ทะลุมิติมาเป็นเถ้าแก่ร้านเครื่องประทินโฉม

ทะลุมิติมาเป็นเถ้าแก่ร้านเครื่องประทินโฉม

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-24
โดย:  Bosskerrยังไม่จบ
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
34บท
59views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

ในเมื่อชาติที่แล้วไม่มีโอกาสให้เธอได้เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางอย่างที่ใฝ่ฝัน งั้นชาตินี้ ในเมื่อมีโอกาสได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ถึงแม้จะข้ามยุคสมัยไปหน่อยก็เถอะ แต่เธอจะต้องเป็นเถ้าแก่เจ้าของร้านเครื่องประทินโฉมที่ร่ำรวยสุด ๆ ให้ได้!

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

ตอนที่ 1 ความงามสุดท้ายของหลินเยว่หลาน

ค่ำวันศุกร์ปลายฤดูร้อน เมืองใหญ่สว่างวาบด้วยป้ายไฟและเสียงรถยนต์พ่นลมหายใจยาวไม่รู้เหนื่อย คอนโดหรูย่านธุรกิจที่ว่ากันว่าวิวดีระดับพรีเมียม มีเลาจน์บนชั้นดาดฟ้าสำหรับนั่งรับประทานอาหาร จิบเครื่องดื่ม ไปพร้อมกับบรรยาศที่ดีแบบสุด ๆ

เสียงรองเท้าส้นเสียงดังจิกพื้นเหมือนโน้ตดนตรี หลินเยว่หลานเข้ามาอย่างมั่นใจ หญิงสาวที่แม้ไม่ต้องพยายามแต่งสวยก็เด่นสะดุดตา นางคือบิวตี้บล็อกเกอร์ตัวท็อป ผู้ติดตามหลักล้าน คลิปแนะนำสกินแคร์ 7 วันสวยด้วยหน้าสดของนางถูกแชร์อย่างถล่มทลาย

ค่ำนี้นางแต่งตัวสวยแบบเรียบหรู แต่งหน้าอ่อน ๆ เบา ๆ หน้าผิวฉ่ำแบบน้ำค้าง ตาเรียวสวยดูใจดีและดื้อในเวลาเดียวกัน ชุดเดรสไหมสีน้ำนมไหลลู่ เหมาะกับแสงโกลเด้นของไฟระย้าที่คลอไปกับเพลงแจ๊สเบา ๆ

จานเรียกน้ำย่อยถูกยกมาเสิร์ฟ เสียงแก้วกระทบกันเบา ๆ ราวกับประกายดาว หลินเยว่หลานยิ้มให้ซูเหม่ยหรง เพื่อนนสาวคนสนิทที่อยู่ข้างนางมาตั้งแต่เริ่มทำคลิปแรก

“ดีลคืนนี้ตกลงแล้ว นับว่าเราเริ่มต้นได้ดีทีเดียว” นางพูดเสียงเบาแต่ชัด

“แบรนด์ของเราจะเปิดพรีออเดอร์เดือนหน้า”

ซูเหม่ยหรงสวยคมแบบแม่เสือสาว ยิ้มเก่งจนคนรอบข้างรู้สึกสบายใจง่าย นางหัวเราะนุ่ม

“ฉันบอกแล้วไง เยว่หลาน นางเกิดมาเพื่อเวทีนี้ เวลาอยู่หน้ากล้อง นางชนะได้ทุกแสงไฟ เอ้า! มา ชนแก้วกันหน่อย”

คนงานยื่นไวน์สีทับทิมเข้ามาพอดี กลิ่นผลไม้เปรี้ยวหวานลอยฟุ้ง เยว่หลานยกแก้วขึ้นมือเรียวยาวสะท้อนแสงไฟกลายเป็นภาพที่ถ้าถ่ายสโลว์ก็พร้อมลงสตอรี่ นางยิ้มให้ซูเหม่ยหรง พร้อมกับชนแก้วกันเบา ๆ

“เพื่อความฝันของเรา” หลินเยว่หลานว่า

“เพื่อความฝันของเรา” ซูเหม่ยหรงย้ำคำเดียวกัน แต่อะไรเล็ก ๆ ในหางเสียงเหมือนหนามบางเบาที่คอยทิ่มช้า ๆ จนไม่รู้สึกในทันที

ระหว่างพูดคุยกันเรื่องแผนการตลาด ทั้งคู่คุยกันอย่างออกรสออกชาติ ทั้งเรื่องการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ การทำคอนเทนต์โปรโมต หลินเยว่หลานทำมือประกอบจนคนงานที่เห็นแอบอมยิ้ม ผู้ติดตามของหลินเยว่หลานไม่ได้รักเฉพาะผลลัพธ์ที่นางสอน แต่รักความเป็นคนจริงจังที่มีอารมณ์ขันแบบไม่ฝืนและความเป็นตัวของตัวเองของนาง

