ชะตาชีวิตพลิกผันขึ้นลงตามแต่ใจท่านเทพจะลิขิตเพราะงั้นนางเลยได้มาอยู่ในยุคจีนโบราณแห่งนี้ เป็นเครื่องมือให้เหล่าผู้ต้องการอำนาจใช้ปีนป่าย จนไปต้องตาถูกใจคนผู้หนึ่งเข้า "หนึ่งสตรีแลกกับความสงบทั้งแคว้น"
View Moreคำโปรย
เพราะอกหักจากคนคุยเลยไปดื่มให้ลืมความเศร้า แต่โชคร้ายถูกรถชนตายระหว่างกลับบ้าน แม่ค้าขายชานมไข่มุกอย่างอันอันเลยได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กสาวฮัวหนิงอัน
โชคชะตายิ่งเล่นตลกเมื่อนางเป็นลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยง วันหนึ่งเมื่อลุกมาทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง แต่ถูกพวกเขาเอาไปขายให้เศรษฐีในเมืองแทน
ไม่รู้โชคร้ายหรือโชคดี ผู้ที่ซื้อตัวนางคือท่านอ๋องปกครองเมือง เขารับนางเป็นบุตรีบุญธรรมโดยมีเรื่องราวบางอย่างแอบแฝง นางได้ชื่อใหม่คือ โจวเยี่ยนเหยียน
แต่ตัวโชดร้ายเช่นนางก็ยังมีเรื่องวิ่งเข้าหา เมื่ออำนาจของบิดาบุญธรรมนางนั้นหอมหวานนัก บุรุษมากแผนการเช่นหลงจิวซิ่งจึงได้คิดหมายปองเอานางเป็นตัวประกัน
แต่เอาเถอะ จะดีจะชั่วแม่จะซัดด้วยจระเข้ฟาดหางที่เรียนกับเจ้สาวประเภทสองหน้าปากซอย เอาให้มันหน้าหงายกลับไปให้หมดเลย
แล้วนางก็เปิดตัวหลังแต่งเข้าจวนเขา ด้วยการใช้ปิ่นเชือดคอเขา เสียดายที่จับผิดด้านเขาจึงไม่ตาย สร้างความบาดหมางให้ชีวิตแต่งงานตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว บันเทิงจริงจริ้ง!!!!!
ตอนที่ 1
เหตุเพราะความเศร้า
“มีคนจมน้ำ!!! ช่วยด้วยคนจมน้ำ!!!!!!”
เสียงตะโกนโวยวายทำให้อันอันที่กำลังนอนอยู่ได้สติขึ้นมาเพราะรำคาญเสียงอันน่าหนวกหูนี้ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงอากาศรอบตัวที่มันหนาวสะท้านเข้าไปถึงกระดูก
“นางได้สติแล้ว เอาผ้าห่มมาที!!!!”
เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างมาห่อร่างกายของตัวเองไว้ ทำให้อันอันค่อยลืมตามองสิ่งรอบตัวช้า ๆ
ภาพใบหน้าของคนไม่คุ้นเคยปรากฏสู่สายตาของอันอันทีละคน ก่อนที่จะรู้สึกปวดหัวจี้ดขึ้นมาพร้อมกับภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ของเด็กหญิงที่น่าสงสารคนหนึ่ง พลันสติของอันอันก็ดับวูบไปอีกครั้ง
“นางหมดสติไปแล้ว พาแม่หนูหนิงอันไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านก่อนดีกว่า” เสียงสตรีวัยกลางคนเอ่ยขึ้น ก่อนจะให้สามีตัวเองอุ้มเด็กสาวตัวเล็กแกรนไปยังบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน
ในมโนภาพของอันอันตอนนี้กำลังมองชีวิตเด็กสาวคนหนึ่งตั้งแต่เล็กจนค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กสาวอายุสิบห้า
ยามแรกบิดามารดาของนางนั้นรักใคร่เอาในใส่นางอย่างดี จนอายุสามขวบมารดาก็ให้กำเนิดน้องชายคนแรก และน้องสาวในปีถัดมา จากนั้นชีวิตความเป็นอยู่ของนางก็เปลี่ยนไป
บิดามารดาเริ่มละเลย ปู่ย่าด่าทอว่านางเป็นตัวภาระ เลี้ยงเปลืองข้าวสุก สุดท้ายหากนางอยากกินข้าวก็ต้องทำงานแลก ฮัวหนิงอันจึงต้องทำงานบ้านตั้งแต่อายุสี่ขวบครึ่ง
จากนั้นก็ต้องเป็นคนคอยดูแลน้องยามคนในบ้านออกไปทำงานด้านนอก และต้องทำงานบ้านทุกอย่างด้วย เพื่อแลกกับน้ำข้าวแค่วันละหนึ่งมื้อ
