียงสาช่วยตัวเองไม่ได้นี่ถูกใจเขายิ่งนักก่อนจะเอ่ยกับนาง"แม่นางหลิว เจ้าเพียงแค่ยอมเป็นของข้า ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่ต้องมาลำบากแล้ว มาเถอะวันนี้ข้ามารับเจ้าเข้าจวน"มืออวบอ้วนยื่นไปเพื่อจะสัมผัสนาง แต่หลิวเยี่ยนหรานพยายามหนี ฉูหว่างหัวเราะและไล่ต้อนก่อนจะกอดนางแต่ไม่ทันที่จะถึงตัวเขาก็ถูกเหวี่ยงไปนอนกระแทกอยู่กลางนา ร่างอ้วยพลุ้ยลุกขึ้นมาชี้หน้าคนมาใหม่ทันที"ถุ้ย หมูเขาจะหามดันเอาคานเข้ามาสอด ไอ้หน้าอ่อนเจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายข้า เด็กๆจัดการมันให้ข้าเดี๋ยวนี้"ลูกสมุนของเขาต่างกรูกันเข้าไปหวังทำร้ายคนมาใหม่ จินหมิงกอดหลิวเยี่ยนหรานเอาไว้ในอ้อมกอดของตน ลูกน้องเขาไม่ได้ติดตามมา หลิวเยี่ยนหรานเป็นกังวล ร่างสูงยิ้มเย็
เมืองหลวงตำหนักหลี่กุ้ยเฟยชายชรานั่งเป่าชาในถ้วยอย่างสงบ มีเพียงสตรีที่อยู่ตรงข้ามกับเขา สตรีที่สวมอาภรณ์หรูหราวิจิตรบรรจงที่กลับระส่ำระสายนั่งไม่ติดก่อนจะเอ่ยถาม"ท่านพ่อ ได้ยินว่าฝ่าบาทให้คนไปตามหาสองแม่ลูกนั่น ท่านยังใจเย็นได้อีกหรือ""พระสนม..พระนางทรงกังวลมากไปแล้ว สนมหลินกับองค์ชายแปดก็แค่มดปลวก เด็กสิบขวบกับสตรีอ่อนแอคนหนึ่งป่านนี้อาจจะไปเมียกุลีแบกข้าวที่ไหนสักที่หากพวกเขายังรอด""ท่านพ่อ!! ต่อให้นางชั้นต่ำนั่นได้สามีใหม่เป็นขอทานก็ช่าง แต่องค์ชายแปดอย่างไรก็คือสายพระโลหิต หากไม่กำจัดพวกเขาข้ามิอาจวางใจได้ เช่นนั้นบุตรชายของข้าองค์ชายหกก็ยังมีขวากหนามอยู่ดีนะเจ้าคะ"หลี่คุณวางถ้วยชาก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อบุตรสาวเพื่อเรียกสติ"เย่วเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่ายังมีเรื่องใหญ่กว่านั้น เรื่องใหญ่ที่จะทำให้สกุลหลี่ทั้งตระกูลกว่าห้าร้อยชีวิตต้องตายทั้งหมด""ท่านยังมีเรื่องอะไรใหญ่ไปกว่าที่สองแม่ลูกนั่นยังไม่ตายเล่า เสนาบดีหลี่"หลี่กุ้ยเฟยทนไม่ไหวที่บิดาใจเย็นเกินไป ยามนี้เจิ้นเป่ยอ๋องอนุชาของฝ่าบาทครองตราแม่ทัพ สกุลหลี่เป็นเพียงลิ่วล้อตัวเล็กๆ ความหมายของฝ่าบาทแสดงออกชัด
ผ่านงานเลี้ยงไปได้หลายวันแล้ว จ้าวเฟยเฟยยังคงขะมักเขม้นกับการทำไข่เค็มและไข่เยี่ยวม้า เหลือเวลาอีกเดือนเดียวเฉินมู่หยางกับสหายของเขาต้องเดินทางไปชายแดนแล้ว แต่ที่จ้าวเฟยเฟยสังเกตเห็นก็คือ ตั้งแต่ที่อาจารย์ของเฉินมู่หยางมาอยู่ด้วยจะไม่เห็นหลินเหมยเซียงออกมาใช้ชีวิตเลย ส่วนหลินเฉินอี้ก็มาช่วยงานเมื่อเสร็จงานแล้วก็ไปทันทีไม่อยู่คุยเล่นเหมือนแต่ก่อนอีกจ้าวเฟยเฟยตักขาหมูตุ๋นถั่วลิสงใส่โถดินเพื่อให้เซี่ยหยุนเอาไปให้มารดาของเขาที่ยังไม่ออกเดือน เด็กหนุ่มมารับอาหารจากท่านป้าจ้าวจากนั้นก็รีบนำไปให้มารดาและกลับมาช่วยงานต่อ รถม้าของจวนเจ้าเมืองวิ่งเข้ามาก่อนจะมาหยุดหน้าบ้านเฉินของสามีนาง จินหลินลงมาหานางและเอ่ยเรียก"พี่เฟยเฟย....ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ ข้าเอาตะกร้ามาคืนท่าน"ดรุณีน้อยยิ้มแย้มหน้าตาสดใส นางถือตะกร้าหวายที่จ้าวเฟยเฟยใส่ผักสดไปให้เอามาคืน พร้อมกับขนมของร้านดังในเมือง เฉินผิงผิงวิ่งไปรับก่อนจะทักทาย"สวัสดีเจ้าค่ะท่านน้าจินหลิน""สวัสดีผิงผิงน้อย...พี่ชายเจ้ากับท่านอาของเจ้าไปสำนักศึกษาแล้วหรือ และวันนี้ผิงผิงของน้าจินหลินเป็นเด็กดีหรือไม่ น้ามีลูกกวาดมาให้ด้
บ้านสกุลฟางปลายยามอิ๋นจินหลินรู้สึกตัวขึ้นมามีบางอย่างพาดอยู่ที่หน้าท้องนาง ร่างเล็กขยับตัวเล็กน้อย แสงเทียนที่ริบหรี่ส่องสว่างไม่มากนัก ข้างนอกสายฝนยังคงกระหน่ำ กลิ่นบุรุษเพศที่ลอยเข้ามาทำให้นึกได้ว่านางนอนอยู่บนเตียงของฟางฉาย จินหลินค่อยขยับเพราะกลัวจะรบกวนเขา นางหันกลับมามองหน้าคนที่กำลังหลับใหล ยามหลับเขาดูวัยเยาว์ลงมากนัก จินหลินค่อยๆลุกขึ้นนางนอนตะแคงเข้าหาฟางฉาย ใช้มือเท้ารองศีรษะด้านซ้าย มือบางวาดไปตามคิ้วหนาเข้มเป็นระเบียบของร่างสูง จากนั้นก็ลากลงมาตามสันจมูก ฝ่ามือเล็กลูบแก้มสากไต่มาตามสันกราม ก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากหยักได้รูป ก่อนจะพึมพำเพราะกลัวเขาตื่น "ฟางฉาย..ไม่คิดว่านายพรานอย่างท่านจะรูปงามกว่าคุณชายในเมืองหลวงเสียอีก วาสนาสตรีคนใดจะได้แต่งงานกับท่านกัน"จินหลินค่อยขยับเข้าใกล้เขาอีกนิด สายตาจ้องที่ริมฝีปากคนนอนหลับแล้วก็นึกถึงบางอย่างก่อนจะแอบขำเอ่ยกระซิบข้างหูคนนอนหลับ"ฟางจวินเหอ...ข้าคือไป๋หลิงหลิงจิ้งจอกน้อยที่ท่านช่วยไว้จากกับดักนายพราน ข้ามาตอบแทนท่านคุณชายท่านยินดีหรือไม่ คิกๆๆ"จินหลินหัวเราะเบาๆก่อนจะถอยออกมาแต่วงแขนแข็งแรงกลัวโอ
สองสามีภรรยามานอนที่เรือนแพ ดีที่งานเลี้ยงเลิกไปแล้วเพราะตอนนี้นี้ฝนตกแรงจ้าวเฟยเฟยจึงนอนไม่หลับ แพขยับไปมา เฉินมู่หยางนอนกอดร่างอรชรเอาไว้เขารับรู้ว่านางยังไม่นอน จ้าวเฟยเฟยจึงหาเรื่องชวนคุย"ตอนงานเลี้ยงท่านพี่ไปไหนมาตั้งนานเจ้าคะ ข้าเห็นท่านเดินออกไปด้านนอกไปทางชายป่าเชิงเขา""มีคนมาพบพี่น่ะ เสี่ยวเฟยที่นี่ไม่มีใครมีแค่เราสองคน เปิดอกคุยกันเถอะเจ้ามาจากไหนบอกได้หรือไม่""ท่านล่ะไม่มีอะไรจะบอกหรือ"เฉินมู่หยางเงียบไปก่อนจะถอนหายใจ จากนั้นจึงเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นให้นางฟัง"นางชื่อเสิ่นอิงฮวา มารดาของคู่แฝดน่ะ""นางตกน้ำตายจริงๆหรือเจ้าคะ นางเป็นภรรยาท่านจริงๆหรือไม่""เฮ้อ...ตอนนั้นคุ้มกันขบวนสินค้าไปส่ง ตอนขากลับพวกเราไม่มีสินค้าต้องคุ้มกันจึงแยกกับขบวนของนายจ้างและกลับกันเอง ระหว่างทางพวกเราพบกับนางที่กำลังถูกคนไล่ล่า พี่ไป๋เซิง ฟางฉาย เยี่ยนฉางและข้าที่ช่วยนางเอาไว้ จากนั้นก็พานางกลับมาหมู่บ้านอวี๋หยางและบอกว่านางคือภรรยาของพี่ เพราะพี่ไป๋เซิงมีภรรยาอยู่แล้วตอนนั้นภรรยาของเขานางยังไม่ตาย อาฉายและอาฉางก็เยาว์วัยเกินไปที่จะแต่งงาน เดินทางครั้งหนึ่งกินเวลาสองป
ความคิดเห็น