“นี่ ลองค็อกเทลซิกเนเจอร์หน่อยไหม ฉันสั่งให้แล้ว” ซูเหม่ยหรงชี้ไปที่แก้วทรงสูง สีชมพูมุกตัดกับโฟมขาวเนียน เหมือนเมฆนมสตรอว์เบอร์รี่ในฝัน

“บาร์เทนเดอร์บอกว่ามันเข้ากับลิปสีที่นางทาอยู่พอดี ถ่ายลงสตอรี่ปุ๊บ ยอดวิวพุ่งปั๊บแน่”

หลินเยว่หลานหัวเราะ “ขนาดนั้นเลยดิ”

นางหยิบแก้วขึ้น กลิ่นหอมหวานปะทะปลายจมูกอย่างน่าพิศวง หอมแบบเด็กดีที่ซ่อนเล่ห์ นางจิบอย่างไว ชิมโฟมแล้วเลียนิ้วอย่างเผลอตัว นิสัยน่ารักที่ไม่เคยคิดจะปรุงแต่งนี่แหละที่ดึงดูดผู้คนให้ชื่นชอบ

ซูเหม่ยหรงส่งสายตาชื่นชม “ต้องอย่างนี้สิ บิวตี้บล็อกเกอร์คนดังของฉัน”

ไม่มีใครทันสังเกต จุดเล็กจิ๋วคล้ายฟองละลายไม่หมดที่ขอบแก้ว มันจมหายไปเร็วเหมือนสัญญาบางอย่างที่ไม่เคยมีอยู่จริง

หลังอาหาร ทั้งคู่ย้ายจากเลาจน์ไปยังห้องของซูเหม่ยหรงในคอนโดเดียวกัน ห้องนั้นกว้างโล่งและสะอาดเป็นระเบียบ โซฟาหนังสีทรายเสริมด้วยหมอนกำมะหยี่สีขาวนุ่ม ตรงระเบียงมีวิวเมืองระยิบระยับเต็มผืนกระจก หลินเยว่หลานถอดรองเท้าส้นสูง เดินเท้าเปล่าลงบนพรมขนยาวอย่างโล่งใจ

“อย่าลืมล่ะ คืนนี้เราต้องถ่ายวิดีโอขอบคุณผู้ติดตามด้วยนะ” ซูเหม่ยหรงเตือน

“ล้านห้าแสนคนแล้ว! โอ๊ย ฉันตื่นเต้น”

หลินเยว่หลานยิ้มตาหยี “ฉันจะพูดสั้น ๆ ไม่สปอยล์โปรดักต์มาก เดี๋ยวมีดราม่าว่าปั่นยอด”

“ใช่ ไม่เอาวิชาการนะ” ซูเหม่ยหรงขำ

“นางนี่ชอบหลุดเข้าโหมดครูวิทย์อยู่เรื่อย”

หลินเยว่หลานทำท่าทะเล้น “ก็ฉันตั้งใจอยากให้ข้อมูลที่ถูกต้องไง”

พูดจบนางก็หัวเราะเอง “โอเค ๆ จะฮา ๆ ละมุน ๆ ตามสไตล์เรา”

ซูเหม่ยหรงหยิบแก้วค็อกเทลอีกแก้วจากเคาน์เตอร์ครัว เปิดฝาเชคเกอร์อย่างคล่องแคล่ว เทให้เยว่หลานครึ่งแก้ว

“ดื่มนิดหน่อยให้คลายเกร็ง จะได้พูดลื่น ๆ”

หลินเยว่หลานรับมาโดยไม่คิดอะไร นางถ่ายสตอรี่เบื้องหลัง ใส่ฟิลเตอร์วิบวับกับซาวด์ยอดฮิต ใส่สติกเกอร์ประกอบนิดหน่อย ก่อนจะหันกลับมาทดสอบไฟหน้ากล้อง ซูเหม่ยหรงช่วยตั้งขาตั้งกล้องและปรับแสงไฟให้พอดี

“เริ่มได้” ซูเหม่ยหรงยกนิ้ว

หลินเยว่หลานยิ้มกว้าง เสียงนุ่มชัดแจ๋ว “ฮายยย ทุกคน เยว่หลานเองนะคะ วันนี้ยอดผู้ติดตามเราแตะหลักหนึ่งล้านห้าแสนแล้ว ขอบคุณมาก ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตลอด วันนี้เรากำลังจะก้าวหน้าขึ้นอีกขั้นแล้ว”