จนล่าสุดที่หิมะตกหนาถึงครึ่งขา นางก็ถูกมารดาสั่งให้ไปซักผ้าที่ริมลำธารท่ามกลางอากาศหนาวเย็น โดยไม่สนว่าจะเกิดอันตรายกับบุตรสาวคนนี้หรือไม่
สุดท้ายฮัวหนิงอันก็โชคร้ายลื่นพลัดตกลำธารแล้วเสียชีวิต และอันอันก็ได้เข้ามาสิงร่างอยู่ในตอนนี้
“จากนี้ข้าฝากใช้ชีวิตที่เหลือแทนข้าด้วยนะ”
เสียงหวานของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น อันอันพยายามเพ่งมองแต่กลับเห็นข้างหน้าเพียงเลือนรางเท่านั้น
“ใครน่ะ เธอคือเด็กคนนั้นเหรอ!” อันอันเอ่ยถามออกไปพลางเพ่งมองเงานั้นอีกครั้ง
“ใช่ นั่นคือตัวข้าเอง ข้าเชื่อว่าหากเป็นเจ้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมารังแกตัวเองได้ง่าย ๆ เป็นแน่ เพราะงั้นข้าฝากเจ้าด้วยนะข้าต้องไปแล้ว”
“เดี๋ยวสิ!! อธิบายให้ชัดเจนก่อน แล้วจากนี้เธอจะไปไหน แล้วฉันต้องอยู่ในร่างเธอตลอดไปเลยเหรอ!!!” อันอันเริ่มตื่นตระหนกเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮัวหนิงอันเอ่ย
“อย่ากลัวเลย ข้าขอยกร่างนี้ให้เจ้า จากนี้เจ้าจะทำเช่นไรก็ตามแต่ใจเจ้าเถิด คิดว่านี่คือตัวเจ้าเองแล้วกันนะแม่นางอันอัน”
เสียงนั้นค่อย ๆ เบาลงแล้วหายไปในที่สุด ทิ้งให้อันอันไม่เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แต่ยังไม่ทันได้ประมวลผลอะไรภาพตรงหน้าก็ดับวูบลงอีกครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงทะเลาะกันของคนที่กำลังรายล้อมตัวเธอ
“แม่เฒ่าฮัวทำเกินไปหรือไม่ ให้เด็กไปซักผ้าที่ลำธารท่ามกลางหิมะตกเช่นนี้ ไม่เจตนาฆ่าคนแล้วเรียกอะไรได้อีก!!!”
เสียงสตรีวัยกลางคนตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโหจัด แต่ดูท่าแล้วคนที่กำลังถูกต่อว่านั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาเลยสักนิด
“มันก็สมควรแล้วนี่! จะให้ข้าเลี้ยงนางไว้เสียข้าวสุกหรือไง เป็นเพียงเด็กที่บุตรชายข้าเมตตาเก็บมาชุบเลี้ยง หากอยากกินข้าวก็ต้องทำงานแลก!!!” เสียงหญิงชราคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ยินยอม
“จริงเจ้าค่ะท่านแม่พูดถูกแล้ว! ข้าชุบเลี้ยงนางมาตั้งสิบกว่าปี แค่ให้ทำงานเล็กน้อยก็ก่อเรื่องใหญ่โตเสียแล้ว ไม่ได้เรื่องจริง ๆ หากตื่นขึ้นมาจะให้ท่านพี่สั่งสอนให้เข็ด” เสียงสตรีอีกคนเอ่ยขึ้น นางจำได้ว่าคือมารดาของเจ้าของร่างนี้
“พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว นางเกือบตายแล้วรู้หรือไม่!! หากข้ากับพ่อตงไม่ผ่านไปเห็นนางคงได้ตายจริง ๆ แล้ว” ป้าตงคนที่ช่วยเจ้าของร่างนี้เอ่ยขึ้นอย่างโมโห
อันอันที่ตอนนี้กลายเป็นฮัวหนิงอันค่อย ๆ ลืมตามองทุกคนที่กำลังเถียงกันอยู่ ตอนนี้นางรู้สึกว่าร่างกายตัวเองหนักอึ้งไปทุกส่วน
“นั่นไง!!! นางฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็ไม่เห็นว่านางจะตายเสียหน่อย ทำเป็นโวยวายใหญ่โตไปได้!!” ผู้เป็นมารดาเอ่ยพร้อมกับชี้มาที่นาง
“หนิงอันเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเข้ามาถามนางด้วยน้ำเสียงห่วงใย พร้อมกระชับผ้าห่มที่คลุมกายนางให้แน่นขึ้น
