เร้าใจลูกน้อง
“กำลังหาคนแต่งงานอยู่ใช่ไหม”
“เอ็งไปรู้มาจากไหน”
“ได้ยินพนักงานนินทากัน”
“เฮ้อ...”
ม่วงถอนหายใจพลางหยิบที่ทับกระดาษมาวางบนกองเอกสารที่คัดมา เขามั่นใจว่าตัวเองพูดด้วยเสียงปกติ ทั้งในห้องห้องนั้นใช่ว่ากำแพงจะบาง คราวหน้าคราวหลังหากจะคุยเรื่องสำคัญคงต้องผ่อนเสียงลงสักหน่อยแล้ว
“ใช่ ฉันบอกคุณธรรศว่าจะแต่งงานก่อนไปเจอลูกค้ารายล่าสุดน่ะ”
ข่าวลือที่พนักงานซุบซิบกัน หากลูกค้าตั้งคำถามมันก็มีหลากหลายวิธีในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งที่เขาควรจะคำนึงถึงจริง ๆ ก็คือการทำให้งานแต่งงานครั้งนี้เป็นไปอย่างแนบเนียนที่สุดผ่านระยะเวลาและการกระทำ ซึ่งเขามีเวลาสามเดือนก่อนจะได้เวลานัด
เลขาหนูคิดไปก็เดินมานั่งลงยังเก้าอี้ เอื้อมมือหยิบชิ้นขนมปังกรอบราดแยมผลไม้ขึ้นมาใส่ปาก
เขามีเหตุผลอื่นที่ต้องการพึ่งใบสมรสนอกเสียจากการทำงานกับเจ้านายภูวธรรศ แต่จะเลือกใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อย่างน้อยต้องเป็นคนที่น่าไว้วางใจและไม่ปากพล่อย-
“เป็นผมได้ไหม”
ลูกน้องหน้านิ่งซึ่งยืนไพล่หลังกล่าวขึ้นอย่างปุบปับท่ามกลางความเงียบในห้องก่อนจะตามด้วยเสียงกลืนในลำคอเล็กที่หดเกร็งเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ
“เอ็งหมายถึงอะไร?”
“แต่งงาน”