นางพูดด้วยประกายตาแบบคนเห็นตัวเองมาไกลมากกว่าเมื่อวาน พร้อมกับพูดแทรกมุกขำขัน

“ใครที่ชอบริมฝีปากแตกกร้าน ฝากกดไลก์คลิปนี้ไว้นะคะ เดี๋ยวมีทริคดี ๆ มาแนะนำการแก้ปากแตกปากกร้านให้ค่ะ”

วิดีโอดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงช่วงท้ายที่นางเผลอไอเบา ๆ แล้วกลั้วหัวเราะ

“ขอโทษค่ะ คอแห้งนิดนึง” นางยกแก้วค็อกเทลขึ้นจิบอีกครั้งเพื่อให้เสียงชุ่ม หยุดครู่หนึ่งแล้วปิดด้วยประโยคซึ่งกลายเป็นคำคมสุดท้ายก่อนปิดคลิป

“ความงามที่ดีที่สุด คือความงามที่เราไม่ต้องพยายามให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป ไว้เจอกันคลิปหน้านะคะ”

นางยกมือไหว้กล้องแบบน่ารัก เสี้ยววินาทีถัดมา นิ้วเรียวปล่อยแก้วลงจานรอง ทว่าในอกกลับรู้สึกแปลก ๆ นางนั่งนิ่งไปสองวินาที เหมือนกำลังฟังเสียงบางอย่างที่คนอื่นไม่ได้ยิน

“เยว่หลาน เป็นอะไรหรือเปล่า” ซูเหม่ยหรงเอ่ยถาม น้ำเสียงยังติดยิ้ม แต่หางคิ้วเกร็งขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“ฉันตาพร่าแปลก ๆ” หลินเยว่หลานพึมพำ นางกะพริบถี่ หายใจลึก

“อาจจะเมาไวน์มั้ง”

“นอนพักสักแป๊บไหม เดี๋ยวฉันปิดไฟให้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนี้ฉันกลับบ้านดีกว่า พรุ่งนี้มีถ่ายงานแต่เช้า”

นางพูดด้วยรอยยิ้มมั่นคงอย่างคนที่ทำงานมานานพอจะปั้นสีหน้าให้ปกติได้ แต่ปลายนิ้วมือเริ่มเย็นผิดปกติ นางเอื้อมหาโทรศัพท์ แต่ก็แทบจะทำตกพื้น

ซูเหม่ยหรงขยับเข้าหา “ฉันไปหยิบผ้าห่มให้นะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น”

หลินเยว่หลานพยักหน้าช้า ๆ นางพยายามสูดหายใจลึกอีกครั้งฟังหัวใจตัวเองเต้นเป็นจังหวะที่ไม่เคยซ้อมมาก่อน ความหวาดกลัวชั้นบาง ๆ เริ่มปิดทับสติทีละแผ่น นางลุกขึ้นยืน แต่มองผืนพรมไหวเหมือนคลื่นทะเล

ในห้องครัว เสียงเปิดตู้กับข้าวเบา ๆ ตามด้วยเสียงแก้วสัมผัสกัน ซูเหม่ยหรงตะโกนถามจากไกล ๆ

“เอาน้ำเปล่าด้วยไหม”

“อือ ก็ได้” หลินเยว่หลานพยายามตอบให้ดัง แต่คอเหมือนถูกใครจับด้วยมืออุ่น ๆ ที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นทุกวินาที

นางนั่งลงอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าลึก พยายามนับหนึ่งถึงสิบและหัวเราะกับตัวเองในใจ

“ตลกจัง แพ้ค็อกเทลงั้นเหรอเนี่ย”

จากนั้นก็เกิดภาพซ้อน หน้าต่างเมืองสว่างเป็นสองชั้น แล้วก็เป็นสี่ชั้น เพลงเบา ๆ ในห้องเปลี่ยนจากแจ๊สเป็นเสียงเครื่องยนต์ที่ที่ฟังแล้วปวดหัว นางเอื้อมมือไปควานหายาดมกระเป๋า

ซูเหม่ยหรงกลับมาอย่างเร็ว วางน้ำลงบนโต๊ะ

“เฮ้ย นางเหงื่อออกเยอะจัง” มือของนางแตะไหล่เยว่หลานก็รู้สึกได้ถึงความเย็นที่ผิดปกติ

“ฉันว่าเราไปโรงพยาบาลกันดีกว่านะ”

หลินเยว่หลานไม่ทันได้ตอบ เหงื่อเม็ดเล็กซึมตามไรผม ปลายมือสั่น นางก้มมองแก้วค็อกเทลอย่างงงงัน ครึ่งแก้วที่เหลือซ่อนความลับเหมือนสระน้ำสีชมพูในนิทานที่ไม่เคยมีเจ้าหญิงรออยู่ และในวินาทีนั้น นางเห็นประกายแปลก ๆ ที่รอยยิ้มของซูเหม่ยหรงเพียงชั่วพริบตาเดียว เหมือนมุมปากยกขึ้นช้า ๆ ก่อนรีบปรับกลับมาเป็นความห่วงใยตามเดิม

