LOGIN"นายเคยรักฉันบ้างมั้ยเรซ" "รัก? พูดอะไรของเธอ" "ก็..." "คิดว่าที่ฉันอยู่กับเธอเพราะรักงั้นเหรอ" ฉันนิ่งเงียบ พอเดาได้จากน้ำเสียงว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเลย ไม่เลยสักนิด "เธอก็รู้ว่ามันไม่ใช่" "ใช่... ฉันรู้ แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้น" ราวกับว่าฉันต้องการเรียกร้องบางสิ่งจากเรซ แต่ขณะเดียวกันฉันก็อยากให้ทุกอย่างหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
View Moreผู้หญิงกับผู้ชายสามารถมีอะไรกันโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้หรือเปล่า
มันเป็นเรื่องแปลกมั้ย ถ้าจะบอกว่า
ฉันก็มีอะไรกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเหมือนกัน
หนำซ้ำผู้ชายคนนั้นยังเป็น...
Touch สัมผัสร้าย สัมผัสรัก
บทนำ
“เรซ... อื้อ”
เสียงครางสะท้านดังแผ่วหวิว ความร้อนผ่าวแนบชิดจากด้านหลัง เสียงสัมผัสสอดเสียดเข้าออกอย่างต่อเนื่องลึกซึ้ง
“ระเรซ... อื้อ อ๊ะ! ลึกไปแล้วอ๊าาาส์”
ฉันไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยว แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ไหวขณะที่ถูกคนด้านหลังกระแทกกระทั้นไม่หยุด
“อื้อ ยืนไม่อยู่แล้ว อ๊ะ... อ๊าเรซ เบา... อื้อ”
พลั่ก!
ทันใดนั้นเรซก็ดันฉันติดกับผนัง ใบหน้าฉันแนบกับผนังปูนเย็นเยียบ แต่ลมหายใจที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ของเรซทำให้ฉันไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่น สติกระเจิดกระเจิงไปหมด อารมณ์ปรารถนาที่ถูกจุดได้ลุกลามไปทั้งตัว และฉันไม่อาจต่อต้านมันได้
“อ่ะอ๊าส์”
“อึก”
เสียงครางหนักๆ ของคนด้านหลังดังขึ้นหลังจากปลดปล่อยความต้องการออกมาเต็มเหนี่ยว ฉันร้องเสียงหลง เมื่อถูกความสุขสมครอบงำ แต่หลังจากได้สติก็ต้องตกใจที่เรซปล่อยข้างใน
ฉันจะหันกลับไปประท้วงแต่ถูกเรซประกบปากจูบแทน
“อื้มมม”
เรียวปากร้อนชื้นบดเบียดเข้ามาอย่างกระหายหิว ฉันถูกความรู้สึกเร่าร้อนล้างสมองไปอีกรอบ ปลายลิ้นของเขาเคลื่อนไหวอย่างดิบเถื่อน รุนแรง ทว่าชวนหัวใจสั่น
“อือ...”
ฉันเงยหน้า กัดปากเสียวซ่านเมื่อเรซเลื่อนใบหน้าลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอต่อด้วยขบเม้มตุ่มไตแข็งๆ กลางเนินอกนุ่มนิ่ม ฉันขยุ้มเส้นผมเขาเพื่อจะผ่อนคลายอาการเกร็ง แต่ก็เหมือนจะไม่ช่วย
“ไปที่ขอบสระ”
เขาบอกอะไรสักอย่าง ฉันยังไม่ได้สติด้วยซ้ำ ท่อนแขนก็ถูกคนตัวสูงฉุดให้เดินตาม เรซกดไหล่ฉันลง ให้ฉันนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาสระแล้วตามมาประกบ รั้งบั้นท้ายฉันเอาไว้ เบียดดันความร้อนระอุเข้ามา
“อือ...”