“แค่ก! แค่ก! ข้ารู้สึกเหมือนจะไม่สบายเจ้าค่ะ แต่หากได้ทำงานเหงื่อออกเดี๋ยวก็หาย แล้วนี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือทำไมทุกคนจึงมารวมกันมากมายเชียว” นางแสร้งเอ่ยถามอย่างคนไม่รู้เรื่องราว
“ตื่นมาแล้วก็อย่ามัวสำออย กลับไปทำอาหารให้มารดากินได้แล้ว เวลาใดแล้วรู้หรือไม่ ข้าหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้วเนี่ย!!” ผู้เป็นมารดาเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น
“หนี่ฮวาเจ้าก็อย่าให้มากเกินไปนักเลย นางเพิ่งรอดพ้นจากความตายมานะ ตื่นมาก็จะใช้งานนางเลยหรือ!”
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านหันมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ ทำให้สตรีบ้านฮัวยิ่งแสดงสีหน้าไม่พอใจมากกว่าเดิม
“เจ้าตัวก็บอกเองว่าไม่เป็นไรพวกท่านจะอะไรนักหนา ไป!!!กลับบ้านได้แล้ว เจ้าสร้างเรื่องเอาไว้ใหญ่โตเพียงนี้ กลับไปเจ้าไม่รอดแน่”
ผู้เป็นย่าเอ่ยขึ้นก่อนทำท่าจะเดินกลับออกไป แต่ถูกหัวหน้าหมู่บ้านห้ามเอาไว้เสียก่อน
“คืนนี้หนิงอันจะพักที่บ้านข้านี่แหละ รอฮัวเฉิงกลับมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกครั้งแล้วกัน”
จบประโยคของหัวหน้าหมู่บ้าน สองสตรีบ้านฮัวก็หันมามองคนพูดด้วยใบหน้าหงุดหงิด ก่อนจะส่งสายตาคาดโทษมาที่ฮัวหนิงอันที่นั่งอยู่บนเตียงเตา
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปทำไมกัน นี่มันเรื่องของบ้านข้านะเจ้าคะ แล้วข้าก็เป็นมารดาของนาง จะสั่งให้นางทำอย่างไรก็ย่อมได้ ไป!!! กลับบ้านได้แล้วอย่าสร้างเรื่องให้มันมากนัก!” หนี่ฮวาเอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามาลากฮัวหนิงอันให้ลุกจากเตียงเตา
“ทะ ท่านแม่ ข้าเจ็บเจ้าค่ะ โอ๊ย!!” นางแสร้งร้องเสียงดังพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงกับพื้นทันทีที่ขาถึงพื้น
“เจ้าหยุดเลยนะหนี่ฮวา!! แม่หนูหนิงอันเป็นอย่างไรบ้าง”
ป้าตงรีบเข้ามากระชากมือหนี่ฮวาออก ก่อนจะมาช่วยประคองนางกลับไปนั่งที่เตียงเตาโดยมีภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านช่วยอีกคน
“ข้าเป็นมารดาของนาง บิดามารดาย่อมมีสิทธิ์ในตัวลูกทุกประการ ข้าจะพาบุตรสาวกลับบ้านตัวเองพวกเจ้ากล้าขัดขวางหรือ!!” หนี่ฮวาเอ่ยพร้อมกับชี้หน้าทุกคน
“กลับไปเสียพรุ่งนี้พวกเจ้าค่อยมาใหม่ ไม่เช่นนั้นข้าจะไล่พวกเจ้าออกจากหมู่บ้านเดี๋ยวนี้!!!” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ย ในใจก็โกรธเคืองอย่างมากที่คนกล้ามายืนชี้หน้าตนเพียงนี้
แต่จะปล่อยไปก็สงสารเด็กหนิงอันนัก เขาเห็นนางมาตั้งแต่เด็กย่อมรู้ว่านางถูกกระทำมาอย่างไรบ้าง หากนางตามมารดากลับไปวันนี้ไม่แคล้วคงได้เจ็บหนักแน่
“กะ ก็ได้ พวกข้าทั้งสองจะกลับก่อน แล้วพรุ่งนี้จะมาใหม่”
แม่เฒ่าฮัวรีบเอ่ยเมื่อได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านขู่เช่นนั้น แม้หนี่ฮวาจะไม่พอใจแต่ก็ยอมตามแม่สามีกลับไป
“เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเองพลัดตกลำธาร หากไม่ได้ป้ากับลุงตงช่วยไว้เจ้าคงเหลือแต่ชื่อแล้ว” ป้าตงเอ่ยกับฮัวหนิงอันเมื่อเห็นสองคนนั้นออกไปแล้ว