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
34
ตอนที่ 1 ความงามสุดท้ายของหลินเยว่หลาน
ค่ำวันศุกร์ปลายฤดูร้อน เมืองใหญ่สว่างวาบด้วยป้ายไฟและเสียงรถยนต์พ่นลมหายใจยาวไม่รู้เหนื่อย คอนโดหรูย่านธุรกิจที่ว่ากันว่าวิวดีระดับพรีเมียม มีเลาจน์บนชั้นดาดฟ้าสำหรับนั่งรับประทานอาหาร จิบเครื่องดื่ม ไปพร้อมกับบรรยาศที่ดีแบบสุด ๆเสียงรองเท้าส้นเสียงดังจิกพื้นเหมือนโน้ตดนตรี หลินเยว่หลานเข้ามาอย่างมั่นใจ หญิงสาวที่แม้ไม่ต้องพยายามแต่งสวยก็เด่นสะดุดตา นางคือบิวตี้บล็อกเกอร์ตัวท็อป ผู้ติดตามหลักล้าน คลิปแนะนำสกินแคร์ 7 วันสวยด้วยหน้าสดของนางถูกแชร์อย่างถล่มทลายค่ำนี้นางแต่งตัวสวยแบบเรียบหรู แต่งหน้าอ่อน ๆ เบา ๆ หน้าผิวฉ่ำแบบน้ำค้าง ตาเรียวสวยดูใจดีและดื้อในเวลาเดียวกัน ชุดเดรสไหมสีน้ำนมไหลลู่ เหมาะกับแสงโกลเด้นของไฟระย้าที่คลอไปกับเพลงแจ๊สเบา ๆจานเรียกน้ำย่อยถูกยกมาเสิร์ฟ เสียงแก้วกระทบกันเบา ๆ ราวกับประกายดาว หลินเยว่หลานยิ้มให้ซูเหม่ยหรง เพื่อนนสาวคนสนิทที่อยู่ข้างนางมาตั้งแต่เริ่มทำคลิปแรก“ดีลคืนนี้ตกลงแล้ว นับว่าเราเริ่มต้นได้ดีทีเดียว” นางพูดเสียงเบาแต่ชัด“แบรนด์ของเราจะเปิดพรีออเดอร์เดือนหน้า”ซูเหม่ยหรงสวยคมแบบแม่เสือสาว ยิ้มเก่งจนคนรอบข้างรู้สึกสบายใจง่าย นางหัวเราะนุ่ม“ฉัน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 2 รอยยิ้มสุดท้ายของหลินเยว่หลาน
ภาพนั้นอาจเป็นเพียงเงาดวงไฟสะท้อน แต่หัวใจคนที่สู้ชีวิตจนชนะมาได้นับครั้งไม่ถ้วนอย่างหลินเยว่หลาน นางรู้ดีว่าสัญชาตญาณไม่เคยโกหกลิฟต์สแตนเลสส่องเงาคนสองคนที่ยืนเคียงกัน หลินเยว่หลานซบผนังลิฟต์เพื่อหายใจ หูอื้อเหมือนกำลังดำน้ำ ซูเหม่ยหรงยืนข้าง ๆ กดชั้นล่าง มือข้างหนึ่งพยุงไหล่ แล้วอีกข้างถือโทรศัพท์ค้างบนหน้าจอแผนที่โรงพยาบาล ทุกอย่างดูเหมือนเป็นความช่วยเหลือที่ดีและถูกต้องประตูลิฟต์เปิด ทว่าเวลารอรถกลับกลายเป็นเหมือนบททดสอบที่นอกจากจะเจ็บตัวแล้วยังต้องเจ็บใจเงียบ ๆ หลินเยว่หลานเอียงคอมองท้องฟ้า เมฆดำโผล่มาแทนที่ดาวอย่างว่องไว นางยิ้มกับตัวเอง“โชคดีจัง ลืมพกร่ม...” แล้วหัวเราะเบา ๆ ที่ไม่มีใครได้ยิน อารมณ์ขันยังทำงานแม้ตัวนางอยู่ในสภาพที่แย่รถของซูเหม่ยหรงจอดอยู่ตรงลานจอดรถ เมื่อทั้งคู่มาถึงรถ ซูเหม่ยหรงจับแขนหลินเยว่หลานพานางขึ้นเบาะหน้า ขณะคาดเข็มขัด นางเอ่ยเสียงราบเรียบ“อย่าหลับนะ พูดกับฉันไปเรื่อย ๆ”หลินเยว่หลานมองเส้นไฟบนถนนที่ยืดยาว นางเริ่มเล่าเรื่องต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ“ฉันเคยปิดฝาลิปสลับกันด้วยนะ เพราะมีลิปหลายแท่ง ช่วงหัดแต่งหน้าใหม่ ๆ ทาไปทามาลิปไปติดฟัน สรุปฟันแดงเหมือน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 3 ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงตะโกนโวกเวกโวยวายปนความตกใจของสาวใช้ดังระงม สาวใช้คนหนึ่งทั้งร้องไห้ ร้องเรียก พลางเขย่าผู้เป็นเจ้านายไม่หยุด“คุณหนู! คุณหนู ฟื้นสิเจ้าคะ! คุณหนู!”