ฉันเปล่งเสียงครางไหว ร่างกายสั่นสะท้านจนแทบกู่ไม่กลับ เนื้อตัวแผดซึมไปด้วยหยาดเหงื่อจากการขยับอันเร่าร้อนจากด้านหลัง
ฉันจับยึดราวบันไดเอาไว้ตามสัญชาตญาณ เข่ารู้สึกเจ็บพร่า แต่เรซไม่หยุดหลังจากจัดท่านี้จนพอใจแล้วเขาก็ดึงฉันกลับไปเผชิญหน้า รั้งสะโพกฉันขึ้นไปนั่งทับบนตัก
“อื้อเรซ” ฉันผวาคว้าบ่าแกร่งเอาไว้แน่นเพราะรู้สึกว่ามันเข้ามาลึก ฉันเจ็บ
เรซคว้าหน้าอกฉันขยำทันที ริมฝีปากก้มลงมาครอบครองยอดอกอีกข้างอย่างไม่หยุดพักหายใจ ฝ่ามือหนาโอบเอวฉันไว้ไม่ให้ขยับหลบสัมผัสของเขา
ฉันร้องลั่นสระ ความเสียวซาบซ่านที่ลุกลามแทรกซึมอยู่ในทุกอณูร่างกายเหมือนมีกระแสไฟแล่นแปลบปลาบ ร่างฉันเกร็งกระตุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดื่มด่ำความสุขสมใต้แสงจันทร์และคลื่นลมทะเลราวกับติดอยู่ในภาพฝัน
...ทว่าฉันจะดีใจมากหากมันเป็นแค่ความฝัน พอตื่นแล้วทุกอย่างก็จะหายไป
หากแต่… แม้ไม่ใช่ความฝัน ทุกอย่างก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ฉันควรเจ็บใจหรือรู้สึกยังไงดี ฉันไม่รู้เลยจริงๆ รู้เพียงแค่ว่าภายในใจมีร่องรอยที่ไม่อาจลบเลือน ราวกับว่าฉันต้องการเรียกร้องบางสิ่งจากเรซ แต่ขณะเดียวกันฉันก็อยากให้ทุกอย่างหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฉันยังไม่ทันตกลงคะนิ้งก็กดโทรออกไปแล้ว “หือ… นานหรือยัง อ่อ อื้อ กำลังจะกินริกก็อย่าลืมกินด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้ท้องว่างนาน เดี๋ยวกระเพาะขึ้นอีก อืมเข้าใจก็ดีแล้ว”คะนิ้งพูดอะไรกับริกกี้อีกไม่กี่ประโยคก็วางสาย แล้วหันมาทางฉัน“ริกบอกว่าเรซออกมาแล้วนะเทียน ตั้งแต่ก่อนเที่ยงอีก”ระหว่างที่ฉันกำลังฟังคะนิ้งพูดเสียงเตือนในกล่องข้อความก็ดังขึ้น ฉันก้มมองคิดว่าอาจจะเป็นเรซแต่ก็แปลกๆ เพราะเรซไม่ค่อยใช้เมสเซนเจอร์ ส่วนใหญ่จะไลน์กับโทร... หัวคิ้วฉันขมวดทันทีที่เห็นภาพโปรไฟล์กับชื่อคนส่ง นี่มันลูกตาลไม่ใช่เหรอ... ฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เธอรู้จักเฟซบุ๊กฉันเพราะถ้าจะหาก็คงหาเจอไม่ยากอยู่แล้ว แต่ที่ฉันสังหรณ์ใจไม่ดีคือยัยนั่นส่งอะไรมาต่างหากฉันเปิดดูอย่างไม่สบายใจ ลูกตาลส่งภาพถ่ายเรซกับผู้หญิงคนหนึ่งในร้านอาหารมาให้ดูสดๆ ร้อนๆ ลูกตาล : ผู้หญิงในภาพหน้าคุ้นๆ เนอะ ว่ามั้ย? ตบท้ายด้วยสติ๊กเกอร์ขำจนท้องคัดท้องแข็ง“.....” ฉันจ้องภาพถ่ายในจอตาไม่กะพริบ “เทียน?” คะนิ้งเห็นฉันนิ่งไปนานเอ่ยถามอย่างสงสัย สายตาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ในมือฉันอย่างถือวิสาสะ “นั่นเรซหนิกับใครน่ะ... นี่มันพะแพงไม่ใช่เหรอ?