“ขะ ข้าพอจำได้เจ้าค่ะ อ๊ะ!! แย่แล้วหากข้าทำชุดของน้องชายน้องสาวหายไปท่านแม่กับท่านย่าต้องตีข้าตายแน่!! ข้าต้องไปตามหาชุดพวกนั้นก่อนเจ้าค่ะ” นางแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจ ก่อนทำท่าจะลุกจากเตียงด้วยตนเอง
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละแค่นี้เจ้าก็เกือบไม่รอดแล้ว ชุดพวกนั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ หนี่ฮวานี่ก็จริง ๆ เลย” ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านรีบเอ่ยห้ามไว้ สีหน้าแสดงถึงความเอือมระอาบ้านนั้นอย่างชัดเจน
“คืนนี้เจ้าพักที่นี่เถอะ เรื่องอื่นข้าจะคุยกับบิดาเจ้าให้” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป
“เจ้ารอก่อนข้าจะไปเอาข้าวต้มมาให้” ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ย ป้าตงเองก็ขอตัวกลับเช่นกัน เพราะตอนนี้ด้านนอกมืดสนิทแล้ว
“ขอบคุณป้าตงกับลุงตงที่ช่วยเหลือข้านะเจ้าคะ ท่านป้าซูด้วยหากไม่ได้พวกท่านข้าคงไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้แล้ว” นางเอ่ยพลางก้มหน้าอย่างเศร้าใจ ทำให้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในห้องอดสงสารไม่ได้
เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้วอันอันจึงเริ่มเรียบเรียงเหตุการณ์ที่ได้รับมาจากความทรงจำ ทำให้เข้าใจว่ายามนี้นางคือฮัวหนิงอันโดยสมบูรณ์แบบ
นี่ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ในยุคที่ไร้เครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างงั้นหรือ แค่คิดก็ท้อแท้แล้วอันอันเอ้ย!!!
เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงต้องเดินหน้าต่อไป อันดับแรกเลยคือจัดการบ้านฮัวเพื่อทวงความยุติธรรมให้เจ้าของร่างนี้ก่อน เรื่องอื่นค่อยคิดอีกที
คืนนั้นนางกินข้าวต้มที่ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านเอามาให้แล้วหลับไป ในความทรงจำนี่คงเป็นคืนที่ได้กินอิ่มนอนอุ่นที่สุดของเจ้าของร่างนี้เลยมั้ง ชีวิตฮัวหนิวอันช่างน่าสงสารนัก
ตอนที่ 26เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหลงจิวซิ่งโกรธทั้งฮูหยินเอกและมารดาตัวเอง วันนั้นจึงประชดโดยการทิ้งสตรีทั้งสองให้รอเก้ออยู่ในเรือนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็ไปนอนกกกอดกับอนุจงเช่นเคยแต่อนุทั้งสองไม่ได้เหมือนนาง ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานก็สามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้นางจึงมาหาแรงจูงใจให้ทั้งสองเสียหน่อย“หากพวกทั้งคนใดคนหนึ่งสามารถปรนนิบัติคุณชายใหญ่ได้ก่อน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม” นางเอ่ยขณะที่ทั้งสองมายกน้ำชาให้ตนในเช้าวันถัดมาที่นางทำเช่นนี้เพราะอยากเห็นชายหนุ่มแตกหักกับอนุจง ทุกอย่างทำไปเพราะความสนุกของตัวเองล้วน ๆแต่อีกนัยหนึ่งคือเขาจะได้ไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายเรื่องกิจการของนาง ที่ยามนี้ดำเนินการไปได้เกือบเสร็จแล้ว“จริงหรือเจ้าคะ!!! นายหญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่ารางวัลนั้นคือสิ่งใด” จี้เหมยกุ้ยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะชอบมันหรือไม่ เครื่องหัวชิ้นนี้ทำมาจากหยกชั้นดี การออกแบบงดงามยังไม่มีวางขายในเมืองหลวง เพราะมันเป็นเครื่องประดับที่ข้าสั่งทำขึ้นมาเอง”นางเอ่ยพร้อมกับเปิดกล่องเครื่องประดับในมือให้ทั้งสองดู แม้จะเป็นเพียงปิ่นระย้าแต่รูปแบบงดงามนัก“งดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเ
ตอนที่ 25แม่สามีซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้วหลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคอง
ตอนที่ 24รับอนุให้สามีเมื่อได้ฟังจบนางก็ยิ้มเย้ยหยันออกมาทันที ที่สร้างเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเอาไว้บีบให้นางอยู่ใต้เท้าตัวเองนี่เอง“เกินไปแล้ว!! ถึงกับใส่ร้ายกันเพียงนี้คงไม่ต้องการให้นายหญิงออกงานสังคมได้เลยสินะ” ลู่หลิ่งเอ่ยเพราะโกรธแทนนายสาว“พวกเจ้าเชื่อข่าวลือเหล่านั้นหรือไม่” นางหันไปถามสาวใช้ทั้งสองอย่างใจเย็น“จะเชื่อได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อพวกข้าก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา ย่อมมองออกว่านายหญิงเป็นคนเช่นไร” ลู่หลินรีบเอ่ย“เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” นางเอ่ยพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ตนสันนิษฐานเกี่ยวกับสามีผู้นี้ด้วย“เช่นนั้นนายหญิงจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ ขนาดเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่นานยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นายหญิงไปเข้าเฝ้าไทเฮามาแท้ ๆ พวกเขายังไม่เกรงใจเลยสักนิด”ลู่หลินเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คนจวนนี้ไม่คิดเกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลยสักนิด คงคิดว่าการค้าของตัวเองเรืองอำนาจมากสินะ“ข้าคิดว่าจะให้บิดาช่วยเรื่องหย่า จากนั้นข้าจะหายไปเสีย ออกไปใช้ชีวิตคนเดียวเปิดกิจการเลี้ยงตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์อีก”นางเอ่ยความคิดที่ตนวางแผนไว้ แ
ตอนที่ 23ฮูหยินอำมหิต“ฮูหยินน้อยเกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ ให้พวกบ่าวเข้าไปได้หรือไม่!!” เสียงลู่หลิ่งตะโกนมาจากด้านนอก“เข้ามา!!!! แล้วให้คนมาพาคุณชายใหญ่กลับเรือนไปด้วย!!!!!” นางเอ่ยพลางหอบหายใจเพราะความโกรธเมื่อเห็นสภาพของหลงจิวซิ่งสาวใช้ทั้งสามก็รีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองทันที“นายหญิงเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ!!”ลู่หลินรีบเข้ามาดูนาง ก่อนจะตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมีเลือดซืมที่มุมปาก พร้อมกับใบหน้าด้านซ้ายเริ่มบวมแดงแล้ว“ไปตามหมอเถอะ” นางบอกสาวใช้สั้น ๆ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก เพราะหากมีการตามหมอเรื่องก็คงวุ่นวายกว่านี้แน่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ผ่านมาเกือบสองชั่วยาม หมอมาดูอาการนางแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะเขียนใบสั่งยาแล้วกลับไปส่วนหลงจิวซิ่งนั้นหัวแตก หากเป็นในโลกที่นางจากมาคงได้เย็บไม่ต่ำกว่าสิบเข็มแน่ นอกนั้นก็ปากแตกแล้วก็พกช้ำเล็กน้อยเพราะล้มใส่โต๊ะทานข้าว“ฮูหยินน้อยเจ้าอธิบายให้ข้าฟังทีว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!” ฮูหยินใหญ่ที่ได้โอกาสจึงเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ฮึก!! ท่านพี่เคยเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับฮูหยินน้อยตอนอยู่เมือ