เสียงนั้นดังลอดมาจากระยะไกล ก่อนที่ความมืดในจิตใจจะค่อย ๆ แยกออกเหมือนม่านหมอกสาวใช้ร่างเล็กนามว่าอาเซียง นั่งร้องไห้อยู่ข้างบ่อน้ำ พอเห็นเปลือกตาของผู้เป็นเจ้านายขยับ นางก็ตาวาวด้วยความดีใจ น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุด“สวรรค์คุ้มครอง! คุณหนูฟื้นแล้ว คุณหนูยังไม่ตาย!”หลินเย่วเอ๋อร์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาคมหวานสะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านต้นเหมย เสียงนกร้องและเสียงลมพัดประสานกันราวกับกำลังบรรเลงบทเพลงต้อนรับคนจากอีกภพ แต่สิ่งแรกที่นางเห็นก็คืออาเซียงที่กำลังร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหลรวมกันเป็นสาย สาวใช้ตัวน้อยคนนั้นน้ำตาไหลอาบแก้ม“นางเป็นใคร...” เสียงแหบพร่าเอ่ยเบา ๆอาเซียงรู้สึกตกใจและงุนงงในเวลาเดียวกัน“คุณหนูจำข้าไม่ได้หรือเจ้าคะ ข้าอาเซียง! สาวใช้ที่อยู่ข้างกายคุณหนูมาตั้งแต่เล็ก!”“อาเซียง?” หลินเยว่หลานขมวดคิ้ว“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นี่กำลังถ่ายละครกัยอยู่เหรอ”“คุณหนูพูดอะไรเจ้าคะ พูดจาประหลาดนัด ข้าไม่เข้าใจ”นางพยายามจะลุก แต่ก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 4 เกิดใหม่ไม่ทันไรก็คิดจะรวย
วันต่อมา เมื่อหลินเย่วเอ๋อร์ฟื้นตัวดีแล้ว นางนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง มองตลาดที่อยู่ไกลออกไป เสียงพ่อค้าแม่ค้าโวยวายต่อราคาดังลอดเข้ามาถึงในเรือน กลิ่นขนมอบสมุนไพรหอมลอยมาตามลมโชยมาแตะจมูก“ที่นี่ชื่อเมืองอะไรนะอาเซียง?” นางเอ่ยถามอาเซียง“เมืองเว่ยเจินเจ้าค่ะ เมืองการค้าทางตอนใต้ของแคว้นอวี้”“อืม...” หลินเย่วเอ๋อร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ“แล้วตระกูลหลินของเราก็ทำแค่อาชีพค้าขายอย่างเดียวเหรอ หรือยังมีอย่างอื่นอีกไหม”“ใช่เจ้าค่ะ นายท่านค้าขายชาและสมุนไพรเจ้าค่ะ ช่วงนี้การค้าซบเซาเพราะร้านคู่แข่งเปิดใหม่หลายเจ้า เลยขายไม่ค่อยดีนักเจ้าค่ะ”หญิงสาวหรี่ตา “แสดงว่าสกุลหลินเป็นพ่อค้าระดับกลาง มีฐานะพออยู่ได้แต่ก็ไม่ถึงขั้นร่ำรวย ถ้าจะเริ่มกิจการเกี่ยวกับความงามใหม่ ก็ต้องเริ่มจากศูนย์จริง ๆ! แต่ก็น่าสนใจนะเนี่ย”นางหันไปมองกระปุกแป้งบนโต๊ะ กลิ่นแปลก ๆ ลอยขึ้นมา พอเปิดฝาดูก็เห็นผงขาววอกจนแสบตา“นี่อะไรน่ะอาเซียง!”“แป้งทาหน้าของคุณหนูเจ้าค่ะ เป็นของร้านฮวาเหมยจวงในตลาด ชาวบ้านว่ากันว่าทาแล้วขาวทันตาเลยนะเจ้าคะ”“ขาวทันตาหรือตายทันตากันแน่!” หลินเย่วเอ๋อร์แทบจะโยนกระปุกทิ้ง“นี่มันกลิ่นสารโลหะชัด ๆ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 5 ขอใบอนุญาตจากสำนักโอสถ