“เรซ?”“ตื่นแล้วเหรอ”ฉันรู้สึกตัวอีกทีข้างนอกก็สว่างแล้ว เรซกำลังนั่งเก็บของใส่กระเป๋า หันมาทักทายฉันด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ฉันขมวดคิ้วอย่างมึนๆ คงเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า เรซสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนเรียบร้อย ส่วนฉันนอนตัวเปลือยมีผ้าห่มผืนบางๆ คลุมปิดจนถึงลำคอ ฉันไม่มีทางห่มผ้าเรียบร้อยแบบนี้แน่ คงเป็นเรซห่มให้นั่นแหละ“กี่โมงแล้ว?” ฉันลุกขึ้นนั่ง มองแสงแดดอ่อนๆ นอกเต็นท์ใบหน้ายุ่งเหยิง“เพิ่งเจ็ดโมง”“อ่า... ได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง แล้วนี่จะกลับเลยหรือเปล่า”“อืม เธอต้องทำงานไม่ใช่เหรอ”“เรซก็นอนน้อยนะ ขับรถไหวเหรอ”“ทำไมจะไม่ไหว” เขายิ้มกวนๆ กลับมา “ต่อให้ทำถึงเช้าก็ขับรถกลับได้สบายๆ อยู่แล้วน่า”“บ้า! ไม่ต้องมาหื่นเลยนะ คนบ้าอะไรทำได้ทุกคืนๆ ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”“เทียนทำตัวเซ็กซี่ได้ทุกคืนขนาดนี้ใครจะเหนื่อยลง”“นี่ หยุดเลยนะ ไม่ต้องมามองด้วยสายตาโรคจิตแบบนั้น ออกไปเลย จะแต่งตัว” เรซมองหน้าอกนูนๆ ของฉันที่ถูกผ้าบางปิดคลุมด้วยสายตาแวววาว ฉันหน้าร้อนวูบ ทั้งเขินทั้งฉุน คว้าอะไรใกล้มือได้ก็ปาใส่เขาทันทีแต่กลับเป็นบราเซียที่ลอยออกไป เรซคว้าหมับอย่างรู้ทัน เขามองบราเซียในมือแ
“เรซ…”ฉันรวดร้าวจวนใจจะขาด ปลายลิ้นสากลากไล้ไปตามรอยบุ๋มเปียกแนบเนื้อของชั้นในลูกไม้อย่างมัวเมา ขอบกางเกงชั้นในค่อยๆ เลื่อนลงไปอยู่ใต้แก้มก้น ปลายนิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้ามาด้านหลัง กอบกุมฟอนเฟ้น ทั้งละเลงลิ้นรัวแรง ฉันดิ้นเร่าๆ ร้องครางเป็นบ้าเป็นหลังอย่างทนสะกดกลั้นต่อไปไม่ไหว ลืมกระทั่งความหวาดกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเรซผละใบหน้าออกมาหลังโอ้โลมฉันจนพอใจ จัดการดึงชั้นในที่ค้างอยู่ตรงเรียวขาฉันออกไปอย่างเกะกะ ฉันนอนแผ่หลา หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ท่อนล่างเปล่าเปลือยเปียกชื้นไปหมด เรซคลำมือในความมืด เคลื่อนผ่านเรียวขาขึ้นมาที่ลำตัว ลูบวนหน้าท้องแบนราบที่สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะหายใจของฉันหนึ่งรอบ แกล้งทำให้ฉันลุ้นระทึกแล้วก็ผละมือจากไป ฉันนอนกะพริบตาท่ามกลางความมืดครึ้มที่เริ่มชิน มองเห็นเงาร่างหนาที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าได้ชัดขึ้น ลมหายใจยังไม่กลับเป็นปกติดีก็โดนมือข้างนั้นจับท่อนแขนดึงฉันขึ้นไปนั่งซ้อนอยู่บนตัก“อื้อ~ ระเรซ” ส่วนที่อ่อนไหวสัมผัสกับท่อนเอ็นที่ตั้งชันของเรซร้อนลวกจนแทบทนไม่ไหว ฉันชาไปทั้งตัว รีบถอดเสื้อสายเดี่ยวของตัวเองทิ้ง เหลือแค่โครงบราที่ดันทรวงอิ่มจนแน่นชิด สองมือเรซจับ
เต็นท์ถูกกางในสนามที่เตรียมไว้สำหรับปูเต็นท์ของทางรีสอร์ต เบื้องหลังห่างออกไปราวหนึ่งกิโลเมตรถึงจะมีอาคารห้องพักหรูหราตั้งอยู่ พวกเฮียหมูกับคนอื่นๆ กำลังนั่งฉลองชัยชนะกันอยู่ในนั้น การแข่งเดิมพันวันนี้พวกเขาชนะ และมาต่อกันที่รีสอร์ตนี้ตามแผนที่วางไว้เป็นรางวัลให้ทีม ตรงข้ามถ้าแพ้ก็ต้องขับรถกลับกรุงเทพทันที แต่ไม่ว่าผลการแข่งจะออกมาในรูปแบบไหนเรซก็เตรียมตัวมาค้างแต่แรกอยู่แล้วเต็นท์ที่เรซเตรียมมาใหญ่เป็นพิเศษ แถมมีเบาะนวมรองนอนทำให้ไม่เจ็บหลังอย่างที่คิด ผนังเต็นท์มีสองชั้น