ตอนที่ 22แตกหักจงเยว่ชิงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ แต่หากตนขัดอะไรมากไปฮูหยินใหญ่อาจสงสัยเอาได้ จึงต้องปล่อยให้นังฮูหยินน้อยได้หน้าเป็นคนดีไป“นายหญิงปล่อยไปเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ” มี่มี่สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามนายสาว“ทำอย่างไรได้เล่า หากพูดมากเราจะถูกจับได้เอานะสิ ว่าแต่นายท่านบอกจะมาหาข้านี่เหตุใดยังไม่มากัน เดี๋ยวท่านพี่ก็กลับมาก่อนพอดี” จงเยว่ชิงบ่นออกมาเบา ๆ“ข้าก็มาแล้วนี่ไง เจ้าจะใจร้อนไปใยเล่า” เสียงทุ้มพร้อมบุรุษร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาจากประตูหลัง ก่อนจะส่งกล่องไม้บางอย่างให้หญิงสาวสาวใช้ของจงเยว่ชิงเห็นดังนั้นจึงกลับออกไปรอด้านนอก เพื่อเฝ้าต้นทางเพราะเรื่องนี้ไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้“วันนี้นายท่านมาช้านะเจ้าคะ ปล่อยให้ข้าทนคิดถึงท่านอยู่ตั้งสองเค่อแหนะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแสดงท่าทีแงงอนบุรุษผู้เข้ามาใหม่“ข้าขอโทษที่มาช้า เพราะออกไปหาซื้อของขวัญมาให้เจ้าอย่างไรเล่า ลองเปิดดูสิว่าเจ้าชอบหรือไม่”“ท่านซื้อของมาให้ข้าเช่นนี้เดี๋ยวบุตรชายท่านก็สงสัยเอาหรอก หลงจิวซิ่งผู้นั้นหาใช่คนโง่เขลาเมื่อไหร่กัน” นางเอ่ยเช่นนั้นแต่ปากกลับยิ้มกว้างของในกล่องเป็นปิ่นทองระย้าที่ปร
ตอนที่ 21หาเรื่อง“ข้าไปดูร้านที่จะเปิดกิจการในตลาดเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ พร้อมกับหยุดลงตรงหน้าเขา ใบหน้าเย็นชาของนางยิ่งทำให้หลงจิวซิ่งโกรธมากกว่าเดิม“เจ้าเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว กลับจวนเวลานี้มันสมควรแล้วหรือ แถมจะเปิดกิจการแต่ไม่เอ่ยปากบอกสามีเช่นข้าสักคำ.....”“เข้าจวนเถอะเจ้าค่ะ! แล้วที่ท่านยืนต่อว่าข้าหน้าจวนเช่นนี้มันสมควรแล้วหรือ”นางเอ่ยแทรกพร้อมกับมองหน้าเขานิ่ง ก่อนจะเดินเลยเขาเข้าจวนไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าประตูจวนก็ถูกคนขวางไว้เสียก่อน“คารวะฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ กลับมาจากวังหลวงคงเหนื่อยมากเป็นแน่ข้าเตรียมชามาต้อนรับท่านเจ้าค่ะ แล้วที่นั่นงดงามอย่างที่คนเล่าลือกันหรือไม่เจ้าคะ” จงเยว่ชิงที่รอโอกาสรีบเข้ามาขวางทางนางทันที“อนุจงช่างห่วงใยนักแต่นี่มันใช่เวลาหรือ จริงสิเจ้าเป็นเพียงบุตรสาวอนุจะรู้มารยาทได้อย่างไร ไว้ข้าว่างจะจ้างอาจารย์เก่ง ๆ มาสอนมารยาทเจ้าแล้วกันนะ”นางเอ่ยจบก็เดินผ่านไปทันที สองสาวใช้คนใหม่เองก็สำรวมกิริยาจนหลงจิวซิ่งยังไม่ทันสังเกตเห็นว่าฮูหยินตัวเองไม่ได้กลับจวนมาเพียงลำพังนางคิดไว้แล้วว่าวันนี้อย่างไรเขาก็ต้องหาเรื่องนาง เพราะตั้งแต่ที่รู
Comments