รุ่งอรุณวันถัดมา ตลาดตงเหมินยังไม่เปิดดีนัก กลิ่นโจ๊กข้าวหอมก็ลอยมาก่อนใคร หลินเย่วเอ๋อร์นั่งจัดผมเรียบร้อย ใส่เสื้อผ้าเรียบสีอ่อน มือหนึ่งตรวจดูกระปุกทดลองที่วางเรียงบนถาดไม้ อีกมือหนึ่งชี้หน้าผากอาเซียงเบา ๆ เพราะสาวใช้ตัวดีเอาแต่หัวเราะคิกคักไม่หยุด“เจ้าจะขำอะไรนักเล่า” เย่วเอ๋อร์เอ่ยน้ำเสียงเข้ม แต่หางคิ้วยังยิ้มอาเซียงยิ่งขำ “เมื่อวานพวกชาวบ้านพูดกันใหญ่เลยเจ้าค่ะคุณหนู ทั้งตรอกเหนือ ตรอกใต้ เอาแต่พูดถึงร้านหยกมรกตของเราที่ให้ลองฟรีกันใหญ่ พวกเขายังบอกอีกว่าคุณหนูใจกล้ามาก! ของที่ให้ลองใช้ก็ดีมากด้วยเจ้าค่ะ”หลินเย่วเอ๋อร์หัวเราะเบา ๆ “ให้คนลองย่อมจำง่ายกว่าขายเลย เราต้องให้พวกเขาได้ลองก่อน ถ้าของเราดีคนก็จะตามมาซื้อเอง เจ้าน่ะหัวเราคิกคักมาตั้งนาน นิ่งเสียบ้างเถอะ ประเดี๋ยวหน้าจะยับก่อนวัย” ว่าจบก็แตะคางอาเซียง ปรับองศานิดหน่อย“ยิ้มแบบนี้สิถึงจะงาม เห็นหรือไม่ ยิ้มมากเกินไปมุมปากจะแตก”“งั้นข้าทาบะ...บาล์มสักนิดได้หรือไม่เจ้าคะ” อาเซียงทำตาแป๋ว“ได้สิ” เย่วเอ๋อร์ส่งกระปุกเล็กให้“ทาบาง ๆ พอให้ชุ่ม อย่าทาเสียจนเหมือนจูบรังผึ้งทั้งรังล่ะ”อาเซียงทำท่าทะเล้น “รับทราบเจ้าค่ะ!” แล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 6 แก้ไขให้ดูต่อหน้า
“ขอมายืนดูเป็นสักขีพยาน จะได้ไม่กล่าวหากันทีหลัง” เขายิ้มมุมปาก“พวกท่านอย่ากังวล ข้ามาด้วยใจเป็นกลางเจ็ดสิบส่วน อีกสามสิบเผื่อไว้โต้แย้ง”เจี่ยนฮวายิ้มงาม “ใจเป็นกลางของท่านเฉิงนับว่าดีนัก ได้ฟังแล้วข้าถึงกับอยากยกน้ำชาให้”“ยกมาเถิด ข้ากระหายอยู่พอดี” เฉิงอวิ๋นหัวเราะอย่างสนุก การทดสอบเริ่มขึ้น สาวใช้ของสำนักสามคนถูกเรียกมานั่งเรียงแถว แผ่นผิวด้านหลังใบหูถูกป้ายบาล์มบาง ๆ อย่างระมัดระวัง หลินเย่วเอ๋อร์ยืนกอดถุงผ้าไว้แน่น แต่นัยน์ตายังยิ้ม คิ้วขมวดตั้งใจราวกับกำลังคุมเตาดิน“ลมอย่าแรง แสงอย่าเปรี้ยงนะ” นางพึมพำเสียงเบา ๆ จนไป๋จิ้งเซียวเหลือบมอง แล้วเหมือนจะกลั้นขำเวลาหนึ่งเค่อไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ ทุกคนคุยกันไปเรื่อย ๆ เจี่ยนฮวาเปรยข่าวที่แพร่ตามตลาด“พักนี้แป้งขาวร้านข้าขายดีนัก พวกสาว ๆ น่ะชอบความขาววอกฉับไว ใคร ๆ ก็ชม”ยังพูดไม่ทันจบ สาวใช้คนหนึ่งก็ยกมือ “ท่านไป๋เจ้าคะ หลังใบหูข้าร้อนนิดหน่อยเจ้าค่ะ”ทุกสายตาหันไป ไป๋จิ้งเซียวรีบช้อนผมดู สีแดงชมพูจาง ๆ เกิดขึ้นเหมือนดอกทับทิมแรกแย้มเฉิงอวิ๋น “อะแฮ่ม” เขายกพัดชี้เบา ๆ “สีสวยนะ แต่ไม่ใช่เรื่องดี”อาเซียงหน้าถอดสี “หรือว่าบาล์มของคุ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 7 มีแต่คนอยากซื้อ