ชั้นในเป็นผ้าตาข่ายกันแมลง ชั้นนอกเป็นผ้าร่มอย่างหนากันได้ทั้งลมแดดลมหนาว ประตูด้านหน้าถูกเปิดโล่งเพื่อให้มองเห็นท้องฟ้าที่มีดาวพร่างพราวได้ชัดเจนคนอื่นนั่งฉลองกันในรีสอร์ตแต่เรซกลับถือแค่เบียร์สองขวดกับขนมขบเคี้ยวไม่กี่ถุงพาฉันออกมาดื่มด่ำบรรยากาศกันสองคนเรซดื่มเบียร์หมดไปขวดหนึ่งและกำลังเปิดขวดที่สอง ส่วนฉันหยิบขนมเข้าปากเคี้ยวเงียบๆ“ไม่อยู่กับเพื่อนจะดีเหรอ”“ไม่ล่ะ อยากอยู่กับเทียนมากกว่า” เรซหันมามอง แววตาคมเข้มร้อนแรงจนฉันแทบทนไม่ไหว แสร้งแหงนหน้าขึ้นมองดาวระยิบระยับ“ที่นี่ฟ้าใสดีเนอะ”“ที่เพชรบูรณ์บรรยา
เรายังคงคุยกันเรื่องเดิมระหว่างทางกลับมาที่เต็นท์“เรื่องนั้นทำให้เทียนติดค้างเรซก็จริง แต่ก็ไม่เกี่ยวกับที่เทียนคืนดีกับเรซหรอก”“อิจฉาไอ้เรซเลยแฮะ”“อิจฉาทำไม”“อิจฉาที่มันได้แฟนรูปร่างดีอย่างเทียน พูดแล้วเสียดาย ถ้าเรซมันไม่ลงมือก่อนนี่คงจีบเทียนจริงๆ จังๆ ไปแล้ว”“เลิกพูดแบบนี้ได้แล้วน่า แฮคเองก็มีสาวๆ ไม่ขาดไม่ใช่เหรอ”โครม!มีเสียงดังเกิดขึ้นก่อนที่ไฟในเต็นท์จะดับ ฉันกับแฮคชะงัก มองความมืดที่อยู่ดีๆ ก็ครอบครองไปทั้งเต็นท์อย่างงวยงงแต่ไม่นานไฟข้างในก็กลับมาสว่างวาบ ลูกตาลเดินออกมาจากเต็นท์ ท่าทางถมึงทึง แววตากราดเกรี้ยวแดงก่ำและเพิ่มความรังเกียจเป็นเท่าตัวเมื่อเห็นฉัน“ลูกตาล” ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเธออยู่ที่นี่ แล้วที่ไฟดับนั่นอย่าบอกนะฝีมือเธอลูกตาลเผชิญหน้าฉัน สีหน้ามีทั้งความโกรธและอับอายจนแทบทนไม่ไหว มือที่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมสั่นระริก“เธอไม่มีวันเป็นตัวจริงของเรซ เขาแค่เล่นกับเธอ... เขาแค่เล่นกับเธอได้ยินมั้ย!”ลูกตาลเค้นเสียงอัดอั้นเดือดดาลออกมาจากในคอ เสียงเธอดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นตะคอกราวคนเสียสติ ขอบตารื้นแดงรวมความผิดหวังเสียใจและเจ็บแค้นอยู่ในนั้น“เทียนเ
วันนี้มีเดิมพันแข่งรถที่โคราช เรซตั้งใจพาฉันไปด้วยเพราะไม่อยากให้ฉันคิดมาก จริงๆ ฉันไม่ได้น้อยใจอะไรเขาเลย ไม่เจอกันสักวันสองวันจะเป็นไรไปเรซขับรถมารอฉันหน้าร้านสะดวกซื้อเหมือนปกติ ตั้งแต่วันนั้นที่เขาบอกชอบฉันก็ผ่านมาแล้วหลายวัน ความสัมพันธ์ของเราบอกไม่ได้ว่าอยู่ในจุดไหน แต่ที่แน่ๆ กำลังคบกัน ...อยู่ด้วยกันทุกคืนหลังจากคืนนั้น เขาก็กล่อมฉันให้กลับไปอยู่เซฟเฮาส์สำเร็จ เป็นคนที่ตื๊อไม่ยากแถมใจง่ายอีกต่างห่างฉัน เฮ้อ~ แต่หอพักก็ยังเช่าอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้คืนห้อง “อ้าวทำไมเปลี่ยนรถ”ฉันชะงักเมื่อเห็นว่ารถที่เรซขับมาวันนี้ไม่ใช่คันเดิม “คันนี้เก็บของได้เยอะกว่า เอาเต็นท์ไปกางนอนดูดาวด้วย”“ห๊ะ? เดี๋ยว ไม่เห็นบอกว่านอนเต็นท์”“บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”“สรุปว่าค้างคืนใช่มั้ย”“ใช่”เรซยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเดินนำฉันไปขึ้นรถ ถึงจะไปค้างที่เซฟเฮาส์แล้วแต่เสื้อผ้าส่วนใหญ่ยังอยู่ที่หอ เรซขับรถพาฉันมาอาบน้ำที่หอ ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็เสร็จทุกอย่าง เสื้อผ้าสวยๆ แพงๆ เอาไปฝากขายหมด ตอนนี้ฉันเหลือแค่ชุดสบายๆ ง่ายๆ ไม่มียี่ห้อ แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องขวนขวายหามาใส่เหมือนแต่ก่อน ถึงเรซจะยอมให้ฉันถลุงเง






Comments