รุ่งเช้าวันถัดมา ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี เสียงตีระฆังเปิดตลาดก็ดังขึ้น“ก๊อง ก๊อง”อาเซียงตื่นตั้งแต่ไก่โห่ จวนสกุลหลินอยู่ไม่ไกลจากตลาดประจำเมืองมากนัก จึงทำให้ได้ยินเสียงตะโกนของแม่ค้าพ่อค่ะ“ผักสดถูก ๆ ขายถูกเหมือนแจกฟรี!”“ขนมดอกเหมยวันนี้ลดครึ่งราคา!”“ใครมีข่าวซุบซิบเรื่องเมื่อวาน เอามาแลกหมั่นโถวได้หนึ่งลูก!”หลินเย่วเอ๋อร์หัวเราะในลำคอ พลางจัดปิ่นปักผม “ตลาดที่นี่ไม่เคยเงียบเลยจริง ๆ”อาเซียงรีบยื่นชุดให้ “คุณหนู รีบแต่งตัวเถิดเจ้าค่ะ! วันนี้ต้องงามกว่าทุกวันนะเจ้าคะ พวกชาวบ้านรู้ว่าท่านไปยื่นขอใบอนุญาตกับท่านไป๋ พวกเขาต้องจับตาดูแน่!”“งามอย่างปลอดภัยใช่หรือไม่” หลินเย่วเอ๋อร์แกล้งถามอาเซียงหัวเราะร่วน “แน่นอนเจ้าค่ะ ถ้างามจนแพ้ผื่นขึ้น ใครจะซื้อของเราเล่า!”ไม่นาน ทั้งคู่ก็ลากโต๊ะไม้ไปยังหัวมุมตลาดตงเหมิน จุดเดิมที่เมื่อวานเคยตั้งแผง“ให้ลอง ไม่ขาย”วันนี้ ป้ายใหม่ถูกขึงไว้ด้วยเชือกสีแดง เขียนตัวใหญ่ด้วยหมึกสีเข้มว่า“ร้านหยกมรกต เปิดลงชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ เมื่อทางร้านเปิดขาย จะส่งให้ถึงบ้านทันที”อาเซียงวางกระดานไม้เรียบข้างโต๊ะแล้วปักป้ายกล่องพู่กันจุ่มหมึกฟรี! อย่างภา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-24
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 8 ร้านหยกมรกตเปิดขายวันแรก
รุ่งเช้าแห่งวันประกาศขายจริง เสียงตีระฆังตลาดยังไม่ทันดังครบสองที หน้าแผงร้านหยกมรกตก็มีคนมายืนรอจนเหยียบเงากันแทบไม่ติด อาเซียงวิ่งต้วมเตี้ยมถือกระดานรายชื่อของเมื่อวานแนบอกแน่น ร้องตะโกนอย่างภาคภูมิ“คุณหนู! กระดานลงชื่อของเมื่อวานแน่นยิ่งกว่าปลาทูในเข่งเสียอีกเจ้าค่ะ!”หลินเย่วเอ๋อร์ยืนอยู่หลังโต๊ะไม้สีอ่อน ใส่เสื้อคลุมบางสีงาช้าง ผูกผ้าคาดเอวเรียบ ๆ ไม่ประดับเกินงามตามที่นางตั้งใจ นางรับกระดานมาไล่นิ้วดูชื่อทีละบรรทัด แล้วพยักหน้าช้า ๆ“วันนี้ขายครั้งแรกตามรายชื่อที่ลงไว้ก่อน ส่วนผู้ที่เพิ่งมาวันนี้เชิญลงชื่อเพิ่ม ข้าจะทยอยส่งไปถึงเรือนภายในสามวัน”“โอ๊ยดีเลย!”“ดีจริง ๆ!”“นี่แหละร้านในฝันข้า!”เสียงของผู้คนรอบแผงขายดังลั่น อาเซียงตั้งกล่องเล็กสองใบ ใบหนึ่งตั้งป้ายว่า รับเงิน อีกใบตั้งผ้ายว่า รับคำชม“มีกล่องรับคำชมด้วยรึ”อาเซียงยิ้มตาหยี “ใช่เจ้าค่ะ และคุณหนูก็จะอ่านทุกคำติชมด้วยนะ”เพื่อกันความชุลมุน หลินเย่วเอ๋อร์ติดป้ายไม้เล็กเพิ่มอีกเป็นป้ายบ่งบอกลำดับพร้อมพู่กันสำหรับเขียนหมายเลข อาเซียงรับหน้าที่แจกจ่ายคิวเติมตัวเลขเร็วปานจิ้งจอกไล่หางตนเอง“คิวที่หนึ่ง! แม่นางหลิว ลงชื่อ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-24
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 9 ค้าขายคึกคัก
ช่วงสาย ชุดแรกขายหมดในเวลาที่เร็วเกินคาด อาเซียงยืนถือพัดมือพลางโบกพัดให้คุณหนูของนาง“คุณหนูเจ้าคะกล่องรับคำชมเต็มอีกแล้วเจ้าค่ะ! ส่วนกล่อง รับเงิน เอ่อ...ข้ายังไม่กล้าดูแต่ลองยกดูหนักจนมือจนสั่นแน่ะเจ้าค่ะ” หลินเย่วเอ๋อร์หัวเราะ “อย่ากังวลไป เงินน่ะเราต้องเก็บทีละช่วง ไม่ให้คนเห็นมากเกินไปจะปลอดภัยกว่า”นางส่งสัญญาณ บ่าวชายสองคนรับกล่องไปเก็บหลังร้านอย่างรู้ใจ ฮูหยินหลี่เลื่อนพัดโปร่งในมือช้า ๆ“ข้ามีอีกเรื่อง บุตรสาวของข้าปากแตกง่ายยามลมแรง อยากสั่งทำเพิ่มอีกเล็กน้อย เอาที่เหมาะกับคนแพ้ง่าย เจ้าทำได้หรือไม่” หลินเย่วเอ๋อร์ยิ้ม “ทำได้เจ้าค่ะ เพียงขอเวลาสามวันเพื่อปรับสูตรและกลิ่นให้อ่อนลงกว่าชุดปกติครึ่งหนึ่ง ข้าจะทำเป็นรุ่นพิเศษออกขายด้วย รุ่นนี้ชื่อว่าชุนเฉินโฉม รุ่นเด็กสาว” นางเอียงหน้าคิดแผ่ว “และจะเขียนคำเตือนเล็ก ๆ หลังกล่องด้วยว่าให้ทาหลังใบหูก่อนทาปากหนึ่งคืน หากไม่ระคายเคืองก็สามารถใช้ต่อได้”ฮูหยินหลี่พยักหน้ายิ้มช้า ๆ “เจ้าคิดรอบคอบดี”บ่าวสาวแทรกขึ้นเบา ๆ “ฮูหยินเจ้าคะ ร้านนี้เขียนคำเตือนได้ดี เวลาใช้จะได้ระวังด้วยเจ้าค่ะ”ฮูหยินหัวเรา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-24
อ่านเพิ่มเติม
ตอนที่ 10 แผนใส่ร้ายป้ายสี
ตกเย็น ร้านหยกมรกตเก็บร้านเสร็จ หลินเย่วเอ๋อร์เดินกลับเรือนพร้อมอาเซียง ท้องฟ้าเริ่มครึ้ม เมฆหนาเคลื่อนปกคลุม เหมือนจะมีฝน“คุณหนู” อาเซียงพูดพลางโบกพัด “วันนี้ขายดีมาก แต่ข้ากลัวข่าวดีจะดึงดูดข่าวร้ายจังเจ้าค่ะ”หลินเย่วเอ๋อร์เหลียวมองท้องฟ้า “เจ้าพูดถูก ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น”นางหยุดเท้าหน้าเรือน แหงนมองป้าย “ร้านหยกมรกต” ที่แขวนอยู่หน้าประตูไม้ไผ่“แต่ตราบใดที่ข้ารู้วิธีทำของให้คนเชื่อใจ ข้าก็ไม่กลัวฝน ไม่กลัวฟ้าหรือคำพูดของใครหรอก”อาเซียงยิ้ม “ถ้าฝนตก ข้าจะกางร่มให้คุณหนูเองเจ้าค่ะ”“ไม่ต้องหรอก” หลินเย่วเอ๋อร์หัวเราะเบา ๆ “ข้าจะยืนกลางสายฝน ให้ทุกคนเห็นว่าของแท้ย่อมไม่ละลายง่าย”ขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นจากเงารั้วไม้ชายในชุดสีเทาเข้มปรากฏร่าง เขาคือ ไป๋จิ้งเซียว“ท่านยังอยู่ที่ตลาดหรือเจ้าคะ” หลินเย่วเอ๋อร์ประหลาดใจไป๋จิ้งเซียวยื่นห่อผ้าเล็กให้ “ของที่คนแปลกหน้าเทใส่กระปุกเมื่อตอนกลางวัน ข้าให้คนตรวจสอบแล้ว เป็นผงเหล็กละเอียดผสมขี้ผึ้งคุณภาพต่ำ ถ้าผสมในเนื้อครีม จะระคายผิวจนผิวแดงขึ้นผื่นและอาจมีอาการแพ้ที่รุนแรงได้”“แสดงว่ามีคนจงใจทำลายชื่อร้าน” หลินเย่วเอ๋อร์
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-24
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status